คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : [SF] Kiss me baby
[SF] Kiss me baby
Pairing : Kai x Baekhyun
Rate : PG-13
Author : Gornhai (gorn_dbsk)
คำเตือน : แฟนฟิคชั่นเรื่องนี้ เป็นเรื่องสมมติขึ้นเท่านั้น
ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์จริงแต่อย่างใด!!
“งือๆ แพคฮยอนน่า ....”
“อะไรเหรอ”
“ฮยอง”
“จะเอาอะไร”
“งือ งือ .. หม่าม๊า หม่าม๊า”
“โอ๊ย ก็บอกว่าหม่าม๊านายไม่อยู่ อย่าถามบ่อยได้มั้ย รำคาญนะ”
เด็กชายวัยแปดขวบทำหน้ามุ่ยใส่น้องชายที่อายุน้อยกว่าสองปี ดวงตากลมจ้องเจ้าตัวเล็กที่กำลังเบะปาก
“.................ฮึก”
หวาๆๆๆๆ แย่แล้ว เจ้านี่ต้องร้องไห้แน่ๆ
“แง๊!!!!!!!!”
“ดะ เดี๋ยวก่อนสิ พี่ไม่ได้ว่าอะไรนะจงอิน” เด็กชายคนพี่ก็ไม่ได้โตไปกว่ากันเลย มือกลมๆเล็กๆทำได้แค่โบกไปมาตรงหน้าน้องชายที่แหกปากลั่นในมุมหนึ่งของสวนสนุก แพคฮยอนหันซ้ายมองขวาเพื่อหาคุณน้าที่บอกว่าจะไปซื้อตั๋วม้าหมุนแค่แป๊บเดียวแต่ก็ยังไม่มาซักที
“โฮฮฮฮฮ ....” จงอินตัวน้อยยังคงไม่หยุดร้องเสียที แพคฮยอนไม่รู้จะทำยังไงดี ปลอบก็แล้ว โอ๋ก็แล้ว ยิ่งร้องไปใหญ่
“อ๊ะ” แก้มขาวๆหันขวับไปตามสายตาที่เห็นอะไรบางอย่าง .. ร้านไอศกรีม
และแล้วไอศกรีมโคนสีสวยก็มาอยู่ในมือของน้องชายขี้แยแล้ว
“อะ ไอติมเหยอ” ตากลมๆที่เปื้อนน้ำตาเต็มไปหมดกำลังเบิกกว้างสนอกสนใจสิ่งที่อยู่ในมือ
“ชอบสตรอเบอร์รี่ใช่มะ”
“งืมๆๆ .. ซึ้ดดดด” เจ้าตัวเล็กพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะสูดน้ำมูกที่ย้อยลงมาเสียงดังซู้ด
“อี๋ .. เช็ดออกหน่อยสิจงอิน” คนเป็นพี่บอกด้วยปากน้อยๆที่ยู่เข้าหากัน
“เช็ดให้หน่อย ซึ้ดดด” ตากลมๆมองพี่ชายอย่างบริสุทธิ์ใจ ก่อนจะจ้องของโปรดในมือโดยไม่สนอะไร แพคฮยอนเบ้ปากแต่ก็ยอมทำให้แต่โดยดี มือน้อยๆเอื้อมเอาแขนเสื้อเช็ดน้ำมูกหนึดๆออกจากแก้มน้องชาย แต่ยิ่งเช็ดก็ยิ่งเปื้อนไปกันใหญ่
เด็กน้อยสองคนที่ยืนนัวเนียกันอยู่ จึงไม่รู้ว่าคนพี่หรือคนน้องกันแน่ที่ทำให้วุ่นวาย
โผละ!!!
“อ๊ะ....”
“.................”
เด็กน้อยทั้งสองพากันจ้องลงไปที่พื้นซึ่งมีก้อนครีมสีชมพูหล่นเผละลงไป แพคฮยอนสูดหายใจขณะที่สบตากันกับน้องชายซึ่งถือไว้แค่โคนเปล่าในมือ คนพี่แทบจะร้องตามเมื่อนึกออกว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น แก้มสีแทนของเจ้าตัวเล็กเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียว ปากเจ่อๆเริ่มเป็นเส้นตรง ก่อนจะเบะงอลง
ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ !!!
“ฮะ ฮะ ฮึก .. โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ”
“เฮือก!!”
ร่างของเด็กหนุ่มวัยสิบเก้าปีในชุดนอนเด้งตัวตื่นขึ้นจากความฝันที่เป็นเรื่องในวัยเยาว์ แก้มขาวๆรู้สึกถึงความเย็นเยียบจากความกลัวเมื่อตอนเป็นเด็ก ใครจะนึกว่าไอ้เด็กขี้แยข้างบ้านจะตามมาโผล่ถึงในฝัน แม้มันจะไม่ใช่ครั้งแรกก็เถอะนะ
“เฮ้อ .. กี่โมงแล้วเนี่ย” ว่าแล้วก็เอื้อมมือจะไปคว้านาฬิกาปลุกมาดู
“ดูเอาเหอะ สายแล้วรู้ตัวมั้ย” เสียงทุ้มที่ดังมาจากด้านหลังทำเอาแพคฮยอนสะดุดกึก ก่อนจะหันไปพบใบหน้านิ่งๆที่แสร้งทำเหมือนเขาไม่ได้เรื่องยังไงยังงั้น
“อ่ะ .. เฮ้ย นายมาอยู่นี่ได้ไงจงอิน” แพคฮยอนถดกายหนีเด็กรุ่นน้องที่อยู่ในชุดนักเรียนเต็มคราบเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ทั้งสองจึงนั่งจ้องกันอยู่คนละฝั่งของเตียง
“ทำตกใจเหมือนเห็นผีไปได้นะ”
“ยิ่งกว่าผีน่ะสิ”
“เออๆ ยิ่งกว่าก็ยิ่งกว่า” หนุ่มมัธยมปลายทำหน้าเอือมๆอาการของพี่ชายข้างบ้านคนนี้
“อืม แล้วถามว่ามาได้ไง”
“ก็พี่ไม่ลงไปซักที คุณลุงบอกพี่ยังไม่ตื่นเลยขึ้นมาหาไง .. ทำท่าเหมือนไม่เคยนะเรา”
“ว่าไงนะ”
“เปล่าๆ ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ขึ้นมาหาซะหน่อย แล้วก็นะ พี่จะนั่งจ้องผมอีกนานมั้นเนี่ย ไม่ไปเรียนรึไง” จงอินทักขึ้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายจ้องเขาไม่ละสายตา แพคฮยอนนึกได้จึงมองนาฬิกาแล้วร้องลั่น
“ตายล่ะ สายแล้ว!” พูดจบก็รีบผลุนผลันวิ่งออกจากผ้าห่มแล้วตรงเข้าห้องน้ำไป ทิ้งให้อีกคนนั่งรออยู่ที่เดิม
จงอินถอนหายใจกับความไม่เอาไหนของพี่ชายคนนี้ แต่ถึงจะไม่เอาไหนยังไงก็ยังน่ารักเสมอในสายตาของเขา เด็กหนุ่มเอนกายทิ้งแผ่นหลังลงกลางที่นอนนุ่มๆซึ่งยังเหลือไออุ่นอยู่ กลิ่นกายกรุ่นๆของเจ้าของเตียงนั้นชวนให้อยากหลับตาแล้วฝันไปไกลเหลือเกิน
แพคฮยอนใช้เวลาไม่นานในการอาบน้ำ เขาเปิดประตูพรวดออกมาในชุดนักเรียนที่ดูยังไงก็รู้ว่ารีบจนออกมาลวกมากๆ
“เฮ้ .. หลับเหรอจงอิน” แพคฮยอนขมวดคิ้วพลางยืนก้มมองคนบนเตียงที่นอนแผ่เหมือนหลับไปแล้ว เขายิ้มออกมาอย่างรู้ทัน ใครล่ะจะหลงกล
“ไม่ไปก็ช่างนะ ฉันไปก่อนล่ะ” แพคฮยอนหมุนตัวคว้าประเป๋าจะเดินออกไป แต่เขาก็เป็นแบบนี้เสมอ ยังอดห่วงไม่ได้เมื่อคิดว่าอีกคนอาจจะหลับจริงๆ
“เฮ้ จงอิน จงอิน”
เงียบ ไม่มีเสียงตอบ
แพคฮยอนเดินไปยังขอบเตียงพลางนั่งลงมองใบหน้าที่หลับสนิทนั้น ไม่ตื่นจริงๆงั้นเหรอ นิ้วเรียวยื่นออกไปจิ้มเบาๆที่แก้มของเด็กหนุ่ม จงอินไม่ขยับ แพคฮยอนจึงเอาแต่จิ้มๆๆ พอหลายครั้งเข้าตาที่หลับก็เริ่มขยับคิ้วเข้าหากัน
“งืม อย่าแกล้งน่ะ”
“นั่นไง ที่แท้ก็ไม่ได้หลับ ฉันรู้หรอกน่ะ เฮ้อ .. เลิกเล่นได้แล้ว ลุกๆๆ ไปเรียนกัน”
“เดี๋ยวก่อนสิ”
“อะไรอีกล่ะ”
“จูบก่อน เร็ว” จงอินพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉยขณะที่ตายังไม่ลืม เล่นเอาคนฟังตาโตขึ้นทันที แพคฮยอนอ้าปากค้างกับที่ได้ยิน
“ฮะ วะ ว่าไงนะ”
“ก็จูบก่อนไง เจ้าหญิงนิทราจะได้ฟื้น”
“อี๋ .. อยากจะอ้วก” แพคฮยอนนึกในใจว่าจงอินไปจำคำพูดแบบนี้มาจากไหน ไม่สิ ไอ้หน้าตายๆมึนๆของเด็กคนนี้ ไม่เหมาะกับประโยคอะไรแบบนี้เลยสักนิด
“หอมแก้มก็ได้ เร็วๆสิ”
“อะไรเนี่ย”
“พี่แหละจะเล่นตัวทำไม ทีตอนเด็กๆยังชอบมาหอมเค้าบ่อยๆ” จงอินที่ยังหลับตาเริ่มหลุดสรรพนามแทนตัวที่แพคฮยอนฟังแล้วอยากจะเดินหนี
“ยังกับว่าอยากทำตายล่ะ แก้มเหม็นๆที่เลอะน้ำมูกน้ำตาประจำ ไม่ได้อยากหอมหรอก” เขาหมั่นไส้เจ้าเด็กแก่แดดจนอยากจะเอาหมอนฟาดเข้าให้
“ก็ตอนนี้ไม่เลอะแล้วก็หอมซะสิ”
“ฮะ!!” แพคฮยอนทำหน้าไม่อยากจะเชื่ออีกครั้ง เด็กคนนี้มียางอายบ้างมั้ยเนี่ย แต่ไม่ทันจะได้คิดหรือโต้ตอบอะไรออกไป จู่ๆคนที่หลับตาก็ลืมขึ้นแล้วเด้งตัวขึ้นมาใช้ริมฝีปากฉวยเข้าที่แก้มขาวๆ
Chu !!!
“อ๊ะ....”
จงอินกระโดดออกจากเตียงทิ้งให้คนที่กำลังตะลึงงันเพราะถูกขโมยหอมแก้มนั้นยังนั่งอยู่กับที่
“ไหนๆก็สายแล้ว ผมเดินรอแล้วกันนะ รีบตามมาล่ะ” ใบหน้าตายๆยักคิ้วให้หนึ่งทีก่อนจะหายวับออกไปทางประตูห้อง
“ดะ เดี๋ยวสิ อย่าหนีนะไอ้จงอินบ้า!”
------------------------------
บรรยากาศพักกลางวันในโรงอาหารของโรงเรียนแห่งนี้ยังคงวุ่นวายอย่างเคย
“เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยโผล่หัวมาเลยนะจงอิน แฟนหวงเหรอวะ” เด็กหนุ่มหน้าใสคนหนึ่งในกลุ่มเอ่ยขึ้น ขณะที่กำลังกินข้าวกันตามประสาเด็กผู้ชาย
“หืม .. อ่อ เปล่าหรอก ฉันยังไม่มีแฟนว่ะ”
“แล้วน้องสวยๆคนนั้นล่ะ”
“ก็แค่เดินด้วยกัน”
“แล้วที่รุ่นพี่คนนั้นมาชวนไปติวล่ะวะ กิ๊กแน่ๆ”
“อะไร ก็แค่ติวเนี่ยนะ”
“อ้อ แค่กับแค่ตลอด ระวังรถไฟชนกันล่ะ” เพื่อนคนนั้นว่าให้ แต่จงอินทำได้เพียงยักไหล่ ไม่ใช่ว่าไม่กลัวรถไฟจะชนกันหรืออะไรหรอกนะ ก็เพราะเขาบอกไปแล้วว่ามันไม่ใช่ก็คือไม่ใช่น่ะสิ
ผ่านไปสักพักขณะที่เด็กเกรดสิบกลุ่มนี้จะเปลี่ยนมานั่งฆ่าเวลาอยู่ลานม้านั่งใต้ร่มไม้ รุ่นพี่กลุ่มหนึ่งที่เดินแจกแบบสอบถามอยู่ห่างออกไปก็เป็นเป้าหมายให้พวกเขาสนทนากัน
“อ้าวนั่น พี่ซอนมีนี่นา เด่นมาเชียว” เพื่อนในกลุ่มคนหนึ่งโพล่งขึ้นมา หลายสายตามองตามสาวสวยกันเป็นแถว รวมถึงอีกหลายคนในกลุ่มที่หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มไม่แพ้กัน
“นั่นพี่ชายนายนี่จงอิน”
ได้ยินอย่างนั้นสายตาที่เอาแต่ก้มมองแก้วน้ำในมือจึงเงยขึ้นทันที แพคฮยอนเป็นหนึ่งในผู้ชายที่เดินรวมอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย จงอินมองตามโดยที่อีกฝ่ายก็ไม่ได้รู้ตัว ส่วนเพื่อนๆเขาน่ะเหรอก็เอาแต่จ้องสาวๆตาเป็นมัน ไม่รู้จะปลื้มอะไรนักหนา
“ซอนมีนูน่าอ่า .. น่ารักอะไรอย่างนี้ ดูเธอสิ ยิ้มขนาดนั้นตายังโตอยู่เลย”
“ใช่แล้ว ส่วนพี่สาวคนนั้นใครวะ”
“เค้าชื่ออึนบีล่ะ เป็นเพื่อนพี่ฉันเอง”
“งั้นเหรอๆ ไว้แนะนำด้วยนะ น่ารักไม่ทนเหอะ”
“ฮ่าๆๆๆ ได้ๆๆ”
ระหว่างที่พวกหนุ่มๆกำลังเมาท์กันเรื่องรุ่นพี่กลุ่มนั้นอยู่ หลายคนก็สังเกตเห็นเพื่อนอีกคนที่นั่งมองนิ่งๆไม่พูดอะไร
“เฮ้ยจงอิน มองแบบนั้นชอบล่ะสิ”
“อืม...” เสียงทุ้มตอบรับทั้งที่ตายังคงจ้องอยู่ที่เป้าหมายเดิม
“นั่นไง ว่าแต่คนไหนล่ะคนไหน”
“อืม.....”
“คนนั้นใช่มะๆ คนนั้นน่ะ” เพื่อนๆต่างพากันชี้ไปแต่จงอินก็ไม่ได้มองตามหรอกว่าจงใจชี้ไปที่ไหน รู้แต่ว่ากลุ่มนั้นนั่นแหละ
“อืม คนนั้นแหละ”
บรรยากาศทุกอย่างดำเนินไปตามปกติ แต่ในโลกแคบๆของคิมจงอินมันดันมีรุ่นพี่ผู้ชายคนหนึ่งที่ปรากฏอยู่ในสายตาตลอดเวลาที่เขามองไป ไม่ว่าจะรอยยิ้มร่าเริง รูปร่างพอเหมาะ แก้มเกลี้ยงๆ หรือแม้แต่เสี้ยวหน้าด้านข้าง
อืม ..
“น่ารักล่ะสิจงอิน”
“อืม .. น่ารักจริงๆ น่ารักที่สุดเลยว่ะ”
พรึ่บ!!
“เฮ้ย...”
แพคฮยอนตกใจที่กระดาษหลายแผ่นในมือเกิดหลุดปลิวลงมาเต็มพื้นแถวนั้น ลมเบาๆพัดเอากระดาษแผ่นบางขยับหนีเขาไปคนละทิศละทาง เด็กหนุ่มสาละวนกับการก้มเก็บแบบสอบถามพวกนั้นอยู่โดยที่ยังไม่มีใครเข้ามาช่วย ยิ่งวิ่งเก็บยิ่งปลิวหนีไปกันใหญ่
“อ๊ะ ขอบคุณครับ” ริมฝีปากสีชมพูคลี่ยิ้มก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนที่ช่วย
“เก่งนะพี่ แต่ซุ่มซ่ามชะมัด”
“จงอิน!”
“เออสิ เอ้า .. รีบเก็บเข้าอย่ามัวทำหน้าตกใจ” รุ่นน้องจอมกวนประสาททำหน้าตายๆให้ก่อนจะก้มลงช่วยแพคฮยอนเก็บไปเรื่อยๆ คนซุ่มซ่ามที่ว่าเลยต้องก้มหน้างุดๆทำตามอย่างช่วยไม่ได้
รอบกายมีผู้คนมากมาย แต่วิสัยทัศน์ของจงอินที่นับวันยิ่งแคบเข้าๆก็เหมือนกับสายตาที่มันเห็นอยู่แค่คนเดียวจริงๆ
“วันนี้เลิกเร็วใช่มั้ย รอที่เดิมนะ”
“อื้ม”
จงอินยื่นแบบสอบถามทั้งหมดให้แพคฮยอนก่อนจะเดินจากไป คนเป็นพี่มองตามหลังน้องชายด้วยสายตาปกติ แล้วจู่ๆแพคฮยอนก็ถอนหายใจ
“ฟู่ ~ ... ทำไมเมื่อกี้อึดอัดจัง เป็นไรไปนะเรา” เด็กหนุ่มเคาะศีรษะตัวเองเบาๆก่อนจะหันกลับไปในกลุ่มต่อโดยไม่ได้คิดอะไร
แพคฮยอนไม่รู้หรอกว่าช่วงหลังๆมาที่อึดอัดเวลาอยู่ด้วยกัน มันก็แค่อาการใจเต้นเร็วกว่าปกติก็เท่านั้นเอง
------------------------------
เจ้าเด็กหน้าไม่อายที่ยืนรออยู่หน้าประตูโรงเรียน ตอนนี้กำลังยิ้มแฉ่งมาให้พี่ชายข้างบ้านซึ่งแอบชะงักเท้าไปเล็กน้อยเมื่อสบตากัน แพคฮยอนนึกในใจว่าไอ้ยิ้มมาแบบนี้นี่จะเอาอะไรอีก
“เป็นอะไร ยืนยิ้มเป็นบ้ารึไงจงอิน”
“เปล่า ก็คนมันมีความสุขน่ะนะ จะให้ทำไง”
“อ๋อเหรอ”
แพคฮยอนไม่คิดจะเสวนาด้วยเท่าไหร่หรอก ก็พักนี้มันแปลกๆในอกเขาเลยไม่รู้จะพูดอะไรมากมายอย่างเก่า ระหว่างที่เดินกลับบ้านด้วยกันจึงมีเพียงความเงียบ
“เงียบนะพยอนแพคฮยอน”
“เรียกดีๆ”
“คร้าบ คร้าบ ... พี่เป็นใบ้รึไง”
“นี่!! บอกว่าพูดดีๆไงเล่า” แพคฮยอนหยุดเดินแล้วหันมาตะคอกใส่คนกวนประสาทที่หน้าเจื่อนไปเล็กน้อย ก็เขากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างในหัวอยู่น่ะสิ คนยิ่งงหงุดหงิดยังจะมาเซ้าซี้
“ไม่เห็นต้องว่ากันเลย พูดดีๆไม่เป็นรึไง”
“ก็พูดแล้วนายไม่ฟัง”
“อืม ขอโทษแล้วกัน” จงอินตัดบทแบบนั้นแล้วเดินนำแพคฮยอนไปอย่างรวดเร็ว ถ้าเป็นพี่คนอื่นก็อาจจะไม่สนใจแต่นี่เป็นพยอนแพคฮยอน ผู้ซึ่งปากไม่แต่ใจคิด คนอายุมากกว่าจึงเปลี่ยนเป็นได้แต่เดินตามหลังด้วยสายตาละห้อย
“จงอินน่า อย่างอนสิ”
“..............” เงียบ ไม่มีเสียงตอบรับ มีแค่ขายาวๆที่ก้าวฉับๆไม่รอกันเลย
“งั้นๆๆ งั้น ... อ๊ะ นั่น รอก่อนนะ รอก่อน” แพคฮยอนบอกให้คนด้านหน้ารอพลางสอดสายตาไปตามข้างทางที่ผ่านร้านขายไอศกรีม เขาหยุดเดินแล้ววิ่งเข้าไปทันที จงอินไม่ได้หยุดรอหรอก แต่ทันทีที่แพคฮยอนออกมาก็เจออีกฝ่ายยืนรอด้วยหน้าที่บูดจนแทบเป็นตูด
ไอศกรีมโคนสีชมพูหวานถูกยื่นออกมาตรงหน้าจงอิน
มือหนาเอื้อมไปรับเอาอย่างเสียไม่ได้ ก็ไม่ได้โกรธอะไรหรอก แค่อยากจะทำฟอร์มไปงั้นเอง การทำให้พี่ชายคนนี้ร้อนใจแล้วแคร์เขาขนาดนี้ มันสนุกจะตายไป
“จะซื้อมาทำไม”
“อย่าถามเลย รับไว้แล้วแปลว่าหายโกรธแล้วนะ”
“อย่าคิดเองสิ” จงอินเบะปากให้นิดหน่อยก่อนจะก้มลงเลียเนื้อครีมรสสตรอเบอร์รี่แสนหวาน
“ก็ไถ่โทษด้วยไอติมแล้วไง จะเอาอะไรอีก ฉันไม่ได้ตั้งใจตะคอกนายซะหน่อย” แพคฮยอนยืนประท้วงด้วยสีหน้าที่แตกต่างกับคนที่เอาแต่กินไอศกรีมไปเฉยๆ
“ไงจะเอาไง บอกมาเลย ฉันไม่ชอบให้มาเมินนะ”
“เออๆ รู้แล้วล่ะน่ะ บ่นอยู่ได้”
“ไอ้บ้า นายมันปากแบบนี้หรอกฉันถึงหมั่นไส้นัก”
“อืม .. เข้าเรื่องเลยละกัน ถ้าอยากให้หายโกรธก็ทำตามที่บอกสิ”
“เออๆๆๆ บอกมาสิ” แพคฮยอนที่ใจร้อนรีบหลุดถามออกไป แต่จงอินไม่ตอบนอกจากก้มลงเอาปากปาดไปกับไอศกรีมในมือจนครีมสีชมพูเลอะเต็มปากไปหมด
“พี่เห็นไอติมที่เปื้อนปากผมอยู่มั้ย”
“อืม ทำไมล่ะ”
“กินมันโดยไม่ต้องใช้มือ”
“ฮะ! ว่าไงนะ”
“อย่างที่บอก เร็วๆก่อนจะเปลี่ยนใจ” จงอินบอกได้หน้าตาเฉย ผิดกับแพคฮยอนที่ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาบรรยายได้ถึงความบ้าบอของเด็กผู้ชายคนนี้เลยจริงๆ
“คิดว่าตัวเองเป็นเด็กอนุบาลรึไง น่ารักตายล่ะ”
“ทีตอนอนุบาลยังทำได้ ตอนนี้ทำไมทำไม่ได้ล่ะ”
“อ่ะ เอ่อ .. เออๆ ทำก็ทำ แล้วอย่ามาทำงอนอีกล่ะ” ว่าแล้วแพคฮยอนก็เขย่งขายื่นหน้าเข้าไปใกล้จงอิน แวบเดียวเท่านั้นที่ปลายจมูกจะตวัดเอาไอศกรีมติดมาก่อนที่ริมฝีปากจะทำเพียงแค่เฉียดมันไปเท่านั้น แพคฮยอนดันตัวออกมาด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ พอทำไปแล้วทำไมใจมันเต้นแรงและรู้สึกเหมือนโลกจะหยุดหมุนไปเลยแบบนี้ก็ไม่รู้
จงอินมองแก้มขาวๆที่ขึ้นสีระเรื่อแดงไปหมด ท่าทางงงงวยของพี่ชายข้างบ้านของเขาทำเอาอยากจะสอนเรื่องบางอย่างให้เสียเหลือเกิน
“แพคฮยอน ปากพี่เลอะไอติมแน่ะ”
“กะ ก็แหงล่ะ”
จงอินต้องหน้ามืดหรือบ้าไปแล้วแน่ๆ แต่ที่แน่ๆอีกอย่างคือเขาสติครบถ้วนสมบูรณ์ทุกประการ มือหนาเอื้อมมาประคองหน้าเล็กๆให้เงยขึ้น ใบหน้าคมก้มลงไปหาทันทีโดยไม่ให้ตั้งตัว รสสตรอเบอร์รี่หอมหวานแผ่ซ่านไปทุกอณูความรู้สึก
จุ๊บ !
“..............”
แพคฮยอนตาโตขณะที่รับเอาจูบจากจงอินที่มอบให้
คิมจงอินผละออกมาจากอีกคนที่ยืนทื่ออย่างไม่อยากจะเชื่อตัวเอง คนที่ทำลงไปก็เอาแต่ยักไหล่มาให้เหมือนช่วยไม่ได้
“เฮ้อ .. ก็มันเลอะขนาดนั้น น่าเกลียดแย่เลย ผมก็เลยช่วยเช็ดให้”
“อะ อะ ไอ้ ....” แพคฮยอนพูดไม่ออกกับท่าทีปฏิเสธหน้าตายแบบนั้น แต่ที่เถียงไม่ออกแน่ๆเหมือนกันก็คือหน้าของเขาที่แดงไปถึงใบหูแล้ว
จงอินยกยิ้มอย่างพอใจแล้วหมุนตัวเดินไปตามถนนช้าๆเพื่อรอพี่ชายคนนี้ ที่ไม่รู้ว่าจะมีแรงเดินมาถึงบ้านได้โดยสติครบแบบเขารึเปล่า
แพคฮยอนยืนทื่ออยู่อย่างนั้นครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเริ่มแน่ใจแล้วว่าพักนี้ตัวเขาเป็นอะไรไป ถึงแม้มันจะไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่แต่หากคิดมากตอนนี้คงไม่ได้อะไรขึ้นมา ถึงจะใจร้อนอยากจะหาคำตอบ แต่เวลาที่หัวใจพองโตคับอกแบบนี้ แค่หายใจยังลำบากเลย
“เฮ้!! ถ้ามืดแล้วไม่เดินกลับมารับนะ”
จงอินหันกลับมาตะโกนให้คนที่ก้มหน้าอยู่ต้องเงยขึ้น แพคฮยอนหันซ้ายแลขวาพลางทำหน้าไม่ถูก ถึงขนาดนี้แล้วใครมันจะไปทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ล่ะ จงอินยกมือขึ้นเสยผมแบบลวกๆแล้วก้าวฉับกลับมายังพี่ชายที่ยืนอยู่ เขาเอื้อมไปจับมือบางคู่นั้นมากำไว้แล้วดึงให้เดินตามไป แพคฮยอนไม่พูดอะไรนอกจากก้มหน้ามองมือตัวเองที่กำลังจับอยู่กับมือของอีกคน
จงอินเงยหน้ามองฟ้ายามพลบ ขณะที่แพคฮยอนก้มหน้ามองพื้น .. แม้อย่างนั้น มือของพวกเขาก็จับกันเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
จูบเบาๆในวันนี้ ก็แค่การเริ่มต้นเท่านั้น
“พี่เคยได้ยินมั้ย ว่ารักครั้งแรกมักจะทำให้ใจเราเต้นแรงมากกว่าทุกครั้ง”
“หืม ไม่เคยอ่ะ ทำไมเหรอ”
“ผมแค่อยากบอกว่า ไม่จริงหรอก”
“ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ”
“ก็ตั้งแต่เด็กๆแล้ว เวลาอยู่กับพี่ทีไร ไม่เห็นว่าใจผมมันจะเต้นแรงเลย”
“..........................”
It will be lovely day for me ,
Just say you want me,
The almost thing that I’m agree.
.
.
Fin. Kiss me baby / Kai x Baekhyun
ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์ล่วงหน้าค่ะ
เรื่องนี้มาสั้นๆ งุงิ มุมิ ง๊องแง๊ง (?) ก็ไม่หวานหรืองุงิอย่างที่ตั้งใจไว้ ไม่ค่อยถนัดแนวน่ารักๆ
เลยออกมาไม่ค่อยน่ารักน่าเอ็นดูอย่างที่อยากให้เป็นเท่าไหร่เลย แต่งๆไปก็เผลอหลุดสไตล์ตัวเองออกมา
เลยแก้แล้วแก้อีกค่ะ ถึงอย่างนั้นก็มาได้เท่านี้
(คิดอยู่ว่าถ้าลำบากนักจะล้มโต๊ะแนวนี้เป็นแนวhornyบวกพระเอกแอบจิตไปเลย) 55555
เจอกันเรื่องหน้า ขอบคุณคร่า ~
ความคิดเห็น