ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Got7]Got 2 Playful {MarkNior,JackJae,BamYug}

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4 : นักร้องข้างถนน

    • อัปเดตล่าสุด 12 ม.ค. 59






    ตอนที่ 4 : นักร้องข้างถนน






    เมื่อคืนมาร์คไม่ได้กลับบ้าน  และวันนี้แบมแบมก็ไม่มีเรียนเช้า คงนอนจนถึงเที่ยงวันแน่ๆ น่าอิจฉาจริงๆที่ไม่ต้องตื่นมาเรียนเช้าๆในวันที่อากาศหนาวๆแบบนี้  





    แจ๊กสันในชุดนักศึกษาสวมเชิตแขนยาวสีขาวทับด้วยเสื้อกั๊กไหมพรมสีเทา สวมแว่นตากรอบดำดูเป็นคุณชายเด็กเรียนสุดๆ  ตอนนี้ในบ้านมีเพียงเขาที่ต้องเข้าเรียนคาบเช้า ตั้งแต่ 8.00 น. คนเดียว  ไม่รู้อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์จะรีบตื่นมาสอนไปไหน  แต่เขาก็ต้องพยายามเข้าเรียนทุกครั้งไม่ให้ขาด ทบทวนการเรียนอย่างสม่ำเสมอเพื่อทำคะแนนดีๆเข้าไว้ ใช้ไปขอทุนการศึกษา และสมัครงานในอนาคต ชีวิตทุกอย่างของเขาต้องมีการวางแผนทุกขั้นตอนและทำทุกอย่างอยู่บนเหตุผล  บางครั้งเขาก็คิดว่าชีวิตมันมีเท่านี้หรือไงนะ  ต้องทำอะไรเหมือนเดิมทุกวันทุกวัน






    ระหว่างที่แจ๊กสันกำลังเดินไปยังคณะ เพื่อให้ทันเข้าเรียนนั้น เขาใช้ทางลัดด้านหลังหอสมุดที่ ไม่ค่อยมีคนผ่านไปมา เพื่อรีบไปให้เร็วที่สุด   แต่วันนี้กลับมีกลุ่มผู้ชาย ในชุดเสื้อโคทกันหนาวยาว สีดำ 3-4 คน กำลังมีปากเสียชกต่อย กับ  ผู้ชายอีกคนที่ใส่เสื้อกันหนาวสีน้ำเงิน มีฮูดคลุมศรีษะ โผล่มาให้เห็นเรือนผมสีน้ำตาลแดงอยู่ไกลๆ






    จากการวิเคราะห์ของแจ๊กสัน คนพวกนี้น่าจะเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยเรานี่แหละ เพราะมีบางคนสะพายเป้ที่มีตรามหาวิทยาลัย บางคนในกลุ่มสะพายกีตาร์  น่าจะเป็นพวกนักดนตรี  คณะศึกษาศาสตร์   อย่าไปยุ่งดีกว่า  แจ๊กสันคิดและรีบสาวเท้ายาวเร่งเดินออกไปจากที่นั่น






    "เฮ้ !! นาย ...ไม่มีใครสอนหรือไงว่าเห็นคนเดือดร้อนให้ช่วยเหลือหน่ะ" เสียงตะโกนดังบาดแก้วหู ดังมากพอจนเรียกความสนใจให้แจ๊กสันหันกลับไปมอง ไม่เท่านั้น เจ้าผู้ชายคนที่ใส่ฮูดสีน้ำเงินเจ้าของเสียงยังวิ่งมาเกาะแขนเขาเอาดื้อๆ






    "คนรู้จักของนายเหรอ ยองแจ? มาแส่อะไรตอนนี้จะพาลเจ็บตัวไปด้วยนะ" เจ้าพวกผู้ชายในเสื้อโคทกันหนาวยาว เดินย่างสามขุมเข้ามาหาแจ๊กสัน และยองแจที่แอบเนียนเกาะหลบข้างหลังเขาอยู่






    "ได้โปรดช่วยผมด้วยนะครับ" ยองแจเอาฮูดที่คลุมศีรษะอยู่ลง เผยให้เห็นแผลที่โดนทำร้ายที่ใบหน้า คิ้วแตก ปากแตก โหนกแก้มบวมช้ำ และมีรอยเลือด ดวงตาก็แดงก่ำ แถมดูขนาดร่างกายแล้วก็ดูบอบบางตัวเล็กกว่าเจ้า 3-4 คนนั้นมาก






    แต่ไม่ทันที่แจ๊กสันจะเอ่ยตอบอะไร เจ้าแก๊งเสื้อโคทนั่นก็ลงมือโจมตีเขาก่อน






    แจ๊กสันโดนชกเข้าที่ใบหน้า และลำตัว อย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้จุกจนต้องก้มลงตัวงอ






    เขาเอามือเท้าพื้นยันร่างกายขึ้น ก่อนจะบ้วนเลือดที่ไหลเพราะปากแตก แล้วกำหมัดขวาขึ้นปาดเลือดที่ริมฝีปากของตัวเอง จากนั้นแจ๊กสันลงมือชกต่อยตอบโต้ เจ้าพวกแก๊งเสื้อโคท ด้วยทักษะด้านกีฬา และความสามารถเฉพาะตัว ไม่กี่นาที ผู้ไม่ประสงค์ดี ที่ รุ่ม 4 ต่อ 1 ก็ลงไปกองกับพื้นหมดสภาพ






    ยองแจรีบเข้าไปประคองแจ๊กสัน ที่บอบช้ำไม่น้อยเหมือนกัน เพื่อพาไปทำแผลที่ห้องพยาบาลของมหาวิทยาลัย 






    เนื่องจากยังเช้าอยู่ อาจารย์พยาบาลยังไม่มา ทำให้หนุ่มฮูดน้ำเงินร่างบาง ต้องกุลีกุจอหาอุปกรณ์ ทำแผลและใส่ยาเอง


     



    "นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?" แจ๊กสันที่ถูกลากเข้ามาในห้องพยาบาล ค่อยๆหย่อนก้นลงบนเก้าอี้ยาวในห้อง ได้โอกาสถามขึ้น






    "ผมชื่อ ชเว ยองแจนะครับ เรียนอยู่คณะครุศาสตร์ เอกดนตรี ปี1 ขอบคุณที่ช่วยเหลือเมื่อครู่นะ คุณ?"






    "ชื่อ แจ๊กสัน  และผมก็ไม่ได้อยากช่วยคุณนะ คุณหาเรื่องมาให้ผมชัดๆ ดูสภาพผมสิ เสื้อเปื้อนเลือด เลอะดิน แถมสายไปมากแล้ว จะเข้าเรียนต่อได้ยังไงเนี่ย" แจ๊กสันบ่นอย่างหัวเสีย






    "ผมขอโทษครับ  คนพวกนั้นเป็นพวกเพื่อนกับรุ่นพี่ในวงดนตรีของผมเอง  พวกเราทำงานพิเศษรับจ้างแสดงดนตรีตอนกลางคืน พวกนั้นโกงเงินค่าแรงของผม ผมก็เลยขอลาออกจากวง พวกนั้นไม่พอใจ ตามมาข่มขู่  แล้วก็ทำร้ายร่างกาย ผมโดนแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว จนทนไม่ไหวเลยตอบโต้ พอดีนายก็ผ่านมา  ต้องขอโทษอีกครั้งที่ทำให้เดือดร้อนนะครับ" ยองแจ ยิ้มแห้งๆแล้วโค้งก้มศีรษะ90 องศาให้แจ๊กสัน จนเขารู้สึกผิดขึ้นมาเอง






    "มะ ไม่เป็นไรก็ได้ ก็นายเดือดร้อนจริงๆนี่นะ แล้วไม่กลัวพวกนั้นกลับมาทำร้ายนายอีกเหรอ?" แจ๊กสันไม่รู้ตัวว่าเขาเริ่มแสดงความห่วงใยคนอื่นที่เพิ่งพบกัน ทั้งๆที่ปรกติเขาเป็นคนค่อนข้างไม่สนใจใครที่ไม่ให้ประโยชน์อะไรกับชีวิตเขา






    "ไม่เป็นไรหรอกครับ เมื่อกี้ผมแอบอัดคลิปตอนที่พวกนั้นลงมือก่อนไว้ ถ้าเรื่องถึงอาจารย์ในคณะ คงต้องมีใครเรียนจบช้าหรือเรียนไม่จบแน่นอนครับ" ยองแจยิ้มตาเป็นขีด ก่อนจะเริ่มทำแผลให้แจ๊กสัน






    ยองแจค่อยๆเอาน้ำเกลือล้างแผลให้  ก่อนจะซับด้วยผ้าก๊อซ แล้วเอาแอลกอฮอร์ ทารอบๆแผล ป้องกันเชื้อโรค จบด้วยการทาทิงเจอร์ตรงแผลเพื่อรักษา และปิดผ้าก๊อซให้เรียบร้อยในบริเวณที่มีแผลเลือดออก
    จากนั้น เขาก็ไปล้างหน้าเอาคราบเลือด ขี้ฝุ่น ขี้ดินที่เปื้อนตามใบหน้าตัวเองออก จนดูราวกับเป็นคนละคนที่แจ๊กสันเจอตอนแรก






    ใบหน้าขาวเนียน  เปื้อนรอยยิ้ม ริมฝีปากที่แตกมีเลือดไหลเมื่อกี้ถูกล้างและซับให้แห้ง ตอนนี้มันดูเป็นสีชมพูอิ่มสวย  จมูกโด่งคมรับกับใบหน้าได้รูป ดวงตารี ชั้นเดียว มีแววตา แวววาว ล้ำลึกที่มองแล้วเหมือนมีอะไรซ่อนอยู่ ดึงดูดให้แจ๊กสันไม่อาจละสายตาไปได้






    "หน้าผมมีอะไรติดอยู่หรือป่าวครับ ?" แจ๊กสัน จ้องยองแจอยู่นาน จนเจ้าของร่างบางไม่รู้จะทำหน้ายังไงจึงถามขึ้น






    "อือ ..อ่ะ ป่าวนะ แค่หน้าของนายมัน...." นี่เขาเป็นอะไรเนี่ย เขินจนนึกคำพูดไม่ออก แจ๊กสันเริ่มแปลกใจตัวเอง






    "อย่าเพิ่งขยับนะครับ เดี๋ยวผมทำความสะอาดเศษดิน ที่เปื้อนพวกนี้ให้" ยองแจไม่พูดปล่าว เขาเอาผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นบิดหมาดๆมาเช็ดทำความสะอาดตาม ใบหน้า และมือของแจ๊กสันที่เปื้อนฝุ่น และมีคราบเลือดออก ซึ่งบางจังหวะที่ยองแจพยายามเช็ดบริเวณหน้าผากและขมับนั้น เขาโน้มใบหน้าตัวเองมาจนเกือบชิดใบหน้าของแจ๊กสันโดยไม่รู้ตัว






    ใกล้มากชนิดที่แจ๊กสันรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นของยองแจ






    แจ๊กสันมีโอกาสจ้องมองใบหน้านั้นใกล้ๆ ยองแจนั้นมีไฝใต้ตาขวา แล้วก็ตรงคอ แถวไหปลาร้า ริมฝีปากนั่น มีรอยยิ้มตลอดเวลา เพราะอะไรนะ ทำแบบนี้สนุกเหรอ มีความสุขเหรอ ทำไมเจ้านี่ต้องยิ้ม ? แจ๊กสันคิดไปเรื่อยเปื่อย






    จังหวะที่ยองแจก้มลงเช็ดหน้าให้แจ๊กสันเสร็จแล้วจะยืดตัวขึ้นยืนนั้น เขาเสียหลัก เพราะหน้ามืดที่ก้มนานเกินไปหน่อยประกอบกับที่ยังไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืน  ทำให้แจ๊กสันต้องรีบคว้าตัวยองแจไว้ก่อนจะล้มลงสู่พื้น มาอยู่ในอ้อมกอด ของเขาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้  อย่างทันท่วงที






    "ขะ ขอบคุณครับ" ยองแจ เบิ่งตา หน้าแดง ก่อนจะรีบเด้งตัวลุกออกจากอ้อมกอดอุ่นนั่นแทบจะทันที ด้วยความตกใจปนเกรงใจ






    "ไม่เป็นไรแน่นะ" แจ๊กสันถามย้ำด้วยความเป็นห่วง และเริ่มรู้สึกสนใจคนตรงหน้าเป็นพิเศษ






    "ครับ ไม่เป็นไรแล้ว คงเพราะยังไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืน เดี๋ยวผมแอบงีบ ในห้องพยาบาลสักนิดดีกว่า แจ๊กสันไปเรียนเถอะครับ  คงไม่มีอะไรแล้ว ขอบคุณมากสำหรับเรื่องทั้งหมด" ยองแจคำนับให้อีกครั้ง ก่อนจะเดินเข้าไปยังเตียงส่วนในสุดของห้องพยาบาลแล้ว ทิ้งตัวลงนอน เข้าสู่ห้วงนิทราอย่างรวดเร็ว



    แจ๊กสันได้แต่นั่งอึ้ง และทบทวนเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้น อยู่สักพัก จึงตัดสินใจเดินตามเข้าไปดูยองแจ ที่หลับสนิทอยู่บนเตียงพยาบาลสีขาว ด้านในต่อ






    ยองแจนอนตะแคงตัว งอ ใช้แขนสองข้างกอดตัวเอง แจ๊กสันจึงไปหาผ้าห่ม มาห่มให้แล้วก็นั่งเฝ้าจ้องคนตรงหน้า พร้อมกับได้ทบทวนคิดอะไรไปเรื่อยๆ ทั้งเรื่องการเรียน อนาคต และการใช้ชีวิตสลับกับการเอาแลคเชอร์มาอ่าน






    "หืม? เสียงเพลง......." แจ๊กสันเงยหน้าจากสมุดแลคเชอร์มองไปยังที่มาของเสียงเพลง หวานๆเศร้าๆ ก็พบว่าเป็นเสียงของยองแจ 






    "นี่เจ้าคนนี้นอนละเมอร้องเพลง เป็นเรื่องเป็นราวได้ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย  เสียงเพราะใช้ได้เลย มีอะไรให้แปลกใจเรื่อยๆเลยนะ ช่างเป็นคนที่น่าสนใจจริงๆ"   แจ๊กสันมองยองแจอีกรอบ ก่อนจะยิ้มให้ แล้วก้มลงอ่านสมุดจดงานต่อ จนเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้





    .
    .
    .
     

    ยองแจลืมตาขึ้นมาด้วยความสดชื่นที่ได้นอนหลับในห้องพยาบาลที่อบอุ่นอย่างเต็มตา  ถึงจะแปลกใจสักหน่อยที่สามารถนอนยาวได้โดยไม่มีอาจารย์พยาบาลมาปลุก แต่เขาก็ไม่ได้ติดใจอะไร






    ยองแจลุกขึ้นบิดขี้เกียจนิดหน่อยก่อนจะมองดูเวลา บนนาฬิกาเรือนใหญ่บนผนังห้องพยาบาลสีขาวที่บอกเวลาเกือบ 4โมงเย็นแล้ว  "อ่า... ไม่ได้เข้าเรียนเลยนี่หว่าวันนี้  จะมามหา'ลัยทำไมฟระแต่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับคนเรื่อยเฉื่อยแบบเขา






    ก่อนที่ยองแจจะออกจากห้องพยาบาลไป  กลับโดนอาจารย์พยาบาลเดินตามออกมา






    "เดี๋ยวก่อน เด็กคนนั้น  ชเว ยองแจใช่ไหมจ๊ะ?" อาจารย์พยาบาลวัยกลางคน สวมเสื้อกาวน์ยาว เอ่ยทักพร้อมกับถือบางอย่างในมือ






    "ครับ อาจารย์ มีอะไรเหรอฮะ?" ยองเจ หันมายิ้ม สดใสให้






    "หน้าตาสดชื่นดีแล้วสินะ คงหายปวดศีรษะไมเกรนแล้วใช่ไหม  เพื่อนคนที่เฝ้าเธอเขาบอกว่ามีเรียนบ่ายฝากให้ฉันคอยดูเธอต่อ แล้วดูซิ ลืมสมุดแลคเชอร์ไว้  ตรงนี้มีชื่อเขาอยู่  แจ๊กสัน หวัง  ฝากเธอเอาไปคืนเพื่อนด้วยนะ  เขาเฝ้านายตั้งนานแต่นายนี่หลับเป็นตายเหมือนไปอดนอนที่ไหนมา เป็นเพื่อนที่น่ารักจริงๆ"  อาจารย์พยาบาลส่งสมุดแลคเชอร์ปกหนังของแจ๊กสันให้ยองแจ แล้วกลับเข้าห้องไป






    ยองแจแอบเปิดดูข้างในสมุด พบว่ามีแต่ตัวหนังสือเป็นพรืด มีแต่เรื่องยากๆที่เขาไม่เข้าใจ รู้แต่ว่า ลายมือสวยเป็นระเบียบอ่านง่าย  เจ้าของคงเป็นคนมีระเบียบเรียบร้อย ก่อนจะเก็บสมุดนั้นเข้ากระเป๋าไป






    "หิวชมัด เราหลับไปตั้งนาน ยังไม่ได้กินข้าวเลยตั้งแต่เมื่อวาน  ตังค์ก็ไม่มี โดนโกงค่าแรงไป ชิส  แต่ไม่มีปัญหา ทำเหมือนทุกทีก็ได้ว๊า" ยองแจ แวะเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้า และลงรองพื้นก่อนจะแต่งหน้า เขียนขอบตานิดหน่อย แล้วเซทผมให้ดูดีขึ้นอีกนิด แล้วหา แก้วน้ำพลาสติก ที่คนทิ้งไว้แถวนั้น มาล้างทำความสะอาดแล้วเช็ดให้แห้ง






    ยองแจเดินไปตามถนนหลักที่ทอดระหว่างอาคารอำนวยการและโรงอาหารด้านหลังที่มีคนเดินพลุกพล่านก่อนจะ วางแก้วพลาสติกปล่าวลงตรงหน้า แล้วเริ่มร้องเพลง






    เสียงหวาน กังวานใส ได้ยินไกลหลายช่วงตึก เรียกให้คนที่ผ่านไปมา หยุดรวมตัวฟังก่อนที่บางคนจะให้รางวัลเป็นเศษเงิน หรือแบงค์ย่อยตามกำลังศรัทธา จนยามมหาวิทยาลัยมาไล่ วงเลยแตก






    ยองแจ เคยทำแบบนี้หลายครั้ง เขาเป็นนักร้องข้างถนนมาก่อนที่เพื่อนและพี่ในคณะจะชวนไปตั้งวง และเล่นดนตรีกลางคืน จนเขาเองก็มีแฟนคลับนักศึกษาย่อยๆไม่น้อยเหมือนกัน






    เศษเหรียญเกือบเต็มแก้ว โดยใช้เวลาไม่นาน แค่นี้ก็ได้กินข้าวในโรงอาหารอิ่มแล้ว






    เมื่อหนียามพ้น ยองแจจึงเอาเงินที่ได้ไปซื้อข้าวและขนมในโรงอาหารกินอย่างสบายใจเฉิบ  โดยไม่แคร์สายตาของใครๆ






    จากนั้นเมื่อเวลาล่วงมาจนเกือบพลบค่ำ ยองแจก็ไปช่วยพี่ๆ ค่ายอาสา ร้องเพลงเรี่ยไรเงินเพื่อไปออกค่ายตามต่างจังหวัดที่กันดารเพื่อช่วยเหลือผู้คนต่อไป  ตามแต่อารมณ์ของเขาจะอำนวย  ซึ่งก็ไม่ได้ทำทุกวัน ตามสวนสาธารณะใกล้ๆมหาวิทยาลัย จนเสร็จ ภารกิจก็ เกือบ 2 ทุ่ม






    ด้วยอารมณ์ติส สุดขั้ว อยู่ๆ ยองแจก็ แหกปากร้องเพลงคลาสสิคโชว์คนแถวนั้น แต่ก็ยังไม่ทันจบเพลงดี ก่อนเข้าท่อนฮุกเขาก็หยุดร้องไปซะเฉยๆ ก่อนจะล้มตัวลงนอนมันไปตรงนั้น บนพื้นทางเดินที่ปูอิฐบล๊อกแข็งๆของสวนสาธารณะ  จนมีคนเดินมาเจอ





    .
    .
    .

    หลังจากที่แจ๊กสันซ้อมบาสเสร็จ เขาก็ออกตามหายองแจเพื่อเอาสมุดแลคเชอร์คืน  เพราะไปถามที่ห้องพยาบาลแล้วอาจารย์บอกว่าฝากยองแจมาแล้ว






    แจ๊กสันไปถามหายองแจหลายที่ทั้งที่ตึกเรียนคณะ ครุศาสตร์ ก็ได้ความว่ายองแจไม่เข้าเรียน ให้ลองไปหาดูแถว สนามบอลดู ก็ไม่เจอ ระหว่างตามหา เขาได้ยินว่ามีนักศึกษาไปร้องเพลงหน้าโรงอาหารเมื่อเย็นจนโดนยามไล่ จึงเข้าไปถามลักษณะการแต่งตัว ใส่เสื้อฮูด สีน้ำเงิน ตรงกับยองแจ จึงไปหาแถวโรงอาหาร ก็ไม่เจอ จากนั้นได้ยินว่า วันนี้มีคนไปช่วยพี่ๆค่ายอาสาร้องเพลงเรี่ยไรที่สวนสาธารณะจึงออกมาตามหาข้างนอกมหาวิทยาลัยต่อ 






    ระหว่างที่แจ๊กสันตามหายองแจอย่างหงุดหงิดก็ได้ยินเสียงเพลงที่ยองแจเคยร้องตอนละเมอ  จึงตามเสียงมาจนเจอ ยองแจนอนยิ้มอยู่กับพื้นฟุตบาท






    "หาเจอจนได้  นายมัว เถลไถลอะไรแถวนี้เนี่ย มันค่ำมากแล้วนะ ระวังจะเป็นอันตราย" แจ๊กสันลากยองแจให้ลุกขึ้นมายืนคุยกันดีๆ แต่อยู่ๆไม่รู้อารมณ์ไหน ยองแจก็โผกอดแจ๊กสัน






    "นายตามหาชั้นเหรอ  นายหาชั้นอยู่ใช่ไหม  หาเจอแล้วใช่ไหม?" ยองแจพูดอย่างดีใจ และกอดแจ๊กสันแน่น จนแจ๊กสันตกใจทำอะไรไม่ถูก






    "ฉันมาตามหาสมุดแลคเชอร์ที่นายเอาไปอ่ะ  เอ่อ ตามหานายด้วยก็ได้  นายเป็นอะไรของนายฮึ? รู้ไหมว่าชั้นลำบากแค่ไหนกว่าจะหานายเจอ  ไม่ยอมไปเรียน ไปวนเวียนแถวโรงอาหาร แล้วก็ มาแหกปาก แล้วก็นอนแถวสวนสาธารณะนี่อีก ทำอะไรคาดเดาไม่ได้เลยแหะ แปลกคน" แจ๊กสันเอามือลูบศีรษะยองแจเป็นเชิงปลอบ ให้ยองแจลดความไฮเปอร์ อะเลิท ลง






    "ผมแปลกเหรอ? แปลกตรงไหนอ่ะ? เวลาเราอยากจะทำอะไร  ถ้าไม่รบกวนใครๆทำไมเราจะทำไม่ได้หล่ะฮะ?  เช่นการนอนแถวนี้ " ยองแจแกล้งทิ้งตัวลงนอนกับพื้นในท่าเดิมที่แจ๊กสันเดินมาพบ  แล้วยิ้มจนตาหยีเป็นขีดน่ารักให้ จนแจ๊กสันต้องส่ายศีรษะอย่างอ่อนใจ






    แจ๊กสันเห็นยองแจงอแง จึงทิ้งตัวลงนั่งยองๆข้างๆยองแจ โดยที่สายตาของเขาจ้องอยู่ที่ริมฝีปากสีสวยที่เผยอยิ้มนิดๆให้ ไล่ไปตามผิวหน้าเนียนที่แม้จะมีแสงสว่างไม่พอมันก็ยังขาวผ่องนวลสวย เลื่อนขึ้นไปถึงดวงตาที่กำลังปิดเป็นสระอิ ที่ทำให้ดูรวมๆแล้ว ใบหน้าของหนุ่มคนนี้  มีเสนห์ ตราตรึง ไม่อาจละสายตาไปได้ และแจ๊กสันก็นึกได้ว่า เหมือนเมื่อเช้าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง






    "แจ๊กสัน ทำไมนายจ้องเราแบบนั้นอีกแล้วหล่ะ  คราวนี้ต้องบอกนะว่ามีอะไร" ยองแจเอาแขนข้างหนึ่งหนุนศีรษะของตัวเองไว้ ส่วนอีกข้างเอาใบจับใบหน้าแจ๊กสันให้มองเขาตรงๆ ในท่านอนหงายชันขาไขว้กันอย่างสบายใจไม่คิดอะไร






    แจ๊กสันตอบสนองด้วยการขยับตัวก้มลงเอาแขนสองข้างเท้าพื้นอิฐบล๊อกของสวนสาธารณะคล่อมร่างของยองแจไว้ แล้วค่อยๆขยับหน้าของเขาลงมาจนเกือบชิด  ก่อนที่จะ ...






    "โป๊ก !!" แจ๊กสันเอาหน้าผากของตัวเอง โขกกับหน้าผากของยองแจ เต็มแรง






    " ลุกๆ เลิกบ้าได้แล้ว เอาสมุดแลคเชอร์ของชั้นมา แล้วกลับบ้านซะ" แจ๊กสันทำท่ายิ้มหมั่นเขี้ยว ก่อนจะใช้มือขยี้แก้มนุ่มนิ่มของยองแจ แล้วผล่ะตัวออกลุกขึ้นยืน






    ยองแจ ได้แต่เบิ่งตากว้าง ค้างอึ้ง อย่างไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น แต่รู้สึกว่าเจ็บที่หน้าผากหน่อยๆหล่ะนะ แล้วก็ลุกขึ้นยืนอย่าง งง งง






    แจ๊กสันจัดแจงปัดฝุ่น และจัดเสื้อผ้าของยองแจให้เรียบร้อยก่อนจะส่งยิ้มแรกของวันนี้ให้ยองแจอย่างจริงใจ






    ยองแจรู้สึกใจหวิววูบ เมื่อได้เห็นรอยยิ้มนั้นอย่างไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใคร ที่ไหนมาก่อน  ทำไมแจ๊กสันถึงใจดียอมช่วยเขา และยัง สุภาพ ไม่ ต่อว่า เขาที่ทำตัวเป็นปัญหาซะขนาดนี้






    "ถ้าผมคืนสมุดแล๊กเชอร์ให้แจ๊กสันแล้ว เราจะได้เจอกันอีกไหมฮะ?" ยองแจควักสมุดจดงานเล่มหนาออกมาให้ พร้อมกับหันหน้าไปทางอื่นหลบตาเจ้าของสมุดที่เอาแต่จ้องหน้าเขาไม่วางตา






    "นายอยากเจอชั้นอีกเหรอ?" แจ๊กสันรับสมุดมา แล้วทวนคำถามยองแจด้วยสีหน้าดีใจ(หน้าบาน) ยิ้มไม่หุบทีเดียว






    "เอ่อ ไม่ใช่...เอ้ย!ใช่....เอ๊ะ....อ่า...." ยองแจรู้สึกเขินคนตรงหน้าขึ้นมาเฉยๆ จนพูดแทบจะไม่เป็นภาษา






    "ใจเย็นๆก่อน  เดี๋ยวพรุ่งนี้พอเลิกชมรมแล้ว ผมจะตามหายองแจอีกนะ แล้วเราจะได้เจอกันอีกทีดีไหมครับ?" แจ๊กสันเอียงหน้าเข้าหา ยองแจที่ก้มหน้างุดด้วยความเขินอยู่  พอยองแจเงยหน้าขึ้นมา สายตาประสานกับแจ๊กสันนั้น ทำให้องศารับภาพเห็นแจ๊กสันดูดีขึ้นมาก หล่อจนแทบหยุดหายใจ สันจมูกโด่งคมดวงตากลมโต ริมฝีปากบางเหยียดได้รูปสวยกว่าตอนที่เจอเมื่อเช้ามากๆ และอยู่ใกล้มากจนกลัวว่าจะได้ยินเสียงหัวใจของเขาที่กำลังเต้นรัวอยู่  จนยองแจต้องขยับตัวหนีด้วยความประหม่า






    "ผมว่า วันนี้ผมกลับบ้านก่อนก็ดีเหมือนกัน ไปก่อนนะครับ" ยองแจรีบโค้งให้แจ๊กสันก่อนจะรีบสาวเท้าเดินห่างออกไป






    "กลับบ้านดีๆนะครับ แล้วพรุ่งนี้พบกัน" แจ๊กสันถูกใจอากับกริยาของยองแจมาก จนอดยิ้มกับตัวเองไม่ได้ 







    ต่อจากนี้ไปในแต่ละวันของผมคงไม่ได้มีแต่การเรียน การอ่านหนังสือ และซ้อมกีฬาที่น่าเบื่อ ซ้ำๆเหมือนเดิมอีกแล้ว  เพราะมีสิ่งที่ผมรู้สึกติดใจอยากศึกษาและใช้เวลาด้วยเพิ่มเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในชีวิตซะแล้วหล่ะครับ.











    © themy  butter
    T
    H
    E
    M
    Y
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×