ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    MarkBam รอยแผล

    ลำดับตอนที่ #2 : รอยแผล : 01

    • อัปเดตล่าสุด 8 เม.ย. 62


              


     

                หลังจากที่เฉาก๊วยรีบวิ่งมาที่รถอย่างเร่งรีบ ทันทีที่เปิดประตูรถขึ้นมานั่ง ก็พบกับสายตาดุดันที่ส่งมาจากร่างสูง

     

                รังสีความน่ากลัวแผ่ออกมารอบตัวเล้งจนคนที่อายุน้อยกว่าได้แต่นั่งประสานมือวางไว้ที่ตักปากอิ่มเม้มเข้าหากันแน่น ไม่กล้าแม้แต่จะสบตาร่างสูง

     

    ไอต๋าจะมาส่งมึง?นี่คือประโยคแรกที่เล้งเอ่ยหลังจากที่เฉาก๊วยขึ้นมาบนรถ

     

     ปะ..ป่าวครับ พี่ต๋ามารับน้องชายเขาแล้วเจอก๊วยก็เลยมานั่งคุยกันอยู่ใต้ตึกครับ



             
    พี่ต๋าที่เฉาก๊วยพูดถึง หรือไอต๋าที่เล้งเรียกนั้น เป็นหุ้นส่วนไร่ฟ้าที่ทางตระกูลต้วนดูแลอยู่ ถามว่าไม่ชอบขี้หน้ากันทำไมถึงมาเป็นหุ้นส่วนด้วยกันได้

     

    คำตอบเดียวเลยก็คือ...



    พ่อของเราเป็นเพื่อนกัน
    !



                ทั้งๆที่พวกเขาก็รู้ว่าลูกทั้งสองคนของเขาไม่ถูกกันตั้งแต่เรียนมัธยมแล้ว แต่ก็เหมือนจะแกล้งให้ทำงานด้วยกันอยู่เรื่อย  โดยเหตุผลที่ป๊าต้วนอ้างนั้นก็คือ

     

    ไร่นี้เป็นของเราก็จริง  แต่มันจะไม่มีทางประสบความสำเร็จได้เลยถ้าไม่มีตระกูลหวังมาช่วยเรา และป๊าคิดว่าแกดูแลคนเดียวคงไม่ไหว ป๊าเลยให้ต๋าหวังเข้ามาช่วย หวังว่าแกจะไม่ก่อเรื่องนะเล้ง

     

    นั่นแหละครับท่านผู้ชม! คู่เวรคู่กรรมของแท้

     

    งานการมันไม่ทำรึไง ถึงมีเวลาว่างออกมาทำตัวไร้สาระแบบนี้

    เอ่อ...พี่ต๋าก็แค่..มารับน้องเขา เหมือนกับที่เฮียมารับก๊วยไงครับ

     

                เฉาก๊วยตอบไปอย่างไม่คิดอะไร แต่เมื่อสังเกตุใบหน้าของคนพี่ที่เหมือนจะแปลงร่างเป็นยักษ์ในไม่กี่วินาทีนั้น เขาก็เลยส่งยิ้มแหะๆไปให้หนึ่งที


    มึงจะบอกว่ากูก็ทำตัวไร้สาระเหมือนมันสินะ” 


    ไม่ใช่นะครับ! ก๊วยแค่จะบอกว่าพี่ต๋ามารับน้องเขาเฉยๆ ไม่ได้ทำตัวไร้สาระแบบที่เฮียบอกเลย

     

    ก็กูจะด่ามัน  มึงจะมาปกป้องมันทำไม


    ก๊วยไม่ดะ..

     

    มึงรู้เอาไว้นะเฉาก๊วย ถ้าม๊าไม่สั่งให้กูมารับมึง กูก็ไม่มานั่งทำตัวไร้สาระอยู่ตรงนี้หรอก!” ร่างสูงตะคอกใส่น้องอย่างโมโห รู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งเวลาที่ไอเด็กนี่เข้าข้างคู่ปรับเขา


    ใช่
    ! ทุกครั้ง! เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เฉาก๊วยเข้าข้างมันไง

     

     

    งั้นเฮียก็ไปทำธุระของเฮียเถอะครับ ขอโทษที่ทำให้เฮียต้องมาทำอะไรไร้สาระแบบนี้ เดี๋ยวก๊วยกลับเองก็ได้ครับเฉาก๊วยว่าพร้อมเปิดประตูลงจากรถทันที

     

                รู้สึกแย่มากๆเพราะดูเหมือนว่าเขาทำอะไรก็ผิดไปหมดในสายตาเฮีย โชคดีที่คนพี่ไม่ได้ตามเขามาซึ่งก็เป็นไปตามคาดของคนตัวเล็กอยู่แล้ว


         เฉาก๊วยเดินออกมาเรื่อยๆจนมาถึงป้ายรถเมล์ที่หน้ามหาลัย ฝนที่ก่อตัวมาตั้งแต่บ่ายเริ่มทำหน้าที่ของมัน หยดน้ำเม็ดเล็กๆตกลงมาจากฟ้า  เฉาก๊วยจึงเลือกที่จะนั่งหลบฝนอยู่ที่ป้ายรถเมล์ ในหัวก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย


                ตั้งแต่ที่เขามาอยู่ที่นี่ก็ยังไม่ชินกับความเย็นชาของเฮียสักที เมื่อสองเดือนที่แล้วเขาได้รับโทรศัพท์จากผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคุณนายของตระกูลต้วน

     

    ผู้หญิงคนนั้นคือ คุณนายลี่ เธอเป็นเพื่อนกับแม่ของเฉาก๊วย

     

                คำพูดหนึ่งซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของเฉาก๊วยก็คือ...

     

    เฉาก๊วย... น้าสัญญากับแม่ของหนูไว้ตอนที่เธอไม่สบาย ว่าจะเป็นคนดูแลหนูเอง น้าขอโทษที่ให้หนูอยู่อย่างยากลำบากมาตลอดห้าปี ต่อแต่นี้ไป...เฉาก๊วยมาอยู่กับน้านะลูก


                ตอนนั้นที่แม่ของเฉาก๊วยเสียไป คุณนายลี่ตั้งใจจะให้เฉาก๊วยเรียนจบมัธยมก่อนแล้วจะพามาอยู่ด้วยกัน ตามสัญญาที่ให้ไว้กับเพื่อนรักว่าจะดูแลลูกของเธอให้เอง

     

                คุณนายจึงจัดการคุยกับป้าของเฉาก๊วยว่าจะส่งเสียเฉาก๊วยให้ ห้าปีที่ผ่านมานี้เธอจึงคอยส่งเงินไปให้เฉาก๊วยแต่หารู้ไม่ว่า เงินนั้นไม่เคยถึงมือเฉาก๊วยเลย เนื่องด้วยตอนนั้นเฉาก๊วยอยู่แค่ม.1 จึงไม่ได้รู้เรื่องระหว่างผู้ใหญ่ที่คุยกันไว้

     

              เฉาก๊วยอยู่กับป้าหลังจากที่แม่เสียไป ไม่ต้องถามถึงพ่อที่ทิ้งเขาไปตั้งแต่ยังเล็ก ป้าของเขาติดการพนันมาก เงินทั้งหมดที่คุณนายลี่ส่งมาให้ป้าก็เอาไปเล่นการพนันจนไม่เหลือ และป้าไม่เคยบอกความจริงกับเขาว่ามีใครคนหนึ่งที่คอยส่งเสียเขาตลอดเวลาที่ผ่านมา...

     

                เฉาก๊วยเองเมื่อย้ายมาอยู่ที่นี่ก็พยายามทำตัวให้มีประโยชน์ที่สุด ให้สมกับที่คุณนายเธอช่วยเหลือเขาเอาไว้ รวมทั้งการเป็นคู่หมั้นของลูกชายคนโตในบ้านนี้

     

                คุณนายบอกว่าเธอคุยกับแม่ของเฉาก๊วยเอาไว้ตั้งแต่ที่เขายังเด็ก ว่าจะให้ลูกทั้งสองปรองดองเป็นครอบครัวเดียวกัน


                ใครจะไปรู้ว่าคู่หมั้นของเฉาก๊วยจะใจร้ายกับเขาได้ขนาดนี้ ทั้งๆที่ปกติแล้วเฉาก๊วยเป็นเด็กร่าเริงติดไปทางแก่นเฟี้ยวสักหน่อย กับคนในบ้านเขาก็พูดจ้อแจ้ได้ไม่หยุด แต่พอเป็นเฮียเล้งแล้วเขากลับรู้สึกเกร็งๆอย่างบอกไม่ถูก เพราะเฮียชอบดุ ชอบว่าเฉาก๊วย คิดแล้วก็... เฮ้อ..... มันเจ็บๆในใจแฮะ

     




    ปี๊นๆ!!



    เฉาก๊วยที่นั่งคอตกอยู่ที่ป้ายรถเมล์สะดุ้งเฮือกจากเสียงแตรรถที่มาจอดอยู่ตรงหน้า เฮียกลับมารับเขาหรอ...?


    กระจกฝั่งข้างคนขับลดลงก่อนจะเผยให้เห็น...


    พี่ต๋า!!”


    เฉาก๊วย ขึ้นมาบนรถก่อนรอยยิ้มใจดีของผู้มาใหม่ยิ้มให้  ก่อนจะกวักมือเรียกคนตัวเล็กให้ขึ้นมาบนรถเพราะเห็นร่างเล็กนั่งตัวสั่นน้อยๆด้วยความหนาวจากสายฝนที่ตกอยู่


    เฉาก๊วยนิ่งคิดไปครู่หนึ่งเพราะความเกรงใจ ในหัวตีกันไปหมดว่าจะไปด้วยดีหรือไม่ 



    แต่รอรถเมล์ตอนฝนตกแบบนี้ก็ไม่ไหวนะ 



    แต่ก็เกรงใจพี่เขาอยู่ดีอ่ะ  



    เอ๊ะแต่ว่าพี่ต๋าก็มาจอดรถขนาดนี้แล้วนะ

     


    เฉาก๊วยครับ ไม่ต้องเกรงใจ พี่ผ่านทางนั้นอยู่แล้วต๋าที่เห็นน้องยังนั่งขมวดคิ้วเหมือนเถียงกับตัวเองอยู่ก็รู้ได้ทันทีว่าน้องเกรงใจ เขาจึงต้องอธิบายไป

               


                เฉาก๊วยฟังดังนั้นก็พยักหน้าหงึกๆ ก้าวขึ้นมานั่งบนรถก่อนจะหันมายิ้มแฉ่งให้คนขับ  ก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้เมื่อไม่เห็นเพื่อนสนิทอยู่บนรถ และเพื่อนสนิทที่ว่าก็คือน้องชายพี่ต๋านี่ไงล่ะ



    พี่ต๋ามารับแจนนี่ครับ?”


     

    ใช่ครับ แต่พอดีพี่มีงานด่วนที่ไร่น่ะ แจนยังไม่อยากกลับพี่ก็เลยต้องออกมาก่อน



    อ๋อออ อย่างงี้นี่เองคนตัวเล็กได้ฟังก็ร้องอ๋อออกมา ไม่แปลกหรอกที่จะเป็นแบบนี้ เพราะเขารู้นิสัยเพื่อนสนิทดี ขี้เม้าที่สุดในโลกแถมยังติดเพื่อนด้วย 


              เวลาพี่ต๋ามารับแจนก็ต้องมานั่งฟังกลุ่มเราเม้ามอยกันอยู่บ่อยๆจนชินสะแล้ว บางทีพี่ต๋าก็อาสามาส่งก๊วยที่บ้านเพราะว่าเป็นทางผ่านพอดี เฉาก๊วยเองก็แอบเกรงใจแต่แจนก็บังคับให้กลับด้วยกันจนได้



    แล้วทำไมเฉาก๊วยมานั่งอยู่ตรงนี้ล่ะครับ ไหนบอกว่าเล้งมารอแล้วไง


     

    เอ่อ... พอดีเฮียเขาก็มีงานด่วนน่ะครับ สงสัยงานเดียวกับพี่ต๋าแหละโกหกคำโตเลยฮือ แต่จะให้บอกว่าทะเลาะกันมันก็แปลกๆนะ

     


    โอเคครับ งั้นเดี๋ยววันนี้พี่ไปส่งเองเนอะ เอาเสื้อพี่ไปคลุมก่อนนะ ตัวเราเปียกหมดแล้วต๋าตัดบทไปไม่ถามอะไรต่อ เพราะก็พอรู้ได้ว่าคงต้องมีปัญหาอะไรกันแน่ๆ เขาไปบ้านต้วนอยู่บ่อยๆจึงรู้ว่าความสัมพันธ์ของเล้งกับเฉาก๊วยไม่ได้ดีอย่างที่ควรจะเป็น








    ณ บ้านต้วน

    ม๊าจะให้เล้งทำไงอ่ะ! เล้งก็ไปรับตามที่ม๊าบอกแล้ว ก๊วยมันลงรถไปเองเสียงทุ้มติดไปทางหงุดหงิดพูดกับคนเป็นมารดาอย่างหัวเสีย

     

                ทันทีที่เฉาก๊วยลงจากรถเขาก็ได้แต่เก็บอารมณ์ครุกรุ่นอยู่ในใจก่อนจะขับรถกลับบ้านด้วยความเร็วสูงพอๆกับความโกรธที่มีอยู่เต็มอก


    ก็ดูสิ่งที่แกทำสิ แกจะใจร้ายกับน้องไปถึงไหน แล้วนี่น้องจะกลับยังไงห้ะ!” คุณนายลี่เองก็หัวเสียพอๆกับลูกชาย ฝากฝังอะไรไม่เคยได้ ลูกชายบ้านนี้มันเป็นอะไรกันไปหมด

     


                ไอเล้งลูกชายคนโตก็ใช้แต่อารมณ์แก้ปัญหา ส่วนไอโจอี้ลูกชายคนเล็กก็ใช้แต่คารมหม้อสาวไปวันๆ จะได้เมียก่อนพี่มันอีกมั้ง อกอีแป้นจะแตก!




    ก็คงกลับมากับคนเดิมนั่นแหละ อาสามาส่งบ้านได้เกือบจะทุกวัน เหอะ แน่นอนว่าคุณนายลี่รู้ดีว่าเล้งหมายถึงใคร นั่นยิ่งทำให้ขุ่นแม่อยากจะกรี๊ดออกมา


    ถ้าแกทำหน้าที่ดี อาต๋าก็คงไม่ต้องมาส่งหรอก มีของดีอยู่ไม่รู้ตัว ระวังไว้เถอะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาม๊าช่วยไม่ได้นะเล้งพูดตามความจริงเลยเขาก็สงสารเฉาก๊วยที่โดนลูกชายเขาหมางเมินอยู่บ่อยๆ เพราะฉะนั้นถ้าเฉาก๊วยเลือกที่จะไปเขาก็คงขัดอะไรไม่ได้ ทำได้แค่ช่วยเหลืออยู่ห่างๆ

     


    ม๊ารู้มั้ย เล้งได้ยินเสียงไอต๋ามันบอกเฉาก๊วยว่ามืดๆจะโทรหา ลูกสะใภ้ม๊านี่ใช่ย่อยนะ



    ก็เขาจีบเมียแกไงไอลูกโง่! ” โง่ได้พ่อมันมาจริงๆ

     

     

    อ่ะไม่ได้หรอ

     

    ท่ดๆ

     

     

    แล้วไปให้เบอร์กันตอนไหนก็ไม่รู้ ม๊ายกมันให้ไอต๋าไปเลยง่ายสะกว่า



    ไม่! แกก็จีบเฉาก๊วยสิ จะได้ไม่ต้องมาหึงเขาแบบนี้ไง


     

    ใครหึงใคร! ม๊าอย่ามาพูดมั่วๆ



    เปิดใจหน่อยเล้ง แล้วแกจะเห็นอะไรมากขึ้นพยายามจะเอาน้ำเย็นเข้าลูบลูกชายเจ้าอารมณ์ให้มันตาสว่างสะที


    แต่ดูเหมือนจะไม่เกิดผล....




    เล้งไม่เปิดอ่ะม๊า วันนี้เล้งไปนอนไร่นะ ไม่ต้องรอกินข้าวว่าจบก็คว้ากุญแจรถแลมโบกินีสีขาวลูกรักที่พึ่งจอดได้ไม่ถึงครึ่งชม.ก่อนจะเดินออกไปทิ้งคนเป็นแม่ให้ยืนกุมขมับอยู่คนเดียว


    น้ำยงน้ำเย็นไม่ลูบมันแล้วโว้ยไอลูกบ้า
    !


    ป้าแจ่ม!!” คุณนายตะโกนเรียกหาหัวหน้าแม่บ้านอย่างหงุดหงิด รู้สึกเหมือนองค์แม่จะลงมาประทับร่างยังไงยังงั้น

     


    คะคุณนาย ป้าแจ่มรีบออกมาจากห้องครัวหลังจากได้ยินเสียงคุณนายที่ดูจะอารมณ์ไม่ดีเอามากๆ

     


    สั่งแม่บ้าน.. ย้ายของเฉาก๊วยไปห้องเล้งให้หมด!!”




    คะ...คุณนายจะดีหรือคะ ถ้าคุณเล้งกลับมารู้เข้า.. บ้านแตกแน่ๆค่ะ

     


    ดีสิ ในเมื่อมันไม่ยอมเข้าหา ฉันก็จะทำให้มันไม่มีทางเลือกเอง!” รอยยิ้มรว้ายๆของคุณนายผุดขึ้นอย่างรู้สึกสนุก

     



    แล้วเจอกันพรุ่งนี้ไอลูกชาย!

     

     .

     .

     .


     50%

     

     



    เฉาก๊วย พาร์ท


               

    เฉาก๊วย!!”


    แจน!!” เฉาก๊วยที่กำลังเดินไปโรงอาหารอย่างหน้าเคร่งเครียดต้องเงยขึ้นมาเพราะเสียงเรียกจากเพื่อนสนิทของเขา ก่อนจะวิ่งไปหาแล้วก็กอดๆตบหลังกันเป็นท่าประจำ

     


    เขากับแจนรู้จักกันเมื่อ2เดือนก่อน พูดง่ายๆก็คือตอนเปิดเทอมมหาวิทยาลัยเนี่ยแหละ เพราะเฉาก๊วยกับแจนมีนิสัยคล้ายๆกันอย่างเช่น ความร่าเริงสดใส และความแสบ.... ที่ไม่มีใครกินใคร

     

    พวกเขาจึงสนิทกันอย่างรวดเร็ว และสามารถพูดกูมึงกันได้ตั้งแต่อาทิตย์แรกที่เจอ


    อย่างกับเพื่อนรักพลัดพราก.....

     

     

                วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเรียน พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์แต่เฉาก๊วยไม่ได้ดีใจอย่างที่ควรจะเป็น


    เมื่อวานเฉาก๊วยได้รับข่าวร้ายจากคุณม๊านั่นก็คือ เขาต้องย้ายไปอยู่ห้องเดียวกันกับเฮีย



                ซึ่งบอกเลยว่าก๊วยทำใจไม่ได้ อดรนทนไม่ไหวต้องโทรไปหาเพื่อนรัก ระบายความในใจออกมาเหมือนน้ำทะลัก ยัยแจนฟังเสร็จก็หลุดหัวเราะออกมาพร้อมกับบอกเฉาก๊วยว่า

     

     

    มึงถูกมัดมือชกแล้วก๊วย สมยอมเถอะ

     

     

    มันใช่เรื่องตลกหรอแจน!



    เป็นไงบ้างมึง เฮียเล้งเขากลับมายังแจนที่เห็นหน้าเพื่อนเคร่งเครียดมาก็ถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง


    ตอนกูออกมาเฮียยังไม่กลับเลย คงกลับเย็นๆแหละเฉาก๊วยคาดเดาจากคราวก่อนๆที่เฮียชอบไปนอนที่ไร่ฟ้าเวลาเครียดๆหรืองานเยอะ


    แต่เฉาก๊วยก็ชักไม่แน่ใจว่าถ้าเฮียเล้งกลับมารู้เรื่องนี้เข้า เฮียจะย้ายไปอยู่ที่ไร่ถาวรเลยรึป่าว T^T


    เอาหน่าไม่ต้องคิดมากหรอกมึง ถ้ามึงอยู่ไม่ได้ก็มานอนกับกูนี่ กูกับพี่ต๋าต้อนรับมึงเสมอ อิอิแจนว่าพร้อมตบมือแปะๆเป็นท่าแซวเพื่อนรักกับพี่ชายของเขา


    เขาไม่ได้เป็นแม่สื่อหรอก แต่ก็พอรู้ว่าพี่ต๋าเอ็นดูเฉาก๊วยมากเกินกว่าเพื่อนของน้องชาย 

     

                เมื่อวานพี่ต๋าก็แกล้งเฮียเล้งผ่านโทรศัพท์เฉาก๊วย ทำเป็นบอกว่าจะโทรไปหาตอนมืดๆ เขาที่ได้ยินก็ต้องรีบหันไปตีแขนไอพี่ชายตัวดีที่จะทำบ้านคนอื่นเขาแตกแยก


              ปลอบใจกันอยู่ไม่นานแจนก็จูงมือพายัยขนมหวาน (เฉาก๊วย)ขึ้นตึกไปเรียน  พร้อมกับอาสาว่าเย็นนี้จะไปส่งที่บ้านกับพี่ต๋าเอง


     





    ณ เวลา 17.00 น.


    บ๊ายบายเฉาก๊วย วันจันทร์เจอกันนะ รีบๆมาด้วย!” รถเบนซ์คันสวยของต๋ามาจอดส่งสะใภ้คนโตอยู่หน้าบ้านต้วน หลังจากพาเด็กอ้นสองคนไปกินข้าวเย็นมา

                เฉาก๊วยก้าวขาลงจากรถก่อนจะหันไปอำลาทั้งคนพี่คนน้องที่อุตส่าห์มาส่งเขา ถึงแม้จะใช้ข้ออ้างว่าเป็นทางผ่านกับเขาอยู่ตลอดก็เถอะ


    บ๊ายบายแจน ขอบคุณที่มาส่งนะครับพี่ต๋า ขับรถดีๆค้าบประโยคแรกคนตัวเล็กพูดกับเพื่อน ส่วนประโยคหลังพูดกับพี่ชายของเพื่อน


    ครับผม ราตรีสวัสดิ์นะครับ

     

    แหมมม เห็นน้องนั่งอยู่ตรงนี้มั้ยเนี่ยไอพี่ต๋า จีบข้ามหน้าข้ามตาเฉยแจนที่นั่งคั่นระหว่างคนขับกับคนที่ยืนอยู่อดจะพูดแซวไม่ได้

     

    พอเลยแจน ไปๆกลับบ้านกันได้แล้ว เฉาก๊วยต้องเอ่ยปากอำลากันรอบสองก่อนจะแยกย้ายกันไป

     

                เฉาก๊วยเดินเข้ามาในตัวบ้านแล้วแต่ยังไม่กล้าจะเดินขึ้นไปข้างบน คนตัวเล็กยืนเก้ๆกังๆอยู่ตรงบันไดจนหัวหน้าแม่บ้านเดินผ่านมาเห็นเข้า



    คุณหนู.. ทำไมถึงไม่เดินขึ้นไปล่ะคะ



    เอ่อ... เฮียกลับมารึยังครับป้าแจ่มสะใภ้คนโตถามอึกอักเมื่อนึกถึงใครบางคนที่อยู่ข้างบน



    กลับมาแล้วค่ะ.. พอคุณเขารู้เรื่องเข้าก็โวยวายใหญ่ แต่ก็ขัดใจอะไรคุณนายไม่ได้เลยเดินปึงปังขึ้นห้องไปได้สักพักแล้วค่ะ



    อ่อ... คงจะโมโหน่าดูเลยนะครับ งั้นก๊วยยังไม่ขึ้นไปดีกว่าคุณหนูของป้าแจ่มตัดสินใจยังไม่ขึ้นไปข้างบน หันหลังเตรียมจะเดินไปห้องนั่งเล่น แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาก็โดนป้าแจ่มขัดขึ้นมาสะก่อน



    คุณหนูคะ คุณนายเธอฝากเอาไว้ว่าถ้าคุณหนูกลับมาแล้วให้ขึ้นห้องคุณเล้งได้เลยไม่ต้องเกรงใจค่ะหัวหน้าแม่บ้านทำหน้าที่อย่างดีตามที่คุณนายบอก


    แล้วคุณม๊าไปไหนล่ะครับ




    ไปออกงานสังคมค่ะ เธอรู้ว่าคุณจะต้องไม่กล้าเข้าห้องคุณเล้ง ก็เลยฝากป้าเอาไว้ แล้วก็บอกอีกว่าถ้ามีอะไรเธอจะจัดการเองค่ะ



    สั่งไว้เสร็จสรรพขนาดนี้ แล้วก๊วยเลือกอะไรได้มั้ย...

     

     


    เลือกไม่เดินขึ้นไปได้รึป่าว...

     



    ขอบคุณนะครับป้าแจ่ม เดี๋ยวก๊วยขึ้นห้องเลยก็ได้ครับสุดท้ายก็ต้องยอมเดินขึ้นมาข้างบนเพราะไม่อยากทำให้หัวหน้าแม่บ้านลำบากใจ


    เฉาก๊วยยืนอยู่หน้าบานประตูสีขาวใบใหญ่ ก่อนคิดชั่งใจ ชูกำปั้นเคาะประตูส่งสัญญาณให้คนในห้อง

     


    ก๊อกๆๆ......

     

     


    ไร้สัญญาณตอบรับจากคนในห้องที่ท่านเรียก....





    ก๊อกๆๆ...




    ครั้งนี้ก็ยังคงไร้วี่แววเช่นเคย




    เฉาก๊วยตัดสินใจจับลูกบิดหมุนประตูเปิดออก ไอเย็นฉ่ำจากในห้องกระทบเข้าที่ใบหน้าอย่างจัง



    คนอะไรเปิดแอร์เย็นอย่างกับอยู่ขั้วโลกเหนือ ไม่หนาวบ้างรึไงกัน



                เฉาก๊วยก้าวเท้าเข้ามาในห้องก่อนจะปิดประตูลง สายตาเริ่มสำรวจภายในห้องนอนที่เขาต้องมาอยู่นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เมื่อวานเขานอนที่ห้องตัวเอง เพราะไม่กล้ามานอนห้องเฮียเขาโดยที่เจ้าตัวยังไม่รู้เรื่อง




                ห้องนอนเฮียไม่ได้ใหญ่หรูหราอย่างที่คิด แต่กลับเรียบง่ายด้วยโทนสีเทา ซึ่งก็เหมาะกับสไตล์เจ้าของห้องที่เป็นคนเทาๆ  เฉาก๊วยนึกแล้วก็จะขำ คึคึ


     

              อืม...เตียงขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในสุดของห้อง อยู่ทางขวามือเวลาเปิดประตูเข้ามา ส่วนตรงกลางห้องก็เป็นโซฟาที่นั่ง แล้วก็มีทีวีจอแบนที่ก็ใหญ่พอสมควรแล้วหมวดแผ่นดีวีดีที่ตั้งเรียงรายอยู่ด้านล่างของชั้นทีวี



    สายตายังคงสำรวจอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนลืมไปว่าคนที่เขาเคาะประตูเรียกในตอนแรกยังไม่ปรากฏตัว

     


    นี่เสียงทุ้มของใครคนหนึ่งดังขึ้นข้างหลังจนเฉาก๊วยที่กำลังเพลิดเพลินจากการสำรวจห้องสะดุ้งก่อนจะหันไปเจอเจ้าของห้อง
     




    เฮียเล้ง!!”




    ก็ใช่น่ะสิ




    ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้าครับ!!” เฉาก๊วยว่าแล้วก็เอามือปิดตา




    ใช่
    ! เฮียขมวดแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวที่เอวแล้วก็มายืนจ้องหน้าเขาที่ยังตกใจอยู่ บนตัวยังมีหยดน้ำเกาะบ่งบอกว่าเจ้าของห้องพึ่งอาบน้ำเสร็จมาเป็นแน่



    ผะ..แผงอก กับ หน้าท้องที่มีกล้ามเนื้อเรียงตัวกันสวยงามมันทำให้หน้าเฉาก๊วยเห่อร้อนขึ้นมา




    บ้าจริง! เอามือปิดตาแล้วแท้ๆ ทำไมถึงปิดไม่หมดกันนะ T^T





    มึงจะยืนปิดตาอีกนานมั้ยร่างสูงถามคนตัวเล็กที่ยังเอามือปิดหน้าปิดตา(ไม่สนิท)อยู่

     

     

    เพราะมือของเฉาก๊วยที่ปิดตาไม่สนิทนั่นแหละ ทำให้เขามองเห็นตาแป๋วๆที่จ้องมองเขาผ่านนิ้วมือมา

     


     

    หึ ตลกชะมัด




    ฮะ... เฮียก็ไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนสิครับคนอายุน้อยกว่าได้แต่พูดแล้วก้มหน้างุด





    หึ เนี่ยน่ะหรอสะใภ้ที่คนทั้งบ้านเขาเอ็นดูกัน...




    เพราะน่าแกล้งแบบนี้นี่เอง





    นี่มันห้องกูนะ กูจะใส่หรือไม่ใส่กูก็ไม่เดือดร้อนนี่ว่าพลางก้าวเท้าเข้าไปหา  ก็เห็นแล้วแหละว่าเด็กมันอายแต่ก็อยากจะแกล้งอีกสักหน่อย



    เดี๋ยว...

     

     

    กูรึป่าววะที่ต้องอาย....

     

     

    งงว่ะ...




     “งะ...งั้นก๊วยออกไปรอหน้าห้องละกันนะครับ เฮียแต่งตัวเสร็จแล้วค่อยเรียกก๊วยก็ได้คนตัวเล็กเตรียมจะเดินออกไปนอกห้องแต่ก็ถูกคว้าแขนเอาไว้


    เดี๋ยวก่อน.. ถ้ามึงเดินออกไปเดี๋ยวใครเห็นเข้าก็ฟ้องม๊ากูอีก นั่งอยู่นี่แหละ อย่าสร้างปัญหาพูดจบเฮียก็ปล่อยแขนเขาแล้วก็เดินหายไปในห้องซ้ายมือของห้อง สงสัยจะเป็นห้องแต่งตัว..



    เฮ้อ... เข้ามาได้ไม่กี่นาทีก็รู้สึกจะเป็นบ้าตายแล้ว




    แล้วนี่จะนอนกันยังไงล่ะเนี่ย ไม่อยากคิดเลยฮือ




    ก๊วยจะผ่านคืนนี้ไปได้ยังไงกัน
    !






    TALK : เฮียเล้งอย่าแกล้งน้อง!! 

    ปากก็ดุก็ว่าเขาจัง 

    แต่การกระทำนี่ค่อนข้างขัดแย้งนะคะเฮีย



    อย่าลืมเม้น+ให้กำลังใจเค้า



    แล้วเค้าจะกลับมา อิอิ




     


    B
    E
    R
    L
    I
    N
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×