ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF & OS] DOUBLE B .. BOBBY x HANBIN Ft.IKON

    ลำดับตอนที่ #1 : [SF] You don't know 너는 몰라 -1- { Bobby x Hanbin }

    • อัปเดตล่าสุด 6 ม.ค. 58





    [SF] You don't know 너는 몰라   { Bobby x Hanbin }

    **เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบนิยายวายทั่วไป**





     









    มันเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

    รู้ตัวอีกทีสายตาของผมก็มีแต่เขา

    ในความคิดของผมก็มีแต่เขา

    ในฝันของผมก็ยังมีแต่เขา

    ผมไม่แน่ใจว่านี่มันคือสิ่งที่ใครๆเรียกกันว่า “รัก” รึป่าว

     

     

    “หวัดดีไอ่น้อง!!” เสียงทุ้มห้าวคุ้นหูของพี่ชายข้างบ้านมาพร้อมกับแขนยาวที่เกี่ยวคอผมไปกอดเป็นประจำ

    “หวัดดี”

    “โหยยยยย อีกละ บอกว่าให้ทักว่ายังไง เอาใหม่เลย” คนตัวสูงกว่ากอดคอผมแน่นขึ้นเป็นเชิงบังคับ

    “สวัสดีครับพี่ จี วอน” ผมกัดฟันพูดพร้อมกับพยายามแกะแขนอีกคนออกไปด้วย แต่ก็ไม่ได้ผลแถมยังโดยขยี้หัวจนฟูอีกต่างหาก

    “ดีมากเสือน้อยของพี่ ฮ่าๆๆ” พอได้คำพูดที่พอใจร่างสูงก็หัวเราะร่าจนเห็นฟันกระต่ายที่ตัวเองภูมิใจนักหนา

    “ทำงี้ทุกวันไม่เบื่อบ้างรึไง”

    “แล้วโดนทำอย่างนี้ทุกวันไม่เบื่อบ้างหรอไอ่หนู ทำไมไม่ทักพี่ดีๆแต่แรกเลยล่ะคร้าบบบบบ”

    “นั่นมันก็เรื่องของผมอ่ะ” ผมว่าพร้อมยักไหล่ไปที ไอ่ผมน่ะไม่เบื่อหรอก.. ชอบด้วยซ้ำ

    “งั้นพี่บ๊อบจะทำอย่างนี้มันก็เรื่องของพี่บ๊อบอ่ะนะ” อีกคนแทนตัวด้วยชื่อที่คิดขึ้นเองพร้อมกับทำท่ายักไหล่เลียนแบบผม

    ผมไม่ได้ตอบอะไรอีกทำได้แค่ถอนหายใจหนักๆใส่

     

    “คิมฮันบินนนนนนนน” เสียงกร่างคุ้นหูเรียกชื่อผมมาแต่ไกลแล้วเจ้าตัวก็วิ่งมาประกบข้างผมอีกข้าง คนที่กอดคอผมเดินอยู่ดีๆก็เปลี่ยนมาเป็นโอบไหล่แล้วดึงผมเข้าหาตัวเอง

    “กลัวโดนไอ่เน่มันชน” พี่จีวอนพูดออกมาหลังจากผมหันหน้าจากไอ่เน่ไปมองหน้า

    “ฮันบินนนน ตัวทำการบ้านเสร็จแล้วใช่มั้ย เค้าขอยืมลอกคนแรกเลยนะ”  ไอ่เน่กอดแขนผมแล้วเอาหน้ามาถูๆไถๆไหล่ผมตามเสต็ปการอ้อนของมัน ซึ่งมันก็หารู้ไม่ว่า ทำอย่างนี้มันไม่ได้น่ารักเลยสักนิดเดียว

    “เฮ้ยๆๆ เอาหน้ามึงออกไปไกลๆเลยไอ่เน่” คนที่โอบผมอยู่เอามือไปยันหัวไอ่เน่ออกจากไหล่ผม

    “อะไรเล่าพี่บ๊อบ อย่าขัดได้ไหมเล่า คนกำลังอ้อนแฟนอยู่” ไอ่เน่มันว่าพร้อมกับทำปากจู๋งอนๆไปให้พี่จีวอน ซึ่งมันก็คงจะกวนบาทาคุณพี่เขามากจนอ้อมขาไปเตะก้นมัน

    “มึงหยุดโมเมว่ากูเป็นแฟนสักทีไอ่เน่ แล้วการบ้านกูมึงก็ลอกคนแรกอยู่แล้วไม่ใช่รึไง ยังจะมาอ้อนหาตีนอยู่นั่นแหละ”

    “เออๆ ได้ยินรึยัง หยุดโมเมว่าเสือน้อยของกูเป็นแฟนมึงสักที”

    “ผมเป็นของพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ ปล่อยได้แล้วเพื่อนรออยู่นู้นน่ะ” ผมพยักเพยิดหน้าให้พี่มันมองเพื่อนก่อนจะแกะมือมันออกจากไหล่ผม

    “ไปก็ได้ กลางวันเจอกันนะเสือน้อยของพี่” พี่จีวอนขยี้หัวผมอีกรอบแล้ววิ่งไปหาเพื่อน ผมก็เลยลากไอเน่ไปห้องเรียนบ้าง

     

    ผม “คิม ฮันบิน” นักเรียนมัธยมปลายชั้นปีที่1 มีเพื่อนสนิทคือ “กู จุนฮเว” ไอ่คนที่หน้าอ้อนตีนนี่แหละครับ ที่เรียกมันว่า “ไอ่เน่” ก็เพราะว่ามันชอบเรียกแทนตัวว่า “จุนเน่ จุนเน่”แหละครับ  ผมหล่อนะครับ แต่เพราะความสูงไม่อำนวยเท่าไหร่พอยืนข้างไอ่เน่ทีไรผมก็กลายเป็นน่ารักไปโดยปริยาย แล้วก็เกิดกระแสแปลกๆขึ้นว่าผมกับไอ่เน่เป็นแฟนกัน คาดว่าคงเกิดจากกลุ่มพวกเด็กผู้หญิงที่เป็นสาววายหรือที่ชอบชายรักชายนั่นแหละครับ ผมก็ขี้เกียจอธิบายส่วนไอ่เน่ก็ชอบเซอส์วิสมากเกาะแกะยุ่มย่ามผมมากกว่าเดิม มันให้เหตุผลว่า “สนุกดี” แค่นี้แหละครับ แต่ไม่ได้มีแค่กระแสผมกับไอ่เน่เท่านั้น ยังมีผมกับไอ่พี่จีวอนอีก เหตุผลที่แน่ชัดผมก็ไม่รู้เหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะว่าผมมาโรงเรียนพร้อมกันบ่อยล่ะมั้ง พี่จีวอนมันฮอตอยู่แล้ว สูงยาวเข่าดี ดีกรีนักบาสโรงเรียน แถมยังขี้เล่นเข้ากับใครไปทั่วอีก พอมาอยู่กับผมที่ไซส์มินิหน่อยก็เลยกลายเป็นน่ารักในสายตาสาววายเขาอีกล่ะครับ แถมตั้งแต่ผมขึ้นมอปลายมาย้ายมาอยู่โรงเรียนเดียวกับเขาก็มากินข้าวกลางวันด้วยกันตลอด ทั้งๆที่พี่มันพักก่อนผมตั้งครึ่งชั่วโมงไม่รู้ว่าจะรอกินพร้อมผมทำไม ผมเลยต้องนั่งกินข้าวกันสามคน ผม  พี่จีวอน  ไอ่เน่  อย่างนี้ตลอด มันก็ทำให้เกิดกระแสอีกว่าไอ่คนสูงสองคนนี้มันแย่งกันจีบผม ผมนี่กุมขมับเลยครับ -_-

     

    “มึงเคยชอบใครมั้ยวะ” อยู่ดีๆไอ่เน่ที่นั่งอยู่ข้างผมก็เพ้อขึ้นมาขณะที่อาจารย์กำลังสอนอยู่ เพราะงี้ไงมันถึงต้องมาลอกการบ้านผมตลอดน่ะ

    “อะไรของมึง กูเรียนอยู่”

    “กูว่ากูกำลังชอบใครสักคนอยู่ว่ะ” ผมหันไปมองหน้ามัน แต่มันมองข้างนอกหน้าต่างที่ด้านล่างเป็นสนามกีฬา

    “มึงไหวมั้ยเน่ หมดคาบแล้วกูจะพาไปห้องพยาบาลละกัน” ผมส่ายหัวเบาๆกับอาการของมันแล้วหันมาตั้งใจเรียนต่อ

     

    กริ้งงงงงงงงงง

    “ขอบคุณครับ/ค่ะ คุณครู”

     

    “มึงมองใครอยู่วะ” เมื่อหมดคาบแต่อาการไอ่เน่ยังไม่บรรเทาผมจึงชะโงกหน้าไปมองกับมันด้วย

    “คนที่ตัวเล็กๆน่ารักๆขาวๆปากแดงๆนั่นน่ะ” มันพูดไปยิ้มไปเหมือนคนบ้า

    “พี่จินฮวานอ่ะนะ?”

    “มึงรู้จักเค้าด้วยหรอ!!!” มันหันขวับกลับมามองผมแต่หน้าใกล้กันเกินไปทั้งผมและมันเลยผงะ

    “ห่า กูตกใจหมด”

    “มึงรู้จักพี่เค้าด้วยหรอ รู้จักได้ยังไง มีไลน์พี่เค้ามั้ย มีเบอร์พี่เค้ารึป่าว บ้านพี่เค้าอยู่ไหน” พ่นคำถามใส่ผมยาวเป็นรถไฟไม่พอแถมยังจับตัวผมเขย่าหัวสั่นหัวคลอน

    “มึงหยุดก่อนไอ่เน่แล้วกูจะบอก” มันหยุดเขย่าตัวผม ผมเลยจับมันหันไปมองที่สนามอีกครั้ง

    “ถ้ามึงไม่มัวแต่มองพี่จินฮวานมึงจะเห็นไอ่พี่จีวอนอยู่ด้วย เค้าอยู่ห้องเดียวกัน เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน กูเจอพี่เค้าที่บ้านไอ่พี่จีวอนมันบ่อยๆ”

    “”กลุ่มไอ่พี่จีวอน? มึงบอกให้พี่มันชวนพี่จินฮวานมากินข้าวด้วยกันหน่อยสิ นะๆๆๆๆๆๆๆๆ” มันพูดอ้อนแล้วเขย่าแขนผมด้วย

    “มึงจะจีบ?”

    “ใช่ กูจะจีบ!!” คนทั้งห้องหันมามองมันกับผมเป็นตาเดียวเพราะเสียงที่มันพูดไม่ได้เบาเลย

    “เออๆ ก็ได้” ผมชะโงกไปมองที่สนามอีกทีก็ไม่เห็นพวกนักเรียน คงจะเลิกเรียนแล้ว ผมเลยหยิบโทรศัพท์มาไลน์ไปหาไอ่พี่จีวอน

     

     

     

    คิมฮันบิน : ตอนกลางวันพาพี่จินฮวานมากินข้าวด้วยกันดิ

     

    ไม่ถึง10วินาทีก็มีข้อความตอบกลับมา

     

    คิมบ๊อบบี้ : ทำไม?

    คิมฮันบิน : เถอะน่า

    คิมบ๊อบบี้ : บอกเหตุผลมาก่อน

    คิมฮันบิน : มีคนอยากรู้จัก

    คิมบ๊อบบี้ : ใคร?

    คิมฮันบิน : พามาเดี๋ยวก็รู้เองแหละ แค่นี้นะ จะไปเรียนต่อละ

     

    ผมเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าเหมือนเดิม ยังไงพี่มันก็ต้องพาพี่จินฮวานมาแหละ ผมรู้นิสัยมันดี อยากรู้อยากเห็นซะขนาดนั้น

     

    “พี่เค้าจะมาใช่ป่าว” ไอ่เน่ยักษ์คว้าแขนผมไปเขย่าอีกรอบ

    “ถ้ามึงไม่เลิกกวนกู กูจะบอกให้ไอ่พี่จีวอนไม่ต้องพาพี่เค้ามา” ผมพูดพร้อมกับส่งสายตาดุๆไปเตือนมัน ซึ่งมันก็เชื่อฟังผมแต่โดยดี นั่งสงบเสงียมเรียบร้อยจนถึงพักกลางวัน

     

     

     

    โรงอาหาร

     

    “ไอ่เน่ มึงจะรีบไปตามควายที่ไหนล่ะเนี่ย” ผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามที่ไอ่เน่มันดึงลากผมไป

    “เร็วๆสิ เดี๋ยวพี่จินฮวานรอ”

    “เออๆ พี่เค้านั่งรออยู่นู้นน่ะ มึงรีบนักก็ไปก่อนเลยไป” ยังไม่ทันได้พูดจบประโยคมันก็สะบัดแขนผมทิ้งแล้ววิ่งไปหาเป้าหมายมันเลยครับ ผมเลยเดินตามไปช้าๆ ยังไม่ทันได้หย่อนก้นลงบนเก้าอี้ ไอ่พี่จีวอนที่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ตรงข้ามก็ลุกขึ้นแล้วมาดึงแขนผมให้เดินตามมันไป

    “อะไรของพี่เนี่ย จะพาไปไหน” พี่มันไม่ตอบเอาแต่ลากผมอย่างเดียวเลย จนไปถึงสวนที่ติดกับรั้วโรงเรียนแล้วถึงปล่อยผมแล้วหันมาหา

    “ได้ข่าวว่าไอ่เน่ประกาศในห้องว่าจะจีบ?” เอ้า รู้เรื่องด้วยงั้นหรอ ข่าวไวจัง

    “อื้ม ไอ่เน่มันว่างั้นอ่ะ” ผมกอดอกพิงรั้วโรงเรียนมองหน้าอีกคนที่กำลังทำหน้าเครียดอยู่

    “แล้วจะปล่อยให้มันจีบ?”

    “ก็แล้วจะทำไงได้ล่ะ มันบอกว่าจะจีบก็ต้องให้มันจีบดิ จะไปห้ามมันรึไง”

    “ คิม ฮัน บิน” คนตัวสูงคร่อมผมไว้แล้วเรียกชื่อผมเน้นทีละพยางค์

    “อะ อะไร”

    “ห้ามให้มันจีบ” สายตาที่อีกคนมองมามันแข็งกร้าวจนผมทนสบตาไม่ไหวจึงหลบสายตา

    “จะไปห้ามได้ไง มีเหตุผลอะไรไปห้ามมันล่ะ”

    “เหตุผลก็คือ.. พี่ห้ามให้มันจีบ”

    “เหตุผลแค่นี้พูดไปไอ่เน่มันก็ไม่ฟังหรอก”

    “ไม่ฟังก็ต้องฟัง พี่ไม่ให้มันจีบ นายก็ต้องไม่ให้มันจีบด้วย” คนตัวสูงว่าอย่างเอาแต่ใจ

    “ทำไมต้องห้ามไม่ให้มันจีบ?” อาการที่เป็นอยู่ตอนนี้คืออะไร ผมไม่เข้าใจคนตรงหน้าผมจริงๆ หรือเพราะ “หวง” พี่ชายข้างบ้านของผมหวงเพื่อนตัวเองงั้นหรอ ทำไมต้องหวง?

    “พี่จีวอน.. พี่ชอบพี่จินฮวานหรอ?” ต้องใช่แน่ๆ ไม่งั้นจะห้ามไม่ให้จีบทำไม ทำไม ทำไมข้างในอกด้านซ้ายผมมันชา

    “เกี่ยวอะไรกับจินฮวาน?”

    “อ่าว ก็ไอ่เน่มันจะจีบพี่จินฮวาน” ผมทำหน้าเหลอหลาใส่อีกคน นี่ตกลงรู้หรือไม่รู้เนี่ย

    “ไอ่เน่จะจีบจินฮวาน?”

    “ก็ใช่น่ะสิ นึกว่ารู้แล้วซะอีก เมื่อกี้ถึงได้ห้าม”

    “มันไม่ใช่จะจีบฮันบินหรอ?”

    “จะบ้ารึไง เป็นเพื่อนกันนะ” นี่พี่จีวอนเข้าใจผิด?

    “อ่ออออ งั้นก็แล้วไป ไปกินข้าวกันเถอะ” ว่าแล้วก็ลากผมกลับไปที่โรงอาหารด้วยอารมณ์ที่ต่างจากตอนที่ลากมาลิบลับ

     

     

    ผมโดนลากกลับมาที่โต๊ะในโรงอาหารตัวเดิม แต่ไม่มีไอ่เน่กับพี่จินฮวานอยู่แล้ว คนตัวสูงกดไหล่ผมให้นั่งกับที่ก่อนจะอาสาไปซื้อข้าวมาให้ ผมก็ไม่ขัดศรัทธาหรอกครับ ขี้เกียจอยู่พอดี

     

    “เอ่อ.. ฮะ ฮันบิน” ผมเงยหน้าจากจอโทรศัพท์ไปมองคนที่เรียกชื่อผม ถ้าจำไม่ผิดนี่มันไอ่คนที่ผมเคยช่วยงานที่ห้องพักอาจารย์นี่หว่า

    “มีอะไรรึป่าว?”

    “เอ่อ.. คะ คือ..” ผมเอียงหน้าเลิกคิ้วมองอีกคนที่ยืนหน้าแดงก่ำอยู่

    “...”

    “ช่วยอ่านด้วยนะ” อีกคนวางซองจดหมายไว้แล้วหันหลังเดินหนีไป ไวจนผมเรียกไว้ไม่ทัน

    “อะไรของเค้าวะ” ผมเปิดจดหมายนั่นอ่านดูจึงได้รู้ว่าคนที่เอามาให้ชื่อ ชองชานอู อยู่ห้องสามถัดจากผมไปสองห้องน่าจะเป็นหัวหน้าห้องด้วยมั้ง เจอที่ห้องพักอาจารย์บ่อยๆ ผมอ่านจดหมายที่มันเขียนมายาวเป็นหน้ากระดาษเอสี่แล้วจับใจความได้สั้นๆว่า “มันชอบผม” แค่นั้นแหละครับ ไม่รู้จะเขียนมายาวให้เปลืองหมึกปากกาทำไม

     

    “กระดาษอะไรอ่ะ” ไอ่พี่จีวอนผู้มีมารยาทมากดึงกระดาษออกไปจากมือผมแล้วกวาดสายตาอ่านอย่างรวดเร็ว ก่อนจะ.. เอากระดาษนั้นเช็ดน้ำที่เปื้อนโต๊ะอยู่

    “เฮ้ย! ทำไรของพี่น่ะ” ผมคว้าจดหมายนั้นไว้อย่างไวเลยครับ แต่อีกคนก็ยังไม่ปล่อยมือจากจดหมายเหมือนกัน

    “ก็โต๊ะมันเปื้อน ยืมเช็ดหน่อยไม่ได้รึไงล่ะ” ดึงจดหมายออกจากมือผมแล้วสติลเช็ดโต๊ะต่อครับ พอเช็ดจนพอใจแล้วก็เดินเอาไปทิ้งลงถังขยะแล้วกลับมานั่งที่โต๊ะ

    “เอ้า กินๆ ป้าที่ขายลูกชิ้นแถมมาให้ตั้งเยอะ เพราะความหล่อของพี่จีวอนคนนี้แท้ๆ ป้าเลยต้องขาดทุน ฮ่าๆๆ” ผมควรทำยังไงกับคนตรงหน้าผมดีครับ -_-  ผมจัดการจิ้มลูกชิ้นยัดใส่ปากพี่มันเลยครับ ก่อนที่จะเลอะเทอะไปมากกว่านี้

    “รีบๆกินแล้วก็รีบๆไปเรียนได้แล้ว เหลือเวลานิดเดียว” ผมว่าแล้วก็จัดการกับข้าวที่อีกคนซื้อมาให้อย่างไว ก่อนจะแย่งลูกชิ้นมากินด้วย ซึ่งอีกคนก็ไม่ขัด แถมยังลุกไปซื้อน้ำมาให้ผมอีกต่างหาก อาจจะเพราะเค้าตามใจผมทุกอย่างอย่างนี้ ผมถึงได้เผลอใจให้กับพี่ชายข้างบ้านคนนี้ได้ ทั้งๆที่รู้ว่ายังไงเค้าก็เห็นผมเป็นแค่ “น้องชายข้างบ้าน” คนหนึ่งเท่านั้น

     

     

    “คิมฮันบิน” คนตัวสูงจับแขนผมไว้ก่อนที่ผมจะเดินเข้าห้องเรียนที่อีกคนเดินตามมาส่งด้วย

    “หื้ม?”

    “จดหมายน่ะ.. เอ่อ ป่าวๆ ตั้งใจเรียนล่ะ เดี๋ยวเย็นนี้มารับ กลับบ้านพร้อมกันนะไอ่เสือน้อย” ไอ่พี่จีวอนขยี้หัวผมให้ผมยุ่งเล่นแล้วเดินกลับไปห้องเรียนพี่แกบ้าง

    “คิมจีวอน..” ไอ่บ้า -_-  ด่าในใจพอครับ

     

     

     

     

     

    “คิมฮันบิ๊นนนนนนนนนน มีคนมาหาเว้ยยยยยยยยยย” เสียงอึนจีสาวห้าวประจำห้องตะโกนเรียกผมทั้งๆที่แค่พูดปกติผมก็ได้ยิน

    “เออๆ บอกให้รอแปบ เก็บของก่อน” ผมรีบเก็บของทุกอย่างใส่กระเป๋า คงเป็นไอ่พี่ชายข้างบ้านมารับแหละครับ

     

    ผิดคาดครับ คนที่มาหาผมไม่ใช่ไอ่พี่จีวอน แต่เป็นคนที่เพิ่งเอาจดหมายสารภาพรักมาให้ผมเมื่อกลางวันนั่นเอง ตอนนี้ไอ่คนตัวโตแต่หน้าเด็กนั่นก็ยืนหน้าแดงก่ำมาหลายนาทีแล้วครับ ไม่พูดอะไรสักที พอผมจะเดินไปก็จับมือผมไว้อีก

    “นายมีอะไรรึป่าว ถ้าไม่มีชั้นจะได้กลับบ้าน” อาจจะเพราะผมทำหน้าเบื่อๆใส่มันรึป่าวก็ไม่รู้ มันจับมือผมแน่นแล้วดึงเข้าหาตัวเองจนผมเซไปใกล้มันก่อนจะตั้งหลักได้

    “เอ่อ..ฮันบิน อ่านจดหมายที่เราให้ไปแล้วใช่มั้ย?”

    “อื้ม อ่านแล้ว”

    “ระ เราขอจีบ.. จีบฮันบินได้รึป่าว” ชานอูพูดพร้อมกับส่งสายตาอ้อนๆมาให้ผม

    “จะจีบชั้น?”

    “อะ อื้ม”

    “ก่อนอื่นเลย ชั้นไม่ชอบคนอ้ำๆอึ้งๆ ถ้าจะจีบก็ไปหาความมั่นใจมาก่อนละกัน” ผมดึงมือออกจากมืออีกคนแล้วเดินผ่านไป เห็นคนที่บอกจะมารับผมกลับบ้านด้วยกันเดินมาไกลๆ ผมก็รีบเดินไปหา แต่โดนแรงกอดจากด้านหลังรัดไว้ก่อน

     

    “เฮ้ย! ไรวะเนี่ย” ดิ้นสิครับ ถึงโรงเรียนจะเลิกแล้ว แต่ก็ยังมีนักเรียนอยู่เต็มเลยครับ

    “ฮันบินให้โอกาสเรานะ เราชอบฮันบินจริงๆ เรามีความมั่นใจมากๆนะ”

    “เออๆ โอเค เชื่อก็ได้ แต่ปล่อยก่อนได้มั้ย นี่มันในโรงเรียนนะเว้ย” ชานอูปล่อยผมแล้ว ผมหันกลับไปกะจะด่าเข้าให้ซะหน่อย แต่กลับโดนดึงลากไปโดยไอ่พี่ตัวสูงข้างบ้าน

     

     

     

     

    “โอ้ยยย จะลากอะไรนักหนาวะ เจ็บนะเว้ย” ผมพยายามก้าวขาเร็วๆเพื่อตามให้ทันแรงลากของอีกคน แรงบีบจากมือใหญ่ๆนั้นทำให้ผมเจ็บจนน้ำตาแทบจะไหลออกมา คนตัวสูงลากผมมาจนถึงบ้านตัวเองแล้วยังลากผมเข้าไปในห้องตัวเอง

     

    “รออยู่นี่ก่อน” เสียงเข้มผิดแปลกไปจากปกติสั่งผมก่อนจะเดินคว้าผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×