ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศาลาพักใจ รีวิวการ์ตูนยามว่าง

    ลำดับตอนที่ #8 : Made in Abyss ผจญภัยสุดขอบนรก

    • อัปเดตล่าสุด 27 ต.ค. 60


    สวัสดีเพื่อนๆนักอ่านทุกท่านครับ เดิมทีผมกะไว้ว่าจะรีวิวอนิเมะเอาช่วงท้ายซีซั่นทีเดียว แต่ผมเปลี่ยนใจขึ้นมาและคิดว่าอยากทำตอนไหนก็ทำเลยดีกว่า (นี่ไงความเอาแต่ใจ...) ถึงกระนั้นก็อย่าได้กังวลไป แม้เนื้อหาจะยังไม่ครบถ้วน แต่ก็อยากจะรีวิวเพื่อเชิญชวนให้มาดูด้วยกันครับ (ฮา) ในกลุ่มผมแทบจะหาคนติดตามดูไปด้วยกันไม่ได้เลย

    ว่าตามตรง อนิเมะซีซั่นนี้ผมยังดูไม่ครบทุกเรื่อง บางเรื่องทบจะอยู่นอกสายตาเลยด้วยซ้ำ (ไม่แล) โดยรวมแล้วหน้าร้อนปีนี้มีทั้งอนิเมะจากมังงะ อนิเมะจากLN อนิเมะออริจินัลก็ยังมี ภาคต่อของบางเรื่อง และอนิเมะที่ลากยาวมาจากซีซั่นก่อน (Sakura Quest ผมไง อยากจะบอกว่าไม่ชอบเพลงเปิดใหม่เลย so sad) แม้แต่จอมเวทย์Guruguru อนิเมะประมาณหลายสิบปีก่อน ก็เอามารีเมคให้ออกโลดแล่นบนจอทีวีอีกครั้ง  (แต่ผมไม่ได้ดูหรอก)

    ตารางอนิเมะประจำ Summer 2017  >>  จิ้ม  <<

    ---Made in Abyss---



    Made in abyss สร้างขึ้นจากมังงะแนวผจญภัย ผลงานของ TSUKUSHI Akihito (เรื่อง/ภาพ) เนื้อเรื่องกล่าวถึง "อบีส" หลุมยักษ์ขนาดมหึมาความลึกไม่ปรากฏซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองออซ สถานที่สุดท้ายซึ่งยังคงเต็มไปด้วยปริศนารอให้นักสำรวจมากมายไปสำรวจ ริโค่ เด็กสาวที่ไฝ่ฝันอยากเป็นนักสำรวจ วันหนึ่ง เธอได้ถูกหุ่นยนต์รูปร่างมนุษย์ช่วยเอาไว้ขณะลงไปสำรวจขอบบนของอบีส เธอจึงพาเขามายังบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าซึ่งเป็นบ้านของเธอด้วย

    นานๆทีจะมีอนิเมะที่เนื้อเรื่องเป็นแนวผจญภัย (แบบแท้ๆ เน้นไปที่ความลึกลับของโลกนั้นๆ)ออกมาบ้างสักเรื่อง ก่อนจะพูดถึงเนื้อหา สิ่งหนึ่งที่ผมอยากให้คนอื่นได้ดูนั้นคือภาพครับ ซึ่งงานภาพของเรื่องนี้นั้น ถ้าใครบอกว่าเป็นภาพยนต์ก็ไม่เกินจริงเลย เพราะเก็บรายละเอียดต่างๆได้ครบถ้วนมาก ฉากแต่ละฉากไม่ใช่ background นิ่งๆอยู่ด้านหลัง แต่ทุกการเคลื่อนไหวของตัวละครหรืออะไรต่างๆในเรื่อง มันทำให้องค์ประกอบเล็กๆเกิด motion มีการเคลื่อนไหว ทำให้มันดูเป็นธรรมชาติ อย่างเช่นการเคลื่อนไหวของลมหรือตัวละครเดินผ่านทำให้ต้นหญิาพริ้วไหวตามไปด้วย นั่นแหละครับ มันทำให้เรื่องนี้ดูมีชีวิตชีวามาก นอกจากนั้น การลงแสงเงาในเรื่องก็ยังลงตัว และสื่อควบคู่กับลายเส้นออกมาได้เป็นอย่างดี ส่วนนี้ต้องชื่นชมการออกแบบเมืองและ World building ของเรื่องด้วยที่เซตออกมาได้ครีเอทีฟมาก ภาพของเมืองที่ปรากฏออกมาในตอนแรกของเรื่องทำเอาผมนึกถึงพวกหนังเก่าๆของสตูดิโอจิบลิ หรืออะไรสักอย่างที่มันคลาสสิกเอามากๆช่วยสื่อถึงบรรยากาศที่ดูน่าค้นหาและน่าติดตาม ความดีความงามตรงนี้ต้องขอบคุณสตูดิโอ Kinema Citrus (ผลงานเก่าๆเช่น Kuma Miko , Gochuumon wa Usagi desu ka??) ที่สามารถถ่ายทอดลายเส้นตามแบบฉบับของมังงะซึ่งแต่เดิมเป็นลายเส้นดินสอคล้ายกับสมุดภาพนิทานออกมาได้อย่างลื่นไหลลงตัว

    อีกองค์ประกอบนึงก็คือ เสียง ซึ่งสร้างออกมาได้ Cool มากครับ ขอใช้คำนี้เลย โปรเจคนี้ได้คุณ Kevin penkin รับหน้าที่ในเรื่องของเพลง (ผลงานเก่าๆอย่าง เกม Defender's Quest II ,  Under the dog) ในตอนแรกที่เห็น PV ที่ปล่อยมาล่วงหน้า ผมก็ประทับใจSoundtrackแล้ว พอเปิดดูตอนที่1ปุ๊บ จากความประทับใจเดิม ตอนนี้มันพุ่งทะลุเกจ Max บนหัว ความอลังการนี่แหละครับคือ First Impression ของเรื่องนี้ มันเพียงพอทำให้ผมติดตามต่อไปจนจบตอนได้อย่างง่ายดาย (และโคตรชอบด้วย)




    ไม่ใช่ทุกเรื่องที่จะมีภาพที่ใส่ใจและละมุนได้ขนาดนี้ (ประทับใจหนักมาก)


    ผมอาจพูดเรื่ององค์ประกอบศิลป์นานไปนิสนึง ทีนี้มาเข้าสู่จานหลักของงานนี้ คือ เนื้อเรื่อง กันบ้าง  ในโปรเจคนี้ ได้ผู้กำกับที่เคยสร้างผลงานมาแล้วอย่างเช่น Black Bullet นั่นคือคุณ Masayuki Kojima  บ่อยครั้งที่อนิเมะหลายเรื่องกว่าจะเข้าสู่ประเด็นสำคัญของเรื่องและชวนให้ลุ้นระทึกนั้นก็ปาเข้าไปส่วนท้ายจากทั้งหมด13ตอน  แต่สำหรับผมเรื่องนี้โดดเด่นตรงที่สามารถทำให้ทึ่งได้ตั้งแต่ตอนแรกที่ฉาย  เอาจริงๆคือ  เป็น1ในไม่กี่เรื่องที่ผมตามในซีซั่นนี้  (ไม่นับภาคต่อนะ)

    การ์ตูนแนว action adventure ส่วนใหญ่นี่ผมว่าสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งคือการเล่าเรื่อง  ถ้าเนื้อเรื่องดีแต่นำเสนอน่าเบื่อ เป็นสูตรสำเร็จ มันก็ไม่น่าตามต่อ การเล่าเรื่องหรือข้อมูลจะกลายเป็นการยัดเยียด เสมือนว่าผู้ชมรู้ทุกอย่างไปหมด กลับกัน เรื่องนี้ทำได้ดีมาก ไม่ใช่การป้อนข้อมูลเข้าปากผู้ชม แต่เป็นการเผยเนื้อเรื่องและความลับออกมาทีละน้อยอย่างแยบยลผ่านการสนทนาของตัวละคร ทั้งเรื่องโบราณวัตถุลึกลับ,การแบ่งระดับนักสำรวจตามชนิดของนกหวีด, คำสาปของอบีสไลซ่าผู้ทำลายล้าง นักสำรวจระดับนกหวีดขาวผู้เป็นตำนานเนื่องจากลงไปถึงอบีสชั้น6 แม่ของริโค่ ,ข้อความจากไลซ่า รวมถึงเรกหุ่นยนต์ปริศนาที่สันนิฐานว่ามาจากก้นบึ้งของอบีส  การเล่าผ่านมุมมองของตัวเอกทำให้เกิดอารมณ์ร่วมไปกับตัวละครมากยิ่งขึ้น  อย่างในตอนที่1 เฮ้ยจู่ๆมังกรบินโผล่ออกมาไล่ล่าริโค่ หุ่นยนต์คนหนึ่งยิงลำแสงช่วยเอาไว้  ยังไม่ได้อธิบายอะไรเกี่ยวกับโลกนี้มากนักก็ปิดท้ายตอนด้วยหลุมยักษ์ขนาดใหญ่ใจกลางเมืองออซ (ในภาพข้างบน) มันทำให้เกิดความฉงนและดูลึกลับ การผูกปมให้เกิดความสงสัยเป็นทอดๆได้คือสเน่ห์อย่างหนึ่งซึ่งหาได้ยากมาก  (Attack on Titan  เป็นตัวอย่างที่ดี  ดูก็รู้ว่าคนเขียนคืออาจารย์อิซายามะวางโครงเรื่องมาแล้ว มีการคิดภาพรวมไว้ก่อน เขียนได้แบบไม่ออกทะเล ไม่แถ  สามารถหาจุดเชื่อมโยงในการเล่าเรื่องได้ถูกจังหวะและลงตัว ไม่ดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆสร้างประเด็นมาเยอะๆแต่หาทางลงแบบขอไปที) 




    ตัวผมยังไม่ได้อ่านมังงะไปไกลเท่าไหร่  เอาจริงๆคือผมว่าจะอ่านตั้งแต่ก่อนอนิเมะจะมาอีก  แต่คิดว่าเรื่องแนวนี้ผมอยากเห็นเป็นภาพเคลื่อนไหวมากกว่า  ด้วยการที่อนิเมะมันใส่ลูกเล่นอย่างเสียงและมุมกล้องเข้ามาช่วยได้  อีกอย่าง มังงะภาพรกชิบ  เส้นตีกันยุ่งไปหมด  ผมว่าหลายคนเบือนหน้าหนีก็เพราะงี้แหละ เพราะงั้นพออนิเมะมาแล้วผมไม่เสียใจเลยที่อดทนรอ  คุ้มค่ามาก (ถึงผมจะโดนสปอยล์แบบไม่ทันตั้งตัวไปแล้วก็เหอะ  แต่มันเป็นตัวละครที่ยังไม่ออกมาเลยไม่ได้กระทบอะไร โคตรน่าหมั่นไส้เกรียนบางคนในเฟสบุ๊ค  มารยาทหายไปไหนหมด)

    ป.ล.ทั้งเพลงเปิดกับเพลงปิดเรื่องนี้โคตร catchy ทั้งสองเพลง  เพลงแรกออกไปแนวลึกลับเหมือนดึงเข้าสู่โลกแห่งอบีส(ฮา)

           ส่วนเพลงที่สองสดใสมาก  ผมชอบทำนองแบบนี้่อยู่แล้วเลยปลื้มเป็นพิเศษ ใส่ไข่3ฟอง  


     


    ---- จึงต้องตามไปเสพเพื่อพิสูจน์!!! ----

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×