ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC SJ] WHEN ? (WonHae , BumHan / Ft.KyuMin)

    ลำดับตอนที่ #15 : WHEN ? .. Chapter.[14]

    • อัปเดตล่าสุด 3 ม.ค. 54




    มาลงช้าอีกแล้วค่ะ หัวปั่นกับงานมากมาย (ไม่เกี่ยวกับบัตรคอนแต่อย่างใด)
    ทั้งที่ก็รวมเล่มไปแล้วแต่มาอัพช้านี่มันไม่น่าเป็นการแก้ตัวได้เลยเนอะ^^
    (เหมือนจะมีคนรออ่าน รึป่าว???  อิอิ)
    ภาพของพาร์ทนี้ เป็นอันใหม่ที่ไม่ได้ทำไว้ในเรื่องนี้ ปกติรูปกับตอนก็ไม่ได้เข้ากันอยู่แล้ว
    แต่แอบอยากให้เป็นหน้าเฮ .. รีบๆสิบนาที เลยออกมาทะมึนมากค่ะ -*-

    *พาร์ทนี้ ลองอ่านดูอีกที แหม .. สุดๆอ่ะ





    ----------------------------------------------------





     




    Chapter 14



                 รถยนต์สามคันขับไล่กันมาไม่ห่างกันมากเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะคันที่สองที่ตั้งใจจะขับให้ทันคันแรกเสียเหลือเกิน โดยที่คนขับของคันแรกนั้นก็จงใจจะขับให้ทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆจนคนที่นั่งอยู่เบาะหลังเริ่มสังเกตได้

     

                 ไม่ต้องรีบก็ได้นะ ซองมินเอ่ยเสียงเรียบโดยที่รู้ตัวดีว่าอีกฝ่ายนั้นคงไม่ได้อยากจะพาเขาไปให้ทันงานอย่างที่ควรจะเป็นหรอก

                 นั้นสิคยูฮยอน รีบเหรอ ดงแฮเอ่ยสมทบอย่างเห็นด้วยกับซองมิน ทำให้ซองมินนั้นรู้สึกได้ว่าคนๆนี้นั้นช่างซื่อเหลือเกิน น่าจะรู้ว่าอีกคนไม่ได้มีเจตนาดีอะไรเลยด้วยซ้ำไป .. คยูฮยอนลอบยิ้มอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะหันมาทำหน้าตาจริงจังแล้วบอกว่าตัวเองกลัวจะไม่ทันงานเลี้ยงเพราะนี่เป็นครั้งแรกของเด็กใหม่อย่างเขา ไปช้ามันจะน่าเกลียดเอาได้ ดงแฮได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกชื่นชมอยู่ในใจกับความคิดของคยูฮยอน ขณะที่อีกคนที่เบาะหลังนั้นกำลังกอดอกมองคนพูดจากทางด้านหลังด้วยแววตาที่บ่งบอกว่ามันช่างเป็นเรื่องที่เสแสร้งสิ้นดี .. อีกอย่างที่ซองมินคิดคือ ดงแฮก็คงไม่ได้สังเกตว่ารถของซีวอนนั้นอยู่ถัดไปไม่ไกลนักจากพวกเขา

     

                 ทางด้านของคนที่กำลังร้อนรนนั้นก็อยู่ในสายตาของผู้ที่มาด้วยเช่นกัน  ฮันคยองที่นั่งข้างซีวอนแอบคิดว่าถ้าตัวเองเป็นดงแฮจะทำอย่างไรต่อไป จะดีใจที่ซีวอนทั้งรักทั้งห่วงหรือเสียใจที่ถูกคนที่รักทำกันแบบนี้ เขาเห็นใจซีวอนไม่น้อยไปกว่ากันเลย ถ้าจะบอกว่ายังรักก็ไม่ใช่แต่จะบอกว่าหมดเยื่อใยเหมือนเป็นคนอื่นแล้วก็ไม่ใช่อีกเช่นกัน

                 เขาทั้งสองทำผิดต่อดงแฮและก็ทำผิดต่อกันและกัน เพราะอย่างนั้นแล้วจึงไม่อยากที่จะให้เรื่องทุกอย่างมันแย่ไปอีกเพราะความรู้สึกที่ไม่ยอมจัดการให้แน่นอนไปเสียที

                 ซีวอนไม่พูดอะไรนอกจากขับรถไปถอนหายใจไป ถนนในเมืองกรุงที่ยานพาหนะคับคั่งทำให้ชายหนุ่มรู้สึกว่ามันช่างเป็นอุปสรรคกับการที่เขาจะไปงานเลี้ยงให้ทันดงแฮเหลือเกิน ฮันคยองสงสารซีวอนอย่างมากเลยพยายามที่จะปลอบใจ

                 อย่าคิดมากไปเลย ไม่นานดงแฮก็กลับมาจำได้

                 เรื่องนั้นฉันรู้ แต่จำได้แล้วยังไง มันจะดีกว่าเก่ารึเปล่า

                 อย่างน้อย ดงแฮก็รักนายนะซีวอน

                 เรื่องนั้น ฉันเคยคิดนะฮัน..เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างคนที่กำลังจะหมดแรงไปพร้อมกับทุกอย่างบนโลกนี้ ซีวอนพูดประหนึ่งว่าตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว ไม่มีแล้วดงแฮคนเดิมที่คอยบอกว่ารักอยู่ทุกวัน .. เพราะคนที่ทำให้มันหายไปก็คือตัวเอง

    ฮันคยองนั่งมองทางไปเรื่อยๆขณะที่ซีวอนก็บังคับพวงมาลัยรถไป

                 ฉันเคยคิดว่าถ้าเราไม่เริ่ม ทุกอย่างก็คงไม่เป็นแบบนี้

                 ซีวอน

                 นายไม่ผิดหรอกนะ อย่าโทษตัวเองเลย

                 เราต่างก็ผิดแล้วจะให้ฉันโทษนายคนเดียวได้ยังไง

                 .. เราถึงได้โทษตัวเองซ้ำๆซากๆกันอยู่นี่ใช่ไหม

     

                 คิบอมบังคับพวงมาลัยไปตามเส้นทางอย่างไม่รีบร้อน เขารู้ดีว่าดงแฮออกไปก่อนแล้ว แล้วซีวอนกับฮันคยองก็ตามไปอีกที มีเพียงตัวเองที่อยู่ข้างหลังเท่านั้นที่ความช้ามันลดลงลงไปเรื่อยๆจนถูกทิ้งห่างออกไป รู้สึกน้อยใจอย่างเดียวไม่พอยังรู้สึกถึงความว่างเปล่าราวกับไม่เหลืออะไรเลยด้วยซ้ำ

                 งานเลี้ยงระดับผู้บริหารได้ถูกจัดขึ้นที่ห้องประชุมขนาดใหญ่ของบริษัท แขกเหรื่อส่วนมากก็เป็นคนในเองและลูกค้าที่ได้รับเชิญมา

                 ซีวอนขึ้นกล่าวเป็นเกียรติในงานต่อจากผู้ใหญ่อีกท่านหนึ่งก่อนที่ทายาทของกิจการอย่างฮันคยองและดงแฮจะขึ้นเอ่ยตามที่ควรจะเป็น คนเป็นพี่รู้ดีว่าน้องวางตัวไม่ค่อยถูกแต่มีเขาอยู่ข้างๆเลยไม่ห่วงว่าดงแฮจะต้องลำบากใจอะไร และแม้

    ว่าดงแฮจะรู้สึกประหม่าไปบ้างจากที่จำอะไรไม่ค่อยจะได้แต่ก็ไม่มีอะไรผิดพลาดนักเมื่อเขาก็กล่าวออกไปอย่างดีไม่มีที่ติ .. ฮันคยองยิ้มกว้างที่เห็นรอยยิ้มของน้องชายที่ยืนอยู่ข้างกายเขาไม่ต่างจากคนที่มองอยู่อย่างซีวอนและคิบอมที่กำลังยิ้มดีใจที่ดงแฮดูจะมีความสุข

                 คุณดงแฮนี่นอกจากน่ารักแล้วยังพูดได้ดีอีกด้วยนะว่ามั้ย เสียงทุ้มของร่างสูงที่ยืนไม่ห่างจากหน้าเวทีเอ่ยขึ้นขณะที่มือก็ถือแก้วเครื่องดื่มไว้ก่อนจะยกขึ้นจิบ และไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องธรรมดาแต่ทุกอย่างที่ผู้ชายคนนี้ทำอยู่มันช่างไม่น่ามองเลยในสายตาของคนอย่างซองมิน

                 ร่างเล็กที่บังเอิญว่ายืนอยู่ข้างๆนั้นไม่ตอบอะไรทั้งที่อยากจะบอกเหลือเกินว่าไม่รู้ตัวหรืออย่างไรที่ทำให้คนอื่นเค้ามีปัญหาเพิ่มขึ้นอีกก็เพราะตัวเอง และไม่ทันจะได้คิดอะไรต่อไปก็ถึงคิวของหนุ่มนักบริหารคนใหม่ที่งานนี้นั้นถือเป็นการเลี้ยงต้อนรับไปในตัวเลยก็ว่าได้

                 เอาล่ะ ขอฉันเอ่ยบ้างละกันนะ คยูฮยอนหันหน้ามายักคิ้วใส่ซองมินก่อนจะคว้ามือเล็กอันนุ่มนิ่มให้รับแก้วของเขาไปถือไว้อย่างไม่ถามก่อนเลย แล้วจึงเดินตรงไปยังเวทีตรงหน้างาน

                 ไม่มีมารยาท ซองมินบ่นอุบอยู่กับตัวเองเบาๆอย่างไม่พอใจ

     

                 ทุกคนจ้องมองไปที่บนเวทีอย่างสนใจคนที่กำลังจะมากล่าว และทุกอย่างก็เป็นไปตามปกติ คยูฮยอนพูดฝากเนื้อฝากตัวและกล่าวยินดีที่ได้เข้ามาทำงานที่นี่ร่วมกับทุกๆคน ท่าทางการพูดที่เหมือนคนรุ่นใหม่และอ่อนน้อมถ่อมตนนั้นทำให้ทุกคนต้องปรบมือให้หลังจากกล่าวจบ แต่ไม่เพียงเท่านั้นเมื่อจู่ๆชายหนุ่มก็เอ่ยถึงคนที่เพิ่งขึ้นมาพูดก่อนเขาไปเมื่อครู่

                 ... และต้องขอบคุณคุณดงแฮด้วยนะครับที่ทำให้ผมรู้จักที่นี่มากขึ้นเหมือนที่ผมรู้จักเค้ามากขึ้น เราสนิทกันมากครับสายตาทุกคู่มองมายังคนถูกพูดถึงที่ทำหน้าไม่ถูกเลยได้แต่ยิ้มอย่างเดียว .. ไม่นานเสียงปรบมือก็ดังขึ้นอีกครั้งอย่างชื่นชมในมิตรภาพของเขาทั้งสอง

                 จะมีก็เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้สึกแย่เพราะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร คิบอมที่ยืนอยู่ห่างออกไปไม่ค่อยเข้าใจกับสายตาของซีวอนนัก และถึงเขาจะไม่รู้แต่ก็พอเดาได้เมื่อมองไปที่ดงแฮเพื่อนตัวเอง ก็คนๆนี้เนื้อหอมจะตายไปเขารู้แก่ใจดีและถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็ไม่แปลกที่ซีวอนจะมีท่าทีไม่ชอบใจ

     

                 ผ่านไปแล้วกับการกล่าวเป็นเกียรติแก่งานในค่ำคืนนี้ พิธีกรชายหญิงกล่าวเชิญให้แขกผู้มีเกียรติทุกท่านดื่มให้แก่บริษัทด้วยกันในคืนนี้และจากนั้นก็มีการแสดงโชว์สินค้าตัวใหม่บนเวทีไปเรื่อยๆขณะที่ทุกคนต่างก็ชมไปทานอาการกันไปตามสไตล์งานเลี้ยงที่เปิดโอกาสให้ได้พบปะกันอีกด้วย

                 ฮันคยองเห็นคยูฮยอนเดินตรงมาทางพวกเขาโดยที่ซีวอนก็กำลังตรงมาอีกทางเช่นกัน มือบางกระตุกแขนน้องชายเบาๆเป็นการเตือนกับสถานการณ์ตรงหน้า เสียงกระซิบดังขึ้นข้างหูดงแฮที่ยืนไม่รู้เรื่องก่อนที่คยูฮยอนจะมาถึงตัวเขาพอดี

                 พี่ไม่อยากให้ซีวอนคิดมากนะดงแฮ ฮันคยองทำทียืนเฉยๆหลังจากบอกไปด้วยความเป็นห่วง โดยที่ไม่รู้เลยว่าคนฟังจะคิดไปไกลกว่าที่เขาคาด ความแค้นในใจกับคนทั้งสองมันทำให้ดงแฮคอยจะต่อต้านทุกอย่างที่พวกเขาหยิบยื่นให้ และตอนนี้ไม่ว่าอะไรมันก็กลายเป็นว่ายิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุไปเสียแล้ว .. ทันทีที่คยูฮยอนเดินตรงเข้ามาประชิดตัวดงแฮก็ยิ้มหวานให้ทันทีเหมือนกับว่าไม่ได้ยินที่ฮันคยองบอกเลยแม้แต่นิด

                 ดงแฮ.. เสียงของคนเป็นพี่นั้นได้แค่เรียกชื่อน้องชายออกมาเบาๆพร้อมกับดวงตาที่เบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นไม่ได้ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เขาพูดไป

                 พูดได้ดีมากเลยนะคยูฮยอน ฉันชอบมากเลยล่ะใบหน้าน่ารักแสดงออกอย่างจงใจว่าเขาชื่นชมจริงๆอย่างที่ความจริงก็เป็นเช่นนั้น

                 ขอบคุณครับ ดงแฮก็เหมือนกันนะ สมกับเป็นน้องชายของคุณฮันคยองเลยคยูฮยอนชมอีกฝ่ายกลับไปบ้าง ทั้งสองเอ่ยปากพูดคุยกันไปไม่ทันจะจบดีจู่ๆอีกคนก็โผล่เข้ามา

                 ชมน้องไม่เท่าไหร่จะชมพี่ด้วยให้ครบทั้งคู่เลยรึไง ซีวอนเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองหน้าฮันคยองที่ไม่ได้พูดอะไรนอกจากยืนข้างๆ เขามองอีกฝ่ายด้วยสายตาตำหนิอย่างเสียไม่ได้ที่ไม่ห้ามอะไรน้องตัวเองเลย แต่กระนั้นเขาเองก็รู้ดีว่าฮันคยองไม่ได้ผิดอะไร .. ดงแฮเริ่มจะแสดงอาการเฉยเมยออกมาอีกครั้งโดยที่ในใจมันเริ่มจะว้าวุ่นอย่างบอกไม่ถูกเมื่อบรรยากาศน่าอึดอัดเวลาที่มีซีวอนอยู่กำลังเกิดขึ้นอีก ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะว่าซีวอนดูเหมือนจะชอบมีปัญหากับเพื่อนใหม่ของเขา หรือบางทีในหัวใจของดงแฮต่างหากล่ะที่มันกำลังแอบหวั่นไหวโดยที่เจ้าตัวไม่รู้เอาเสียเลย

                 คยูฮยอนเห็นว่าไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่พูดแทรกพวกเขาขึ้นมา ที่แท้ก็แค่หมาหวงก้างดีๆนี่เอง ชายหนุ่มรุ่นน้องก็เลยเริ่มถือโอกาสตวัดอ้อมแขนตัวเองให้รั้งเอาคนข้างกายเข้ามาใกล้ แต่มันกลับช้าไปแค่วินาทีเดียวเมื่อกลายเป็นว่าร่างสูงของซีวอนนั้นดันตัวเองเข้ามาระหว่างเขาทั้งสองโดยดึงดงแฮมาข้างตัวอย่างรวดเร็ว

                 ซีวอน .. นี่ปล่อย

                 อะไรกัน อะไรกัน แค่นี้เขินมากรึไง

                 ฉันไม่ได้เขิน ดงแฮถลึงตาใส่อีกฝ่ายอย่างนึกหมั่นไส้ แต่ซีวอนกลับยิ้มพอใจมากขึ้นเป็นทวีคูณ

                 งั้นถ้าไม่ได้เขินคนอื่นเค้า ก็ถือว่ากลัวเค้าอิจฉาแล้วกันนะที่รัก สายตาคม

    ที่พูดไปยิ้มไปพลางหันมามองอีกคนไปด้วยอย่างเหนือกว่า ขณะที่ฮันคยองเองกลับรู้สึกพอใจอยู่ลึกๆที่ซีวอนแสดงออกตรงไปตรงมาว่าไม่ต้องการให้คยูฮยอนมายุ่งกับคนของตัวเอง

                 ภาพคู่รักตรงหน้าทำให้อีกคนที่เหมือนถูกตัดหน้านั้นได้แต่เก็บอาการไม่พอใจไว้เงียบๆ ฮันคยองขยับเข้าไปใกล้คยูฮยอนมากขึ้นก่อนจะกระซิบเข้าที่หูของชายหนุ่มที่อายุน้อยกว่า

                 คู่นี้เค้าก็ชอบพ่อแง่ แม่  งอนกันแบบนี้ล่ะครับ ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มให้หลังจากพูดจบ แล้วจึงขอตัวเดินออกไปจากตรงนั้น ทิ้งให้น้องชายตัวเองอยู่ข้างซีวอนที่ยืนกันท่าคยูฮยอนไม่ห่างไปไหน

     

                 ร่างโปร่งบางปลีกตัวออกมาจากทั้งสามคนด้วยความเหนื่อยใจ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมดงแฮถึงดื้อแบบนี้ จริงอยู่ที่ความจำเสื่อมแต่ว่า ...


    แล้วคำพูดที่ซีวอนเคยบอกกับตัวเองเอาไว้ก็ผุดขึ้นมาในหัว

     

    ประชดประชัน

     

    นั่นสิ .. ทำไมดงแฮถึงได้เปลี่ยนไปล่ะ

     

    ใบหน้าได้รูปของชายหนุ่มเริ่มครุ่นคิดจนไม่ได้สังเกตว่ามีใครหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้า

                 คิบอม ความคิดทั้งหลายเรื่องน้องชายนั้นแตกกระเจิงออกไปหมดทันทีเมื่อพบว่าตรงหน้าเขาคือใคร

                 ครับ ผมเอง

                 คือเมื่อกี้พี่ขอโทษนะ พอดีว่าซีวอนกับ...

                 ไม่เป็นไรหรอกครับ พี่ไม่ต้องอธิบายหรอก ฮันคยองคงดีใจแน่ที่คิบอมไม่ได้โกรธ หากมันคงไม่ใช่เมื่อน้ำเสียงนั้นบ่งบอกว่ากำลังไม่พอใจเขาอยู่

                 นายโกรธพี่

                 ผมมีสิทธิ์โกรธพี่ด้วยเหรอ พูดอย่างนั้นแต่ใบหน้ากลับยิ้มแย้มผิดกับดวงตาที่แสดงความรู้สึกออกมาเต็มเปี่ยม  ฮันคยองสูดหายใจเข้าลึกๆเพราะว่าเขาผิดเอง แต่เรื่องทั้งหมดที่มีที่คอยทับอยู่เหมือนดั่งก้อนหินที่แสนหนักอึ้งมันทำให้จิตใจของเขาแทบจะหมดแรงแล้ว

                 นายไม่เข้าใจน่ะคิบอม ฮันคยองขึ้นเสียงก่อนที่ปลายประโยคจะตัดให้เบาลงจนแทบไม่ได้ยินเมื่อมีบุคคลอื่นตรงมาที่พวกเขา หนึ่งในผู้บริหารและครอบครัวกำลังตรงเข้ามาทักทำให้เขาตระหนักได้ว่าตอนนี้กำลังอยู่ในงาน

     

    .. กำลังทำงาน ต้องมีแต่เรื่องงาน ไม่ใช่เรื่องอื่น

     

                 คิบอมเองก็เปลี่ยนท่าทีเช่นกัน ร่างสูงโค้งให้ผู้ใหญ่ทั้งสองท่านและครอบครัวพร้อมกับฮันคยอง สายตาของชายหนุ่มสบเข้ากับหญิงสาวที่เขาเข้าใจว่าคงเป็นลูกสาวของคนตรงหน้าเขา

                 สวัสดีครับคุณปาร์ค งานวันนี้ถ้าไม่ได้ท่านเราคงแย่ ฮันคยองเอ่ยตามมารยาทเนื่องจากว่ามีบางจุดของงานที่ผู้ใหญ่คนนี้ได้ช่วยเหลือเอาไว้จากการประชุมครั้งก่อนทำให้งานใหญ่ในวันนี้ถูกจัดขึ้นอย่างราบรื่นไปด้วยดี

                 ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ผมมันแก่แล้ว ก็แค่คอยแนะนำพวกคุณบางเรื่องเสียงทุ้มใหญ่ของชายอายุมากกล่าวอย่างถ่อมตัวและชื่นชมคนทั้งสองรวมทั้งคนอื่นๆด้วย

                 พ่อกับแม่คงดีใจถ้ารู้ว่าเรายังมีคุณ

                 นั่นสิครับ คิบอมเสริมพร้อมกับแย้มยิ้มเป็นปกติ

                 นี่ลูกสาวผมเองนะคุณคิบอม มินยองนี่คุณคิบอมไงลูก ชายมีอายุแนะนำลูกสาวคนเดียวให้กับคิบอมรู้จักแต่กับฮันคยองนั้นเคยเจอกันกับลูกสาวของเขามาแล้วหลายครั้งเพราะว่าเขาเองก็เป็นเพื่อนและคนร่วมหุ้นอีกคนกับกิจการบริษัทนี้ตั้งแต่พ่อกับแม่ของฮันคยองยังอยู่ .. ใบหน้าน่ารักสมวัยยิ้มแย้มให้ทั้งสองคนก่อนจะเอ่ยทักทาย

                 สวัสดีค่ะคุณคิบอม ได้ยินคุณพ่อพูดถึงบ่อยๆ ยินดีที่ได้พบกันนะคะ

                 ครับ ยินดีครับ ว่าแล้วมือข้างหนึ่งก็ยื่นออกไปเพื่อจับกับมืออีกข้างของหล่อนที่ยื่นออกมาเกือบจะพร้อมกัน

                 พ่อว่าเรียกคุณคิบอมว่าพี่ก็ได้นะลูก รู้จักกันไว้เผื่อว่าพ่อไม่อยู่แล้วจะได้ฝากฝังเรื่องงานให้พี่เขาดูแลไง จริงไหมฮันคยอง ว่าแล้วก็หันมาถามคนที่ยืนเงียบอยู่บ้าง

                 อ่ะ ครับท่าน ฮันคยองตอบขณะที่คนถามนั้นหัวเราะออกมาดังๆอย่างพอใจด้วยท่าทีที่เหมือนจะอยากให้ลูกสาวตัวเองสนิทสนมกันกับผู้บริหารหนุ่มตรงหน้าเสียเหลือเกิน ฮันคยองเองเลยต้องพลอยเออออไปด้วยอย่างเสียไม่ได้ ดวงตากลมเหลือบมองคนข้างกายที่กำลังหัวเราะชอบใจไปกับเค้าด้วยเหมือนกัน

     

                 คุยกันเรื่องงานบ้างส่วนตัวบ้างไม่นานเท่าไหร่นักผู้ใหญ่ที่ดูท่าจะเป็นใจเหลือเกินกับลูกสาวคนเดียวก็ขอปลีกตัวออกไปพร้อมทั้งดึงฮันคยองไปด้วยราวกับว่าเขานั้นจะคิดเป็นใจอย่างที่เข้าใจกัน และเมื่อดึงชายหนุ่มคนหนึ่งออกมาแล้วเหลือไว้เพียงมินยองและคิบอม  ฮันคยองก็ได้แต่มองตามทั้งคู่อยู่ห่างๆ .. บางทีเขาเองก็ไม่ได้ฉลาดพอที่จะรู้หรอกว่าคนที่ตัวเองกำลังแคร์นั้นจะแกล้งทำต่อหน้ามากกว่า ท่าทางทั้งสองคนที่พูดคุยถูกคอกันนั้นมันบาดใจฮันคยองเหลือเกิน ก็ถ้าไม่ได้เป็นมากกว่าพี่น้องอย่างตอนนี้เขาก็คงไม่รู้สึกหวงหรอก คิบอมแอบชำเลืองมองบางคนที่ยืนกระวนกระวายอยู่ไม่ไกลนัก เห็นอย่างนั้นเขาก็ยิ่งได้ใจ ไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้ถึงต้องการให้รู้สึกไม่พอใจเขาบ้าง หรือเพราะคนเรามันถึงจุดที่เรียกว่าสุดท้ายแล้วถึงได้เปลี่ยนไป

     

                 ครับ ส่วนมากถ้าว่างนอกจากอ่านหนังสือนะพี่ก็มักจะนัดเพื่อนไปตีเทนนิสกัน

                 เทนนิส พี่คิบอมเล่นด้วยเหรอคะ

                 แปลกเหรอ

                 เปล่าค่ะ ฉันว่าพี่น่าจะชอบเล่นดนตรีเสียอีก เหมือนกับว่าหล่อนพยายามจะบอกว่าเขาไม่น่าจะเล่นกีฬาเสียอย่างนั้น นึกแล้วมันก็ขำไปอีกแบบ คิบอมเงียบไปจนมินยองเลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่เข้าใจว่ามีอะไรหรือเปล่า ชายหนุ่มยกยิ้มให้เมื่อนึกอะไรดีๆออก แต่ว่าเรื่องที่นึกออกนั้นมันไม่เกี่ยวกับหล่อนเลยต่างหากเพราะใจเขามันจดจ่ออยู่ที่ร่างของบางคนที่กำลังยืนมองเขาอย่างเก็บอาการไม่อยู่เสียด้วย ใบหน้าหล่อเหลายื่นเข้าใกล้แก้มเนียนของมินยองจนหล่อนต้องหน้าแดงอย่างเขินอาย

               

                 พี่แค่อยากบอกว่าพี่เล่นดนตรีไม่เป็นหรอก อย่าบอกใครนะ

     

                 ทันทีที่ผละตัวออกมาคิบอมก็ยกนิ้วชี้ขึ้นแนบที่ริมฝีปากตัวเองเป็นเชิงว่าให้เก็บเป็นความลับ มินยองยิ้มกว้างออกมาอย่างเขินอายตามประสาหญิงสาว ขณะที่ฮันคยองรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งใบหน้า เขากำลังควบคุมตัวเองไม่ได้อย่างที่ผ่านๆมา มือบางกำแน่นเพื่อเตือนสติตัวเอง

     

    .. มากไปแล้ว

     

                   ครั้งแรกที่รู้สึกว่าคิบอมกำลังทำให้เขาไม่พอใจ และครั้งนี้มันกำลังจะไม่เหมือนทุกครั้ง .. ภาพของคนทั้งสองที่หัวเราะต่อกระซิกกันอย่างสนิทสนมกำลังใกล้เขาเข้ามาทุกทีที่ก้าวตรงไปหา คิบอมได้ใจมากไปจนลืมสังเกตว่าฮันคยองหายไปจากตรงที่ยืนอยู่เสียแล้ว แต่ไม่จำเป็นต้องมองหาให้เสียเวลาเมื่ออีกฝ่ายกำลังเดินเข้ามาหาพวกเขาด้วยท่าทางที่ไม่พอใจ ไม่ทันที่คิบอมจะได้รู้เรื่องและไม่ทันที่ฮันคยองจะเดินเข้ามาถึง

                 อ๊ะ...จู่ๆร่างของพนักงานบริการเครื่องดื่มคนหนึ่งก็เดินตัดหน้าฮันคยองทำให้น้ำสีแดงเข้มของไวน์ในแก้วที่ถืออยู่หกลงมารดที่เสื้อของเขา  ในเวลาแบบนี้มันช่างแย่เสียจริงๆ

                 ขอโทษครับ ขอโทษครับ คือผมไม่ได้ตั้งใจ .. เดี๋ยวผมจะเอาผ้ามาเช็ด..

                 ไม่ต้องหรอก ไม่ต้อง

                 แต่คุณ

                 ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจัดการเอง ฮันคยองไม่ถือสาอะไรเพราะรู้ว่าไม่ได้ตั้งใจและอีกอย่างคนที่ซุ่มซ่ามก็คงจะเป็นตัวเองด้วยเหมือนกันที่เดินไม่ดู คิบอมมองมาอย่างเป็นห่วงก่อนจะสบตากับฮันคยอง .. สายตาตัดพ้อมองมาเพียงวินาทีเดียวก่อนจะก้มลงดูเสื้อตัวเองต่อไป ร่างโปร่งบางหันหลังเดินออกไปจากที่ตรงนั้นทันทีโดยไม่รอให้ใครได้มายุ่งกับตัวเองเลย

                 จะไปไหนคะพี่คิบอม

                 ก็พี่ฮันเค้า.. คิบอมรู้ตัวว่ากำลังเป็นห่วงจนมีท่าทีเปลี่ยนไปเลยรีบปรับอาการให้กลับมาเหมือนเดิม

                 เค้า .. ก็พี่เค้าออกไปห้องน้ำแล้วไม่ใช่เหรอคะ

                 ไม่มีอะไรหรอก พี่ว่าเราคุยต่อเรื่องเดิมเถอะ คิบอมเปลี่ยนเรื่องทันทีทั้งที่อยากจะเดินตามออกไปขนาดนั้น ส่วนคนที่เดินจากมากำลังตรงไปที่ห้องน้ำอย่างรวดเร็ว เรียวปากอิ่มเม้มเข้าหากันพลางนึกน้อยใจไปต่างๆนานา ฮันคยองถูผ้า

    เช็ดหน้าตรงบริเวณเสื้อที่เปื้อนเพื่อให้มันแห้งกว่าเดิม

                 บ๊าเอ๊ย.. จะดูแลเรื่องของน้องชายแต่ทำไมเรื่องตัวเองกลับยุ่งเหยิงไม่แพ้กัน น่าปวดหัวจริงๆ

     

     

                 หน้าภรรยาฉันมีอะไรติดอยู่รึไงไม่ทราบ คำถามนี้เด็กอนุบาลยังบอกได้เลยว่ามันไม่ได้หมายถึงการแสดงออกถึงความเป็นมิตรอย่างแน่นอน หากแต่คนถูกถามนั้นต้องแกล้งโง่ต่อไปพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

                 ก็ไม่นี่ครับ แต่ว่าจะพูดไปแล้ว หน้าคุณดงแฮน่ามองมากเลยล่ะครับคนถูกชมควรจะยิ้มรับแต่กลับทำหน้าไม่ถูกไปใหญ่เมื่อทั้งสองฝ่ายกำลังห้ำหั่นกันด้วยคำพูด

                 อ๋อเหรอ .. งั้นก็เชิญมองตามสบายนะ ฉันไม่คิดค่ามองหรอก ดงแฮอึดอัดกับคำพูดแต่ละอย่างของซีวอนมาก แล้วการที่มากอดเอาไว้ไม่ให้ไปไหนแบบนี้มันก็ทำให้เขารู้สึกไม่ดีเลยจริงๆ

                 พูดอะไรน่ะซีวอน คยูฮยอนเค้าพูดดีด้วยทำไมนายต้องนิสัยไม่ดีแบบนี้ด้วยนะ ดงแฮเริ่มจะฉุนเอามากเมื่อซีวอนไม่ยอมพูดดีๆกับคยูฮยอนเลยแม้แต่นิด

                 ฉันพูดอะไรผิดฮะ

                 แต่ฉันไม่ชอบ ฉันไม่ได้โง่นะ

     

                 คยูฮยอนเห็นท่าทั้งสองจะแยกเขี้ยวใส่กันก็ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจดี ก็ที่มันงานเลี้ยงใหญ่เสียด้วย เขาก็ไม่อยากให้ตัวเองมีเอี่ยวกับเรื่องแบบนี้หลังจากมาทำงานได้ไม่นานนักหรอก

                 ดงแฮครับ อย่าไปว่าคุณซีวอนเค้าเลยคยูฮยอนเอ่ย

                 ไม่เป็นไรหรอกคยูฮยอน เค้าไม่ได้สำนึกแม้แต่นิดหรอก แม้กระทั่ง

    กับคนที่รักเค้า .. ” ประโยคหลังสะกิดใจคนได้ยินให้หยุดคิดตาม ดงแฮหยุดพูดทันทีที่นึกได้ว่าไม่ควร มือหนาของซีวอนจับเข้าที่ใหล่ทั้งสองข้างของคนรักแล้วดึงเข้ามาใกล้ตัวโดยที่คยูฮยอนทำได้แค่มอง

                 ดงแฮ เธอจำได้แล้วเหรอ อาการดีใจแบบนั้นทำเอาร่างบางแทบจะยืนไม่อยู่กับแรงของซีวอน

                 จำ .. จำอะไรเหรอครับดงแฮ เสียงคยูฮยอนดังขึ้นตัดบทอย่างไม่ทันคิดเพราะว่าความอยากรู้

                 หือ อะไรเหรอ ไม่มีนี่ดงแฮกลบเกลื่อน

                 ก็ผมได้ยิน

                 ซีวอนเค้าชอบว่าฉันขี้ลืมน่ะคยูฮยอน ว่าแต่นายปล่อยฉันได้รึยัง ว่าแล้วก็หันกลับมาทางซีวอนหลังจากที่ได้เปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็วจนคนที่กำลังดีใจนั้นตั้งตัวไม่ทัน ซีวอนค่อยๆคลายมือออกเมื่อนึกได้ว่าไม่ควรให้ใครรู้ว่าดงแฮกำลังความ

    จำเสื่อม มือบางบีบเบาๆที่แขนของซีวอนเพื่อย้ำเตือนอีกที แต่ใบหน้าคมไม่ได้ตอบรับแต่อย่างใด ซีวอนหน้าเจื่อนลงไปจนคยูฮยอนสงสัยแต่เมื่อได้ทีตัวเองก็ลืมเรื่องนี้เสียสนิท เพราะตอนนี้ก็ถึงตาเขารุกบ้างล่ะ

                 พรุ่งนี้วันอาทิตย์ว่างไหมครับดงแฮซีวอนได้ยินเลยหันหน้ากลับมาตีคิ้วขมวดอีกครั้ง

                 ดงแฮไม่ว่าง เป็นซีวอนเองที่ตอบแทน ชายหนุ่มรัดอ้อมแขนตวัดเอาดงแฮเข้ามากอดอีกครั้ง

                 ว่างสิ ว่างมากด้วยดงแฮรีบชิงบอกอย่างรวดเร็ว

                 ไม่ว่าง ฉันบอกว่าไม่ว่างก็ไม่ว่างสิ

                 แต่ฉันว่าง

                 แต่ว่าพรุ่งนี้เธอต้องไปกับฉันเข้าใจไหมอีกครั้งที่คยูฮยอนรู้สึกว่าตัวเองจะกลายเป็นส่วนเกินเข้าจริงๆ แต่คนตรงหน้าน่ารักขนาดนั้นเขาเองก็อยากจะ

    เต็มที่เสียหน่อยล่ะ

                 ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวผมโทรไปถามดงแฮอีกทีแล้วกัน คุณซีวอนคงไม่มีปัญหาอะไรว่าแล้วก็ขอตัวจากคนทั้งสองไป ดงแฮดันแขนซีวอนจนหลุดออกจากร่างตัวเอง ดวงตาคู่สวยจ้องมองกลับมาอย่างแข็งกร้าว

                 ทำไม โกรธฉันมากงั้นสิที่ขัดขวางกิ๊กใหม่ของเธอ

                 จะมากไปแล้วนะซีวอน

                 ไม่มากไปหรอกดงแฮ หมอนั่นมันตั้งใจจีบเธอไม่รู้ตัวรึไง

                 ก็แล้วทำไมล่ะ เค้าจะจีบฉันแล้วนายมีสิทธิ์อะไร

                 ก็สิทธิ์ของคนเป็นสามี

                 นาย...

                 เธออย่าลืมนะว่าเธอความจำเสื่อม ประโยคเดิมที่ตั้งใจเตือนแต่ราวกับว่ากำลังตอกย้ำทุกอย่างที่ผ่านมาทั้งหมด

                 หึ .. ฉันไม่ลืมหรอก เรื่องเลวๆทั้งหมดใครจะลืมลง

     

                 ร่างสูงเบิกตากว้างอีกครั้งกับประโยคที่ได้ยิน ราวกับว่าเสียงรอบข้างกำลังหายไปเหลือแค่เขาสองคน ซีวอนไม่นึกเข้าข้างตัวเองว่าดงแฮจำได้และครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่เขาทำได้แค่นิ่งเพราะเป็นคนผิดอย่างทุกครั้ง เขาแพ้ทุกครั้งที่อีกฝ่ายบอกว่าเขาทำไม่ดีแค่ไหน

                 หมายความว่ายังไง เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆแต่หัวใจกำลังเต้นแรง

                 ก็ที่นายนิสัยไม่ดีกับคยูฮยอนไงได้ยินแบบนั้นซีวอนก็ไม่รู้จะเอ่ยอะไร ที่แท้แล้วก็เรื่องไร้สาระพวกนี้นี่เอง ความหวังที่พอจะมีกลับกลายเป็นเพียงแค่ความหวังลมๆแล้งๆอย่างทุกครั้งไป ถึงตอนนี้อีกฝ่ายจะต่อว่าหรือจะหนีเขาไปยังไงก็ช่าง แต่ขออย่างเดียว ขอให้กลับมาจำเขาคนนี้ได้อีกครั้ง กลับมาเป็นดงแฮคนเดิม

                 ฉันรู้ว่าตัวเองไม่ดี เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นก่อนจะหันไปสบตาดงแฮอย่างช้าๆ เวลาที่กำลังเดินไปข้างหน้ากลับพาให้ความรู้สึกของคนฟังย้อนกลับไปในก้นบึ้งของจิตใจที่ปิดกั้นมานาน .. อีกครั้งที่หัวใจกำลังหวั่นไหว อีกครั้งที่รู้สึกราวกับว่าคนที่รักกำลังร้องขอการให้อภัย 

                 แววตาที่จับจ้องลงมาที่ร่างบางช่างน่าสงสารอย่างสุดจะบรรยายเป็นคำพูดได้ ซีวอนอยากจะบอกว่าขอโทษกับทุกอย่าง อยากบอกว่าเขายอมแล้วไม่ว่าจะเป็นอย่างไร กลับมาได้ไหมแม้ว่าคนผิดอย่างเขาจะต้องเดินจากไป

                 ดงแฮ..

                 .........

                 เธอกลับมาได้ไหม ขอร้อง อย่าจากไปโดยที่บอกว่าไม่รู้จักฉัน หรือบอกว่าเราไม่เคยรักกัน

     

    น้ำตา .. ตอนนี้ที่ดวงตาคมกำลังจะมีน้ำตา และดงแฮเองก็ดูไม่ผิดหรอก อยากจะต่อต้าน ทว่าความคิดถึงท่วมท้นขึ้นมาในจิตใจที่เคยว่างเปล่าของตัวเขาเอง รู้สึกได้อีกแล้วว่ากำลังเศร้า

     

    .. นายโกหกทำไมซีวอน ฉันที่จำอะไรไม่ได้กำลังได้แต่ฟังคำขอโทษจากนายงั้นเหรอ

     

                บรรยากาศของงานเลี้ยงรอบข้างกำลังดำเนินไป แต่สองร่างที่ยืนข้างกันกำลังห่างออกไปไม่ต่างกับหัวใจ ดงแฮเลือกที่จะเดินหนีซีวอนเพราะหัวใจมันกำลังเจ็บอย่างบอกไม่ถูกเมื่ออยู่ต่อหน้ากัน เขาในเวลานี้ที่เหมือนกำลังจนมุมไม่มีที่ยึดเหนี่ยวนั้นกลับกล้าจะเดินเข้าหาคนที่ความรู้สึกมันบอกว่าไว้ใจได้

     

                 ซีวอนยืนมองดงแฮเดินผ่านคนอื่นๆแล้วตรงไปที่คิบอมและมินยองที่กำลังคุยกันอยู่ เรื่องราวในอดีตหวนให้นึกถึงขึ้นมา คนที่ดงแฮไว้ใจได้ก็คือคิบอมคนที่เคยรักดงแฮไม่น้อยไปกว่าเขาเลย ต่างกันแค่คิบอมไม่เคยทำให้ดงแฮต้องเสียใจ ผิดกับตัวเองที่ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

     

    .. แต่เธอก็เลือกฉัน

     

     

                 พี่ฮันไปไหนล่ะคิบอม หลังจากที่ถามคนที่เข้าใจว่าเป็นเพื่อนตัวเองแล้วดงแฮยิ้มให้กับสาวสวยที่อยู่ข้างคิบอม

                 สวัสดีค่ะพี่ดงแฮ ไม่เจอกันนานเลยนะคะมินยองกล่าวขณะที่คิบอมกำลังงุนงงว่าทำไมดงแฮถึงมาถามหาฮันคยองกับเขา แต่เมื่อเห็นท่าทางแปลกๆเมื่อมินยองถามคิบอมก็เข้าใจว่าเพื่อนรักคนนี้ๆคงจะจำไม่ได้อยู่ดี .. ร่างสูงขยับเข้าหาอีกฝ่ายพลางเอ่ยแทน

                 ดงแฮเค้าไม่ค่อยสบายน่ะช่วงนี้

                 เหรอคะ หล่อนพูดอย่างเป็นห่วง แต่คิบอมก็ขัดขึ้นมาอีก

                 อืม แต่ก่อนเค้าพูดบ่อยใช่มั้ย ตอนนี้เลยไม่ค่อยพูดมากอย่างแต่ก่อนแล้วล่ะดงแฮรู้สึกดีที่มีคิบอม แต่ไอ้ท่าทางตอบแทนเขาไปทุกเรื่องมันก็ทำให้รู้สึกแปลกไปไม่น้อย

                 แล้วฮีชอลน้อยสบายดีรึเปล่าคะพี่ดงแฮ

                 ก็ สบายดีครับ คือว่ากำลังซน คำถามที่ดงแฮเลือกที่จะตอบเองนั้นทำเอาคิบอมไม่อยากเชื่อหู ก็ดูจะแอนตี้ออกเสียอย่างนั้นแต่กลับยิ้มแย้มตอบไปแนบเนียนเหลือเกิน

                 ไว้วันหลังมินยองจะไปเยี่ยมแล้วกันนะคะ

                 ขอบคุณครับ

                 เสียดายที่แต่ก่อนยังไม่รู้จักพี่คิบอมเลย มินยองกล่าวเรื่องอื่นไปทำให้คิบอมพลอยเปลี่ยนเรื่องไปด้วย ทั้งสองคุยกันไปโดยที่ดงแฮก็รู้ว่าคิบอมเองคงไม่อยากให้มายุ่งกับเขามากนัก ถึงจะไม่สนุกที่ได้แต่ยืนฟังแต่ก็เพลินดีไม่น้อยที่ได้พูดบ้างเงียบบ้าง หรือแสดงความคิดเห็นกับเรื่องอื่นๆที่ในชีวิตนี้ยังมีให้คิดอีกเยอะนอกจากเรื่องแย่ๆที่คอยทำให้ใจบอบช้ำหรือกำลังสับสน

     

                 ขณะที่มองคนรักอยู่อย่างนั้นก็มีเสียงของใครบางคนทักขึ้นข้างกายของซีวอน เขาหันกลับไปก็พบว่าเป็นใคร

                 สวัสดีครับคุณปาร์ค ซีวอนเอ่ยทักทายพลางโค้งตัวเคารพตามมารยาทของเขาที่พึงกระทำกับผู้ใหญ่ที่ถือว่าให้คำปรึกษาเรื่องงานในบริษัทแห่งนี้มาโดยตลอด

                 งานออกมาดีมาก คนรุ่นใหม่อย่างพวกเธอทำให้ฉันไม่ผิดหวังเลยจริงๆ ชายวัยกลางคนกล่าวอย่างชื่นชม

                 ขอบคุณมากครับท่าน

                 ว่าแต่หนูดงแฮล่ะ ได้ยินว่าไม่ค่อยสบายเหรอพักนี้

                 เอ่อ .. ก็เหมือนเคยล่ะครับ รายนี้ป่วยง่าย แต่ก็ไม่หนักหนาอะไรมาก

                 แล้วอยู่ไหนล่ะตอนนี้

                 กำลังคุยกับน้องมินยองอยู่เลยด้วย ว่าแล้วก็ผายมือให้คนตรงหน้าหันมองตามทั้งสามคนที่ยืนสนทนากันอยู่ รอยยิ้มของคุณคิมระบายออกมาตามรอยย่นของใบหน้าที่เริ่มชราไปตามวัย

                 มีอะไรหรือครับท่าน

                 เปล่า ก็แค่นานๆทีจะเห็นใครสักคนที่ดีพอจะฝากมินยองลูกสาวคนเล็กของฉันไว้

                 ท่านหมายถึง..

                 ก็คิบอมน่ะทั้งยังหนุ่มยังแน่น ทำงานเก่ง เป็นผู้นำของกิจการครอบครัวอันยิ่งใหญ่ของเขาที่ร่วมกับเราในเวลานี้ได้ก็ถือว่าไม่เลวนะ แถมยังโสดอีก ฮะฮะ ซีวอนได้ฟังก็ได้แต่ยิ้มตามคนพูดไป เขาเข้าใจดีว่าคนเป็นพ่อจะรู้สึกห่วงลูกสาวคนเล็กในเรื่องแบบนี้ก็คงไม่แปลก หากเป็นเขาเองก็คงห่วงฮีชอลเช่นกัน  แต่เรื่องแบบนี้อยากจะรู้ก็ต้องดูกันเอาเอง ..ซึ่งในกรณีของคิบอม ซีวอนไม่ต้องรอดูก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ ไม่สิ คุณปาร์คคงเข้าใจผิดว่าคิบอมโสดมากกว่า เพราะความจริงแล้วนั้นเป็นอย่างไรเขาเองก็รู้ดี

     

     

                 มือบางทั้งคู่ถูผ้าเช็ดหน้าที่ชุบน้ำลงไปที่รอยเปื้อนบนเสื้อเชิ้ตสีขาวด้านในที่เกิดจากไวน์แดงเมื่อครู่ ชายหนุ่มยืนก้มหน้าทำอย่างนี้อยู่ที่หน้ากระจกเงาในห้องน้ำชายบนชั้นเดียวกันกับห้องงานเลี้ยงที่ห่างกันพอสมควร และที่เขาไม่ใช้ห้องน้ำด้านในก็เพราะว่าแขกเยอะคงไม่สะดวก ฮันคยองถอนหายใจที่เช็ดไปก็ไม่ได้ดีไปมากกว่าเดิมเลย และมันก็คงจะบังเอิญมากที่วันนี้ไม่ได้พกเสื้อมาด้วยนี่สิ

                 เฮ้อ ... ก็เพราะเรื่องวุ่นวายทั้งหลายมันทำให้แทบไม่ได้คิดอะไรเลย เขาเปลี่ยนใจดึงเอาเสื้อนอกเข้ามาบังเอาไว้แทนอย่างไม่ใส่ใจนัก ใบหน้าของตัวเองในกระจกเงาบานใหญ่มองกลับมาอย่างน่าสมเพช คิดแล้วก็ยิ่งแย่ ยิ่งคิดก็ยิ่งช้ำ และยิ่งหวังก็ยิ่งผิดหวังเหมือนเคย หัวใจที่กำลังอ่อนแอรู้สึกแคร์ใครบางคนมากเกินกว่าจะห้ามใจได้ แน่นอนว่าฮันคยองน้อยใจคิบอมอย่างมาก เรื่องที่คิดว่าจะเข้าใจก็ไม่เข้าใจ และตอนนี้ที่คิดว่าจะตามมาถามไถ่กันก็ไม่เลยสักนิด ความเงียบปกคลุมห้องน้ำชายทั้งหมดที่มีเพียงเขาคนเดียวที่ใช้มัน เสียงน้ำที่ไหลจากก๊อกหายไปเมื่อถูกปิดลง .. ร่างโปร่งบางยืนนิ่งมองตัวเองอยู่อย่างนั้นราวกับคนไม่ได้สติ  ริมฝีปากบางเอื้อนเอ่ยเบาๆกับตัวเองในกระจก

                 ฮันคยอง ทำไมความรักของนายมันเหมือนจะไม่มีค่าในสายตาของใครเลยนะ





                 ภายในห้องโถงใหญ่ งานเลี้ยงราบรื่นไปด้วยดี โดยเฉพาะในสายตาของคนที่เดินแยกตัวให้ห่างออกมาอย่างดงแฮ เขาพาตัวเองเดินออกมายืนอยู่ที่บริเวณระเบียงด้านนอกงานที่ยื่นออกมาจากห้องงานเลี้ยงขนาดใหญ่ อากาศที่หนาวเย็นในตอนกลางคืนเช่นนี้ทำให้ไม่ค่อยมีใครออกมายืนดื่มด่ำกับบรรยากาศมากนัก แต่คนยิ่งน้อยเขาเองกลับยิ่งพอใจเพราะเหมือนได้มุมส่วนตัวของตัวเองมากกว่า ไหล่บางทั้งคู่ห่อเข้าหากันเพราะความหนาวอย่างที่เจ้าตัวก็ไม่ได้ใส่ใจนัก ดวงตากลมเหม่อมองออกไปยังตึกสูงระฟ้ามากมายของเมืองในยามค่ำคืน รู้สึกเพียงอย่างเดียวว่าอยากกลับบ้านเป็นที่สุด ดงแฮสูดหายใจเอาอากาศเย็นเข้าไปก่อนที่จะยืนอยู่อย่างนั้นได้ไม่นาน มือของตัวเองที่วางไว้บนขอบระเบียงต้องขยับออกมาเมื่อมีอีกมือวางลงมาข้างกัน ร่างสูงของคนที่ยืนอยู่ด้านหลังนั้นใกล้มากจนรู้สึกได้ถึงไออุ่น ดงแฮไม่ได้ขยับหนีไปไหน ซีวอนก็เพียงแค่เอื้อมแขนทั้งสองโอบอ้อมร่างบางไปจับที่ขอบระเบียงไว้ สันจมูกโด่งห่างจากเรือนผมของอีกฝ่ายเพียงแค่นิดเดียว

     

    .. ใกล้เพียงลมหายใจ หากไม่ได้สัมผัสแต่อย่างใด ..

     

                 ซีวอน แม้ไม่ได้เห็นหน้าดงแฮก็เอ่ยชื่อขึ้นมาได้อย่างไม่ต้องสงสัย

                 ชอบรึเปล่างานเลี้ยงแบบนี้ เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างใส่ใจ ทั้งที่ในใจกำลังลุ้นมากกว่าว่าคนที่เกือบจะอยู่ในอ้อมกอดของเขานั้นจะถอยหนีเขาไปตอนไหน แต่ผิดคาด ดงแฮไม่ได้ขยับตัวมากกว่านี้เลย ได้เพียงแค่ยืนนิ่งๆไม่ได้ต่อต้านอะไร ท่าทางแบบนี้จากที่น่าจะดีใจแต่ซีวอนกลับรู้สึกแปลกใจเพราะปกติอีกฝ่ายดูจะรังเกียจเขาเอาเสียมาก ดงแฮไม่ตอบอะไรเอาแต่มองไปข้างหน้าทั้งที่ตอนนี้คนข้างกายกำลังมองมาที่ตัวเองอย่างสงสัย

                 เธอโกรธฉันเหรอ

                 หึ ฉันจะโกรธอะไรล่ะ นั่นสิ ดงแฮจะโกรธได้ยังไงในเมื่อความจำเสื่อม

                 ซีวอนนึกกลับไปในเรื่องเดิมที่ผ่านมา เขาคอยคิดแต่เรื่องพวกนี้จนรู้สึกว่าจะเป็นบ้าไปแล้ว มันอึดอัดจนอยากให้อีกฝ่ายจำได้แล้วเขาจะได้พูดออกไปและถูกต่อว่าหรือลงโทษอะไรก็ได้ให้สาสมไม่ใช่มีแต่เพียงความว่างเปล่าอย่างนี้

                 มือของซีวอนที่อ้อมตัวดงแฮเอาไว้ถอนออกช้าๆแต่หารู้ไม่ว่าอีกฝ่ายแอบใจหายอย่างไม่รู้ตัว ร่างสูงเปลี่ยนมายืนอยู่ข้างๆแทนโดยที่หันหน้าออกไปด้านนอกเหมือนกัน

                 ขอโทษแล้วกันจู่ๆก็เอ่ยออกมา ท่าทางไม่อยากบังคับใจใครใจอย่างนั้นดงแฮดูออกแต่ก็ได้แต่แสร้งถามกลับไป

                 เรื่องอะไร

                 ทุกอย่าง แล้วทั้งสองก็เงียบไปโดยที่ต่างฝ่ายต่างคิดบางอย่างในใจไม่ให้อีกฝ่ายได้ล่วงรู้เลยแม้แต่นิด ทั้งที่เป็นเรื่องเดียวกันแท้ๆ แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่กันล่ะ ..

    ซีวอนทำลายความเงียบลงด้วยการเปลี่ยนเรื่องคุย

                 วันนี้คนเยอะ รำคาญรึเปล่า

                 ก็ไม่หรอก เรื่องงานก็คือเรื่องงาน เรื่องส่วนรวมก็เรื่องส่วนรวม นายอย่ามาถามเหมือนฉันเป็นเด็กเลยดงแฮตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหมือนเดิมไม่มีผิด

                 อ้าว แต่ฉันยังไม่ได้ว่าเธอเด็กเลยนะ

                 ก็ใครที่ไหนเค้าถามกันแบบนี้ ไม่ต้องแคร์มากก็ได้หรอกนะ ฝืนใจเปล่าๆ

                 หึ เหมือนจะรู้ดีนะ

                 แน่นอน

                 ไม่เลยต่างหาก เธอไม่ได้รู้ดีอย่างที่พูดหรอก เพราะดงแฮคนเดิมย่อมรู้ดีว่าฉันไม่ได้ฝืนใจแม้แต่น้อย ใบหน้าคมอมยิ้มออกมายามพูดราวกับว่ากำลังพูดถึงใครคนหนึ่งที่อีกฝ่ายคงไม่รู้จักดีไปกว่าเขาเป็นแน่ ดงแฮหันมามองหน้าซีวอนที่ยังคงหันข้างให้เขาอย่างเดิม ความรู้สึกเจ็บแปลบเกิดขึ้นหลังจากที่ได้ยินเรื่องพวกนี้อีกครั้ง

                 หึ นายแน่ใจงั้นเหรอว่าฉันคนเดิมยังจะคิดอย่างนั้น คิดผิดคิดใหม่ได้นะ


    ทุกประโยคประชดประชันที่ซีวอนได้ยินมันเหมือนกับการลงโทษจากคนที่แค้นเขามาก ทั้งเย็นชาทั้งรังเกียจ

                 ร่างบางว่าแล้วก็ผละออกมาเพื่อจะกลับเข้าไปในงานเลี้ยง ทุกก้าวที่ซีวอนรู้ว่าขาทั้งคู่ของอีกฝ่ายนั้นกำลังเดินทิ้งห่างเขาไปเรื่อยๆมันได้เพิ่มความรวดร้าวในใจให้แก่เขาอย่างยากจะห้ามไหว

     

    .. สมใจแล้วใช่ไหมสวรรค์ รู้บ้างรึเปล่าว่าผมกำลังเจ็บเจียนตาย

     

                 เดี๋ยว !” เสียงทุ้มเรียกเอาไว้ทำให้ดงแฮหยุดเดิน บริเวณด้านนอกนี้ไม่เหลือใครแล้วนอกจากเขาทั้งสอง ต่างกันกับภาพงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่มองเห็นได้จากด้านนอกผ่านแผ่นผนังกระจกใส ซีวอนเดินใกล้เข้ามาโดยที่คนรอไม่อาจรู้ได้ว่ามันจะหมายถึงอะไร ดงแฮหลับตาลงเมื่อความไม่มั่นใจมันกำลังก่อเกิด .. ไม่มั่นใจว่าจะยังรักอย่างที่บอกหรือเปล่า ความอุ่นของเสื้อนอกตัวใหญ่ถูกวางทับลงไปที่ไหล่ของดงแฮด้วยความห่วงใย


                 อากาศด้านนอกมันเย็น เธอยิ่งไม่สบายง่ายอยู่ด้วยนะ 


               
      พูดจบก็เดินกลับเข้างานไปโดยไม่รู้ว่าได้ทิ้งไว้เพียงไออุ่นในน้ำเสียงที่แทรกผ่านใบหูของคนฟังเข้าไปในหัวใจอย่างยากจะต่อต้าน ดงแฮทำได้เพียงมองตามร่างสูงที่ค่อยๆหายเข้าไปในงานโดยที่ไม่ได้เอ่ยอะไร มือบางเริ่มยกขึ้นดึงชายเสื้อตัวใหญ่เอาไว้ให้แนบกาย

     

    .. เลิกทำแบบนี้เสียที จะบอกอะไรให้นะซีวอน ว่าฉันเกลียดนาย

     

    ทั้งที่เกลียด .. แต่ทุกทีที่ดงแฮนึกคำนี้ทีไรหัวใจมันกลับรวดร้าวไม่ต่างกัน

     

     

                 

                 
    หลังม่านด้านหลังของเวทีที่ทะลุออกไปเป็นห้องควบคุมในส่วนอิเล็ค
    ทรอนิกส์มีร่างเล็กคุ้นตาเดินไปเดินมาไม่หยุด ใบหน้าหล่อเหลาและท่าทางสบายๆของคนที่กำลังยืนมองอยู่นั้นเรียกให้เหล่าสตาฟหนุ่มสาวหันมามองเป็นตาเดียวกัน คยูฮยอนเดินเข้ามามากกว่าเดิมพลางส่งยิ้มให้ทุกคนราวกับว่าเขากำลังเป็นที่สนใจ ซึ่งนั่นก็เป็นความจริงเสียด้วย แต่ดูเหมือนคนที่เขาเดินมาหานั้นจะไม่ได้หันมามองกันเลยแม้แต่นิดเดียว ร่างสูงขยับเข้าไปใกล้อีกฝ่ายที่ไม่รู้ว่าเขากำลังมองอยู่

     

                 ผมว่าพี่เอาสปอตตัวนี้เก็บไว้ตอนเปิดตัวที่ร้านดีกว่า ไงวันนี้ก่อนเลิกเอาตัวใหม่นี่ไปก่อนดีกว่าไหม คุณคิบอมเค้าอยากให้แทรกเรื่องของอัญมณีให้มากกว่าเดิมด้วยน่ะครับ ใบหน้าน่ารักเจรจาเรื่องงานอย่างตั้งใจกับสตาฟสาวคนหนึ่งที่โต๊ะมุมผนังโดยที่ยังไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนเดินมาหยุดอยู่ด้านหลัง ซองมินมองตามสายตาของหญิงสาวที่มองเลยเขาไปที่ด้านหลังก่อนที่เขาจะหันไปมองบ้าง

                 คยูฮยอน

                 ทำไมต้องทำหน้าตกใจอย่างนั้นว่าแล้วก็ยกแก้วเครื่องดื่มในมือขึ้นดื่มอย่างอารมณ์ดี แต่คนที่มองอยู่กลับอารมณ์เสียมากกว่า ซองมินไม่ว่าอะไรก่อนจะหันกลับมาตามเดิมเพราะไม่อยากเสียเวลาในการทำหน้าที่ของตัวเองไปกับคนไร้สาระ

                 พี่ครับ งั้นฝากซีดีแผ่นนี้ไว้เลยละกัน

                 ค่ะได้ค่ะ พี่จะเปิดแทนเลยนะคะคุณซองมินสตาฟสาวรับคำพร้อมกับรอยยิ้มแม้ว่าอีกนัยหนึ่งของรอยยิ้มนั้นจะหมายถึงทั้งสองคนที่ยืนอยู่ข้างกันก็ตามที

                 ครับ ขอบคุณมากนะครับ ร่างเล็กกล่าวขอบคุณเสร็จก็หันตัวเดินผ่านคยูฮยอนออกไปอย่างไม่อยากจะสนใจ ร่างสูงเดินตามออกมาติดๆภายในงานเลี้ยงที่ยังดำเนินอยู่โดยไม่ได้สนใจกลุ่มคนด้านหลังที่มองตามพวกเขาออกมาเลย

                 จะรีบไปไหนของนายกัน หรือว่ามีงานรออยู่อีก งานเลี้ยงทั้งทีน่าจะได้เฮฮานะ เมื่อได้ฟังที่อีกฝ่ายพูดมาซองมินก็ต้องหยุดเดินแล้วหันกลับไปถาม

                 งานเลี้ยงที่เป็นงานของเราเนี่ยนะ อย่าพูดเหมือนกับว่าเป็นงานปาร์ตี้ที่บ้านนายสิ

                 .........

                 แล้วอีกอย่าง ฉันก็ไม่ได้ว่างมากแบบนายเสียด้วย ซองมินไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้พูดอะไรเลย คยูฮยอนส่ายหน้าไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องต่อว่าเขาขนาดนี้ ก็แค่อยากพูดด้วยเท่านั้นเอง หรืออันที่จริงจะเรียกว่าอยากแกล้งนิดๆหน่อยๆก็ได้น่ะนะเขาไม่เถียง

                 ไม่เห็นต้องอารมณ์เสีย ดูเหมือนนายจะไม่ชอบฉันมากเลยนะซองมิน คยูฮยอนถามอย่างจริงใจไม่ได้ล้อเล่น

                 เปล่านี่

                 งั้นจะเดินหนีทำไม

                 ก็ฉันไม่ว่าง ซองมินโกหก ใบหน้าน่ารักแสร้งทำเฉยอย่างที่บอกไป ที่จริงเขาก็แค่ไม่อยากจะอยู่คุยด้วยก็เท่านั้นเอง และในขณะที่ทั้งสองมองหน้ากันอย่างไม่ค่อยจะเข้าใจกันนักเสียงหนึ่งก็ดังแทรกเข้ามา

                 มีปัญหาอะไรหรือเปล่าซองมิน

                 คุณซีวอน ซองมินเป็นฝ่ายเงยหน้ามอง

                 เผื่อมีอะไรที่ฉันช่วยได้ ซีวอนถามอย่างปกติแต่สายตาก็ชำเลืองอีกคนอย่างไม่ค่อยจะชอบใจเท่าไหร่นัก จริงอยู่ที่คยูฮยอนไม่ได้กลัวการเผชิญหน้ากับซีวอนแต่เขาเองกลับรู้สึกว่าในเวลาแบบนี้ทำไมจะต้องโผล่มาด้วย

                 ไม่มีอะไรหรอกครับคุณซีวอน เราคุยกันปกติ คุณคยูฮยอนเพิ่งมาอยู่ที่นี่ผมเลยแนะนำเรื่องร้านอาหารอร่อยๆให้ ท่าทีแสร้งไม่มีอะไรอย่างนั้นของซองมินทำให้คยูฮยอนไม่ค่อยจะอยากเออออไปด้วยเลยสักนิด เพราะนอกจากจะไม่เนียนแล้ว

    นั้นยังไม่ได้ผลเสียสนิทเพราะว่าเขากับซีวอนรู้กันดีว่าต่างฝ่ายต่างไม่ชอบกันแค่ไหน

                 งั้นเหรอ ร้านอาหารซีวอนทวนคำก่อนจะยิ้มให้ ชายหนุ่มไม่ว่าอย่างไร ท่าทางหงอยๆไปของซีวอนทำให้ทั้งสองคนรู้สึกได้ และอย่างน้อยเมื่อมีโอกาสคยูฮยอนก็ใช้มันทันที

                 ครับ ร้านอาหาร เผื่อว่าพรุ่งนี้วันอาทิตย์จะพาคุณดงแฮไปทานกันสองคน จบประโยคที่คยูฮยอนพูดเท่านั้นแหละ เท่านั้นที่ซองมินรู้สึกอยากจะลากตัวปัญหานี้ออกไปไกลๆเสียเหลือเกิน เขาไม่กล้าจะมองหน้าซีวอนเลยแม้แต่น้อยเพราะรู้ดีว่ามันเป็นอย่างไร

     

    .. ให้ตายสิ ฉันเกลียดนายจริงๆไอ้ตัวปัญหา

     

                 คือว่า อันที่จริงเราน่าจะหาอะไรดื่มกันนะครับ คนตัวเล็กกว่าอีกสองคนเสนอด้วยใบหน้าที่พยายามยิ้มเต็มที่แต่หารู้ไม่ว่ามันช่างดูน่ารักเกินกว่าจะเชื่อได้ในสายตาของอีกสองคน คยูฮยอนได้แต่ยกยิ้มที่มุมปากในขณะที่ซีวอนยิ้มด้วยไม่ออก ในเวลานี้ถ้าจะมาหาเรื่องเขาก็คงจะไม่โกรธหรอก แต่เรื่องที่ว่ามันเป็นเรื่องของบางคนนี่สิ ผู้ชายอย่าง ชเว ซีวอน เรื่องแบบนี้ก็น่าจะรู้

                 อย่ามาคิดว่าตัวเองดีมาจากไหน แล้วก็ขอบอกว่าห้ามมายุ่งกับเมียฉันเป็นอันขาดน้ำเสียงเย็นยื่นคำขาดที่ดูแล้วน่ากลัวในสายตาของซองมินแต่สำหรับคนที่ซีวอนพูดด้วยกลับไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ

                 คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าครับคุณซีวอน ผมเนี่ยนะยุ่งกับภรรยาของคุณ คยูฮยอนพูดออกมาอย่างหน้าตาเฉยโดยที่นึกไม่ถึงว่าซีวอนจะโกรธมาก

                 หมายความว่าไง จะบอกว่าดงแฮให้ท่างั้นสิ

                 ก็ไม่แน่นะครับ

     

                 การสนทนาระหว่างชายหนุ่มกับหญิงสาวในงานเลี้ยงเป็นไปด้วยดีโดยที่ยังไม่จบลง คิบอมยิ้มให้มินยองอย่างอ่อนโยนจนดูท่าว่าเธอจะชอบเขาเข้าจริงๆเสียแล้ว แก้วไวน์ที่ถืออยู่ยกขึ้นชนกันเบาๆระหว่างที่เอ่ยเรื่องส่วนตัวบ้างเรื่องงานบ้าง มินยองน่ารักมากในสายตาของคิบอม แต่ว่าสายตาของเขาตอนนี้กำลังสนใจจดจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือมากกว่า ท่าทางกระวนกระวายอย่างนั้นเป็นใครก็ดูออก

                 มีอะไรรึเปล่าคะ นัดแขกคนไหนไว้หรือเปล่า หญิงสาวเงยหน้าถามอย่างเกรงใจที่ต้องมายืนคุยกับเธอตั้งนานสองนาน

                 อ่ะ เปล่าหรอกครับ

                 ไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะคะ มินยองเกรงใจ

                 พี่ต่างหากที่ควรเกรงใจ น้องมินยองตามสบายนะครับ ชายหนุ่มยิ้มให้ตามเดิมทั้งที่ในใจกำลังนึกถึงอีกคนว่าทำไมถึงได้หายไปนาน แค่ไปเข้าห้องน้ำ

     

     

                 ดงแฮกลับเข้ามาในงานอย่างเดิมพร้อมกับเสื้อของซีวอนที่ถอดออกมาถือเอาไว้เพราะกลัวคนอื่นจะมองแปลกๆ อาการประหม่าที่เกิดขึ้นยามที่อยู่คนเดียวทำให้เขาต้องพยายามยิ้มกลบเกลื่อนเมื่อมีคนมองมา

                 มองอะไรล่ะเนี่ย เสียงเบาๆเอ่ยขึ้นกับตัวเองอย่างไม่เข้าใจนัก แต่สุดท้ายก็นึกได้ว่าหลายคนก็คงจะรู้จักเขา ร่างบางเดินไปยังอาหารว่างหน้าตาน่ารักสไตล์บุฟเฟ่ต์ที่จัดวางไว้เป็นไลน์สำหรับแขกในงาน สายตาทั้งคู่มองอาหารเพลินก่อนที่จะเอื้อมมือออกไปหมายจะทานบ้างเนื่องจากว่าเขารู้สึกหิวขึ้นมาเสียแล้ว ดงแฮยังไม่ทันจะได้จับอะไรเลยจู่ๆก็มีมือของใครบางคนมาแตะตัวเขาเข้า

                 ซองมิน ดงแฮหันมามองคนตรงหน้าอย่างตกใจที่ดูสีหน้าตอนนี้จะไม่ดีเอาเสียเลย อีกฝ่ายอ้าปากจะพูดอะไรออกมาแต่ก็พูดไม่ออก

                 มีอะไรซองมิน ใจเย็นๆ ดงแฮพยายามถามให้ได้คำตอบโดยที่ไม่ได้แสดงอาการออกไปมากนักเพราะเกรงว่าคนอื่นจะมองอย่างสงสัยเช่นเดียวกับซองมินที่พยายามพูดให้เบาที่สุด

                 คืองี้ครับ ผมว่าคุณดงแฮรีบไปดูคุณซีวอนกับ เอ่อ .. คุณคยูฮยอนก่อนดีกว่า เค้ามีเรื่องกัน เท่านั้นแหละที่ดงแฮต้องรีบเดินตามซองมินออกไปยังด้านนอกของงานเลี้ยงทั้งที่ไม่ได้อยากไปเลย ยิ่งมีปัญหาเขาก็ยิ่งอยากกลับ แต่ก็ทิ้งไปไม่ได้อยู่ดี

     

                 ออกจากห้องบอลรูมขนาดใหญ่มาได้ไม่เท่าไหร่ทั้งสองก็เจอเข้ากับสองคนที่มุมด้านนอกมุมหนึ่ง สองร่างที่เริ่มมีการปะทะกันมาสักพักไม่ได้สังเกตเลยว่าพวกเขาทั้งสองยืนอยู่

                 ทำอะไรกันน่ะ  เสียงของดงแฮดังขึ้นเรียกให้ทั้งสองหันมามองโดยที่มือของซีวอนกำเอาคอเสื้อคยูฮยอนไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ดงแฮเห็นแล้วตกใจมากจึงรีบวิ่งเข้าไปหาโดยที่มีซองมินวิ่งตามเข้าไปอีกคน

                 ปล่อยนะซีวอน นายจะรังแกคยูฮยอนแบบนี้ไม่ได้ ก็ภาพที่เห็นว่าใครเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบฝ่ายนั้นก็จะดูจะน่าสงสารกว่านั่นเอง ซีวอนหัวเราะให้กับตัวเองในใจ สุดท้ายคนที่ผิดก็เป็นเขาอยู่วันยังค่ำ ขณะที่คยูฮยอนไม่ได้แสดงการต่อสู้ใดๆออกมาเลย

                 พอเถอะครับคุณซีวอน อย่าหาเรื่องผมอีกเลยคยูฮยอนแสร้งเอ่ยทั้งที่รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้เริ่มหาเรื่องเขาก่อนเลย

                 นายนี่มัน..” ใบหน้าคมเจ็บแค้นจนอยากจะต่อยอีกฝ่ายเสียให้ได้ ถ้าไม่ถูกร้องห้ามไว้ก่อน

                 พอแล้วซีวอน !!” ดงแฮร้องขึ้นพลางพยายามเข้าไปแกะเอามือของซีวอนที่กำเสื้อคยูฮยอนไว้ไม่ยอมปล่อยออก

                 โธ่โว้ย เป็นซีวอนเองที่ผลักคยูฮยอนออกจากมือจนล้มลงที่พื้นอย่างแรง

    ดงแฮวิ่งเข้าไปหาคยูฮยอนอย่างรวดเร็วเพราะเป็นห่วง ท่ามกลางสายตาของซองมินที่ทำอะไรไม่ถูกและซีวอนที่ยิ่งเห็นว่าคนรักของตัวเองห่วงอีกฝ่ายมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเจ็บมากเท่านั้น

                 นายเป็นไงบ้างคยูฮยอน ดงแฮร้องถามอย่างเป็นห่วงทั้งที่พยายามพยุงอีกฝ่ายเอาไว้ และแม้ว่าคนเจ็บจะไม่ได้ร้องออกมาแต่รอยช้ำที่มุมปากดูก็รู้ว่าคงเจ็บไม่น้อยเลยทีเดียว

                 ไม่เห็นไรหรอกครับดงแฮ แต่ .. โอ๊ย ชายหนุ่มร้องออกมาเมื่อขยับริมฝีปากแล้วเขารู้สึกเจ็บขึ้นมามากกว่าเก่า

                 อย่าเพิ่งพูดเลย เดี๋ยวจะยิ่งเจ็บเปล่าๆ ว่าแล้วก็หันไปเรียกร่างเล็กของอีกคนที่ยืนทื่ออยู่ให้มาช่วยกันพยุงคยูฮยอนออกไปทำแผล ท่าทางของดงแฮที่เป็นห่วงเป็นใยอีกฝ่ายอย่างนั้นทำให้ซีวอนแทบขาดสติ ร่างสูงนึกถึงทุกอย่างที่เกิดขึ้นว่าเขาไม่ได้เริ่ม แล้วที่มันควรจะโดนแบบนี้ก็สมควรแล้ว ซีวอนตรงปรี่เข้าหาคยูฮยอนอย่างโกรธแค้น หมายจะต่อว่าให้เจ็บกว่าเดิม แต่ท่าทางอย่างนั้นของเขามันคงไม่ได้ดูน่าไว้ใจเท่าไหร่ ขายาวก้าวเข้าไปแต่ถูกร่างบางของอีกคนดันออกอย่างแรง

                 ออกไปนะ นายมันอันธพาล ดงแฮลุกขึ้นยืนพร้อมกับมองด้วยสายตาที่โกรธจัด

                 แต่ฉันไม่ได้เริ่ม

                 แต่นายทำร้ายเค้า

                 แล้วทำไมเธอไม่ถาม..”

                 ก็เพราะคนอย่างนายไม่มีวันเข้าใจหรอกว่าการถูกทำร้ายมันเป็นยังไง

    ซีวอนอึ้งไปที่ถูกว่าแบบนั้น เขารู้ตัวดีว่าความจริงเป็นอย่างไร และก็อยากจะขอร้องคนตรงหน้าว่าอย่าพูดอะไรทั้งที่จำไม่ได้เลย

     

    .. แต่เธอรู้อะไรไหมดงแฮ สุดท้ายคนที่ทำร้ายก็ถูกทำร้ายเสียเอง

                 ใบหน้าคมไม่เอ่ยอะไรปล่อยให้มีแต่ความเงียบ แววตาน้อยใจสะท้อนออกมาโดยที่ดงแฮไม่อยากจะมอง แม้แต่คยูฮยอนและซองมินที่พยุงกันอยู่ที่พื้นก็อดจะรู้สึกไม่ได้

                 หึ เธอน่าจะรู้ว่าคนอย่างมันสมควรแล้วที่จะโดนแบบนี้

                 งั้นเหรอ แล้วคนอย่างนายสมควรจะโดนแบบไหน

                 พอเถอะดงแฮ เธอหยุดพูดแบบนี้ซะที ซีวอนหมดความอดทนจนต้องตะโกนออกไป ทำให้ดงแฮต้องสะดุ้งและรู้สึกว่าน้ำตากำลังจะไหลไม่ต่างกัน ความหนักอึ้งในจิตใจของซีวอนและดงแฮถูกกดลงไปลึกกว่าเดิมเพราะไม่กล้าจะเอ่ยปาก ความเงียบเกิดขึ้นอีกครั้งระหว่างคนทั้งสอง ระหว่างที่อีกสองคนที่นั่งมองอยู่ก็ไม่กล้าจะไปยุ่งอะไรแม้แต่น้อย

                 ผ่านไปไม่นานซีวอนก็เป็นฝ่ายละสายตาจากดงแฮไป จู่ๆร่างสูงก็ตรงเข้าไปหาร่างคนเจ็บที่ยังลุกไม่ขึ้น ท่าทางน่ากลัวอย่างนั้นทำให้ซองมินรีบหลับตาลงเพราะไม่แน่ใจว่าซีวอนจะทำอะไรคยูฮยอน และไม่ทันที่จะได้เอ่ย ไม่ทันที่จะมีอะไรเกิดขึ้น ใบหน้าของซีวอนก็ต้องเจ็บจนชาเพราะมือของคนเดิมที่มีสิทธิ์จะตบหน้าเขาได้คนเดียว  

                 เลิกบ้าได้แล้ว!”

     

                 ดงแฮตบหน้าซีวอนท่ามกลางสายตาของซองมินที่ลืมขึ้นมาเห็นเข้าพอดี ขณะที่คยูฮยอนได้แต่มองอย่างไม่อยากจะเชื่อ ทั้งสองรู้สึกตึงเครียดไปด้วยไม่แพ้กัน ซีวอนไม่หันหน้ามามองดงแฮเลยแม้แต่น้อย ร่างสูงยืนกำมือแน่นไม่ใช่เพราะเจ็บที่หน้าแต่มันเจ็บที่หัวใจ .. ภาพซีวอนที่ไม่พูดไม่จาอะไรค่อยๆทำให้แววตาโกรธของดงแฮคลายลงแล้วแทนที่ด้วยความรู้สึกผิด ซีวอนก้มหน้าแค่นยิ้มกับตัวเองก่อนจะรีบเดินออกไปตามทางเดินแล้วหายไปอีกทาง ขณะที่ดงแฮกำลังข่มความรู้สึกมากมายในใจให้หมดลงก่อนจะหันกลับมาดูคยูฮยอนที่เขาเป็นห่วง

                 พาไปทำแผลเถอะซองมิน ขอโทษแทนซีวอนด้วยนะคยูฮยอนดวงตาที่ฉายแววเศร้าฝืนยิ้มให้ทั้งสองเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซองมินไม่เข้าใจเลยว่าดงแฮทำแบบนั้นทำไม คยูฮยอนไม่พูดอะไรเพราะในใจกำลังครุ่นคิดกับเรื่องที่ได้เห็น บางทีเขาเองก็ไม่ได้คิดมาก่อนว่าอะไรๆมันจะแย่ขนาดนี้

                เอ่อ คุณดงแฮครับ

                 ว่าไงซองมิน

                 คุณจะไม่ตามไปดูคุณซีวอนหน่อยเหรอครับ

                 ทำไมล่ะ เค้าทำเรื่องไม่ดีแล้วทำไมฉันจะต้องสน ว่าแล้วก็ช่วยพยุงร่างของคยูฮยอนอีกข้างให้ลุกขึ้นยืนพร้อมกับซองมินที่พยุงอยู่อีกข้าง

                 แต่คุณซีวอนเลือดออกนะ คุณไม่เห็นเหรอครับ

                 เลือดออก ดงแฮทวนคำของซองมินเบาๆ

                 ครับ

                 งั้นหรอกเหรอ เขารับคำซองมินอย่างไม่คิดอะไร แต่จากที่พยายามไม่สนใจมันก็ยิ่งจะห้ามไว้ไม่อยู่เสียแล้ว ดงแฮที่ดูเหมือนกำลังคิดมากทำให้คยูฮยอนอดจะเอ่ยออกไปไม่ได้

                 ที่จริงเค้าก็ไม่ได้เริ่มก่อนหรอกครับดงแฮ ที่เค้าต่อยผมก็เพราะโกรธที่ผมว่าคุณ ...

     




     

                 ความเจ็บบนใบหน้าไม่เท่าที่หัวใจสักนิด เทียบกันไม่ได้เลยกับความรู้สึกที่กำลังเป็นอยู่ ร่างสูงลดความเร็วในการเดินลงเมื่อหนีออกมาจากที่ตรงนั้นได้ ขาทั้งคู่อยากจะหมดแรงแล้วหายไปจากเรื่องที่กำลังเป็นอยู่ และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ซีวอนอยากจะหนีและก็หนีออกมาจริงๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขามั่นใจตัวเองทุกครั้งว่าไม่มีทางล้มเลิกความพยายามทั้งหมด แต่ทำไมครั้งนี้มันถึงได้เหนื่อยเหลือเกิน

                 ที่ห้องน้ำชายด้านนอกที่ไกลออกมาจากงาเลี้ยง มีเพียงฮันคยองที่ถอนหายใจกับตัวเองในกระจกอีกครั้ง เขาคิดว่าได้เวลาแล้วที่ต้องเลิกเพ้อเจ้อแล้วกลับไปทำหน้าที่ตัวเองในงานเลี้ยงตามเดิม มือทั้งคู่เอื้อมไปปิดก๊อกน้ำสีเงินก่อนจะสะบัดมือเบาๆ และยังไม่ทันจะได้เป่าให้แห้งเขาก็ต้องชะงักเมื่อร่างของใครบางคนปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา

                 ซีวอน.. ท่าทางที่ดูย่ำแย่กับเลือดที่มุมปากทำเอาฮันคยองเบิกตามองอย่างไม่อยากเชื่อพร้อมทั้งเกิดคำถามในใจขึ้นมาทันที ซีวอนยิ้มให้เขาก่อนจะทิ้งตัวลงที่เก้าอี้ไม้ตัวยาวในมุมหนึ่งของห้องน้ำชายที่ล้อมไปด้วยต้นไม้เตี้ยซึ่งถูกแต่งไว้อย่างสะอาดและสวยงาม ส่วนอีกคนนั้นตั้งสติได้แล้วจึงตรงไปนั่งลงข้างๆ

                 นายไปโดนอะไรมา เลือดออกน่ะรู้รึเปล่า ฮันคยองมองหน้าอีกฝ่ายที่เอาแต่ก้มหน้ามองพื้นเหมือนไม่ได้สนใจเลยว่าเขากำลังพูดอะไรอยู่ สักพักเลยต้องดึงเอาผ้าเช็ดหน้าตัวเองออกมาซับเลือดที่มุมปากของซีวอนก่อนที่เจ้าตัวจะเอื้อมมือมาจับเอาไว้เสียก่อน ซีวอนหันมามองฮันคยองอย่างไม่เข้าใจกับการกระทำที่แสนดีแบบนี้

                 ทำไมต้องดีกับฉันขนาดนี้ เสียงทุ้มเอ่ยถามแผ่วเบา ทว่าคนถูกถามกลับรีบดึงมือกลับและไม่มองสบตาตอบอย่างที่ควรจะเป็น

                 ที่นายถามฉันต้องตอบรึเปล่า

                 ทำไม...

                 ก็รู้แล้วจะถามไปเพื่ออะไรน้ำเสียงหนักๆที่เน้นย้ำคำพูดออกมาทำเอา

    ซีวอนไม่กล้าจะถามอะไรออกไปอีก เขารู้ตัวดีว่าผิดต่อคนๆนี้มากแค่ไหน มันไม่ได้น้อยไปกว่าความผิดที่มีต่อดงแฮเลยด้วยซ้ำ แต่ทำไมล่ะ ทั้งที่คุยกันแล้วแท้ๆ ทั้งที่อีกฝ่ายไม่คิดจะต่อว่า แล้วทำไมเขายังรู้สึกผิดไม่หาย ใบหน้าคมที่อมทุกข์กว่าเก่าทำให้ฮันคยองต้องเอื้อมมือมากุมมือของซีวอนเอาไว้

                 อย่าคิดมากเลย ตอนนี้อะไรมันก็เปลี่ยนไป แต่นายอย่าลืมว่ายังมีฉัน

                 ฮันคยอง ซีวอนสบตาคนตรงหน้าอย่างหมดหนทาง

                 เข้าใจใช่มั้ย ที่ผ่านมานายก็รู้ว่าฉันจริงใจ ใช่แล้ว ซีวอนรู้ดีมาตลอด ยิ่งรู้ยิ่งทำร้ายจิตใจทุกคนโดยไม่คิดเลยแม้แต่นิด จนวันนี้วันที่ตัวเองต้องเจ็บปวดแล้วใครกันที่ยังอยู่เคียงข้าง

     

                 หลังจากที่ตั้งสติได้ซีวอนก็เล่าทุกอย่างให้ฮันคยองฟัง และไม่จำเป็นที่ซีวอนจะต้องพูดอะไร ไม่จำเป็นที่ฮันคยองต้องถามมากไปกว่านี้ ต่างคนต่างรู้ว่าเพราะอะไร ขณะที่ก้มหน้าหนีความจริงน้ำตาจากความชอกช้ำของซีวอนก็ไหลลงมาอย่าห้ามไม่ได้ เช่นเดียวกับอีกคนที่ยิ่งเห็นก็ยิ่งทรมาน

                 ซีวอน .. ซีวอน  ฮึก นายต้องอดทนนะ ฮันคยองปลอบคนข้างกายอย่างเป็นห่วง ก่อนที่ร่างของตัวเองจะถูกรวบเข้าไปกอดไว้แน่นอย่างไม่ให้ตั้งตัว ฮันคยองตกใจที่ถูกทำแบบนี้แต่ก็ได้แต่อยู่นิ่งๆให้อีกฝ่ายกอดเอาไว้

                 มันเจ็บนะ นายเข้าใจใช่มั้ย

                 อืม ฉันเข้าใจ มือบางของฮันคยองวางลงพลางลูบเบาๆที่แผ่นหลังของคนที่กำลังอ่อนแอในเวลานี้ แรงสะอื้นที่บ่งบอกว่าอีกฝ่ายกำลังร้องไห้ทำให้เขาต้องกลั้นน้ำตาเอาไว้เพราะไม่อยากจะเสียใจไปด้วยกันมากกว่านี้

     

    .. เมื่อไหร่ที่นายจะยกโทษให้พี่นะดงแฮ และเมื่อไหร่ที่นายจะเข้าใจนะคิบอม

     

    .. หากที่ผ่านมาเขาทั้งสองมีความผิดที่ยากเกินจะให้อภัย แล้วเมื่อไหร่ที่การลงทัณฑ์จะจบลง ..

     

                 ดวงตาทั้งคู่จ้องมองภาพตรงหน้าอยู่นานหลังจากที่ยืนอยู่ตรงนี้มาตลอด แม้ไม่ใกล้จนได้ยินเสียงแต่ที่เห็นก็คงจะบอกอะไรได้หลายอย่าง ร่างบางยืนแอบอยู่ที่ทางเข้าขนาดกว้างของห้องน้ำชายที่แสนมีระดับโดยไม่ให้คนทั้งสองที่นั่งอยู่ห่างออกไปได้เห็น เสียงลมหายใจเข้าออกเตือนตัวเองให้มีสติเข้าไว้

     

    .. ไม่เป็นไรหรอกดงแฮ

     

                 บอกตัวเองอย่างนั้นแต่หารู้ไม่ว่าน้ำตากำลังไหลลงมาอาบแก้มทีละหยด ความเสียใจที่แล่นเข้ามามันมากมายจนปฏิเสธไม่ได้ ดงแฮรู้สึกว่าหัวใจมันชามากกว่าเดิมหลายเท่า หรือที่แท้กำลังแอบหวังทั้งที่ความจริงก็รู้อยู่เต็มอก .. ดงแฮยืนมองซีวอนกับฮันคยองกอดกันอยู่อย่างนั้น ในใจก็นึกไปไกลว่าคนที่ซีวอนอยู่ด้วยแล้วมีความสุขก็คงจะเป็นพี่ชายตัวเองเป็นแน่ หลายอย่างทำให้เขาชักไม่แน่ใจแล้วว่าที่ผ่านมาคนที่เป็นตัวจริงของซีวอนมันจะเป็นเขาเองอย่างที่ชอบบอกหรือว่าเป็นอีกคนที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอด

     

    .. วูบหนึ่งในความรู้สึก มันกำลังบอกว่าต้องการความรักคืนมา ..

    .. เมื่อไหร่ที่ฉันจำได้ เวลานั้นใช่ไหมที่จะมีสิทธิ์เรียกร้อง

     

                 ดงแฮไม่เข้าใจตัวเอง ยิ่งต่อต้านกลับยิ่งอยากเข้าหา ทั้งที่เกลียดแต่เหมือนกับว่าความรักมันฝังอยู่กลางใจ .. ฝังลึกจนยากจะเจอ เช่นเดียวกับความสับสนที่คอยรุมเร้าไม่เลิกรา ร่างบางถอยหลังไปได้เพียงก้าวเดียวก็พบว่ามีใครอีกคนที่ยืนซ้อนเขาอยู่ทางด้านหลัง

                 คิบอม.. ดงแฮเบิกตากว้างอย่างตกใจเพราะไม่นึกว่าจะมีใครมายืนอยู่ตรงนี้ น้ำตาที่อาบแก้มอยู่ทำให้คิบอมที่มองมารู้สึกเป็นห่วง

                 ร้องไห้อีกแล้วเสียงทุ้มเอ่ยเบาๆเมื่อนึกถึงเวลาที่เพื่อนรักต้องเจ็บปวดหรือแอบร้องไห้คนเดียวเพราะไม่อยากให้ใครเห็นความอ่อนแอ ดงแฮรีบเช็ดน้ำตาออกทันทีพลางเดินผ่านคิบอมออกไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่อีกฝ่ายได้เพียงมองกลับไปในนั้นอีกครั้งแล้วเดินตามดงแฮออกมา

                 เดี๋ยวก่อนสิ คิบอมเรียกเอาไว้แต่ดงแฮกลับไม่หยุดเดิน เท้าทั้งคู่ก้าวไปรวดเร็วจนคนข้างหลังต้องวิ่งตามมาคว้าแขนเอาไว้ ดงแฮถูกคิบอมดึงให้หันกลับมามองหน้ากัน

                 ร้องไห้ทำไม คิบอมถาม

                 ฉันเหรอที่ร้อง

                 อย่ามาแสร้งตีหน้าไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลยดงแฮ นายคิดยังไงทำไมฉันจะไม่รู้ คิบอมพูดไปเหมือนรู้ดี ทั้งที่ความจริงเขาเองก็ตระหนักอยู่ในใจว่าคนตรงหน้ากำลังความจำเสื่อม แต่ที่แน่ๆคือเขาดูออกว่าดงแฮกำลังไม่พอใจที่เห็นซีวอนกับฮันคยองอย่างนั้นโดยที่ไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายรู้อะไรมากกว่าที่เขาคิดไว้

                 รู้งั้นเหรอ ..

                 .............

                 งั้นช่วยบอกที ทำไมฉันถึงความจำเสื่อม ดงแฮถามกลับอย่างชัดเจนจนคิบอมไม่กล้าสู้หน้าถึงขนาดที่ต้องปล่อยมือตัวเองออกจากแขนอีกฝ่ายแล้วถอยออกมาหนึ่งก้าว โดยที่หันหน้าหนีเพื่อนรักที่เอาแต่จ้องเพื่อต้องการคำตอบจากเขา

                 ทำไม ตอบไม่ได้เหรอ นั่นสินะ นายจะตอบได้ยังไงในเมื่อกลัวฉันจะรู้เสียขนาดนั้น

                 ไม่ใช่อย่างนั้นนะดงแฮ คิบอมรีบค้านเอาไว้เมื่อรู้สึกว่าอีกฝ่ายจะคิดไปในทางไม่ดีมากกว่านี้

                 ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่ได้ต้องการคำตอบ เพราะฉันถามป้ายุนฮีตั้งแต่ออกมาจากโรงพยาบาลแล้ว ดวงตาทั้งคู่ที่ไม่มีน้ำตาอย่างก่อนหน้านี้เศร้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด คิบอมไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีนอกจากเดินเข้าไปยืนอยู่ข้างๆ เขาภาวนาเสมอว่าขอให้ดงแฮกลับมาจำได้แล้วเรื่องทุกอย่างจะจบลงด้วยดี

                 คิบอมยืนอยู่กับดงแฮตามทางเดินโล่งของตัวตึก ร่างบางที่ยืนก้มหน้าอยู่นั้นเมื่อนึกถึงภาพของคนสองคนที่เขาเดินจากมาก็ทำให้รู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ไม่ต่างกับอีกคนที่คิดมากแต่กลับไม่แสดงอะไรออกมา

                 นายคงจะเจ็บปวดมากสินะคิบอม ดงแฮเอ่ยเบาๆขณะที่ยังยืนหันข้างให้คิบอมอยู่อย่างนั้น คนถูกถามยิ้มออกมาอย่างจนมุมเพราะไม่รู้ว่าจะปฏิเสธไปทำไม

                 รู้ดีไม่เปลี่ยนเลยนะนาย

                 แต่ก่อนฉันเป็นพวกสู่รู้เหรอ

                 ไม่หรอก แค่เป็นคนเปิดเผย จริงใจ

                 ...........

                 ไม่เหมือนกับตอนหลังๆ ที่ยิ้มทั้งที่ในใจกำลังร้องไห้


                 เหมือนกันกับนายใช่มั้ยล่ะ ดงแฮหันมาถามกลับ




                 ... คงงั้นมั้ง

    .

                 บทสนทนาจบลงแค่เพียงเท่านั้นพร้อมกับความเข้าใจระหว่างกันได้เกิดขึ้น คิบอมดึงเอาเพื่อนรักมากอดเอาไว้แนบอก และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ดงแฮร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายคนที่เขาคิดว่าไม่รู้จักกันเลยในตอนนี้  ..




    .
    .

    Tbc. Chapter 15


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×