ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ GOT7 ] 어머나 ( omona ) ' MARKYUGBAM { พักอัพฮะ }

    ลำดับตอนที่ #3 : 어머나 3. เขาที่เพิ่งเจอ..และเธอก็ได้กัน

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.พ. 57


           
      


     

     3

    เขาที่เพิ่งเจอ..และเธอก็ได้กัน

     

      

                แบมแบมไม่อยากจะลืมตาขึ้นเลย เอาจริงๆ..


                ไม่ใช่เพราะเขาอยากตายหรอกน่า...แบมแบมไม่ใช่คนคิดสั้นแบบนั้น


    แต่มันเป็นเพราะ...


    “คุณมึงจะมานั่งทำหน้าโง่อยู่ตรงนี้ทำไมวะครับ ญาติก็ไม่ได้เป็น เพื่อนก็ไม่ใช่ มีสิทธิ์อะไรไม่ทราบครับ”


    “แล้วนายมีสิทธิ์อะไรมาไล่ผมล่ะครับ คุณมาร์ค”


    “ฉันเป็นเจ้าของแบมมี่เว้ย ไอ้หน้ามึนนี่!!



    “แบมแบมไม่ใช่หมาสักหน่อย นายจะมาเป็นเจ้าของได้ไง งั้นไหนล่ะ?? อะไรที่แสดงว่าแบมแบมเป็นคนของนายจริง??”



    อา...อยากจะบอกเหลือเกินครับกว่าผมเป็นของตัวกูเอง...ไม่ต้องเถียงกันไป...



                ขนาดเขานอนหลับอยู่แบบนี้ เสียงที่มันลอดเข้ามาให้ได้ยินก็วุ่นวายจนทำเอาเขาอยากจะนอนต่อไปแบบนี้เรื่อยๆ ไม่ต้องตื่นมาเจอหน้าเจ้าของเสียงสองเสียงที่กำลังเถียงกันอยู่นี่...อย่างน้อยก็จนกว่าพวกมันจะไสหัวกลับไปสู่ที่ชอบๆ ของตัวเอง



                ให้คนป่วยพักผ่อนอย่างสงบสุขไม่ได้หรืออย่างไรขอครับพวกเอ็ง...



                หนกขูโว้ยย T^T



                “จะสงสัยอะไรนักหนาไม่ทราบวะครับ!!! แค่ฉันอยู่บ้านเดียวกับแบมมี่ก็น่าจะรู้แล้วนี่”



                “จริงเหรอครับ”ยูคยอมอมยิ้มเจ้าเล่ห์ “งั้นทำไมถึงปล่อยให้แบมแบมไปนอนอยู่ในห้องสมุดคนเดียวล่ะครับ ดูแลไม่ดีเลยนะ”



                “แบมมี่บอกฉันแล้วโว้ย!!”คนขี้โวยวายยังคงแถต่อไป “แบมมี่บอกว่าอยากอยู่คนเดียว ฉันเลยปล่อยให้ไปต่างหากล่ะ ไม่รู้จักความเป็นส่วนตัวหรือไง”



                “อ้าวงั้นเหรอ...ผมเห็นแบมแบมดูเบื่อๆ เลยอยู่เป็นเพื่อน....”ยูคยอมลากเสียงยาว สีหน้าตอนนี้แบมแบมพอจะเดาได้ว่ามันน่าจะ... “ผมนอนข้างๆ แบมแบมทั้งวันเลยนะ



                “ไอ้….!!!!!



                “ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย”แบมแบมทนให้ไอ้พวกบ้าทั้งสองตัวนี่ใส่สีตีไข่ให้เขาแลดูเป็นเคะแสนบริสุทธิ์ไม่ไหว ลืมตาค้อนใส่ยูคยอม มาร์คเลิกสนใจคนนอกและรีบปรี่เข้ามาเกาะข้างเตียงแทบจะในทันที



                “ต..ตื่นแล้วเหรอแบมมี่”มาร์คดึงมือแบมแบมไปจับ สายตาที่มองร่างเล็กเต็มไปด้วยความเป็นห่วง แลดูแล้วคล้ายๆ กับฉากในละครหลายๆ เรื่อง...



                ขนลุกอะเกน !!



                “ผมจะนอนหลับได้ไง ไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้มาแหกปากเถียงกันอยู่ข้างๆ หูผมตลอดเวลาแบบนี้”แบมแบมแงะมือหนาออก ค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ทว่าเมื่อแบมแบมขยับตัวปุ๊บ หัวเขาก็ปวดหนึบจนเกือบล้มลงนอนเหมือนเดิม ดีที่มาร์คมาช่วยประคองไว้แล้วจัดท่าทางให้เสร็จสรรพ



                ดีครับ...มีประโยชน์ขึ้นมาอีกนิดแล้ว..



                “แบมมี่ไล่มันกลับไปหน่อยดิ โคตรเหม็นขี้หน้าเลยว่ะ”มาร์คโน้มหน้าพูดข้างหูคนบนเตียง แต่มันหาใช่การกระซิบไม่ เสียงของเขามันดังจนรู้เลยว่าจงใจให้ยูคยอมได้ยิน แต่ฝ่ายนั้นกลับยังทำหน้านิ่งไม่สะทกสะท้าน



                “ผมจะกลับบ้าน”แบมแบมไม่สนใจจะทำตามเลยสักนิด “โทรหาแจ็คให้หน่อย”



                “โทรหามันทำไมอ่ะ อยู่กับเค้านี่งาย”มาร์คทำตาปิ๊งๆ แบ๊วใส่ มือเรียวดันหัวแดงๆ ออกห่างตัว แบมแบมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมชอบทำตัวแบบนี้วะ คิดว่าตัวเองจะดูดีมากหรือไง....



                มันน่าอายมากต่างหากล่ะจะบอก!! =///^////=


                “ผมไม่ชอบโรงพยาบาล พาผมกลับบ้านเหอะ”



                “หัวแบมแบมกระแทกพื้นตอนลื่นนะครับ”ยูคยอมที่ยอมยืนเงียบ ปล่อยให้มาร์คได้แสดงความสนิทสนมมานานเอ่ยขึ้น “หมอบอกให้พักที่นี่ก่อนสักวันสองวันจะดีกว่า”



                แบมแบมกัดริมฝีปากมองหน้าคนหวังดี ไม่อยากยอมรับคำพูดของเขาสักเท่าไหร่นัก แต่ดูจากสีหน้าจริงจังนั่นแล้วเขาก็เถียงไม่ออก...



                ชิ..จำไว้เหอะ เขาจะปล่อยไปก็แค่ตอนนี้นั่นแหละ ถ้ายูคยอมยังมายุ่มย่ามกับเขาไม่เลิกล่ะก็...เขาจะไม่เกรงใจเหมือนกับมาร์คแล้วนะ!!



                “แบมมี่ไม่ต้องกลัวนะ คืนนี้เดี๋ยวนอนเป็นเพื่อน ไม่หายไปไหนหรอก”มือหนาของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ลูบหัวเขาอย่างรู้ทัน แบมแบมแอบเบ้ปาก...ไม่ใช่เพราะความหมั่นไส้หรืออะไรหรอก แต่เขากำลัง.....รู้สึกแปลกๆ



                มาร์คจำได้ว่าแบมแบมเกลียดโรงพยาบาลมากขนาดไหน



                ปีที่แล้วเขาป่วยหนักจนต้องเข้ามานอนที่นี่อยู่เกือบเดือน มันเป็นความทรงจำที่เลวร้ายมากจนเขาไม่อยากจะกลับมาเหยียบสถานที่แห่งนี้อีก และหลังจากนั้นเขาก็คอยดูแลตัวเองดีตลอด เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเข้ามานอนแอ้งแม้งเป็นปลารอขึ้นเขียงอยู่ที่นี่



                เพราะงั้นเขาเลยอยากกลับบ้านเร็วๆ



                แม้ไอ้มือที่มันกำลังลูบหัวอยู่นี่มันทำให้แบมแบมรู้สึกหายกลัวลงมากโขเลยก็ตาม....



                บ้าชิบ...แล้วทำไมเขาต้องรู้สึกตัวร้อนๆ ด้วยครับ...



                ไม่นะแบมแบม อย่าเป็นแบบนี้นะ



                จำไว้ดิ นายไม่ใช่เกย์นะเว้ยแบมแบT^T!!!!




                “นี่กี่โมงแล้ว”แบมแบมเบนหน้าหนีจากมาร์คที่ยกข้อมือขึ้นมองนาฬิกา แสร้งทำเป็นไม่สนใจเพื่อซ่อนใบหน้าที่ตอนนี้เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันกำลังเจือสีอะไรหรือเปล่า แต่ก็ไม่พ้นสายตาของใครอีกคนที่คอยจับจ้องเขาอยู่ตลอดเวลาอย่างยูคยอมได้อยู่ดี


                ถึงแบมแบมจะไม่ได้เป็นแบบนั้นเพราะเขาก็ตาม ยูคยอมก็ยังเห็นว่ามันน่ารักมากอยู่ดี



                ยูคยอมไม่ใช่คนที่เกี่ยงเรื่องเพศ แต่เขาก็ไม่เคยคบเพศเดียวกันมาก่อนเลยในชีวิต


                นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเริ่มรู้สึกอยากลองขึ้นมาจริงจังซะแล้วสิ...


                ถึงจะมีหมาเฝ้าบ้านโหดๆ คอยงับก็เหอะ


                ยูคยอมบ่หยั่นครับ...แค่ขอให้เขากลับไปเตรียมตัวมาดีๆ ใหม่ก่อน



                ไม่ใช่เรื่องยากอะไรนักหรอก J



                “สี่ทุ่มแล้วครับ” เขาแทรกจังหวะที่มาร์คกำลังจะอ้าปากตอบพอดี เลยโดนทำร้ายทางสายตาอีกรอบ “ผมขอตัวกลับก่อน พักผ่อนเยอะๆ นะครับ”


                “อ่า..อื้อ บาย”แบมแบมพยักหน้าตอบ ใบหน้าหวานฉายแววงุนงงเมื่อคนที่บอกว่าตัวเองจะกลับแล้วเดินเข้ามาใกล้ และยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไร ริมฝีปากอุ่นร้อนก็ประทับลงมาที่ข้างแก้ม ต่อหน้าต่อตาผู้อ้างตนว่าเป็นเจ้าของแบบไม่เกรงใจ ก่อนจะผละออกมาและส่งยิ้มนุ่มนวลให้


                “เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมมาหาใหม่นะครับ :D บายครับมาร์ค ฝากดูแลแบมแบมของผมด้วย”


                “ไอ้ยูคยอม!!!!”มาร์คที่ถูกหยามเข้าเต็มๆ ตั้งท่าจะวิ่งตามยูคยอมที่เพิ่งปิดประตูออกไป มือเล็กรีบเอื้อมมาดึงชายเสื้อไว้


                “พอเหอะมาร์คผมปวดหัวนะ”


                “อ่า...”มาร์คหันกลับมามองเสียงเล็กที่แสดงอาการเหนื่อยออกมาชัดเจนจนเขาต้องยอมอ่อนลง ช่วยจับตัวแบมแบมให้นอนลงบนเตียงสบายๆ “งั้นนอนนะครับเด็กดี”


                “อย่าเรียกแบบนั้นดิ จะอ้วก”


                “อุ้ต๊ะ!! ท้องแล้วเหรอ*0*


                -_________- !!!!!



                “มุกกากๆ อย่าเอามาเล่นได้มั้ยครับ”แบมแบมเบ้ปากใส่ ดึงผ้าห่มขึ้นมาห่อทั้งตัว “ปิดไฟตรงนี้ให้หน่อย ผมจะนอนแล้ว”


                ร่างสูงพยักหน้ารับ ลุกขึ้นเดินไปทำตามคำสั่งก่อนจะเดินกลับมานั่งยิ้มแป้นข้างๆ เตียงเหมือนเดิม


                “....”


                “....”


                “....”


                “มองหน้าทำไมครับ??”มาร์คถามคนที่บอกว่าจะนอนแต่ก็ยังคงจ้องเขาตาปริบๆ อยู่อย่างนั้นไม่มีทีท่าว่าจะหลับ ใบหน้าเล็กสะบัดดุ๊กดิ๊ก ไม่ยอมพูดออกไปตรงๆ ว่าเขาน่ะกำลัง...


                กลัวคนตรงหน้านี่แอบหนีหายไป


                แหม่...ก็แบมแบมทำร้ายเขาไว้มากนี่นะ...จะให้มาพูดงี้มันก็....


                น่าอายไปหน่อยปะ -//-


                แต่ถึงจะไม่พูด คนที่รู้จักนิสัยแบมแบมดีอย่างมาร์คก็รู้ทันได้ง่ายๆ นั่นแหละ..


                “ไม่ไปไหนหรอกน่า


                อ....


                อย่ามายิ้มแบบนั้นนะ...


                ขุ่นพระ ทำไมแบมแบมถึงได้มองว่ารอยยิ้มนั่นมันดูอ่อนโยนแล้วก็เท่มากจน...ใจมัน....


                แบมนายเป็นอะไรวะเนี่ย = // [] // =



                นี่แทบจะไม่กล้าสู้หน้าเขาแล้วนะโว้ย!!!


                “เหอะ นายมันเชื่อไม่ได้หรอก”ก็ทำปากหมาแถใส่ไปตามนิสัย


                “งั้นเอามือมานี่”มาร์คคว้ามือเล็กไปกุมไว้ข้างนึง ยืนยันว่าเขาจะนั่งอยู่ตรงนี้จริงๆ “จับไว้แบบนี้นี่แหละ แบมมี่จะได้สบายใจ”


                O/////////////O


                #*$^@&^$*@*#U)E#@J)Y$*(^#@*HDEWI#@!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!


    ผ้าห่มถูกดึงขึ้นมาคลุมตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่แม้ทิฐิจะสูงขนาดไหนความกลัวมันก็ชนะความกลัวอยู่ดี มือข้างนึงของแบมแบมยังคงจับอยู่กับมือหนาอบอุ่นที่ช่วยคลายความหวาดระแวงให้เขาได้จริงดังคำพูด


    โอ้โนวววว...ไม่แบมแบม อย่าคิดไปในทางที่ไม่ดีดิ ก็แค่จับไว้ให้สบายใจ จับไว้มาร์คจะได้หนีไปไหนไม่ได้ไง ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้นหรอกน่า ไม่มีจริงๆ จริงๆ...จริง...


    จริง..เหรอ???


    อ๊ากกกกกกกกกก แบมแบมจะบ้าตาย T//O//T




     

                แบมแบมพยายามควบคุมสติตัวเองจนเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เขาตื่นขึ้นมาอีกทีก็ตอนที่นาฬิกาบนข้างฝาชี้บอกเวลาตีหนึ่งยี่สิบนาที ผ้าห่มที่แบมแบมคลุมโปงไว้ถูกดึงออกโดยมาร์คหลังจากที่หลับไปได้ไม่นานด้วยเพราะอีกฝ่ายเกรงว่าเขาจะหายใจไม่สะดวก



                มือของแบมแบมยังรู้สึกได้ถึงสิ่งที่พันธนาการไว้อยู่


                ดวงตาเรียวกะพริบสองสามที เมื่อปรับสายตาให้เข้ากับความมืดมิดในห้องได้แล้ว แบมแบมเหลือบมองข้างๆ เรือนผมสีแดงฟุบใบหน้าเข้ากับแขนอีกข้าง มาร์คทำตามสัญญาโดยการหลับมันไปบนเก้าอี้ข้างเตียง ถึงแม้มันจะทำให้เขาตื่นมาพร้อมกับร่างกายที่ปวดก็ตาม


                จู่ๆ แบมแบมก็เกิดรู้สึกใจอ่อนขึ้นมาซะงั้น


                .....


                อันที่จริงแล้วเตียงของโรงพยาบาลนี่มันก็ใหญ่จนนอนได้สองคนเลยนะ...


                เฮ้ย!! แกคิดอะไรวะแบมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม !!!!!!


                แต่..มาร์คอุตส่าห์อยู่เป็นเพื่อนเลยนะเว้ย...ก็แค่ให้นอนข้างๆ เฉยๆ จะแปลกอะไร...แล้วนี่มันเพิ่งตีหนึ่ง จะให้ไอ้สูงนี่นอนแบบนี้ต่อไปอีกห้าชั่วโมงก็....


                อึก..แบมแกคงเป็นบ้าไปแล้วจริงๆ T^T


                แบมแบมเถียงกับตัวเองอยู่ในใจเกือบห้านาที สุดท้ายแล้วเขาก็ตัดสินใจเอื้อมมือสั่นๆ ไปขยับปลุกให้อีกฝ่ายตื่นขึ้น


                “มาร์ค...มาร์ค ตื่นก่อนดิ”


                “หืม”ใบหน้าหล่อเงยขึ้นมองตามเสียงเรียก เหมือนว่าเขาไม่ได้นอนหลับสนิทเท่าไหร่นัก อาจเป็นเพราะการนอนที่ผิดท่า


                ยิ่งทำให้แบมแบมเป็นหนักกว่าเดิมอีกแหนะ...


                เลิกทำตัวงี้สักทีเห้อ แบมขอ . _ .


                “ไม่เมื่อยเหรอ นอนงั้นอ่ะ”


                “อ่า..ไม่เป็นไรหรอก แบมมี่เป็นอะไรหรือเปล่า ปวดหัวเหรอ??”


                “เปล่า”แบมแบมส่ายหน้ารัว ริมฝีปากเม้มแน่นเป็นเส้นตรงชั่งใจกับตัวเองอีกรอบ


                มาร์คบอกว่าไม่เมื่อยนะเว้ย...ปล่อยมันนอนงี้ต่อไปเหอะ...


              เขาก็แค่พูดให้นายสบายใจอ่ะแบม...


              แต่มันแบบว่า..


              พูดๆ ไปเหอะน่า...


                เฮือก...แบมแบมคิดว่าถ้าเขายังเป็นแบบนี้อยู่อีกต่อไปล่ะก็ เขาคงบ้าเข้าจริงๆ เข้าสักวันแน่ๆ




                “ขึ้นมานอนกับผมก็ได้”เสียงที่ออกจากลำคอนี่มันอ้อมแอ้ม เบาจนแทบไม่ได้ยินเลย แต่เพราะทั้งห้องนี่มีแค่พวกเขาสองคน มาร์คเลยได้ยินทุกคำชัดเจน “เอ่อ...คือเตียงมันก็ใหญ่...”




                “ได้เหรอ”คนถูกถามแอบอมยิ้ม มองใบหน้าเขินๆ ฝ่าความมืด




                น่ารักโว้ยยยย!!!!




              อดใจไว้ไอ้มาร์ค....อย่าเพิ่งคิดอะไรสั้นๆ นะ..




                “ถ้าไม่ได้ผมจะถามทำเตี่ยอะไรล่ะ”บ่นอุบอิบกลบเกลื่อนพลางขยับตัวเว้นที่ว่างให้อีกฝ่าย “จะนอนไม่นอน???”




                “แหงอยู่แล้ว”ไม่รอให้แบมแบมได้ทันเปลี่ยนใจ มาร์ครีบพาตัวเองไปนอนข้างกายร่างเล็ก ทันทีที่เขาขึ้นไปอยู่บนเตียง แบมแบมก็รีบพลิกตัวนอนหันหลังใส่




                “ผมนอนต่อละ อย่าคิดจะทำอะไรบ้าๆ นะ ไม่งั้นนายโดนถีบตกเตียงแน่”




                เป็นคำขู่ที่น่ากลัวจริงๆ เลยครัช...




              ทำเสียงให้มันดุกว่านี้สิแบมเอ๊ย...




                “รู้แล้วคร้าบ นอนเหอะๆ”




                หลังจบคำพูดนั่นของมาร์คแล้ว แบมแบมก็ไม่ได้ตอบอะไรอีก เขาพยายามข่มตานอนอยู่เป็นสิบกว่านาที แต่ระบบประสาทของเขามันพากันตื่นตัวแหกตาเขาให้สว่างโร่ราวกับเขาเพิ่งไปเต้นแอโรบิกมาได้สามสี่รอบ




                แล้วจู่ๆ ความอยากรู้อยากเห็นแปลกๆ มันก็ผุดขึ้นในใจเขา



                มาร์คนอนยังวะ???



                “มาร์ค..นายหลับยัง”



                “ยัง แบมมี่ก็นอนไม่หลับเหรอ”



                “น่าจะแบบนั้นอ่ะ..ผมไม่ง่วงเลย”



                “งั้นถามอะไรหน่อยได้ปะ??”



                “อื้อ ถามมาดิ”



                “แบมมี่นอนกับยูคยอมจริงๆ เหรอ?”



                เป็นคำถามที่...ถ้าเกิดแบมแบมกินน้ำอยู่นี่น้ำคงพุ่งอ่ะครับ



                ร่างเล็กพลิกกลับไปหาอีกฝ่ายที่ก็นอนหันมาทางเขาอยู่พอดี ระยะห่างนี่มันพาให้ใจเต้นชะมัด แบมแบมข่มสติ ท่องไว้ในใจว่าอย่าไปคิด...อย่าไปคิด



                “ผมไม่รู้ ตื่นมาอีกทีเขาก็นอนอยู่ข้างๆ ผมแล้ว”



                แบมแบมไม่พอใจกับการกระทำของยูคยอมเลยพูดจริงๆ นั่นมันฉวยโอกาสชัดๆ แต่ตอนนั้น สิ่งที่คนสติหลุดแบบเขาทำได้ดีที่สุดก็คือการวิ่งหนีมา สาบานเลยว่าหลังจากวันนี้เขาจะต้องหาโอกาสเอาคืนไม่ทางใดก็ทางนึง



                “มันทำอะไรมากกว่านอนข้างๆ หรือเปล่า??”



                แบมแบมถึงกับต้องหลบสายตาเลยทีเดียว



                ผมจะต้องบอกไหมว่าผมถูกผู้ชายแปลกหน้านอนกอด..แล้วยังจูบอีก T___T



                “เงียบทำไมอ่ะ”



                “เปล่า ไม่ได้ทำ”



                “อย่าโกหกดิ”



                “เออ ทำก็ทำ”



                รู้อยู่แล้วยังจะถามทำแป๊ะอะไร



                “อะไรบ้าง”



                “เขามานอนกอดผม”แบมแบมกลับไปนอนหันหลังใส่เหมือนเดิม เขาแทบจะกัดลิ้นตัวเองตอนพูดคำนี้ออกมา ตัดสินใจไม่บอกความจริงที่ว่าถูกจูบไป แถมยังเอาลิ้นเข้ามาในปากอีก อี๋ย์ คิดแล้วอยากจะวิ่งไปแปรงฟันจีจีเลอ



                “แค่นั้นใช่ไหม??”



                “อื้อ แค่นั้นแหละ”



                “ไม่ได้โกหกนะ??”



                “....”เงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ไม่ได้โกหก”



                มือหนาเอื้อมมาดึงร่างเล็กเข้าไปกอดโดยไม่ปล่อยให้ตั้งตัว พอแบมแบมดิ้นหัวของเขาก็ปวดตุ้บจนต้องหยุดขัดขืน


    “ขอนอนแบบนี้นะ...ได้มั้ย??”แขนที่พาดอยู่รอบเอวเบาแรงลงราวกับเปิดโอกาสให้แบมแบมได้เลือกว่าจะอยู่ในอ้อมแขนนี้ต่อหรือปลดมันออกไป


    ทำไมรู้สึกเหมือนกับคืนนี้แบมแบมต้องตัดสินใจหลายรอบเลยวะครับ!!!


    ร่างเล็กนอนนิ่งไม่ขยับ


    คือเอาความจริงแล้ว...มันก็อุ่นดีออก . _ . แถมยัง...ทำให้เขาง่วงด้วย


    ไม่มีอะไรไปมากกว่านั้นหรอกน่า ที่แบมแบมไม่ได้ยอมด้วย เขาแค่รู้สึกเหนื่อยจนหมดแรง....


    เพราะงั้นนอนดีกว่า ไม่ต้องทักแล้วนะ จะนอนแล้ว . _ . คร่อกกกก


    ผ่านไปหลังจากนั้นกว่าสิบนาทีถึงได้มีคำตอบดังออกมาจากปากแผ่วๆ


    เออ!  

      

     
    100 %

     

    เรามาตกลงกันก่อนจะอ่านต่อดีกว่า


    เอาแบบนี้นะครับคนอ่าน..


                แบมแบมจะถือว่าเมื่อคืนนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แบมแบมไม่ได้ทำอะไรลงไป แบมแบมไม่ได้อ่อย แบมแบมไม่ได้ให้ท่า แบมแบมไม่ได้ใจเต้น แบมแบมไม่ได้เขิน แบมแบมไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น แบมแบมก็แค่นอน...


                ดังนั้น..ห้ามพูดถึงมันอีกนะครับ???


                แบมแบมขอร้อง....


                “แบมมี่..”แต่เสียงกระซิบที่ข้างหูนี่กลับโคตรตอกย้ำความจริงที่ว่าเขากำลังถูกกอดอยู่เลยว่ะ T^T!!


                แบมแบมรีบปิดมือที่เกี่ยวเอวอยู่ออก รีบเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง หัวของเขาปวดแปล๊บแต่ก็จำต้องกัดฟันทนไว้ จะให้เสียหน้าความเป็นชายต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ขืนเป็นงี้ต่อไป แบมแบมกลัวว่าเขาจะต้องกลายเป็นหนึ่งในลักธิเข้าข้างหลังแหง่แก๋ เหลือบมองนาฬิกาปุ๊บก็ได้โอกาสไล่คนผมแดงที่นอนมองเขาสบายๆ อยู่ไปไกลๆ


                “จะแปดโมงแล้วนะมาร์ค!! ผมว่านายไปเรียนได้แล้วมั้ง!!”ปากว่าแต่ตาก็ไม่ได้สบอีกฝ่ายเลย มาร์คยันตัวนั่งขัดสมาธิข้างๆ เอื้อมมือไปหยิกแก้มนุ่มจนแบมแบมหันมาถลึงตาใส่เขาดุๆ


                “กลับบ้านไปอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วน่า แบมมี่ขี้เซา หลับหรือตายทำไมไม่รู้เรื่องอะไรเลย”


                “ผมจะฆ่านายให้ตายก่อนนั่นแหละ แล้วยังจะโผล่มาอีกทำไม ไปโรงเรียนซะสิ!!


                “รู้แล้วน่า”พอโดนปัดมือออก มาร์คทำหน้าบู้เซ็งๆ ลงจากเตียงพลางก็บ่นพลาง “ทีเมื่อคืนนี้ล่ะน้า ให้นอนกอดยังไม่เห็นว่าอะไรเลย”


                “อะไร!! ใครทำอะไร?!?!?



                “เมื่อคืนนี้ แบมมี่ให้ผม...”


                “หยุด!!!..นายพูดอะไรไม่รู้เรื่อง ละเมออะไรมาเหรอมาร์ค ผมจำอะไรไม่เห็นได้เลอ...”


                มาร์คอ้าปากค้าง แบมแบมทำหน้ามึนลอยหน้าลอยตาไม่รู้ไม่ชี้ รีบโบกมือเร่งให้อีกฝ่ายไปเร็วๆ


                “ไปได้แล้วไป๊ สายแล้ว”


                “อ๋อ”แล้วเขาก็เข้าใจถึงปฏิกิริยานี้ของแบมแบม มาร์คกระตุกยิ้มบาง ยอมหมุนตัวเดินออกไปง่ายๆ “งั้นไปละน้า เย็นนี้เจอกันนะครับที่รัก <3


                “ไปตายซะมาร์ค!!


                เอาน่า..เมื่อคืนเขาได้กำไรมาเยอะแล้ว ปล่อยไปสักครั้งจะเป็นไร...


                เพราะเดี๋ยวหลังจากนี้แบมมี่ได้เจอศึกหนักแน่


                กรั่กๆ...(?)

               



                อนึ่ง..กระผมอยากจะกล่าวไว้ ณ ที่นี่เพื่อให้ทุกท่านโปรดทำใจไว้โดยทั่วกัน


                คนเราไม่ควรจะหวังอะไรหรอกครับ...พระเจ้าท่านมักจะชอบทำให้เราผิดหวังเล่น เหมือนจะเป็นเรื่องตลกสำหรับท่านนะที่ทำเงี้ย...


                โกรธพระเจ้าจังเลยว่ะครับ


                แบมแบมถอนหายใจเฮือกใหญ่เท่าช้าง เขานึกเสียใจที่ตัวเองไม่เดินไปล็อคประตูหลังจากที่มาร์คออกไปแล้วเหลือเกิน ก็คิดไม่ถึงนี่หว่าว่าจะมีตัวปัญหาโผล่มาอีกแบบนี้...


                ยูคยอมยืนยิ้มแป้น ในมือหอบถุงที่เต็มไปด้วยของกินจนแทบล้น เจ้าตัวทักทายแบมแบมอย่างกับสนิทกันมาเป็นชาติ แถมยังเอาขนมใส่ในตู้เย็น จัดนู้นนี้ยังกับเป็นผู้ปกครองของแบมแบมอีกแหนะ


                “จะแปดโมงครึ่งแล้วนะยูคยอม!! ผมว่านายไปเรียนได้แล้วมั้ง!!”เป็นครั้งที่สองของวันที่แบมแบมพูดประโยคนี้ แตกต่างเพียงแค่ชื่อของบุคคลเท่านั้น


                เจ้าของชื่อเก็บขนมของเขาหมดแล้วก็หยิบห่อเล็กๆ ติดมือมายื่นให้ แบมแบมมองข้ามมันไปส่งสายตาขับไล่คนไม่พึงประสงค์ไม่เลิกรา


                “กินก่อนเหอะน่า ผมเห็นข้าวหน้าห้องเหลือเต็มเลย”ยูคยอมยัดขนมปังใส่มือแบมแบมจนได้ “นายไม่หิวบ้างหรือไง??”


                “เรื่องของผม นายไปเรียนซะเถอะยูคยอม”แบมแบมแทบจะอดใจไม่ไหว เขาอยากจะปาขนมปังใส่หน้าไอ้คนบ้านี่จริงๆ แต่เขาก็ทำเพียงแค่วางมันไว้และมุดตัวเข้าไปอยู่ในผ้าห่มเท่านั้น


                เหม็นขี้หน้า ไม่อยากเห็น...


    ทำอะไรเขาไว้ตั้งเยอะจนไม่น่าให้อภัยแล้วนะเว้ย ทำไมถึงไม่รู้ตัวบ้างวะ !!!


                “ออกมากินเร็ว”


                “นายไม่ใช่พ่อผมนะยูคยอม!! เราแทบไม่รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ จะมาสนใจทำไมว่าผมจะกินข้าวหรือไม่กิน”เสียงเล็กเหวทะลุผ้าห่ม ใช้ขาสะกิด เขี่ยให้อีกคนที่นั่งอยู่บนเตียงออกไปจากบริเวณของเขา ก่อนที่จะถูกมือหนาจับไว้ แบมแบมชักสีหน้าอารมณ์เสีย


                ขนาดผมยอมเสียมารยาทใช้ขาแล้วนะ ยังจะ...


    หน้าด้านสุดๆ เลย


                “ไม่รู้จักอะไร เมื่อกี้นายยังเรียกชื่อผมอยู่เลย”อีกมือของยูคยอมเอื้อมมาดึงผ้าห่มที่คลุมตัวแบมแบมออก ร่างใหญ่โน้มลงมาใกล้ในจังหวะที่แบมแบมกำลังลุกขึ้นตามจับผ้าห่มราวกับวางแผนไว้อยู่แล้ว ริมฝีปากเล็กจึงประกบเข้าเต็มๆ กับปากของยูคยอม


                อ่า..เริ่มก่อนอีกแล้วนะครับ แบมแบม...


                งั้นผมไม่เกรงใจละ J


                ยูคยอมเริ่มต้นขยับเริ่มฝีปากจากแผ่วเบาเป็นหนักหน่วง สองมือกดไหล่ร่างเล็กลงบนเตียงตามเดิมโดยที่ตัวเขาเองก็ยังคอยละลาบละล้วงริมฝีปากบางอยู่ไม่ห่าง คลอเคลียด้วยทักษะที่สะสมจากประสบการณ์ผ่านๆ มาของเขา กระนั้นเขาก็พยายามผ่อนผันไม่เข้าไปหยอกล้อในโพรงปากอีกฝ่ายด้วยเพราะตระหนักอยู่ว่าแบมแบมกำลังป่วย...


                เล่นมากเดี๋ยวช็อคตาย..อดแดกกันพอดี..


                ฝ่ายรับที่เจ็บหัวอยู่แล้วยิ่งปวดหนักเข้าไปอีก หาทางผลักไสยูคยอมออกไป ไม่รู้ทำไมร่างกายของเขามันช่างปวกเปียกไม่ได้ดั่งใจเอาเสียเลย ไอ้มือจอมทรยศนี่ยวบยาบเป็นบ้า เหมือนกับกระดูกเขาถูกถอดออกจากร่างเลยไม่มีผิด


                แบมแบมยกมือยันหน้าอกยูคยอมให้ออกห่างพร้อมกับที่พยายามเม้มปากไม่ตอบรับความเย้ายวนนี่ไปด้วย เขาทั้งทุบทั้งต่อยแต่ก็ไม่ได้ผล ยูคยอมไม่กระดิก ตั้งหน้าตั้งตาจูบเขาต่อไปจนลมหายใจของแบมแบมเริ่มเหลือน้อยลงทุกที


                บ้าเอ๊ย...หายใจไม่ออกโว้ย!!


                ฮือๆ...ทรมานอ่า สงสารแบมแบมหน่อยเหอะครับ T^T


                พอรู้ว่าต่อให้พยายามยังไงก็ไร้ผล ร่างเล็กเริ่มหยุดขัดขืด ปล่อยให้ยูคยอมต้มยำทำแกงกับตัวเองได้ตามต้องการ ในใจก็สาปแช่งไปต่างๆ นาๆ


                ถ้าผมขาดอากาศหายใจตายนะ...ศพยูคยอมไม่สวยแน่...


                ในที่สุด ยูคยอมถึงค่อยๆ เปิดโอกาสให้แบมแบมได้โกยออกซิเจนเข้าปอดเต็มที่ แบมแบมสูดหายใจฮึกๆ อย่างลืมตาย กว่าจะรู้ตัวว่าระยะห่างไม่กี่เซนนี่มันใกล้จนกลิ่นของยูคยอมติดมากับอากาศนั่นด้วยก็...


                กลิ่นตัวหมอนี่....


    หอมจัง...


                เฮ้ย!! ไม่ใช่ดิ!!


                แบมแบมลุกลี้ลุกลนอีกรอบเมื่อยูคยอมเริ่มขยับมาใกล้อีกรอบ ทางหนีเริ่มหมดลงเรื่อยๆ


                ชิบ....ถ้าผมไม่ป่วยนะ.....


                “อย่านะยูคยอม”เมื่อร่างกายใช้ไม่ได้ ก็ใช้ฝีปากเข้าสู้แทน แบมแบมกดเสียงต่ำขู่ฝ่อ ดูแล้วคล้ายกระต่ายน้อยที่พยายามสู้แม้อีกฝ่ายจะเป็นเสือตัวใหญ่ก็ตาม “ถ้านายทำอีกรอบ ผมฆ่านายแน่”


                “เหรอครับ”ยูคยอมอมยิ้ม มองกระต่ายในอาณัติของตัวเองด้วยแววตาเอ็นดู “งั้นก็ฆ่าเถอะ” ก่อนจะโน้มริมฝีปากลงมาจนมันใกล้มากขึ้น


                มากขึ้น...


                มากขึ้น...


                มาก....ขึ้น...


                แบมแบมหลับตาปี๋ กลั้นหายใจ ภาวนาขอให้ใครสักคนโผล่มา...


                ช่วยผมด้วยเถ้อ....


                แอ๊ด...


                เสียงประตูเปิดออกขัดจังหวะเสี้ยววินาทีสุดท้ายก่อนริมฝีปากพวกเขาจะแตะกัน ยูคยอมละจากการกินเหยื่อเหลือบไปมองด้วยสายตาเฉียบคม แตกต่างจากแบมแบมที่แทบจะกระโดดเต้นลีลาศได้อยู่แล้ว


                “ทำไรวะน่ะ???”


                “แจ็คสัน!!


                พระเจ้า..ถึงจะแกล้งผมอยู่บ่อยๆ แต่ก็ขอบคุณที่ไม่ฆ่าผมให้ตายอนาถแบบนี้...


                ถือว่าเจ๊ากับเมื่อกี้ไปแล้วกันเน๊าะพระเจ้า!!







    _________________________100%____________________________




    ตามพระเอกอีกคนมาและ กริ้วววว (ห๊ะอะไรนะ???)
    หมายถึงพระเอกของเราอ่ะ .. ของเรา -/-

    1 คอมเม้นท์ 1000000 กำลังใจ แล้วพี่จะพามาร์คไปขอนะ อิอิ <3



    Supercell
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×