คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 어머나 3. เขาที่เพิ่งเจอ..และเธอก็ได้กัน
3
เขาที่เพิ่งเจอ..และเธอก็ได้กัน
แบมแบมไม่อยากจะลืมตาขึ้นเลย เอาจริงๆ..
ไม่ใช่เพราะเขาอยากตายหรอกน่า...แบมแบมไม่ใช่คนคิดสั้นแบบนั้น
แต่มันเป็นเพราะ...
“คุณมึงจะมานั่งทำหน้าโง่อยู่ตรงนี้ทำไมวะครับ ญาติก็ไม่ได้เป็น เพื่อนก็ไม่ใช่ มีสิทธิ์อะไรไม่ทราบครับ”
“แล้วนายมีสิทธิ์อะไรมาไล่ผมล่ะครับ คุณมาร์ค”
“ฉันเป็นเจ้าของแบมมี่เว้ย ไอ้หน้ามึนนี่!!”
“แบมแบมไม่ใช่หมาสักหน่อย นายจะมาเป็นเจ้าของได้ไง งั้นไหนล่ะ?? อะไรที่แสดงว่าแบมแบมเป็นคนของนายจริง??”
อา...อยากจะบอกเหลือเกินครับกว่าผมเป็นของตัวกูเอง...ไม่ต้องเถียงกันไป...
ขนาดเขานอนหลับอยู่แบบนี้ เสียงที่มันลอดเข้ามาให้ได้ยินก็วุ่นวายจนทำเอาเขาอยากจะนอนต่อไปแบบนี้เรื่อยๆ ไม่ต้องตื่นมาเจอหน้าเจ้าของเสียงสองเสียงที่กำลังเถียงกันอยู่นี่...อย่างน้อยก็จนกว่าพวกมันจะไสหัวกลับไปสู่ที่ชอบๆ ของตัวเอง
ให้คนป่วยพักผ่อนอย่างสงบสุขไม่ได้หรืออย่างไรขอครับพวกเอ็ง...
หนกขูโว้ยย T^T
“จะสงสัยอะไรนักหนาไม่ทราบวะครับ!!! แค่ฉันอยู่บ้านเดียวกับแบมมี่ก็น่าจะรู้แล้วนี่”
“จริงเหรอครับ”ยูคยอมอมยิ้มเจ้าเล่ห์ “งั้นทำไมถึงปล่อยให้แบมแบมไปนอนอยู่ในห้องสมุดคนเดียวล่ะครับ ดูแลไม่ดีเลยนะ”
“แบมมี่บอกฉันแล้วโว้ย!!”คนขี้โวยวายยังคงแถต่อไป “แบมมี่บอกว่าอยากอยู่คนเดียว ฉันเลยปล่อยให้ไปต่างหากล่ะ ไม่รู้จักความเป็นส่วนตัวหรือไง”
“อ้าวงั้นเหรอ...ผมเห็นแบมแบมดูเบื่อๆ เลยอยู่เป็นเพื่อน....”ยูคยอมลากเสียงยาว สีหน้าตอนนี้แบมแบมพอจะเดาได้ว่ามันน่าจะ... “ผมนอนข้างๆ แบมแบมทั้งวันเลยนะ”
“ไอ้….!!!!!”
“ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย”แบมแบมทนให้ไอ้พวกบ้าทั้งสองตัวนี่ใส่สีตีไข่ให้เขาแลดูเป็นเคะแสนบริสุทธิ์ไม่ไหว ลืมตาค้อนใส่ยูคยอม มาร์คเลิกสนใจคนนอกและรีบปรี่เข้ามาเกาะข้างเตียงแทบจะในทันที
“ต..ตื่นแล้วเหรอแบมมี่”มาร์คดึงมือแบมแบมไปจับ สายตาที่มองร่างเล็กเต็มไปด้วยความเป็นห่วง แลดูแล้วคล้ายๆ กับฉากในละครหลายๆ เรื่อง...
ขนลุกอะเกน !!
“ผมจะนอนหลับได้ไง ไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้มาแหกปากเถียงกันอยู่ข้างๆ หูผมตลอดเวลาแบบนี้”แบมแบมแงะมือหนาออก ค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ทว่าเมื่อแบมแบมขยับตัวปุ๊บ หัวเขาก็ปวดหนึบจนเกือบล้มลงนอนเหมือนเดิม ดีที่มาร์คมาช่วยประคองไว้แล้วจัดท่าทางให้เสร็จสรรพ
ดีครับ...มีประโยชน์ขึ้นมาอีกนิดแล้ว..
“แบมมี่ไล่มันกลับไปหน่อยดิ โคตรเหม็นขี้หน้าเลยว่ะ”มาร์คโน้มหน้าพูดข้างหูคนบนเตียง แต่มันหาใช่การกระซิบไม่ เสียงของเขามันดังจนรู้เลยว่าจงใจให้ยูคยอมได้ยิน แต่ฝ่ายนั้นกลับยังทำหน้านิ่งไม่สะทกสะท้าน
“ผมจะกลับบ้าน”แบมแบมไม่สนใจจะทำตามเลยสักนิด “โทรหาแจ็คให้หน่อย”
“โทรหามันทำไมอ่ะ อยู่กับเค้านี่งาย”มาร์คทำตาปิ๊งๆ แบ๊วใส่ มือเรียวดันหัวแดงๆ ออกห่างตัว แบมแบมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมชอบทำตัวแบบนี้วะ คิดว่าตัวเองจะดูดีมากหรือไง....
มันน่าอายมากต่างหากล่ะจะบอก!! =///^////=
“ผมไม่ชอบโรงพยาบาล พาผมกลับบ้านเหอะ”
“หัวแบมแบมกระแทกพื้นตอนลื่นนะครับ”ยูคยอมที่ยอมยืนเงียบ ปล่อยให้มาร์คได้แสดงความสนิทสนมมานานเอ่ยขึ้น “หมอบอกให้พักที่นี่ก่อนสักวันสองวันจะดีกว่า”
แบมแบมกัดริมฝีปากมองหน้าคนหวังดี ไม่อยากยอมรับคำพูดของเขาสักเท่าไหร่นัก แต่ดูจากสีหน้าจริงจังนั่นแล้วเขาก็เถียงไม่ออก...
ชิ..จำไว้เหอะ เขาจะปล่อยไปก็แค่ตอนนี้นั่นแหละ ถ้ายูคยอมยังมายุ่มย่ามกับเขาไม่เลิกล่ะก็...เขาจะไม่เกรงใจเหมือนกับมาร์คแล้วนะ!!
“แบมมี่ไม่ต้องกลัวนะ คืนนี้เดี๋ยวนอนเป็นเพื่อน ไม่หายไปไหนหรอก”มือหนาของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ลูบหัวเขาอย่างรู้ทัน แบมแบมแอบเบ้ปาก...ไม่ใช่เพราะความหมั่นไส้หรืออะไรหรอก แต่เขากำลัง.....รู้สึกแปลกๆ
มาร์คจำได้ว่าแบมแบมเกลียดโรงพยาบาลมากขนาดไหน
ปีที่แล้วเขาป่วยหนักจนต้องเข้ามานอนที่นี่อยู่เกือบเดือน มันเป็นความทรงจำที่เลวร้ายมากจนเขาไม่อยากจะกลับมาเหยียบสถานที่แห่งนี้อีก และหลังจากนั้นเขาก็คอยดูแลตัวเองดีตลอด เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเข้ามานอนแอ้งแม้งเป็นปลารอขึ้นเขียงอยู่ที่นี่
เพราะงั้นเขาเลยอยากกลับบ้านเร็วๆ
แม้ไอ้มือที่มันกำลังลูบหัวอยู่นี่มันทำให้แบมแบมรู้สึกหายกลัวลงมากโขเลยก็ตาม....
บ้าชิบ...แล้วทำไมเขาต้องรู้สึกตัวร้อนๆ ด้วยครับ...
ไม่นะแบมแบม อย่าเป็นแบบนี้นะ
จำไว้ดิ นายไม่ใช่เกย์นะเว้ยแบมแบม T^T!!!!
“นี่กี่โมงแล้ว”แบมแบมเบนหน้าหนีจากมาร์คที่ยกข้อมือขึ้นมองนาฬิกา แสร้งทำเป็นไม่สนใจเพื่อซ่อนใบหน้าที่ตอนนี้เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันกำลังเจือสีอะไรหรือเปล่า แต่ก็ไม่พ้นสายตาของใครอีกคนที่คอยจับจ้องเขาอยู่ตลอดเวลาอย่างยูคยอมได้อยู่ดี
ถึงแบมแบมจะไม่ได้เป็นแบบนั้นเพราะเขาก็ตาม ยูคยอมก็ยังเห็นว่ามันน่ารักมากอยู่ดี
ยูคยอมไม่ใช่คนที่เกี่ยงเรื่องเพศ แต่เขาก็ไม่เคยคบเพศเดียวกันมาก่อนเลยในชีวิต
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเริ่มรู้สึกอยากลองขึ้นมาจริงจังซะแล้วสิ...
ถึงจะมีหมาเฝ้าบ้านโหดๆ คอยงับก็เหอะ
ยูคยอมบ่หยั่นครับ...แค่ขอให้เขากลับไปเตรียมตัวมาดีๆ ใหม่ก่อน
ไม่ใช่เรื่องยากอะไรนักหรอก J
“สี่ทุ่มแล้วครับ” เขาแทรกจังหวะที่มาร์คกำลังจะอ้าปากตอบพอดี เลยโดนทำร้ายทางสายตาอีกรอบ “ผมขอตัวกลับก่อน พักผ่อนเยอะๆ นะครับ”
“อ่า..อื้อ บาย”แบมแบมพยักหน้าตอบ ใบหน้าหวานฉายแววงุนงงเมื่อคนที่บอกว่าตัวเองจะกลับแล้วเดินเข้ามาใกล้ และยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไร ริมฝีปากอุ่นร้อนก็ประทับลงมาที่ข้างแก้ม ต่อหน้าต่อตาผู้อ้างตนว่าเป็นเจ้าของแบบไม่เกรงใจ ก่อนจะผละออกมาและส่งยิ้มนุ่มนวลให้
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมมาหาใหม่นะครับ :D บายครับมาร์ค ฝากดูแลแบมแบมของผมด้วย”
“ไอ้ยูคยอม!!!!”มาร์คที่ถูกหยามเข้าเต็มๆ ตั้งท่าจะวิ่งตามยูคยอมที่เพิ่งปิดประตูออกไป มือเล็กรีบเอื้อมมาดึงชายเสื้อไว้
“พอเหอะมาร์คผมปวดหัวนะ”
“อ่า...”มาร์คหันกลับมามองเสียงเล็กที่แสดงอาการเหนื่อยออกมาชัดเจนจนเขาต้องยอมอ่อนลง ช่วยจับตัวแบมแบมให้นอนลงบนเตียงสบายๆ “งั้นนอนนะครับเด็กดี”
“อย่าเรียกแบบนั้นดิ จะอ้วก”
“อุ้ต๊ะ!! ท้องแล้วเหรอ*0*”
-_________- !!!!!
“มุกกากๆ อย่าเอามาเล่นได้มั้ยครับ”แบมแบมเบ้ปากใส่ ดึงผ้าห่มขึ้นมาห่อทั้งตัว “ปิดไฟตรงนี้ให้หน่อย ผมจะนอนแล้ว”
ร่างสูงพยักหน้ารับ ลุกขึ้นเดินไปทำตามคำสั่งก่อนจะเดินกลับมานั่งยิ้มแป้นข้างๆ เตียงเหมือนเดิม
“....”
“....”
“....”
“มองหน้าทำไมครับ??”มาร์คถามคนที่บอกว่าจะนอนแต่ก็ยังคงจ้องเขาตาปริบๆ อยู่อย่างนั้นไม่มีทีท่าว่าจะหลับ ใบหน้าเล็กสะบัดดุ๊กดิ๊ก ไม่ยอมพูดออกไปตรงๆ ว่าเขาน่ะกำลัง...
‘กลัวคนตรงหน้านี่แอบหนีหายไป’
แหม่...ก็แบมแบมทำร้ายเขาไว้มากนี่นะ...จะให้มาพูดงี้มันก็....
น่าอายไปหน่อยปะ -//-
แต่ถึงจะไม่พูด คนที่รู้จักนิสัยแบมแบมดีอย่างมาร์คก็รู้ทันได้ง่ายๆ นั่นแหละ..
“ไม่ไปไหนหรอกน่า”
อ....
อย่ามายิ้มแบบนั้นนะ...
ขุ่นพระ ทำไมแบมแบมถึงได้มองว่ารอยยิ้มนั่นมันดูอ่อนโยนแล้วก็เท่มากจน...ใจมัน....
แบมนายเป็นอะไรวะเนี่ย = // [] // =
นี่แทบจะไม่กล้าสู้หน้าเขาแล้วนะโว้ย!!!
“เหอะ นายมันเชื่อไม่ได้หรอก”ก็ทำปากหมาแถใส่ไปตามนิสัย
“งั้นเอามือมานี่”มาร์คคว้ามือเล็กไปกุมไว้ข้างนึง ยืนยันว่าเขาจะนั่งอยู่ตรงนี้จริงๆ “จับไว้แบบนี้นี่แหละ แบมมี่จะได้สบายใจ”
O/////////////O
#*$^@&^$*@*#U)E#@J)Y$*(^#@*HDEWI#@!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ผ้าห่มถูกดึงขึ้นมาคลุมตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่แม้ทิฐิจะสูงขนาดไหนความกลัวมันก็ชนะความกลัวอยู่ดี มือข้างนึงของแบมแบมยังคงจับอยู่กับมือหนาอบอุ่นที่ช่วยคลายความหวาดระแวงให้เขาได้จริงดังคำพูด
โอ้โนวววว...ไม่แบมแบม อย่าคิดไปในทางที่ไม่ดีดิ ก็แค่จับไว้ให้สบายใจ จับไว้มาร์คจะได้หนีไปไหนไม่ได้ไง ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้นหรอกน่า ไม่มีจริงๆ จริงๆ...จริง...
จริง..เหรอ???
อ๊ากกกกกกกกกก แบมแบมจะบ้าตาย T//O//T
แบมแบมพยายามควบคุมสติตัวเองจนเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เขาตื่นขึ้นมาอีกทีก็ตอนที่นาฬิกาบนข้างฝาชี้บอกเวลาตีหนึ่งยี่สิบนาที ผ้าห่มที่แบมแบมคลุมโปงไว้ถูกดึงออกโดยมาร์คหลังจากที่หลับไปได้ไม่นานด้วยเพราะอีกฝ่ายเกรงว่าเขาจะหายใจไม่สะดวก
มือของแบมแบมยังรู้สึกได้ถึงสิ่งที่พันธนาการไว้อยู่
ดวงตาเรียวกะพริบสองสามที เมื่อปรับสายตาให้เข้ากับความมืดมิดในห้องได้แล้ว แบมแบมเหลือบมองข้างๆ เรือนผมสีแดงฟุบใบหน้าเข้ากับแขนอีกข้าง มาร์คทำตามสัญญาโดยการหลับมันไปบนเก้าอี้ข้างเตียง ถึงแม้มันจะทำให้เขาตื่นมาพร้อมกับร่างกายที่ปวดก็ตาม
จู่ๆ แบมแบมก็เกิดรู้สึกใจอ่อนขึ้นมาซะงั้น
.....
อันที่จริงแล้วเตียงของโรงพยาบาลนี่มันก็ใหญ่จนนอนได้สองคนเลยนะ...
เฮ้ย!! แกคิดอะไรวะแบมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม !!!!!!
แต่..มาร์คอุตส่าห์อยู่เป็นเพื่อนเลยนะเว้ย...ก็แค่ให้นอนข้างๆ เฉยๆ จะแปลกอะไร...แล้วนี่มันเพิ่งตีหนึ่ง จะให้ไอ้สูงนี่นอนแบบนี้ต่อไปอีกห้าชั่วโมงก็....
อึก..แบมแกคงเป็นบ้าไปแล้วจริงๆ T^T
แบมแบมเถียงกับตัวเองอยู่ในใจเกือบห้านาที สุดท้ายแล้วเขาก็ตัดสินใจเอื้อมมือสั่นๆ ไปขยับปลุกให้อีกฝ่ายตื่นขึ้น
“มาร์ค...มาร์ค ตื่นก่อนดิ”
“หืม”ใบหน้าหล่อเงยขึ้นมองตามเสียงเรียก เหมือนว่าเขาไม่ได้นอนหลับสนิทเท่าไหร่นัก อาจเป็นเพราะการนอนที่ผิดท่า
ยิ่งทำให้แบมแบมเป็นหนักกว่าเดิมอีกแหนะ...
เลิกทำตัวงี้สักทีเห้อ แบมขอ . _ .
“ไม่เมื่อยเหรอ นอนงั้นอ่ะ”
“อ่า..ไม่เป็นไรหรอก แบมมี่เป็นอะไรหรือเปล่า ปวดหัวเหรอ??”
“เปล่า”แบมแบมส่ายหน้ารัว ริมฝีปากเม้มแน่นเป็นเส้นตรงชั่งใจกับตัวเองอีกรอบ
มาร์คบอกว่าไม่เมื่อยนะเว้ย...ปล่อยมันนอนงี้ต่อไปเหอะ...
เขาก็แค่พูดให้นายสบายใจอ่ะแบม...
แต่มันแบบว่า..
พูดๆ ไปเหอะน่า...
เฮือก...แบมแบมคิดว่าถ้าเขายังเป็นแบบนี้อยู่อีกต่อไปล่ะก็ เขาคงบ้าเข้าจริงๆ เข้าสักวันแน่ๆ
“ขึ้นมานอนกับผมก็ได้”เสียงที่ออกจากลำคอนี่มันอ้อมแอ้ม เบาจนแทบไม่ได้ยินเลย แต่เพราะทั้งห้องนี่มีแค่พวกเขาสองคน มาร์คเลยได้ยินทุกคำชัดเจน “เอ่อ...คือเตียงมันก็ใหญ่...”
“ได้เหรอ”คนถูกถามแอบอมยิ้ม มองใบหน้าเขินๆ ฝ่าความมืด
น่ารักโว้ยยยย!!!!
อดใจไว้ไอ้มาร์ค....อย่าเพิ่งคิดอะไรสั้นๆ นะ..
“ถ้าไม่ได้ผมจะถามทำเตี่ยอะไรล่ะ”บ่นอุบอิบกลบเกลื่อนพลางขยับตัวเว้นที่ว่างให้อีกฝ่าย “จะนอนไม่นอน???”
“แหงอยู่แล้ว”ไม่รอให้แบมแบมได้ทันเปลี่ยนใจ มาร์ครีบพาตัวเองไปนอนข้างกายร่างเล็ก ทันทีที่เขาขึ้นไปอยู่บนเตียง แบมแบมก็รีบพลิกตัวนอนหันหลังใส่
“ผมนอนต่อละ อย่าคิดจะทำอะไรบ้าๆ นะ ไม่งั้นนายโดนถีบตกเตียงแน่”
เป็นคำขู่ที่น่ากลัวจริงๆ เลยครัช...
ทำเสียงให้มันดุกว่านี้สิแบมเอ๊ย...
“รู้แล้วคร้าบ นอนเหอะๆ”
หลังจบคำพูดนั่นของมาร์คแล้ว แบมแบมก็ไม่ได้ตอบอะไรอีก เขาพยายามข่มตานอนอยู่เป็นสิบกว่านาที แต่ระบบประสาทของเขามันพากันตื่นตัวแหกตาเขาให้สว่างโร่ราวกับเขาเพิ่งไปเต้นแอโรบิกมาได้สามสี่รอบ
แล้วจู่ๆ ความอยากรู้อยากเห็นแปลกๆ มันก็ผุดขึ้นในใจเขา
มาร์คนอนยังวะ???
“มาร์ค..นายหลับยัง”
“ยัง แบมมี่ก็นอนไม่หลับเหรอ”
“น่าจะแบบนั้นอ่ะ..ผมไม่ง่วงเลย”
“งั้นถามอะไรหน่อยได้ปะ??”
“อื้อ ถามมาดิ”
“แบมมี่นอนกับยูคยอมจริงๆ เหรอ?”
เป็นคำถามที่...ถ้าเกิดแบมแบมกินน้ำอยู่นี่น้ำคงพุ่งอ่ะครับ
ร่างเล็กพลิกกลับไปหาอีกฝ่ายที่ก็นอนหันมาทางเขาอยู่พอดี ระยะห่างนี่มันพาให้ใจเต้นชะมัด แบมแบมข่มสติ ท่องไว้ในใจว่าอย่าไปคิด...อย่าไปคิด
“ผมไม่รู้ ตื่นมาอีกทีเขาก็นอนอยู่ข้างๆ ผมแล้ว”
แบมแบมไม่พอใจกับการกระทำของยูคยอมเลยพูดจริงๆ นั่นมันฉวยโอกาสชัดๆ แต่ตอนนั้น สิ่งที่คนสติหลุดแบบเขาทำได้ดีที่สุดก็คือการวิ่งหนีมา สาบานเลยว่าหลังจากวันนี้เขาจะต้องหาโอกาสเอาคืนไม่ทางใดก็ทางนึง
“มันทำอะไรมากกว่านอนข้างๆ หรือเปล่า??”
แบมแบมถึงกับต้องหลบสายตาเลยทีเดียว
ผมจะต้องบอกไหมว่าผมถูกผู้ชายแปลกหน้านอนกอด..แล้วยังจูบอีก T___T
“เงียบทำไมอ่ะ”
“เปล่า ไม่ได้ทำ”
“อย่าโกหกดิ”
“เออ ทำก็ทำ”
รู้อยู่แล้วยังจะถามทำแป๊ะอะไร
“อะไรบ้าง”
“เขามานอนกอดผม”แบมแบมกลับไปนอนหันหลังใส่เหมือนเดิม เขาแทบจะกัดลิ้นตัวเองตอนพูดคำนี้ออกมา ตัดสินใจไม่บอกความจริงที่ว่าถูกจูบไป แถมยังเอาลิ้นเข้ามาในปากอีก อี๋ย์ คิดแล้วอยากจะวิ่งไปแปรงฟันจีจีเลอ
“แค่นั้นใช่ไหม??”
“อื้อ แค่นั้นแหละ”
“ไม่ได้โกหกนะ??”
“....”เงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ไม่ได้โกหก”
มือหนาเอื้อมมาดึงร่างเล็กเข้าไปกอดโดยไม่ปล่อยให้ตั้งตัว พอแบมแบมดิ้นหัวของเขาก็ปวดตุ้บจนต้องหยุดขัดขืน
“ขอนอนแบบนี้นะ...ได้มั้ย??”แขนที่พาดอยู่รอบเอวเบาแรงลงราวกับเปิดโอกาสให้แบมแบมได้เลือกว่าจะอยู่ในอ้อมแขนนี้ต่อหรือปลดมันออกไป
ทำไมรู้สึกเหมือนกับคืนนี้แบมแบมต้องตัดสินใจหลายรอบเลยวะครับ!!!
ร่างเล็กนอนนิ่งไม่ขยับ
คือเอาความจริงแล้ว...มันก็อุ่นดีออก . _ . แถมยัง...ทำให้เขาง่วงด้วย
ไม่มีอะไรไปมากกว่านั้นหรอกน่า ที่แบมแบมไม่ได้ยอมด้วย เขาแค่รู้สึกเหนื่อยจนหมดแรง....
เพราะงั้นนอนดีกว่า ไม่ต้องทักแล้วนะ จะนอนแล้ว . _ . คร่อกกกก
ผ่านไปหลังจากนั้นกว่าสิบนาทีถึงได้มีคำตอบดังออกมาจากปากแผ่วๆ
“เออ!”
100 %
เรามาตกลงกันก่อนจะอ่านต่อดีกว่า
เอาแบบนี้นะครับคนอ่าน..
แบมแบมจะถือว่าเมื่อคืนนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แบมแบมไม่ได้ทำอะไรลงไป แบมแบมไม่ได้อ่อย แบมแบมไม่ได้ให้ท่า แบมแบมไม่ได้ใจเต้น แบมแบมไม่ได้เขิน แบมแบมไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น แบมแบมก็แค่นอน...
ดังนั้น..ห้ามพูดถึงมันอีกนะครับ???
แบมแบมขอร้อง....
“แบมมี่..”แต่เสียงกระซิบที่ข้างหูนี่กลับโคตรตอกย้ำความจริงที่ว่าเขากำลังถูกกอดอยู่เลยว่ะ T^T!!
แบมแบมรีบปิดมือที่เกี่ยวเอวอยู่ออก รีบเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง หัวของเขาปวดแปล๊บแต่ก็จำต้องกัดฟันทนไว้ จะให้เสียหน้าความเป็นชายต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ขืนเป็นงี้ต่อไป แบมแบมกลัวว่าเขาจะต้องกลายเป็นหนึ่งในลักธิเข้าข้างหลังแหง่แก๋ เหลือบมองนาฬิกาปุ๊บก็ได้โอกาสไล่คนผมแดงที่นอนมองเขาสบายๆ อยู่ไปไกลๆ
“จะแปดโมงแล้วนะมาร์ค!! ผมว่านายไปเรียนได้แล้วมั้ง!!”ปากว่าแต่ตาก็ไม่ได้สบอีกฝ่ายเลย มาร์คยันตัวนั่งขัดสมาธิข้างๆ เอื้อมมือไปหยิกแก้มนุ่มจนแบมแบมหันมาถลึงตาใส่เขาดุๆ
“กลับบ้านไปอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วน่า แบมมี่ขี้เซา หลับหรือตายทำไมไม่รู้เรื่องอะไรเลย”
“ผมจะฆ่านายให้ตายก่อนนั่นแหละ แล้วยังจะโผล่มาอีกทำไม ไปโรงเรียนซะสิ!!”
“รู้แล้วน่า”พอโดนปัดมือออก มาร์คทำหน้าบู้เซ็งๆ ลงจากเตียงพลางก็บ่นพลาง “ทีเมื่อคืนนี้ล่ะน้า ให้นอนกอดยังไม่เห็นว่าอะไรเลย”
“อะไร!! ใครทำอะไร?!?!?”
“เมื่อคืนนี้ แบมมี่ให้ผม...”
“หยุด!!!..นายพูดอะไรไม่รู้เรื่อง ละเมออะไรมาเหรอมาร์ค ผมจำอะไรไม่เห็นได้เลอ...”
มาร์คอ้าปากค้าง แบมแบมทำหน้ามึนลอยหน้าลอยตาไม่รู้ไม่ชี้ รีบโบกมือเร่งให้อีกฝ่ายไปเร็วๆ
“ไปได้แล้วไป๊ สายแล้ว”
“อ๋อ”แล้วเขาก็เข้าใจถึงปฏิกิริยานี้ของแบมแบม มาร์คกระตุกยิ้มบาง ยอมหมุนตัวเดินออกไปง่ายๆ “งั้นไปละน้า เย็นนี้เจอกันนะครับที่รัก <3”
“ไปตายซะมาร์ค!!”
เอาน่า..เมื่อคืนเขาได้กำไรมาเยอะแล้ว ปล่อยไปสักครั้งจะเป็นไร...
เพราะเดี๋ยวหลังจากนี้แบมมี่ได้เจอศึกหนักแน่
กรั่กๆ...(?)
อนึ่ง..กระผมอยากจะกล่าวไว้ ณ ที่นี่เพื่อให้ทุกท่านโปรดทำใจไว้โดยทั่วกัน
คนเราไม่ควรจะหวังอะไรหรอกครับ...พระเจ้าท่านมักจะชอบทำให้เราผิดหวังเล่น เหมือนจะเป็นเรื่องตลกสำหรับท่านนะที่ทำเงี้ย...
โกรธพระเจ้าจังเลยว่ะครับ
แบมแบมถอนหายใจเฮือกใหญ่เท่าช้าง เขานึกเสียใจที่ตัวเองไม่เดินไปล็อคประตูหลังจากที่มาร์คออกไปแล้วเหลือเกิน ก็คิดไม่ถึงนี่หว่าว่าจะมีตัวปัญหาโผล่มาอีกแบบนี้...
ยูคยอมยืนยิ้มแป้น ในมือหอบถุงที่เต็มไปด้วยของกินจนแทบล้น เจ้าตัวทักทายแบมแบมอย่างกับสนิทกันมาเป็นชาติ แถมยังเอาขนมใส่ในตู้เย็น จัดนู้นนี้ยังกับเป็นผู้ปกครองของแบมแบมอีกแหนะ
“จะแปดโมงครึ่งแล้วนะยูคยอม!! ผมว่านายไปเรียนได้แล้วมั้ง!!”เป็นครั้งที่สองของวันที่แบมแบมพูดประโยคนี้ แตกต่างเพียงแค่ชื่อของบุคคลเท่านั้น
เจ้าของชื่อเก็บขนมของเขาหมดแล้วก็หยิบห่อเล็กๆ ติดมือมายื่นให้ แบมแบมมองข้ามมันไปส่งสายตาขับไล่คนไม่พึงประสงค์ไม่เลิกรา
“กินก่อนเหอะน่า ผมเห็นข้าวหน้าห้องเหลือเต็มเลย”ยูคยอมยัดขนมปังใส่มือแบมแบมจนได้ “นายไม่หิวบ้างหรือไง??”
“เรื่องของผม นายไปเรียนซะเถอะยูคยอม”แบมแบมแทบจะอดใจไม่ไหว เขาอยากจะปาขนมปังใส่หน้าไอ้คนบ้านี่จริงๆ แต่เขาก็ทำเพียงแค่วางมันไว้และมุดตัวเข้าไปอยู่ในผ้าห่มเท่านั้น
เหม็นขี้หน้า ไม่อยากเห็น...
ทำอะไรเขาไว้ตั้งเยอะจนไม่น่าให้อภัยแล้วนะเว้ย ทำไมถึงไม่รู้ตัวบ้างวะ !!!
“ออกมากินเร็ว”
“นายไม่ใช่พ่อผมนะยูคยอม!! เราแทบไม่รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ จะมาสนใจทำไมว่าผมจะกินข้าวหรือไม่กิน”เสียงเล็กเหวทะลุผ้าห่ม ใช้ขาสะกิด เขี่ยให้อีกคนที่นั่งอยู่บนเตียงออกไปจากบริเวณของเขา ก่อนที่จะถูกมือหนาจับไว้ แบมแบมชักสีหน้าอารมณ์เสีย
ขนาดผมยอมเสียมารยาทใช้ขาแล้วนะ ยังจะ...
หน้าด้านสุดๆ เลย
“ไม่รู้จักอะไร เมื่อกี้นายยังเรียกชื่อผมอยู่เลย”อีกมือของยูคยอมเอื้อมมาดึงผ้าห่มที่คลุมตัวแบมแบมออก ร่างใหญ่โน้มลงมาใกล้ในจังหวะที่แบมแบมกำลังลุกขึ้นตามจับผ้าห่มราวกับวางแผนไว้อยู่แล้ว ริมฝีปากเล็กจึงประกบเข้าเต็มๆ กับปากของยูคยอม
อ่า..เริ่มก่อนอีกแล้วนะครับ แบมแบม...
งั้นผมไม่เกรงใจละ J
ยูคยอมเริ่มต้นขยับเริ่มฝีปากจากแผ่วเบาเป็นหนักหน่วง สองมือกดไหล่ร่างเล็กลงบนเตียงตามเดิมโดยที่ตัวเขาเองก็ยังคอยละลาบละล้วงริมฝีปากบางอยู่ไม่ห่าง คลอเคลียด้วยทักษะที่สะสมจากประสบการณ์ผ่านๆ มาของเขา กระนั้นเขาก็พยายามผ่อนผันไม่เข้าไปหยอกล้อในโพรงปากอีกฝ่ายด้วยเพราะตระหนักอยู่ว่าแบมแบมกำลังป่วย...
เล่นมากเดี๋ยวช็อคตาย..อดแดกกันพอดี..
ฝ่ายรับที่เจ็บหัวอยู่แล้วยิ่งปวดหนักเข้าไปอีก หาทางผลักไสยูคยอมออกไป ไม่รู้ทำไมร่างกายของเขามันช่างปวกเปียกไม่ได้ดั่งใจเอาเสียเลย ไอ้มือจอมทรยศนี่ยวบยาบเป็นบ้า เหมือนกับกระดูกเขาถูกถอดออกจากร่างเลยไม่มีผิด
แบมแบมยกมือยันหน้าอกยูคยอมให้ออกห่างพร้อมกับที่พยายามเม้มปากไม่ตอบรับความเย้ายวนนี่ไปด้วย เขาทั้งทุบทั้งต่อยแต่ก็ไม่ได้ผล ยูคยอมไม่กระดิก ตั้งหน้าตั้งตาจูบเขาต่อไปจนลมหายใจของแบมแบมเริ่มเหลือน้อยลงทุกที
บ้าเอ๊ย...หายใจไม่ออกโว้ย!!
ฮือๆ...ทรมานอ่า สงสารแบมแบมหน่อยเหอะครับ T^T
พอรู้ว่าต่อให้พยายามยังไงก็ไร้ผล ร่างเล็กเริ่มหยุดขัดขืด ปล่อยให้ยูคยอมต้มยำทำแกงกับตัวเองได้ตามต้องการ ในใจก็สาปแช่งไปต่างๆ นาๆ
ถ้าผมขาดอากาศหายใจตายนะ...ศพยูคยอมไม่สวยแน่...
ในที่สุด ยูคยอมถึงค่อยๆ เปิดโอกาสให้แบมแบมได้โกยออกซิเจนเข้าปอดเต็มที่ แบมแบมสูดหายใจฮึกๆ อย่างลืมตาย กว่าจะรู้ตัวว่าระยะห่างไม่กี่เซนนี่มันใกล้จนกลิ่นของยูคยอมติดมากับอากาศนั่นด้วยก็...
กลิ่นตัวหมอนี่....
หอมจัง...
เฮ้ย!! ไม่ใช่ดิ!!
แบมแบมลุกลี้ลุกลนอีกรอบเมื่อยูคยอมเริ่มขยับมาใกล้อีกรอบ ทางหนีเริ่มหมดลงเรื่อยๆ
ชิบ....ถ้าผมไม่ป่วยนะ.....
“อย่านะยูคยอม”เมื่อร่างกายใช้ไม่ได้ ก็ใช้ฝีปากเข้าสู้แทน แบมแบมกดเสียงต่ำขู่ฝ่อ ดูแล้วคล้ายกระต่ายน้อยที่พยายามสู้แม้อีกฝ่ายจะเป็นเสือตัวใหญ่ก็ตาม “ถ้านายทำอีกรอบ ผมฆ่านายแน่”
“เหรอครับ”ยูคยอมอมยิ้ม มองกระต่ายในอาณัติของตัวเองด้วยแววตาเอ็นดู “งั้นก็ฆ่าเถอะ” ก่อนจะโน้มริมฝีปากลงมาจนมันใกล้มากขึ้น
มากขึ้น...
มากขึ้น...
มาก....ขึ้น...
แบมแบมหลับตาปี๋ กลั้นหายใจ ภาวนาขอให้ใครสักคนโผล่มา...
ช่วยผมด้วยเถ้อ....
แอ๊ด...
เสียงประตูเปิดออกขัดจังหวะเสี้ยววินาทีสุดท้ายก่อนริมฝีปากพวกเขาจะแตะกัน ยูคยอมละจากการกินเหยื่อเหลือบไปมองด้วยสายตาเฉียบคม แตกต่างจากแบมแบมที่แทบจะกระโดดเต้นลีลาศได้อยู่แล้ว
“ทำไรวะน่ะ???”
“แจ็คสัน!!”
พระเจ้า..ถึงจะแกล้งผมอยู่บ่อยๆ แต่ก็ขอบคุณที่ไม่ฆ่าผมให้ตายอนาถแบบนี้...
ถือว่าเจ๊ากับเมื่อกี้ไปแล้วกันเน๊าะพระเจ้า!!
_________________________100%____________________________
ตามพระเอกอีกคนมาและ กริ้วววว (ห๊ะอะไรนะ???)
หมายถึงพระเอกของเราอ่ะ .. ของเรา -/-
1 คอมเม้นท์ 1000000 กำลังใจ แล้วพี่จะพามาร์คไปขอนะ อิอิ <3
❀ Supercell
ความคิดเห็น