คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : WHEN ? .. Chapter.[18] Up!! 100%
ไม่อยากจะดูตอนล่าสุดเลย สรุปแล้วดองนานถึงสามเดือนเลยทีเดียว
ขอโทษนะคะ ไม่นึกว่าจะลืมมาลงได้นานขนาดนี้
ฟิคเรื่องนี้เป็นแบบนี้ทุกที่ที่เลย ทุกทีๆๆๆ เฮ้อ .. จะมีคนอ่านไหม T^T
*พาร์ทหน้าตอนจบ จะมาลงรวดเดียวเลยนะคะ ไม่กั๊กแล้ว ไม่หั่นด้วย
ขอบคุณทุกคอมเมนท์และทุกวิวค่ะ ^^V
-------------------------
Chapter 18
แสงแดดอันอบอุ่นในยามเช้าสาดส่องผ่านผ้าม่านสีขาวลงบนใบหน้าของคนที่ลืมตาตื่น เสียงคลื่นซัดสาดเข้าฝั่งเป็นระยะทำให้ตระหนักเสมอว่าตัวเองอยู่ที่ไหน และผ้าห่มผืนเดียวที่คลุมเอาร่างของคนข้างกายไว้ด้วยก็ทำให้นึกถึงเรื่องเมื่อคืน ดงแฮก็ใช่ว่าจะใจดำหรอกนะที่ยอมให้อีกฝ่ายมานอนด้วยกัน ก็คืนก่อนซีวอนต้องนอนที่เก้าอี้หวายถักพร้อมกับผ้าผืนบางๆที่พกมาด้วยทำให้ดงแฮรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีจริงๆ เมื่อคืนจึงได้แบ่งปันผ้าห่มที่มีผืนเดียวอย่างกับเรื่องตลกให้อีกฝ่าย จะว่าไปก็อดสงสัยไม่ได้ว่าซีวอนเช่าที่นี่ด้วยเงินเท่าไหร่กัน
ทุกอย่างที่ผ่านมารวมทั้งความฝันที่เหมือนจริงทั้งหมดทำให้คนเพิ่งตื่นต้องหลับตาลงอีกครั้งเพื่อทบทวนเรื่องราว .. แน่นอน มันไม่ใช่ความฝัน ทั้งหมดคือความจริงที่ผ่านมาแล้วต่างหาก ตั้งแต่คราวที่มีความสุขสุดแสน และเจ็บปวดจนไม่เหลือชิ้นดี
ใบหน้าที่พยายามกล้ำกลืนบางอย่างนั้นกำลังกลั้นน้ำตาเอาไว้เมื่อเริ่มจะหันหน้าไปหาร่างของคนข้างกายที่ยังหลับอยู่ เรียวนิ้วทั้งสองข้างเอื้อมไปสัมผัสใบหน้านั้นเอาไว้ก่อนที่น้ำตามันจะหยดลงไปบนที่นอน อยากจะมองใบหน้านี้ไปนานๆ อยากจะมองไปตลอดชีวิต แล้วทำไมทำไม่ได้
.. นายไม่คิดจะพูดจริงๆเหรอ โกหกก็ได้นะ เผื่อว่าฉันจะเชื่อนายอีก .. แต่อย่าดีกว่า เพราะครั้งนี้ฉันไม่อยากจะเป็นตัวอะไรที่โง่
ชั่วข้ามคืนเดียวที่ทุกอย่างซึ่งสับสนปนเปไปหมดนั้นถูกเรียงร้อยใหม่อย่างถูกต้อง คืนเดียว .. ที่ความทรงจำประทับกลับคืนสู่ที่เดิม
สะพานไม้ขนาดยาวถูกสร้างเป็นทางเรียบให้ยื่นออกไปยังทะเล คนส่วนมากในเช้านี้ก็ไม่พ้นคนพื้นที่ที่ตื่นกันแต่เช้ามาเดินอยู่ประปราย ร่างบางในชุดลำลองยืนเหม่อมองออกไปยังผืนน้ำที่ตีเป็นวงคลื่นเข้าฝั่งแล้วกลับเข้าทะเลไปใหม่ เป็นอย่างนี้เรื่อยๆเหมือนกับตัวเองแต่ก่อนที่เดินออกมา แล้วก็กลับไปที่เดิมอยู่ดี
ผ่านไปเกือบจะครบชั่วโมงที่ดงแฮนั้นไม่รู้ตัว ว่ากำลังมีใครบางคนตามหาตัวเองอยู่ ซีวอนที่ตื่นขึ้นมาไม่พบคนรักก็ได้หาว่าอยู่ที่ไหน คิบอมกับฮันคยองที่ได้รับโทรศัพท์บอกก็เป็นห่วงเช่นกัน ร่างสูงรู้สึกหัวเสียขณะที่วิ่งออกไปตามแนวทางเดินของชายหาดราวกับคนบ้า เขาไม่คิดว่าดงแฮจะดูแลตัวเองไม่ได้หรอก เพียงแต่ว่ารู้สึกสังหรณ์ไม่ดีซึ่งไม่รู้ว่าเกี่ยวกับอะไรด้วยซ้ำ
ดงแฮทอดถอนหายใจลงไปกับน้ำทะเลเบื้องล่างหลายต่อหลายครั้ง ดวงตากลมแดงช้ำจากการร้องไห้ยามเมื่อนึกถึงทุกเรื่องที่ผ่านมา เสียใจที่ถูกทำให้เจ็บช้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า และก็เสียใจที่ไม่สามารถรั้งเอาความรักครั้งนี้ไว้อย่างเดิมได้ ร่างบางหมุนตัวจะเดินกลับออกมา เป็นจังหวะเดียวกับที่ซีวอนยืนอยู่ตรงหน้าพอดี
“ร้องไห้ทำไม..” คำถามที่เคยได้ยินบ่อยๆหลุดออกมาจากปากของคน
“ตอบได้รึยัง มีอะไรก็บอกฉันมา รู้มั้ยว่าห่วงเธอจะแย่” ดงแฮไม่ตอบอะไรตามเคย มือบางทั้งสองข้างยกขึ้นประครองใบหน้าคมเอาไว้ รอยยิ้มบางๆกับดวงตาที่เจือไปด้วยความเศร้าจ้องลึกลงไปในตาทั้งคู่ของร่างสูงที่ยืนทำอะไรไม่ถูก ซีวอนแปลกใจกับท่าทีของดงแฮเหลือเกิน
เสียงเกลียวคลื่นซัดขึ้นลงกลางทะเลแรงขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ใจบางคนกำลังนิ่งลงไปทุกที แต่ละนาทีผ่านไปช้าๆ รอยยิ้มบนใบหน้ายังคงอยู่ ต่างไปก็แค่ดวงตาคู่นี้กำลังมีน้ำใสๆไหลกลิ้งลงมาตามพวงแก้ม ก่อนที่มันจะตกลงไปบนพื้นไม้ เหมือนกับสิ่งที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไร แต่กับใจของคนที่กำลังมองอยู่ มันกลับมีค่ามากขนาดที่เขายอมกับแลกอะไรก็ได้บนโลกนี้ แค่เพียงไม่ให้มันไหลออกมาสักเพียงหยดเดียว
“กอดฉันทีได้มั้ยซีวอน”
“เธอ..” ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร มือคู่เดิมที่ประครองหน้าของเขาเอาไว้ก็เปลี่ยนมาเป็นสวมกอดแทน เรือนผมนุ่มแนบลงในอ้อมกอดของซีวอนที่ยังคงทำอะไรไม่ถูก อ้อมแขนแกร่งค่อยๆยกขึ้นโอบร่างบางเอาไว้ .. ทั้งที่เขารอคอยวันนี้มานาน แต่ทำไมกลับรู้สึกว่าหัวใจตัวเองกำลังเต้นช้าลงไปทุกขณะ น้ำตาของดงแฮไหลซึมผ่านเข้าไปในเสื้อบริเวณอกด้านซ้ายของซีวอน เรียวปากอิ่มที่พยายามจะพูดออกมานั้นมันช่างยากเย็นเหลือเกิน
“รู้มั้ย .. ว่าฉันคิดถึงอ้อมกอดของนายแค่ไหน”
“ดงแฮ ..” ซีวอนพูดไม่ออกตามเคย เขากำลังคิดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่ได้ถามไป
“ขอบใจนะที่มอบมันให้ฉันอีกครั้ง”
“........”
“เพราะมันคงเป็นครั้งสุดท้าย ที่ฉันจะได้มันมาจากนาย”
หากสวรรค์เห็นใจและยอมให้บทลงทัณฑ์อันแสนเจ็บปวดนี้จบลง ถ้าอย่างนั้น ต่อไปก็คงเป็นนรกใช่ไหม .. ที่กำลังมอบบทลงทัณฑ์บทใหม่ให้แก่นักโทษคนนี้
ดงแฮคลายอ้อมกอดออกช้าๆก่อนจะถอยออกมาจากคนตรงหน้าที่มีเพียงแววตาเจ็บปวดส่งมาให้ “เธอจำได้แล้ว..” เขาเอ่ยออกมาเบาๆ ทั้งที่รอมานาน แต่สุดท้ายก็ยังเหลือสิ่งเลวร้ายให้อีกฝ่ายจดจำอยู่ดี
“เธอฟังก่อนได้มั้ย อย่าเพิ่งคิดจะไป” ซีวอนรีบตั้งสติและพยายามอธิบาย แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไร คนสองคนที่วิ่งมาจากที่ไกลๆก็มาหยุดอยู่ข้างกับเขา คิบอมและฮันคยองเป็นห่วงกับเรื่องที่รู้มา แต่พอมาถึงกลับไม่นึกเลยว่าจะมาเจอเข้ากับสถานการณ์แบบนี้
“อยากพูดอะไร ก็ว่ามาสิ” เสียงเย็นๆเอ่ยราวกับว่าทุกคนตรงหน้าเป็นคนอื่นไปหมด แม้แต่กับพี่ชายและเพื่อนรักอีกคน ดงแฮก็พยายามจะไม่หันไปสบตา
“คือ มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดนะ” ซีวอนเผลอพูดออกไปโดยมานึกได้ทีหลังว่ามันเป็นเพียงคำแก้ตัวสำหรับคนฟังอยู่ดี
“จะบอกว่าฉันเข้าใจผิดงั้นสิ”
“ไม่ใช่นะคือ..”
“ถ้าฉันยังจำไม่ได้ นายก็จะหลอกว่าฉันคิดไปเองใช่มั้ย” ดงแฮถามด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ ขณะที่ทั้งสามคนที่เหลือไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกไปเลย เพราะรู้ว่ามันไม่มีประโยชน์ ฮันคยองยกมือทั้งสองข้างปิดปากเอาไว้เพราะแรงสะอื้นจากการร้องไห้ ดงแฮฝืนใจมาพี่ชายอย่างยากลำบาก
“ถ้าผมเข้าใจผิด แล้วข้อความของพี่ที่ส่งให้เค้าวันที่ผมออกจากโรงพยาบาล มันหมายความแบบไหน .. ถ้าฉันคิดไปเองล่ะซีวอน แล้วที่นายคุยกับคังอินในห้องวันนั้นมันคืออะไร ฉันเข้าใจไม่ถูกใช่มั้ย” ดงแฮเอ่ยออกมาทั้งน้ำตา ทำให้ทั้งสามคนกระจ่างชัดในใจแล้วว่าทำไมคนตรงหน้าของพวกเขาที่จำอะไรไม่ได้ถึงได้แต่ต่อต้านและชอบพูดอะไรแปลกๆให้คิดตามไปด้วย
ซีวอนหลับตาลงอย่างทรมานขณะที่ความคิดเดียวกันกับอีกสองคนจะเข้ามาในหัว ดงแฮต้องเจ็บมาเท่าไหร่ แม้ในยามที่ไม่มีความทรงจำเก่าๆมาคอยทำร้าย แต่ตัวเองก็ยังคงต้องทนทุกข์อยู่กับความสับสน ความไม่แน่ใจกับสิ่งที่รู้มาโดยบังเอิญ ความกลัว หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่สุดท้ายมันก็กลายเป็นความเจ็บปวดดีๆนี่เอง
“ดงแฮ พี่ขอโทษ .. เราทุกคนไม่ได้มีใครตั้งใจโกหกนายเลยนะ ตั้งแต่ที่นายจำไมได้เราก็รอคอยมาตลอด..”
“ก็ผมจำได้แล้วนี่ไง จำได้ดีทีเดียว” ประโยคหลังพูดแล้วก็หันมามองหน้า
“ขอโทษนะที่ทำให้ลำบากกันไปหมด” ดงแฮเป็นฝ่ายขอโทษออกมาเสียเอง แต่ทั้งสามที่รู้สึกผิดกว่าเดิมกลับนึกไม่ออกเลยว่าคนๆนี้ไปทำผิดเอาไว้ที่ตรงไหน
ตะวันที่ปลายขอบฟ้ากำลังเคลื่อนออกมาพร้อมแสงสว่างมากกว่าเดิม หากแต่หัวใจของทุกคนกลับมืดมนลงไปทุกที .. สำหรับซีวอนแล้ว เขามองเห็นเพียงแค่ร่างของคนที่เป็นดั่งดวงใจกำลังเดินจากเขาไป
“อย่าไปเลยนะ .. ฉันขอร้อง” ไม่ว่าซีวอนจะร้องเรียกเอาไว้แค่ไหนก็ไม่สามารถรั้งดงแฮเอาไว้ได้ คนที่ฝืนใจบอกลาก็ใช่ว่ากำลังเย็นชาอย่างที่กำลังเป็น
ต่อให้หัวใจมันเจ็บจนชาแค่ไหนเขาก็ไม่เคยลืม ว่ารักครั้งนี้ที่เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายในชีวิต จะฝังอยู่ในใจไม่ไปไหน
หลังจากสั่งให้ซองมินจัดการเรื่องกลับโซลในเช้าวันนี้แล้ว คิบอมก็ต้องพยายามบอกกับดงแฮอีกครั้งว่าเขาไม่มีปัญหาอะไรกับการปิดสัมมนาในบ่ายวันนี้ เพราะว่าอีกฝ่ายได้แต่บอกว่าเกรงใจเสียหลายครั้ง แต่ดงแฮไม่รู้หรือไง ว่าคนเป็นเพื่อนกันเค้าจะทิ้งกันได้ที่ไหน ยิ่งในสภาพที่เป็นอยู่ด้วยแล้ว ถ้าไม่ใช่คิบอมพากลับมาส่งบ้านแล้วใครจะทำ
บ้านหลังเดิมที่รวมความทรงจำเอาไว้มากกว่าครึ่งได้ปรากฏแก่สายตาของดงแฮเมื่อมาถึง คิบอมมาส่งดงแฮที่บ้านท่ามกลางสายตาของทุกคนที่เต็มไปด้วยคำถาม ร่างบางย่อตัวลงให้ลูกสาวตัวน้อยวิ่งเข้ามาหานั้นกอดเอาไว้ ใบหน้าหวานหอมแก้มเด็กน้อยด้วยความคิดถึง
“แม่ไม่อยู่แล้วฮีชอลซนรึเปล่าล่ะลูก ขี้แยด้วยมั้ย”
“ฮีชอลไม่ขี้แยซักหน่อย คุณป้าฮันนี่บอกว่าถ้าขี้แยแล้วคุณพ่อจะไม่อยากกลับมาหาฮีชอล” พอถึงตรงนี้ก็เหมือนมีอะไรสักอย่างทิ่มแทงลงไปกลางใจคนฟัง รอยยิ้มที่ฝืนเต็มทีแบบนี้ แม้ว่าเด็กน้อยจะไม่รู้เรื่องแต่ผู้ใหญ่ทุกคนกลับดูออก
คิบอมเล่าทุกอย่างให้ป้ายุนฮีฟังหลังจากที่เปลี่ยนมานั่งอยู่ตรงโซฟาตัวใหญ่แทน
“ป้าแค่ภาวนาให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ป้าสงสารทุกคน”
“นั่นสิครับ .. เดี๋ยวพรุ่งนี้สองคนนั้นก็จะกลับมาแล้ว ไงก็ฝากป้าดูแลดงแฮด้วยนะครับ เพราะผมคงพูดอะไรไม่ได้แล้วในตอนนี้ อย่างทู้ว่าอะไรๆมันมาไกลกว่าที่เราจะกลับไปแก้” คิบอมพูดถูก จะกลับไปแก้อะไรล่ะ จะยังมีอะไรเหลือให้กลับไปแก้ไขอีกอย่างนั้นหรือ ..
เกาะสวาทหาดสวรรค์ของใครหลายคน รวมทั้งตัวเองในอดีต บัดนี้กลับเป็นเพียงเกาะธรรมดาเกาะหนึ่งที่เงียบเหงามากกว่าเดิมเมื่อความมืดมาเยือน ตั้งแต่วินาทีที่ความจริงที่เขาเฝ้าหวาดกลัวตลอดนั้นมาถึง จนตอนนี้อีกฝ่ายก็ทิ้งกันไปแล้ว กี่ชั่วโมงแล้วที่ซีวอนได้แต่จมอยู่กับกองน้ำตาบนเตียงที่คืนก่อนยังมีอีกคนอยู่เคียงข้าง กี่ชั่วโมงแล้วที่เขาได้แต่นอนแน่นิ่งอยู่กับที่ นี่ล่ะมั้งที่เค้าเรียกกันว่า
หนึ่งคืนผ่านพ้นไปอย่างยากลำบากสำหรับทุกหัวใจที่เกี่ยวพันกันไว้ ฮันคยองและคิบอมเสียใจกับเรื่องที่เกิด ซีวอนกำลังเจ็บเจียนตายกับความรักที่กำลังจะจบลง และดงแฮที่หัวใจบอบช้ำจนกลัวที่จะอยู่ต่อไป
ประตูห้องนอนถูกเปิดอออกโดยป้ายุนฮี ภาพที่เห็นคือสองแม่ลูกที่อยู่ด้วยกัน แต่ที่แย่กว่านั้นคือคุณหนูดงแฮของเธอกลับกำลังเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าอย่างที่บอกเอาไว้ แม้จะในเวลาสั้นๆแต่ดงแฮกลับขอร้องให้คิบอมช่วยเรื่องกลับเข้าบริษัท ฟังดูแล้วมันน่าจะดีกับใครหลายคน แต่ที่แย่ก็คือมันเป็นสาขาที่อื่นนี่สิ
“คิดดีแล้วเหรอคะ ป้าว่าลองปรึกษาพี่เค้าดูก่อนมั้ย”
“ผมคิดดีแล้ว..” ดงแฮตอบน้ำเสียงปกติเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายหวังดี แต่เขาคงทำตามที่บอกมาไม่ได้ ป้ายุนฮีมองกระเป๋าใบใหญ่ด้วยแววตาแสนเศร้าที่ไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น หนูน้อยฮีชอลที่นั่งอยู่ข้างๆโดยเข้าใจว่าตัวเองจะได้ไปเที่ยวนั้น ยิ่งมองดูก็ยิ่งน่าสงสารไม่แพ้กัน
“เครื่องออกกี่โมงล่ะคะ” ป้ายุนฮีถาม
“ก็อีกไม่กี่ชั่วโมงหรอกครับ” ดงแฮตอบ
“ทำไมไม่รออีกสักสองสามวันล่ะคะคุณหนู”
“อย่าห่วงเลยครับ ซูยองก็ไป ฮีชอลไม่เหงาหรอก ส่วนเรื่องไฟล์ทไปอังกฤษ ของบริษัทมันอีกหลายวันเลย ผมไม่อยากรอเลยหาเอาใหม่ เลยเร็วที่สุดแล้ว” พูดไปก็หยิบจับเอาแต่ละอย่างที่จำเป็นเข้ากระเป๋าไปด้วยเหมือนกับว่าเป็นการไปไม่กี่วันแล้วก็กลับ ทั้งสองพูดคุยกันอีกไม่กี่ประโยคก่อนที่ทุกอย่างจะเสร็จเรียบร้อย ดงแฮกับลูกและซูยองที่ขอตามไปพร้อมที่จะออกจากบ้านโดยมีลุงซางฮยอนเตรียมรถไว้รออยู่ แต่มีเพียงอย่างเดียวที่ทำให้เขาต้องนั่งรอเวลาอยู่ในห้อง ป้ายุนฮีขอตัวออก
มาก่อนที่จะนึกถึงสิ่งที่คุณหนูของเธอบอกไว้ก่อนหน้านี้ด้วยความสงสารจับใจ
“ผมอยากจะรอเจอเค้าก่อนน่ะครับ”
ดงแฮนั่งอยู่ที่ปลายเตียงอย่างเงียบๆ ดวงตาทั้งคู่ที่กำลังจะมีน้ำตาพยายามขยับถี่ๆเพื่อไล่มันออกไป แต่มันคงไม่ง่ายนัก เพราะเวลาที่มองไปรอบๆห้องนี้ทีไรเหมือนใจมันไม่อยากจากทุกที ความทรงจำดีๆที่มีทั้งหมดมันมีค่าให้จดจำกว่าอะไรมากมายที่แสนจะเลวร้าย เขาถึงเลือกที่จะเก็บแต่สิ่งดีๆเอาไว้ .. และสิ่งไม่ดี มันก็คงจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีกแล้วกับใจดวงนี้ ไม่มีทาง คนเป็นลูกเมื่อเห็นว่าแม่ตัวเองดูเงียบไปและไม่มีรอยยิ้มจึงขยับเข้าไปหา ร่างบางในชุดเสื้อเชิ้ตสีเข้มกับกางเกงตัวยาวเอื้อมแขนออกไปรับเอาร่างลูกสาวตัวน้อยไว้ น้ำตาที่คิดว่าไม่อยากให้ลูกต้องเห็นจู่ๆมันก็ไหลออกมาจริงๆ
“คุณแม่ร้องไห้ทำไม .. ฮีชอลซนเหรอ” เสียงเล็กๆเอ่ยถามอย่างไร้เดียงสา
“ไม่หรอกลูก สงสัยแม่ยังไม่หายคิดถึงฮีชอลแน่เลย” ดงแฮบอกพร้อมรอยยิ้ม
“แล้วคุณแม่ไม่คิดถึงคุณพ่อเหรอคะ...” เอาอีกแล้วสิ ดงแฮถูกถามแบบนี้อีกแล้ว .. คิดถึงสิ คิดถึงใจจะขาด แต่มันก็ได้แค่คิดถึง
ไม่นานนักประตูห้องนอนก็ถูกเปิดออกอย่างแรง ร่างโปร่งบางที่แสนคุ้ยเคยของพี่ชายกำลังตรงมาหาดงแฮหลังจากที่รู้เรื่องทั้งหมดจากคิบอม ภาพที่ฮันคยองเห็นทั้งหมดมันกำลังบอกเขาว่าน้องชายคนนี้กำลังจะไปจริงๆ
“ไม่นะดงแฮ นายทำแบบนี้ไม่ได้นะ .. ฟังพี่นะ เปลี่ยนใจซะ เรื่องนี้พี่จัดการให้นายอยู่บริษัทเหมือนแต่ก่อนได้ .. ”
“พอทีเถอะ” ดงแฮเอ่ยออกมาด้วยความเหนื่อยพร้อมทั้งยืนขึ้นเผชิญหน้ากับฮันคยอง เสียงคุยกันของทั้งสองดังมากขึ้นจนร่างเล็กที่อยู่ด้วยกำลังจะร้องไห้ออกมา ดงแฮอุ้มเอาร่างของลูกสาวไว้ก่อนจะตะโกนเรียกซูยองให้มาดูแลฮีชอลแทนเขาไปก่อน แต่คนที่เข้ามาในห้องกลับทำให้ดงแฮได้แต่ยืนค้าง สองสายตาสบกันอย่างไม่มีคำพูด ทั้งที่ลึกๆอะไรบางอย่างน่าจะสื่อกันได้แท้ๆ
“คุณพ่อ..”
“ฮีชอล” ชายหนุ่มยิ้มกว้างเมื่อเห็นหน้าลูกสาวตัวน้อยที่ไม่ได้เจอกันมาหลายวัน ก่อนที่จะสบตาคู่เดิมที่ยังคงมองเขาเช่นกัน ร่างเล็กเอี้ยวตัวออกเพื่อจะไปหาคนเป็นพ่อ ซีวอนเอื้อมมือไปรับเอาลูกสาวตัวน้อยจากมือของดงแฮที่ขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิม และทันทีที่ฮีชอลไปอยู่ในอ้อมกอดของซีวอนแล้วทั้งสองก็ต้องจำใจเดินห่างกันออกมาอีก ร่างสูงหยุดยืนไม่นานก่อนที่จะพาลูกออกจากห้องไปด้วยหัวใจปวดร้าว
“ขอร้องนะดงแฮ พี่จะอยู่ยังไงถ้าไม่มีนายสองคน”
“.. ผมจำเป็น”
“แล้วพวกเราล่ะ ทุกคนล่ะ ฮีชอลที่จะต้องไม่มีพ่อล่ะ” ฮันคยองพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แต่คนฟังได้เพียงแค่ยืนเฉย ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกกับการกระทำที่ไม่เข้าท่าของตัวเอง แต่ทั้งหมดที่ผ่านมา ทำยังไงมันก็ไม่มีทางเลือกที่ตัวเองต้องการไปมากกว่านี้แล้ว
“พี่รู้มั้ย ... ไม่ว่าพี่จะทำอะไรไว้กับใจผมแค่ไหน” ถึงตรงนี้ คนที่น้ำตาไหลกลับเป็นฮันคยองที่เจ็บในใจราวกับถูกใครเอาก้อนหินมาทุบ ความผิดที่ทำเอาไว้กับน้องชายสุดที่รัก หากเลือกได้เขาจะไม่ทำมันอีกเลย
“อย่าร้องเลย ถึงผมจะบอกว่าโกรธ จะบอกว่าเกลียดพี่ แต่ที่จริงผมรักพี่มากนะ”
“........”
“ตั้งแต่เด็กจนโต พี่เสียสละให้ผมมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นของเล่นชิ้นไหน ขนมอะไร ถ้าผมอยากได้พี่ก็จะให้โดยไม่ปริปากซักคำ แต่พี่เคยรู้มั้ยว่าน้องชายที่พี่รักมากคนนี้มันจะมีความรู้สึกอยู่เหมือนกัน ผมอยากเสียสละให้พี่บ้าง อยากทำอะไรเพื่อพี่ชายคนนี้อย่างที่พี่ให้ผมเรื่อยมา เพราะงั้น .. แค่ผู้ชายคนเดียว ต่อให้พี่เป็นฝ่ายมาทีหลัง และต่อให้ผมรักเค้ามากแค่ไหน ถ้าพี่กับเค้าต้องการกัน บอกมาคำเดียวตั้งแต่แรก ผมก็ให้พี่ได้”
“ดงแฮ มันไม่ใช่อย่างนั้น ซีวอนต้องการนาย ไม่ใช่พี่”
ทุกอย่างระหว่างสองพี่น้องแม้ว่ามันจะมีเหตุให้เศร้าเสียใจเพียงใด แต่ความเข้าใจที่มีให้กันในวันนี้มันกลับคุ้มค่ายิ่งกว่าเวลาที่เสียมาตลอด
“พี่ขอโทษนะ..”
“ไม่เป็นไร” ฮันคยองดึงเอาร่างของน้องชายมากอดเอาไว้ไม่ปล่อย ทุกหยดน้ำตาที่มีในตอนสุดท้ายเป็นสิ่งที่บอกให้ฮันคยองรู้ว่าตอนนี้เขากำลังจะหลุดพ้นจากการเป็นคนหลอกลวงเสียที แม้ว่าจะไม่อาจรั้งให้ดงแฮอยู่ต่อก็ตาม
ห้องนอนกลับมาว่างเปล่าอีกครั้ง มีเพียงดงแฮที่กำลังออกแรงลากเอากระเป๋าใบใหญ่ออกมานอกห้อง แต่ด้านหลังก็ชนเข้ากับอีกคนที่เพิ่งเข้ามาเสียก่อน
“เธอจะทิ้งฉันไปจริงๆเหรอดงแฮ” เสียงทุ้มเอ่ยถามก่อนที่คนตรงหน้าจะหันกลับมาหาเขาตรงๆ ดงแฮไม่ตอบอะไรนอกจากเดินเข้าไปใกล้ซีวอนมากกว่าเดิม
“ก่อนไป ฉันตั้งใจรอเจอนายเป็นครั้งสุดท้าย” ว่าแล้วมือบางทั้งคู่ก็เอื้อมไปที่ปกเสื้อของคนตรงหน้า ใบหน้าที่เจือไปด้วยรอยยิ้มเศร้าๆกำลังจัดการกับปกเสื้อที่ไม่เข้าที่เข้าทางของซีวอนอย่างตั้งอกตั้งใจ มือบางสั่นน้อยๆพร้อมกับที่ริมฝีปากกำลังเม้มเข้าหากันเพื่อสะกดไม่ให้น้ำตามันไหลออกมา เรือนผมนุ่มที่ห่างจากใบหน้าคมไปเพียงแค่คืบเดียวนั้นทำให้เขาอยากจะกอดอีกฝ่ายเอาไว้ไม่ให้ไปไหนเหลือเกิน ลมหายใจของคนทั้งสองกำลังติดขัดอย่างรู้สึกได้ .. ทั้งที่รักกันมาแท้ๆ แต่ทำไมอยู่ด้วยกันไม่ได้
“โอเค เสร็จแล้ว” ดงแฮก้าวถอยไปเพื่อสำรวจดูความเรียบร้อยที่ตัวเองเป็นคนทำ แม้ว่าทุกครั้งที่เคยทำมันอาจจะไม่ค่อยได้เรื่อง แต่ครั้งนี้เขากลับมองว่ามันดูดีกว่าครั้งก่อนเป็นไหนๆ ขณะที่ซีวอนไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลยสักนิด
“เธอต้องการอะไร แค่ต้องการไปจากฉัน หรือต้องการแก้แค้นให้ฉันทุกข์ทรมานในยามที่ไม่มีเธอ”
“...........”
“ได้โปรด อย่าแกล้งทรมานกันเล่นเลยนะ ฉันไม่สนุกด้วยเลยสักนิด”
“แล้วที่ผ่านมาฉันสนุกงั้นสิ ..” ดงแฮตอบเบาๆแต่ซีวอนได้ยินชัดเจน คนถูกย้อนถามไม่มีคำใดที่จะกล้าเอ่ยออกมาเลยนอกจากคำๆเดียวที่เฝ้าบอกอยู่ซ้ำๆ
“ฉัน ..”
“ใครว่าฉันแกล้งทรมานนายกันซีวอน รู้ไม่ใช่เหรอว่าฉันรักนายจะตายไป” ดงแฮยิ่งพูดซีวอนก็ยิ่งเสียใจ ยิ่งรู้ว่าอีกฝ่ายรักตัวเองเท่าไหร่เขาก็ยิ่งเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปเท่านั้น
“ .. รักจนแทบทำอะไรไม่ได้ ทั้งรักทั้งหลงจนหน้ามืดตามัว ถ้าวันไม่เจอหน้าก็เหมือนว่าใจจะขาด ถ้าคืนไหนไม่ได้ยินเสียงก็คิดถึงจนแทบนอนไม่หลับ” แล้วน้ำตามันก็ไหลลงมาตามแก้มเมื่อยามที่พยายามพูดออกไปให้จบ ดงแฮไม่รู้หรอกว่าเทียบกับที่ตัวเองพูดออกมานั้น สำหรับคนตรงหน้า เขารู้สึกมากกว่าเป็นเท่าตัวด้วยซ้ำ
“ฉันขอโทษ ฉันรักเธอนะ รักมากกว่าใคร”
“ฉันก็รักนาย ซีวอน .. รักจนไม่เหลือหัวใจให้ใครอีกต่อไปแล้ว แม้ว่าหัวใจของฉันที่ยกให้นายไปหมดมันจะถูกย่ำยีจนแหลกละเอียดจนไม่มีชิ้นดี แต่ฉัน
“...........”
“ต่อให้ย้อนเวลากลับไปได้ ฉันก็เลือกที่จะรักนายอยู่ดี .. แต่ต่อให้รักนายมากแค่ไหน ในวันนี้ ตัวของฉันคงไม่ขออยู่กับใจเหมือนเดิม เพราะเรื่องที่นายทำไว้กับใจของฉัน นึกถึงทีไรมันก็เจ็บขึ้นมาทุกที”
“...........”
“เศษใจของฉันที่เหลืออยู่กับนาย จะโยนมันทิ้งไปฉันก็ไม่ได้ว่า แต่อย่าโทษตัวเองเลย ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ต่อให้เราพยามแค่ไหน มันก็ต้องจบแบบนี้อยู่ดี ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะซีวอน” ใบหน้าที่ฝืนพูดมาทั้งหมดกำลังยิ้มให้คนฟังทั้งน้ำตา นาทีนี้ต่อให้โลกต้องทั้งใบกำลังหยุดหมุน ต่อให้ทะเลไม่มีแม้คลื่นสักลูก สำหรับซีวอนแล้ว ไม่ว่าทุกอย่างจะดีจะร้ายยังไง ขอแค่ไม่เสียอีกฝ่ายไปเขาก็พร้อมจะยอม .. แต่ความจริงมักสวนทางกับความคิด อย่างที่ดงแฮพูด ต่อให้พยายามยังไงสุดท้ายมันก็จบแบบนี้อยู่ดี เหมือนกับที่เขาทำอะไรไม่ได้เลยอย่างที่คิด แม่แต่จะเช็ดน้ำตาของคนตรงหน้าก็ไม่อาจทำได้อย่างเคย
“อยู่กับฉันเหมือนเดิมไม่ได้เหรอ..” คนถูกขอร้องพยายามข่มใจไว้ไม่ให้หันกลับไปอีก มือบางแกะมือที่จับแขนตัวเองเอาไว้ออกช้าๆ ซีวอนรู้สึกใจจะขาดรอนๆ ซึ่งอีกคนกลับรู้สึกไม่ต่างกัน ร่างสูงไม่คิดจะรั้งอีกฝ่ายเอาไว้อีกแล้ว เพราะความผิดที่ยากจะให้อภัยมันตอกย้ำให้รู้ตัวเสมอว่าไม่มีสิทธิ์เรียกร้องทุกอย่างให้กลับคืนมา ในเมื่อตัวเองทำลายมันลงกับมือจนไม่เหลืออะไรอีกแล้ว
เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นท่ามกลางสายตาทุกคู่ของคนในบ้านที่ได้เพียงมองดูด้วยความสงสารจับใจ นาทีที่คนทั้งสามจะขึ้นรถเพื่อตรงไปยังสนามบิน ก็มีทุกคนออกมาส่งยกเว้นซีวอนที่ยังอยู่ที่ห้อง และก่อนที่ขาทั้งคู่จะก้าวขึ้นรถ ใบหน้าหวานที่มีเพียงแววตาเศร้าๆอดที่จะมองขึ้นไปที่หน้าต่างห้องของตัวเองไม่ได้ ไม่ได้หวังว่า
ใครคนนั้นจะออกมาหากันสักนิด ก็แค่รู้สึกว่าอยากเห็นหน้าในเวลาที่จะไปแล้วจริงๆ
.. บ้ารึไงดงแฮ ตัวเองไม่ใช่เหรอที่กำลังจะจากเค้าไป
คิดแล้วก็ก้มหน้ากลับมาตามเดิม เขายิ้มให้ทุกคนและพี่ชายตัวเองที่ได้แต่ทำหน้าเศร้า รอยยิ้มของดงแฮส่งไปยังฮันคยองที่ยืนอยู่ข้างคิบอม อย่างน้อยก็เป็นที่รู้กันว่าน้องชายคนนี้ไม่อยากเห็นพี่ตัวเองต้องร้องไห้
เพียงเสี้ยววินาทีที่รถเคลื่อนพาคนทั้งสองออกไปตามทาง ดวงตาคู่หนึ่งที่ทอดมองลงมาจากระเบียงห้องนั้นกำลังมีน้ำตาแห่งความสูญเสียหลั่งไหลออกมา
ทุกคนในบ้านไม่มีใครกล้าเอ่ยอะไรออกมา ทำได้เพียงมองผ่านบานประตูห้องเข้าไปเท่านั้น ประตูห้องที่เปิดเอาไว้เผยให้เห็นสภาพของผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่เหลือสิ่งมีค่าในชีวิตนี้แล้ว
ลมเย็นพัดพาความว้าเหว่ผ่านเข้ามายังห้องนอนที่ต่อไปนี้คงจะมีเพียงแค่เขากับความว่างเปล่า ร่างสูงของซีวอนที่นั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นทำได้เพียงปล่อยให้น้ำตาหลายหยดรินไหลลงไปบนพื้นห้อง อยากจะปล่อยให้มันชะล้างความเสียใจออกไป แต่ที่ได้กลับมา คือความเจ็บปวดที่มากกว่าเดิมร้อยเท่าพันเท่า
มนุษย์ก็อย่างนี้ล่ะนะ ชอบโทษความรักว่าช่างแสนทรมาน รักเขาเท่าไหร่ก็เจ็บเท่านั้น ทั้งที่ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น .. ก็เพราะว่ารักตัวเอง เกินกว่าจะรับได้ที่จะยอมให้อีกฝ่ายเดินจากไป
.
.
Tbc. chapter 19 [Ending part]
ความคิดเห็น