ตอนที่ 15 : ตอบแทนที่รักกัน
คริส...
แสงแดดในยามเช้าสาดส่องพาดผ่านผ้าม่านสีขาวสะอาดตา อุณหภูมิอุ่นส่งตรงมาที่หน้าจนต้องขยับพลิกร่างหนีไปอีกทาง สองมือพยามไขว่คว้าหาร่างสูงที่นอนระนาบข้างกันอยู่ทุกค่ำคืนแต่วันนี้กลับคว้าได้เพียงอากาศ...
“สิง...อ้ะ!” ยังไม่ทันได้เอ่ยเรียกวงแขนแข็งแรงก็โอบรัดรอบเอวแน่น ปลายจมูกโด่งลากไล้ไปมาบริเวณไหล่ลาดที่ไร้ซึ่งอาภรณ์
“อรุณสวัสดิ์ครับ...ที่รัก” คำทักทายแสนหวานชวนให้มุมปากต้องกระตุกยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ ผมพลิกตัวกลับไปนอนหงายสองแขนยกขึ้นคล้องคอเจ้าของดวงหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติอย่างเคยชิน
“อรุณสวัสดิ์ที่รัก”
หลังจากนั้นทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบงัน ก่อนที่กลิ่นไอแห่งรักจะฟุ้งตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ มีเพียงสองร่างเปลือยเปล่าที่ขยับแนบชิดจนแทบจะหลอมละลายเป็นหนึ่งเดียวถึงแม้ว่ากิจกรรมดังกล่าวเพิ่งจะจบไปไม่ถึงสองชั่วโมงเลยก็ตามที
ตั้งแต่วันที่ตัดสินใจหนีออกมาจากคฤหาสน์สีเลือด ผมกับโอดินก็คอยดูแลร่างที่นอนแน่นิ่งจนบาดแผลเริ่มสมานและหายขาดในที่สุด สิงโตตื่นขึ้นมาเมื่ออาทิตย์ก่อน เพียงแค่เสี้ยววินาทีที่ได้สบตากันร่างสูงที่นอนเหยียดกายอยู่แรมเดือนก็ลุกพรวดดึงผมเข้าไปกอดไว้แน่น
‘ไม่เป็นไรนะ’
สิ่งแรกที่เจ้าของเสียงทุ้มแหบแห้งเอื้อนเอ่ยพาให้ความรู้สึกผิดต่อคนตรงหน้าทวีคูณหนักขึ้นไปอีก ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมทั้งผลักไส ทั้งเย็นชา ทำร้ายเค้าทุกอย่าง...เพราะคำว่า ‘ทาสผู้ซื่อสัตย์’ ที่ค้ำคออยู่ทำให้ต้องเดินสวนทางกับหัวใจตัวเองมาตลอด...แต่หลังจากนี้มันจะไม่เป็นแบบนั้นอีกแล้ว
“ที่รักตื่นนะครับ”
“อืม ง่วง...”
“ตื่นหน่อยนะ ออกไปดูพระอาทิตย์ตกดินกัน”
“หึหึ คิดว่าตัวเองอยู่เกาะส่วนตัวหรือไง” ขยับปากพูดทั้งที่ตายังหลบอยู่
“ที่นี่ก็มี แต่งตัวสิ...” ไม่พูดเปล่าแขนแข็งแรงอุ้มร่างผมให้ลอยขึ้นจากเตียงแล้วตรงเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระความเหนียวเนอะหน่ะที่เก็บสะสมตั้งแต่เมื่อคืน
หลังจากสิงโตฟื้นโอดินก็ขอย้ายไปอยู่ห้องข้างๆแทน ความจริงผมไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ในเมื่อสองหนุ่มเห็นชอบตรงกันก็ไม่ขัด
กว่า ‘เรา’ จะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็กินเวลาเกือบสองชั่วโมงแต่ก็ยังพอทันพระอาทิตย์ตกดินที่คนตัวสูงชวนมาดูด้วยกันบนดาดฟ้าของคอนโด
ท่ามกลางตึกราบ้านช่องที่แสนจะแออัดสิงโตปีนขึ้นไปนั่งห้อยขาอยู่บนขอบกำแพงของดาดฟ้าก่อนจะส่งมือมาเพื่อรับผมให้ขึ้นไปนั่งข้างๆกัน ภาพตอนนี้ที่ปรากฏสู่สายตาเป็นภาพของแสงดีส้มอ่อนที่ถูกระบายไปทั่วขอบฟ้า แสงแดดอ่อนลอดผ่านช่องว่างระหว่างตึกและทอดเงามาจนถึงเราสองคน
“สวยมั้ย” คนข้างๆหันมาหา ทำให้แสงสุดท้ายของวันทอดเงาลงบนใบหน้าคมสมชายชาตรี เจ้าตัวกระตุกยิ้มมุมปากน้อยๆแต่ผมสัมผัสได้ว่าเขากำลังมีความสุขมากมายแค่ไหน
ก็นี่แหละที่ต้องการ...ความสุขของสิงโต
“สวย...แล้วนายว่าไง”
“มันจะไม่สวยเลย ถ้าไม่มีนายมาดูด้วยกัน”
“คนบ้า///”
ผมหันหน้ากลับไปทางพระอาทิตย์ตกตามเดิม ก้มหน้าหนีแสงแดดที่ทอส่องจนหน้าเริ่มเห่อร้อน
“เขินสินะ”
“หุบปาก ! ชิ” อ้าวนี่ผมไม่ได้หน้าร้อนเพราะแดดหรอกหรอ บ้าหน่าเพราะแดดนั่นแหละ
“ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันนะ ขอบคุณจริงๆ” พูดจบบ่าข้างซ้ายก็รับรู้ถึงน้ำหนักของศรีษะที่เอนมาซบพร้อมกับมือซ้ายที่ถูกจับไปกุมไว้ที่ตักกว้าง
“นั่งดีๆสิ ไม่กลัวตกหรือไง” ตึกนี้มีกี่ชั้นไม่รู้แต่ผมมองเห็นรถที่กำลังอัดกันเป็นปลากระป๋องอยู่บนท้องถนนเบื้องร่างแทบไม่ชัด ถ้าเปรียบเทียบก็คงเล็กกว่าหัวแม่มือผมหล่ะมั้ง
“นายไม่ปล่อยให้ฉันตายหรอก เพราะนายรักฉัน...”
“……”
“คริส...รักสิงบ้างหรือยัง”
“พูดอะไรของนายเนี่ย” ไม่ใช่เพราะถามแบบนั้นแต่เพราะศัพท์เรียกที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน พอฟังแล้วมันรู้สึกแปลกนิดหน่อยแถมใจก็...เต้นแรงด้วย
“อืม...ขอโทษนะที่ฉันคิดไปเองอีกแล้ว”
พรึ่บ
ผมมองตามร่างสูงที่กระโดดกลับเข้าไปด้านใน แล้วเดินหันหลังให้ทำท่าเหมือนจะกลับ
“เดี๋ยวสิสิงโต...” ตามไปกอดเอวแกร่งไว้จากทางด้านหลังส่งเสียงออดอ้อนแบบที่เคยทำกับเค้าแค่คนเดียว
“ตะวันลับฟ้าแล้ว” ร่างสูงเอ่ยเสียงเศร้า
“...ฉันรักนาย”
“ว่าไงนะ” สิงโตเอี้ยวหน้ากลับมาถามเหมือนไม่เชื่อหู
“นายหลับไปนานมาก ฉันไม่รู้จะช่วยอะไรได้บ้างได้แต่คอยเฝ้ามองและอ้อนวอนกับดวงดาวนับพันว่าอย่าได้พรากนายไปจากฉันอีกเลย...”
“คริส”
“อยู่ด้วยกันแบบนี้จนวินาทีสุดท้ายได้หรือเปล่า”
“พูดอะไร นายก็รู้ว่าฉันต้องอยู่กับนายอยู่แล้ว” นั่นสินะ
“ช่วยเปลี่ยนฉันให้เป็นมนุษย์ทีนะ”
“พูดจริงหรอคริส คิดดีแล้วใช่ไหม”
คราวนี้สิงโตหันมาเผชิญหน้ากับผมด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง มือหนากำเข้าที่ต้นแขนแน่นแต่ไม่ถึงกับทำให้เจ็บ
“อะไรที่ฉันพูดแล้วฉันจะไม่คืนคำเด็ดขาด ยกเว้นก็แต่...” เรื่องสัญญาเมื่อร้อยยี่สิบปีก่อน
ยังไม่ทันจบประโยคดีร่างผมก็ถูกดึงเข้าไปกอดไว้แน่น จมูกโด่งฝังลงมาบนกลุ่มผมที่หยุดยาวตั้งแต่ตื่นขึ้นมาเป็นแวมไพร์วันแรก
“ฉันดีใจที่สุด เราไปหาโอดินกันเถอะนะ ไปบอกโอดินให้เตรียมของสำหรับเปลี่ยนนายให้เป็นมนุษย์”
“5555เดี๋ยวก่อนสิ”
“ไม่เดี๋ยวแล้ว เกิดนายเปลี่ยนใจจะทำไงหล่ะ” แอบมองแผ่นหลังกว้างที่จูงมือผมลงบันไดอย่างรีบร้อน มองมือเราที่สอดประสานกันแน่นจนไม่มีช่องว่างให้อากาศได้เล็ดลอดสอดแทรกเข้าไปได้
นี่แหละคือทางของผม...อีกไม่นานผมก็จะได้กลับกลายเป็นมนุษย์เฉกเช่นเดียวกับคนรัก และต่อจากนี้ไม่ว่าจะเจ็บหรือจะตายก็ขอให้ได้ทำตามหัวใจของตัวเองให้ถึงที่สุดก็พอ
ก้อกๆๆๆ...
“โอดิน อยู่ห้องหรือเปล่า”
ก้อกๆๆๆ...
ถึงจะได้ยินเสียงจังหวะหัวใจมากมายที่ดังระงมอยู่รายล้อมแต่ผมจำจังหวะหัวใจของโอดินได้
“ไม่อยู่หรือเปล่า” เพราะผมไม่ได้ยินเสียงหัวใจเค้า
“แต่โอดินบอกว่าวันนี้ไม่ได้ออกไปไหน” เราหันมาสบตากันนิดหน่อย
ขออย่าให้เป็นอย่างที่กลัวเลยนะ
แกร้ก แอด...
เราก้มหัวขอบคุณพนักงานที่มาเปิดห้องของโอดินให้ ภายในห้องเงียบและมืดสนิท สิงโตเดินเปิดไฟไปทั่วห้องส่วนผมก็เดินสำรวจหาความผิดปกติ แต่ไม่เจอ...
“โอดินกลับบ้าน” สิงโตเดินหน้ามุ่ยมาหาผมก่อนจะส่งกระดาษสีเหลืองอ่อนขนาดเล็กมาตรงหน้า
‘ฉันกลับไปเยี่ยมลูกเมีย อีกสองเดือนจะกลับมา’
สองเดือนเลยหรอ...
ผมเกรงว่ามันจะไม่ทันน่ะสิเพราะแวมไพร์ที่เจ็บหนักจะรักษาบาดแผลจนสามารถหายขาดได้ภายในเวลาอันรวดเร็วที่สุดนั่นคือ หนึ่งเดือน
“ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ ลืมไปแล้วหรอว่านายอยู่กับใคร” เหมือนรู้ใจ คนตรงหน้าดึงผมเข้าไปโอบไว้พร้อมกับพูดปลอบใจไปด้วย
“แต่ก็อย่าลืมสิว่านายเพิ่งจะฟื้น”
“ถ้าไม่หายดีจะจัดหนักนายจนแทบลุกไม่ขึ้นได้หรือไง”
“บ้า ! มันเหมือนกันที่ไหนหล่ะ” กำลังซีเรียสดันมาวกเข้าเรื่องนี้ได้ไงเนี่ย
ในเมื่อคนที่ตามหาไม่อยู่เราจึงกลับมาที่ห้อง สิงโตโทรสั่งอาหารจากชั้นล่างและยังสั่งเผื่อผมด้วย ที่จริงแวมไพร์สามารถกินอาหารมนุษย์ได้ แต่ที่ผ่านมาผมเลือกที่จะไม่กิน ถ้าเปรียบก็คงเหมือนมนุษย์ที่ไม่กล้ากินอาหารของสัตว์ที่ตนเรียกว่าอาหารนั่นแหละ
ผมรู้ดีว่าที่แห่งนี้มันเสี่ยงต่อการปะทะกับพวกของเจคอปมากแค่ไหน แต่ถึงเราจะหนีไปจนสุดขั้วโลกก็ใช่ว่าเราจะปลอดภัย สู้อยู่ด้วยกันตรงนี้ รอรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นและใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่าที่สุดจะดีกว่า
เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร
“ไม่ต้องกลัวนะที่รัก ฉันอยู่ตรงนี้” บนเตียงนอนสีขาวสะอาดตาผมนอนตะแคงข้างโดยมีร่างสูงของ ‘คนรัก’ นอนซ้อนอยู่ด้านหลัง กลิ่นหอมอ่อนๆที่คุ้นเคยช่วยดับไฟในอกที่กำลังร้อนลุ่มให้เย็นลงบ้าง
ร้อนลุ่มเพราะเป็นห่วงว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเค้าอีก แต่สำหรับผมต่อให้ต้องโดนอะไรหลังจากนี้ผมก็ไม่กลัวทั้งนั้น
“รู้แล้ว นอนเถอะ”
.
.
“กลับมาแล้วหรอ เหนื่อยมั้ย” เราใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป สิงโตกลับไปบริหารงานในผับตามเดิม แต่ละวันผมแทบไม่ต้องหยิบจับอะไรเพราะตื่นมาตอนเช้ามนุษย์สามีก็เตรียมอาหารให้พร้อมทุกอย่างแถมยังจ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดให้วันเว้นวันอีกด้วย
คงเพราะผมไม่ได้ดื่มเลือดสิงโตเลยตั้งแต่เค้าตื่นขึ้นมาบวกกับเจ้าตัวออกกำลังกายและบำรุงร่างกายสม่ำเสมอ กล้ามเนื้อบึกบึนแบบเมื่อก่อนก็เลยเริ่มกลับมาตามเดิม ถามว่าหิวมั้ย ก็หิวแต่ในเมื่อเคยอดมาแล้วตั้งสองปี อดอีกสักสองเดือนก็ไม่เห็นเสียหายอะไร
ฟอด~
“ฮ้า หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยครับ^^” จริงๆเลยเชียว///
พอเข้าไปช่วยถอดเสื้อผ้าเพื่อที่จะให้คนตรงหน้าไปอาบน้ำก็ดันถูกลวนลามจนได้ ปลายจมูกคมที่ซุกไซ้อยู่ตรงข้างแก้มกับซอกคอทำให้มือที่กำลังแกะกระดุมหยุดชะงัก
“อื้อ จะเช้าแล้วนะไม่ง่วงหรือไง”
“ก็เมียขี้อ่อย เข้าห้องมาก็ถูกจับแก้ผ้าแล้วจะให้คิดยังไงหรอ”
“หื่นเองหล่ะสิไม่ว่า ฉันก็ทำแบบนี้ทุกวันไหมหล่ะ”
“แต่ก็โดนทุกวัน ไอ้เราก็นึกว่าชอบซะอีก”
“คนบ้า!! ไม่ช่วยแล้ว อาบเองเลย” จงใจผลักอกให้กระเด็น แต่กลับกลายเป็นว่าตัวเองกระเด็นซะเอง เดี๋ยวนี่ผมเป็นแวมไพร์นะ มีพลังเหนือมนุษย์(?)
“ถ้าเปลี่ยนใจก็ตามเข้ามาได้นะเมียจ๋า ประตูไม่ได้ล็อค”
“หึ่ย กวนประสาท”
ฟึดฟัดกับตัวเองอยู่สักพักก็เดินไปจัดเตรียมชุดนอนให้คนที่ผิวปากอาบน้ำอย่างอารมณ์ดี ส่วนประตูห้องน้ำก็เปิดอ้าเชิญชวนเหมือนทุกครั้ง
“สิบเจ็ดวันแล้ว” พรึมพรำกับตัวเองเบาๆพลางสายตาก็จ้องมองปฏิทินในมือที่มีรอยปากกาขีดทับนับวันที่ผ่านไปอย่างเชื่องช้า สิงโตบอกว่าโอดินจะตัดขาดการติดต่อทั้งหมดในช่วงที่ไปเยี่ยมครอบครัวนั่นก็เพื่อความปลอดภัยของลูกเมียของเขา
ไม่รู้ว่าเจคอปจะทำยังไงกับผมต่อ แต่ที่ต้องการที่สุดในตอนนี้คือการได้เปลี่ยนตัวเองให้กลับไปเป็นมนุษย์ ได้อยู่เคียงคู่กับคนที่ตนรักถึงแม้สุดท้ายจะต้องพรากจากกันก็ไม่เป็นไร
ผมอยากทำให้สิงโตสมหวังและมีความสุขที่สุดก่อนก็เท่านั้น
บรรยากาศหนักอึ้งชวนให้หายใจหายคอไม่ถนัดที่แฝงไปด้วยพลังลึกล้ำน่าขนลุก จากที่เบาบางตอนนี้มันเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เพราะแบบนี้ผมถึงอยากให้โอดินกลับมาเร็วๆ
เพราะท่านผู้นำแวมไพร์กำลังจะมาที่นี่...และเพราะสิงโตยืนยันที่จะอยู่ข้างกันจนวินาทีสุดท้าย
Talk : ไรท์คนนึงที่มองว่าคุณแวมไพร์ตัดสินใจถูก ในเมื่อเราทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ก็ขอทำตามใจตัวเองให้ถึงที่สุด ยอมขนาดนี้แล้วคุณสามีแวมไพร์รู้สึกคุ้มค่าขึ้นมาบ้างหรือยังคะ ถึงเขาจะพูดน้อยแต่เขาทำเพื่อคุณเยอะเด้อ ได้โปรดรับรู้ด้วย><(เอ๊ะประโยคคุ้นหูจังเลยออเจ้า)
บอกแล้วว่าแพ้เสียงเรียกร้อง เทงานมาเลยนะเนี่ย55555
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

คริสจะได้กลายร่างเป็นคนไหมหนอ
ไรส์อยุ่ไหหนนรีบมาต่อหน่อยยยยยยยหายไปหลายเดือนแล้วนะงานเยอะก้สู้ๆนะคะแต่ก้อยากให้มีเวลามาปั่นฟิคสัก3-4ตอนนคิดถึงจะแย่อยู่แล้วว
#รักปักเขี้ยว
สิงโตอบอุ่นอ่ะ ขอให้คริสกลับมาเป็นมนุษย์ได้อีกครั้งเถอะ