คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Happy #3YesrsOnTimeWithJJProject -a bit lately ^^ [JJP]
#3YesrsOnTimeWithJJProject -a bit lately
เด็กน้อยแก้มป่อง ผิวขาวใส หน้าตาน่ารักยิ้มเก่ง อัธยาศัยดีเยี่ยม อ่อนน้อมถ่อมตน มากความสามารถ เป็นที่รักของคนทั่วไป คนที่คอยเป็นห่วงเป็นใยและให้ความสนใจในตัวผมตลอดมา ปาร์คจินยอง...นายโตขึ้นมากทีเดียว
ไม่ใช่แค่ส่วนสูงหรือลักษณะทางกายภาพภายนอกเท่านั้น (ถึงแม้สะโพกและก้นงอนๆนั่นจะเติบใหญ่ถูกใจผมมาก็ตาม..เอ้ยไม่ใช่แระ!) ผมหมายถึงความคิดอ่านและการวางตัวของเขาด้วย เมื่อก่อนตอนที่เราได้มาใช้ชีวิตร่วมกันใหม่ๆหลังการออดิชั่น จินยองที่มาจากครอบครัวแสนอบอุ่นได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดี เลยลำบากอยู่สักหน่อยสำหรับการแยกออกมาเป็นเด็กฝึกและต้องทำอะไรๆด้วยตัวเอง แต่นั่นก็ทำให้ผมได้มีโอกาสได้ดูแลและคอยสอนสิ่งต่างๆให้กับเขาแม้ว่าอายุของพวกเราจะห่างกันไม่กี่เดือนก็ตาม เวลาเขาตื่นเต้นที่ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ หรือมีอะไรที่มาทำให้เขาสนใจ ตากลมแป๋วแหว๋วนั่นจะเบิ่งโตแวววาวน่ารัก และมักจะมองมายังผมเพื่อหาคำตอบเสมอ จินยองจะคอยตั้งใจฟังสิ่งที่ผมพูด สอน และนำไปปฏิบัติเป็นอย่างดี สายตาของเขาทำให้ผมใจเต้นมาตลอด เมื่อก่อนเราตัวติดกันมาก แม้หน้าตาและการแต่งตัวของพวกเราจะไม่ได้คล้ายกันเลยแต่ก็ชอบมีคนบอกว่าพวกเราหน่ะ..เหมือนกัน
เมื่อเทียบกับปัจจุบัน พอมาถึงตอนนี้นะ จินยองคนนั้น เขามักจะเอาแต่อ่านหนังสืออย่างเดียว สร้างโลกส่วนตัวทุกทีที่มีเวลาว่าง ผมหน่ะ อิมแจบอม คนชิคเหงามากจนต้องแสร้งว่าเป็นคนชอบฟังเพลงเอาแต่ใส่หูฟังแล้วทำท่าครุ่นคิดเหมือนกัน ทั้งๆที่ในสมองหน่ะหงุดหงิดมีแต่เรื่องของจินยองเต็มไปหมดทั้งนั้น น้อยใจมาก ผมคงไม่สำคัญสำหรับเขาแล้วสินะ คำว่าคนที่สนิทที่สุด หรือตัวติดกันอะไรนั่นหน่ะเป็นแค่ past tense ไปแล้ว...เฮ้อ..
หลังจากเหนื่อยมาทั้งปีตั้งแต่เดบิวเป็น GOT7 ในช่วงปีใหม่เป็นต้นมา สมาชิกแต่ละคนเลยได้รับวันหยุดพักผ่อนยาว 10 วัน ต่างคนก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนตามสบาย แบมแบมกลับบ้านเกิดที่ประเทศไทย แจ๊กสันกลับบ้านที่ฮ่องกง มาร์คกลับอเมริกาโดยมียูคยอมตามไปเที่ยวด้วย ยองแจกลับบ้านที่มกโพ จินยองกลับบ้านที่ปูซาน ก่อนจะแอบหนีไปเที่ยวญี่ปุ่นคนเดียวโดยไม่บอกผม ผมก็เฝ้าหอรอไปสิ...นึกว่าเขาจะกลับมาฉลองปีใหม่ปีนี้ด้วยกัน แล้วหลังปีใหม่แค่ 6 วันก็คือวันเกิดของผมด้วย ทำไมต้องทำตัวห่างเหินขนาดนั้นนะทั้งๆที่เมื่อปลายปีที่ผ่านมาเราก็พยายามอย่างหนักมาด้วยกันตลอด นายน่าจะมาฉลองด้วยกันสิ นี่ผมกลายเป็นคนขี้ใจน้อยตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย!!?
ทำไมน้องถึงเปลี่ยนไป? จินยองคนน่ารักช่วงหลังมานี่ไม่ค่อยร่าเริง ไม่เจื้อยแจ้วเหมือนเดิม ตั้งแต่เขาผ่านออดิชั่นได้เล่นละครเต็มตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรก งานนอกค่ายในฐานะนักแสดง ละครที่ผมไม่มีส่วนร่วมเลย ผมไม่มีโอกาสได้รู้ว่าเขาต้องเจออะไรบ้าง มันคงจะยากและเหนื่อยมาก เขาถึงเปลี่ยนไปเป็นคนละคนขนาดนี้ ท่ามกลางกิจกรรมของ GOT7 ที่กำลังยุ่งวุ่นวายเหมือนกัน จินยองต้องพยายามทั้งสองอย่างจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน ผมอยากจะช่วยแบ่งเบาภาระของเขาบ้าง แต่จินยองก็ไม่ปริปากอะไรออกมาเลย ผมเป็นที่พึ่งของเขาไม่ได้เลยสินะ ผมมันแย่มากเลยใช่ไหมเขาถึงไม่เข้ามาปรึกษา...น้ำตาจะไหล...
"จินยอง นายเป็นอะไรของนายเนี่ย มีอะไรที่ฉันทำให้นายโกรธไหม ฉันพอจะช่วยอะไรนายได้บ้างไหม?" ผมอยากจะพูดกับเขาออกไปตรงๆแบบนี้มาก...แต่ผมก็ไม่กล้า กลัวเขาตอบกลับมาว่าธุระไม่ใช่ กลัวจะเป็นการก้าวก่ายวุ่นวายกับชีวิตส่วนตัวของเขาเกินไป ถึงจะสนิทแค่ไหน ก็ต้องเว้นที่ว่างไว้บ้าง แต่ผมเป็นห่วงเขามากจริงๆนะ จนเดือนเมษายนที่ผ่านมาพวกจินยองกับแบมแบมได้เป็นพิธีกรฝึกหัดในรายการเพลง เพิ่มตารางงานของน้องให้แน่นได้อีก แต่เขาก็ยังพยายามทำหลายอย่างในเวลาเดียวกันให้สมบูรณ์แบบที่สุดเสมอ น่าเหนื่อยแทนจริงๆ แต่เรื่องของเรื่องหน่ะมันมาแตกหักเอาตอนที่ผมแกล้งตอบหน้ากล้องไปว่าผมจำวันเดบิวของ JJProject ไม่ได้ ต่อหน้าสมาชิก GOT7 ที่มีผมเป็นลีดเดอร์ ผมไม่เคยลืมจุดเริ่มต้นของพวกเราหรอกนะ แต่ผมอยากให้ทุกคนรู้สึกเป็นทีมเดียวกันมากกว่าเลยพูดออกไปแบบนั้น แต่จินยองดูเสียใจมาก แล้วหลังจากนั้นเขาก็ลบรูปเก่าๆของพวกเราสมัย JJProject ออกจาก ทวิตเตอร์และอินสตราแกรมจนหมด ผมนี่แทบจะลมจับ แฟนๆต่างส่งข้อความมาให้กำลังใจ และติด tag #StayStrongJoyous #BelieveinJJP มาในทามไลน์เต็มไปหมด ไม่ใช่แฟนๆเท่านั้นที่เสียใจนะ ผมก็เสียใจเหมือนกัน ทำไมจินยองไม่บอกอะไรผมเลย ถ้าน้องไม่พอใจผมก็พร้อมที่จะขอโทษ ไม่ใช่ประชดแบบนี้ แต่ถึงเขาจะลบเรื่องราวพวกนั้นไป แต่มันไม่มีทางลบเรื่องของเราออกไปจากหัวใจของผมได้หรอกนะ เรื่องของเรามันไม่ได้ลบออกไปง่ายๆหรอกจินยอง...
ความมึนตึงพุ่งขึ้นสูงสุดเมื่อเราต้องไปรับรางวัลใหญ่ที่ประเทศจีนติดกันถึง 3 งาน จินยองซึ่งติดถ่ายละครเลยตามมาทีหลังด้วยสภาพย่ำแย่ พักผ่อนไม่เพียงพอและป่วย ผมเป็นห่วงเขาแทบบ้า ทำไมฝืนร่างกายสังขารตัวเองขนาดนี้ จนเผลอดุเขาไปว่าทำไมปล่อยให้ตัวเองป่วยหล่ะ ไม่มีความรับผิดชอบเลยนะ ความพยายามที่ผ่านมาของพวกเราจะไม่ได้อะไรเลยถ้านายตายก่อนที่จะได้ชื่นชมผลลัพธ์ของมันหน่ะ ...ส่วนจินยองตอนนั้น เขาไม่ได้ตอบโต้อะไร แค่น้ำตาไหลออกมาเงียบๆ จนผมแทบทนมองไม่ได้ จะพูดอะไรออกมาสักคำกับผมก็ไม่มี แต่ผมก็ต้องฮึบไว้ทั้งๆที่ผมหน่ะเป็นฝ่ายอยากจะร้องไห้มากกว่านะ ....ผมมันแย่ที่สุด...
ต่อมางานที่จีนคราวนั้น แทบไม่รูปคู่ของเราออกมาเลย ปรกติจินยองจะคอยยืนข้างผมเสมอ ช่วยตบบ่าหรือยิ้มให้กำลังใจเวลาที่ผมต้องตอบคำถามยากๆ หรือให้สัมภาษณ์อะไรๆหลังการแสดง แต่ ทั้งสองงานใหญ่นั่น เขาเลือกที่จะไปยืนริมสุดด้านที่จะห่างจากผมที่ให้ไกลสุด ใต้ตาบวมช้ำหน้าตาก็หมองคล้ำไม่สดชื่น ไม่มีรอยยิ้มตาหยีจนเห็นตีนกาหลุดมาสักรูป ขนาดบ้านแฟนไซท์ขั้นเทพทั้ง 5 บ้านใหญ่ของจินยองยังไม่มีใครได้รูปสวย หน้ายิ้มดูดี ของเขาติดมือมาสักบ้านเลย(ไม่มีรูปร้องไห้ออกมาก็บุญเท่าไหร่แล้ว) พอออกจากงานก็เลือกที่จะปิดมาร์กใส่หน้ากากดำตลอดเวลา ทั้งๆที่เขาไม่เคยทำอย่างนี้มาก่อน ไม่เหมือนยองแจที่ต้องใส่มาร์กเพราะเป็นภูมิแพ้ หรือแจ๊กสันที่ใส่เพราะต้องปกปิดสิวขึ้นเพราะทำงานหนักพักผ่อนน้อย ส่วนผมจะใส่มันเฉพาะเวลาที่ขี้เกียจโกนหนวดหรือ ขี้เกียจแต่งหน้าเท่านั้นแหละ
"เห้ย !! ลีดเดอร์ก็คนนะ" หลายครั้งที่ผมอยากจะตะโกนออกมาดังๆ เพราะผมต้องคอยประคับประครอง ผลักดันและกระตุ้นทีมGOT7 ให้ทำงานออกมาได้สำเร็จสมบูรณ์แบบ สมกับที่แฟนๆและสตาฟทีมงาน รวมถึงผู้ที่มอบรางวัลเหล่านั้นให้เรา รอคอยและตั้งความหวัง แต่ในความจริงหน่ะผมน้อยใจจะตายอยู่แล้วเนี่ย ทำไมจินยองไม่มีแม้แต่รอยยิ้มให้ผมเลย นี่มันเกือบ 72 ชั่วโมงแล้วนะ ผมไม่มีแรงจะทำอะไรแล้ว... ผมอยากจะทิ้งทุกอย่างแล้วไปจากที่นี่ ตอนนี้ผมไม่มีความสุขกับงานในฝันของผมสักนิด...ถ้าไม่มีรอยยิ้มนั่น...
คืนสุดท้ายที่ประเทศจีน ก่อนที่พวกเราจะได้รับรางวัลสุดท้ายอันที่สามจากงานที่เซินเจิ้น รางวัลนักร้องหน้าใหม่ จากงานมอบรางวัลจากชาร์ตเพลงที่ทรงอิทธิพลที่สุดของประเทศจีน Most Promising Newcomer Award at the 15th Top Chinese Music Festival ในอาคารสูงของโรงแรม 5ดาว ท่ามกลางวิวกลางคืนของหมู่ตึกที่ประดับไฟหลากสี แสงสวยงามวิบวับ ระยิบระยับสว่างไสวจนไม่ต้องง้อแสงใดใดจากดวงดาวบนท้องฟ้า เป็นวิวที่มองเห็นได้จากในห้องพักสำหรับสมาชิก GOT7 ที่แบ่งกันนอนห้องละ 2 คน วันนี้ แจบอมได้ พักกับจินยอง เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนเพราะจินยองเอาแต่หลบเลี่ยงขอเปลี่ยนห้องเองมาตลอด แต่ตอนนี้ไม่มีสมาชิกคนไหนจะกล้าทานทนรังสีอำมะหิตที่พุ่งปรี๊ดออกมาไม่ยั้งจากลีดเดอร์แจบอมที่ดูอารมณ์ไม่ดีและอยู่ในมูดที่ดาร์กสุดๆ จินยองจึงต้องอาสาเป็นแบรริเออร์ให้น้องๆแทนอย่างเสียไม่ได้ เลยทำให้พวกเขาได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองในที่สุด
มือบางค่อยๆหยิบหนังสือเล่มเล็กออกมาจากกระเป๋าสะพายเบาๆเพราะกลัวคนที่นอนใส่หูฟังอยู่บนเตียงใหญ่ขนาดคิงไซส์จะตื่น เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะนอนเตียงเดียวกัน เพราะบางทีบางโรงแรมก็จัดเตียงคู่ให้ไม่ทัน ในงานรับรางวัลใหญ่ที่มีทั้งแขกมาพักและแฟนๆมาร่วมงานนับไม่ถ้วน และพวกเขาก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน ระหว่างตระเวนคอนเสริตหรือออกอีเว้นตามที่ต่างๆ หลังจากซ้อมจนเหนื่อยก็ใช้โรงแรมเป็นแค่ที่อาบน้ำและซุกหัวนอนไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น การนอนคู่กับใครก็เหมือนกัน เพราะบางทีก็เหนื่อยมากจนแทบไม่ได้คุยกันแล้วหลับไป
"แค๊กๆ " ด้วยความเย็นของแอร์ในห้องทำให้จินยองระคายคอ จนไอออกมาเบาๆ แต่ก็ทำให้คนที่นอนคิ้วขมวดใส่หูฟังยังได้ยิน จนลืมตาขึ้นมา
"ขอโทษนะครับที่ส่งเสียงรบกวน พี่นอนพักผ่อนต่อเถอะครับผมจะพยายามไม่ไอออกมาอีก ผม.."ไม่ทันที่จินยองจะพูดอะไรต่อแจบอมก็ลุกขึ้นมาแล้วเดินย่างสามขุมเข้าหา เขาเอามือหนาปัดผมหน้าของจินยองออก แล้ววางมือใหญ่ไว้ที่หน้าผากของน้อง ก่อนจะเอามืออีกข้างจับหน้าผากของตัวเองบ้างเพื่อวัดอุณหภูมิร่างกายของคนตรงหน้า
"นายนั่นแหละ มีไข้ มากินยาก่อนแล้วนอนพักเถอะ ไม่ต้องอ่านหนังสือบ้าๆนั่นสักวันคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง?" แจบอมหันกลับหลังเดินไปหยิบยาลดไข้จากกระเป๋าส่วนตัวของเขาพร้อมกับรินน้ำอุ่นจากกาที่เขาเสียบไว้ก่อนที่จินยองจะเข้ามาในห้อง ให้น้องรับไป แล้วดึงหนังสือเล่มน้อยนั่นออกมาจากมือของจินยอง
น้องทำตาโตใส่ แล้วก็พองแก้มเป็นเชิงว่าไม่อยากกินยา ก่อนจะโดนสายตาที่ดุกว่าครั้งไหนของคนพี่โหมดดาร์คมองกลับมา มันน่ากลัวมากจนจินยองตัวแข็งทื่อไม่กล้าหายใจ สายตาที่ถึงจะอยู่ในห้องของโรงแรมที่มีแค่แสงสลัวมัวซัว แต่แววตาเข้ม เหวี่ยงนั่นก็น่ากลัวกว่าที่เคยเห็น วูบหนึ่งแจบบอมดูราวกับคนห่างไกลที่เขาไม่เคยรู้จัก แจบอมปล่อยมือจากเขา เมื่อเขายอมกลืนยานั่นแล้วสบัดหน้าหันหลังให้ และกำลังจะเดินไปออกไปทางประตูห้อง แต่อยู่ๆขอบตาของจินยองก็ร้อนผ่าว และมีน้ำตาอุ่นๆ ใสๆหยดออกมา
"ฮึก.." เสียงสะอื้นเบาๆของจินยองทำให้แจบอมหันกลับมามอง ไอ้หูฟังที่เสียบไว้นั่นมันไม่ได้เปิดเพลงอะไรทั้งนั้นจึงได้ยินแม้เสียงสะอื้นที่เก็บกลืนอย่างแผ่วเบาของคนน้อง
แจบอมสาวท้าวอย่างรวดเร็วไปที่ประตูข้างหน้าต่อเพื่อล๊อกห้องและคล้องโซ่ ก่อนจะเดินกลับมากระชากข้อมือของจินยองที่กำลังยืนเหวอ แล้วลากเหวี่ยงผลักน้องลงบนเตียง จากนั้นก็ขึ้นคร่อม...
สองมือของแจบอมเท้ารับน้ำหนักตัวเองไว้อยู่ด้านบนของร่างจินยองที่ตะแคงนอนยกข้อมือ 2 ข้างของตนเองมากอดชิดอก และตัวสั่นด้วยท่าทีหวาดกลัว พร้อมกับหัวใจที่เต้นรัวถี่แทบระเบิด
จินยองหลับตาปี๋เบือนหน้าหลบไม่กล้าสู้หน้า จนผ่านไปสักพักก็ไม่ได้ถูกทำอะไร ยกเว้นมีหยดน้ำอุ่นๆหยดลงมากระทบแก้ม เขาจึงเลือกลืมตา และหันมองตรงไปยังคนตรงหน้าที่กำลังมองเขาอยู่
ดวงตาตี่เรียวแดงก่ำ เต็มไปด้วยหยาดน้ำตารีบยกมือปัดหน้าตัวเองแล้วหันหลังให้คนน้องที่นอนอยู่บนเตียงพร้อมกับเอ่ยคำว่า "ขอโทษ..นะ" ก่อนจะเดินจากไป...
แต่จินยองไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น เขาเด้งตัวขึ้นมาเพื่อกอดเอวด้านหลังของแจบอมไว้ ก่อนที่ร่างสูงจะเดินออกไปไกลกว่าที่มือบางนั้นจะเอื้อมถึง ร่างบางด้านหลังเริ่มร้องไห้ออกมาเหมือนกันแถมยังสะอึกสะอื้นเสียหนักจนตัวโยน จนคนที่ทำท่าจะเดินจากไปตอนแรก ต้องแกะแขนที่กอดเอวของเขาไว้ออก แล้วหันกลับมาหา โดยย่อขาคุกเข่าหนึ่งข้าง ตั้งชันเข่าขึ้นอีกข้าง มือหนาค่อยๆลูบผมดำนิ่มบนศีรษะ ทุย ของคนตรงหน้าอย่างเบามือเป็นเชิงปลอบอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจ กอดรั้งคนตรงหน้าเข้ามาซบกับไหล่ของเขาเต็มๆ
"จินยองอ่า นายอย่าทำแบบนี้ ...น้ำตาของนายทำให้พี่จะขาดใจตายได้นะ" พอพูดจบแจบอมก็ปล่อยมือจากจินยองแล้วหงายหลังนอนแผ่ลงไปกับพรมบนพื้นห้องของโรงแรมทันที โดยที่จินยองได้แต่ตกใจ รีบตามลงจากเตียงไปดูร่างคนพี่จนตัวเขาเองสะดุดพรมแทบล้มหน้าคะมำ
"จะ..จะแจ..บอม..ฮยอง? พี่ล้อผมเล่นใช่ไหม?" จินยองบังคับตัวเองให้หยุดร้องไห้ แล้วค่อยๆเลื่อนตัวเข้าไปใกล้ร่างของแจบอมที่นอนนิ่ง เขายื่นมือออกไปช้าๆอย่างกล้าๆกลัวๆ เพื่อเอาไปอังตรงจมูกดูว่าร่างสูงของคนพี่ยังหายใจอยู่หรือไม่
"ควับ !! จับได้แล้ว ฮิ ฮิ" ไม่ทันระวังตัว อยู่ๆเอวบางของจินยองก็โดนมือของคนพี่ที่ทำทีแกล้งตายรวบเข้าหาร่างที่นอนอยู่ ตาตี่ ปิดสนิทยิ้มกว้าง พร้อมกับรีบเอามืออีกข้างดันศีรษะน้องให้ซบซุกกับต้นคออุ่นของตัวเองไว้แน่น อย่างกับกลัวน้องจะหนี
จินยองดิ้นพอเป็นพิธี ก่อนจะยอมทิ้งตัวซบคนตรงหน้า พร้อมกับพูดเสียงหวานอู้อี้ในลำคอ
"ฮยอง อ๊า... ผมรู้สึกแปลกๆอีกแล้ว หัวใจผมเต้นเร็วมาก มากกกๆๆๆๆๆๆๆ จน จะเป็นบ้าอยู่แล้ว" จินยองกำมือหลวมๆแล้วทุบหน้าอกคนพี่เบาๆอย่างน่ารัก
"แค่หัวใจเต้นเร็วมาก นายเลยหลบหน้าฉันเนี่ยนะ?" แจบอมลืมตามองคนตรงหน้าพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
"ก็ปรกติเวลาซ้อมเหนื่อยก็เป็นแหละ แต่หลังๆมานี่ขนาดไม่ได้ซ้อมอะไร ไม่ได้เหนื่อย มันก็เต้นแรงมากตลอดเวลาที่เห็นหน้าฮยองอ่ะ (จริงๆมันก็เป็นมาตั้งแต่เจอฮยองครั้งแรกในวันออดิชั่นนั่นแหละ) แต่มันเพิ่งมาเป็นหนักมากหลังจากคอนเสริต ที่ญี่ปุ่น วันที่ฮยองร้องไห้ด้วยความตื้นตันที่เราได้เดบิวที่ญี่ปุ่นแล้วกอดผมไว้ ฮยองซบไหล่ผมบนเวทีต่อหน้าคนเป็นหมื่น เป็นผมคนเดียวที่ได้รับอ้อมกอดนั่น ผมดีใจมากจนจากวันนั้นก็ไม่สามารถมองหน้าฮยองแบบปรกติได้อีกเลย...งือ.."
"ใช่ ก็เป็นนายคนเดียว เป็นนายมาตั้งแต่ต้นแล้วหนิ ปาร์คจินยอง คนที่ฉันเลือก ไอ้อาการหัวใจเต้นเร็วหน่ะ ฉันก็เป็น เป็นก่อนนายอีก เป็นมากกว่านายด้วย ตั้งแต่ที่ได้สบตานายครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อนแล้วเถอะ" แจบอมปล่อยมือที่ลูบศีรษะจินยองมาดึงแก้มนุ่มๆพองๆ ขึ้นสีชมพูให้ยืดออก แล้วพลิกดันตัวเองให้ลุกขึ้นอุ้มจินยอง ช้อนตัวน้องในท่าเจ้าสาวมาวางลงบนเตียง
"เด็กโง่เอ้ย อ่านหนังสือตั้งเยอะ ไม่เห็นฉลาดขึ้นมาบ้างเลย พักผ่อนเถอะนะ พรุ่งนี้รับรางวัลแล้วก็ต้องขึ้นโชว์อีก หายป่วยไวๆนะ" แจบอมจุ๊บหน้าผากจินยองก่อนจะเอียงคอมองน้องที่ทำท่าขยุกขยิก
"อืมมม..ง่วง ...แต่ผมยังไม่ได้อาบน้ำเลยนะ" จินยองโวยวายและทำท่าแกะคอเสื้อตัวเองออก
"นอนลงไปดีๆ เดี๋ยวพี่เช็ดตัวให้" แจบอมใช้นิ้วชี้ดันหน้าผากคนงอแง ให้หัวลงไปติดหมอนหลังลงไปติดเตียง แล้วเดินไปหยิบผ้าขนหนูในห้องน้ำกับเสื้อผ้าชุดนอนของจินยองจากกระเป๋าเดินทางมาวางข้างเตียง
"เอาจริงดิ?" จินยองที่ว่าหน้าแดงเพราะฤทธิ์ไข้ให้หน้าแดงหนักขึ้นไปอีก หูเหอไม่มีเหลือสีเนื้อไว้สักนิด เมื่อแจบอมทิ้งน้ำหนักลงบนที่นอนข้างๆตัวเขา คนพี่ค่อยๆปลดกระดุมเสื้อเชิตของเขาออก ส่วนตัวเขาหน่ะได้แต่หลับตาปี๋ด้วยความเขิน แถมหัวใจยังเต้นไวอย่างกับไปวิ่งมาร้อยกิโลเมตร ฮรืออ หัวใจผมทำงานหนักเกินไปแล้วนะ จินยองเขินจนอยากจะระเบิดตัวตายอยู่แล้ว
ผ่านไปสักพัก ความร้อนจากร่างกายค่อยๆลดลงเพราะถูกถ่ายเทไปยังผ้าเช็ดตัวที่ชื้นเย็น มันซับเหงื่อและดูดความร้อนออกไป ทำให้จินยองรู้สึกสบายตัวขึ้นจนหลับไปทั้งอย่างนั้น ทำให้คนพี่ที่เช็ดตัวให้อมยิ้มอย่างเอ็นดู แต่ก็สลับกับการถอนหายใจข่มความรู้สึกที่ได้สัมผัสผิวขาวเนียนลื่น เต่งนุ่มตึงไร้ตำหนิของคนน้องแบบใกล้ชิดที่สุดในชีวิตแบบนี้
"ท่องไว้ๆๆๆ อิม แจบอม น้องไม่สบายๆๆๆ พรุ่งนี้มีโชว์ๆๆๆ ห้ามมีรอยๆๆๆ เอ้ย!! " แจบอมรีบเอาศีรษะของตัวเองโขกหัวเตียงเมื่อเผลอไผลประทับจูบลงไปบนริมฝีปากอิ่มสวยที่เผยอนิดๆอย่างปล่อยตามธรรมชาติเพราะเจ้าของหลับไปด้วยฤทธิ์ยาแล้ว
"เฮ้อ จากคอนเสริตเดบิวที่ญี่ปุ่นนั่นมันก็เกือบครึ่งปีมาแล้ว ฉันเผลอแสดงความอ่อนแอออกมาก็เพราะมีนายอยู่ด้วยนั่นแหละ แล้วที่นายหลบหน้าจนฉันแทบเป็นบ้าเพราะเรื่องนี้นี่มันไม่ประสาจริงๆนะ ความรู้สึกชอบก็ไม่รู้จัก ความรู้สึกรักก็ไม่เคยเจอ เชิญอ่านหนังสือให้ตายนายก็ไม่เข้าใจหรอก ต้องให้ฉันสอนอยู่เรื่อยน๊า ปาร์ค จินยอง" แจบอมเช็ดตัวให้น้องอย่างสะอาดหมดจรด แทบทุกซอกมุม แถมแต่งตัวให้เรียบร้อย และคอยเปลี่ยนผ้าชุบน้ำโป๊ะหน้าผากทั้งคืน จนรุ่งสางไข้ของจินยองก็ลดลง เขาจึงได้เอนหลังหลับอย่างเต็มตา
ในที่สุดงานรับรางวัล งานที่ 3 ในประเทศจีนก็มีรูป จินยอง ยืนข้างแจบอมออกมาสักที แถมมีรอยยิ้มน้อยๆ ติดมาแทบทุกรูป ซึ่งนอกจากแจบอมจะยิ้มเป็น 5เท่าของทุกงานแล้ว แม่ๆแฟนไซท์ของจินยองต่างก็โล่งอกที่เทวดาจินยองของพวกเธอกลับมาเป็นปรกติแล้ว และโชว์ในวันนั้นก็ผ่านไปด้วยดี จนพวกเขาได้กลับมาที่เกาหลี
.
..
...
....
เดี๋ยวพวกเราจะมีทัวร์อเมริกา 10 วัน ถือว่าไปทำงานและพักผ่อนในตัวนะ ระหว่างนี้ให้จับบัดดี้ดูแลกันเป็นพิเศษหน่อย เพราะ จินยองต้องซ้อมคอนเสริต ถ่ายละคร ไปเป็นพิธีกรmusic bank แล้วก็อัด real got7 season 3 อีก ขอบคุณที่ทำงานหนักเพื่อ GOT7 ของเรานะ ฉะนั้นฉันจะดูแลนายเอง อ้อ แจ๊กสันกับ แบมแบมก็เหมือนกัน พวกนายก็ตั้งใจทำงานเพื่อให้พวกเราเป็นที่รู้จัก ยังไงก็วาน ยองแจดูแลแจ๊กสัน กับมาร์ค ช่วยดูแลแบมแบมให้ดีด้วยนะ ช่วยดูคู่ของตัวเองไม่ให้ฝืนตัวเองเกินไป ถ้าเหนื่อยก็พัก ระวังอย่าให้ป่วยหรือบาดเจ็บ ไม่ใช่กลัวพวกนายจะเป็นภาระ แต่ว่าเป็นห่วงหน่ะ เข้าใจนะ ส่วนยูคยอมจะไปเล่นกับโจอี้ แอนดริว เพื่อนมาร์คอะไรก็ตามใจ แต่อย่าลืมซ้อมให้หนัก เพราะนายต้องเป็นตัวยืนตลอดโชว์ทั้ง 4 รอบในครั้งนี้ แจบอมชี้แจงสมาชิกและปล่อยให้ทุกคนมีเวลาส่วนตัวก่อนจะลงจากเครื่องบิน
"เกาหลี ญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน ไทย มาเลเซีย ฟิลิปินส์ เวียดนาม จีน สิงคโปร แล้วในที่สุดก็มาถึงอเมริกา เดบิวมาได้ปีเดียวนิดๆนี่ไปซะแทบจะรอบโลกเลยนะ" แจบอมนั่งอยู่บนเก้าอี้ชั้นบิสิเนสคลาสบนเครื่องบินทำเป็นเอียงคอซบแก้มขาวอมชมพูนุ่มของคนตรงข้าง แล้วกดมือถือถ่ายเซลฟี่ รูปของเขากับคนข้างๆ เก็บไว้ในมือถือ อย่างอารมณ์ดี จนคนน่ารักข้างๆอดไม่ได้ที่จะเอามือดันผิวหน้ายืดตาตี่นั่นให้ขีดเป็นเส้นตรงขี้ขึ้นอย่างหมั่นเขี้ยวแล้วก็หัวเราะ จนตาหยี
"พี่จะไม่ตัดผมหน้าหน่อยเหรอ?" จินยองแหวกผมม้ายาวปิดตาของคนตรงข้างไปมาอย่างสนุกมือซึ่งร่างหนาก็ให้ความร่วมมืออย่างดีไม่ได้ขยับหนีหรือบ่นอะไร
"มัดจุกหน่อยไหม?" จินยองทำท่ารวบผมจุกคนข้างๆขึ้นมา จนคนชิคหันมาขโมยหอมแก้มซะ ให้
"ไม่เอา มันไม่ร๊อก!!" แจบอมยิ้มทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้กับสิ่งที่ทำไป ในขณะที่จินยองรีบปล่อยมือที่เล่นผมอยู่แล้วเอามาทุบไหล่หนาของคนข้างๆ ด้วยแก้มขึ้นสี กับท่าทางเขินๆ ซึ่งน่ารักสุดๆ
ระหว่างที่อยู่อเมริกา พวกเขามีโอกาสไปเที่ยวบ้านของมาร์ค และจัดปาร์ตี้ริมสระน้ำรวมถึงฉลองวันเกิดให้แบมแบม แม้จะเป็นเวลาสั้นๆ แต่แฟนๆที่นี่ก็เชื่อฟังให้ความเป็นส่วนตัวกับพวกเขา ให้เหล่า GOT7 ได้เที่ยวสนุก กินของอร่อยเหมือนวัยรุ่นทั่วไปสมกับวัยของพวกเขา ได้ชาร์จพลังเพื่อกลับไปทำตามความฝันสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จัก เป็นวงดังที่มีเพียงหนึ่งเดียวไม่เหมือนใคร
ในคอนเสริตมีเรื่องให้หัวใจของจินยองต้องทำงานหนักอีกครั้ง เมื่อแจบอมเลือกคำถามจากแฟนๆที่ไม่มีในสคริปขึ้นมา คำถามนั้นถามว่า แจบอมชอบโนร่า หรือจินยองมากกว่ากัน วินาทีนั้นเขาทำหน้าไม่ถูกเลยถ้าแจบอมบอกว่าชอบโนร่ามากกว่าจะทำยังไง เพราะโนร่าเป็นแมวที่แจบอมรักมาก เพ้อถึงแทบทุกลมหายใจเข้าออก ถ้าเขาต้องแพ้แมวนี่คงจะอับอายมาก จินยองจึงรีบชิงพูดขึ้นมาว่าผมคือโนร่า แต่แจบอมกลับตอบไปว่าเขาชอบจินยองมากกว่า ในหัวใจของจินยองนี่แทบจะพองจนแตกออกมา เพราะอย่างที่รู้ว่าแจบอมชอบโนร่ามาก รักมาก หากมากกว่านั้นคือ ตัวเขา มันมากก ดีใจมากจนบรรยายออกมาไม่ถูก แถมคอนเสริตวันสุดท้ายที่ดัลลัสเนี่ย แจบอมยังใส่เสื้อกล้ามสีดำโชว์กล้าม ช่วงอกบนแน่นกับแขนขาวล่ำ ทิ้งผมเซอร์ หล่อมากแถมยังแหกปาก ร้องเพลงของพวกเขาให้ดูอย่างกับเป็นเพลงร๊อกได้อีก เป็นคนที่มีเรื่องให้แปลกใจ และประทับใจได้ตลอดเวลาเลยนะ คิดแล้วก็ใจเต้นตึกตักไม่หยุดอีกแล้ว....งือ....
.
..
...
....
หลังจากกลับจากอเมริกาจินยองก็งานยุ่งมากขึ้นไปอีกเพราะละครใกล้ออนแอร์ และต้องมีการถ่ายซ่อมหลายฉาก บางทีกว่าน้องจะกลับมาก็ค่อนแจ้ง ส่วนแจบอมต้องเข้าห้องอัดบ้าง ไปต่อท่าเต้นสำหรับเพลงใหม่บ้าง ประชุมทีมงานสำหรับการคัมแบ๊คบ้าง ทำให้คลาดกับจินยองเกือบตลอด ถ้านับตั้งแต่กลับจากจีนเมื่อเดือนก่อน ความสนิทสนมของพวกเขาก็กลับมาเหมือนเดิมนิดหน่อย ช่วงไปอเมริกาเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนก็นับว่าดีขึ้นมาก เขาได้ถ่ายรูปจินยองด้วยกล้อง DSLR แสนรักส่วนตัวที่ซื้อมาดองไว้ก่อนหน้านี้ แต่ก็เพื่อการนี้(ถ่ายรูปจินยอง)หล่ะนะ แม้จะมีสมาชิก GOT7 คนอื่นอยากจะเข้ากล้องมากก็ตาม เขายอมถ่ายภาพคนอื่นให้ไม่เกิน 10 รูป อย่างอิดออด ซึ่งก็ไม่เท่านายแบบในฝันของเขาหรอก รอบนี้เขาได้ถ่ายรูปจินยองสบายๆ กลางแจ้งสมความตั้งใจเยอะมาก คนอะไรขึ้นกล้องสุดๆน่ารักดูดีไปหมด ดวงตากลมโตซุกซน ดูมีเสน่ห์ การโพสท่า รูปร่าง การแต่งตัวก็เฟอเฟคทุกอย่าง(หลงมาก) แต่ตอนนี้หน่ะคิดถึงมากกกก
"วันนี้ 150523 แล้วนะ อีก 5 นาทีจะเข้าวันที่ 150524 วันครบรอบ 3 ปี JJProject แล้ว แฟนๆต่างเริ่ม เทรน #3YesrsOnTimeWithJJProject กันใหญ่ นายที่ให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้ตลอดทำไมยังไม่กลับหอมาหาชั้นเนี่ย?" แจบอมหงุดหงิดหนัก ถึงเขาจะเคยบอกไปว่าจำวันนี้ไม่ได้ แต่เขาหน่ะไม่เคยลืมหรอกนะ เด็กขี้แย ตอนรับรางวัลที่ออดิชั่นชนะ ก็ร้องไห้ ตอนเดบิววันแรกก็ร้องให้ ตอนครบรอบ 1 ปีของ JJP ก็ร้องให้ ตอนครบรอบ 2 ปีของJJP ก็ร้องไห้ แล้วตอนครบรอบ 3 ปี JJP นายต้องมาร้องไห้ให้ฉันปลอบเหมือนทุกทีซะดีๆสิ ....
แจบอมเข้าไปนอนรอในห้องของจินยองพร้อมกับเอาผ้าเชียร์สีแดงที่จินยองเอามาให้เขาหลังจากไปคอนเสริต JYP Nation 2014 ที่ประเทศไทยเมื่อปลายปีที่แล้ว บนนั้นมีข้อความว่า JJProject We're waiting for you เอามานอนกัดพร้อมกับกลิ้งไปมาบนเตียงของน้องด้วยความหมั่นเขี้ยวจนชายผ้ารุ่ย แล้วก็หลับไปเพราะวันนี้เขาเองก็เหนื่อยจากการซ้อมมากเหมือนกัน ทั้งๆแบบนั้น
ถึงจะไม่ใช่คนติดโซเชียล แต่ตอนนี้มันก็เป็นวันที่ 24 พค.2015 ครบรอบ 3 ปี JJProject แล้วนะ ถึงจะเลยมา 3 ชั่วโมงกว่าแล้วก็ตาม แต่นอกจากแฟนๆในทามโซนที่ต่างกัน เทรนมาอวยพรแล้ว ยังไม่มีสมาชิกของบริษัท JYP หรือ สมาชิก GOT7 คนไหนส่งข้อความมาแสดงความยินดีเลย ป่านนี้คงหลับกันหมดแล้วมั้ง หรือไม่ก็คงไม่มีใครจำได้สินะ...
หลังจากพยายามอยู่เกือบ 2 เดือน จินยองก็ได้รับการยอมรับจากผู้กำกับและคนในกองถ่ายว่ามีแววพอจะเป็นนักแสดงได้(แค่นี้ก็ถือเป็นคำชมแล้วหล่ะ) เพราะตอนแรกหน่ะเขาแคสติ้งได้ไม่ดี จนผู้กำกับถึงกับบอกว่า ถ้านายได้รับเลือกนั่นก็เป็นเพราะได้ความหน้าตาดีมาจากพ่อแม่ ไม่ใช่เพราะฝีมือของนาย ไม่มีอะไรเจ็บปวดไปกว่านี้แล้วบนเส้นทางเริ่มต้นในสายนักแสดงของเขา ตั้งแต่เดบิว เขาก็มักจะทำงานกับแจบอมมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นร้องเพลงครั้งแรก ละครเรื่องแรก แจกลายเซนต์ครั้งแรก มีรายการทีวีของตัวเองครั้งแรก ตอนแรกมันก็สนุกกับสิ่งแปลกใหม่ที่เป็นครั้งแรก แต่พอนานเข้า เมื่อมีของ 2 สิ่ง มนุษย์ก็มักเกิดการเปรียบเทียบ แจบอมได้เป็นพระเอกละคร ได้ไปออกรายการเดท ได้ร้องเพลงเดี่ยวประกอบละคร และติดโผไอดอลหน้าตาดี ในขณะที่เขาถูกว่าว่าเป็นตัวถ่วงเกาะพี่ ถ้าแจบอมได้เดบิวคนเดียวอาจจะไปได้ไกลกว่านี้ ทั้งน้ำเสียงที่ดีมีเอกลักษณ์ หน้าตาและบุคลิคดูดีมีเสน่ห์ ...ก็ใช่ ที่คนอื่นพูดมามันก็ถูก แต่จินยองเองก็รักการร้องเพลงเต้นรำนะ เมื่อมีโอกาสถึงขั้นเดบิว เขาก็ไม่ยอมทิ้งมันไปแน่ๆ ปีแรกในฐานะ JJProject มันสนุกมาก ถึงมันจะไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไรมากมาย แต่เขาก็ไม่ได้เสียดายอะไรที่ผ่านมาเลยสักนิด เขานึกถึงคำพูดของผู้กำกับก่อนที่จะเลิกกองว่า เขามีแววนะ สนใจจะเลิกเป็นไอดอลแล้วมาเป็นนักแสดงอย่างจริงจังไหม? ตอนนี้ระหว่างเดินกลับหอจินยองก็คิดนะ"ถ้าเขาเลือกทางเดินอีกอย่าง อนาคตจะเปลี่ยนไปไหม?"
พักหลัง หลังจากสอบเข้ามหาวิทยาลัยในคณะเอกการแสดงได้เขาก็สนใจเรื่องการแสดงมากขึ้น อ่านหนังสือมากขึ้น มีโลกส่วนตัวมากขึ้น ตอนแรกที่ได้รับคำสั่งว่าจะต้องกลับมาเทรนใหม่เพื่อเดบิวใหม่เป็นทีม GOT7 เขาแทบจะปฏิเสธไป แต่สิ่งเดียวที่ทำให้เขายอมตกลงก็คือ แจบอม ยอมตกลง เขาก็ยอมตกลงเช่นกัน สมาชิกทีมที่ทางบริษัทคัดเข้ามาก็น่ารัก อัธยาศัยดี เข้ากันได้ดีกับเขา แต่เวลาที่แจบอมมีให้กับเขาก็น้อยลงๆ สุดท้ายเป็นตัวเขาเองด้วยที่อยากเดบิว ทำให้ต้องทุ่มเทมากขึ้น ด้วยความมีประสบการณ์ในวงการมาก่อน ทำให้เขาต้องยื่นมือไปช่วยแจบอมดูแลน้องๆด้วยอยู่ดี ในที่สุด
JJProject มันไม่ได้หายไปไหน แค่เป็นครอบครัวใหญ่ขึ้นแล้วใส่เสื้อตัวใหม่ที่ชื่อ GOT7 เท่านั้น เขาคิดแบบนี้ สบายใจแบบนี้ จนกระทั่งแจบอมบอกว่า ลืมวันเดบิวไปแล้ว และ JJP คืออะไรนั่นแหละ น้องๆจะคิดยังไงถ้ามัวจมอยู่กับอดีต แจบอมพูดถูกแล้วหล่ะ เขาเหมาะสมที่จะเป็นลีดเดอร์แล้ว แล้วตัวเขาหล่ะ นี่ก็ 3 ปีแล้วนะ เขามีอะไรดีขึ้นบ้างไหม? จินยองลากขาอย่างอ้อยอิ่งขึ้นมาบนหอชั้น 7 โดยไม่ใช้ลิฟท์ เขาอยากใช้ความคิดวางแผนชีวิตต่อจากนี้ไปให้ดีที่สุด
JJProject ไม่ใช่จุดเริ่มต้นของทุกอย่าง แจบอมกับเขาต่างหากคือจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง JJProject คือเสื้อตัวแรกที่พวกเขาใส่ออกไปเดินให้ผู้คนรู้จัก GOT7 คือเสื้อตัวต่อมาที่เขาเปลี่ยนใส่เพื่อออกไปยังดินแดนที่กว้างใหญ่ขึ้น เขาแค่สวมมันทับกันไว้ทั้งสองตัวโดยไม่ได้ถอดเสื้อตัวแรกออกเท่านั้นแหละน่า ต่อไปนี้เขาจะซื่อตรงต่อตัวเองมากขึ้น เป็นคนที่ดีมากขึ้น ให้เหมาะสมกับคนที่เขาจะเดินไปด้วยมากขึ้น จินยองอมยิ้มให้กับความตั้งใจของตัวเองในเวลาตี 3 เกือบตี 4 ที่ผุดขึ้นมา
เมื่อเข้าไปในหอ เขาเดินเลี้ยวไปยังห้องของตัวเองในความมืดได้อย่างคุ้นเคยแต่ก็มีบางสิ่งทำให้เขาต้องสะดุ้งใจหายแวบเมื่อเห็นมีก้อนอะไรดิ้นอยู่บนเตียงของเขาเมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องย่อยของตัวเอง
จินยองทำใจดีสู้เมื่อย่องเข้าไปใกล้เตียงของตัวเองมากขึ้น เขายกมือถือขึ้นมาส่องโดยไม่ยอมเปิดไฟในห้องถึงแม้จะกลัวมากก็ตาม เพราะเขาเกรงใจแบมแบม กับยูคยอมที่อยู่ห้องเดียวกัน ต่างแค่ผนังกั้น แต่ใช้ดวงไฟเพดาน ฝ้า และแอร์ตัวเดียวกัน เขารู้ว่าน้องๆคงเหนื่อยจากการซ้อมมาก จึงไม่อยากเปิดไฟให้รบกวน
แสงไฟมัวๆกระทบผ้าเชียร์ที่คาอยู่ในปากของใครบางคน เมื่อยกจอมือถือเข้าไปใกล้ก้อนกลมๆ ใบหน้าขาวๆกับไฝ 2 เม็ดบนเปลือกตาของร่างที่นอนอยู่ก็ทำให้เขายิ้มออกมาทันทีเมื่อรู้ว่าเป็นใคร
"พี่แจบอมมารอผมเหรอ ?" จินยองแอบอมยิ้ม พูดเบาๆให้กับก้อนกลมที่เขาคิดว่าหลับอยู่ พร้อมกับก้มลงจูบที่เปลือกตาของคนๆนั้น
"ปาร์ค จินยอง นายโตขึ้นมากทีเดียว" เสียงหวานทุ้มดังขึ้นในความมืด พร้อมกับพลิกตัวกอดร่างบางที่นั่งห้อยขาเอี้ยวตัวอยู่ข้างเตียง จับกดลงกับเตียงนุ่ม พร้อมกับสวมอ้อมกอดใส่โดยพละการ
ร่างบางอึกอักทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะยิ้มรับจุ๊บ กลางเหม่งหน้าผากพร้อมกับคำว่า "สุขสรรครบรอบ 3 ปี JJProject ของเรานะ ปีนี้ก็ฝากตัวด้วยหล่ะ" จากคนพี่ ตาตี่ ที่เวลานี้มีแต่ความมืดปกคลุม แต่แววตาลุ่มลึกนั่นก็เหมือนมีแรงดึงดูด จนจินยองไม่รอช้าที่จะกอดตอบพร้อมกับพูดว่า "เช่นกันครับ ปีนี้เราก็มาพยายามทำงานหนักเพื่อแฟนๆเหมือนเดิมนะครับ ...ผมดีใจมากเลยที่พี่แจบอมได้มาอยู่ตรงนี้ ในหัวใจของผม..."
"หือ..? นี่ฉันไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม จินยอง นายกินอะไรผิดสำแดง หรือมีอะไรมากระทบกระเทือนทางสมองหรือป่าวเนี่ย?" แจบอมพยายามเลิกตาตี่ๆของเขาเพื่อมองหน้าคนในอ้อมแขนตรงหน้าชัดๆ
"อะไรเล่า ผมแค่สัญญากับตัวเองว่าต่อไปนี้จะซื่อตรงต่อความรู้สึกของตัวเอง ... ก็เท่านั้น" คราวนี้คนในอ้อมแขนไม่หลบตา แถมยังทำหน้าแป้นแล้นน่ารักล้อเรียนกลับมา จนแจบอมเริ่มจะเขินเองซะแล้ว
"ผมแค่อธิฐานไว้ว่า ถ้าผู้กำกับยอมรับการแสดงของผม ผมจะมาสารภาพรัก กับคนที่ผมแอบชอบ..."
"หืมมม!!? " ตอนนี้ แจบอมนี่หน้ายิ้มแก้มแทบฉีก เขาเขินจนอ้าปากกว้างโชว์ฟัน 32 ซี่ ดีว่าหันไปด้านข้าง ยิ้ม ยิ้ม ยิ้มจนสาแก่ใจ แล้วหุบฟันลง หันมามองหน้าจินยองในอ้อมแขนเหมือนเดิม
"... พูดสิ....รอฟังอยู่" แจบอมก้มศีรษะเอาหน้าผากของเขามาแตะกับหน้าผากของจินยองแล้วหลับตาลงตั้งใจฟังคนตรงหน้า ทั้งที่ในใจ ร่างวิญญานของเขาออกไปวิ่งรอบหอด้วยความดีใจได้ 1250 รอบแล้ว
"พี่แจบอมครับ ขอบคุณที่ให้ผมอยู่ข้างๆมาจนถึงตอนนี้ พี่ทั้งหล่อกว่าผม เก่งกว่าผม ร้องเพลงเพราะกว่าผม เต้นก็ดีกว่าผม มีเสน่ห์จนผมไม่สามารถละสายตาไปไหนได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้เจอ เป็นคนดี ทั้งคำพูดการกระทำ และความคิด ขยัน อดทน ทุ่มเท มีความรับผิดชอบ รอบรู้ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี มีความเป็นผู้นำ พี่ทำได้ดีกว่าผมทุกอย่าง ผมจึงได้แต่อ่านหนังสือทั้งหลาย อ่านให้มากที่สุดเมื่อมีเวลาว่าง เผื่อวันหนึ่งผมจะได้เป็นเหมือนพี่ แล้วผมก็ตกหลุมรักพี่ ผมพยายามทำทุกวิถีทางไม่ให้ถูกพี่ทิ้งไว้ข้างหลัง อยากมีประโยชน์กับพี่ ผมหน่ะพยายามจะเป็นนักแสดงที่ดีเหมือนพี่ ผู้กำกับบอกว่าบทพระเอกวัย 17 หน่ะ จริงๆเขาสนใจพี่ แต่พอดีพี่หน้าแก่ไปจนจะเล่นพระเอกวัยผู้ใหญ่ได้เลย โชคดีก็เลยมาตกที่ผม ตอนแรกผมกดดันมากร้องให้ทุกวันเพราะทำได้ไม่ดี ผู้กำกับอยากให้ผมอินกับการสูญเสียนางเอก ผมก็ไม่เคยมีความรู้สึกนั้นพี่ก็รู้ ผมมีความสุขมากที่ได้เดบิวกับพี่ จนไม่รู้จะทำยังไงให้เป็นคนอมทุกข์ได้ ผมจึงตัดใจ ลบรูปในทวิตเตอร์และอินสตาแกรมของ JJProject ความทรงจำระหว่างผมกับพี่ที่ผมรักมาก จากนั้นผมก็สามารถอินกับความเจ็บปวดที่สิ่งที่รักหายไปได้อย่างดี จนได้รับคำชม พี่ลองดูละครที่ผมเล่นสิ ฉากที่นางเอกหายไปของผม นั่นคือความรู้สึกจริงๆถ้าพี่จากผมไป แค่ลองแสดงมันก็เจ็บปวดมากจนผมไม่กล้าสู้หน้าพี่ ผมไม่ได้บอกพี่เพราะกลัวพี่จะโกรธ คงโกรธไปแล้วสินะ ผมพยายามหลบหน้าพี่เพราะมันช่วยไม่ได้ที่นักแสดงอ่อนหัดอย่างผมจะมีความสุขเวลาอยู่ใกล้ๆพี่ ผมเลยต้องทรมานตัวเองให้เข้าถึงบทบาท ระหว่างนั้นหน่ะ ทรมานเกินบรรยายเชียวหล่ะ แต่ตอนนี้ผมก็ผ่านมันมาหมดแล้วนะ เพราะมีพี่ อิมแจบอมของผม ผมรักพี่นะครับ"
"เด็กบ้า นายโตขึ้นจนเป็นฝ่ายบอกรักฉันก่อนได้ยังไง ทั้งๆที่ไม่มีหนังสือเล่มไหนเคยเขียนไว้ทั้งนั้นนะ " วิธีพิชิตใจ อิม แจบอม หน่ะ" มีเพียงปาร์คจินยองคนเดียวที่ทำได้ ทีเรื่องแบบนี้ทำไมไม่ต้องให้สอนนะ ต้องทำโทษด้วยการ..." ริมฝีปากบางเหยียดของแจบอมค่อยๆยื่นลงมาแตะกลีบริมฝีปากแดงนุ่มนิ่มหอมหวานของจินยอง สัมผัสหวานหวาม บดเบียดละเลียดไล้คลึงถ่ายทอดอารมณ์รักอย่างนุ่มนวลเนิ่นนาน จนทั้งสองร่างอิ่มเอมใจ
"นายนี่เป็นตัวอย่างที่ดีเลยนะ ตอนแรกพี่อยากจะบอกจินยองว่าทำไมคนเรามักเอาแต่นึกถึงอดีตที่แสนหวานและจมอยู่กับความสุขที่เคยมี ทำไมไม่มองว่าอนาคตข้างหน้าอาจจะมีความสุขมากกว่านี้รออยู่ก็ได้นะ และนายก็ก้าวข้ามมันมาได้ พี่ก็รักนายนะจินยอง" แจบอมเลื่อนมือมาเชยคางน้องก่อนที่รอบนี้จะจูบหนักขึ้น ริมฝีปากประกบดูดส่งลิ้นลึกเข้าไปตระหวัดเกี่ยวทักทายคว้านชิมความหอมหวานล้ำลึกกว่าครั้งไหน จนคนน้องต้องกลั้นลมหายใจรับการบุกลุกไว้จนแทบหมดลม คนพี่จึงผล่ะออกให้เพราะคนน้องเริ่มครางอื้อ ดูอึดอัด
"ผมไม่ยอมให้พี่แจบอมกลายเป็นผู้ชายที่ดีพร้อมแซงหน้าไปได้ไกลหว่านี้หรอกครับ ผมกลัวถูกทิ้งไว้ข้างหลัง" จินยองใช้สองมือประครองใบหน้าคนพี่มาใกล้และจังหวะนี้เป็นเขาที่เป็นฝ่ายยืนริมฝีปากไปประทับจูบให้แจบอมก่อนบ้าง
"เด็กโง่ นายจะเครียดเกินไปแล้วนะ นายรู้ไหมที่พี่พยายามอย่างเต็มที่ทุกวันนี้เพราะอะไร เพราะพี่ไม่อยากเสียใจทีหลัง ไม่ว่านายได้รับรู้หรือไม่ การเป็นผู้ชายที่นายภูมิใจคือเป้าหมายของอิมแจบอมคนนี้ไงหล่ะ อิ อิ" รอยยิ้มที่จินยองหลงรัก ยิ้มให้และมองแต่เขาเสมอ วันนี้อยู่ใกล้มาก ทั้งสัมผัสได้ถึงความลึกซึ้งที่อบอุ่นไปจนถึงหัวใจ
"จินยองอ่า ถ้านายจะมองเห็นรอยเท้าที่พวกเราเคยเดินผ่านอะไรต่อมิอะไรเหล่านั้นด้วยกันมานะ... ยิ่งพี่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ ขึ้นไปอยู่สูงแค่ไหน ข้างๆรอยเท้าของพี่ก็มีรอยเท้าของนายอยู่ข้างๆเท่าๆกันเสมอนั่นแหละ รู้ไหม ไม่มีรอยเท้านายก็ไม่มีรอยเท้าของพี่ แล้วก็นะ เรื่องที่นายบอกว่าอยากเป็นเหมือนพี่หน่ะ เลิกคิดไปเลยนะ ถ้าปาร์คจินยอง เป็นเหมือนอิมแจบอมทุกอย่าง โลกนี้จะมีอิมแจบอมไว้ทำไม เพราะเราไม่เหมือนกันต่างหากถึงต้องการกันและกันไงหล่ะ มีพี่ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่นายขาด และมีนายช่วยเติมความหมายในสิ่งที่พี่ไม่มี อย่างนี้ไม่ดีกว่าเหรอ? เรื่องทีม GOT7 ก็เหมือนกัน พี่คงไม่มีสมาธิตอบคำถามหรือนำทีมทำอะไรๆไปข้างหน้า ถ้ามามัวพะวงกับความพร้อมของพวกน้องๆ แต่นายก็ยื่นมือมาให้ พี่ขอบใจมากนะ" รอบนี้ปลายจมูกคมโด่ง วนเวียนกับปลายจมูกรั้น มนไปมา สลับกับการเลื่อนไล้ไปยังแก้มนุ่มนิ่ม น่าเสน่ห์หาเป็นก้อนก่อนจะปิดประเด็นวันนี้
"ปาร์ค จินยอง ไม่ใช่แค่เมื่อก่อน ไม่ใช่แค่ตอนนี้ และไม่ใช่แค่ต่อจากนี้ไป พี่รักนายและอยากอยู่กับนายไปตลอดชีวิต นายจะอยู่กับพี่ไหม ?" เพราะมืดถึงเห็นหน้าพี่แจบอมไม่ถนัด หรือเพราะจินยองติ้นตันมากจนมีน้ำตาคลอกันนะ ถึงจะไม่เห็นสีหน้าคนตรงข้ามชัดๆ แต่สัมผัสและเสียง เหมือนมันดังก้องชัดเจนเข้าไปอยู่ในสมองและหัวใจของเขา
"........ขนาดนี้แล้ว.....ผมจะไปไหนได้หล่ะครับ " จินยองยิ้มรับเต็มที่ กระชับอ้อมกอดนิ่มแนบแน่น แล้วกระซิบเสียงหวานข้างหูคนพี่ ก่อนที่ความง่วงและเพลีย จะเข้าครอบงำจนทั้งสองคนกอดกันหลับไปทั้งแบบนั้นในที่สุด
Happy #3YesrsOnTimeWithJJProject -a bit lately ^^
Walk together, Smile together, Hold each other hand forever -JJP-
ความคิดเห็น