ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Got7]Got 2 Playful {MarkNior,JackJae,BamYug}

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 5 : ชอบเขาก็ไปหา

    • อัปเดตล่าสุด 12 ม.ค. 59




    ตอนที่ 5 : ชอบเขาก็ไปหา






    ที่ร้านมองบลังค์แอนด์เอแคล์ หน้ามหาวิทยาลัย JYP นั้นเต็มไปด้วยขนมหวาน นับร้อยนับพันรายการ หลากหลายชนิด รูปร่าง หน้าตา สีสัน สวยงามน่าอร่อย ส่งกลิ่นหอมหวานเชิญชวนให้ลิ้มลอง ถูกจัดวางเรียงตามชั้น และตู้โชว์อย่างกับดินแดนขนมหวานในเทพนิยาย  แถมมีพนักงานสุดหล่อมาคอยแนะนำเมนูขนมหวานที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละวันอย่างกับคุณภูติขนมหวานที่มีรอยยิ้มสดใส และดวงตาเป็นประกาย คอยต้อนรับอยู่เสมอ

     


    เหล่าสาวๆสาวกขนมอร่อย และแฟนคลับพนักงานหนุ่มน้อยต่างกรูกันมาตั้งแต่เปิดร้าน 8โมงเช้าจนแน่นขนัดทุกวัน  และวันนี้ก็มีลูกค้าเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดีเพิ่มมาอีกคน

     


    แบมแบมเดินไปรอบๆร้าน พร้อมเก็บอาการน้ำลายไหลสุดชีวิตไว้สักพัก ก่อนจะเดินคอตกกลับออกมา  ไม่ใช่ว่าเพราะเขาท้อที่ต้องต่อคิวเพื่อคุยกับพนักงานหนุ่มน้อยร่างโย่งคนนั้นที่เค้าอยากพบอย่างเดียว หากแต่ยังมีความท้อแท้ที่เกิดจาก ราคาขนมในร้านที่ฐานะอย่างเขาไม่มีปัญญาจะซื้อมารับประทาน  ขนมปัง 1 ชิ้นที่ถูกที่สุดในร้านราคา 1800 วอน ก็ประมาณ 60 บาท สามารถกินข้าวในมหาวิทยาลัยได้ 2 มื้อทีเดียว  หนุ่มน้อยต้องกลืนน้ำลายเอื้อกต่อสู้กับความยั่วยวน และกลิ่นแป้ง นม เนย ช๊อกโกแลท ที่หอมกระชากวิญญาณ เดินกลับออกมา แต่ก็ยังดีที่ได้เห็นรอยยิ้มที่อยากจะเห็นทุกวันๆ

     


    เก่งจังน๊า  ต้องมายืนยิ้มทุกวันต่อหน้าลูกค้ามากหน้าหลายตา เสียงดังโหวกเหวก เอาแต่ใจ โดยไม่มีท่าทางหงุดหงิด  หรือเหนื่อยหน่ายเลยสักนิด  แต่ก็ชักเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงพวกนั้นขึ้นมาบ้างหล่ะนะ ถ้ารอยยิ้มแสนสวย และสดใสนั่นจะหันมาทางเขาบ้างคงจะดีไม่น้อย

     


    นี่ก็จะเข้า 2 อาทิตย์แล้วที่แบมแบมแวะมาดูยูคยอมหลังจากฝึกวิ่งทุกเช้า  เขาเข้ามาในร้านแต่ไม่ได้ซื้ออะไรกลับออกไป เหมือนจะมีความสุขที่ได้เห็นรอยยิ้มนั่นแต่ก็ทรมานไม่น้อยเหมือนกันที่ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้  แบมแบมไม่กล้าแม้แต่จะเรียกชื่อยูคยอม เพราะเขาดูยุ่งมากกับงานบริการแนะนำเมนู และขายขนมทุกเช้า

     


    และวันนี้ก็เหมือนทุกที แบมแบมมาด้อมๆมองๆหน้าร้านขนมที่ยูคยอมทำงานอยู่แต่ไม่เห็นสิ่งที่เขาอยากเห็น  วันนี้พนักงานแนะนำขนมหวานกลับเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มแทน

     


    ทำไมทำหน้าผิดหวังอย่างนั้นหล่ะหนุ่มน้อย ขนมร้านนี้ไม่อร่อยเหรอ?” ชายวัยกลางคนในชุดพ่อครัวใส่ผ้าพันคอสีน้ำเงินติดดาว ท่าทางใจดีกล่าวถามแบมแบมที่กำลังเดินคอตกหน้าตาผิดหวังจนออกนอกหน้า

     


    อ๊ะ ?!! ปล่าวครับ  ผมว่าขนมที่นี่น่าจะอร่อยทุกอย่าง ถ้าดูจากหน้าตา และกลิ่นของมัน แบมแบมตอบอย่างสุภาพ

     


    แล้วนายว่าขนมอันไหนอร่อยที่สุดในร้านหล่ะ?”คุณเชฟใจดีถามต่อ

     


    “…เอ่อ..ขอโทษครับ จริงๆแล้วผมยังไม่เคยทานขนมในร้านนี้เลยสักอย่าง... แบมแบมเกาคอเขินๆก่อนจะตอบตามความจริง

     


    เชฟใหญ่หัวเราะขำกับท่าทางเขินของหนุ่มน้อย  นี่คงมาตามดูสาวๆคนไหนของร้านแน่ๆสินะ

     


    อะไรกัน ไม่เคยอุดหนุนขนมในร้านเลยเหรอ  อดทนเก่งนะเนี่ย  ขนมในนี้ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิง เด็กๆ หรือผู้ใหญ่ต่างก็ชื่นชอบขายดีทุกเมนูเลยนะ เชฟใหญ่ทำตาโต เสียงดังขึ้นมาด้วยท่าทีแปลกใจ

     


    แบมแบมก้มหน้าเก้อเขินสุดชีวิต ก่อนจะพูดสิ่งที่เขาคิดว่าน่าอายออกมาอย่างตรงไปตรงมา

     


    “...ผมก็อยากทานทุกสิ่งอย่างที่วางโชว์อยู่ในร้านนี้เหมือนกันครับ แต่ว่า.....ผม....ผม.....ผม ไม่มีเงินแบมแบมกำมือขยำชายเสื้อ แล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตาเชฟใหญ่ด้วยใบหน้าแดงน้ำตาคลอ แถมยังมีน้ำลายยืดไหลซึมออกมาจากมุมปาก  จนเชฟใหญ่ต้องหัวเราะตัวงอกับภาพที่เห็น

     


    ค่อยยังชั่วหน่อย  นึกว่าขนมร้านเราจะขายไม่ออกซะแล้ว  ถ้านายมีเงินแล้ว นายจะมาซื้อขนมที่ร้านนี้ไหมหล่ะ?”

     


    แน่นอนที่สุดครับ แบมแบมตอบเสียงดังฟังชัด แล้วก็ไม่วายมองไปรอบๆร้านเพื่อมองหาใครบางคน

     


    นายไม่สนใจมาทำงานพิเศษเหรอ  ถ้ามาทำงานที่นี่จะได้กินขนมอร่อยๆทุกวันด้วยนะ?!” เชฟใหญ่ยกมือปาดน้ำตาจากการหัวเราะมาวางบนไหล่สองข้างของแบมแบม แล้วก้มหน้าลงมายื่นข้อเสนอทำงานพิเศษให้  ซึ่งปรกติมีคนแย่งกันสมัครมาทำงานพิเศษที่นี่แทบเหยียบกันตาย จนต้องมีการสอบคัดเลือกคนที่เข้ามา ทั้งปฏิบัติ สัมภาษณ์ และคัดบุคลิก หน้าตา อีกด้วย ซึ่งการบอกตัวต่อตัวแบบนี้ เป็นกรณีพิเศษมากๆ

     


    สนใจมากครับ แต่ผมเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย JYP ปี 1 แล้วก็เป็นนักกีฬาบาสเกตบอลของมหาวิทยาลัย ไม่ค่อยมีเวลาว่างเท่าไหร่อ่ะครับ

     


    ห๊ะ !!?? นี่นายอยู่มหาวิทยาลัยแล้วเหรอ  ไม่น่าเชื่อ นึกว่าเด็ก มอ.ต้น หน้าเด็กกว่าหลานชายของฉันอีก ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้านั่น เพิ่งอยู่ ปวช. ปี 1 เอง  อืม..... ฉันถูกใจนายนะ ลองบอกเวลาที่นายพอจะมาทำได้ดูสิ?”

     


    ผมซ้อมเสร็จ ไม่แน่นอน บางทีก็ 4 ทุ่ม ถ้าช่วงแข่งก็อาจจะซ้อมถึงเที่ยงคืน แล้วก็ ต้องตื่นมาวิ่งตั้งแต่ 6โมงเช้า ซัก 7 โมงกว่า ก็อาบน้ำ แต่งตัว ทานอาหารเช้าแล้วเข้าเรียน เลิกเรียน 4 โมงเย็น วันไหนมี แล๊ป ก็อาจจะค่ำ แล้วซ้อมบาสต่อ จนถึง 4 ทุ่ม เป็นแบบนี้ทุกวัน  มีเวลาแค่นี้อ่ะครับ ชีวิตผม แบมแบมทำตาละห้อย เมื่อพูดถึงกิจวัตรประจำวันของเขา

     


    โห... ไม่เบาจริงๆด้วย  เอางี้ได้ไหมหล่ะ นายมาทำงานซักช่วง ตี 4 ถึง 7โมงเช้า แล้วค่อยไป ซ้อมวิ่ง ทำงานวันละ 3 ชั่วโมง งานร้านขนมหน่ะ จะยุ่งช่วงก่อนเปิดร้านเป็นพิเศษ หาคนยากด้วย มาทำเถอะ ให้ค่าแรง 2 เท่าแล้วก็มีเลี้ยงอาหารเช้าด้วยนะ  พอจะขยับตารางเวลาได้ไหม?”

     


    (โหววว มีเลี้ยงข้าวฟรี 1 มื้อแถมจะได้เจอยูคยอมทุกวันด้วย แบมแบมรีบตกลงอย่างไม่ลังเล)

     


    ตกลงครับ แต่ถ้าช่วงแข่ง หรือ สอบ ผมอาจจะมาไม่ได้จริงๆ  ไม่ทราบว่า....ยังจะรับผมไหม?” แบมแบมยิ้มหน้าบาน ตอนตอบรับทำงาน แม้จะไม่มั่นใจว่า เชฟใหญ่จะอนุโลมช่วงสอบให้ไหม แต่แค่ติดว่าจะได้เข้าใกล้ยูคยอมขึ้นอีกก้าว หัวใจก็พองโต ดีใจจนหน้าอกแทบระเบิด



    ไม่เป็นไรหรอก ถ้ามีช่วงเวลาแบบนั้นก็มาบอกกันล่วงหน้าก่อนได้ เชฟใหญ่ยิ้ม แล้วลูปศีรษะแบมแบมอย่างเอ็นดู ก่อนจะให้แบมแบมไปคุยกับหัวหน้าพนักงานต้อนรับเพื่อกรอกข้อมูล  เซนต์เอกสาร และนัดหมายวันมาฝึกงาน ก่อนเข้าทำงานจริง



    .
    .
    .
    .

     

    ย้อนกลับไปเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน หลังจากที่แบมแบม และยูคยอมได้เจอกันครั้งแรก

     


    มาร์คฮยองงงงง  แบมมีเรื่องจะขอร้อง แบมแบมในชุดเสื้อยืด กางเกงสแล๊ค ถอดเสื้อช็อป ออกใส่ไม้แขวน ไว้ใส่ต่อวันอื่น เรียก มาร์ค เสียงอ่อนเสียงหวาน ด้วยจุดประสงค์บางอย่าง  ถึงแม้ มาร์ค แบมแบม และแจ๊กสันจะอยู่ปี 1 เหมือนกัน แต่มาร์ค และแจ๊กสันก็มีอายุมากกว่า แบมแบม เวลาแบมแบมจะขอร้องอะไรสองคนนี้  แล้วใส่คำว่าฮยอง ซึ่งแปลว่าพี่ชายต่อท้ายด้วยละก็  คนภายนอกที่ได้ยินอาจจะรู้สึกว่ามันน่ารัก  แต่สำหรับมาร์คและแจ๊กสัน เมื่อได้ยินคำนี้ ต่างต้องขนลุก สยองกันทุกที

     


    มีไร !?” มาร์คถอดแว่นตาสำหรับอ่านหนังสือออกมาเหน็บไว้ที่คอเสื้อ ก่อนจะมองไปทางแบมแบมที่ คลานเข่าเข้ามาเกาะแขนเขาที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่

     


    ขอยืมตังค์.......... แบมแบมปั้นหน้าออดอ้อนสุดชีวิต  ถ้าเป็นเรื่องไม่เหลือบ่ากว่าแรง มาร์คมักจะให้ความช่วยเหลือแบมแบมเสมอ  แต่พอได้ยินเรื่องนี้ ท่าทีของมาร์คก็......

     


    ตุ๊บ!! โอ้ยยยยยมาร์คฮยองอ๊าแบมแบมโวยวาย พร้อมกับรีบเอามือปิดศีรษะ เพราะมาร์คทะลึ่งลุกพรวด ทำให้แบมแบมที่อิงตัวอยู่ล้มลงกับพื้น แถมยังเอาหนังสือที่เขาอ่านค้างอยู่ขว้างใส่น้องอีก

     


    ถือว่าฉันไม่ได้ยินก็แล้วกันนะ ...นายก็รู้นี่ ว่าฉันยังเป็นหนี้เขาอีกตั้ง 5 ล้านวอน มาร์คทำแก้มพอง ถอนหายใจยืนอยู่สักพัก ก่อนจะขยับตัวหยิบแว่นมาใส่ พร้อมกลับก้มหยิบหนังสือที่ปาใส่แบมแบมมากาง นั่งอ่านต่อ

     


    แบมแบมนอนก้มหน้าไม่ยอมลุกอยู่สักพัก จนมาร์คต้องไปลูบศีรษะง้อ

     


    แบมแบมจะเอาตังค์ไปทำอะไร?”

     


    ผม แค่ อยากกิน(เด็ก) เอ๊ยกินเค๊ก อ่ะ  ผมได้ยินมาว่าหน้ามหาลัยมีร้านขนมหวาน ชื่อมองบลังแอนด์เอแคล์ ทำเค๊กอร่อยมาก...แค่นั้นเองแบมแบมทำเสียงอู้อี้เหมือนเด็กน้อย  หน้าก็แดงแปลกๆอีกต่างหาก

     


    มันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่ๆ ถ้ายอมบอกดีๆจะช่วยนะ มาร์คยิ้มเจ้าเล่ห์โชว์เขี้ยวให้แบมแบม จนแบมแบมรู้สึกจนมุม  (ฉลาดเป็นบ้า  สมกับที่เรียนหมอเลย งือออ  -...- แบมแบมคิด)

     


    แบมแบมตัดสินใจพลิกตัวขึ้นมานั่ง แล้วเอามือกุมกันไว้ระดับ อก แล้วเงยหน้ามองเพดานด้วยแววตาเลื่อนลอยเคลิบเคลิ้ม

     


    ก็ แบม ไปเจอเด็กร้านขนมนั่นแหละ เขาช่วยผมตอนที่โดน เจบีฮยองทำโทษจนเป็นลม แล้วบังเอิญ เอ่อออ  บังเอิญจริงๆนะ >< ผมได้กลิ่นขนมจากตัวของเขา แล้วเผลอไปหอมแก้ม  ง้อวววววววว เขิลลลล ถ้าแก้ม จะนุ่มมมมมมม หอมมมมมมม นิ่มมมมมมม ขนาดนั้น  มันคืออะไร  ผมไม่สามารถลืมสัมผัส และกลิ่นนั้นได้  ไม่ว่าจะยามหลับ หรือยามตื่น  ฮือออออ ผมแบบ...เหมือนจะขาดใจเลย  มาร์คฮยอง ตรวจให้หน่อย แบมจะตายไหมอ่ะ!!?” แบมแบมทำท่าอย่างกับคนเมากาว เดี๋ยวยิ้มแก้มแตก เดี๋ยวขมวดขิ้วนิ่วหน้า




    เว่อร์สลัด  วางถุงกาวในมือลงก่อนนะแบมแจ๊กสัน เดินเข้ามาทันตอนแบมแบมกำลังเพ้อพอดี จึงคอมเม้นตัดอารมณ์จนแบมแบมหันไปมองตาขวาง ในขณะที่มาร์คได้แต่หัวเราะเสียงดัง

     


    ชอบเขาก็ไปหา  อยากได้มาก็ออกแรงสิครัช!!” แจ๊กสันให้คำแนะนำแบบแมนๆกับน้อง จึงเป็นที่มาให้แบมแบมไป ด้อมๆมองๆที่ร้านขนมของยูคยอมจนได้ทำงานพาร์ททาม ในที่สุด

     

    .
    .
    .
    .

     

    ช่วงนี้มาร์คดูเครียดจังเลยนะ  มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือปล่าวครับ?” จูเนียร์วางกล้อง Nikon D4S ที่ถือถ่ายภาพมาร์ค ทุกอิริยาบถตั้งแต่ หัวค่ำ ลงข้างตัว วันนี้เขากดชัตเตอร์ไปจนเมมโมรี่ การ์ด 128 G เต็มไม่ต่ำกว่า 2 อันแล้ว แค่มองมาร์คผ่าน View finder (ช่องมองภาพของกล้อง) ก็ไม่สามารถละสายตา ไปไหนได้ ใบหน้าของมาร์ค ดูหล่อ คม ผิวเนียนสวย ดูดี มีเสน่ห์  จมูกโด่ง โค้งเป็นเคริฟได้รูป ริมฝีปากบาง มีฟันขาวเรียงเป็นแนวพร้อมเขี้ยวสวย มีพลังดึงดูดสายตา ยิ่งมองยิ่งหลงใหล เขาอยากจะบันทึกภาพของมาร์คไว้ให้ได้มากที่สุด เผื่อว่าวันหนึ่ง....

     


    มาร์ค อึกอัก อ้ำอึ้ง ก่อนจะถอนหายใจ แล้วอ่านหนังสือต่อ.... งานใช้หนี้ของมาร์คก็แค่มาใช้เวลาอยู่ที่คอนโดของจูเนียร์  โดยที่อยากจะทำอะไรก็ได้ อ่านหนังสือ ทำรายงาน นั่งดูทีวี หรือนอนหลับ ให้จูเนียร์ได้ถ่ายภาพเฉยๆ ค่อยๆหักหนี้ไปเรื่อยๆ มันก็ไม่ได้ลำบากอะไร แถมสบายมากๆอีกด้วย เพราะที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมทุกอย่าง ทั้งเครื่องปรับอากาศ เวลาร้อน ฮีตเตอร์เวลาหนาว ห้องน้ำแสนสะอาด กว้างขวาง มีเครื่องซักผ้า รีดผ้าให้ บางทีมาร์คก็เอาเสื้อผ้ามาซักที่นี่  แต่ของจูเนียร์ไม่ได้ทำเอง เขาจะมีแม่บ้านมาทำงานบ้านให้แบบไปกลับ ตอนกลางวัน บางทีถ้าวันไหนมาร์คมาไวก็จะได้ทานข้าวเย็นกับจูเนียร์ ถ้าซ้อมค่ำมากแล้วมาดึก ก็จะมีของว่างเตรียมไว้ให้  และเหนือสิ่งอื่นใด ที่นี่ยังมีจูเนียร์มาวนเวียน คลอเคลียอยู่ใกล้ๆ บางที บางวันพวกเขาก็แทบจะไม่ได้พูดคุยอะไรกันสักคำเลย  วันที่มาร์คเหนื่อยมาก ก็จะนอนหลับไป จูเนียร์ก็จะถ่ายรูปไปเงียบๆไม่มารบกวนอะไร  แต่บรรยากาศที่รู้ว่ามีใครสักคนอยู่ใกล้ๆ กำลังสนใจเราอยู่มันก็ทำให้รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก  แม้ไม่รู้ว่าจูเนียร์มาสนใจเขาทำไม และที่มาสนใจหน่ะ สนใจแบบไหนก็ตาม  บางทีมาร์คก็อยากให้เวลาหยุดอยู่ตรงนี้ตลอดไป แต่เขาก็ต้องกลับบ้านไปอยู่กับพวกแบมแบม ใช้ชีวิตปรกติ ไม่ให้ติดความสบาย  เพราะมันไม่ใช่ที่ของเขา  มาร์คบอกตัวเองให้พยายามขยันตั้งใจเรียน เผื่อวันหนึ่งจะสามารถสร้างฐานะได้อย่างนี้บ้าง ให้เหมาะสมกับคนคนนี้ แต่เขาไม่มีวันพูดมันออกไปหรอกนะ จนกว่าวันนั้นจะมาถึง.......

     


    จูเนียร์ก็ไม่ได้เซ้าซี้ต่อเมื่อเห็นมาร์คปิดปากเงียบ  เขาเดินไปหยิบแม๊คบุ๊คเพื่อมาโหลดภาพจากกล้องที่เพิ่งถ่ายใส่ลงไป จูเนียร์ค่อยๆย่อร่างซุกตัวกอดเข่าแอบเอาหลังพิงมาร์คที่อ่านหนังสืออยู่บนพรมหน้าทีวี  ระหว่างที่รอโหลดไฟล์ก็เข้าไปเช็คข่าวทั่วไปจากเว็ปไซท์ของมหาวิทยาลัย  แล้วก็ต้องสะดุดตากับแบนเนอร์ข่าวใหญ่เด่นอันหนึ่ง



    "ข่าวประกวด ดาว-เดือน มหาวิทยาลัยประจำปี 2015 ตัวแทนคณะแพทย์ศาสตร์  มาร์ค อี เอิ้น ต้วน!!??" จูเนียร์ค่อยๆอ่านรายละเอียดทุกตัวอักษรด้วยดวงตาที่เบิ่งโต อย่างช้าๆ พออ่านจบก็ได้แต่ยู่ปาก พองแก้ม ด้วยความรู้สึกหลายอย่างปนเปกัน  ทั้งตกใจ ประหลาดใจ สนใจ หงุดหงิดใจ จูเนียร์เองก็เคยได้ตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัยเมื่อปีที่แล้ว เขารู้ดีว่าชีวิตหลังจากนั้นมันเป็นอย่างไร จะยุ่งยากแค่ไหน ต้องทำอะไรทั้งที่ชอบและไม่ชอบ และฝืนใจอะไรบ้าง มันไม่ใช่เรื่องสนุก สวยงามไปเสียทั้งหมดกับตำแหน่งนี้  และที่สำคัญ เขารู้สึกหวงมาร์คขึ้นมาเฉยๆ ไม่อยากให้ใครเห็นมาร์คแบบที่เขาเห็น  แต่พวกเขาก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน  จะไปห้ามไม่ให้มาร์คลงประกวดก็ไม่มีสิทธิ์  จูเนียร์ได้แต่กระสับกระส่าย ขยับตัวไปมา จนมาร์ครู้สึกถึงความผิดปรกติจึงละจาก textbook ภาษาอังกฤษเล่มหนาที่กำลังอ่าน หันไปมอง

     


    และเหมือนจะใจตรงกัน ทั้งสองคนที่ตอนแรกนั่งหันหลังอิงกัน บังเอิญเอี้ยวตัวจะหันหากันในด้านที่หน้าประจันหน้ากันพอดี เป็นจังหวะพร้อมกัน โดยไม่มีใครคาดคิด ริมฝีปากของพวกเขาสัมผัสกันนิดหนึ่ง ก่อนที่ทั้งสองจะรีบหันหน้ากลับไปด้านของตัวเองอย่างรวดเร็ว



    "นะ..นะ...เนียร์  พะ...พูดก่อนสิ" มาร์ค พูดแทบจะติดอ่าง เขาเอามือปิดปากตัวเองพร้อมเงยหน้ามองเพดานห้อง ใบหน้ารู้สึกร้อนผ่าว หน้าแดงหัวใจเต้นเร็ว และแรงมาก พูดขึ้นก่อน

     


    จูเนียร์ ก้มหน้า ซุกกับเข่าตัวเอง เอามือกุมหน้าอกที่รู้สึกหวิวไหวใจเต้นระทึก... เขาทิ้งระยะให้ความเงียบเข้ามาบรรเทาความตื่นเต้นก่อนที่จะเปิดปากพูด

     


    "มาร์คไปสมัครประกวดเดือนมหาวิทยาลัยปีนี้เหรอครับ?" จูเนียร์พูดเสียงเบาๆ พอให้ได้ยิน น้ำเสียงดูตัดพ้อไม่มั่นใจ

     


    "มะ ไม่ได้สมัครเองนะ ถูกเสนอชื่อไปต่างหาก  ตอนแรกว่าจะสละสิทธิ์เหมือนกัน ไม่ค่อยมีเวลาว่างทำกิจกรรมอะไรพวกนี้หรอก แต่เห็นว่ามีเงินรางวัลด้วย ก็เลย เลยตามเลยหน่ะ มาร์คอยากได้เงินด้วย เผื่อฟลุ๊กชนะ" มาร์คตอบด้วยเสียงทุ้มตะกุกตะกัก ทำให้จูเนียร์เชื่อว่าเป็นเรื่องจริงก็เบาใจไปนิดหนึ่งหล่ะนะ

     


    "หืม..... รางวัล 100,000 วอน มันนิดเดียวเองนะ ไม่คุ้มค่าความลำบากหลังจากนั้นหรอก" จูเนียร์เริ่มอารมณ์ดีเมื่อเห็นมาร์คทำท่าทางประหม่าเวลาพูดเรื่องนี้

     


    "ก็....นะ...สำหรับเนียร์ อาจจะดูไม่เยอะ แต่คงพอซื้อเค๊กสักก้อน ให้แบมแบมแหละ"


     

    "หืม แบมแบมไหน? แฟนมาร์คเหรอ?" จูเนียร์เริ่มเปลี่ยนท่า หันมาโอบมาร์คแล้วเอาคางเกยไหล่มาร์คจากด้านหลัง


     

    "ไม่ใช่นะ มาร์คยังไม่มีแฟนสักหน่อย  แบมแบมเป็นรุ่นน้องชมรมบาสที่อยู่บ้านเดียวกันกับมาร์คไง  พวกเราเป็นนักศึกษาต่างชาติยากจนที่ต้องพึ่งทุนการศึกษา ไม่มีเงินมากมายกันหรอกนะ เลยต้องทำแบบนี้"


     

    "ทำไม มาร์คไม่ยืมผมหล่ะ  ขาดเหลืออะไรก็บอกได้นี่นา ผมยินดีนะ อยากได้เท่าไหร่ว่ามาเลย" จูเนียร์เอาคางที่เกยอยู่ถูไหล่มาร์คไปมาจน มาร์คจักกะจี้


     

    "ไม่เอาหรอก  แค่หนี้ที่มีตอนนี้ก็ท่วมหัว ใช้ไม่หวาดไม่ไหวแล้ว" มาร์คยังคงนั่งนิ่งเก็บอาการ ไม่ตอบโต้การนัวเนียของจูเนียร์


     

    "งั้นทำงานพิเศษกับผมเพิ่มสิ  เดี๋ยวผมจะจ่ายค่าแรงเรทพิเศษให้เลย" จูเนียร์เห็นว่าการก่อกวนมาร์คไม่ได้ผล หนุ่มหล่อยังคงอ่านหนังสือไปคุยไปไม่มองมาทางเขาจึงผล่ะตัวออกลุกไปจับกล้องต่อ


     

    "งานอะไรเหรอ?" มาร์คเริ่มมีปฏิกิริยาหันไปทางจูเนียร์ที่ลุกขึ้น



    "นายแบบภาพศิลปะ ....... นู๊ดดหน่ะ แบบถอดหมด   คิก คิก.." จูเนียร์พูดจบก็รีบเอาหน้าตัวเองหลบหลังกล้อง เพราะรู้ว่าตัวเองต้องหน้าแดงมาก  ก่อนจะกดชัตเตอร์ถ่ายรูปมาร์คต่อ


     

    มาร์คหน้าแดงแปรดดยิ่งกว่า  ก่อนจะพ่นลมเข้าปากจนแก้มพอง ยู่จมูก ก่อนจะแยกเขี้ยวใส่จูเนียร์อย่างหล่อ น่ารัก


     

    "บ้า ทะลึ่ง ลามก!!." มาร์คบ่นงุงิ รีบเก็บข้าวของกลับบ้านดีกว่าเพราะรู้สึกชีวิตจะไม่ปลอดภัย


     

    จูเนียร์ก็ไม่ได้ห้าม เขาเดินมาส่งมาร์คพร้อมกับทิ้งท้ายว่า


     

    "ผมเอาจริงนะ ผิวมาร์คดูดี รูปร่างก็สมส่วน มีกล้ามเนื้อสวย ไม่ได้คิดลามกอะไรสักหน่อย  งานนี้ให้ชั่วโมงละ 10,000 วอนเลย  ทำ 10 ชั่วโมงก็เท่ากับรางวัลเดือนมหาลัยที่มีกิจกรรมสุดน่าเบื่อให้ทำต่อตลอดทั้งปีการศึกษานะ  ถ้ามาร์คเปลี่ยนใจก็ติดต่อมาได้เสมอครับ" จูเนียร์ยิ้มสวย จนมาร์คเกือบใจอ่อนเดินกลับไปหา แต่ว่า ถ่ายนู๊ดเนี่ยนะ "ฝันไปเถอะเจ้าบ้า" มาร์ครีบปิดประตูออกจากห้องไป แต่ก็ยังได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักไล่หลัง ตามมาไกลๆให้หัวใจเต้นแรงจนกลับถึงบ้าน

     

    .
    .
    .
    .
    .

    การเข้าถึงตัวยูคยอมไม่ใช่เรื่องง่าย แบมแบมรู้สึกเหมือนถูกสาป ทั้งๆที่ก่อนเข้ามาทำงานพาร์ททามที่นี่จะได้เห็นยูคยอมออกมาช่วยงานรับลูกค้า ขายขนมทุกวัน ก่อนที่ยูคยอมจะไปเรียนที่วิทยาลัยตอนเช้า และหลังจากที่เขากลับมาจากเรียนเสมอ แบมแบมอุส่าห์วางแผนจะใช่เวลาช่วงนี้ตีสนิทยูคยอมให้ได้ แตต่แล้วความหวังก็ล้มเหลว  เพราะหลังจากนั้นยูคยอมก็ได้เลื่อนขั้นเป็นพ่อครัวฝึกหัดเต็มตัวต้องไปช่วยงานในครัวแทน หน้าร้านจึงใช้พนักงานคนอื่นมาได้สักพักแล้ว


     

    งานร้านขนมหวาน เบื้องหลังไม่ได้สบาย สวยงาม เหมือนขนมที่วางอยู่บนชั้นเบื้องหน้า  พวกขนมอบสีเหลืองทองสวย ต้องใช้เวลาหมักแป้งโดอยู่หลายชั่วโมง ขนมบางอย่างก็ต้องถนุถนอม ใส่ตู้ เก็บควบคุมอุณหภูมิ กำหนดเวลาพัก ดูแลทั้งก่อนจะนำไปอบ ขณะกำลังอบ และหลังจากอบให้เหมาะสม เที่ยงตรง เพราะมีผลต่อหน้าตาภายนอก และรสชาติภายใน  ขนมปังอบที่สุก สดใหม่ หอมกรุ่น อุ่นๆ จากเตานั้นอร่อยกว่าขนมที่ถูกแพคใส่ถุงตามร้านทั่วไปเป็นร้อยเท่า  ใครที่เคยลิ้มลองแล้วจะกลับไปกินขนมร้านอื่นไม่อร่อยเลยทีเดียว  เค๊กสวยๆนั่นก็เหมือนกัน กว่าจะมาวางโชว์ในตู้เก็บอุณหภูมิบนชั้นสวย ให้ลูกค้าได้เลือกซื้อก็ผ่านขั้นตอนมาไม่น้อย  ตั้งแต่การผสมแป้งเค๊กที่เป็นผงเข้ากับเนยและไข่ ใช้เวลาปั่นตีกว่าจะเป็นเนื้อเนียน เทใส่พิมพ์ อบจนสุกแล้วนำมาแต่งหน้าทั้งแบบ ออริจินอลของร้าน หรือ make by order ทำตามสั่งที่ลูกค้าต้องการ ก็ต้องใช้เวลาพิถีพิถัน แม้แต่ขนมปังไส้กรอกชิ้นเล็กๆก็ยังต้องใช้เวลาทำหลายชั่วโมง แต่เวลารับประทานเข้าไป ใช้เวลาเคี้ยวไม่ถึง 10 วินาทีก่อนกลืน  แบมแบมเริ่มเห็นคุณค่าของขนมมากขึ้นตั้งแต่มาทำงานที่นี่




    หน้าที่ของแบมแบมนั้นก็ลำบากกว่าที่เค้าคิดไว้มาก ในช่วงเร่งด่วน ตี 4 ถึง 7โมงเช้าก่อนร้านเปิด แบมแบมทำหน้าที่เป็นเด็กวิ่งซื้อของไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบ หรืออุปกรณ์ที่ขาดเหลือ ไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน มาเตรียมให้พร้อม แต่ไม่ว่าจะมีการวางแผนอย่างไร มันก็มีเหตุฉุกเฉินให้ต้องวิ่งหาของ แก้ปัญหาใหม่ๆแทบทุกเช้า  ยิ่งวัตถุดิบบางอย่างบางทีเกิดหมดสต๊อก หรือ บางอย่างก็ต้องใช้ของสดใหม่ ต้องหาซื้อจากตลาดสดกับพ่อค้าที่ทำ คอนแท๊ก จองไว้ วันต่อวัน เช่นพวกผลไม้สดแต่งหน้า และทำไส้ขนม ทางร้านจะพิถีพิถันมาก บางทีก็ต้องไปตบตีแย่งชิงกับร้านอาหาร หรือพ่อครัวจากโรงแรมอื่นที่มาแย่งชิงของดีๆ เหมือนกัน นั่นก็ยังไม่ท้าทายเท่าคำสั่ง หรือชื่อวัตถุดิบบางอย่างก็เป็นศัพท์เทคนิคเฉพาะที่คนนอกวงการทำขนมอย่างแบมแบมไม่รู้จัก ไม่เข้าใจ ซื้อไปถูกบ้างผิดบ้าง แบมแบมก็ต้องอาศัยการเรียนรู้เอาตัวรอด และขวนขวายตามหาทุกสิ่งอย่างให้ได้ตามออเดอร์ก่อนเปิดร้าน  งานแบบนี้ก็สนุกดีแต่บางวันก็เหนื่อยเอาเรื่องจนแทบไม่มีแรงไปจ๊อกกิ้งตอนเช้าต่อแล้ว




    แม้ไม่ได้เจอยูคยอมสมความตั้งใจ แต่สิ่งที่ยังรั้งแบมแบมไว้ให้ทำงานต่อก็คือ อาหารเช้าฟรีแสนอิ่มอร่อย และช๊อกโกแล๊ตกล้วยหอมปั่นที่ให้ใส่แก้วกลับไปกินต่อที่บ้านได้ ทุกเช้า มันอร่อยมากและหา รสชาติ แบบนี้ที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ตอนนี้แบมแบมเลยฟินกับเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ไปก่อนหล่ะนะ

     

    .
    .
    .
    .
    .

     

    "ไม่ไปทักแบมแบมหน่อยหล่ะ?" อยู่ๆปาติซิเยร์ หัวหน้าพ่อครัวแผนกขนมอบก็โผล่หน้ามาทักทายหลานชายตัวสูงแก้มใส ที่กำลังแอบมองใครบางคนผ่านกระจกขุ่นด้านในห้องครัวออกไปยังห้องวัตถุดิบด้านนอกอยู่


     

    "อ๊ะ!!" ยูคยอมในชุดพ่อครัวฝึกหัดสีขาว ตกใจจนถุงกล้วยหอมที่ถืออยู่ในมือหล่น  เขารีบกุลีกุจอเก็บก่อนจะหันไปกระโดดๆ ซอยขา   กระทืบเท้า และสะบัดศีรษะไปมา หน้าแดง งุงงิ้งใส่คุณอา ด้วยท่าทีพิรุษ ทั้งตลกและน่ารัก


     

    "เอ๊า  นายให้อาชวนเขามาทำงานบอกว่าเป็นเพื่อน อาก็ช่วยแล้ว  แบมแบมก็ทำงานดีนะ ทำไมนายไม่เข้าไปคุยกับเขาบ้างหล่ะ?  เหมือนเขาจะมองหาใครสักคนในร้านอยู่ทุกวัน  ถึงแบมแบมจะอัธยาศัยดี แต่ในนี้มีแต่คนอายุมากกว่า พวกนายน่าจะรุ่นใกล้ๆกัน คุยๆกัน สนิทกันหน่อยก็ได้มั้ง" เชพใหญ่แซวหลานชาย ผู้ร่าเริง แต่ขี้อาย ถึงยูคยอมจะเข้ากับคนง่าย แต่ตั้งแต่มาอยู่โซล เด็กคนนี้ก็ไม่มีเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันเลย บางทียูคยอมก็น่าจะได้เล่น ผ่อนคลายทำอะไรสมวัยบ้างไม่ใช่คลุกอยู่แต่ในร้าน กับในครัว


     

    " ก็...ก็ ผมไม่รู้จะพูดอะไร ยังไง   ผมเขิลอ๊า!!!:" ยูคยอมเผลอบิดตัวม้วนต้วน ฟาดฝ่ามือยักษ์ใส่คุณอาจนไหล่แทบทรุด  แต่พอรู้สึกตัวก็รีบก้มศีรษะขอโทษเป็นการใหญ่


     

    "เขินบ้าอะไร  ผู้ชายเหมือนกัน!!" เชพใหญ่ดีดหน้าผากหลานชายอย่างเอ็นดูก่อนจะเดินไปดูงานด้านอื่นต่อ


     

    "จะไม่ให้เขิล และระวังตัวได้ไง ก็ผมหน่ะเคยโดนแบมแบม หอมแก้มนี่นา" ยูคยอมแอบบ่นเบาๆหลังคุณอาเดินลับตาไป จากนั้นเขาก็เปิดถุงกล้วยหอมที่อุ้มอยู่ขึ้นมาสำรวจว่ามีรอยช้ำเสียหายตรงไหนไหม อย่างถนุถนอม เพราะเขาต้องเอาเจ้านี่ไปทำช๊อกโกแล๊ตกล้วยหอมปั่น ให้แบมแบมทานทุกวันตอนเช้า เพราะดูเหมือนแบมแบมจะชอบเครื่องดื่มสูตรนี้มากไงหล่ะครับ  อิ  อิ.








    .......................


    สวัสดีค่ะ ไรท์เอง ขอโทษที่หายไปนานหลายเพลา เรื่องนี้ไม่ดรอปน๊า ยังมาแต่งต่อค่ะ ขอบคุณที่มาเม้นให้น๊า

    จากนี้ เค้าจะมาต่อให้ไวและบ่อยขึ้น      โปรดติดตามกันต่อไปด้วยนะคะ 




    © themy  butter
    T
    H
    E
    M
    Y
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×