ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC SJ] WHEN ? (WonHae , BumHan / Ft.KyuMin)

    ลำดับตอนที่ #16 : WHEN ? .. Chapter.[15] Up!!

    • อัปเดตล่าสุด 3 ม.ค. 54




    แอร๊~ แอบมาลงช้าอีกแล้วค่ะ
    ปีใหม่ได้หยุดงานตั้งสองวันเลยเพลินไปหน่อย (T T ตรงไหน?)
    นี่ก็ใกล้จบแล้ว .. ยังคงขอบคุณทุกคนที่หลงเข้ามาตามเคยนะคะ 
    ณ จุดนี้ เมนท์ไม่เมนท์ ไม่ว่า ถึงอยากให้มีก็เหอะ
    ไม่เป็นไรค่ะ


    (*ภาพตอนนี้ .. คือหนึ่งในที่คั่นที่แถมไปกับรวมเล่ม^^)




    ---------------------------------------------------------------




     



    Chapter 15

     

     

                 หลังจากที่เหตุการณ์สะเทือนใจสำหรับคนสองคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยได้ผ่านไป ซองมินก็พาคยูฮยอนมาที่ห้องเบรกของพนักงานในบริษัทซึ่งอยู่อีกชั้นถัดลงมาเพราะที่นี่มีทั้งเครื่องดื่มและอุปกรณ์ต่างๆ ที่สำคัญ มีกล่องปฐมพยาบาลด้วย เห็นแบบนี้แต่ซองมินก็มีน้ำใจพอจะพาคยูฮยอนมาทำแผลแม้ว่าคนที่น่าจะต้องรับผิดชอบจะไม่ใช่เขาก็ตาม

                 นั่งลงสิ ซองมินสั่งโดยที่คยูฮยอนก็นั่งลงแต่โดยดี ร่างเล็กเดินไปเปิดเอากล่องพยาบาลออกมาจากตู้ด้านบนเคาน์เตอร์กาแฟแล้วมาวางไว้ที่ตรงหน้าอีกฝ่าย คนเจ็บมองกล่องแล้วก็ต้องเงยหน้ามองคนที่เอามาวาไว้ให้

                 มองอะไร รีบทำเข้าสิ งานยังไม่เลิกนะจะได้มายืดยาดแบบนี้ เจอแบบนี้เข้าไปคนถูกว่าก็หน้าเสียขึ้นมาทันที

                 อะไรกัน ทำไมต้องพูดแบบนี้ด้วย ไม่เห็นรึไงว่าฉันกำลังเจ็บ

                 ก็เห็นไงถึงได้บอกให้รีบเข้า

                 นายนั่นแหละที่ต้องรีบ

                 หมายความว่าไง

                 ก็รีบมาทำแผลให้ฉันไงเล่า เข้าใจยากจริงนะ ใบหน้าหล่อเหลาเริ่มทำท่าไม่สบอารมณ์ขณะที่อีกคนได้แต่ยืนอ้าปากค้างก่อนที่จะพยายามเก็บอาการไว้ไม่อยากทะเลาะกับใคร ซองมินเป็นฝ่ายนั่งลงบ้างตรงข้างคยูฮยอนแล้วจัดการทำแผลให้อย่างไม่เต็มใจ

                 โอ๊ยนี่ ! แผลนะไม่ใช่ที่จุ่มหมึกจะได้กดเอาๆแบบนี้ คยูฮยอนร้องด้วยความเจ็บกับการทำแผลที่ไม่ได้เรื่องของซองมินแต่ลึกๆแล้วเขาก็พอใจอยู่ไม่น้อย ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม เขาลอบมองใบหน้าน่ารักที่เอาแต่บูดบึ้งทุกทีที่อยู่กับเขาโดยที่คนถูกมองก็ไม่รู้ตัวเพราะมัวแต่ทำแผลไปอย่างเสียไม่ได้

                 เสร็จแล้วซองมินดึงมือกลับทำให้คยูฮยอนหลุดออกมาจากห้วงความคิด

                 ขอบใจนะ.. ไม่ทันที่อีกฝ่ายจะได้ยินหรือตอบรับโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กก็ดังขึ้น ซองมินรีบกดรับทันทีเมื่อรู้ว่าเป็นใคร เสียงพูดคุยไม่กี่ประโยคดังขึ้นก่อนจะวางไปทำให้คนที่มองอยู่นั้นไม่รู้ว่าใครโทรมา

                 โธ่เอ๊ย งานด่วนอะไรล่ะ งานเข้าล่ะสิไม่ว่า เสียงเล็กบ่นพึมพำกับตัวเองอย่างไม่เข้าใจเจ้านายที่จู่ๆจะไปก็ไปไม่ได้สนใจเลยว่าวันนี้เป็นงานสำคัญ แต่ทุกทีก็ได้แต่โทรมาสั่งแบบนี้ประจำ

                 ดูคุณเลขาจะมีเรื่องให้วุ่นวายใจหลายอย่างจังนะครับ เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น ซึ่งถ้าหากซองมินคนนี้เข้าใจว่าหวังดีก็คงเป็นคนที่โง่ที่สุดในโลกเป็นแน่

                 ถ้าอยากให้แผลหายไวๆก็เก็บปากเอาไว้ทายาเถอะนะคุณหัวหน้าฝ่ายการตลาดคนเก่ง ใบหน้าน่ารักเปลี่ยนจากอารมณ์บูดมาเป็นยิ้มให้อย่างที่คนตรง

    หน้าดูออก แต่เมื่อคยูฮยอนอ้าปากจะเถียงก็ต้องรีบยกมือขึ้นมาประคองแก้มที่ช้ำเอาไว้ จึงทำได้เพียงส่งสายตาเจ็บใจมาให้ .. ความเงียบเกิดขึ้นระหว่างเขาทั้งสองเพราะคนตัวเล็กกว่าไม่คิดอยากจะต่อล้อต่อเถียงด้วย ซองมินหมุนเก้าอี้หันออกไปยังหน้าต่างกระจกใสด้านนอกพลางมองออกไป

                 สมน้ำหน้าที่ไปยุ่งเรื่องชาวบ้าน พูดไปทั้งที่หันข้างให้ตัวต้นเหตุที่ไม่เคยจะยอมรับ

                 เหอะ ฉันไม่ได้ทำอะไรเสียหน่อย

                 ไม่สำนึกอีกนะ ก็เรื่องคุณดงแฮไง เลิกยุ่งกับเค้าได้แล้ว ขืนนายไม่เลิกคุณซีวอนเอานายตายแน่

                 อ๋อเหรอ งั้นก็ช่วยไม่ได้นะ ก็ฉันชอบเค้านี่

                 ชอบงั้นเหรอ ซองมินหันกลับมาถามด้วยใบหน้าที่แสดงออกมาว่าสิ่งที่คยูฮยอนพูดนั้นมันช่างไร้เหตุผลสิ้นดี

                 มองแบบนี้หมายความว่าไง

                 จะบอกอะไรให้นะคุณคยูฮยอน คุณดงแฮเค้าไม่มีวันหันมาสนใจคุณหรอก

                 แต่ฉันสนใจเค้า

                 แต่เค้าไม่ได้สนใจนาย

                 แล้วนายรู้ได้ไง ถึงตรงนี้ซองมินก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร เขาอยากจะถามเหลือเกินว่ายังจะกล้าคิดอีกเหรอว่าคุณดงแฮจะสนใจตัวเอง มันเป็นไปไม่ได้แม้แต่จะคิดหรอก แม้แต่คิบอมที่คบกันมานานและเคยชอบดงแฮมาก่อน ดงแฮก็ยังไม่คิดเกินเลยด้วยแม้แต่นิด

                 เอ๊ะ .. รึว่านายหึงฉัน

                 อย่าหลงตัวเองเลย พูดไปอย่างนั้นทั้งที่กำลังใจเต้นอย่างไม่รู้สาเหตุ แต่ก็ตระหนักได้ว่ากำลังถูกแกล้งเหมือนอย่างเคย ซองมินรีบหันหน้าหนีคนไม่ได้เรื่อง

                 นายมันมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นจริงๆ

                 งั้นเหรอ

                 นิสัยแย่

                 อืม

                 ไม่ได้เรื่อง

                 นั่นสินะ

     

                 คยูฮยอนนึกเรื่องสนุกออกเลยได้แต่ยิ้มอย่างมีเลศนัยอยู่ด้านหลังซองมิน

                 นี่นาย มีแฟนรึยัง แน่นอนว่าเป็นอย่างที่คิด อีกฝ่ายหันขวับกลับมาทันทีราวกับสั่งได้

                 ขอเตือนครั้งสุดท้ายว่าอย่ากวนประสาท ซองมินบอกด้วยท่าทีที่คยูฮยอนเดาไม่ผิด เขาหัวเราะออกมาอย่างได้ใจเล่นเอาคนถูกหัวเราะต้องทำหน้าไม่ถูก ซองมินรู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

                 หัวเราะอะไร

                 เปล่า .. ก็แค่คิดว่าทำไมนายต้องหน้าแดงด้วย

                 ว่าไงนะ ว่าแล้วก็ต้องยกมือขึ้นจับที่หน้าตัวเอง ท่าทางเชื่อง่ายแบบนั้นบางทีคยูฮยอนก็รู้สึกชอบขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ร่างเล็กเห็นทีท่าอีกฝ่ายก็เริ่มจะเข้าใจแล้วว่าตัวเองกำลังถูกหลอก ด้วยความที่ไม่ชอบขี้หน้าอยู่แล้วความอดทนจึงหมดไป ใบหน้าที่ช้ำจากการถูกต่อยเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ถูกทำให้เกิดรอยช้ำซ้ำสองด้วยหมัดเล็กๆที่ชกเข้ามาเต็มๆ

                 โอ๊ย !!!” คยูฮยอนร้องสียงหลงด้วยความเจ็บปวดก่อนที่จะถูกดึงให้ลุกจากเก้าอี้แล้วผลักออกไปยังผนังห้องอย่างแรง

                 ทำอะไรน่ะซองมิน จะบ้ารึไง หนุ่มนักเรียนนอกร้องใส่อย่างไม่อยากจะเชื่อว่าเขาต้องโดนผู้ชายสองคนต่อยเอาในวันเดียวกัน

                 คนที่บ้าน่ะมันนายต่างหาก ชีวิตว่างมากนักรึไงถึงได้ต้องไปแย่งแฟนคนอื่นเค้า ซองมินหน้าแดงขึ้นมาจริงๆเพราะว่ากำลังโกรธมาก ดวงตากลมโตจ้องมาอย่างแน่วแน่จนคยูฮยอนไม่เข้าใจจึงได้เอ่ยถามช้าๆ

                 แล้วนายโกรธแทนพวกเค้ามากขนาดนั้นเลยเหรอ ก็จริงอยู่ที่ซองมินโกรธแทนแต่ว่ามันก็ไม่ทั้งหมด บางทีเขารู้สึกจิตใจมันแปลกๆ สงสัยเป็นเพราะไม่ชอบคยูฮยอนล่ะมั้ง ใบหน้าน่ารักก้มมองพื้นอย่างใช้ความคิด ทำให้คนที่มองอยู่ถือโอกาสตรงเข้าประชิดตัวแล้วล็อคแขนเอาไว้ไม่ให้ดิ้นหนี

                 เฮ้ย ! จะทำอะไรน่ะ ซองมินตกใจที่จู่ๆก็ถูกเอาคืนแบบนี้

                 ไม่น่าถาม ใบหน้าหล่อเหลาที่ยังรอยช้ำเอาไว้นั้นดูเจ้าเล่ห์ขึ้นมาทันที ร่างเล็กเริ่มรู้สึกได้ว่าไม่น่าทำแบบนั้นลงไปเลยจริงๆ งานนี้เขาต้องโดนเอาคืนแน่ แต่ต่อให้รู้ตัวก็ไม่คิดจะร้องขออะไรออกไป ถ้าจะถูกต่อยคืนก็คงไม่ถึงตาย ลูกผู้ชายแค่นี้สบายอยู่แล้ว

                 ร่างสูงที่ยืนประกบอยู่ด้านหลังล็อคแขนอีกฝ่ายเอาไว้แน่นอย่างไม่ยอมปล่อยหลุดไปได้เลย คนตัวเล็กค่อยหายเข้าไปในอ้อมกอดนั้นมากขึ้นอย่างไม่รู้ตัว น่าแปลกที่ซองมินไม่ได้โวยวายอย่างที่คยูฮยอนคิดไว้ เขาเองก็ไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน สันจมูกโด่งแอบแนบลงไปที่เรือนผมของคนในอ้อมกอด .. ซองมินอึดอัดในใจมากกว่าร่างกายที่ถูกล็อคเอาไว้เสียอีก ใจหนึ่งกลัวถูกเอาคืน แต่อีกใจรู้สึกกลับแปลกๆ ความกลัวที่ท่วมท้นทำให้เขาหลับตาแน่นเพื่อเตรียมรับการเอาคืนที่กำลังจะเกิดขึ้น

    ชั่วขณะเดียวที่ไร้เสียงพูดและการไหวติง ร่างกายที่อิงแอบ ใบหน้าที่ใกล้กัน จากที่แค่อยากจะแกล้ง สุดท้ายคยูฮยอนก็อดไม่ได้จริงๆ

     

    .. ความอึดอัดท่ามกลางความเงียบถูกเขาทำลายลงเพียงแค่  .. หนึ่งจุมพิต

     

     

     



                 ร้านกาแฟเล็กๆอยู่ไม่ไกลจากตึกบริษัทนัก คิบอมพางดงแฮมาที่นี่เพราะคิดว่าหากอยู่ที่นั่นต่อไปต่อให้เข้มแข็งยังไงก็คงทรมานใจอยู่ดี ไออุ่นของกาแกในถ้วยเซรามิกลอยส่งกลิ่นหอมกรุ่นทำให้คนที่กำลังจะดื่มนั้นรู้สึกดีไม่น้อย

                 รู้สึกอะไรไหม คิบอมถามคนตรงหน้าที่นั่งเงียบก่อนจะยกกาแฟขึ้นดื่ม เขามองใบหน้าของเพื่อนรักอย่างเดาอาการไม่ถูก

                 รู้สึกอะไร ไม่หนิ ดงแฮปฏิเสธไปทั้งที่คิบอมก็พอจะเข้าใจว่าสาเหตุของการความจำเสื่อมนั้นมันคงทำให้ดงแฮติดใจอยู่ไม่น้อย

                 นายจะปากแข็งไปถึงไหน ร้องไห้แบบนี้เนี่ยนะไม่รู้สึกอะไร

                 ...........ดงแฮไม่ตอบอะไร ถูกพูดมาแบบนี้แล้วจะให้บอกว่ารู้สึกงั้นเหรอ คิบอมคงไม่รู้หรอกว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น

                 อยากจำได้ใช่มั้ย แน่นอน ดงแฮอยากจำได้จะได้รู้ๆไปว่าทุกอย่างเป็นยังไง ถึงเวลานั้นก็จะได้ตัดสินใจได้โดยไม่ลังเลแบบคนไม่รู้ทิศทางอะไรแบบนี้

                 นายเป็นเพื่อนฉันเหรอคิบอม งั้นขอถามอะไรอย่างสิ

                 อืม ว่ามาสิ เสียงทุ้มรับคำก่อนจะยกกาแฟถ้วยตรงหน้าขึ้นจิบบ้าง

                 นายกับพี่ฉันมีอะไรกันงั้นเหรอ คนถูกถามวางถ้วยลงทันทีอย่างไม่อยากเชื่อว่าจะโดนถามแบบนี้ คิบอมหันหน้าหนีเหมือนไม่อยากพูดถึงเท่าไหร่นัก ดงแฮจ้องมองอย่างจะเอาคำตอบให้ได้

                 จะถามทำไม

                 แล้วทำไมจะถามไม่ได้ ก็รู้ๆกันอยู่ นอกจากฉันแล้วคนบางคนก็คงจะรู้ด้วยอ่ะนะ ถึงได้ดูหงุดหงิดงุ่นง่านอยู่ตลอดเวลา ที่แท้ก็หึงพี่ฮันนี่เอง พูดแล้วก็ยิ้มออกมาอย่างรู้ดีไปเสียหมด

                 นายเข้าใจอย่างนั้นเหรอ คิบอมแปลกใจที่ดงแฮเข้าใจไปอีกแบบก่อนที่จะนึกอีกเรื่องขึ้นมาได้ .. ทำไมดงแฮรู้เรื่องซีวอนกับฮันคยอง ชายหนุ่มครุ่นคิดอยู่ในใจกับเรื่องที่กำลังสงสัยขณะที่คนตรงหน้าก็นั่งดื่มกาแฟไปเงียบๆโดยไม่รู้ตัวว่าอีกฝ่ายกำลังคิดเรื่องที่ตัวเองพูดออกไปก่อนหน้านี้

                 คิดอะไรอยู่น่ะ จู่ๆดงแฮก็ถามขึ้นเมื่อเห็นว่าคิบอมเงียบไปนานเหมือนคิดอะไรอยู่

                 ถามจริงๆนะดงแฮ นายมีอะไรในใจรึเปล่า

                 หึ ตลกดีนะ จะมีอะไรในใจได้ไง ในหัวยังไม่มีอะไรเหลือเลย

    ทั้งสองมองหน้ากันด้วยอารมณ์ที่แตกต่าง อีกคนปฏิเสธทุกอย่าง อีกคนก็แคลงใจอย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อ คิบอมคิดว่าเก็บคำถามไว้ในใจแล้วรอดูทุกอย่างต่อไปจะดีกว่า ตอนนี้เขาไม่อยากจะคาดคั้นเอาอะไรกับอีกฝ่ายมากนัก แค่นี้ที่เป็นอยู่ก็สงสารเพื่อนตัวเองจะแย่ เขาไม่เคยนึกมาก่อนว่าสักวันดงแฮจะต้องมาเจ็บช้ำเพราะซีวอนเข้าจริงๆ ทั้งสองปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยไม่ได้พูดอะไรกันเลย ไม่นานเค้กส้มหนึ่งชิ้นก็ถูกวางลง
    ที่โต๊ะโดยบริกรหนุ่มที่เดินมาเสิร์ฟถึงที่ ดงแฮมองมันอย่างสนใจก่อนจะถามขึ้น

                 นายสั่งมาเหรอ

                 อืม อย่ามัวแต่มองสิ สั่งให้นายนั่นแหละ

                 โห ใจดีซะด้วยนะ ว่าแล้วก็ยิ้มขอบคุณก่อนจะลงมือหยิบส้อมอันเล็กจิ้มเค้กเข้าปาก

                 เป็นไง อร่อยล่ะสิ

                 จริงด้วยแฮะ อีกอย่างฉันกำลังหิวน่ะ พูดจบก็กินต่อไปโดยมีคิบอมนั่งอมยิ้มมองดูอยู่

                 เมื่อไหร่นายจะจำได้นะดงแฮ นายคนเดิมที่.. คิบอมกำลังจะบอกว่าคนที่รักซีวอนหมดหัวใจหายไปไหนกัน ดงแฮเงยหน้ามองพลางขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจที่คิบอมกำลังจะพูด แต่เขาก็ไม่อยากจะรู้นักหรอกในเมื่อรู้ไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา

                 ทำหน้าเครียดแบบนี้ไม่หล่อเลยนะคิบอม น้ำเสียงร่าเริงที่เคยแซวกันมาก่อนถูกเอ่ยออกมาจากปากของคนที่จำไม่ได้ คิบอมจ้องดงแฮไม่วางตาเพราะเขารู้สึกได้มากขึ้นว่าเพื่อนรักคนเดิมใกล้จะกลับมาแล้ว

     

     

                 งานเลี้ยงที่จัดขึ้นดำเนินไปด้วยดีต่างจากบรรยากาศภายนอกที่ฮันคยองและซีวอนเพิ่งจากมา ร่างโปร่งบางมองหาน้องชายด้วยความเป็นห่วงจนลืมไปเลยว่าเวลานี้มันเป็นเวลางานที่เขาควรจะทำตัวปกติ ไม่ใช่คอยคิดแต่เรื่องส่วนตัวอย่างนี้ ร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างกันก็กลัวว่าคนที่พวกเขากำลังมองหาจะเป็นอะไรหรือเปล่า ทั้งสองมองหน้ากันอยู่ครู่หนึ่งท่ามกลางแขกในงานก่อนที่เดินหลบออกมาทางด้านห้องพักที่ไม่มีใคร ฮันคยองทิ้งตัวลงที่เก้าอี้รับรองด้วยความกลุ้มใจ

                 ดงแฮยิ่งจำอะไรไม่ได้อยู่ด้วย แล้วหายไปไหนของเค้านะเขากำลังกลุ้มใจมากโดยมีซีวอนที่นั่งอยู่ข้างๆพยายามปลอบใจ

                 ใจเย็นๆสิ ดงแฮโตแล้วนะไม่ใช่เด็กๆ

                 ก็ถ้าเด็กคงไม่เป็นแบบนี้หรอก

                 เฮ้อ .. ซีวอนถอนหายใจเพราะไม่รู้จะแก้ปัญหายังไง ทั้งที่เขาก็ห่วงไม่แพ้กันหรืออันที่จริงที่กำลังพุดอยู่ตอนนี้มันเป็นข้ออ้างที่ไม่กล้าเจออีกฝ่ายกันแน่เขาเองก็ไม่แน่ใจนัก

                 ก็ถูกของนายนะ ดงแฮโตแล้วไม่เป็นอะไรหรอก ฮันคยองคลายความตึงเครียดลงเมื่อลองนึกให้มันสมเหตุสมผล อันที่จริงแล้วเขาคงจะบ้าห่วงน้องมากไปหน่อยเท่านั้นเอง

                 น้องชายนายเค้าเกลียดฉันจะแย่อยู่แล้ว รู้มั้ยว่าฉันไม่กล้าเจอเค้า ฉันกลัวซีวอนบอก

                 ฉันเข้าใจนะซีวอน แต่นายอย่าลืมสิ...

                 ว่าเราทำร้ายดงแฮมามากแค่ไหน

                 ....... ฮันคยองเงียบไปเมื่อถูกอีกฝ่ายแย่งพูดประโยคของเขาเสียก่อน

                 บางทีนายก็ต้องรู้จักให้เวลาดงแฮบ้าง ค่อยเป็นค่อยไป อย่าเพิ่งท้อสิ

                 แต่ฉัน สีหน้ากลุ้มใจไม่ต่างกันทำให้ฮันคยองเป็นฝ่ายยิ้มให้เสียเอง

                 เอางี้ดีกว่า นายต้องรอและพยายามพาดงแฮไปในที่ๆเคยไป พยายามพูดเรื่องเก่าๆระหว่างนายกับเค้า ฮันคยองแนะนำ แต่พอถึงตรงนี้ทั้งสองก็ต่างรู้ดีแก่ใจว่าเรื่องเก่าๆมันคืออะไร พวกเขาเลือกที่จะไม่พูดมันออกมามากกว่า

                 โอเคนะซีวอน ฉันไปดูลูกน้องหน่อยดีกว่า หายมาซะนานว่าแล้วก็ตบบ่าอีกฝ่ายเบาๆก่อนจะเดินจากไปในอีกมุมหนึ่งของงานพร้อมกับรอยยิ้มที่ฉาบไว้บนใบหน้าได้จางหายไป

     

    ทุกอย่างมันกำลังใกล้เข้ามาทุกที .. วันที่ดงแฮจำได้

     

                 ซีวอนออกมายืนอยู่ตรงระเบียงที่เดิมซึ่งตอนนี้ก็ไม่ค่อยมีใครออกมาเหมือนอย่างเคยเพราะอากาศที่เย็นลงเรื่อยๆในยามค่ำ ในใจก็นึกคนที่ก่อนหน้านี้ได้ยืนอยู่ตรงนี้ด้วยกัน เรียวยกขึ้นสัมผัสเบาๆที่รอยแผลตรงมุมปาก

                 แค่นี้ยังน้อยไปนะดงแฮ ซีวอนรู้ตัวดีเสมอ บางทีเจ็บแค่นี้มันคงไม่สาสมกับทุกอย่างที่ผ่านมา งานในวันนี้เขาควรจะรับผิดชอบอะไรมากกว่าที่จะมาคิดแต่เรื่องส่วนตัว แต่ในเวลานี้เขาก็เลือกที่จะทิ้งแขกคนสำคัญหรือแม้กระทั่งผู้บริหารจากที่อื่นที่เขาควรจะไปต้อนรับ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อแลกกับการได้ยืนอยู่ตรงนี้คนเดียว .. อยู่กับตัวเอง

     

     

                 ซองมิน!” เสียงเรียกดังขึ้นให้ร่างเล็กที่นั่งเหม่ออยู่ในห้องควบคุมเสียงต้องรีบหันมาหา

                 คุณฮันคยอง

                 เห็นดงแฮบ้างมั้ย ไม่รู้ว่าเค้าหายไปไหนเลยเนี่ย ฉันกับซีวอนหาเค้าไม่เจอเลย ฮันคยองถามอย่างเป็นห่วง ซึ่งซองมินก็รู้ดีว่าดงแฮอยู่ที่ไหนกับใคร

                 ว่าไงล่ะซองมิน ยิ่งถูกเร่งเร้าก็ยิ่งต้องตัดสินใจ อย่างน้อยคิบอมก็ไม่ได้ห้ามบอกใครนี่นา

                 คุณดงแฮไปกับคุณคิบอมน่ะครับ ตอบออกไปอย่างปกติแต่แล้วก็ต้องเอะใจขึ้นมา

                 แล้วตอนที่คุณดงแฮตามคุณซีวอนไปไม่ได้เจอกันเหรอครับ เห็นคุณคิบอมบอกว่าจะไปหาคุณที่ห้องน้ำ

                ว่าไงนะ นายบอกว่าสองคนนั่นตามไปงั้นเหอร

                 ครับ ก็ประมาณนั้น ตอนที่คุณดงแฮตบหน้าคุณซีวอน คุณซีวอนก็วิ่งออกไปเลย

                 แล้วไงต่อ มีอะไรเล่ามาให้หมดนะซองมิน ท่าทางร้อนรนอยากจะรู้แบบนั้นยิ่งทำให้ซองมินพูดทุกอย่างออกไป

                 แล้วสักพักคุณดงแฮก็วิ่งตามไปน่ะครับ จากนั้นคุณคิบอมก็ออกจากงานมาแล้วบอกว่าจะไปหาคุณเพราะเห็นว่าไปห้องน้ำเสียนาน

                 หมายความว่า

                 ก็ผมเข้าใจว่าพวกคุณอยู่ด้วยกันเสียอีก ได้ยินแบบนั้นฮันคยองก็ไม่ตอบอะไรมีเพียงสีหน้าที่ไม่สบายใจแสดงออกมาให้ซองมินต้องฉงนสงสัยไปตาม

                 แต่ไม่ต้องห่วงนะครับเดี๋ยวคุณคิบอมคงพาคุณดงแฮไปส่งที่บ้านคืนนี้ ซองมินปลอบใจ แต่ข้อนี้ฮันคยองก็รู้ดี เขาไม่ได้ห่วงเรื่องนี้นักหรอก

                 ว่าแต่คุณโอเคมั้ยครับ ดูไม่ค่อยจะสบายเลย

                 อืม ไม่มีอะไรหรอก สงสัยไม่ค่อยได้นอน ขอบใจมากนะ ฮันคยองกลับเข้าไปในงานที่เต็มไปด้วยแขกเหรื่อ ทิ้งซองมินเอาไว้ให้ครุ่นคิดอะไรบางอย่างก่อนจะตามเข้าไปทำหน้าที่ตัวเองเช่นกัน

     

                                                    

     

                 เข็มของนาฬิกาในร้านกาแฟร้านเดิมกำลังหมุนไปเรื่อยๆบอกให้รู้ว่าเวลานี้ร้านใกล้จะปิดแล้ว ร่างบางเอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้ไม้ด้วยความอิ่มหลังจากที่จัดการกับของว่างที่สั่งมาเพิ่มเมื่อก่อนหน้านี้

                 นายเลี้ยงเหรอคิบอม รอยยิ้มมีเลศนัยส่งมาให้คนอีกฝั่งโต๊ะที่ได้แต่ยิ้มตอบกลับไป ยิ่งได้คุยกันคิบอมก็รู้สึกว่าดงแฮก็ยังมีความเป็นดงแฮอยู่ไม่เปลี่ยน

                 ที่ผ่านมาถึงฉันไม่เลี้ยงนายก็ไม่ยอมจ่ายอยู่ดีนั่นแหละ

                 ฮะฮะ งั้นก็ขอบใจสำหรับที่ผ่านมานะ

                 คร้าบ .. คุณหนูดงแฮ ทั้งสองหัวเราะกันใหญ่ราวกับว่าเป็นวันวานเก่าๆที่เคยผ่านมาด้วยกัน ร้านใกล้จะปิดลงแล้วคิบอมเลยลุกไปจ่ายเงินก่อนจะตามดงแฮออกไปที่รถ

                 ไม่อยากกลับบ้าน ดงแฮเอ่ยขึ้นขณะที่เดินมาถึงรถที่จอดไว้นอกร้าน

                 อย่าหนีสิดงแฮ คิบอมเตือนทั้งที่อดนึกไม่ได้ว่าตัวเองก็ดีแต่แนะนำคนอื่น เรื่องของตัวเองกลับไม่เอามาใช้เสียบ้าง ความเจ็บปวดที่ดงแฮไม่ได้บอกไปคิบอมก็พอจะเข้าใจดี ถึงเขาจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายรู้อะไรมาบ้างแต่ความเจ็บปวดทั้งหมดที่ดงแฮมีอยู่ ความเจ็บปวดในหัวใจ ต่อให้ความทรงจำจะหายไปแค่ไหนแต่ยังไงความรู้สึกทั้งหมดก็คงฝังไว้อยู่อย่างนั้น

    .. แต่น่าเสียดายที่ความเจ็บปวดมันยังไม่ฝังรากลึกลงไปเท่ากับความรัก ที่ตอนนี้หายังไงก็คงไม่เจอ..

     



     

                 งานเลี้ยงจบลงด้วยดีท่ามกลางความประทับใจของแขกเหรื่อมีระดับและผู้บริหารทุกคน ซีวอนยิ้มแย้มขณะที่กำลังยืนส่งแขกพร้อมกับเลขาสาวของตัวเอง ไม่ต่างกับฮันคยองที่กำลังพูดคุยกับประธานของกลุ่มคู่ค้าคนสำคัญก่อนที่จะกลับจากงานไป ทุกอย่างช่างราบรื่นต่างกับจิตใจภายใต้รอยยิ้มของคนไม่กี่คนเสียเหลือเกิน

    ร่างเล็กของเลขาที่ยืนอยู่โดยปราศจากเจ้านายนั้นแอบนิ่วหน้าขึ้นมาทันทีที่ไม่มีใครสังเกต ซองมินไม่แน่ใจนักว่าคิบอมจะเป็นอย่างนี้ไปนานแค่ไหน เขาเบื่อเต็มทีแล้วที่ต้องตอบคำถามว่าเจ้านายของตัวเองไปไหน

                 เฮ้อ

                 ถอนหายใจเป็นอะไรอีกหนอ เสียงที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นของใครดังขึ้นด้านหลังของซองมิน เขาอ้าปากจะพูดสวนกลับไปแต่พอเห็นใบหน้านั้นแล้วก็อดนึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ไม่ได้ เลยเลือกที่จะหันหน้าหนีอย่างไม่สนใจแทน คยูฮยอนเมื่อเห็นอย่างนั้นก็ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เขารู้สึกแปลกๆไปด้วย และก็น่าแปลกที่ตัวเองไม่ตามตอแยอย่างแต่ก่อน เขาปล่อยให้อีกฝ่ายเดินผ่านไปเสียเฉยๆขณะที่ในใจก็ไม่ลืมเรื่องที่ตัวเองทำเอาไว้ เหตุการณ์มันเร็วมากจนต่างคนต่างทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น และหากว่าเป็นอย่างนั้นจริงก็คงดี ถ้าซองมินจะด่าหรือต่อว่าอย่างที่ควรเป็นก็คงจะดีกว่านี้ แค่นี้ไม่มีอาการใดๆเลย ไม่สิ ไม่สนใจเขาเลยด้วยซ้ำไป

     

    .. เป็นอะไรของแกนะคยูฮยอน แค่จูบเองนี่หว่า

     

     

                 ซีวอนและฮันคยองกลับมาที่บ้านพร้อมกัน ซีวอนได้ฟังที่อีกฝ่ายเล่ามาก็รู้สึกไม่สบายใจเช่นกัน ร่างสูงเดินขึ้นบันไดไปอย่างหัวเสียกับตัวเองที่ทำอะไรไม่คิด สุดท้ายเขาก็แคร์ดงแฮมากที่สุดจนลืมไปเลยว่าตัวเองถูกเกลียดมากแค่ไหน

    ฮันคยองมองตามซีวอนแต่ตัวเขาเองกลับทิ้งตัวนั่งลงที่เก้าอี้ตัวนุ่มในห้องรับแขก นิ้วเรียวกดโทรศัพท์มือถือหาคิบอมอย่างร้อนใจ

                 รับสิ คิบอมรับสิ โทรให้ตายยังไงอีกฝ่ายก็ไม่รับสายเสียที

     

    .. นายอย่าเข้าใจผิดอีกเลยนะขอร้อง

     

                 น้ำตาจากความรู้สึกทั้งหมดรื้นออกมาอยู่ที่ขอบดวงตาเรียวทั้งคู่ท่ามกลางสายตาของหลานสาวตัวน้อยและพี่เลี้ยงซูยองที่ได้แต่มองอย่างเดียว หนูน้อยฮีชอลเอียงคอสงสัยอยู่ตรงพื้นที่ปูด้วยพรมผืนนุ่มในบริเวณห้องรับแขกแต่ก็ต้องถูกหันเหความสนใจด้วยของเล่นจากพี่เลี้ยงตามประสาเด็กน้อย

                 เมื่อไหร่คุณแม่จะกลับ เสียงเล็กถามพี่เลี้ยงสาวทั้งที่ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว

                 ไม่นานหรอกค่ะคุณหนู ไปนอนก่อนดีกว่านะคะ ถึงจะบอกอย่างนั้นหล่อนเองก็หวังจะให้หนูน้อยง่วงแล้วค่อยพาขึ้นไปนอนจะได้ไม่ขัดคำสั่งของคุณ

    ซีวอนที่สั่งเอาไว้

                 ฮันคยองชำเลืองมองหลานที่นั่งเล่นอยู่กับพี่เลี้ยงด้วยความสงสาร มือบางวางโทรศัพท์มือถือลงก่อนที่เสียงเครื่องยนต์ที่หน้าประตูรั้วด้านนอกจะดังเข้ามา ฮันคยองใจเต้นที่จะได้เจอคิบอมแต่ก็กลัวเหลือเกินว่าจะถูกต่อว่าหรือเข้าใจเขาผิดไป ร่างโปร่งบางลุกขึ้นขณะที่คนทั้งสองจะเดินเข้ามาด้วยกัน

                 ดงแฮ คิบอม.. ฮันคยองเรียกแต่เหมือนไม่มีความหมาย

                 ขอบใจมากนะคิบอมที่มาส่ง เป็นดงแฮเองที่หันไปขอบใจคนมาส่งโดยที่ไม่ได้สนใจพี่ชายของตัวเองเลยแม้แต่น้อย ฮันคยองยืนเก้อมองทั้งสองอยู่อย่างนั้น

                 ไม่เป็นไรหรอก รีบไปอาบน้ำนอนเหอะดึกมากแล้ว คิบอมบอก

                 อืม ไว้เจอกันนะ พูดจบก็เดินผ่านฮันคยองไปสร้างความสงสัยให้คนที่ได้แต่มองว่าทำไมถึงได้ดูสนิทสนมกันแบบนี้ ส่วนคิบอมก็หันหลังจะกลับไปทันที ดงแฮที่เดินมาหยุดหันไปมองตามฮันคยองที่วิ่งตามคิบอมออกไปยังหน้าบ้าน

     

    .. บางทีเขาเองก็อดสงสารคิบอมไม่ได้ ไม่เข้าใจว่าทำไมความรักของคนเรามันถึงได้สมหวังยากอย่างนี้ ..

     

                 คุณหนูคะ

                 คุณแม่ เสียงเรียกของซูยองและฮีชอลทำให้ดงแฮต้องหันไปมอง เขาเพิ่งสังเกตว่าทั้งสองก็อยู่ตรงนี้ด้วยเหมือนกัน ดงแฮคงไม่รู้หรอกว่าตั้งแต่ตัวเองจำอะไรไม่ได้ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป คิบอมที่เฮฮากับหนูน้อยฮีชอลหายไป ป้าฮันนี่ที่แสนดีก็ดูจะกลุ้มอกกลุ้มใจกับปัญหาจนแทบไม่เหลือรอยยิ้มไว้ให้เด็กน้อยเลย แม้แต่ซีวอนก็เก็บความเศร้าเอาไว้ไม่อยู่เวลาที่อยู่กับลูกสาวตัวน้อย

                 คุณแม่ ฮีชอลเรียกพลางเดินเข้ามาหาตามด้วยพี่เลี้ยงที่เดินตามมา สีหน้าหวั่นใจของดงแฮทำให้ซูยองต้องอุ้มฮีชอลเอาไว้เสียก่อนเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายคงหนักใจ ที่สำคัญหล่อนทำไปเพราะคำสั่งของซีวอนที่บอกว่าอย่าให้ฮีชอลเข้าใกล้

    ดงแฮ

                 ไม่เอานะคะคุณหนู เดี๋ยวเราไปนอนกันดีกว่า พี่จะเล่านิทานให้ฟังนะคะ พี่เลี้ยงสาวยิ้มให้ดงแฮก่อนจะรีบพาฮีชอลที่อุ่มไว้ขึ้นบันไดไปโดยไม่ฟังเสียงคัดค้านของหนูน้อยเลย

                 เดี๋ยว .. ดงแฮอ้าปากจะเรียกเอาไว้แต่ไม่ทันเสียแล้ว ซูยองพาฮีชอลไปแล้วเขาจึงได้แต่ยืนมองตามอย่างทำอะไรไม่ได้ ก็แค่อยากจะบอกว่าอย่างเพิ่งไปก็เท่านั้นเอง

                 ใจอ่อนแล้วเหรอคะคุณหนู เสียงของคนด้านหลังทำให้ดงแฮรีบเก็บอาการทั้งหมดเอาไว้

                 ป้ายุนฮี

                 ค่ะ เอง

                 ยังไม่นอนเหรอครับ ดึกมากแล้วนะ ดงแฮถามอย่างเป็นห่วงซึ่งคนฟังก็พอจะเดาออกว่าอีกอย่างก็เพื่อต้องการเปลี่ยนเรื่องด้วยนั่นแหละ

                 ป้านอนไม่หลับค่ะ ป้าสงสารคุณหนูฮีชอล

                 ........... ดงแฮพูดไม่ออกเมื่อเห็นแววตาทั้งคู่ของป้ายุนฮีดูจริงจังราวกับว่ากำลังต่อว่าคนใจร้ายอย่างเขาอยู่

                 ป้าสงสารคุณหนูฮันคยอง สงสารคุณซีวอน

                 ป้าพูดอะไรน่ะ ดวงตากลมหันหลบไปอีกทาง ดงแฮไม่อยากจะพูดถึงเรื่องพวกนี้ในตอนนี้เลย

                 เปล่าหรอกค่ะ ป้าก็แค่สงสารพวกเค้า

                 แล้วผมล่ะ มีใครสงสารผมรึเปล่า ดงแฮถามกลับอย่างสุดจะทนทำให้คนฟังรู้สึกว่ามันน่าแปลก ทำไมดงแฮต้องถามแบบนี้

                 ทำไมจะไม่สงสารล่ะค่ะ .. ว่าแต่คุณหนูหมายถึงอะไรอย่างอื่นมั้ยคะ

                 ก็หมายถึง .. เอ่อ เปล่าหรอก ผมไม่ชอบหน้าเค้าน่ะ ดงแฮกำลังโกหก

                 แน่ใจเหรอคะว่าแค่นี้

                 แน่ใจสิ ท่าทางที่สับสนอย่างนั้นทำให้ป้ายุนฮีไม่อยากจะถามต่อ เห็นทียิ่งพูดก็ยิ่งจะไม่เข้าใจกันไปใหญ่ แววตาอ่อนโยนจ้องลึกลงไปในดวงตาของคนที่กำลังร้องไห้อยู่ในใจ

                 อะไรก็ตามที่คุณหนูรู้ แล้วอะไรก็ตามที่จะต้องรู้ สักวันมันคงมาถึง เชื่อป้านะคะว่าอีกไม่นานเมื่อถึงตอนที่กลับมาจำได้ ตอนนั้นค่อยตัดสินใจก็ไม่สาย

     

     

                 ฮันคยองวิ่งตามคิบอมออกมาที่หน้าบ้าน ดึกมากแล้วมีเพียงแค่แสงจากหลอดไฟตรงแต่ละมุมรั้วเท่านั้นที่ทำให้มองเห็นทางและวิ่งตามเงาของคนที่รีบรุดจะเดินจากไป

                 คิบอม!” เสียงเรียกจากข้างหลังสั่งให้ขาทั้งคู่ของชายหนุ่มต้องหยุดเดิน คิบอมไม่อยากจะคุยอะไรในตอนนี้เลยจริงๆ

                 พี่มีอะไรเหรอครับ ถามกลับโดยที่ไม่หันกลับมามองหน้า ท่าทางแบบนี้ฮันคยองรู้สึกว่ามันจะเย็นชากันเกินไปแล้ว ร่างโปร่งบางเดินไปขวางหน้าอีกฝ่ายเอาไว้

                 โทรไปทำไมไม่รับ

                 พี่โทรมาเหรอ ผมไม่รู้แฮะ

                 ไม่ต้องมาแกล้งไม่รู้ ขอร้องล่ะคิบอม นายกำลังเข้าใจพี่ผิดนะ

                 เข้าใจผิด เรื่องอะไรเหรอครับ

                 คิบอม ฮันคยองไม่รู้จะพูดอะไรเมื่อเห็นท่าทีที่ยังคงแสร้งไม่รู้อย่างนั้น

                 นายเข้าใจพี่กับซีวอนผิดนะ ที่ห้องน้ำนั่นน่ะเราแค่..

                 แค่กอดกันอย่างเข้าอกเข้าใจ

                 ...........

                 ถึงผมจะไม่ได้ยินที่พูดกันแต่ก็พอเดาได้อยู่หรอกนะ

                 ก็เพราะว่านายไม่ได้ยินไงเล่านายถึงไม่เข้าใจอย่างนี้ ฮันคยองพยายามจะอธิบายแต่อีกฝ่ายก็ไม่ฟังเอาเสียเลย

                 ไม่เข้าใจว่าพี่แคร์มันแค่ไหนน่ะเหรอ แค่มันเห็นพี่สำคัญในเวลาที่มันไม่มีใครแล้วพี่ก็พอใจ ต่อไปก็คงจะกลับไปแย่งมันมาจากดงแฮใช่ไหมล่ะ พูดจบคิบอมก็ต้องหน้าหันไปตามแรงมือของฮันคยองที่ตบหน้าเขาอย่างแรงเพราะน้อยใจแล้วก็เสียใจที่ถูกกล่าวหาว่าเลวอย่างนี้

                 นายมองฉันได้แค่นี้สินะ ใบหน้าของคนที่ถูกตบจนชาค่อยๆหันกลับมาอีกครั้งก่อนจะพบเข้ากับหยดน้ำตาของคนที่รักมากที่สุดกำลังไหลออกมาไม่หยุด คิบอมตั้งรับกับความรู้สึกมากมายที่หลั่งไหลเข้ามาไม่ถูก แต่ที่แน่ๆคือเขาทนไม่ได้ที่ต้องเห็นน้ำตาของฮันคยองแบบนี้ ยิ่งเพราะเขาเป็นคนทำด้วยแล้วยิ่งเสียใจอย่างที่สุด

                 ใช่สิ นายทั้งหล่อ ทั้งรวย ทั้งเก่ง สาวๆที่ไหนก็สนใจ คนดีๆมีให้เลือกมากมายนายคงไม่ได้มาสนใจหรือจริงจังกับคนอย่างฉันนักหรอก ทั้งจู๋จี๋อี๋อ๋อกับน้องมินยองขนาดนั้นฉันก็คงเป็นแค่คนอื่นที่นายไม่สนใจ

                 แต่..

                 พอเถอะ ถ้านายจะต่อว่ากันอีกล่ะก็อย่าเลย ฮันคยองก้าวขาจะเดินผ่านไปแต่คิบอมก็หันกลับไปคว้าเอาเรียวแขนนั้นไว้ก่อน

                 ผมมันไม่ดีเท่าซีวอนเลยใช่ไหม

                 ปล่อย...

                 บอกมาสิ แค่พี่บอกมาผมก็จะปล่อย ไม่ดีเท่ามันเลยซักนิดพี่ถึงไม่คิดจะสนใจ

                 นายคิดงั้นเหรอ

                 แล้วจะให้ผมคิดยังไงฮันคยองฟังที่คิบอมบอกมาก็รู้สึกว่าความรักที่เขามีให้มันไม่เคยมีความหมายมากพอที่จะเข้าใจกันเลยใช่ไหม แล้วที่ผ่านมามันคืออะไร ทำไมความรักของเราอ่อนแอได้ขาดนี้

                 งั้นพี่ก็ตอบมาสิ..

                 ใช่ ซีวอนน่ะจริงใจ พอใจแล้วรึยัง แล้วนายล่ะจะดีกับฉันไปถึงเมื่อไหร่ จะดีได้นานแค่ไหน สุดท้ายแล้วก็อยากจะตีตัวออกห่างด้วยการมาอ้างว่าฉันมันไม่ดีใช่มั้ยทั้งที่ขอบใจที่คิบอมแคร์กันแค่ไหนแต่สุดท้ายฮันคยองก็แพ้ความไม่กล้าในจิตใจอยู่ดี เขาไม่กล้าจะเข้าข้างตัวเองเลยว่าอีกฝ่ายจะรักกันได้แค่ไหนเพราะลึกๆแล้วก็ไม่อยากจะต้องเจ็บเหมือนที่เคย

                 ฮันคยองดึงสร้อยคอเส้นที่คิบอมเคยให้ไว้ออกมาจากคอตัวเองที่สวมใส่มันอยู่ มือบางยื่นมันไปให้เจ้าของคนเดิมรับเอาไว้ ทั้งสองรู้ดีว่าตัวเองเสียใจแค่ไหน แต่จะรู้บ้างไหมว่าอีกฝ่ายก็เสียใจไม่ต่างกัน .. คิบอมกลั้นน้ำตาเอาไว้กับความเสียใจทั้งหมดขณะที่ก้มมองสร้อยในมือของตัวเอง ใบหน้าของชายหนุ่มเงยขึ้นมองคนตรงหน้าช้าๆ

                 ผมคิดเสมอว่าอาจเป็นไปได้ที่จะเป็นตัวจริงของพี่เสียที ผมคิดมาตลอดว่าซักวันพี่จะรักผมจนหมดใจแม้ว่ามันจะเหมือนแค่ความฝัน แต่พี่กลับทำให้ผมเข้าใจว่าความฝันกำลังจะกลายเป็นจริง แล้วพี่ก็ทำให้ผมรู้สึกว่าคิดไปเองคนเดียว กระทั่งตอนนี้ที่ผมเข้าใจว่าเราเป็นอะไรกัน มันเป็นเรื่องที่ผมคิดไปเองใช่มั้ย

    แววตาจริงจังและประโยคตัดพ้อต่างๆดูยังไงก็ไม่เหมือนคนโกหกเลย ตอนนี้ฮันคยองกลับเป็นฝ่ายที่จ้องตาคิบอมอย่างยากลำบาก แรงบีบเบาๆที่แขนของฮันคยองบ่งบอกว่าอีกฝ่ายกำลังเจ็บปวดเมื่อยามที่ต้องเอ่ยทุกอย่างออกมา

                 จนตอนนี้ผมก็อยากให้พี่เลิกยุ่งกับมันเสียที เพราะมันทำให้พี่ต้องเสียใจมาแค่ไหน มันดูถูกความรักของพี่มาตลอดทั้งที่พี่รักมันหมดหัวใจ

                 ............

                 และทุกอย่างทั้งหมดก็เพราะว่าผมรักพี่ ประโยคเดียวที่ทำเอาคนฟังหัวใจวูบไหว ฮันคยองรู้สึกชาไปทั้งร่างจนไม่สามารถจะเอ่ยอะไรออกไปให้คิบอมได้ฟัง ยิ่งอีกฝ่ายบอกว่ารักกันมากแค่ไหนเขาก็ยิ่งรู้สึกผิดมากแค่นั้น มือข้างเดียวที่ตบหน้าอีกฝ่ายไป มือข้างเดียวที่คืนสร้อยเส้นสำคัญที่เคยได้ นี่เขาทำอะไรลงไป

                 คือพี่...

                 ผมมันโง่เอง ไม่ใช่เพราะถูกพี่หลอกหรอกนะ แต่ผมเองต่างหากที่หลอกตัวเองอยู่ได้ตั้งนาน เสียงสั่นเครือเอ่ยออกมาครั้งสุดท้ายก่อนจะปล่อยมือออกจากแขนของฮันคยองช้าๆ มือข้างหนึ่งกำสร้อยคอที่ได้รับคืนมาเอาไว้ .. ราวกับหัวใจที่ฝากเอาไว้แล้วถูกโยนกลับคืนมาเพราะไม่อยากได้ ร่างสูงหันกลับออกไปด้วยหัวใจที่ร้าวรานจนแทบจะแตกสลาย

                 คิบอม!” ฮันคยองร้องเรียกพร้อมกับวิ่งตามไปแต่ก้ไม่ทันเสียแล้วเมื่อเสียงเครื่องยนต์ของรถคันหรูค่อยๆหายไปจากที่ตรงนั้น ร่างทั้งร่างที่แบกความเสียใจเอาไว้ทรุดลงนั่งกับพื้นถนนท่ามกลางแสงจันทร์ในความมืด

                 พี่ขอโทษ ฮึก .. แต่พี่ทิ้งซีวอนกับดงแฮไม่ได้ เพราะพี่เองที่เป็นคนผิด นายเข้าใจรึเปล่าคิบอม ฮันคยองร้องไห้ออกมาอย่างสุดจะกลั้น ทำไมเขามันถึงได้ทำอะไรโง่ๆลงไปอย่างนี้ แล้วแค่บอกว่ารักทำไมถึงพูดไม่ได้ เป็นครั้งแรกที่ทะเลาะกันและต่อว่ากันถึงขนาดนี้เพียงเพราะความเข้าใจกัน

     

                 ห่างออกไปไม่ไกลบนระเบียงห้องนอนที่ไม่ได้เปิดไฟยังคงมีแต่ความมืด ร่างสูงมองลงมายังเบื้องล่างที่มีเพียงคนหนึ่งคนกำลังนั่งร้องไห้เสียใจ เหตุการณ์ทั้งหมดที่เขาเฝ้าดูมาตลอดมันตอกย้ำให้รู้สึกผิดไปมากกว่าเก่า ซีวอนมองภาพของฮันคยองจากระเบียงห้องนอนของอีกฝ่ายด้วยแววตาที่เจ็บปวดไปด้วย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมทุกอย่างมันต้องเป็นอย่างนี้ แต่ไม่ว่าจะถามตัวเองกี่ครั้งคำตอบที่ได้ก็ไม่เปลี่ยนไปจากเดิม คือเขาเองที่เป็นคนเริ่มทุกอย่าง ซีวอนหันหน้าหนีภาพที่กำลังมองอยู่ เขาไม่อยากจะมองไม่อยากจะเห็นใครเสียใจไปมากกว่านี้อีกแล้ว ร่างสูงเดินกลับเข้ามาทิ้งตัวลงยังเตียงที่เจ้าของมันกำลังร้องไห้อยู่ด้านล่าง ตั้งแต่ดงแฮสลับห้องกับฮันคยองเขาก็ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้อยู่คนเดียวตามต้องการ ใบหน้าคมมองไปรอบๆห้องในความมืดก็หวนนึกถึงเรื่องที่ทำเอาไว้มากมาย หากย้อนเวลากลับไปได้เขาเองก็ไม่แน่ใจนักหรอกว่าตัวเองจะดีพอที่จะไม่ทำอะไรเลวๆลงไป

                 ขอโทษนะฮัน  ฉันไม่ได้ตั้งใจ

     

    .. ทั้งนายทั้งคิบอมต้องมาผิดใจกันเพราะฉัน แล้วก็คนที่ฉันรักมากที่สุดต้องเจ็บปวดมาตลอด

     

                 ประตูห้องนอนถูกผลักออก แสงสว่างจากด้านนอกเผยให้เห็นร่างของคนที่เปิดเข้ามา ดงแฮเดินเข้ามาด้วยความเหนื่อยอ่อนโดยไม่รู้ว่าในห้องมีคนอยู่ก่อนแล้ว มือบางปิดประตูลงก่อนจะเอื้อมไปที่สวิตซ์ไฟตรงผนังห้อง จู่ๆความตกใจก็แล่นเข้ามาเมื่อใครสักคนดึงมือเขาออกไปก่อน แผ่นหลังบางถูกรวบหายเข้าไปในอ้อมกอดของคนในความมืด

                 นายเข้ามาได้ยังไง

                 รู้ด้วยเหรอว่าเป็นฉัน อย่างว่าล่ะนะ ก็เราเป็น.. จมูกโด่งซุกไซร้ไปตามเรือนผมนุ่มที่ระลงมาปรกต้นคอของดงแฮ คนที่ถูกกระทำดิ้นไปไหนไม่ได้จึงยืนตัวแข็งทื่อให้ซีวอนรุกรานอย่างได้ใจ แต่นี่คงไม่ใช่เวลาที่เขาจะทำอะไรแบบนั้น ดงแฮกลั้นหายใจกับสัมผัสของซีวอนที่เขาไม่มีทางจะหนีไปไหนได้ ดูเหมือนซีวอนจะรู้ดีเลยได้แค่แกล้งทำอยู่อย่างนั้นก่อนจะปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นอิสระอย่างง่ายดาย

                 ดงแฮหันกลับมาแล้วถอยหลังห่างออกไปโดยที่ซีวอนกลับตรงเข้าหาช้าๆและเมื่อจนมุมที่ผนังห้องดงแฮก็รีบเปิดไฟขึ้นทันที ใบหน้าของคนตรงหน้าเด่นชัดขึ้นมาให้ดงแฮได้เห็นรอยช้ำที่เกิดจากตัวเอง เขาอยากจะขอโทษแต่มันก็ไม่กล้า

    พอจะพูดออกไป

                 เธอเกลียดฉันขนาดนั้นเลยเหรอเสียงทุ้มเอ่ยถามด้วยแววตาที่ทรมานจนดงแฮอยากจะใจอ่อน

                 นายออกไปก่อนดีกว่า

                 เธอก็บอกมาสิว่าเกลียดฉันมาก ที่ตบหน้าเพราะเธอเชื่อมันมากกว่าฉันใช่ไหม ซีวอนถามย้ำอีกยิ่งทำให้ดงแฮพูดไม่ออก เขารู้แล้วว่าซีวอนทำไปเพราะปกป้องเขาจากการที่คยูฮยอนพูดไม่ดี แต่ตอนนี้จะมีประโยชน์อะไรล่ะในเมื่อมันไม่ใช่ประเด็นของทุกอย่างระหว่างเขาทั้งสอง

                 เลิกถามซักทีได้มั้ย ฉันผิดเองที่ทำไม่ดีลงไปกับนาย

                 เธอแคร์ด้วยเหรอ

                 ไม่ได้แคร์ คนอย่างนายฉันไม่มีวันจะสนใจ

                 แล้วที่ตามฉันไปล่ะ ตามไปทำไม

                 ...........” ดงแฮเถียงไม่ออกว่ามันเป็นความจริง แล้วก็เถียงไม่ออกมากกว่าเดิมด้วยเมื่อสิ่งที่เห็นมันตอกย้ำกับความจริงที่รู้มา

                 แล้วถ้าฉันไม่ตามไปก็คงจะไม่ได้เห็นอะไรดีๆด้วยงั้นสินะ

                 เธอเข้าใจผิดนะ ฉันกับฮันเราไม่ได้มีอะไรกัน ซีวอนกลับเป็นฝ่ายที่ต้องรีบอธิบาย เขาไม่อยากให้ทุกอย่างในตอนนี้แย่ไปมากกว่าเก่า แต่ซีวอนคงไม่รู้หรอกว่ายิ่งแก้ตัวมากเท่าไหร่ในสายตาของดงแฮเขามันก็เป็นคนหลอกลวงมากเท่านั้น เพราะความจริงทั้งหมดที่คิดว่าดงแฮไม่รู้มันไม่ได้หลุดออกมาจากปากของซีวอนเลยสักนิด ดงแฮเสียใจอยู่ลึกๆว่าที่แท้คนตรงหน้าก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ จะมีอะไรเหลือให้พิสูจน์อีกไหมแล้วอะไรล่ะที่สามารถเชื่อได้ ทุกวันนี้คงมีทางเดียว .. มันคงเป็นอย่างที่ป้ายุนฮีบอกว่าเมื่อไหร่ที่จำได้ค่อยตัดสินใจก็ไม่สาย ทั้งสองมองหน้ากันอยู่อย่างนั้น คนหนึ่งอ้อนวอนอยากให้เข้าใจ อีกคนมีแต่จะผลักไสให้ออกไปพ้นๆ

                 นายออกไปเถอะ ฉันจะพักผ่อน ดงแฮเดินผ่านซีวอนเข้าไปในห้องเพราะเหนื่อยเต็มที ไม่อยากจะพูดจะคุยหรือแม้กระทั่งหน้าก็ไม่อยากจะเห็น ซีวอนเป็นฝ่ายที่ยืนมองอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน

                 ฉันบอกให้นายกลับห้องนายไปไงล่ะ

                 ห้องของเรายกให้ฮันคยองอยู่แล้วจะให้ฉันกลับไปได้ยังไง

                 หึ ถ้านายไม่ไปงั้นฉันไปเอง ว่าแล้วก็จะเดินออกไปแต่ซีวอนก็เดินไปขวางประตูเอาไว้

                 หลีกไป ดงแฮร้องบอกอย่างไม่สนใจเลย แต่ซีวอนรู้อะไรมั้ยว่ามันยากแค่ไหนที่ต้องแข็งใจตลอดเวลา

                 พอเถอะดงแฮ

                 นายต่างหากที่ควรจะพอ นายมันไม่รู้จักพอ

                 ........... ซีวอนอึ้งไปทันทีที่ถูกตะโกนใส่หน้าแบบนี้ วูบเดียวในใจมันรู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างที่ทำให้ดงแฮพูดแบบนี้

                 เธอ...

                 เพราะนายไม่รู้จักพอไง ฉันถึง..

                 ถึง ถึงอะไร ร่างสูงตรงเข้ามาดึงเอาร่างตรงหน้าให้สบตากับเขา หัวใจมันเต้นแรงทุกทีที่รอฟังว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร เขาไม่แน่ใจนักหรอกว่าควรจะดีใจหรือไม่หากว่าดงแฮกลับมาจำได้ แต่อย่างน้อยถึงต้องเจ็บแค่ไหนเขาก็ยอมรับผิดแต่โดยดี ขอเพียงอย่าหายไปจากความทรงจำของดงแฮแบบนี้

                 ถึงได้เกลียดนายไง รู้ไว้ด้วย ดงแฮสะบัดมือซีวอนออกไปจากร่างตัวเองแต่มือคู่นั้นก็ยังคงรั้งเขาเอาไว้ไม่ให้ไปเสียที

                 เธอจำได้ใช่ไหม น้ำเสียงจริงจังเอ่ยถามตรงๆอย่างไม่ให้ตั้งตัว ดงแฮไม่ตอบอะไรนอกจากพยายามแกะมือของซีวอนออกไป

                 ถ้าวันนี้เธอไม่ตอบฉันก็จะไม่ปล่อย

                 นายมันหน้าด้าน

                 ก็คนที่หน้าด้านคนนี้แหละที่มันรักเธอหมดหัวใจ

                 ........... ดงแฮกำลังร้องไห้อยู่ในใจกับสิ่งที่ได้ยิน เขาควรจะดีใจใช่ไหมหากว่ามันคือความจริง เขาควรจะต้องซาบซึ้งอย่างที่สุดหากว่าไม่มีความจริงอันแสนเจ็บปวดที่คอยให้ซีวอนพูดสวนทางกันอยู่อย่างนี้

     

    .. ได้โปรด อย่าทำให้ฉันเชื่อนายทั้งที่มันไม่จริง

     

                 หึ บอกให้ก็ได้นะ ต่อให้ฉันจำได้ฉันก็ไม่มีวันกลับไปรักคนอย่างนายหรอก คนเลว ซีวอนกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเพราะไม่ชินเสียทีกับการผลักไสไล่กันไปอย่างนี้ของดงแฮ ร่างสูงรวบเอาคนตรงหน้าเข้ามากอดไว้ไม่ยอมปล่อย

                 นายจะทำแบบนี้เพื่ออะไร ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้

                 หึ รังเกียจมากเลยสินะ ซีวอนรีบปล่อยดงแฮออกเพราะเขาไม่อยากจะเห็นท่าทางรังเกียจกันไปมากกว่านี้ มันทรมาน ความหวังที่พอจะมีเริ่มหายไปกับสายตาของดงแฮที่นับวันยิ่งไม่มีเขาอยู่เลยแม้แต่นิด และด้วยความไม่ไว้ใจของดงแฮทำให้เขาต้องถอยห่างออกมาจากซีวอนมากกว่าเดิม ขณะที่ในใจของอีกคนกำลังร่ำร้องไม่อยากให้หมางเมินกันไปมากกว่านี้ ร่างสูงที่ยืนขวางประตูเอาไว้ทำให้คนที่อยากจะออกไปชักไม่แน่ใจแล้วว่าจะออกไปได้หรือไม่ และแน่นอนที่ไม่อยากจะอยู่ในห้องนี้ก็เพราะว่ามันอดที่จะนึกไม่ได้ว่าที่นี่มันมีอะไรที่เคยทำร้ายหัวใจตัวเอง บางทีความทรงจำบางส่วนก็นำมันกลับมาให้ได้นึกถึง

                 ถอยไป ดงแฮเอ่ยเสียงแข็งอย่างไม่กลัวเกรงซีวอนเลยแม้แต่นิด ร่างบางตรงเข้ามาเผชิญหน้ากับคนที่ยืนขวางอยู่อีกครั้ง

                 ฉันจะออกไป ถ้านายต้องการจะอยู่ก็อยู่ไป ดึกมากแล้วอยากพักผ่อน แต่ถึงอย่างนั้นคนที่ยืนอยู่ก็ไม่ได้ตอบตกลงแต่อย่างใด ใบหน้าคมเพียงแค่มองอีกฝ่ายด้วยแววตานิ่งๆที่ยังแฝงไว้ด้วยความโหยหาอย่างเก่า

                 ทำไม เพราะมีฉันอยู่ด้วยเธอเลยไม่อยากจะอยู่ใช่มั้ย งั้นฉันจะไปเอง เธอพักผ่อนเถอะ ซีวอนตัดใจจะเป็นฝ่ายไปเอง มันอาจจบแค่นั้นก็ได้หากว่าดงแฮไม่รั้งอีกฝ่ายเอาไว้เสียก่อน

                 ไม่จำเป็นหรอก ซีวอนชะงักไปเมื่อได้ยินอย่างนั้น มือที่คว้าลูกบิดเอาไว้นั้นคลายลงทันที

                 นายไม่จำเป็นต้องออกไปจากห้องนี้หรอก เพราะถึงห้องๆนี้จะมีนายหรือไม่ สำหรับฉันแล้วมันก็เป็นได้แค่ที่ๆน่ารังเกียจที่มีแต่ความทรงจำร้ายๆ

                 .............

                 จะให้ฉันนอนทับรอยของนายกับใคร ฉันทำไม่ได้หรอก

                 ดงแฮ.. ซีวอนหันกลับมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ เขาไม่ได้โง่ขนาดที่ไม่รู้หรอกนะว่าที่อีกฝ่ายพูดมามันหมายถึงอะไร ซีวอนตรงเข้าไปเขย่าไหล่ของดงแฮอย่างคาดคั้นจะเอาคำตอบ

                 เธอหมายความว่ายังไง เธอจำได้เหรอ เธอจำได้แล้วใช่ไหม ร่างบางตั้งรับไม่ทันที่ถูกใช้กำลังแบบนี้

                 ปะ ปล่อย ฉันเจ็บ เสียงร้องบอกทำให้ซีวอนได้สติ ท่าทางของเขาคงทำให้ดงแฮตกใจไม่น้อย นึกได้จึงรีบปล่อยมือออกเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะช้ำเสียก่อน

                 เธอ เธอ.. ซีวอนตื่นเต้นจนพูดไม่ถูก

                 ฉันทำไม

                 เธอจำได้แล้วเหรอ เธอจำได้แล้วใช่มั้ยซีวอนตื่นเต้นดีใจอยู่คนเดียว ความหวังที่คิดเอาไว้จู่ๆก็พุ่งเข้ามาให้เขามั่นใจ ต่างจากคนตรงหน้าที่ได้แต่ยืนเฉยๆปล่อยให้อีกคนคิดไปเองอยู่คนเดียว

                 จำได้ .. เรื่องอะไร ดงแฮเอ่ยคำพูดที่ทำลายทุกอย่างที่ซีวอนมีไปจนหมดสิ้น หน้าตาท่าทางที่เหมือนไม่รู้เรื่องผิดกับตอนแรกทำให้เขาไม่อยากจะเชื่อ แต่ยังไงก็ขอลองเชื่อตัวเองสักครั้งแม้ว่าคำตอบที่ได้จะเหมือนเดิมก็ตามที

                 เรื่องอะไร เธอถามฉันว่าเรื่องอะไรงั้นเหรอ จู่ๆท่าทีของซีวอนก็เปลี่ยนไปทันที เพราะความรักที่มีเต็มอกมันสามารถเปลี่ยนความอ่อนโยนให้กลายเป็นความแข็งกร้าวได้เพียงพริบตา ดงแฮรู้สึกได้ว่าซีวอนกำลังคิดว่าตัวเองถูกหลอกแล้วก็ไม่เชื่อที่เขาพูด ร่างบางขยับถอยห่างออกมามากขึ้นเพราะรู้ว่าอาจจะไม่ปลอดภัย

                 ฉันไม่เข้าใจที่นายพูด นายพูดเรื่องอะไร ดงแฮไม่อยากจะกลับไปพูดเรื่องเก่า ในใจมันเหนื่อยจนอยากจะพักและไม่อยากจะคิด

                 แล้วที่พูดมาเมื่อกี้ล่ะ ซีวอนพูดด้วยน้ำเสียงที่แคลงใจพลางขยับเข้าไปใกล้คนตรงหน้าที่ถอยออกมาจนแทบจะต้องนั่งลงบนเตียงได้แล้ว ดงแฮทำใจดีสู้เสือด้วยการเชิดหน้าเข้าหาซีวอนอย่างไม่กลัวเกรงอย่างที่ในใจกำลังเป็นอยู่

                 ฉันรู้เรื่องอะไร ในเมื่อฉันความจำเสื่อมอยู่แบบนี้ ที่พูดไปก็แค่ไม่ต้องการนอนทับรอยของใครก็เท่านั้น แต่ยิ่งพูดมากเท่าไหร่คนฟังก็ยิ่งสับสนมากขึ้น เขาไม่รู้ว่าควรจะเข้าใจอย่างไรดี ไม่รู้ว่าควรจะเชื่อแบบไหนดีกับคนที่จำไม่ได้แต่ชอบพูดอะไรที่ประชดประชันกันเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างในใจ เตียงขนาดใหญ่ยุบลงเมื่อร่างบางทิ้งตัวเองลงไปอย่างไม่มีทางเลือก

                 เธอรู้อะไร บอกมา ซีวอนขยับเข้ามาถามด้วยหวังว่าอีกฝ่ายจะยอมบอก

                 นี่นายขู่ฉันเหรอ ฉันความจำเสื่อมนะไม่ใช่อาชญากรที่นายจะมาบังคับให้เปิดปากบอกอะไร

                 หึ จำไม่ได้แต่เธอก็พูดเก่งเหลือเกินนะ

                 แน่นอน แล้วถ้าจำได้เมื่อไหร่ฉันก็คงจะพูดมากกว่านี้แน่ ดงแฮตะโกนออกไปด้วยความรู้สึกโกรธที่ถูกกล่าวหาแบบนั้น ไหล่บางเริ่มจะสั่นไปตามแรงอารมณ์อย่างควบคุมไม่อยู่ ความรู้สึกกดดันและสมองที่เริ่มจะมีอะไรปะติดปะต่อเข้ามาทำให้ใบหน้าของเขาดูไม่ค่อยจะสู้ดีนัก

                 กลัวฉันขนาดนั้นเลยเหรอ ซีวอนเอาแต่พูดอย่างไม่ยอมแพ้โดยไม่ได้สังเกตเลยว่าอีกฝ่ายเริ่มจะหน้าซีดเขาจริงๆ เพราะเขาคงจะเข้าใจว่าดงแฮกำลังกลัวมากกว่าจะเข้าใจว่าดงแฮกำลังป่วยทางสมองและน่าจะรวมถึงจิตใจด้วย

                 ฉันไม่ได้กลัว ริมฝีปากที่เม้มเข้าหากันพยายามจะไม่แสดงออกให้คนตรงหน้าได้เห็น ซีวอนยืนห่างออกไปแค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้นเอง

                 ไม่ได้กลัว แล้วทำไมต้องหนีไปขนาดนั้น ใบหน้าที่พร้อมจะตรงเข้าหาดงแฮยกยิ้มขึ้นอย่างน่ากลัวผิดไปจากตอนที่เคยอ่อนโยน

                 “….........

                 แต่ไม่ต้องกลัวหรอกนะ ยังไงเธอก็หนีฉันไปไม่พ้นหรอก

    ได้ยินอย่างนั้น
    ดงแฮก็ตัดสินใจลุกขึ้นวิ่งไปที่ประตู แต่แน่นอนที่ซีวอนไม่มีทางปล่อยไปอย่างที่บอกไว้ มือหนาคว้าเอาทั้งร่างที่กำลังจะหนีไปเข้ามาไว้ในอ้อมกอด ดงแฮดิ้นเต็มที่ก่อนจะถูกดันให้ล้มลงไปบนเตียงตามด้วยร่างของซีวอนที่ทาบทับลงมาคร่อมเอาไว้ มือที่แข็งแรงกว่าล็อคข้อมือของดงแฮทั้งคู่ไม่ให้ขยับหนีไปไหนได้ ร่างบางหอบหายใจขึ้นมากเพราะความเหนื่อยที่รุมเร้า

                 นายจะทำอะไรน่ะ

                 ทำอะไรทำไมเธอต้องสน

                 ใช่ ฉันไม่มีวันสนนายหรอก จู่ๆขณะที่กำลังเถียงกันดงแฮก็นึกถึงเรื่องในอดีตขึ้นมาอย่างฉับพลัน เรื่องทั้งหมดในห้องนี้ บนเตียงนี้ ซีวอนกับ ..

    ไม่ ! ดงแฮสลัดหัวเอาทุกอย่างออกอย่างไม่อยากจะเห็นเพราะมันกำลังเจ็บปวด

                 ฉันเกลียดนาย ปล่อยฉันออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ เตียงนี้มันไม่ใช่ที่ของฉัน ฉันเกลียด

                 เกลียดฉันแต่เธอชอบไอ้หมอนั่นใช่มั้ย ซีวอนตะโกนถามอย่างไม่มีเหตุผลขณะที่มือก็ออกแรงบีบข้อมือดงแฮมากกว่าเดิม ใบหน้าของคนด้านบนยามนี้มีแต่จะเอ่ยอะไรที่ทำร้ายกันอย่างถึงที่สุด

                 ..........

                 มันมีอะไรดี อ้อ .. มันคงจะดีกว่าฉันไปเสียหมดสินะ

                 ใช่ คยูฮยอนเค้าเป็นคนดี นายรู้แล้วก็ปล่อยฉันไปเสียที ดงแฮตะโกนกลับไปบ้างเผื่อว่าคนที่กำลังเลือดขึ้นหน้าจะกลับมามีสติได้อีกครั้ง แต่เขาก็คิดผิดอย่างเคยเมื่อซีวอนในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับปีศาจที่คอยจะทำร้ายโดยที่ไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น ไม่ได้รู้เลยว่าตัวเองทำอะไรลงไป ไม่รู้เลยว่าทำให้อีกฝ่ายเจ็บแค่ไหน มือหนาดึงข้อมือที่กำเอาไว้ขึ้นให้เจ้าของร่างลุกขึ้นมาตาม

                 ไม่ชอบเตียงงั้นที่พื้นเธอคงน่าจะพอใจกว่านะ

                 อ๊ะ .. อย่านะซีวอน ดงแฮร้องห้ามอย่างตกใจแต่ก็ไม่ทันเสียแล้วเมื่อเขาถูกกดให้นอนลงกับพื้นที่ปูด้วยพรมผืนบาง ความเย็นแผ่ซ่านเข้ามาที่หลังทำให้ดงแฮต้องหลับตาลงอย่างทรมาน สองมือที่ยกขึ้นจะต่อต้านถูกซีวอนกดลงไปอย่างเดิมจนช้ำมากกว่าเก่า ร่างสูงไม่รอช้าที่จะปลุกปล้ำคนรักของตัวเองด้วยอารมณ์รุนแรงในจิตใจที่กำลังครุกรุ่นเหมือนกับไฟ

                 ฮึก .. แม้จะดิ้นอย่างไม่คิดชีวิตเพราะความกลัวแต่ก็ไม่คิดร้องขออีกแล้ว ซีวอนกำลังบ้าคลั่งจนแม้กระทั่งน้ำตาของคนที่เขารักมันก็ไม่ได้ทำให้เขาหยุดการกระทำลง ใบหน้าคมกดจูบลงไปที่ริมฝีปากของคนไม่มีทางสู้ ร่างกายที่ใหญ่โตกว่าใช้กำลังอย่างไร้ความปราณีต่างจากทุกครั้งที่เคย การกระทำที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงนั้นไม่ต่างอะไรกับการขืนใจดีๆนี่เองในเมื่ออีกฝ่ายไม่เต็มใจแม้แต่นิด คนที่กำลังได้ใจนั้นไม่เหลืออะไรหลงเหลืออยู่ในความคิดเลยนอกจากความเจ็บช้ำที่ตอนนี้มันมากจนปะทุออกมาเป็นความรุนแรง แต่อีกคนที่ต้องเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่ากำลังทรมานยิ่งกว่า

     

    หลายวินาทีผ่านไปโดยที่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น จู่ๆซีวอนก็รู้สึกว่าคนในอ้อมกอดนิ่งไปจนน่าแปลกใจ เขาดันตัวเองขึ้นมองดงแฮที่ตอนนี้ได้หมดสติไปแล้ว แต่คนที่ได้สติกลับเป็นตัวเองที่กำลังตกใจจนทำอะไรไม่ถูก

                 ดงแฮ ดงแฮซีวอนเขย่าร่างที่นอนหมดสติพร้อมกับเรียกชื่ออยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล คราบน้ำตาบนใบหน้าของคนรักรวมทั้งรอยช้ำที่เกิดจากตัวเอง เห็นแล้วก็นึกอยากจะฆ่าตัวเองให้ตายเสียจริงๆ นี่เขาทำอะไรลงไป เขาทำให้ดงแฮต้องเสียใจและตกใจกลัวขนาดที่ต้องหมดสติไปอย่างนี้เชียวหรือ ไม่น่าให้อภัยอีกแล้ว

                 โธ่เว้ย .. ซีวอนช้อนเอาร่างของดงแฮขึ้นมากจากพื้นแล้ววางลงไปบนเตียง มือหน้าเอื้อมไปสัมผัสเบาๆที่พวงแก้มของคนหลับตาอยู่อย่างห่วงใย ซีวอนยกมือบางที่มีรอยแดงช้ำขึ้นแนบไว้ที่ใบหน้าของตัวเอง ก็ในเมื่ออีกฝ่ายจำไม่ได้แล้วเขาจะต้องบังคับขืนใจไปทำไม


                 นั่นสินะ ก็ถ้าจำได้เธอก็คงจากฉันไปแล้ว ซีวอนชักไม่แน่ใจแล้วว่าอยากจะให้ดงแฮจำได้แล้วทิ้งกันไปหรือว่าให้เป็นอย่างนี้ต่อไปขอเพียงแค่อีกฝ่ายไม่จากไปไหน .. แววตาเศร้าสร้อยของคนที่กำลังรู้สึกผิดค่อยๆหลับลงก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมา

     

                 ความผูกพันระหว่างคนสองคนมันไม่ยากนักหรอกที่จะตัด ..หากว่าพวกเขาต้องการ แต่หากรักกันมากขนาดนี้ แล้วจะตัดให้ขาดไปเพื่ออะไร

     

                      


                                  

     

                 ประตูห้องบนคอนโดสุดหรูถูกเปิดออกด้วยร่างของคนที่ราวกับกำลังไร้ชีวิต ร่างสูงเดินตรงไปที่โซฟาตัวใหญ่ก่อนจะเหวี่ยงเอากระเป๋าและกุญแจรถออกไปคนละทาง ตามด้วยเสื้อนอกและเนคไทที่เขาดึงมันออกมาอย่างไม่ไยดี คิบอมทิ้งตัวลงนั่งอยู่ในความมืดที่มีเพียงแสงไฟในเมืองหลวงส่องเข้ามาเพียงนิดเท่านั้น เรื่องราวๆเก่าๆที่ผ่านมาไม่นานที่ไซปันกำลังถูกเขานึกถึง อยากย้อนเวลากลับไป อยากหยุดเวลาไว้แค่ที่ตรงนั้น อยากให้ทุกอย่างเป็นเหมือนตอนนั้น หรือไม่ก็ย้อนไปตั้งแต่แรกจะได้ไม่ไปรักเสียเลยก็ดี .. แต่เขาจะทำได้งั้นเหรอ สวรรค์แกล้งกันหรืออย่างไรที่ทำไมเป็นคนอื่นไม่ได้ ทำไมต้องเป็นคนนี้

      

                 คิบอมไม่อยากจะนึกถึงพรุ่งนี้เลยจริงๆ พรุ่งนี้วันอาทิตย์ที่เขากับอีกฝ่ายมีนัดออกไปพบลูกค้าคนสำคัญตามตารางที่นัดหมายไว้ เขาไม่รู้หรอกว่าเจอหน้ากันแล้วจะต้องทำตัวอย่างไร

                 ผมมันก็ดีแต่เข้าใจคนอื่น แต่เรื่องของพี่ทำไมผมถึงไม่เคยเข้าใจ ทำไมผมมันแย่ได้ขนาดนี้เสียงแผ่วเบาเอ่ยตอกย้ำตัวเองอยู่คนเดียว มืออีกข้างควานหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าออกมาเปิดดูภาพที่เคยถ่ายคู่กัน แสงไฟจากหน้าจอสะท้อนลงบนใบหน้าที่ไร้รอยยิ้ม

                 .. ผมชอบพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ นานมาก มากจนไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีอะไรระหว่างเราที่ทำให้ผมตกหลุมรักพี่ เพราะพี่ไม่เคยมองผมเลยแม้แต่นิด นิ้วยาวกดปุ่มเลื่อนลงมายังเบอร์ของคนที่กำลังนึกถึง .. เขาอยากโทรหา แต่ก็ไม่กล้า

     

     

                 ทำอะไรอยู่เหรอคะคุณหนู เสียงของป้ายุนฮีร้องถามขึ้นขณะที่เปิดกระตูห้องเข้ามาพร้อมกับนมอุ่นๆหนึ่งแก้ว ฮันคยองที่นั่งอยู่บนเตียงหันยิ้มให้แทนคำตอบ

                 นั่งมองโทรศัพท์แบบนี้คิดถึงใครอยู่รึเปล่าคะ คนที่วางแก้วนมลงบนโต๊ะยังมิวายหันมาถามแกมแซวคุณหนูคนโตของเธอที่ไม่ได้สนุกด้วยเลยสักนิด

                 งานน่ะครับ พรุ่งนี้ต้องไปแต่เช้าเลย ฮันคยองพูดกลบเกลื่อนไปแต่ป้ายุนฮีก็ไม่อยากจะไปซักไซร้อะไรเมื่อสังเกตเห็นว่าดวงตาคู่นั้นเหมือนเพิ่งจะร้องไห้มาไม่นาน เธอยิ้มให้อีกครั้งก่อนที่จะขอตัวออกไป

                 ดื่มนมแล้วรีบนอนนะคะ เหนื่อยมาทั้งวันพรุ่งนี้จะได้สดชื่น

                 ครับ หลังจากที่อีกฝ่ายออกไปแล้วเขาก็ต้องถอนหายใจกับตัวเองอีกครั้งเมื่อนึกถึงวันพรุ่งนี้ แล้วไหนจะเรื่องของดงแฮกับซีวอนอีก นี่เขาควรจะทำอย่างไรดี หรือว่าควรจะเดินไปตามทางที่โชคชะตากำหนดไว้ให้ อาจจะต้องไปเรื่อยๆอย่างไม่รู้จุดหมาย แต่ไม่นานก็คงถึงปลายทางในสักวัน เหมือนกับเรื่องที่เกิดขึ้น เขามั่นใจว่าหนึ่งที่มันจะจบลงคงต้องมาถึง แต่ไม่รู้เลยนี่สิว่าจะจบอย่างไรแล้วเมื่อไหร่ .. จะถึงวันนั้น

     

     


                 หลังงานเลี้ยงเลิกได้ไม่นานสุดท้ายคยูฮยอนก็บังคับพาซองมินขึ้นรถเพื่อจะไปส่งที่บ้านจนได้ เนื่องมาจากว่ารถของซองมินที่กำลังซ่อมอยู่นั้นมันยังไม่เสร็จง่ายอย่างที่คิดไว้

                 ไม่ต้องเงียบเพราะเกรงใจฉันขนาดนั้นก็ได้นะ เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นกับคนข้างกายที่นั่งเงียบมาตลอดทาง จะพูดบ้างก็แค่บอกให้เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาไปตามทางที่บอกเท่านั้น

                ขับรถไปเหอะ ดึกแล้วฉันง่วง

                 ง่วงก็นอนไปสิ ฉันไม่เอานายไปขายหรอกน่า คยูฮยอนพูดประชดอย่างอารมณ์ดีไร้ความเดือดร้อนใดๆทั้งสิ้น ซองมินหมั่นไส้กับท่าทางแบบนั้นจนต้องหันหน้าหนีอย่างเดิม เขาอยากจะถามเหลือเกินว่าเรื่องนั้นมันหมายความว่าอย่างไร แต่จะให้พูดไปมันก็คงไม่เข้าท่าเท่าไหร่เพราะเขารู้ดีว่ามันคงเป็นเรื่องแกล้งกันที่อีกฝ่ายสนุกอยู่คนเดียว ซองมินไม่พูดอะไรนอกจากนั่งบอกทางไปเรื่อยๆอย่างเดิม

                 นี่นาย รีบๆหน่อยไม่ได้รึไง ร่างเล็กชักมีโมโหที่อีกฝ่ายดูจะใจเย็นเสียเหลือเกิน

                 ก็บอกแล้วไงว่าไม่ชินทาง ไม่ค่อยได้อยู่เกาหลีเท่าไหร่ คยูฮยอนแสร้งพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังเพื่อให้ซองมินเชื่อเสียสนิทใจ และสุดท้ายคนที่แพ้ก็คือคนที่นั่งหน้าบูดต่อไปเหมือนเคย ตลอดทางที่มาทำให้คยูฮยอนรู้สึกติดใจกับเส้นทางนิดหน่อย แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรในเวลาค่ำมืดอย่างนี้  .. อีกอย่างคงเพราะว่าแอบหันมามองคนข้างๆเลยลืมคิดอะไรไป รถยนต์จอดลงที่หน้ารั้วของบ้านหลังขนาดกลางตามที่คนนั่งมาด้วยบอก ซองมินปลดเข็มขัดออกก่อนจะหันมาขอบคุณคนมาส่งแต่แล้วก็ต้องเจอกับท่าทางแปลกๆของอีกฝ่ายเสียก่อน

                 นายเป็นอะไร เขาถาม

                 จริงๆด้วย

                 อะไรของนาย ใบหน้าของคนที่เบื่อเต็มทีขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ คราวนี้จะมาเล่นตลกอะไรอีกล่ะ

                 ก็นี่มันบ้านฉัน

                 ฮะ เป็นบ้าอะไรอีกเนี่ย นี่บ้านฉันต่างหากเล่า

                 ไม่ใช่ ฉันหมายถึงหลังนั้นต่างหากล่ะ คยูฮยอนชี้ไปที่บ้านหลังใหญ่ของอีกฝั่งถนนซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบ้านของซองมิน คนที่มองตามไปเห็นแล้วก็อยากจะร้องออกมาว่ามันคงไม่จริง

                 บ้านหลังนี้เป็นบ้านนายงั้นเหรอซองมินถามซ้ำเผื่อว่าคยูฮยอนจะจำผิด แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่ออีกฝ่ายพยักหน้ากลับมา ทั้งสองแปลกใจไม่แพ้กัน อยู่ตรงข้ามกันแบบนี้แต่ไม่เคยเจอกันสักครั้งได้ยังไง

                 ก็ฉันบอกแล้วไงว่าไปเรียนอยู่อังกฤษไม่ค่อยได้กลับมาหรอก คยูฮยอนอธิบายซ้ำซึ่งก็เป็นความจริง แต่ว่าพวกเขาอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิดแล้วทำไม

                 แสดงว่า.. ทั้งสองร้องขึ้นพร้อมกันเมื่อนึกออก

                 นายคือเด็กตัวกลมๆที่ชอบถืออมยิ้มเดินไปมาในซอยเห็นแล้วน่ารำคาญตา

                 ส่วนนายก็เด็กคนนั้น ไอ้คุณหนูจอมหยิ่งที่มีคนขับไปรับไปส่งที่โรงเรียนตลอด พูดจบก็มองหน้ากันนิ่งก่อนจะรีบหันกลับมาตามเดิม มันบังเอิญมากไปแล้ว ไม่นานคยูฮยอนก็เป็นฝ่ายเริ่มเอ่ยทำลายความเงียบก่อน

                 โตมาก็ไม่ค่อยได้อยู่หรอก นานๆทีจะกลับ

                 ฉันเองก็ไม่ได้สนใจอะไรตั้งแต่พ่อเสียเมื่อตอนเรียนจบแล้ว ใบหน้าน่ารักที่บูดบึ้งใส่คยูฮยอนมาตลอดเพิ่งจะแสดงความเศร้าออกมาก็วันนี้เอง ร่างสูงไม่รู้ว่าจะเอ่ยอะไรเลยได้แต่เงียบก่อนจะขอโทษที่ทำให้รู้สึกไม่ดี

                 จะขอโทษทำไมเล่า นายไม่ได้ถามซักหน่อย

                 อืม แล้วตอนนี้อยู่กับใครน่ะ

                 อยู่กับแม่ ฉันเป็นลูกคนเดียวน่ะ ซองมินบอกทั้งที่ยังรู้สึกไม่ค่อยดีเมื่อนึกถึงพ่อตัวเอง

                 เหมือนกัน คยูฮยอนบอกแค่นั้นก็เงียบไปอีกครั้ง เขากำลังนึกสงสารคนตรงหน้าอย่างบอกไม่ถูก .. แต่ไม่ทันไรซองมินก็หันกลับมาตีหน้ายักษ์ใส่เขาอีกครั้ง
                 ว่าแต่ ที่บอกว่าไม่ชินทางน่ะ โกหกใช่มั้ยฮะ คำถามที่ได้รับชัดเจนมากจนคยูฮยอนต้องสะดุ้ง คนเจ้าเล่ห์งานนี้พลาดเองเสียแล้ว เขาไม่รู้จะปฎิเสธอย่างไร ก็ใครมันจะไปรู้ว่าบ้านจะอยู่ตรงข้ามกันแบบนี้ ไม่ต่างอะไรกับขับกลับบ้านตัวเองชัดๆ เขากำลังคิดว่าตัวเองโง่มาก

                 หนอย ไอ้คนเจ้าเล่ห์ อย่าหวังว่าจะได้หลอกกันอีกเลย

                 ไม่ใช่นะคือ...

                 คืออะไร คือว่านายสนุกมากงั้นสิ ขอบอกไว้ก่อนเลยนะว่าฉันไม่ใช่ของเล่นของนาย

                 ไม่ใช่อย่างนั้น คยูฮยอนจะกล้าบอกไปได้ไงล่ะว่าแค่อยากจะนั่งรถไปด้วยกันนานๆก็เท่านั้นเอง

                 แล้วเรื่องที่งานเลี้ยงฉันก็ไม่ได้สนุกด้วยหรอกนะ หลังจากตะโกนใส่หน้าคยูฮยอนแล้วซองมินก็รีบลงจากรถแล้ววิ่งเข้าบ้านไป ทิ้งให้คนมาส่งได้แต่มองตามทั้งที่อยากจะอธิบาย

     

    .. แต่จะว่าไป แล้วจะให้เขาเอาอะไรมาอธิบายล่ะ ในเมื่อมันอธิบายไม่ได้ ..

     

                 เฮ้อ .. เรื่องนั้นใครว่าฉันสนุกกันล่ะ

     

     



    .
    .
    Tbc. Chaper 16




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×