ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    one heart one love เพียงหนึ่งรัก | exo

    ลำดับตอนที่ #2 : One heart One love :: 1

    • อัปเดตล่าสุด 16 ต.ค. 62








    One Heart One love

    -One-

     

     


    อื้อ~”

     

    เสียงหวานใสครางแผ่ว แสงแดดยามสายที่ลอดผ่านช่องหน้าต่างเข้ามาปลุกคนตัวเล็กให้ตื่นขึ้นจากนิทรา คยองซูมองไปรอบตัวอย่างสงสัย

     

    ที่นี่ที่ไหน?

     

    อ้าว...ตื่นพอดีเลย มาๆมากินข้าวกัน ^^” ร่างไม่อ้วนหรือผอมเกินไปของเจ้าของห้องเดินเข้ามาพร้อมกับถาดที่มีชามโจ๊กหอมกรุ่น 2 ชาม

     

    มินซอก’ ส่งยิ้มกว้างให้คนตัวเล็กบนเตียงก่อนวางถาดลงบนโต๊ะญี่ปุ่นเล็กๆ เดินไปตรงตู้เก็บของใกล้กับโต๊ะหนังสือ หยิบเบาะรองนั่งสีน้ำตาลออกมา 2 ใบแล้วนำมาวางไว้บนพื้นทั้งสองฝั่งของโต๊ะญี่ปุ่น 

     

    กลิ่นหอมกรุ่นของโจ๊กดึงให้คยองซูลุกขึ้นแล้วเดินมานั่งบนเบาะที่มินซอกจัดเตรียมไว้ให้ ร่างเล็กทำตาเป็นประกายก่อนเงยหน้าขึ้นเป็นเชิงขออนุญาต มินซอกไม่ตอบอะไรแต่กลับทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามแล้วเอื้อมมือมาตักโจ๊กในชามของคยองซู เป่าเบาๆให้ไอร้อนจากโจ๊กลดลง ก่อนยื่นช้อนกลับไปให้คยองซูที่นั่งมองทุกการกระทำของมินซอกอยู่

     

    ค่อยๆกินล่ะ นายหลับมาประมาณ 15 ชั่วโมงได้แล้วนะ มินซอกเอ่ยอย่างใจดี คยองซูที่กำลังกลืนโจ๊กลงคอทำตาโตอย่างตกใจกับประโยคที่คนตรงข้ามพูดออกมา

     

    นอนมา 15 ชั่วโมงแล้วหรอเนี่ย

     

    ตอนนี้กี่โมงแล้วหรอครับ?” คนตาโตถามกลับ

     

    “9 โมงกว่าๆแล้วล่ะ อ้อ...ลืมแนะนำตัวไปเลย ฉันชื่อ คิมมินซอก ดูจากหน้าตานายแล้ว ฉันน่าจะเป็นพี่ของนาย งั้นนายจะเรียกฉันว่าพี่มินซอกหรือพี่มินเฉยๆก็ได้ แล้วแต่นายถนัดเลย ฉันไม่ถือ ^^”

     

    เรียกพี่มินก็ดีครับ พี่มินเป็นคนจีนหรอครับ?”

     

    คยองซูยิ้มบาง แล้วเริ่มตักโจ๊กกินทีละนิดทีละหน่อย

     

    เปล่าๆ พี่เป็นคนเกาหลีนี่แหล่ะ ทำไมถึงคิดว่าพี่เป็นคนจีนล่ะ

     

    ก็...เอ่อ...ไม่รู้สิครับ

     

    ว่าแล้วว่านายต้องตอบแบบนี้เคยมีคนถามคำถามนี้กับพี่เหมือนกัน แถมคำตอบของเขายังเหมือนกับคำตอบของนายเลยนะ

     

    จริงหรอครับ...บังเอิญจังเลย 


    คยองซูหัวเราะ พลางมองดูมินซอกที่กำลังนั่งกินโจ๊กต่ออย่างอารมณ์ดี 


    เอ่อ...พี่มินครับ...”

     

    ว่าไงหรอมินซอกยิ้มกว้างแล้วเอ่ยถามโดยไม่มีทีท่าว่าจะเบื่อหรือรำคาญคยองซูเลยสักนิด

     


    ทำไมพี่ถึงยิ้มได้สดใสขนาดนี้กันนะ

     


    คือ...ผมมาอยู่ที่ห้องพี่ได้ยังไงหรอครับ?”

     

    จริงด้วย!!! พี่ลืมเรื่องนี้ไปสนิทเลย ซิ่วหมินตีแก้มตัวเองเบาๆแล้วตอบคำถามของคยองซูก็เมื่อคืนเราน่ะ เป็นลมอยู่ที่ร้านอาหารของรุ่นน้องที่มหาลัยพี่ เขาเลยพานายมาฝากไว้ให้พี่ดูแลก่อน

     

    เอ่อ...แล้วรุ่นน้องของพี่มินว่างหรือเปล่าครับ ผมอยากโทรไปขอบคุณเขา

     

     

    ขอบคุณที่อุตส่าห์พาเขามานอนในที่ดีๆ

     

    ขอบคุณที่ไม่ใจร้ายทิ้งเขาไว้ข้างถนน

     

     

    อย่าเพิ่งไปยุ่งกับมันตอนนี้เลย สภาพมันยังไม่ค่อยดีเท่าไร คุยกันก็คุยไม่รู้เรื่องหรอก เผลอๆอาจโดนมันตะคอกกลับมาด้วยซ้ำ

     

    ทำไมหรอครับ? พี่เค้าเป็นอะไรหรอ?” เด็กตาโตถามต่อ

     

    ก็แฟนที่มันคบมาตั้ง 3 ปีขอเลิกกับมันน่ะสิ แถมยังหนีไปอยู่เมืองนอกด้วยนะ...พูดแล้วก็อารมณ์เสียจริงๆ!!”

     

    มินซอกบ่นอุบอิบ พลางส่งโจ๊กอุ่นๆเข้าปากไม่หยุดพร้อมกับบ่นพึมพำอะไรบางอย่างออกมาซึ่งคยองซูก็ไม่อาจรู้ได้

     

    ขอเลิกหรอครับ?”

     

    ใช่แล้วล่ะ หน้าตากับนิสัยก็ดีนะ แต่ทำไมถึงทิ้งไอ้ชานยอลไปก็ไม่รู้!” มินซอกตอบก่อนจะวางช้อนลงในชามโจ๊กที่หมดเกลี้ยงไปแล้ว

     

    เขาอาจจะมีเหตุผลที่ต้องขอเลิกก็ได้นี่ครับ

     

    เหตุผลอะไรกันล่ะ! แค่ไปอยู่จีนเดือนเดียว ต้องถึงกับขอเลิกกับชานยอลเลยงั้นหรอ คนอย่างนั้นไม่มีเหตุผลหรอก เชื่อพี่สิ!!!”

     

    แต่...”

     

    ช่างเถอะ เลิกคุยเรื่องนี้กันดีกว่า  อ้อ ว่าแต่นายชื่ออะไร คุยกันมาตั้งนานพี่ยังไม่รู้ชื่อนายเลย

     

    ผม...โดคยองซูครับ

     

    คยองซู...ชื่อคุ้นๆแหะ เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน มินซอกทำท่าครุ่นคิด แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นโจ๊กในชามของคยองซูที่ยังเหลืออยู่เกือบเต็มชามไม่หิวหรอ? โจ๊กเหลืออยู่ในชามตั้งเยอะ

     

    ผมไม่ค่อยหิวน่ะครับ

     

    กินเข้าไปอีกหน่อยไม่ดีกว่าหรอ เดี๋ยวไม่มีแรงเอานะ มินซอกเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง แต่คยองซูกลับทำเพียงส่ายหน้าแล้วยิ้มแห้งๆให้เขาเท่านั้น มินซอกถอนหายใจแรงๆแล้วเลื่อนชามโจ๊กของคยองซูเข้าหาตัว

     

    งั้นพี่กินให้แล้วกัน


    คนตัวเล็กทำเพียงแค่ยิ้มกับท่าทางเหมือนเด็กของมินซอก ดวงตากลมโตมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย 

     

     

    โง่หรือเปล่า...นั่นมันก็แค่เหตุผลที่ฉันขอเลิกกับนายต่างหาก

     

     

    อึก...”

     

    คยองซูรีบกลั้นก้อนสะอื้นไว้ในคอ คำพูดทำร้ายจิตใจจากคนที่ร่างบางรักที่สุดดังขึ้นมาในโสตประสาทเหมือนเทปที่มีใครมากรอกลับไปกลับมาไม่หยุด

     

    อะไรกัน...แค่นี้ก็ต้องร้องไห้ด้วยหรอ

     

     

    คยองซูคนเข้มแข็งหายไปไหน

     

    คยองซูคนอ่อนแอคนนี้...เขาไม่ต้องการ

     

     

    คยองซูร้องไห้ทำไม!?”

     

    เสียงร้องถามอย่างตื่นตระหนกของมินซอกดังเข้ามาในประสาทการรับรู้ของคยองซูพร้อมกับร่างที่ขนาดตัวไม่ต่างกันสักเท่าไรที่รีบพุ่งเข้ามาดึงคนตัวเล็กกว่าเข้าไปกอด

     

    อึก...ผม...ฮึก...” 


    คยองซูพยายามที่จะตอบคำถาม ทว่าน้ำตากลับยิ่งไหลลงมาหนักกว่าเดิม

     

    ไม่ต้องพูดอะไรนะ ใจเย็นๆ...ไม่ร้องนะไม่ร้อง มินซอกกอดปลอบพลางลูบหัวของคนในอ้อมกอดอย่างแผ่วเบา ความอบอุ่นจากมือของอีกคนทำให้คยองซูเงียบลง ถึงแม้ว่าไหล่บางจะยังสั่นไหวอยู่ก็ตาม

     

    เป็นอะไร...ร้องไห้ทำไม มินซอกเอ่ยถามอีกครั้งเมื่อเห็นว่าคยองซูสงบลงแล้ว คนตัวเล็กก้มหน้าลงค่อยๆดันตัวเองออกจากร่างของรุ่นพี่

     

    ไม่มีอะไรหรอกครับ

     

    ถ้าไม่มีอะไรจริงแล้วนายจะร้องไห้ทำไม

     

    คยองซูไม่ตอบ แต่กลับยื่นนิ้วก้อยข้างขวาออกมาแทน

     

    ไว้ผมพร้อมเมื่อไร ผมจะเล่าให้พี่ฟังนะครับสัญญา

     

    มินซอกระบายยิ้มบางเบาเมื่อทราบสาเหตุที่คยองซูยื่นนิ้วก้อยมาให้ เขายื่นนิ้วก้อยกลับไปเกี่ยวกับนิ้วก้อยของคนตัวเล็กก่อนจะพูดขึ้น

     

    สัญญาไว้ก็อย่าลืมแล้วกัน

     

    คนตัวเล็กยกยิ้มทั้งน้ำตาที่เลอะสองข้างแก้ม มินซอกหลุดหัวเราะกับท่าทางเหมือนเด็กได้ของเล่นหลังจากอ้อนแม่มานานแล้วล้วงเอาผ้าเช็ดหน้าสีฟ้าในกระเป๋ากางเกงยื่นให้คยองซู 


    เช็ดน้ำตาซะ เลอะแก้มหมดแล้ว

     

    ขอบคุณครับพี่มิน 


    คยองซูรับผ้าเช็ดหน้าไปถือ ค่อยๆยกมันขึ้นเช็ดน้ำตาที่ยังคงเหลือตามแก้มและเปลือกตาออก

     

    เดี๋ยวพี่เอาชามไปเก็บก่อน ส่วนนายก็ไปอาบน้ำซะ พี่เตรียมเสื้อผ้าไว้ให้แล้ว” 


    มินซอกเอาชามซ้อนกันแล้วเอาวางบนถาดอย่างเดิม เขาลุกขึ้นเต็มความสูงแล้วใช้นิ้วชี้ไปที่เสื้อผ้าที่แขวนอยู่ตรงบานประตูตู้เสื้อผ้า อาจจะหลวมไปหน่อยเพราะพี่ตัวใหญ่กว่านาย อาบน้ำเสร็จแล้วลงไปหาพี่ข้างล่างนะ เดี๋ยวพี่พาไปหาชานยอล...คนที่พานายมาส่ง

     

    ครับ

     

    ร่างเล็กตอบรับ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำทันทีที่มินซอกเดินออกไปแล้ว

     

     

    ผมจะได้ทำตามสัญญาหรือเปล่าครับพี่..ผมไม่มีวันพร้อมสำหรับเรื่องนี้หรอก

     

     

     

    ----------------------------------------

     

     

     


    ออดดด~

     

    เซฮุนยื่นมือไปกดออดหน้าห้องทันทีที่เขามาถึงคอนโดของลู่หาน

     

    พี่ลู่หานจะไม่หนีไปไหนตามที่บอกไว้เมื่อวานใช่ไหม?

     

    คิดมาถึงตรงนี้เซฮุนก็ยิ่งกังวล

     


    ถ้าพี่ลู่หานทำอย่างที่บอกจริงล่ะ?

     


    ออดดด~

     

    เซฮุนลองกดออดอีกรอบ ในใจเริ่มเป็นกังวลกับคนที่อยู่ในห้อง ใบหน้าที่เคยเต็มไปด้วยรอยยิ้มยามได้มายืนกดออดรอเจ้าของห้องเปิดประตูให้แปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่แสดงออกถึงความเครียดขึงชัดเจน เซฮุนเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรง ความวิตกกังวลที่ก่อตัวเป็นเมฆครึ้มก้อนใหญ่ปกคลุมหัวใจเขาตั้งแต่เมื่อคืน และไม่มีทีท่าว่าจะสงบลงง่ายๆหากเขาไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเองว่าพี่ลู่หานยังสบายดีอยู่หรือเปล่า

     

    หรือว่าพี่เขาจะย้ายออกไปแล้ว?

     

    แอ๊ดด...

     

    บานประตูตรงหน้าร่างสูงแง้มเปิดออกอย่างเชื่องช้าพร้อมกับร่างบางของคนที่เซฮุนอยากเจอที่สุด

     

    ผมนึกว่าพี่จะย้ายออกไปซะแล้ว

     

    เซฮุนพูดพร้อมกับรอยยิ้มน่ารักปรากฏบนใบหน้า ช่วงขาที่ยาวกว่าเจ้าของห้องก้าวนำเข้าไปในห้องของลู่หานโดยไม่ฟังคำทัดทานของคนตัวเล็กแม้แต่นิดเดียว

     

    เซฮุนอย่าเข้าไป!”

     


    พี่ไม่อยากให้นายเสียใจถ้านายรู้ว่าพี่จะย้ายออก

     


    ลู่หานวิ่งตามเข้ามาในห้องอย่างรีบร้อน แต่ก็ไม่ทัน เพราะเซฮุนมายืนอยู่ตรงกลางห้องพร้อมมองกล่องและกระเป๋าเสื้อผ้ามากมายที่วางกระจัดกระจายเต็มไปหมดด้วยสายตาที่คาดเดาอารมณ์ไม่ถูก

     

    นี่มันอะไรกันครับ

     

    ร่างสูงเอ่ยเสียงเรียบ ไม่แม้แต่จะหันมามองคนข้างหลังเลยซักนิด ลู่หานก้มหน้าลงเหมือนเด็กที่ทำผิดแล้วโดนครูจับได้ มือบางกำเข้าหากันแน่น เหงื่อเม็ดเล็กไหลลงมาตามไรผมสีน้ำตาลอ่อนนุ่ม

     

    ...พี่...”

     

    พี่จะย้ายออกไปจากที่นี่ใช่ไหม!?!”

     

    เซฮุนเอ่ยถามเสียงดังแล้วหันกลับมาประจันหน้ากับร่างเล็ก พร้อมกับใช้มือจับไหล่บางแน่นเพื่อกักขังอีกคนไว้ในอ้อมแขน ลู่หานเงยหน้ามองคนตรงหน้าอย่างแปลกใจ ตั้งแต่ที่รู้จักและ คบ กันมา ไม่เคยมีสักครั้งที่เซฮุนจะใช้อารมณ์กับเขา แม้ว่าจะเครียดแค่ไหนก็ตาม 


    แต่ครั้งนี้มัน...

     

    ตอนนี้ลู่หานกำลังกลัวเซฮุน...กลัวแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

     

    พี่...พี่บอกแล้วไงว่าอย่ามาหาพี่อีก...พี่บอกแล้วไงว่าให้นายอยู่ในที่ของนาย...นายจะกลับมาหาพี่ทำไม ลู่หานถามเสียงสั่น

     

    ทำไม...ทำไมถึงไม่อยากให้ผมมา...ผมยังมีสิทธิ์มาหาพี่อยู่นะ ทำไมพี่ถึงอยากให้ผมกลับไปอยู่ที่บ้านเหมือนเดิม  ทำไมล่ะครับ!?” 


    เซฮุนระเบิดอารมณ์ที่กำลังเดือดปุดไม่ต่างกับภูเขาไฟที่รอเวลาปะทุ มือที่จับไหล่ร่างบางอยู่กดแน่นลงไปอีก ลู่หานร้องโอยด้วยความเจ็บ แต่เซฮุนก็ไม่มีทีท่าว่าจะใจเย็นลง

     


    นายเป็นอะไรไปเซฮุน...เซฮุนคนใจดีหายไปไหน

     


    พี่...พี่สกปรก...พี่ไม่ดี...พี่ไม่ใช่ของเซฮุนอีกแล้ว...กลับไปซะ

     

    ลู่หานพยายามเค้นคำพูดออกมาเสียงเข้ม แม้ว่าน้ำตาจะเริ่มคลอจนมองทุกอย่างพร่าเลือนไปหมด

     

    เซฮุนชะงักไปชั่วครู่เมื่อได้ฟังสิ่งที่ลู่หานเอ่ยออกมา

     

     

    ทำไม...ทำไมพี่ถึงคิดว่าตัวเองไร้ค่าขนาดนั้น...

     

    ผมเคยบอกแล้วไม่ใช่หรอว่าพี่ยังมีค่าสำหรับผมเสมอ...

     

     

    แต่ตอนนี้ทำไม...

     

     

    ทำไมพี่ถึงคิดแบบนั้นล่ะ 


    เซฮุนถามเสียงแผ่วจนแทบกลืนไปกับมวลอากาศรอบข้าง มือทั้งสองข้างปล่อยไหล่ของร่างเล็กออกแล้วเปลี่ยนเป็นดึงลู่หานเข้ามากอดแทนทำไมพี่ถึงคิดว่าตัวเองไร้ค่า...ทำไมกันล่ะครับ

     

    “...”

     

    สำหรับผม...ต่อให้พี่เคยผ่านใครต่อใครที่ผมไม่รู้จักมาแล้วมากหน้าหลายตา แต่ถ้าพี่ยืนยันว่าพี่จะหยุดที่ผม...ผมก็จะหยุดที่พี่...ทิ้งหัวใจไว้ให้พี่...ผมไม่สนหรอกนะว่าพี่จะบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์แต่ผมสนแค่ว่าพี่รัก’ ผม... ผมสนแค่ว่าหัวใจของพี่จะเป็นของผมคนเดียว ผมสนใจแค่นั้น

     

    ลู่หานปล่อยน้ำตารินไหลลงบนเสื้อเชิร์ตของเซฮุนอย่างห้ามไม่อยู่ คำพูดที่ออกมาจากเซฮุนมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของเขามากเกินไป

     

     

    พี่หยุดหัวใจของพี่ไว้ที่นายนานแล้ว...หยุดไว้ตั้งแต่เจอกันครั้งแรก

     

    ...แต่ยังไงก็ตาม

     

     

    พี่หยุดที่นายนานแล้วเซฮุน...หยุดหัวใจตัวเองไว้ที่นายตั้งนานแล้ว 


    เซฮุนยกยิ้มเมื่อได้ยินสิ่งที่ร่างบางสารภาพ

     

    แต่...”

     

    “…”

     

    แต่ถึงพี่จะหยุดหัวใจไว้ที่นาย...แต่ร่างกายของพี่มันสกปรก...พี่ยอมรับไม่ได้หรอกนะถ้าพี่จะยังอยู่กับนายต่อ

     

    “…”

     

    ถึงนายจะไม่สนใจว่าพี่จะบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์ แต่สำหรับพี่...พี่คิดว่านายควรจะไปหาเจ้าของหัวใจคนใหม่...เจ้าของหัวใจคนใหม่ที่ดีพร้อม...เจ้าของหัวใจคนใหม่ที่มีค่าและรักนายมากกว่าพี่

     

    ไม่...ผมไม่ยอม...ผมไม่ให้พี่จากไปหรอก

     

    เซฮุน...”

     

     

    ผมมีเจ้าของหัวใจแล้ว... ผมไม่มีวันหาเจ้าของคนใหม่

     

     

    “…”

     

    เจ้าของหัวใจของผม...มีแค่พี่คนเดียวเท่านั้น” 


    เซฮุนยืนยันเสียงแข็ง ไม่มีแววความล้อเล่นปรากฏในแววตาเลยแม้แต่น้อย ดวงตาสีน้ำตาลเข้มจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของลู่หานที่กำลังแดงจัดราวกับต้องการยืนยันว่าเจ้าของหัวใจของเขาคือใคร

     

    ฮึก...”

     

    ขอร้องนะครับพี่ลู่หาน

     

    ไม่...เซฮุน...พี่ต้องย้ายออก

     

    “...”

     

    ขอร้อง...ถ้าเซฮุนรักพี่จริง...”

     

    “…”

     

    ปล่อยพี่ไปเถอะ

     

    เซฮุนยืนตัวแข็งทื่อราวกับหิน

     

     

    ทั้งๆที่เขาสื่อความรู้สึกของเขาออกมาจนหมด



    แต่ทำไม...แต่ทำไมพี่ลู่หานถึงยืนยันจะจากเขาไปอีก

     

     

    แค่ปล่อยพี่ไปเท่านั้น

     

    “…”

     

    “...เซฮุน

     

    พี่เคยบอกว่าพี่จะอยู่กับผมตลอดไปไม่ใช่หรอ

     

    “…”

     

     

    แต่ทำไมวันนี้...พี่ถึงมาขอให้ผมปล่อยพี่ไปล่ะ..ทำไมถึงมาขอไปจากผมทั้งที่ผมไม่ต้องการ

     

     

    เซฮุน...พี่ขอโทษ

     

    ขอโทษทำไม...พี่แค่ทำตามที่เคยพูดไว้ก็พอ

     

    พี่ทำตามที่พี่พูดไว้ไม่ได้...พี่ขอโทษ

     

    เซฮุนดันตัวของลู่หานออกอย่างแผ่วเบา มองหน้าลู่หานแวบหนึ่งก่อนจะเดินเลี่ยงไปที่ประตู แผ่นหลังกว้างที่ยืนหันหลังให้ตัวเองทำให้ลู่หานรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาคล้ายมีคนเอามีดมาแทงหัวใจเขาซ้ำๆอย่างไรอย่างนั้น

     

    เป็นคนขอให้เซฮุนปล่อยตัวเองไป

     

    เป็นคนที่ขอให้เซฮุนไปหา เจ้าของหัวใจคนใหม่

     


    แต่ทำไม...ถึงเป็นตัวเองที่เจ็บขนาดนี้

     

     

    ถ้าพี่ต้องการจะย้ายออกจริงๆ...ก็ตามใจ 


    เซฮุนพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบที่ก่อตัว จนได้ยินเพียงเสียงหัวใจที่ดังระรัวของลู่หานเท่านั้น

     

     

    ผมจะปล่อยพี่ไป

     

     

    “…”

     

    ผมจะทำตามที่พี่บอก...ผมจะหาเจ้าของหัวใจคนใหม่ตามที่พี่ต้องการ

     

    “…”

     

     

    เลิกกันนะครับ

     

     

    เซฮุนย้ำจุดประสงค์ของตัวเองโดยไร้การลังเล แม้ว่าจะเจ็บปวดกับการต้องพูดสิ่งที่ไม่ต้องการก็ตาม

     


    ลู่หานร้องไห้ออกมาอีกครั้งโดยไร้เสียง

     

    ดีแล้วล่ะที่นายเป็นคนพูดคำนี้

     


    ถ้าให้พี่พูด...เรื่องของเราคงไม่มีวันจบลง

     

     

    ลาก่อนครับ...พี่ลู่หาน

     

     

    ปัง!

     

    เซฮุนกระแทกประตูปิดอย่างแรง พร้อมกับร่างบางที่ทรุดตัวนั่งลงกับพื้นเมื่อไม่เห็นร่างของเซฮุนอีกแล้ว

     

     

    พี่คิดถูกแล้วล่ะเซฮุนที่ปล่อยนายไป

     

    นายต้องได้เจอคนใหม่...ขอให้มีความสุขนะเซฮุน

     

     

     

    เจ้าของหัวใจคนใหม่ของนาย...ดูแลเขาให้ดีนะ

     

    เขาจะไม่มีวันทำให้นายเสียใจ...แบบพี่

     

     

     



    ----------------------------------------

     

     


     

     

    ชานยอลทิ้งตัวลงบนโซฟาบุหนังกลางห้องอย่างหมดแรง ปิดเปลือกตาลงเพื่อกั้นหยาดน้ำตาที่เริ่มเอ่อล้นเต็มหน่วยตาไม่ให้ไหลริน

     

    แบคฮยอนไปแล้ว...เขาทิ้งนายไปแล้วชานยอล

     

    หลังจากแบคฮยอนกดตัดสายเขาทิ้งเมื่อคืน ชานยอลก็เหมือนศพเดินได้ไปมหา'ลัยจนถูกเพื่อนทักแล้วยังถูกครูไล่กลับมาบ้านอีกด้วย

     

    เปลือกตาที่บวมช้ำจากการร้องไห้อย่างหนักตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้า มือหนาที่ถูกพันผ้าพันแผลไว้เพราะเผลอไปชกกับกำแพงจนได้แผล และอาการเหม่อลอยอย่างคนที่ไม่มีสติหรืออารมณ์อะไรทั้งนั้น

     

    แค่แบคฮยอนจากไปคืนเดียว...เขาก็เป็นถึงขนาดนี้แล้วหรอ

     

    ติ๊ด...ติ๊ด...

     

    ชานยอลรีบล้วงโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกงทันทีที่มีเสียงเตือนว่ามีคนโทรเข้ามา

     

     ด้วยความหวังว่าจะเป็นคนที่เขากำลังคิดถึงอยู่ตอนนี้...

     

    ...แต่เขาก็ต้องผิดหวังเมื่อคนที่โทรเข้ามาเป็นรุ่นพี่ตัวกลมที่มหาลัยของเขาต่างหาก

     

    ครับ...พี่มินซอก 


    ร่างสูงเอ่ยทักปลายสายด้วยเสียงทุ้มอันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัว

     

    [เดี๋ยวอีกประมาณครึ่งชั่วโมง พี่จะไปหานายที่บ้าน]

     

    โอเคครับ แล้วตกลง...เด็กคนที่ผมพาไปหาพี่เป็นอะไรหรอครับ

     

    [ยังไม่ยอมบอกพี่เลย สงสัยคงจะเจ็บมากกับเรื่องที่เพิ่งเจอมา]

     

    เรื่องที่เพิ่งเจอมา?”

     

    [อือ ก็นายบอกว่าตอนแรกเห็นคยองซู เอ่อ..ชื่อน้องคนนั้นน่ะ นั่งอยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง แต่พอผู้ชายคนนั้นลุกไป พอนายกลับมาดูอีกที ก็เห็นคยองซูนอนสลบจนต้องพามาฝากไว้ที่พี่ไง]

     

    จริงด้วยสินะ

     

    [สงสัยอาจจะเป็นแฟนกัน แล้วผู้ชายคนนั้นขอเลิกกับคยองซูล่ะมั้ง]

     

    น่าจะเป็นอย่างนั้นล่ะครับ

     

    [ว่าแต่...นายเป็นไงบ้าง]

     

    ชานยอลชะงักไปนิดกับคำถามจากปลายสาย หัวใจของร่างสูงกระตุกวูบและเต้นระรัว บาดแผลสดที่ยังมีเลือดไหลซึมคงปริแตกอีกรอบกระมัง 

     

    ก็ดีครับ

     

    [พี่ไม่เชื่อนายหรอก เมื่อคืนถ้าเลย์ไม่ไปหานายที่บ้าน พี่จะรู้ไหมว่านายคลั่งเป็นหมาบ้าขนาดนั้น ถึงนายจะไม่ห่วงตัวเอง แต่ก็ต้องนึกถึงคนอื่นที่เขาเป็นห่วงนายด้วยสิ]

     

    ชานยอลยิ้มอ่อนโยนกับเสียงของปลายสายที่แสดงความเป็นห่วงออกมาชัดเจน

     

    จริงสินะ... ยังมีคนรักและเป็นห่วงเขาอยู่อีกตั้งหลายคน

     

    จะแคร์ทำไมกับคนแบบนั้น

     


    จะแคร์ทำไมกับคนนิสัยไม่ดีอย่างแบคฮยอน

     

     

    เดี๋ยวพี่มาหาผมที่บ้านก็รู้เองล่ะว่าผมสบายดีจริงอย่างที่บอกหรือเปล่า

     

    [โอเค! ถ้าพี่ไปเจอนายที่บ้านแล้วยังไม่ยอมยิ้มให้พี่เห็นนะ พี่จะจับนายขังห้องน้ำ!”

     

    โอเคครับพี่มินซอก แล้วเจอกันนะครับ

     

    [อือ แค่นี้นะ]

     

    ชานยอลกดตัดสายทันทีที่มินซอกพูดจบแล้วเก็บโทรศัพท์ใส่เข้าไปในกระเป๋ากางเกงตามเดิม ร่างสูงเอนตัวลงนอนบนโซฟา ดวงตาสีน้ำตาลที่เคยฉายแววอ่อนโยนและอบอุ่นเปลี่ยนเป็นสายตาที่เย็นชาและไร้อารมณ์ไปภายในคืนเดียวที่ไม่มีแบคฮยอนอยู่เคียงข้าง

     

    ชานยอลหลับตาลงช้าๆก่อนสมองจะหวนนึกถึงวันที่เขาและแบคฮยอนได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกัน

     

     

     

    ง่วงจังเลยอ่ะชานยอล

     

    ก็พิงไหล่ฉันมาสิ

     

    ไม่เอา เดี๋ยวนายเมื่อย

     

    ไม่เมื่อยหรอก...งั้นเอางี้ นายนอนบนตักฉันเลยก็ได้

     

    ไม่เมื่อยจริงๆนะ?’

     

    จริงสิ นอนลงมาเลย

     

     

     

    อยากให้แบคฮยอนกลับมานอนตักเขาเหมือนตอนนั้น...กลับมาครางหงิงๆก่อนนอนให้เขาฟังแบบตอนนั้น

     

     

    กลับมาบอกรักเขาแบบที่ทำอยู่ทุกวัน

     

     

     

    รักชานยอลนะ~’

     

     

     

    อ่า...เกือบลืมไปเลย รักนายนะ!’

     

     

     

    รักชานยอลที่สุด

     

     

     

    ทำไมฉันถึงรักนายมากขนาดนี้กันนะชานยอล? เลิกทำหน้าตาน่ารักๆสักที!!! รักนายมากนะ!’

     

     


    ฉันไม่เป็นอะไรมากหรอก...แค่ปวดหัวนิดหน่อยเอง กินยาเดี๋ยวก็หาย รักนายเหมือนกันนะ

     

     

     

    ฮึก...แบคฮยอน

     

    ชานยอลครางเสียงสั่น น้ำตาค่อยไหลลงมาตามหางตาโดยที่เจ้าตัวไม่คิดแม้แต่จะปาดมันออกไป

     

    คิดถึงแบคฮยอน...คิดถึงนายจังเลย

     

    กลับมาหาฉันได้ไหม

     

    อย่าทิ้งกันไปแบบนี้...

     

     

    ฉันอยู่ไม่ได้...ถ้าไม่มีนาย

     

     

    แบคฮยอน...”

     

     


     

    ----------------------------------------

     

     


     

    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×