ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Got7]Got 2 Survive {BNior,JackJae,MarkBam}

    ลำดับตอนที่ #33 : ตอนที่ 31 : 31th Bullets 100% แล้วมาอ่านกัล

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.33K
      20
      29 พ.ย. 57




    ตอนที่ 31 : 31th Bullets  - Leader Game - (ต่อ 2)

     

     

    ไม่ใช่ว่าเขามีความมั่นใจว่าจะทำสำเร็จมาจากไหน  แต่ถ้าเปลี่ยนมุมมองจากเรื่องที่ยากมาก

    แทบจะเป็นไปไม่ได้  ให้เป็นความสนุกท้าทาย  ก็จะมีกำลังใจในการปฏิบัติจัดการมากขึ้น






     

    แค่ยืดเหยียดแขนให้สุด  แผลที่เย็บไว้ก็ตึงปวดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง  แต่แจบอมก็ยัง

    ดันทุรังลองจับดาบหวดลมดู






     

    "แผลมันจะแตก แยกออกมาไหมเนี่ย  ไส้จะทะลักออกมาไหมว๊า!!??"  แจบอมจินตนาการถึง

    แผลที่เพิ่งโดนเย็บไปไม่นาน  ตอนนี้ฤทธิ์ของยาแก้ปวด มอร์ฟีนที่ได้รับเริ่มหมดลง  ทำให้

    บาดแผลเริ่มปวด ตุบ ตุบ ขึ้นเป็นลำดับ






     

    แค่ยืนให้ร่างกายตั้งหลังตรงก็ว่ายากแล้ว  แต่เขาก็พยายามกัดฟันฝืน แบบค่อยเป็นค่อยไป ช้า

    ช้า ไม่รีบเร่ง ทีละนิด ละ นิด จนเมื่อยืดตัวตรงได้สำเร็จ ก็ค่อยๆ จับดาบยกขึ้นมาให้ถูกท่า

    เหมือนกับที่เห็นชิโนบุ เก็นซุยแสดงให้ดู .....จุดนี้ก็โอเค  นาทีนี้พอทนไหวให้ผ่านไปได้...






     

    จากนั้นแจบอมก็ค่อยๆเปิดวงสวิง ง้างดาบ  อันนี้นอกจากจะใช้ข้อมือ กล้ามเนื้อแขนและไหล่

    แล้ว กล้ามเนื้อหน้าอก  กล้ามเนื้อหน้าท้อง และกล้ามเนื้อหลัง ก็บิดตามไปด้วย  หึ หึ... แม้แต่

    ชายอกสามศอกอย่างเขายังต้องน้ำตาแตกกับความเจ็บปวดจากแผลที่ถูกดาบแทงทะลุทั้งสอง

    ด้านหน้าหลังนั่น







    แต่ในโชคร้ายยังมีโชคดี  ในวิกฤติยังมีโอกาส  เคล็ดลับของการควบคุมวงสวิง เอ๊ยของการ

    ควบคุมวิถีของถาบก็คือ การกำหนดการทำงานของกล้ามเนื้อลำตัวทีละมัด  ดังนั้นนอกจากข้อ

    มือ กล้ามเนื้อท่อนแขน และไหล่แล้ว กล้ามเนื้อลำตัวทั้งด้านหน้า และด้านหลังก็มีส่วนในการ

    สนับสนุน ความแม่นยำ รุนแรงในการฟาดฟัน ลงดาบแต่ละครั้ง
    และเพราะมีแผลทั้งสองด้าน

    แบบนั้น ทำให้แจบอม รู้ตำแหน่งท่าที่จะทำให้แผลเจ็บมากขึ้น หรือการเกร็งหดกล้ามเนื้อตรง

    ไหนที่จะทำให้เจ็บแผลน้อยลง( แต่บังคับได้แต่กล้ามเนื้อลาย ภายนอกนะคะ กล้ามเนื้อเรียบ

    ภายใน ยังประท้วง ทารุณส่งสัญญานความเจ็บปวดให้เจ้าของต่อไปไม่หยุด)







    และการเพ่งสมาธิ ควบคุมกล้ามเนื้อทีละส่วนให้ประสานสอดคล้อง ยืด หด ตามจังหวะจึงมี

    ความสำคัญมากที่สุด  สำหรับร่างกายนักฆ่าที่ฝึกมาอย่างดี  สามารถบังคับการเคลื่อนไหวของ

    กล้ามเนื้อในร่างได้ทุกส่วนระดับแจบอม  เมื่อเข้าใจเคล็ดลับแล้วก็เหลือแค่การฝึกฝน ให้ สปีด

    และเพาเวอร์ (ความรวดเร็ว  และพลังที่รุนแรง) ก้าวหน้าขึ้นเท่านั้น






     

    (ก่อนหน้านี้ แจบอมก็มีพื้นฐานชำนาญอาวุธแทบจะทุกอย่างอยู่แล้ว ตั้งแต่ปืนทุกรูปแบบ อาวุธ

    ระยะประชิดแทบทุกชนิดรวมถึงการต่อสู้ด้วยมือป่าว พรสวรรค์ในการต่อสู้ของเขานั้น เข้าขั้น

    อัจฉริยะ รวมกับการมีความขยัน หมั่นซ้อม และฝึกฝน อยู่เป็นประจำสม่ำเสมอ ความฉลาด มี

    ไหวพริบดีเหนือคนทั่วไป การเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ด้วยดาบซามูไร จึงไม่ยากเกินความเข้าใจ

    ของเขา)







    แม้การฝึกนี้จะนำความเจ็บปวดเกินจะทนมาให้ แต่แจบอมก็ตัดสินใจไม่รับการฉีดยามอร์ฟีนแก้

    ปวดเพิ่มอีก  เพราะฤทธิ์ของยาจะไปควบคุมสมองส่วนกลางให้รับรู้ความเจ็บปวดลดลง การ

    ควบคุมร่างกาย และสมาธิ ก็จะถูกบดบัง ทำให้ระบบประสาทตอบสนอง ทำงาน คลาดเคลื่อน

    ลางเลือน จากที่ต้องการไปด้วย






     

    แรกๆของการฝึกฟันลม  ความถี่ในการสับดาบ แต่ละรอบนี่น่าจะเป็น 2-3 นาทีต่อ 1 ครั้ง ได้  มัน

    ช้าจนฝุ่นจับดาบได้ทีเดียว แต่นี้ก็ดีที่สุดแล้วที่แจบอมสามารถทำได้ในการฝึกชั่วโมงแรก (ใน

    ขณะที่ เก็นซุย ฟันได้ มากกว่า 20 ครั้งใน 1 นาที) จากนั้น เขาจึงทดลองฟันท่อนฟางที่หุ้มเสา

    ไม้ดูบ้าง






     

    ตอนดูชิโนบุ เก็นซุยแสดงให้ดู มันเหมือนง่ายมาก เสาฟางพวกนี้ดูนิ่ม ขาดเป็นท่อนง่ายๆ ไม่

    ต่างจากหยวกกล้วย ทำให้เขาประเมินพลาด






     

    หลังจากลงดาบด้วยความมั่นใจ นอกจากแจบอมจะฟันท่อนฟางที่หุ้มเสาไม่ขาดแล้ว แรงเหวียง

    ดาบยังต้านกลับ จนตัวบิด  ฮื่มมมมม แน่นอนว่าแผลสะเทือน จนปวดร้าว สะท้านเข้าไปถึง

    เครื่องใน ตับ ไต ลำไส้ กะเพาะ ขึ้นสมองจึ๊ดได้อีก







    หรือดาบเอฟุตาชิของเขาจะไม่คมเท่า มุรามาสะของชิโนบุ เก็นซุย แจบอมจึงมองหาอะไรสัก

    อย่างมาทดสอบความคมของมัน






     

    สายลมเย็นของยามเช้าอันสดชื่น พัดหอบเอากลีบดอกซากุระ มาวูบหนึ่งผ่าน สนามซ้อม ที่

    แจบอมกำลังฝึกอยู่  เจ้ากลีบดอกไม้สีชมพูสวย แยกออกเป็นสองส่วน อย่างนิ่มนวล ทันที เมื่อ

    เคลื่อนตัว ลอยปลิว ผ่านคมดาบของเขา  เป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ดาบนั้นคมขนาดไหน 

    สิ่งที่จะผิดไปก็คงเป็นฝีมือของเขาเอง






     

    "ถ้าอะไรมันง่ายไปซะหมด ก็ไม่สนุกสินะ"  แจบอมยิ้มให้ตัวเอง  และเพราะทัศนะคติแบบนี้ 

    ทำให้เขาต่างจากคนทั่วไป งานยากๆ ที่ไม่มีใครกล้า หรือแม้แต่คิดจะทำ  งานใดใดที่ทุกคน

    ล้วนถอดใจ จึงสำเร็จมาหลายครั้งแล้วเพราะมีเขา

     




    .

    .

    .


     

    "พอแล้ว  ผมขอหยุดการต่อสู้  ตอนนี้" เคน เก็นซุยเป็นคน ประกาศขอพักการแข่งขันออกมา

    เสียงดังลั่น








    หลังจากหยุดไปฝึกกับ เก็นซุย แต่ละคนได้ 2 วัน ของ 3 หนุ่ม ถ้วย ขวด แก้ว  แล้วการกลับมา

    ประลองกันในวันที่ 3 นี้ เรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น






     

    เจ้าแก้ว (แบมแบม) ที่ดู ฟอร์มดีที่สุดในวันแรก กลับเคลื่อนไหวได้แย่ลง  จนพลาดท่าให้คนที่

    อ่อนที่สุดในการใช้ดาบอย่าง เจ้าขวด(ยองแจ)แทงดาบสวนใส่จนเสียหลัก เกือบโดนเจ้า

    ถ้วย(ยูคยอม)ตามมาซ้ำถึงชีวิตได้  จนเคน เก็นซุย ทนดูไม่ไหวต้องเข้ามาขอหยุด การต่อสู้ ลง

    กลางครันบ้าง






     

    "ขอพัก อีกสองวันแล้วกัน ดูเหมือน ไอ้เด็กแก้ว(แบมแบม)นี่มันไม่ค่อยสบาย" เคน เก็นซุย อ้าง

    เหตุผลในการขอหยุดต่อสู้ข้างๆคูๆ  เพื่อให้โอกาสเจ้าแก้ว (แบมแบม) แก้ตัวใหม่  เพราะเท่าที่

    ผ่านมา 2 วันตอนซ้อมเจ้าแก้ว(แบมแบม)มันก็ทำได้ดีไม่มีที่ติ แต่ทำไมพอสู้จริง กลับผิดพลาด

    ง่ายๆ  ถ้าเขาต้องมาแพ้เดิมพัน เพราะเจ้าแก้ว(แบมแบม)ไม่ได้แสดงความสามารถเต็มที่กับการ

    แข่งแบบนี้  เขาก็ทำใจยอมรับผลไม่ได้เหมือนกัน







     

    คนที่ถอนหายใจโล่งอกไปด้วยก็คือ มิซากิ เก็นซุย เพราะแม้ว่าวันนี้เจ้าขวด(ยองแจ) จะเหมือน

    ได้เปรียบ แต่จริงๆแล้วไม่ได้เป็นแบบนั้น  เจ้าขวดไม่รู้หว่าหัวทึบ หรือไม่มีพรสวรรค์ด้านนี้  สอน

    อะไรไปก็ทำได้ไม่ดี แต่ก็ขยันฝึกซ้อมอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่จึงยังพอให้อภัย  แค่ฟลุกโจมตี

    เจ้าแก้ว(แบมแบม)ได้  แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะคว่ำเอาเจ้าถ้วย(ยูคยอม) ลงได้อยู่ดี
      เจ้าขวด

    เหมือนคนมีอะไรในใจ  ถ้าแก้ไขตรงนี้ได้ผลของการต่อสู้คงจะออกมาดีกว่านี้







    ทาคุยะ เก็นซุย ที่เห็นคู่แข่งตลอดกาลทั้งสองของตัวเองมีท่าทีแปลกไป  ก็หันไปมองหน้าเจ้า

    ถ้วย(ยูคยอม)เหมือนกัน  ตอนนี้พวกเขา เก็นซุยทั้ง 3 ให้ความสนใจในการสอนเด็กๆ
    GOT7

    มากกว่าเรื่องศักดิ์ศรี การแข่งขันชิงดีชิงเด่นของพวกตนเองที่มีมานานเสียอีก หรือว่าจะเริ่ม

    ผูกพัน และหลงเสน่ห์ความใสซื่อของเด็กๆกันเข้าซะแล้ว






    .

    .

    .
     


    "ซู่ๆๆๆ ซ่าๆๆๆ" เสียงน้ำไหลจากฝักบัวขนาดใหญ่เกือบ 15 นิ้ว ถูกเปิดจนสุดความแรงดังก้องใน

    มุมหนึ่งของห้องเทรนนิ่ง







    ห้องอาบน้ำที่นี่เป็นกระจกใส สร้างกั้นส่วนที่เปียกน้ำ ออกจากบริเวณอื่น แต่เพราะน้ำที่เปิดออก

    มาเป็นน้ำอุ่น เกือบร้อน ไอน้ำจึงจับกระจกจนเป็นฝ้า  ทำให้คนที่แอบส่องทางกล้องวงจรปิดเห็น

    อะไรได้ไม่ชัดเท่าไหร่นัก







    ในเช้าของวันที่ 3 นี้  แจ๊กสัน นั่งเหยียดขายาว เอาแขนเท้าไปด้านหลังอยู่บนพื้นห้องอาบน้ำ ใน

    ขณะที่มาร์ค กำลังเงยหน้า รับน้ำจากฝักบัวชำระร่างของเขาอยู่ โดยที่ ใช้มือข้างเดียว







    คราบเลือดจากนักล่าเงินรางวัลที่พวกเขาจัดการไปเกือบร้อยในรอบสองวัน และคราบดินทราย

    จากระเบิดที่สรกปรกหมักหมม ถูกชะล้างออกมาจนหมด สร้างความสดชื่นให้มาร์คขึ้นมาได้

    มาก  ในขณะที่แจ๊กสันลุกยืนไม่ได้ เพราะพลาดโดนระเบิดจนเนื้อที่เข่าแหว่งไป ต้องนั่งอาบน้ำ

    เอา







    ตอนนี้นอกจากข้อมือข้างหนึ่งที่โดนล่ามไว้ด้วยกันแล้ว ข้อเท้าอีกข้างก็ยังโดนพันธนาการติด

    กันไว้ด้วย และหลังจากอาบน้ำเสร็จวันนี้ก็จะต้องโดนปิดตาคนละข้างอีก







    ตามร่างกายและแขนขาของมาร์คเองก็มีแผลไม่น้อย ทั้งริ้วใหญ่ ริ้วเล็ก บางแผลก็ยาวเป็น 10

    เซนติเมตร  เวลาโดนน้ำนี่ก็ แสบได้ใจ  แต่ก็ยังโชคดีที่เขาไม่มีแผลใหญ่แบบแจ๊กสัน







    มาร์คส่งสบู่ และแชมพูให้แจ๊กสันได้ตรงความต้องการทีละอย่างโดยไม่ต้องพูดกัน ปิดน้ำ และ

    ส่งผ้าเช็ดตัวให้ถูกจังหวะราวกับเคยทำแบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว







    ทั้งสองนุ่งผ้าเช็ดตัวออกจากห้องน้ำ เพื่อไปแต่งตัวยังล๊อกเกอร์ใกล้ๆ แต่อยู่ดีๆแจ๊กสันก็พูดขึ้น

    ว่า...







    "ถ้านักล่าเงินรางวัลโผล่มาตอนนี้จะทำยังไงวะ" ในสภาพที่พวกเขากำลังนุ่งผ้าเช็ดตัว โชว์ซิก

    แพค และผิวที่ขาวแน่นกันอยู่







    มาร์คหันมายิ้มโชว์เขี้ยว อย่างเสแสร้งสุดๆพร้อมกับเส้นเลือดที่ขมับปูดออกมา นิดหน่อย







    "ปากเสียละ   จะพูดทำไม..." เพราะไม่ทันขาดคำ ประตูที่อยู่ไกลไปประมาณ 50 เมตรก็เปิด

    ออก พร้อมเสียงฝีเท้า และเงาคนกำลังเดินเข้ามา







    "นั่นไง วันนี้ยังไม่ทันได้ทำแผลเลย  แผลใหม่ก็กำลังจะมาละ" มาร์คถอนหายใจพร้อมกับกระชับ

    มีดพกคู่กายแน่น  ส่วนแจ๊กสัน ก็เอามีดปักโต๊ะเพื่อใช้เป็นหลักในการโหนพยุงตัวขึ้นยืนเนียนๆ

    เพราะไม่ต้องการแสดงให้ศัตรูเห็นว่าเสียเปรียบ บาดเจ็บอยู่ และไม่พร้อมต่อสู้







    "เก็นซุยหญิงสองคนนั่นต้องโรคจิตแน่นอน รอให้แต่งตัวใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนไม่ได้หรือไง

    นะ
    " แจ๊กสันบ่นงึมงำ







    "โอ๊ะ หรือว่า นายอายเหรอ!!?" มาร์คหัวเราะคิก ให้กับท่าทางของแจ๊กสันที่ตีหน้านิ่ง แต่ใบหู

    กับหลังนี่แดงขึ้นสี







    "อ่าว ไม่ยักรู้ว่าแฟนแบมเป็นพวกชอบโชว์" แจ๊กสันทำเป็นค้อนเหวี่ยงใส่มาร์ค จนหนุ่มหล่อ

    ที่สุดของ
    GOT7 หัวเราะเสียงดัง  ขำถูกใจมากจน แทบขาดอากาศหายใจ







    "เออ หว่ะ คิดถึงแบมเว้ย  ป่านนี้คงร้องไห้ขี้มูกโป่งอีกแล้วมั้ง  ยัยสองป้านั่นขังพวกเราไว้กี่วัน

    แล้วเนี่ย
    !!??" ถึงจะพูดแบบของขึ้นอย่างนั้น มาร์คก็ยังแอบเหล่กระจก ที่ติดกับตู้ล๊อกเกอร์ เช็ค

    ความหล่อ และเสยผมให้ดูดีอยู่ได้  เผื่อเจอแบมตอนไหนจะได้หล่อพร้อมเสมอ







    "......." แจ๊กสันเสียอีกที่รอบนี้ต้องมองมาร์คแบบหวาดระแวง  กับพฤติกรรมที่ไร้สาระจนคิดว่า

    คาดเดาไปก็คงไม่เกิดประโยชน์อะไร  มาร์คฮยองนี่ช่าง.... บ้าบอตัวจริงเหอะ







    ในความต่าง มีความเหมือน  ทฤษฎีฆ่าคน ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด เสียแรง และเวลาน้อยที่สุด

    โดยไม่ต้องเสียเวลาใช้สมองประมวลผล อยู่ใน สัญชาตญาณที่ถูกปลูกฝังมาอยู่แล้ว  หากแต่

    เวลาปฏิบัติย่อมถูกปรับเปลี่ยนไปตามความถนัด เหมาะสมของแต่ละคน







    ในสถานการณ์เดียวกัน การตัดสินใจของคนแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับภูมิหลังและ

    ประสบการณ์ชีวิตของเขา แต่สองวันมานี่ มาร์ค และแจ๊กสันได้เรียนรู้นิสัย และการตัดสินใจของ

    กันและกันมากขึ้น  ทำให้รู้จักคิดเผื่อกันและกัน รู้จักวางแผน คำนวณเหตุการณ์หลายชั้น เป็น

    ขั้นเป็นตอนมากขึ้น  ในการฝึกนี้พวกเขาไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนสไตล์ของตนเอง แค่ปรับ และดึง

    เอาความสามารถของกันและกันมาใช้ประโยชน์ ก็ทุ่นแรง และเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้ขึ้น

    เยอะมาก







    ผลของการฝึกนั้น ไม่ใช่ 1+1 จะ เท่ากับ 2 แต่การร่วมมือกันทำให้ 1+1 ของพวกเขาเป็น

    มากกว่า 10 นั่นคือเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดต่อไปในอีกไม่นานนี้



    .......................





     

    ...และเช้าของวันที่ 4 ก็มาถึง





     

    ช่วงเวลาตี 4  เช้านี้ท้องฟ้ายังคงมืดอยู่ และอากาศก็ค่อนข้างเย็น  ชิโนบุ เก็นซุย จึงสวม ฮาโอริ

    เป็นเสื้อนอกสำหรับคลุมทับกิโมโนอีกที ก่อนจะออกมา เดินยืดเส้นยืดสายตามปรกติ






     

    เก็นซุย นึกไปถึงช่วงเวลาที่เขาเคยฝึกการใช้ดาบในสมัยก่อน  ต้องตื่นก่อนและนอนที่หลังใคร

    ใครเพื่อให้ได้มีเวลาในการฝึกมากที่สุด และกว่าจะสำเร็จก้าวหน้าตามที่หวังไว้ก็ใช้เวลาหลาย

    ปี  จนมาถึงทุกวันนี้ ก็มีเรื่องราวต่างๆเกิดขึ้นมากมาย  คงถึงเวลาต้องวางมือจากวงการนักฆ่า

    แล้วคิดเรื่องผู้สืบทอดจริงๆจังๆสักทีแล้วมั้ง
      เหตุเพราะมีคนที่เข้าตามาปรากฏตัวแล้ว






     

    เก็นซุย อมยิ้มน้อยๆ เมื่อ เห็นมีเงาคนอยู่ในสนามซ้อมฟันดาบ ที่เรียงรายไปด้วยเสาไม้หุ้มฟาง

    ที่ตอนนี้จำนวนเสาลดลงไปเยอะ
    อย่างเห็นได้ชัด







    "เจ้าเด็กหัวแข็ง อิม แจบอม ยังอยู่อีกเหรอเนี่ย ตื่นเช้ามาฝึก หรือยังไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อวาน

    กัน
    " เก็นซุย ย่องเบาแฝงตัวไปในความมืด เพื่อสังเกตการณ์ความก้าวหน้าในการฝึกของแจบอม






     

    ถึงการฟันดาบด้วยเทคนิคที่เขาเคยแสดงให้แจบอมดูนั้นยากในการทำตาม และยิ่งยากที่จะทำ

    สำเร็จได้ในเวลาอันสั้น  แต่เขาก็แอบหวังว่าจะได้เห็นอะไรดีๆ






    การฟังลงหนึ่งดาบ ได้ไม้ 4 ท่อน ไม่นับตัวเสาที่เหลือเป็นฐาน  แปลว่าต้องตวัดดาบอย่างน้อย

    4 ครั้ง ด้วยความเร็วที่สูงมากจนมองแทบไม่ทัน และแจบอมก็ทำมันเกือบสำเร็จแล้ว






     

    หลังจากฝึกหนักแบบไม่พัก ไม่หลับ ไม่นอน จนเกือบครบ 24 ชั่วโมงพอดีนั้น  เขาสามารถตวัด

    ดาบได้เฉียบคม รวดเร็ว ฟันเสาฟางหุ้มไม้ ได้อย่างสบายๆ มากขึ้น  แล้วบางจังหวะยังสามารถ

    ทำให้คมดาบหายไปจากสายตา และทำให้เสาฟางขาดได้ 2-3 ท่อนจากการฟันครั้งเดียวได้ ดูก็

    รู้ว่าโอกาสฝึกสำเร็จนั้นสูงมาก  กว่าชิโนบุ เก็นซุย จะฝึกได้ขั้นนี้ในสมัยก่อนนั้นต้องยังต้องใช้

    เวลานานกว่านี้มาก  ความก้าวหน้าของแจบอมนั้นจึงเป็นอะไรที่ อัศจรรย์ใจสำหรับเขามาก แต่

    แค่เก่งก็ยังไม่เพียงพอที่จะเป็นผู้สืบทอดหรอกนะ ยังต้องดูกันอีกหลายอย่าง







    เก็นซุยพอใจในผลการฝึกแล้ว จึงเผยตัวออกไปทักทายแจบอม ด้วยการชักดาบเข้าโจมตีจาก

    ด้านหลัง โดยไม่ทันให้เขาได้ตั้งตัว







    ร่างกายของแจบอมล้าไปมาก จากการหักโหมฝึกฟันดาบต่อเนื่องไม่ได้พักทั้งวันทั้งคืน  ทำให้

    ไม่สามารถหลบการโจมตีแบบปัจจุบันทันด่วนนั้นได้  แต่นับว่าชิโนบุ เก็นซุยยังปรานี ใช้แค่สัน

    ดาบ ไม่ใช่คมดาบเข้าโจมตี แจบอมจึงแค่มีรอยแดงเข้ากลางหลัง กับล้มลงในท่าคุกเข่าเพราะ

    แรงฟันที่โถมเข้าใส่เท่านั้น







    "แหมะ อิม แจบอม  ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ นายตายเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วเนี่ย?!!" ชิโนบุเก็นซุย กล่าว

    กับแจบอมด้วยเสียงดูเป็นผู้ใหญ่ใจดี มีเมตตา







    "เซนเซย์  สนุกมากไหมครับ  ระวังผมจะเอาคืนนะ" แจบอมใช้ปลายดาบปักลงพื้น เพื่อใช้ยันตัว

    ขึ้นยืน ด้วยใบหน้าฝืนยิ้ม







    "ทำอะไรก็ให้มันพอดีสิ  มัวหักโหม ฝึกฟันดาบ จนเปิดช่องว่างขนาดนี้ ก็ไม่ไหวนะ  ตายก่อนฝึก

    สำเร็จจะมีประโยชน์อะไร
    " เก็นซุย พูดเตือน สติทำให้แจบอมคิดได้







    "อ่า  ใช่ครับ ขอบคุณเซนเซย์ที่เมตตาช่วยสั่งสอน" แจบอม โค้ง 90 องศาให้เก็นซุย อย่าง

    จริงใจ







    "สมมุติว่าถ้าให้เลือกไปพบสมาชิกทีมได้ตอนนี้  นายอยากจะไปพบใครก่อน?" ชิโนบุ เก็นซุย

    พูดทีเล่นทีจริง แต่ก็ทำให้แจบอมรู้สึกมีหวังขึ้นมา







    "ผมอยากเจอ แบมแบม คนแรกครับ" แจบอมตอบอย่างไม่ลังเล จนชิโนบุ เก็นซุยแปลกใจในคำ

    ตอบ







    "ไม่ใช่ ปาร์ค จินยองหรอกเหรอที่นายอยากเจอคนแรกหน่ะ" เก็นซุย เอ่ยชื่อที่ แค่ได้ยิน หัวใจ

    แจบอมก็กระตุกวูบ  แต่ในสถานการณ์แบบนี้ ความเป็นลีดเดอร์มันค้ำคอ ความรับผิดชอบต่อทีม

    ต้องมาก่อน  เพราะจินยองอยู่ในที่ที่น่าจะปลอดภัย  หรือต่อให้ไม่ปลอดภัย จินยองก็ยังมีฝีมือที่

    ยอดเยี่ยม พอๆกับเขาซึ่งอย่างไรเสียก็น่าจะเอาตัวรอดเองได้ ไม่เหมือนน้องๆ โดยเฉพาะแบม

    แบม  ที่มีหลายอย่างที่ทำให้เขาทั้งเป็นห่วง และก็คาดหวังในเวลาเดียวกัน







    "ก็แค่ถามหล่ะนะ นายควรจะพักผ่อนบ้างได้แล้ว" เก็นซุย เดินเข้าไปประชิดตัวแจบอม







    "ผมยังไหว  ถ้าฝึกต่ออีกหน่อย ก็คงจะทำแบบที่เซนเซย์แสดงให้ดูได้แล้วหล่ะครับ" แจบอมดื้อ

    ดึง จะฝืนต่อ  จึงโดนเก็นซุยฟาดสันมือเข้าให้ที่ท้ายทอย จนหลับกลางอากาศ  เป็นงานให้คน

    งานสนาม มาหามไปเก็บ

     




    .

    .

    .


     

    "ฮืออออๆๆๆ... ฮยองงง  ...แจบอมฮยอง  อย่าเป็นอะไรนะ ฮึกๆ ฮืออ" เสียงร้องไห้ที่คุ้นหู ปลุก

    แจบอมให้ตื่นขึ้นมาในห้องที่ไม่คุ้นเคย  นอกจากสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไปแล้ว  ข้างๆเขายังมีเด็ก

    น้อยตาโต ที่มีไฝใต้ตาซ้าย กำลังร้องไห้ น้ำมูก น้ำหูน้ำตาไหล อยู่ไม่ไกลนัก







    "แบมแบมนี่นา  มาได้ไงเนี่ย!!?" แจบอมแทบไม่เชื่อตาตนเอง คิดว่านี่คงเป็นภาพหลอนเพราะ

    ฤทธิ์ยาหรือป่าว แต่...







    ทันทีที่แจบอมขยับตัวเอาข้อศอกสองข้างเท้าพื้นเพื่อดันตัวให้ลุกขึ้นมานั่ง  แบมแบมรีบเข้าไป

    ช่วยประคองคนพี่ที่กำลังลำบากอย่างรวดเร็ว







    แจบอม เอามือขยี้ผมแบมแบมที่เข้ามาซุก จักกะแร้ โผล่หน้ามาไซร้หน้าอกของเขาเพื่อเอาแขน

    โอบดันด้านหลังช่วยพยุงตัวให้ตั้งขึ้นมานั่งได้
    อย่างทุลักทุเล  และดูเหมือนแบมแบมจะไม่รู้ว่า

    เขามีแผลด้านหลังอยู่ด้วยจึงไม่ได้ระมัดระวัง ความหวังดีของน้องทำให้แผลเจ้ากรรมมันเจ็บ

    มากขึ้นไปอีก  แต่แจบอมก็ไม่ได้ว่าอะไร  เพราะการได้เจอแบมแบมที่ยังปลอดภัยดี มันทำให้

    เขาดีใจกว่าอะไรทั้งหมด







    พอนั่งได้ท่าดีแล้ว แจบอมก็ดึงร่างแบมแบมเข้ามาสวมกอดด้วยความคิดถึง เพราะนอกจากแบม

    แบมจะเป็นสมาชิกทีมคนสำคัญแล้ว แบมแบมก็เหมือนกับน้องชายจริงๆที่คลานตามกันมาของ

    เขา เนื่องจากเขารับผิดชอบ เป็นคนเลี้ยงดูแบมแบมตั้งแต่ตัวกระเปี๊ยกเมื่อตอนมาเกาหลีใหม่ๆ

    สัก 4-5 ปี ที่แล้ว  และไม่เคยมีวันไหนที่พวกเขาแยกจากกันแล้วไม่ได้พูดคุยหรือ ติดต่อกันนาน

    ขนาดนี้มาก่อน







    "แจบอมฮยองไม่เป็นไรใช่ไหมครับ  ตอนที่เคน เซนเซย์เรียกแบมมาดู มีเลือดเปื้อนชุดยูคาตะที่

    ฮยองใส่อยู่เต็มไปหมด  จนต้องไปตามหมอมา  แล้วหมอเขาเย็บแผลให้ใหม่เพราะมัน บวม ช้ำ

    และมีเลือดซึมออกมามาก จากบาดแผลที่เย็บไว้เดิมซึ่ง ฉีกขาด เยินมาก แต่เขาทำแค่ฉีดยาชา

    แล้วสอยสด ทำไมฮยองหลับไม่ตื่น ตั้งนานจนถึงตอนนี้  ไปทำไรมาอ่ะครับ
    ?" เด็กน้อยยกมือขึ้น

    ปาดแก้มนุ่มที่เปื้อนน้ำตา แล้วปั้นหน้ายิ้มสดใส ประจบเอาใจเพื่อให้แจบอมที่กำลังทำคิ้วผูกโบว์

    คลายกังวล







    "กินอะไรหน่อยไหมครับ?" แบมแบม กุลีกุจอ ยกข้าวต้มที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้สักพักแล้ว มาให้

    พร้อมกับชวนคนพี่คุยเรื่องสัพเพเหระ ไปเรื่อยๆ ให้สมความคิดถึง







    "ที่นี่เป็นบ้านพักรับรองของ เคน เก็นซุย  ตอนนี้เป็นเวลาประมาณ 6 โมงเย็นแล้วครับ  แบมแบม

    ได้มาอยู่ที่นี่เป็นวันที่ 4 แล้ว  หลังจากได้รับเลือกจากเซนเซย์ พวก แบม ยูค แล้วก็ยองแจฮยอง

     ก็แยกย้ายกันไปฝึก  แต่พวกเราต้องมาฆ่ากันเอง เพื่อเป็นตัวแทน ว่าเก็นซุยคนไหน คือผู้ที่

    เก่งที่สุด
    " ในประโยคหลังๆ แบมแบมเริ่มหลบตาไม่มองหน้าแจบอม  จนดูมีพิรุธ







    แต่เด็กน้อยก็ไม่ทันรู้ตัวว่าคนพี่รู้สึกถึงความผิดปรกติบางอย่าง ก็ยังคุยจ้อต่อไป  จนผ่านไป

    เกือบชั่วโมงเรื่องที่แบมแบมอยากจะเล่าก็เล่าไปหมดแล้ว จนหมดมุก  ความเงียบจึงเข้า

    ครอบงำ  กลายเป็นช่วง
    dead air ไปเกือบ 5 นาที







    แจบอมอมยิ้มมองน้องด้วยความเอ็นดูพร้อมกับลูบศีรษะปลอบโยน  ที่เขาไม่ได้ทักท้วง หรือ

    ถามรายละเอียดอะไร  รอให้น้องได้เปิดใจระบายออกมาเองนั้น เพราะเขาไว้ใจ และเชื่อในตัว

    ของแบมแบมมากกว่า ว่าน้องมีวุฒิภาวะในการตัดสินใจ รับผิดชอบทำอะไรด้วยตัวเองได้ดีอยู่

    แล้ว







    มันเป็นแบบนี้มานานแล้ว  เวลาแบมแบมมีปัญหาอึดอัดอะไร  แจบอมก็จะปล่อยให้แบมแบมแก้

    ปัญหาเองจนถึงจุดที่ แบมแบมต้องการความช่วยเหลือ เขาก็จะเข้ามาช่วยโดยไม่ซักไซร้อะไร 

    ทำให้แบมแบมรัก ไว้ใจและเคารพนับถือแจบอมมากกว่าใคร และวันนี้แบมแบมก็ต้องสารภาพ

    เรื่องที่รบกวนจิตใจของเขาอยู่ออกมาเอง
    อีกครั้ง







    "ตั้งแต่กลับมาจากการแข่งเมื่อวาน เคน เซนเซย์ก็ไม่ให้แบม จับดาบซ้อมอีกเลยอ่ะครับ  แจ

    บอมฮยองว่า เซนเซย์จะโกรธ และเกลียดแบมแล้วใช่ไหม ที่แบมแพ้ ยองแจ กับยูคยอม อ่ะ

    ครับ  แบมแบมไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นอย่างนั้น
    " เด็กน้อยก้มหน้าสลด ดูกังวลจนน่าสงสาร







    "ไม่หรอกน่า  ถ้าเซนเซย์เขาเมินแบม เขาคงไม่เข้ามาคุยด้วยหรือสั่งโน่นสั่งนี่หรอกนะ คงจะมี

    เหตุผลแหละ  แต่ฮยองไม่อยากจะเชื่อเลยว่า แบมจะแพ้ ยองแจ หรือ ยูคยอมอ่ะ  เกิดอะไรขึ้น

    หรือป่าว
    ?" แจบอมเอามือเชยคางน้องพร้อมกับ เอามือหยิก ยืดแก้มแบมแบมให้ยานออก จนดู

    ตลก ก่อนจะหัวเราะออกมา







    แบมแบมเผลอตอบโต้ ด้วยการปัดมือแล้วผลักเข้าที่ช่วงท้องของแจบอม ไปโดนแผล จนคนพี่

    ร้องโอ้ย ตัวงอ







    "โอ้ย!! เข้าแผลพอดี  กล้าหือเหรอเดี๋ยวนี้" แจบอมแกล้งโมโหทำหน้าดุใส่ แต่เด็กน้อยกลับ

    หัวเราะขำขึ้นมาแทน







    (เอาวะ มุกเจ็บตัว แต่น้องหัวเราะได้ ก็คุ้มละ - แจบอมคิด)







    "ก็วันแรก เลย ที่ต้องสู้กัน  แบม พลาด ฟันข้อมือ ของยูค อ่ะครับ  เลือดสีแดงสด ตัดกับผิวขาว

    จัดของยูคยอม มันไหลออกมาเยอะมาก  แบมแบมไม่อยากเห็นอะไรแบบนั้นอีกแล้ว  แบมไม่

    อยากทำร้ายพวกเดียวกันเอง  และคิดว่านั่นทำให้แบมไม่สามารถหันคมดาบให้ยูคยอม กับยอง

    แจฮยองในการต่อสู้รอบที่สองได้
    " เด็กน้อยเล่าความเป็นมาด้วยสีหน้าไม่สู้ดี เหมือนจะยังฝังใจ

    หวาดกลัวเหตุการณ์นั้นอยู่







    แจบอมต้องปรับบรรยากาศไม่ให้ตึงเครียดขึ้นอีก ด้วยการดีดนิ้วเข้าที่หน้าผากเด็กน้อย จนแบม

    แบมเจ็บจึงเงยหน้ามาค้อนควับให้ฮยองใจร้าย แทนที่จะเห็นใจยังมาแกล้งกันอีก







    "นักฆ่าที่กลัวเลือดหน่ะ ไม่มีหรอกนะ ถ้าแบมก้าวข้ามมันไปไม่ได้ ก็ไปขายป๊อบคอร์นข้างสนาม

    แข่งดีกว่าไหม เดี๋ยวฮยองจะลงทุนซื้อเครื่องคั่วข้าวโพดให้ด้วยเอ้า
    !" แจบอมหัวเราะเยาะเย้ย

    จุดชนวนให้แบมแบมโมโห โถมตัวจะเข้ามาตีเขาอีก







    แต่รอบนี้แจบอมเบี่ยงตัวหลบได้ ทำให้ แบมแบมเสียหลัก ล้มพุ่งตัวมาพาดบนตัก แจบอมที่นั่ง

    อยู่แทน  จากนั้นแจบอมก็เอามือหนึ่งกดที่สะบักด้านหลังแบมแบมไว้ไม่ให้น้องพลิกตัวลุกขึ้น

    หนีได้







    แบมแบมดิ้นขัดขืน พอเป็นพิธี ก่อนจะปล่อยทิ้งร่างนอนพาด และก้มหน้าซุกตัก อันอบอุ่นของ

    คนพี่ อย่างตั้งใจ







    "ไม่เปลี่ยนเลยน๊า เจ้าตัวเล็ก" แจบอมปล่อยมือที่กดหลังน้องออกแล้วใช้สองแขนช้อนพลิกร่าง

    น้องให้เปลี่ยนมานอนหงาย ก่อนจะก้มหน้าจ้องแบมแบมที่อยู่บนตักตัวเอง เหมือนสมัยก่อนที่

    พวกเขาชอบเล่นกัน







    "แบมแบมไม่อยากกลับไปอยู่รวมกันเหมือนเดิมเหรอ  จินยอง มาร์ค แจ๊กสัน ยองแจ ยูคยอม

    รวมถึงฮยอง พวกเราต่างรอคอยเวลาที่จะได้อยู่ด้วยกันอีกนะ  มาพยายามกันดีกว่า
    " คนพี่ยิ้มตา

    เป็นขีดให้ จนคนน้องรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย แล้วได้ใช้เวลาทบทวนเหตุการณ์ใน 4 วันที่ผ่านมา







    "ในหมู่สมาชิก Got7 ทั้งหมด เมื่อก่อนแบมแบม เป็นคนที่ต่อสู้ด้วยดาบญี่ปุ่นได้เก่งที่สุด คงไม่

    อยากหยุดให้คำนี้เป็นแค่อดีตใช่ไหม เพราะตอนนี้ทุกคนล้วนได้รับการชี้แนะจาก เซนเซย์ระดับ

    ตำนาน จนพัฒนากันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ... ถ้าแบมแบมยังสู้โดยการออมฝีมือ หรือไม่ตั้งใจ

    เต็มที่  ทั้งเซนเซย์ที่อุส่าห์สละเวลาสอนแบมแบมมา กับ เพื่อนๆ ที่ตั้งใจต่อสู้จริงๆ จะเสียใจ

    ขนาดไหน  มันเหมือนเป็นการดูถูก และไม่ให้เกียรติพวกเขานะ
    " แจบอมค่อยๆแทรกข้อมูลที่

    ต้องการสื่อถึงแบมแบมอย่างแนบเนียน







    "ไม่ใช่นะ แบมแบมไม่ได้ตั้งใจให้เป็นอย่างนั้น!" เด็กน้อยทะลึ่งพรวดขึ้นมานั่ง แล้วทบทวน

    เหตุการณ์ตามคำพูดของแจบอม ซึ่งมันก็เป็นความจริง  เขาทำให้ทุกคนผิดหวัง  เขาลืมมองเป้า

    หมายของการต่อสู้ครั้งนี้ และที่สำคัญมองข้ามความตั้งใจของทุกคนที่ช่วยสนับสนุนเขา







    แบมแบมยกสองมือขึ้นมาปิดหน้า แล้วซุกใบหน้าลงไปกับฝ่ามือนั้นอย่างรู้สึกผิดต่อการกระทำ

    ของตนเองที่ผ่านมา







    "ฮยองรู้ว่าแบมแบมเป็นคนยังไง นั่นไม่ใช่ความตั้งใจจริงของแบมซึ่งมันยังแก้ไขได้นะ" แจบอม

    พูดประโยคที่แบมแบม อยากได้ยินตอนนี้มากที่สุดออกมา มันทำให้แบมแบมเลิกก้มหน้า แล้ว

    หันมามองคนพี่ด้วยดวงตาเป็นประกายอย่างมีความหวัง







    ( น่ารักยังกับลูกหมา  ดวงตาเด็กน้อยที่มีพลังงานบางอย่าง จนคนพี่ต้องยอมตามใจมาไม่รู้กี่ครั้ง

    ต่อกี่ครั้ง - แจบอม คนเห่อน้องได้กล่าวไว้)







    "อย่ากลัวความผิดพลาดจนลืมที่ก้าวไปต่อ พวกยูคยอม และยองแจ ไม่ได้อ่อนแอ จนต้องออม

    มือให้หรอกนะ ไปขอโทษเซนเซย์เสียด้วยหล่ะ  การที่พวกเราได้มาเรียนรู้จากพวกเซนเซย์นั้น

    เป็นเรื่องที่มีเกียรติมาก แบมแบมอย่าทำให้เขาผิดหวัง  และเหนือสิ่งอื่นได้ นายต้องรอดกลับมา

    พบพวกเราให้ได้นะ  แบมแบมทำได้อยู่แล้ว ฮยองมั่นใจ
    " พูดจบ แจบอมก็อ้าแขนเป็นสัญญาน

    ให้ แบมแบมเข้ามากอด แต่รอบนี้เด็กน้อยกระโดดโถมร่างเข้าใส่อ้อมแขน แล้วกอดคนพี่อย่าง

    แรง จนแจบอมน้ำตาไหล แต่นาทีนั้นไม่รู้ว่าเขาตื้นตันหรือเจ็บแผลกันแน่...







    .

    .


    เวลา ประมาณ 2 ทุ่ม ที่เรือนรับรองของมิซากิ เก็นซุย มีสนามซ้อมดาบ ขนาดเล็ก อยู่ด้านข้าง

    ในเวลานี้มีเพียงโคมไฟหินแกรนิท ในสวนที่ให้ความสว่าง  แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้มองเห็นร่าง

    คนที่กำลังนั่งยองๆ เอามือ ส่องกับแสงจากตะเกียงหิน เพื่อสำรวจบางอย่างอยู่







    มือบางขาว นิ้วเรียว มีแผลเป็น เป็นเส้นตรงเหมือนเคยโดนของมีคมบาดกลางมือ ที่หายสนิท

    แล้ว ตอนนี้มีแผลพุพองเต็มไปหมด  มือทั้งสองข้างมีตุ่มน้ำพอง บางส่วนด้านแข็ง บางส่วน

    ลอกแตก  แม้จะพันด้วยเทปผ้าเกือบทั้งสองมือ แต่เทปที่พันไว้ก็หลุด ขาด ดำ มีเลือดเปื้อน บ่ง

    บอกว่ามือนี้ถูกใช้งานมาอย่างหนัก







    ยองแจใช้มือทั้งสองจับดาบ แทบจะไม่ได้ปล่อยเลยเกือบ 24 ชั่วโมงต่อวัน เป็นเวลาเกือบ 4 วัน

    แล้ว แม้เขาพยายามจะทำตามคำสอนของมิซากิเก็นซุย เท่าไหร่
      ผลของมันยิ่งออกมาแย่

    เท่านั้น  เขาต้องฝึกทั้งความเร็ว และความรุณแรง ที่มีน้อยกว่า แบมแบม และยูคยอมมาก 

    แทนที่ความพยายามของเขาจะส่งผล แต่ตอนนี้แค่ใช้สองมือจับดาบขึ้นมา ยังแย่ จนในที่สุด

    ดาบที่ใช้ซ้อมก็หลุดจากมือ







    ยองแจใจหายวูป เมื่อดาบหลุดออกจากมือเพราะเป็นสิ่งสำคัญที่ มิซากิ เก็นซุยให้มา จึงรีบก้ม

    ลงเก็บ แต่เมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็พบกับคนคนหนึ่ง ที่มีรอยยิ้มคุ้นเคย ยืนค้ำศีรษะอยู่







    " แจบอมฮยอง !! มายังไงครับเนี่ย" ยองแจเป็นผู้ที่มีความซื่อตรงต่อความรู้สึกของตนเอง อยู่ๆ

    น้ำตาก็ไหล่ออกมาอย่างไม่ปิดบัง
      ไม่ใช่เพราะเขารู้สึกเสียใจ หรือตื้นตันอะไรหรอกนะในตอนนี้

    แต่คงเป็นเพราะยองแจกำลังอ่อนล้า จากการหักโหมฝึกซ้อม จนไม่รู้จะทำยังไงต่างหาก  แล้ว

    แจบอมก็โผล่มาพอดี







    แจบอม ไม่ได้พูดอะไร เขาเดินเข้าไปกอดยองแจ พร้อมกลับเอามือตบหลังเป็นเชิงปลอบ  นั่น

    ยิ่งทำให้ยองแจร้องไห้หนักขึ้น







    ลีดเดอร์พายองแจ มานั่งพักห้อยขา ตรงระเบียงชายคาใกล้ๆ สนามฝึก แล้วจับมือของยองแจ

    ขึ้นมาดู







    มือทั้งสองข้างมีสภาพแย่มาก  ซึ่งแจบอมก็พอจะเข้าใจ เพราะมือเขาก็แย่เหมือนกันจากการฝึก

    ดาบอย่างหนักหักโหม แต่มันก็ไม่แย่เท่ามือของยองแจ ที่แปะพลาสเตอร์ และเทปผ้าเต็มไป

    หมด แล้วยังมีคราบเลือดแห้ง ติดเป็นหย่อมๆ







    "นายฝืนเกินไปแล้วนะยองแจ  ถึงขั้นดาบหลุดมือแบบนี้ แล้วจะสู้กับคนอื่นได้ยังไง" เหมือน

    แจบอมจะตำหนิ แต่เขาต้องการให้ยองแจทบทวน เป้าหมายของตัวเองสักนิด







    "ฉันรู้สึกแย่นะ ที่ช่วยอะไรพวกนายไม่ได้เลย  ...จะถอนตัวไหม?" แจบอมใช้สองมือของเขา กุม

    มือข้างหนึ่งของยองแจไว้เป็นเชิงให้กำลังใจ แต่พอยองแจได้ยินสิ่งที่แจบอมพูดก็ต้องรีบชักมือ

    กลับ







    "ไม่นะครับ  ผมยังไหว ฮยองอย่าตัดผมออกจากทีมนะครับ" ยองแจทำหน้าตกใจ และโวยวาย

    ใส่ ซึ่งแจบอมแทบจะไม่เคยเห็นยองแจที่เป็นแบบนี้เลยก่อนหน้านี้







    "งั้นนายก็ควรฟังชั้น  ชั้นรู้เรื่องการต่อสู้ของพวกนายแล้ว  มันเป็นการฝึกฝนอย่างหนึ่ง  เท่าที่เรา

    รู้จักกันมา ฉันรู้ว่านายเป็นคนมีความพยายามมาก  แต่ถ้ามันทำร้ายตัวเองขนาดนี้  นายจะวางมือ

    ก็ไม่มีใครว่าหรอกนะ
    " แจบอมพูดพร้อมจ้องเข้าไปในตาของยองแจ







    "ฮยองจะพูดยังไงก็ได้หนิครัย  ผมมันมาทีหลัง ผมไม่ใช่คนรักของฮยองอย่าง จินยองฮยอง

    ไม่ใช่ผู้ที่ได้รับความไว้วางใจอย่าง มาร์คฮยองกับแจ๊กสันฮยอง  ไม่ใช่คนโปรดที่เกิดมาเพื่อสิ่ง

    นี้อย่างแบมแบม แล้ว ก็ไม่ใช่อัจฉริยะนักฆ่าอย่างยูคยอม สิ่งที่ผมทำได้มีเพียงต้องพยายามให้

    มากขึ้น  ไม่ให้ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และสามารถเป็นกำลังให้กับทุกคนในทีมได้
    " ยองแจ เริ่ม

    ปล่อยโฮหนัก จนน้ำมูกไหลตามออกมา หน้าตาดูไม่ได้







    "แต่ตอนนี้ผมทำอะไรไม่ได้ดีสักอย่าง  ผมไม่เหลือความมั่นใจในตนเองอีกแล้ว" ยองแจก้มตัว

    เอาหน้าซุกกับตักของตัวเองแล้วสะอื้นต่อ







    เรื่องนี้คงเป็นสิ่งที่เป็นปมอยู่ในใจยองแจมานาน และอาจมีส่วนขัดขวางความก้าวหน้าในการฝึก

    ของเขา ทำให้ท้อแท้และทำให้ใช้ความพยายามไปอย่างเสียปล่าว







    "ใจเย็นๆก่อน นายเห็นชั้นเป็นลีดเดอร์ที่แย่ ไม่มีความยุติธรรมขนาดนั้นเลยเหรอ ไหนลองบอกซิ

    ว่า ชั้นทำให้นายรู้สึกน้อยใจขนาดนั้นตอนไหน  ชั้นจะได้ไปปรับปรุงตัวนะ  แล้ววันหลังห้ามคิด

    อย่างนี้อีก ทุกคนในทีม
    Got7 มีความสำคัญเท่ากัน ไม่ว่าจะมาก่อนมาหลัง  แค่นายอาจจะไม่

    ชำนาญการใช้ดาบพวกนี้เพราะไม่เคยจับมันมาก่อน  ไม่ได้หมายความว่าคุณค่าของนายจะลด

    ลง  ถ้าเทียบกับวันแรกที่นายมาที่นี่ ก็ดีขึ้นเยอะมากแล้ว ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเข้าใจไหม
    "   

    แจบอม ใช้สองมือจับไหล่บังคับให้ยองแจเงยตัวขึ้นมา แล้วโอบไหล่ยองแจที่นั่งข้างๆ  จากนั้น

    ก็ใช้มือ ดันศีรษะยองแจให้มาซบไหล่ของเขา แล้วเอาศีรษะของตนเองเอียงเข้าไปชนกัน

    เป็นการปลอบ







    ยองแจเบิ่งตาโต  ด้วยก่อนหน้านี้เขาไม่เคยใกล้ชิดแจบอมขนาดนี้มาก่อน  ระหว่างการแข่งที่

    ผ่านมา ตำแหน่งสไนเปอร์ทำให้เขาอยู่แนวหลัง ห่างไกล จากแนวหน้าอย่างแจบอม และ เวลา

    อยู่ในหอ แจบอมก็มักจะทำหน้าตาน่ากลัว ไม่ค่อยพูด ทำให้เขาไม่กล้าเข้าใกล้ ไม่เฟรนลี่

    เหมือนพวก แบมแบมกับยูคยอม ที่เขาจะสนิทมากกว่า







    "ฉันนี่เป็นลีดเดอร์ที่ไม่ได้เรื่องจริงๆน๊า ปล่อยให้นายคิดอย่างนี้ได้ ขอโทษด้วยนะยองแจ"   

    แจบอมยังกอดไหล่ยองแจไว้ แล้วรำพึงออกมา







    เมื่อมาทบทวนดีๆแล้ว แจบอมไม่เคยแสดงความลำเอียงออกมาให้เห็นกับเรื่องงานในหมู่

    สมาชิกเลย  หากแต่เป็นเขาเองที่คอยเฝ้ามองความสัมพันธ์พวกนั้น เพราะอยากจะเข้าไปมีส่วน

    ร่วม เป็นส่วนหนึ่งของทีมบ้าง และอยากจะสนิทกับทุกคนแบบนั้น  จริงๆแล้ว เขาชอบจินยองที่

    ใจดี เป็นผู้ยอมรับ และคัดเขาเข้ามาในทีมคนแรก  เขาชอบมาร์คที่เป็นคนจริงจัง รับผิดชอบงาน

    ของตัวเอง เขาชอบแบมแบม ที่เป็นมิตรกับเขาตั้งแต่ที่เจอกัน และมีนิสัยร่าเริงสดใส เขาชอบ

    ยูคยอมที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสา มีความตั้งใจในงานที่ได้รับมอบหมายและทำทุกอย่างอย่างเต็มที่

     เขาชอบแจ๊กสันในฝีมือการทำงาน และความสัมพันธ์ส่วนตัวเป็นพิเศษ และจริงๆแล้วเขาก็ชอบ

    แจบอมที่มีความเป็นผู้นำ รวมทุกคนเข้าด้วยกัน มีความรับผิดชอบและวิสัยทัศน์ในการนำทีม

    ก้าวไปข้างหน้า ทุกคนในทีม
    Got7 มีความอ่อนน้อมและจริงใจ  เขาแค่อิจฉาและอยากเป็นได้

    อย่างนั้น  โดยไม่รู้ตัวว่า เขานั่นแหละเป็นคนที่ทุกคนอิจฉา







    ยองแจสามารถก้าวหน้าในการต่อสู้ได้หลากหลายขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขนาดที่ไม่มีสมาชิกคน

    ไหน มีทักษะการซุ่มยิงของสไนเปอร์ได้เหมือนเขา  ยองแจจะคอยใส่ใจสมาชิก
    Got7 ทุกคน

    เป็นนิสัย คอยให้ความช่วยเหลือ โดยไม่รู้ตัวว่าเพราะแบบนั้นทำให้ เขาหน่ะเป็นที่รักของทุกคน

    ขนาดไหน







    เมื่อยองแจได้อิงไหล่ของแจบอมสักพัก ได้ทบทวนสิ่งต่างๆจนรู้สึกดีขึ้น ทำให้เขาเข้าใจทุก

    อย่างกระจ่างขึ้น เขารู้สึกขอบคุณแจบอมมากที่โผล่มาในเวลานี้  แม้แจบอมจะไม่พูดอะไรมาก

    แต่แค่รับรู้ว่าเขาทุ่มเท กับการฝึกมาก และเข้าใจความรู้สึกของเขาในตอนแรกที่แจบอมขอให้

    เขาหยุด และถอนตัว เพราะความเป็นห่วง ไม่ใช่การตำหนิ  ยองแจจึงกลับมามีกำลังใจขึ้น 

    ขนาดเขาไม่ค่อยได้มีปฏิสัมพันธ์กับแจบอมเท่าไหร่ ยังได้รับความใส่ใจ  ถ้าไม่เดินตามลีดเดอร์

    แบบนี้ เขาก็ไม่รู้จะไปตามใครแล้วหล่ะ







    จิตใจที่ปลอดโปร่งทำให้ยองแจพบคำตอบในหลายๆเรื่อง  รวมถึงเรื่องเทคนิคการต่อสู้ด้วยดาบ

    นี่







    "ผมมองเห็นนะ การเคลื่อนไหวและทางดาบของ ยูคยอม และแบมแบมนะ  แต่ร่างกายผมไม่

    สามารถเคลื่อนไหวไปปัดป้อง หรือโจมตีได้ทันเท่าความคิด  สมรรถภาพทางร่างกายของผมยัง

    มีขีดจำกัดอยู่เยอะ ฮยองว่าผมจะแก้ไขยังไงดีฮะ
    " ยองแจกลับมานั่งตัวตรงปรกติ แล้วพูดถึง

    เรื่องการฝึกด้วยแววตามุ่งมั่นดูแน่วแน่เปลี่ยนไปเป็นคนละคน  จากเมื่อครู่จนแจบอมยิ้มอย่าง

    พอใจ
     เพราะเขาเชื่อมั่นในตัวสมาชิกทุกคนในทีมเสมอ เพราะเป็นคนที่เขาเลือกแล้วว่าจะมุ่งไป

    สู่จุดหมายด้วยกัน







    "นายโฟกัสผิดจุดแล้วหล่ะ  ตามไม่ทันก็ไม่ต้องไปตามสิ  นี่แหละคือข้อได้เปรียบของนาย" 

    แจบอมเปลี่ยนมากอด อก แล้วหันมายิ้มให้ยองแจ ซึ่งเอียงคอสงสัย อย่างบ๊องแบ๊วน่ารัก







     "นายรู้ไหมว่า การต่อสู้ด้วยดาบหน่ะ สิ่งสำคัญคือ การเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเร็ว หรือ รุนแรง

    ขนาดไหน การเคลื่อนไหวมันจะมีจุดที่หยุดนิ่งนะ คือ จุดก่อนที่จะเริ่มเคลื่อนไหว และจุดหลัง

    จากการเคลื่อนไหวเสร็จสิ้นหยุดลง การตวัดฟาดฟันดาบในแต่ละครั้ง กล้ามเนื้อต้องใช้พลังงาน

    เป็นจำนวนมาก และเป็นไปไม่ได้ที่นักดาบจะเคลื่อนไหวอยู่อย่างนั้นตลอดเวลา แต่ละรอบ

    แต่ละครั้งในการโจมตีต้องมีการพัก การขยับแขน เป็นขั้นตอน เป็นท่า ที่รวมกันแล้วเรียกว่า

    กระบวนท่า  สิ่งที่นายต้องทำก็แค่ รอหาจังหวะพวกนั้น ที่ร่างกายของคู่ต่อสู้หยุดการเคลื่อนไหว

    ลง ก็เข้าโจมตีสวนไป ก็จะปิดบัญชีได้ไม่ยาก ไม่จำเป็นต้องเต้นตามการล่อหลอกทั้งหลายพวก

    นั้น
    "







    [อธิบายแบบวิทยาศาสตร์ง่ายๆ( ไม่ต้องถึงระดับไมโตคอนเดรียนะคะ) ก็คือ เวลาเคลื่อนไหว

    กล้ามเนื้อต้องใช้พลังงาน และ ออกซิเจน (หรือที่เรียกว่าเกิดการเผาผลาญ แบบแอโรบิก) ถ้า

    เคลื่อนไหวกล้ามเนื้อต่อเนื่องกันนานนาน ไม่มีการพัก กล้ามเนื้อจะไม่ได้รับออกซิเจน หรือได้

    รับไม่เพียงพอต่อการสร้างพลังงาน (จะเกิดการเผาผลาญ แบบแอนแอโรบิก) จะทำให้ กล้าม

    เนื้อสร้างกรดแลกติกขึ้นมา ทำให้เกิดการเมื่อย ล้า เป็น ตะคริว กล้ามเนื้อ เกร็ง อ่อนแรง เหนื่อย

    มาก หายใจตื้น และอาจเกิดภาวะแลกติก แอซิโดสิส (เลือดเป็นกรด)  - สรุปก็คือ มนุษย์ไม่

    สามารถเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อติดกันเป็นเวลานานๆโดยไม่พักได้ด้วยประการฉนี้แล.)
    ]







    ยองแจตาเป็นประกายขึ้นมาทันที  ที่ผ่านมาเขามัวแต่พยายามตามความเร็วของแบมแบม และ

    ความรุณแรงของยูคยอมให้ทัน  ซึ่งนั่นทำให้การฝึกไม่ก้าวหน้า และผลก็ออกมาไม่ดี  แค่ฟังวิธี

    ที่แจบอมบอก  ยองแจก็นึกภาพผลลัพธ์ออกได้ชัดเจนทันที  วิธีแบบนี้ถึงจะเหมาะกับเขา ซึ่ง

    ทำให้ยองแจยิ่งทึ่งและชื่นชมในตัวแจบอมขึ้นไปอีก







    "เพื่อจะกลับไปรวมกันอีก  ฉันหวังว่านายจะผ่านการทดสอบของเหล่าเก็นซุยนี่ไปได้นะ  แสดง

    ฝีมือให้เต็มที่ น้องๆของนาย แบมแบม และยูคยอม ไม่ใช่คนอ่อนแอ นายต้องเอาจริง ฉันเชื่อว่า

    นายจะทำได้เหมือนทุกครั้ง ที่นายไม่เคยทำให้ฉันผิดหวัง ไม่มีสักนาทีที่ฉันเสียใจกับการเลือก

    นายเข้ามาในทีมนะยองแจ
    " แจบอมแทคมือกับยองแจ ก่อนจะขอตัวออกมา เพื่อไปหายูคยอม

    ต่อไป







    .

    .

    .



    เวลาประมาณ 4 ทุ่ม ที่เรือนรับรองของทาคุยะ เก็นซุย  เจ้าบ้านกำลังสนุกสนานกับการดื่มสาเก

    และออกคำสั่ง กับเจ้าถ้วยตัวโต ที่ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติตามอย่างสุดชีวิต  ก็เป็นข้อดีของความ

    เยาว์วัยและไร้เดียงสา  ที่ยูคยอมไม่มีปัญหาด้านจิตใจมารบกวนการฝึก  ทุกวันนี้เขาแค่ทำตาม

    คำสั่งของทาคุยะเก็นซุย ที่ช่างสรรหา วิธีฝึกแปลกๆมาใช้กับเขา ก็เหนื่อย และสนุก จนแทบไม่

    อยากคิดอะไรแล้ว  เพราะถ้าว่างเมื่อไหร่  เขาก็อดที่จะคิดถึงสมาชิก
    Got7 จนแปลงร่างเป็น

    หมาหงอยไม่ได้ จนเก็นซุยต้องหาทางทำให้ยูคยอมไม่ว่างให้ได้มากที่สุด 







    ผลการฝึกของยูคยอมนั้นทำให้ ทาคุยะ เก็นซุยผู้แอนตี้โลก และสังคม ชื่นชมอย่างมาก  เจ้า

    ถ้วยมีพัฒนาการดี  ซึมซับการสอนของเขาได้หมดดุจผ้าขาว ไม่ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว โต้แย้ง

    หรือ มีปากมีเสียง  ให้ทำอะไรก็ทำแต่โดยดี  และไม่ว่าเจ้าถ้วยจะทำผิด โดนดุ หรือทำได้ดี เจ้า

    ถ้วยก็จะยิ้มรับ กระตือรือร้น และขยันขันแข็ง เป็นอย่างดี







    ทาคุยะ เก็นซุย ไม่เคยพบใครที่มีนิสัย และความสามารถแบบนี้มาก่อน ทำให้ อดที่จะเอ็นดู เด็ก

    ยักษ์คนนี้ไม่ได้ ในตอนแรกที่เขาเฝ้าสอนและให้ข้อมูลเจ้าถ้วยเพื่อไปต่อสู้ปลิดชีวิต เจ้าขวด

    กับ แก้ว นั้น  เขาหวังแค่เพื่อเอาชนะ เด็กของเก็นซุยอีก 2 คนเท่านั้น แต่ในตอนนี้ เขาเฝ้าสอน

    เทคนิคที่จะปกป้องชีวิตตัวเองไว้ ไม่ให้บาดเจ็บ เพลี่ยงพล้ำ กับเจ้าถ้วยมากกว่า







    และ 4 ทุ่ม คือเวลาให้อาหาร เอ้ย ให้ของว่างเจ้าถ้วย พอดี เก็นซุย จึงให้พักได้







    ตามที่ตกลงกัน หาก ถ้วยสามารถทำตามคำสั่ง เซนเซย์ได้เท่าไหร่จะได้รับ เทริยากิ(ไก่ย่าง)

    ตามจำนวนคำสั่งที่ทำสำเร็จ สำหรับวันนี้ รวมแล้วก็คือ ต้องได้ เทริยากิ 24 ไม้ แต่ ในถาดที่ถูก

    วางข้างๆ ยูคยอมที่นอนแผ่อยู่ กลับมี ไก่ย่าง แค่ 23 ไม้ ซึ่งเรื่องนี้ น้องถ้วยยอมไม่ได้







    หลังจากใช้สายตานับไก่ย่างในถาดถึง 3 รอบ จนแน่ใจว่าไม่ครบจริงๆ ยูคยอมก็พลิกตัวเตรียม

    ลุกขึ้นมาโวยวาย แต่ต้องพบกับ ...







    แจบอมที่กำลังใช้ฟันกัดไก่ออกจากไม้  พอแจบอมก้มลงสบตากับเขา แจบอมก็รีบ อมไก่ย่างที่

    เหลือเข้าปากเห็นแต่ไม้เสียบไก่โผล่มา  แล้วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ลอยหน้าลอยตาขึ้นมากทันที







    "แจบอมฮยองงงงงงงงง!!!" ยูคยอมดีใจมากจนถึงขั้นกระโดดโถมตัวใส่ จนแม้แต่ชายร่างไม่เล็ก

    อย่างแจบอมต้องล้มทั้งยืนเพราะแรงโถมมหาศาลของน้องทันที (นึกภาพโกลเด้น ตัวใหญ่

    กระโดดใส่นะคะ ถ้ายูคยอมเลียหน้าพี่บีได้นี่ก็คงเลียไปแล้ว)







    แจบอมหันไปยักคิ้วกวน ให้ทาคุยะเก็นซุย ที่กำลังนั่งคุยกับ ชิโนบุเก็นซุยไม่ไกลออกไปนัก เป็น

    นัยว่า เด็กคนนี้เป็นของผมนะครับ  พร้อมกลับลูบศีรษะยูคยอมอย่างสบายใจ







    ทาคุยะเก็นซุย กระแทกถ้วยสาเก ลงแล้วออกคำสั่งต่อไปกับถ้วยทันที







    "เฮ้ยไอ้ถ้วย  ลุก ดิ หมดเวลาพักแล้ว" ถ้าสามารถมองเห็นหูกับหางยูคยอมได้นี่ ตอนนี้คงเห็น

    ภาพ หูตก ซ้อนกับภาพยูคยอมแน่ๆ







    "ลองฟันสปินไปทาง 8 นาฬิกา โดยใช้แรง 80% ด้วยมือเดียว ซิ" เก็นซุยออกคำสั่ง ให้ยูคยอม

    ฟันดาบด้วยเทคนิคหมุนใบมีดไปทางที่แจบอมนั่งอยู่ ซึ่งน่าจะได้ระดับกับศีรษะของเขาพอดี







    ยูคยอมทำท่าลังเล กระสับกระส่าย  ให้หันคมมีดหาแจบอม เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยนึกจะทำมาก่อน

    ในชีวิต
    Got7 และสมาชิก Got7 คือทุกสิ่งในชีวิตของเขา แต่เซนเซย์ก็มีบุญคุณ สำคัญกับเขา

    เหมือนกัน นาทีนี้ยูคยอมได้แต่ขยับหันไปมา อย่างกับหุ่นยนต์ที่กำลัง เออเรอร์ ไม่รู้ว่าจะตลก

    หรือสงสารดี







    ไม่นานนักแจบอมก็ลุกขึ้นยืนแล้วเข้าไปจับข้อมือของยูคยอมให้วางดาบลง เด็กยักษ์ น้ำตาคลอ

    หันมากอดเขาแน่น







    "99% ของเด็กคนนี้อาจจะป้อนคำสั่งให้ทำงานได้อย่างถูกต้องไม่ต่างกับหุ่นยนต์ แต่อีก 1 % ก็

    คือหัวใจ ความรู้สึกของมนุษย์ที่ยังหลงเหลือ ขอให้นายรักษาตรงนี้ไว้ไม่สูญเสียมันไป อย่างทุก

    วันนี้ หน่ะ ดีอยู่แล้ว
    " แจบอมกอดคอน้อง แล้วชวนไปนั่งกินไก่ย่าง กันสองคน โดยมีชิโนบุเก็น

    ซุย อมยิ้มชอบใจ แล้วคอย ปราม ทาคุยะ เก็นซุย ที่ทำท่ากระฟัดกระเฟียด อิจฉาแจบอม  ไม่ให้

    หัวเสียไปกว่านี้

     






    .

    .

    .


    หลังจากได้พบน้องๆทั้งสาม สมใจแจบอมแล้ว  ชิโนบุเก็นซุยก็ส่งโทรศัพท์ให้แจบอมระหว่าง

    ทางที่พวกเขากำลังเดินกลับไปยังเรือนรับรองของตัวเอง







    "วันนี้พวกเราคงไปหา อากิ กับอาโอย แล้วก็มาร์คกับแจ๊กสันไม่ทันแล้วหล่ะนะ เกือบเที่ยงคืน

    แล้ว  แต่ชั้นลองโทรไปแล้ว อากิ จะกระจายเสียงนายในห้องซ้อมให้  รับรองว่าพวกนั้นจะได้ยิน

    แน่  อ่ะ รับโทรสัพท์ไปแล้วพูดได้เลยนะ
    "







    "ย่าห์ มาร์ค กับแจ๊กสัน  นี่แจบอมนะ  พวกนายรีบเคลียเงื่อนไขกับเก็นซุย ของนายแล้วกลับมา

    ได้แล้ว  แบมแบมกับยองแจกำลังแย่  ถ้ามัวอ้อยอิ่งรอครบ 7 วัน พวกนายอาจจะไม่ได้เห็นหน้า

    น้องๆอีกเลยนะ ฉันไม่รู้จะทำยังไงแล้ว...
    " แจบอม แกล้งพูดเสียงทุ้ม  เศร้า อย่างช้าๆ 
    จนคนที่

    ได้ยิน 
    ข้อความ นี้นั้น  ตกใจ จนหัวใจแทบจะหยุดเต้น ... เอ๊ะ  มันเกิดอะไรขึ้น !!??





    ......................






    แวะมาแก้คำผิดค่ะ (2) ><



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×