คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่4 รอยแผลเป็น 50%
ตอนที่4 รอยแผลเป็น
คุณหญิงโฉมจิตร ทศวัตรวางรูปถ่ายหลายใบของบุตรชายที่กำลังเดินจูงมือสาวน้อยหน้าตาแชล่มลงบนโต๊ะทำงาน ใบหน้าครุ่นคิดอย่างหนักถึงสัมพันธภาพระหว่างคนทั้งสอง คนเจ้ายศเจ้าอย่างที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ผู้บริหารเงยหน้าขึ้นมองนักสืบอาชีพที่จ้างวานมาให้สืบเรื่องการเดินทางมาเมืองไทยของลูกชายแววตากร้าว
“มาถึงแรมเดือน แต่ทำไมเพิ่งจะเอาข่าวมาแจ้ง ทำงานกันยังไงชักช้ามาก ดูซิ ลูกชายฉันบินกลับไปแล้ว”
“ขอโทษด้วยครับ ผมตามสืบอยู่นานกว่าจะทราบว่าคุณอลันไปพักที่ไหน” หนุ่มนักสืบเอกชนตอบอ้อมแอ้ม
“หล่อนที่อยู่ในรูปเกี่ยวข้องกับลูกชายฉันแค่ไหน” คุณหญิงโฉมจิตรถามเสียงเฉียบ
“ผมเดาว่าคงเป็นแฟนกัน”
“เดาเหรอ! อะไรกัน ตอบได้ดีที่สุดแค่นี้ใช่ไหม คราวหน้าไม่ต้องมาทำงานให้ฉันอีกนะ” นักสืบหน้าถอดสีเมื่อโดนเอ็ดเสียงดังลั่นห้อง
“ใจเย็นๆ น้องโฉม คุณพี่ว่า ค่อยพูดค่อยจากันเถอะนะ...ไหนตอบฉันซิ ผู้หญิงในรูปนี้ชื่ออะไร ที่มาที่ไปของคนในรูปหัวนอนปลายเท้าเป็นอย่างไร” ประไพพรรณพี่สาวคุณหญิงโฉมจิตรยิ้มกว้างถามคำถามไปยังนักสืบ ในขณะที่รอฟังหนุ่มนักสืบตอบคำถาม ท่านก็ลุกจากโซฟาหนังบุนวมในอีกด้านหนึ่งของมุมพักผ่อนของห้องทำงานคฤหาสน์ทศวัตร เดินมายืนด้านข้างเก้าอี้ที่คุณหญิงโฉมจิตรนั่งหน้าบึ้งด้วยความไม่พอใจในการทำงานไม่ได้เรื่องของนักสืบ
“เธอชื่อมธุรดา เลิศไกลสุวรรณ และเธอก็ยังมีฝาแฝดหน้าตาเหมือนกันจนแทบจะเป็นคนคนเดียวกันเลยนะครับ พ่อของเธอเสียไปเมื่อปีกลาย แม่ชื่อว่าช่อเอื้อง ทำมาหากินด้วยการปลูกกล้วยไม้ส่งให้เจ้าหนี้รายใหญ่ที่ทำอาชีพส่งออก บ้านที่คุณอลันไปเช่าอยู่รวมทั้งที่ดินกว่ายี่สิบไร่ ตอนนี้ติดจำนองไว้กับครอบครัวสินพนาศาลซึ่งเป็นเจ้าหนี้ที่ผมกล่าวไปแล้ว ฐานะการเงินของครอบครัวเธอไม่สู้จะดีนัก”
ประไพพรรณฟังรายละเอียดคร่าวๆ จากนักสืบเอกชนเป็นที่น่าพอใจ ก็คาดการณ์ได้ไม่ยากว่าอลันและมธุรดาคงไม่ได้ผูกพันกันถึงขนาดที่ตระกูลทศวัตรจะต้องมานั่งเป็นกังวล เร่งตัดบท ยื่นเช็คเงินสดที่เขียนจำนวนเงินลงไปแล้วส่งให้นักสืบที่จ้างวานมา ประไพพรรณรู้ใจโฉมจิตรดีว่าทำไมถึงไม่พอใจอย่างหนักในการทำงานของนักสืบเอกชนคนนี้ พอชายหนุ่มรับเช็คไป โฉมจิตรก็ย้ำให้ตามสืบเรื่องของอลันต่อไปจนกว่าจะแน่ใจว่าลูกชายจะไม่ลดตัวลงไปเกลือกกลั้วกับคนชั้นต่ำพรรค์นั้นอีก ประไพพรรณพยักหน้าให้นักสืบว่าให้ทำตามที่โฉมจิตรสั่งก่อนจะโบกมือให้ชายหนุ่มออกจากห้องทำงานไป
ประตูห้องทำงานปิดลง เสียงไม่พอใจของคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ก็เอ่ยขึ้นเสียงหนัก “คุณพี่ค่ะ วันหน้าวันหลัง ถ้าจะใช้งานคนเทือกนี้ ช่วยหาคนที่ทำงานให้ไวกว่านี้หน่อยนะคะ โฉมล่ะเอือมระอาคนทำงานชักช้าพรรค์นี้ ไม่ได้ความกับเงินที่เสียไปจริงๆ” โฉมจิตรพูดอย่างกระแทกกระทั้น
ท่านไม่สบอารมณ์ที่ต้องเรียกใช้งานนักสืบแล้วไม่ได้งานรวดเร็วดั่งตั้งใจ อุตส่าห์หวังให้บุตรชายกลับมาช่วยดูแลกิจการทรัพย์สมบัติที่มีมากมายล้นเหลือ ท่านและพี่สาวจะได้ปลดเกษียณอายุการทำงานกลับมาใช้ชีวิตบั้นปลายที่เหลืออยู่ ณ คฤหาสน์หลังนี้ คนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงจะได้เข้ามาบริหารงานเจริญรอยตามแบบอย่างคนรุ่นหลัง ถ้าอลันยังเอาแต่หลบลี้หนีหน้า แล้วใครกันจะมาฟูมฟักมรดกให้เติบโตไปในอนาคต ในเมื่อตระกูลทศวัตรมีแค่อลันเพียงคนเดียวเท่านั้นที่คุณหญิงโฉมจิตรจะยกทรัพย์สมบัติให้
หลายเดือนที่ผ่านมาอลันเก็บตัวซ้อมอย่างเอาเป็นเอาตาย พร้อมทั้งลงแข่งมือสมัครเล่นหลายรายการ เป็นนักแข่งมอเตอร์ครอสหน้าใหม่ซึ่งทางสังกัดค่ายดังมืออาชีพหลายค่ายต่างจับตามอง และมีทีมดังมาติดต่อทาบทามให้ไปเข้าสังกัดด้วย...เขาตั้งใจรุดหน้าทำตามความฝันเพื่อตัวเองและเพื่อคนที่รอเขาอยู่ ไม่มีสักวินาทีเดียวที่ภายในหัวใจจะลบลืมภาพหญิงสาวซึ่งเป็นดั่งยอดดวงใจปรารถนาไปจากความทรงจำของเขาได้ ถ้าสิ้นสุดการแข่งครั้งนี้ เขาจะตกลงเซ็นสัญญาเข้าร่วมทีมแอทแทคซึ่งเป็นทีมดังระดับโลก อีกไม่นานเขาคงได้ไปหาเธอ ไปรับเธอมาอยู่ข้างกายเขา...
รอผมก่อนนะ โรสแมรี่ที่รัก
หนึ่งปีผ่านไป
“อะไรนะแม่! เมื่อกี้แม่ว่าอะไรนะ ไม่จริง ดาไม่เชื่อ!” มธุรดาหวีดเสียงแหลมลั่นบ้าน เธอไม่เชื่อหรอกว่าคำพูดที่ออกมาจากปากมารดาจะเป็นจริง
“เราต้องย้ายออกจากบ้านนี้แล้วลูก แม่ขอโทษ แม่ผิดเองที่หาเงินได้ไม่มากพอใช้หนี้ ตั้งแต่พ่อจากไป แม่ก็เอาโฉนดไปค้ำประกันกู้เงินมาลงทุนสวนกล้วยไม้ลูกก็รู้ แต่จนแล้วจนรอด แม่ก็ไม่สามารถไถ่ถอนคืนมาได้ นายสินจะมายึดที่ทำมาหากินและที่อยู่ของเราแล้วนะลูก แม่ไม่ได้โกหก เชื่อแม่เถอะ” ช่อเอื้องอธิบายกับบุตรสาวทั้งน้ำตา เสียใจที่ไม่สามารถดูแลที่ดินมรดกที่สามีทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าได้
“แล้วยัยรสรู้เรื่องนี้ไหม ป้าผ่องศรีพี่สาวแม่ล่ะ แม่ได้ไปขอความช่วยเหลือพี่สาวของแม่หรือยัง” มธุรดาถามรัวเร็วด้วยความร้อนใจ
“รสยังไม่รู้เรื่อง ส่วนพี่ผ่อง แม่ไม่กล้าบากหน้าไปขอความช่วยเหลือจากท่านหรอกนะดา ดาเองก็น่าจะรู้ดีว่าทุกวันนี้ป้าผ่องไม่มีรายรับที่ไหน นอกจากเงินที่สามีของท่านซึ่งตายในหน้าที่ราชการได้ทิ้งไว้ให้ ลูกสองคนของป้าผ่องพี่สาวพี่ชายของดา สุวรรณาก็ต้องใช้เงินทุนขยายร้านอาหารให้กิจการใหญ่โตเพิ่มขึ้น ก็ต้องลงทุนอีกมาก หัสดินแม้จะเป็นตำรวจมียศมีตำแหน่งตามแบบอย่างพ่อของเขา เงินเดือนข้าราชการก็ไม่ได้มากมายอะไร เราเอาโฉนดที่ดินไปจำนองเขาเอง เราไม่มีเงินไปจ่ายเขา เขาก็ต้องมายึด แล้วดาคิดว่าแม่จะกล้าแบกภาระหนักอึ้งนี้ไปให้ป้าผ่องของลูกช่วยเหลือได้อีกเหรอ”
“แม่ ไม่ใช่อย่างนั้น ทำไมแม่คิดว่าดาจ้องจะเอาแต่ได้จากป้าผ่องด้วย เฮ้อ ดาไม่เข้าใจแม่เลย!” มธุรดาไม่ได้อยากจะพูดให้มารดาคิดมาก แต่ที่พูดก็เพราะป้าผ่องศรีคือที่พึ่งสุดท้ายแล้ว ท่านคือญาติผู้ใหญ่คนเดียวที่เหลืออยู่ ถ้าจะนำเอาเรื่องใหญ่ของครอบครัวไปปรึกษาหารือมันคงไม่ได้ทำให้ป้าผ่องเดือดร้อนอะไรนัก อีกอย่าง สุวรรณาและหัสดินลูกของป้าผ่องก็มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง แล้วแม่ของเธอจะกลัวอะไรกับการที่พี่สาวและพี่ชายลูกผู้พี่ของเธอทั้งสองคนจะลำบากด้วย แต่ถึงตอนนี้แล้วเธอไม่อาจทำให้แม่เปลี่ยนใจไปขอความช่วยเหลือจากญาติผู้ใหญ่ซึ่งเป็นที่พึ่งสุดท้ายได้
“เฮ้อ!” หญิงสาวถอนฉิว “ในเมื่อมันแก้ปัญหาอะไรไม่ได้แล้ว ดาคงต้องตัดไฟแต่ต้นลม บางทีวีรยุทธ์อาจจะพอช่วยเหลือเราได้บ้าง ยุทธ์เป็นแฟนดา เขาอาจช่วยพูดกับพ่อแม่ของเขาได้ เขาอาจช่วยพูดให้พ่อของเขาผ่อนปรนหรืออาจไม่ยึดบ้านและที่ดินของเราไปในเร็วๆ นี้ ดาจะไปขอให้ยุทธ์ช่วย” พูดจบหญิงสาวก็หมุนตัววิ่งออกจากบ้าน ไม่สนใจคำทัดทานของมารดา หญิงสาวขี่มอเตอร์ไซค์กลางเก่ากลางใหม่เข้าตัวเมืองไปในทันที
ที่ริมหาดพัทยาใต้ มธุรดาจอดรถมอเตอร์ไซค์ไว้ข้างทางไม่ไกลจากริมหาดมากนัก รองเท้าสานย่ำไปบนผืนทราย สายตาก็เมียงมองหาตัววีรยุทธ์ด้วยความร้อนใจ แต่ก็ไม่เห็นวี่แววของใบหน้าหล่อเหลาที่ยิ้มแย้มอยู่เป็นนิจ ปกติเขาและกลุ่มเพื่อนจะมานั่งรวมกลุ่มดื่มกินกันแถวๆ นี้เป็นประจำเกือบทุกวัน แต่ทำไมวันนี้ยังไม่มาอีก หรือว่าเธอจะมาดักรอคุยธุระเร่งด่วนเร็วเกินไป มธุรดาจึงตัดสินใจนั่งคอยวีรยุทธ์ที่เก้าอี้ริมหาดตรงบริเวณนั้น
“อีกเดี๋ยว ยุทธ์ก็มา” หญิงสาวรำพันกับตัวเองด้วยความร้อนใจ
“น้องดา มาทำอะไรที่นี่คะ แดดร้อนจัด คงไม่ได้มาเล่นน้ำทะเลหรอกนะ” เสียงสดใสของชายหนุ่มดังมาจากทางด้านหลัง หญิงสาวหันควับไปตามเสียงนั้นทันที
“รุ่นพี่!”
“เรียกพี่วัตรก็ได้ อย่าเรียกรุ่นพี่เลย ฟังดูยังไงชอบกล จะเรียกพี่วรวัตร หรือพี่วัตร พี่ก็ไม่ว่า พี่เป็นพี่ชายของวีรยุทธ์ จำพี่ได้ไหมคะ” เขาแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ
“อ๋อค่ะ ทำไมจะจำไม่ได้” เธอรู้จักเขาดี แต่เพราะไม่เคยสนทนากันสักประโยค ถึงแม้ว่าจะเคยพบปะกันบ่อยๆ ที่บ้านหลังใหญ่ของครอบครัวสินพนาศาลในวันที่วีรยุทธ์พาเธอไปเที่ยวเล่นที่บ้านของเขาในระยะสามสี่เดือนมานี้ นี่เป็นครั้งแรกที่วรวัตรคล้ายจะตั้งใจชวนเธอพูดคุยในแบบคนเคยรู้จักมักจี่กันมานาน...
หญิงสาวลอบสังเกตใบหน้าที่ยืนเด่นอยู่ตรงหน้า รูปหน้าของวรวัตรกระเดียดไปทางมารดามากกว่านายสินผู้เป็นพ่อ วีรยุทธ์เองเสียอีกที่ถอดแบบเค้าโครงรูปหน้ามาจากบิดาเกือบจะเป็นพิมพ์เดียวกัน คนน้องจึงดูหล่อเหลาคมเข้มผิดกับพี่ชาย วรวัตรนั้นดวงตาบ่งบอกถึงการไม่มีเหลาเต๊งได้มารดามาเต็มๆ รูปหน้าดูดีไปทางคนเชื้อสายจีน เธอจึงชอบวีรยุทธ์มากกว่าเพราะเขาหล่อกว่าวรวัตรมาก อีกทั้งวรวัตรก็ดูกระตุ้งกระติ้ง คล้ายกับพวกเกย์ยังไงยังงั้น เขาแลดูสำอาง สะอาดสะอ้านกึ่งไปทางผู้หญิง อายุก็แก่กว่าเธอตั้งเยอะ ภาพลักษณ์ภายนอกจึงทำให้มธุรดาเลือกที่จะคบกับวีรยุทธ์
“ยังไม่ตอบพี่เลยนะคะ ดามาทำอะไรแถวนี้” เขาย้ำ นั่งลงเก้าอี้ข้างๆ ปรายตามองร่างสวยที่กำลังเหยียดกายลงนอนอย่างสบายหลังจากเบือนหน้าหนีทำเป็นไม่อยากพูดคุยเสวนากับเขาบนเก้าอี้ริมหาด
“มารอยุทธ์ค่ะ” เธอตอบตรงๆ
วรวัตรหน้าเจื่อนเล็กน้อย เขายอมรับว่าหลงรักแฟนน้องชายมานาน หลงรักมาตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กมัธยมต้น พอเขาจบมัธยมปลายก็บินไปเรียนต่อต่างประเทศจึงไม่มีโอกาสได้สร้างความสนิทสนมกับเธอ เจ้าน้องชายตัวดีมันเลยได้คบกับเธอไปก่อน ทั้งๆ ที่เขาหลงรักเธอและจริงใจกับเธอตลอดมา แม้จะอยู่ต่างประเทศ มีผู้หญิงสวยหุ่นเซ็กซี่ผ่านเข้ามาในชีวิตเขาก็ยังไม่เคยลืมมธุรดา
“มีธุระอะไรกับยุทธ์เหรอ” เขาถามด้วยความสงสัย ไม่ได้ตั้งใจสู่รู้
“มีธุระหรือไม่ ทำไมต้องอยากรู้ด้วยคะพี่วัตร ดากับยุทธ์เป็นแฟนกัน มีธุระหรือไม่มีธุระ ทำไมดาจะมารอเจอยุทธ์ที่นี่ไม่ได้ พี่วัตรเกี่ยวไรด้วย!” หญิงสาวรำคาญกล่าวอย่างไร้ไมตรี ลุกพรวดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจว่าจะทำเอาคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ สะดุ้งไปกับความเกรี้ยวกราดที่ค่อนไปทางเจ้าอารมณ์ของเธอหรือไม่เธอไม่สน วรวัตรจึงรีบแก้ตัว ถึงแม้จะหัวเสียที่มธุรดาไม่มีเขาอยู่ในสายตาเลยสักน้อยนิด
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะน้องดา อย่าเพิ่งเข้าใจพี่วัตรผิดอย่างนี้สิ พี่ไม่ได้เจ้ากี้เจ้าการอยากยุ่งเรื่องของดาเลย แต่วันนี้เจ้ายุทธ์น่ะมันไปงานปาร์ตี้วันเกิดของน้องน้ำหวาน คงไม่มานั่งดื่มกินแถวนี้แบบทุกวันกับพรรคพวกอย่างเคย ก็เท่านั้นเองที่พี่อยากจะบอก”
“อะไรนะคะ?! เมื่อกี้พี่วัตรพูดว่า...ยุทธ์ไปปาร์ตี้วันเกิดของใครนะ!”
“คือ...”
“พี่วัตร! ดาต้องการความชัดเจน อย่ามาอ้ำๆ อึ้งๆ”
“พี่...เอ่อ”
“ถ้าพี่วัตรไม่บอก ต่อไปนี้ไม่ต้องมาคุยกับดาอีก” หญิงสาวหน้าบึ้ง
“พี่บอกก็ได้ค่ะ อย่างอนพี่เลยนะ อยู่ที่โรงแรม...” เขารีบบอกสถานที่ทันที
มธุรดารีบวิ่งไปที่รถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองบึ่งไปที่หมายทันที วรวัตรยิ้มพรายเดินไปที่รถยนต์อย่างไม่รีบร้อน ในใจลึกๆ แล้ว เขาก็อยากให้มธุรดาเลิกกับน้องชายเขาให้รู้แล้วรู้รอดไป ไม่อยากให้หญิงสาวทนคบกับคนเจ้าชู้อย่างวีรยุทธ์
ถ้าเขาไม่หวังจนเกินไป หากคนทั้งสองเลิกรากัน ความจริงใจที่เขามีให้มธุรดามันคงมากพอที่จะทำให้มธุรดารับความรักเขาไปใส่ใจเธอได้ เขาจะทะนุถนอมหัวใจของเธอไว้อย่างดี ไม่มีทางให้เจ็บปวด เขาจะไม่หลายใจเหมือนที่น้องชายเขาทำ หากเธอผิดหวังจากการกระทำของน้องชายในวันนี้ตามคาด เขาคนนี้จะเป็นยาสมานแผลความเจ็บช้ำให้มธุรดา เปลี่ยนจากพี่ชายที่แสนดีเป็นแฟนที่ดูแลเอาใจใส่เธอตลอดไป...วรวัตรคิด
ความคิดเห็น