ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    one heart one love เพียงหนึ่งรัก | exo

    ลำดับตอนที่ #7 : One heart One love :: 5

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.95K
      5
      3 เม.ย. 58







    One Heart One Love

    -Five-

     

     

    พี่มินซอก! จองตั๋วเครื่องบินไปจีนให้ผมหน่อย! ขอเที่ยวที่เร็วที่สุดนะครับพี่!” 

     

    ชานยอลตะโกนแล้วเดินตรงมายืนอยู่ตรงหน้าของมินซอกที่กำลังหั่นผักอยู่พอดี รุ่นพี่ตัวกลมหันมองคนตัวสูงกว่าอย่างงงๆก่อนจะวางมือจากการหั่นผักแล้วเดินมานั่งที่เก้าอี้ตรงโต๊ะกินข้าวทันที

     

    ไปจีนทำไมแล้วคยองซูล่ะ?”

     

    คยองซูออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าแล้วครับ” ชานยอลตอบแล้วนึกถึงคนตัวเล็กที่รีบร้อนออกไปหาจงอินตั้งแต่ดวงอาทิตย์ยังไม่ขึ้น “ส่วนที่ผมจะไปจีน...ผมจะไปหาแบคฮยอนครับ

     

    ไปหาแบคฮยอน!?! ไปทำไม?” มินซอกลุกขึ้นยืนแล้วถามเสียงดัง ชานยอลสะดุ้งนิดหน่อยแต่ก็ทำเป็นนิ่งไว้แล้วค่อยๆนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกับซิ่วหมิน

     

    เมื่อกี้แบคฮยอนโทรมาหาผม

     

    โทรมาทำไม!?!”

     

    เขาอยากกลับมาหาผม...เขาไม่ได้อยากไปอยู่ที่นั่น...เขาโดนบังคับ

     

    แต่เขาก็ไม่น่าจะถึงกับบอกเลิกนายเลยนี่!!!” มินซอกเถียงต่ออย่างไม่ยอมแพ้

     

    แบคฮยอนอาจจะมีเหตุผลที่ต้องขอเลิกกับผม

     

    เหตุผลอะไรล่ะ?!?”

     

    เรื่องนั้นผมก็ไม่รู้เหมือนกัน...แต่ผมก็เชื่อว่าเหตุผลของเขาคงสำคัญมาก...เขาอาจจะขอเลิกกับผมเพราะเขาไม่อยากให้ผมต้องเจ็บพอเขาต้องไปจีนก็ได้ 

     

    “…” 

     

    มินซอกไม่ตอบอะไรแต่กลับทำหน้าอึ้งๆพอได้ยินประโยคเมื่อสักครู่ของชานยอล แบคฮยอนไปจีนแค่ 2 วัน แต่ทำให้ชานยอลมีเหตุผลมากขึ้นขนาดนี้เลยหรอ

     

    ปาร์คชานยอล...คนไม่เคยมีเหตุผล

     

    คนที่เอาแต่เล่นไปวันๆ...

     

     

    วันนี้กลับเปลี่ยนไปกลายเป็นคนมีเหตุผลมากขนาดนี้เชียวหรอ?

     

     

    นะครับพี่มินซอก...หาตั๋วเครื่องบินให้ผมหน่อยนะครับ” 

     

    ชานยอลปรับเสียงอ่อนลงแล้วใช้ดวงตาคมกริบมองมินซอกราวกับต้องการยืนยันความต้องการจะไปหาแบคฮยอนที่จีนของเขามากขึ้น   

     

    พี่จะหาให้ แต่...

     

    แต่อะไรครับ?” ชานยอลยิ้มบางๆให้รุ่นพี่ตัวกลมแล้วเอ่ยถาม

     

    แต่นายต้องให้พี่กับคยองซูไปด้วย...ตกลงไหม

     

    ตามสบายเลยครับ! ขนาดบ้านผม ผมยังให้พี่มานอนด้วยเลย นี่แค่ให้พี่ไปจีนด้วย...สบายๆครับ^^” ชานยอลยิ้มจนเห็นฟันครบทุกซี่แล้วเดินอ้อมมากอดมินซอกอย่างแรง รุ่นพี่ตัวกลมกอดกลับแล้วเขย่งตัวขึ้นลูบผมชานยอลเบาๆ

     

    ดีมากปาร์คชานยอล...น้องรักของพี่มินซอก >O<” มินซอกยิ้มกว้างก่อนจะใช้ศอกกระทุ้งเข้าไปที่ท้องของร่างสูงกว่าอย่างแรง

     

    โอ๊ย!!! พี่จะกระทุ้งศอกเข้ามาทำไมกันเนี่ย!?!” ชานยอลถามแล้วใช้มือกุมท้องตัวเองไว้แน่น อาการจุกแล่นผ่านเข้ามาจนร่างสูงทำได้แต่มองหน้ามินซอกอย่างเคืองๆ

     

    ไม่เคยได้ยินหรอ...รักหรอก จึงหยอกเล่น :P” 

     

    ซิ่วหมินแลบลิ้นอย่างล้อๆแล้วรีบวิ่งออกจากห้องครัวไปทันที ชานยอลขวดคิ้วมุ่นแล้วตะโกนตามหลังซิ่วหมินไป

     

    จำไว้เลยนะไอ้พี่อ้วน! ถ้ามีโอกาส ผมจะแก้แค้นพี่ให้สาสม!”  

     

     

     

     

    เมื่อไรนายจะมานะ...

     

    แบคฮยอนคิดในใจแล้วนอนพลิกตัวบนเตียงไปมา ร่างบางทำหน้ามุ่ยเมื่อคิดว่าต้องรออีกนานเท่าไร ชานยอลถึงจะมารับเขากลับไปอยู่ด้วยกัน

     

    ติ๊ด....ติ๊ด...

     

    เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะหัวเตียงดังขึ้น แบคฮยอนรีบกลิ้งตัวไปตรงขอบเตียงแล้วคว้าโทรศัพท์มากดรับสายทันที

     

    ชานยอล!”

     

    [นี่ผมเองเสียงทุ้มๆเรียบๆของเทาดังมาตามสาย แบคฮยอนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แล้วตอบปลายสายกลับด้วยเสียงแผ่วเบา 

     

    ว่าไงเทา?”

     

    [ผมจะโทรมาบอกว่าผมจะไม่อยู่บ้านประมาณ 3 วัน ระหว่างนี้พี่ห้ามออกไปข้างนอกเด็ดขาด เข้าใจนะครับ]

     

    อือ...

     

    [ดีแล้วครับ...แล้วเมื่อกี้พี่พูดถึงใครน่ะ?]

     

    เอ่อ...” แบคฮยอนอึกอัก ถ้าให้ตอบตามความจริง...เขาจะโดนอะไรหรือเปล่า?

     

    [ว่าไงล่ะครับ]

     

    เอ่อ...เพื่อนของพี่น่ะ พอดีพี่นึกว่าเขาโทรมาหาพี่เลยเผลอเรียกออกไป ขอโทษนะ

     

    [ช่างมันเถอะครับ...แต่วันหลังก็ช่วยดูเบอร์ที่โทรเข้ามาหน่อยนะครับ...แค่นี้ล่ะ]

     

    เทากดตัดสายทันทีที่พูดจบ แบคฮยอนค่อยลดมือที่ถือโทรศัพท์ลงแล้ววางมันไว้ข้างตัวก่อนจะนั่งกอดเข่าด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย

     

    ตื่นเต้น...พอรู้ว่าชานยอลจะมาหา

     

    เบื่อ...พอรู้ว่าเทาจะไม่อยู่บ้าน 3 วันและนั่นหมายถึงเขาก็จะไม่ได้ออกไปไหนเลย

     

    เศร้า...พอรู้ว่าไม่ใช่ชานยอลที่โทรเข้ามาเมื่อกี้

     

    ติ๊ด...ติ๊ด...

     

    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาอีกครั้ง แบคฮยอนมองไปที่หน้าจอช้าๆแล้วก็ถึงกับเบิกตาโตเมื่อรู้ว่าใครเป็นคนโทรเข้ามา

     

    ชานยอล!”

     

    [ใช่แล้ว ฉันเอง ^^]

     

    มีอะไรหรือเปล่าถึงโทรมา

     

    [ตอน 3 ทุ่มวันนี้ฉันจะไปขึ้นเครื่องแล้วนะ จะได้ไปหานายแล้ว]

     

    นายไม่ได้หลอกฉันใช่ไหม...นายพูดจริงๆนะชานยอล...” เสียงของแบคฮยอนสั่นเล็กน้อย ไหล่บางไหวไปตามจังหวะหัวใจที่เต้นระรัวจนเหมือนจะหลุดออกมา

     

    [ฉันจะหลอกนายทำไมล่ะ...ฉันจะไปคืนนี้จริงๆ ไว้เจอกันนะแบคฮยอน]

     

    อือ...จะรอนะ

     

    [ครับคนดีของชานยอล...แค่นี้นะครับ]

     

    อือ” 

     

    แบคฮยอนตอบรับสั้นๆแล้วกดวางสาย รอยยิ้มบางๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าสวยหวาน ร่างเล็กทิ้งตัวลงไปบนเตียงอย่างแรง ความสุขเพิ่มขึ้นในหัวใจเรื่อยๆจนร่างเล็กทำได้แค่พลิกตัวไปมาเพื่อสลัดความคิดนี้ออกไป

     

    นายจะมาหาฉันแล้ว....มีความสุขที่สุดเลย

     

     

     

     

    9.13 PM.

     

    ฉันอยู่บนเครื่องแล้วนะ

     

    ข้อความสั้นๆถูกส่งมาอย่างรวดเร็ว แบคฮยอนยิ้มน้อยๆให้กับข้อความนั้นแล้วรีบพิมพ์ตอบกลับไปทันที

     

     

     

    ฉันมีความสุขที่สุดเลย!!! อีกไม่กี่ชั่วโมง เราก็จะได้เจอกันแล้วนะ ’

     

     

     

     

    ฉันก็มีความสุขเหมือนกัน...จะได้เจอนายแล้ว ’

     

     

    แบคฮยอนยิ้มไม่หุบกับข้อความที่ชานยอลส่งกลับมา ร่างเล็กลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ มือเรียวเปิดลิ้นชักออกก่อนจะหยิบสมุดโน้ตเล่มเล็กสีฟ้าอ่อนขึ้นมาวางบนโต๊ะ นั่งลงบนเก้าอี้เพื่อบันทึกข้อความที่กำลังอยู่ในใจลงไป

     

     

    มีความสุขที่สุดเลย อีกไม่ถึง 3 ชม.ก็จะได้เจอนายแล้ว

     

    ชานยอล...นายจะมาหาฉันแล้วใช่ไหม

     

    นายใกล้จะถึงแล้วใช่ไหม?

     

     

     

     

    ฉันกำลังจะถึงแล้วนะแบคฮยอน...รอฉันอีกแป๊ปเดียวนะ

     

    ชานยอลลอบยิ้มมุมปากกับประโยคที่เขาเขียนระบายลงไปในสมุดบันทึกการท่องเที่ยวที่เผลอหยิบติดมาด้วย

     

    อยากไปเจอหน้านายจะตายอยู่แล้ว...

     

    ชานยอลยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียวก่อนจะนึกไปถึงรุ่นพี่ตัวกลมที่ขอตามมาทีหลังเนื่องจากว่าคยองซูยังไม่กลับบ้านทำให้มินซอกยังไม่อยากมากับชานยอลก่อนเพราะกลัวว่าคยองซูจะคิดว่ามินซอกทิ้งตนไป

     

     

    นายไปก่อนเลยชานยอล แล้วพรุ่งนี้พี่จะรีบขึ้นเครื่องตามไป!!!’

     

     

    ที่จริงพี่ไม่ต้องตามมาก็ได้นะครับ...ขอผมอยู่กับแบคฮยอน 2 คนก็พอ

     

     

     

    ----------------------------------------

     

     

     

    “พี่แทมินครับ”

     

    เซฮุนเอ่ยเรียกคนตัวเล็กที่กำลังนั่งทำงานอยู่ตรงโต๊ะในห้องสมุด แทมินหันมามองร่างสูงๆของน้องชายที่ยืนอยู่ตรงประตูห้องก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย

     

    “มีอะไรหรอเซฮุน

     

    “ผมแค่จะมาถามว่าเพื่อนพี่แทมินหาพี่ลู่หานเจอหรือยัง?” เซฮุนเอ่ยเบาๆอย่างเกรงๆเพราะกลัวว่าแทมินจะรำคาญเนื่องจากเขาถามคำถามนี้มาหลายรอบแล้วตั้งแต่เมื่อเช้า “เอ่อ...ถ้ายังไม่เจอก็ไม่เป็นไรครับ ผมแค่ถามเฉยๆ”

     

    “ยังหาไม่เจอหรอก แต่ว่ารู้ตัวคุณที่พาลู่หานไปแล้วล่ะ”

     

    “ใครครับ!?!” เซฮุนถามเสียงดัง แล้วรีบพุ่งเข้ามาหาแทมินทันที

     

    “เห็นบอกว่าชื่อ ‘ชองยุนโฮ’ เป็นลูกชายของพวกมาเฟียแถวมยองดงน่ะ แล้วเพื่อนพี่ก็บอกว่ามาเฟียตระกูลนี้น่ากลัวทุกคน พวกเขาไม่เคยสนใจว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่ ดีหรือไม่ดี จะทำให้ใครเจ็บหรือเปล่า...พวกเขาสนใจแค่ว่าถ้าพวกเขาต้องการอะไร พวกเขาก็ต้องได้”

     

    “แล้วอย่างนี้พี่ลู่หานจะเป็นยังไงแล้วล่ะครับ!?! ชองยุนโฮจะทำร้ายพี่ลู่หานหรือเปล่าครับ!?!” เซฮุนถามเสียงสั่น เขย่าไหล่แทมินอย่างแรง ความกลัวเข้าเกาะกุมจิตใจของร่างสูงจนไม่เป็นตัวเอง ดวงตาสีน้ำตาลสั่นระริกจนแทมินถึงกับตกใจ

     

    ผู้ชายที่ชื่อ ลู่หาน สำคัญกับนายมากขนาดนี้เลยหรอเซฮุน...

     

    นายถึงกับไม่เป็นตัวเองเพียงแค่รู้ว่าลู่หานอาจจะเป็นอันตรายเมื่อต้องอยู่กับชองยุนโฮ...

     

    ผู้ชายคนนั้นเป็นยังไงกันนะ...อยากจะเห็นหน้าแล้วสิ

     

    “พี่ก็ไม่รู้หรอกนะว่าลู่หานจะถูกทำร้ายหรือเปล่า...เพื่อนพี่ยังเข้าไปหาที่ที่ลู่หานถูกจับไปไม่ได้ เพราะพวกคนของชองยุนโฮเก็บเรื่องนี้ให้รู้กันเองภายในกลุ่มของพวกนั้นเท่านั้น...แต่พี่จะรีบหาข้อมูลมาให้ อย่าเพิ่งทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อย่างนั้นสิ...ทนต่อไปอีกนิดหนึ่งนะ” แทมินพูดอย่างร้อนรนเมื่อเห็นใบหน้าผิดหวัง กับน้ำใสที่กำลังคลอเบ้ารอเวลาร่วงหล่นลงมาของน้องชาย

     

    เมื่อไรจะหาพี่ลู่หานเจอล่ะครับฮยอง...ผมเริ่มทนไม่ไหวแล้ว

     

    “ถ้าพวกมันทำร้ายพี่ลู่หาน...ผม...ผมจะรู้ได้ยังไง” ร่างสูงเอ่ยเสียงสั่นพร้อมกับน้ำตาที่ร่วงลงมาตามสองข้างแก้มอย่างห้ามไม่อยู่ ความเงียบเข้าปกคลุมห้องขนาดเล็กนี้จนแทมินรู้สึกอึดอัด ร่างเล็กมองน้องชายอย่างสงสาร มือบางเอื้อมไปดึงตัวของร่างสูงเข้าแนบอก กระชับกอดร่างของน้องชายไว้แน่น แล้วลูบผมสีน้ำตาลเข้มเบาๆ

     

    เซฮุนร้องไห้ออกมาหนักขึ้นเมื่อถูกแทมินดึงเข้าไปกอด

     

    พี่แทมิน...ผมไม่อยากร้องไห้อีกแล้ว

     

     

    แต่ทำไม...น้ำตามันชอบไหลลงมาเองโดยไม่รู้ตัวจังเลยครับ

     

     

    เซฮุนถามตัวเองในใจก่อนจะหลับตาลงรับความอบอุ่นที่ถูกส่งผ่านมาจากร่างของพี่ชายตัวเล็กที่กำลังกอดเขาไว้แนบอก

     

    แทมินยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นว่าน้องชายหลับไปแล้ว ร่างเล็กขยับตัวเซฮุนให้ผละออกจากตัวเองอย่างเบามือแล้วลุกขึ้นก่อนจะยกแขนของเซฮุนคล้องคอตัวเองไว้แล้วค่อยๆพาร่างสูงมานอนตรงโซฟากลางห้องอย่างทุลักทุเล

     

    แทมินปล่อยร่างของเซฮุนให้นอนบนโซฟาตัวยาวแล้วเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานอย่างเดิม ร่างเล็กมองเอกสารบนโต๊ะแวบหนึ่งก่อนจะหันมามองเซฮุนอีกครั้ง

     

    ที่จริงพี่รู้แล้วล่ะว่าลู่หานอยู่ที่ไหน...

     

    แต่ที่พี่ไม่ยอมบอกนาย...ก็เพราะพี่กลัวว่าถ้านายรู้เรื่องนี้ นายจะรีบไปหาลู่หาน แล้วนายอาจจะโดนชองยุนโฮทำร้ายกลับมา

     

    พี่เป็นห่วงนายนะเซฮุน...

     

    ถึงพี่จะเป็นแค่พี่ชายต่างแม่ของนาย...แต่พี่ก็รักนายเหมือนว่าเรามีแม่คนเดียวกันเลยนะ

     

    เข้าใจพี่ด้วยล่ะ...ว่าที่พี่ไม่ยอมบอกนาย...

     

    ...เพราะพี่เป็นห่วงนายนะ...คนเก่งของพี่

     

     

     

    ----------------------------------------

     

     

     

    ...คุก....

     

    ที่นี่คือคุกชัดๆ....

     

    ลู่หานถอนหายใจเฮือกใหญ่ ดวงตากลมโตเหม่อมองเพดานสีเทาหม่นในห้องอย่างเลื่อนลอย คราบน้ำตายังคงติดอยู่บนแก้มใสและบริเวณหางตา ริมฝีปากบางซีดเผือดเหมือนกับใบหน้าสวยหวานที่ไร้ซึ่งสีเลือด

     

    ขาเรียวขยับเบาๆอย่างอึดอัดกับโซ่เส้นใหญ่ที่ล็อกข้อเท้าของเขาไว้ รอยแดงปรากฏบนข้อเท้าเป็นทางยาวเนื่องจากการขยับเดินหลายครั้งจนร่างเล็กหยุดเดินแล้วมานอนนิ่งๆบนเตียงแบบนี้

     

    ไม่ไหวแล้ว...ไม่อยากอยู่แบบนี้อีกต่อไปแล้ว

     

    ลู่หานหัวเราะในลำคอ นึกสมเพชตัวเองที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ เพียงเพราะเชื่อคำพูดเพื่อนสนิทที่สุดของเขา

     

     

     

     

    ‘ลู่หาน...ฉันขอโทษ’

     

    เสียงใสเอ่ยเบาๆด้วยความรู้สึกผิดหลังจากที่หลอกให้ลู่หานเข้าไปอยู่ในห้องนอนของเจ้าตัว ก่อนจะล็อกประตูขังคนตัวเล็กไว้

     

    ‘เลย์!!!!นายมาขังฉันไว้แบบนี้ทำไม!?!?’ 

     

    ลู่หานตะโกนถาม ก่อนที่เลย์จะได้ยินเสียงเหมือนอะไรบางอย่างกระแทกเข้ากับประตูอย่างแรง จนเลย์ถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจแล้วรีบถอยออกมาห่างๆประตูทันที

     

    ‘ลู่หาน...ฉันขอโทษ...’ 

     

    เลย์ขยับเข้าไปใกล้กับประตูห้องอีกครั้ง มือบางยกขึ้นแนบบานประตูราวกับว่าตัวเองกำลังแตะมือกับลู่หานอยู่ 

     

    ‘ฉันขอโทษจริงๆ...ถ้าฉันไม่หลอกนายมาไว้ที่นี่...น้องชายของฉันต้องโดนพวกเจ้าหนี้หน้าเลือดฆ่าแน่ๆ’

     

    ‘แล้วทำไมนายไม่ต่อรองขอยืดเวลาออกไปอีกหน่อยล่ะ!?!’

     

    ‘ฉันผลัดพวกมันมาหลายครั้งแล้ว...มันบอกว่าถ้ามันไม่ได้นายมาเป็นของมัน มันจะฆ่าน้องชายของฉัน...นายก็รู้นี่ว่าทั้งชีวิตของฉัน เหลือแค่น้องคนเดียวเท่านั้นที่เป็นญาติคนสุดท้าย’

     

    ‘ฉันก็เป็นห่วงน้องชายนายนะ แต่นายไม่คิดบ้างหรอว่าฉันจะรู้สึกยังไงที่โดนเพื่อนสนิทหลอกให้มาเป็นของใช้หนี้!!!

     

    ‘ฉันขอโทษ...ขอโทษ...ฉันรู้ว่าต่อให้ฉันพูดคำว่าขอโทษอีกเป็นล้านๆครั้ง นายก็คงไม่ยอมให้อภัยฉัน...แต่ฉันก็อยากให้นายรู้ไว้นะ ว่าฉันเสียใจจริงๆ...ลู่หาน...’

     

    ‘ฉันจะไม่โกรธนายถ้านายปล่อยฉันออกไปเดี๋ยวนี้! เลย์!!! เปิดประตูห้องให้ฉันออกไป ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ ปล่อยฉันออกไป!!!

     

    ‘ไม่ได้หรอกลู่หาน...เข้าใจฉันหน่อยนะ...ฉันขอโทษจริงๆ’ เลย์พูดเสียงเบาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาช้าๆ

     

    ลู่หาน...ฉันไม่รู้ว่านายจะโดนอะไรบ้าง

     

    แต่ขอร้องล่ะ...อย่าเกลียดฉันเลย...

     

    อย่าเกลียดฉันนะ เพื่อนสนิทที่สุดของฉัน...

     

    ‘ฉันเกลียดนายเลย์!!! ฉันเกลียดนายที่สุด!!!!’ 

     

    ลู่หานตะโกนทิ้งท้ายเสียงดัง เลย์ฝืนยิ้มให้กับบานประตูตรงหน้าบางๆทั้งน้ำตาก่อนจะพึมพำคำที่อยากจะบอกลู่หานที่สุดตอนนี้

     

    ‘นายจะเกลียดฉันก็ได้...แต่ถ้าครั้งหน้าเราได้เจอกันอีก ขอให้เราได้กลับมาเป็นเพื่อนสนิทกันเหมือนเดิม’

     

    ...แล้วร่างของเลย์ก็เดินออกไปทันที

     

     

     

     

    “เลย์...ฉันเกลียดนาย” ลู่หานพูดเสียงเบาจนกลืนไปกับสายลม ก่อนที่น้ำตาจะค่อยๆไหลลงมาตามหางตาช้าๆ

     

    เกลียดนาย...เกลียดที่นายทำให้ฉันโกรธและเกลียดนายไม่ได้

     

    ทำไมถึงเป็นแบบนั้นกันนะ...เลย์

     

    ก๊อก...ก๊อก...

     

    “คุณลู่หานครับ...เดี๋ยวคุณยุนโฮจะเข้ามาหานะครับ” เสียงทุ้มเข้มของลูกน้องชองยุนโฮดังเข้ามาในห้อง ลู่หานพยักหน้าเบาๆเป็นการรับรู้ แม้ว่าคนข้างนอกจะไม่เห็นก็ตาม

     

     

    เกลียดตัวเอง...เกลียดร่างกายแสนโสมมนี้เต็มที

     

     

    ลู่หานกัดริมฝีปากล่างแน่น เลือดคาวๆไหลออกจากริมฝีปากช้าๆ น้ำตายังคงไหลออกมาไม่หยุดราวกับต้องการตอกย้ำว่าร่างเล็กอ่อนแอขนาดไหน

     

    ทั้งๆที่บอกตัวเองเสมอว่าต้องเข้มแข็ง...              

            

    แต่ทำไมตอนนี้...น้ำตาแห่งความอ่อนแอมันถึงไหลออกมากันล่ะ

     

    แอ๊ด...

     

    เสียงบานประตูถูกเปิดออกดังขึ้นเรียกลู่หานให้หลุดออกจากภวังค์ความคิดของตัวเองทันที

     

    “เป็นยังไงบ้าง...พี่ไม่ได้เข้ามาหานายตั้งหลายชั่วโมง ^^” ยุนโฮยิ้มกว้างและค่อยขยับเข้ามาใกล้เตียงมากขึ้น ร่างเล็กขยับตัวเองให้ถอยไปข้างหลังอย่างหวาดกลัว จนในที่สุดแผ่นหลังบางๆก็ชนเข้ากับหัวเตียง...ถอยไปไม่ได้อีกแล้ว

     

    “ขอร้องล่ะครับ...ปล่อยผมไปเถอะ” ลู่หานเอ่ยปากร้องขอเสียงสั่น ความกลัวแผ่ขยายในหัวใจเป็นวงกว้าง...ปล่อยผม

     

    “เสียใจด้วยนะลู่หาน...พี่ปล่อยนายไปไม่ได้หรอก” ยุนโฮเอ่ยเสียงเบา แล้วขึ้นคร่อมตัวของลู่หานอย่างรวดเร็ว “ของของพี่...ถ้าพี่ยังไม่เบื่อ...พี่ก็จะไม่ทิ้งมันไปเด็ดขาด”

     

    ลู่หานกรีดร้องเสียงดังเมื่อร่างสูงซุกไซร้เข้าที่ซอกคอขาวโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ร่างเล็กดิ้นอย่างแรงเพื่อให้หลุดจากการเกาะกุม แต่ผลที่ได้รับกลับมาก็คือความเจ็บปวดทางร่างกายที่มีมากขึ้นทุกวันๆ...

     

    เซฮุน...พี่ไม่อยากมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไปแล้ว

     

     

     

    ----------------------------------------

     

     

     

     “คยองซู...

     

    จงอินพึมพำชื่อคนตัวเล็กที่ทำให้เขาเป็นบ้าแทบเป็นแทบตาย ยกมือขึ้นทึ้งผมตัวเองอย่างคิดไม่ตกกับความรู้สึกเจ็บแปลกที่หัวใจโดยที่เขาไม่รู้สาเหตุ

     

    นายมาทำอะไรกับหัวใจฉันกันนะคยองซู...

     

    ร่างสูงเดินไปตามทาง ผู้คนเริ่มหนาแน่นขึ้นเพราะวันนี้เป็นวันอาทิตย์แถมยังเป็นช่วงเย็น ทำให้คนออกมาซื้อของกันมากมาย มีทั้งครอบครัว คู่รัก และอีกหลายๆแบบที่จงอินเดินผ่านแล้วมองเห็น

     

    จงอินหยุดเดินทันทีที่เห็นร้านขายเบเกอรี่เล็กๆเปิดใหม่ซึ่งอยู่อีกฝั่งของถนน ร่างสูงมองเข้าไปภายในร้านนั้นก็พบว่ามีขนมหวานมากมายที่แทยอนชอบกิน ร่างสูงไม่รอช้าก็รีบเดินข้ามถนนตรงไปยังร้านนั้นทันที

     

    กริ๊ง!

     

    เสียงกระดิ่งดังขึ้นเมื่อจงอินผลักประตูเข้าไป พนักงานสาวตัวเล็กยิ้มต้อนรับเขา ร่างสูงโค้งหัวให้น้อยๆแล้วเดินไปเลือกเค้กในตู้กระจกใสอย่างรวดเร็ว

     

    “จะซื้อขนมไปให้ใครหรอครับ ^^?” เสียงหวานดังขึ้นใกล้จงอิน ร่างสูงที่กำลังก้มตัวเลือกเค้กอยู่เงยหน้าขึ้นมามองคนที่มายืนใกล้เขาช้าๆก็พบว่าเป็นผู้ชายตัวเล็กๆขาวๆยืนยิ้มกว้างให้เขาอยู่

    “เอ่อ...จะซื้อไปให้พี่สาวน่ะครับ” จงอินตอบ คนตัวเล็กกว่าทำหน้าคิดเล็กน้อยแล้วใช้นิ้วชี้ไปที่คัพเค้กช็อกโกแลตเล็กๆที่อยู่ตรงชั้นบนของตู้กระจก

     

    “ผมแนะนำคัพเค้กช็อกโกแลตจะดีที่สุดนะครับ  เพราะร้านเราทำไม่ค่อยหวานเท่าไร แล้วยิ่งกินเค้กช็อกโกแลตกับกาแฟพร้อมกันก็จะยิ่งอร่อยที่สุดในโลกเลยล่ะครับ ^O^” คนตัวเล็กยิ้มหวานอย่างมีความสุขก่อนที่ใครบางคนจะเดินมาตบหลังของคนตัวเล็กอย่างแรง

     

    ป้าบ!

     

    “มาทำอะไรที่นี่ซูโฮ -_-^^” ร่างสูงของคนที่น่าจะเป็นเจ้าของร้านถามเสียงเย็น ‘ซูโฮ’ หันกลับไปมองข้างหลังช้าๆ และพอพบว่าเป็นใคร ร่างเล็กก็หัวเราะฝืดๆให้

     

    “เอ่อ...พอดีว่าผมว่างน่ะครับ เลยออกมาช่วยหน้าร้าน ^^;;;”

     

    “จานยังไม่ได้ล้างอีกเป็นกอง นายยังบอกว่าว่างอีกหรอ!?! กลับไปล้างจานต่อเลยไป =[]=!!!!ร่างสูงตวาดเสียงดังจนซูโฮสะดุ้งแล้วรีบวิ่งกลับไปหลังร้านอย่างรวดเร็ว

     

    “ขอโทษนะครับที่เจ้าเด็กนั่นออกมาเล่นพอดี คุณเลยเสียเวลาเลือกเค้กเลย ^^” ร่างสูงพูดขอโทษแทนลูกน้องของตัวเองแล้วโค้งหัวให้จงอินน้อยๆ “คุณอยากได้เค้กแบบไหนล่ะครับ?”

     

    “เอ่อ...เอาแบบที่คนเมื่อกี้บอกดีกว่าครับ เอาคัพเค้กช็อกโกแลต 2 ที่ครับ ^_^” จงอินยิ้มบางๆตอบกลับไป

     

    “จะรับกลับบ้านหรือจะทานที่นี่ดีครับ?”

     

    “ทานที่นี่ 1 กลับบ้าน 1 ครับ”

     

    “งั้นเดี๋ยวผมไปเสิร์ฟให้นะครับ เชิญเลือกที่นั่งรอได้เลยครับ ^^”

     

    ร่างสูงเอ่ยจบก็เดินเข้าไปหลังเคาน์เตอร์ทันที พร้อมกับจงอินที่หันกลับไปเดินเลือกหาที่นั่งกินเค้ก

     

    จงอินเดินมาเรื่อยๆจนมาหยุดกับโต๊ะสำหรับนั่ง 2 คนบริเวณมุมเล็กๆของร้านที่ไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน ร่างสูงนั่งลงทันทีก่อนจะมองออกไปนอกร้านอย่างเหม่อลอย

     

    ร่างสูงมองออกไปข้างนอกแล้วสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับคนคู่หนึ่งที่กำลังยืนคุยกันอยู่ตรงหลังต้นไม้ข้างนอกร้านซึ่งใกล้กับโต๊ะที่เขานั่งอยู่ และเขาจะไม่รีบลุกขึ้นทันทีอย่างนี้ถ้าคนที่กำลังคุยกันอยู่ไม่ใช่คยองซูกับเจ้าของร้านตัวสูงคนเมื่อกี้!!

     

    จงอินรีบเดินออกจากร้านทันทีก่อนจะมองหาที่ซ่อนตัวเพื่อกันไม่ให้คยองซูมองเห็นตัวเอง แล้วเขาก็หันไปเจอกับต้นไม้อีกต้นซึ่งใหญ่พอสมควรและอยู่ใกล้ๆกับต้นไม้ที่คยองซูกำลังยืนคุยอยู่พอดี ไม่รอช้าร่างสูงก็รีบก้าวยาวๆไปหลบอยู่หลังต้นไม้ต้นนั้นทันที

     

    “พี่คริส...ผมไม่คิดเลยว่าจะได้เจอกับพี่อีก” เสียงสั่นๆกับใบหน้าเหมือนกำลังจะร้องไห้ของคยองซูทำให้จงอินรู้สึกเศร้าตามไปด้วยอย่างไม่รู้สาเหตุ “ผมคิดถึงพี่ที่สุดเลย...”

     

    “คยองซู...” 

     

    คนที่ชื่อ ‘คริส’ เอ่ยเสียงเบาแล้วดึงตัวคยองซูเข้าไปกอดไว้ จงอินกัดปากตัวเองแน่นจนได้กลิ่นคาวเลือดเมื่อได้เห็นภาพที่คยองซูกับคริสกำลังกอดกันอยู่

     

    เขาเป็นอะไรไป

     

    ทำไมถึงโมโหขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผลแบบนี้?

     

    “วันนั้นทำไมพี่ถึงขอเลิกกับผมล่ะครับ...ทำไมกัน...”

     

    “พี่ขอโทษจริงๆนะคยองซู...พี่ไม่ได้ตั้งใจ”

     

    “ฮึก...ผมคิดถึงพี่...”    

     

     

    นายร้องไห้ทำไม คยองซู..

     

     

    จงอินคิดในใจแล้วยังคงแอบฟังว่าทั้งคู่จะคุยอะไรกันต่อ

     

    พี่ก็คิดถึงนายเหมือนกัน... เอ่อ...คยองซู”

     

    “…?”

     

    “เรา...”

     

    “…”

     

     

    “เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม?”

     

     

    คยองซูยืนอึ้งราวกับคนถูกจับให้ยืนนิ่งๆ ดวงตาที่เปื้อนน้ำตาเบิกกว้างอย่างตกใจเช่นเดียวกับจงอินที่นิ่งไปกับคำขอร้องของคริส

     

    ขอกลับมาเป็นเหมือนเดิม?

     

     

    งั้นก็แสดงว่าคยองซูกับคริส...เคยเป็นแฟนกันมาก่อนงั้นหรอ?

     

     

    “ผม...”

     

     

    ปฏิเสธเขาไปซะคยองซู

     

     

    “เอ่อ...ผมไม่รู้...”

     

     

    ตอบเขาว่าไม่ไปสิ ตอบไปเลย

     

     

    “ผม...ตกลงครับ...”

     

     

    นายว่าไงนะคยองซู!!!

     

     

    จงอินยืนนิ่งอย่างอึ้งๆ ตกลงคยองซูชอบใครกันแน่ เขาหรือคริสแล้วที่ตลอดมาเขาคิดว่าคยองซูชอบตัวเองก็ผิดงั้นสิ

     

    คยองซูชอบคริส...

     

    ไม่สิ...

     

     

    คยองซูรักคริสต่างหาก

     

     

    แล้วที่วันนั้นนายร้องไห้ตอนฉันขอเลิกกับนาย...นายทำแบบนั้นไปเพื่ออะไรกันคยองซู?

     

    นายชอบใครกันแน่...คนหลายใจ

     

    จงอินบีบมือตัวเองเข้าหากันแน่นสะกดกลั้นอารมณ์โกรธที่กำลังปะทุขึ้นมาอย่างฉุดไม่อยู่ หัวใจเต้นระรัวด้วยแรงโทสะ ความรู้สึกกดดันที่กำลังบีบรัดร่างของเขาจนหายใจไม่ออก...มันหมายความว่ายังไง?

     

    “นายไม่โกรธที่พี่ทิ้งนายไปใช่ไหม

     

    “ผมไม่เคยโกรธพี่...แล้วก็ไม่เคยคิดจะโกรธด้วย” 

     

    “ขอบคุณมากนะคยองซู...ขอบคุณมากจริงๆ” พูดจบคริสก็กระชับกอดคยองซูแน่นขึ้น โดยที่คนตัวเล็กก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด

     

    ทำไมนายถึงไม่ปฏิเสธเขาไปล่ะคยองซู..ทำไมถึงยอมให้เขากอดง่ายๆอย่างนั้น

     

    ทำไมถึงไม่โกรธเขาทั้งๆที่เขาก็ทิ้งนายไปเหมือนฉัน...

     

    ทำไมกัน

     

    “อื้อ!!!” 

     

    ร่างสูงก้มลงมาปิดริมฝีปากร่างเล็กไว้ด้วยริมฝีปากของตัวเองโดยไม่ทันให้คยองซูตั้งตัว รสจูบที่แสนอ่อนหวานที่ร่างเล็กโหยหามาตลอดทำให้สมองส่วนนึกคิดพร่าเลือนไปหมด ความคิดที่จะผลักคริสออกไปหายไปหมดสิ้น มือบางเอื้อมไปคล้องคอร่างสูงไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองล้มลงไปกับพื้นเสียก่อน

     

    ความอดทนของจงอินหายไปจนหมด อารมณ์โกรธพุ่งสูงจนน่ากลัว มือหนาต่อยเข้าไปที่ต้นไม้อย่างแรงแต่ไม่มีเสียง มีเพียงแต่รอยแดงที่ปรากฏขึ้นมาอย่างน่ากลัวเท่านั้น

     

    “พี่คริส...พอแล้ว” คยองซูเอ่ยไม่เป็นคำพูดทันทีที่คริสผละริมฝีปากออกไปแล้ว ร่างเล็กสูดอากาศเข้าไปเฮือกใหญ่แล้วปล่อยมือที่รั้งต้นคอของคนตัวสูงกว่าลงอย่างรวดเร็ว

     

    “ยังไม่พอใจเลย” ร่างสูงพูดอย่างเจ้าเล่ห์ ใบหน้าของร่างเล็กขึ้นสีแดงจัดอย่างห้ามไม่อยู่ มือเล็กๆตีไหล่คริสไปทีหนึ่งเพื่อกลบเกลื่อนอาการเขินที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน

     

    “พอแล้วน่า...แล้วพี่คริสไม่เข้าไปดูแลร้านหรอ

     

    “เดี๋ยวค่อยเข้าไปก็ได้...ขออยู่กับนายก่อน”

     

    “อือ”

     

    “แล้วไปยังไงมายังไงถึงมาร้านพี่ได้เนี่ย?”

     

    คยองซูนิ่งไปนิดกับคำถามของคริส แต่ร่างเล็กก็รีบยิ้มกลบเกลื่อนก่อนจะตอบ “พอดีผมไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะมา ยังไม่อยากกลับบ้าน...ก็เลยมาเดินหาซื้อของกินก่อน จนมาเจอกับร้านของพี่นี่ล่ะครับ ^^”

     

    “อย่างนายเนี่ยนะไปเดินเล่น?”

     

    “ไม่เห็นจะแปลกเลยนี่ครับ ^_^”

     

    “แปลกจะตาย เมื่อก่อนพี่เห็นนายเอาแต่อยู่ในบ้าน ไม่เห็นจะเคยร้องให้พี่พาออกมาเดินเล่นหรือออกไปเดินเล่นกับคนอื่นเลย แล้วทำไมวันนี้ถึง...” คริสเว้นวรรคไปชั่วครู่ แล้วก้มมองร่างเล็กน้อยๆแล้วพูดต่อ "หรือว่าที่สวนนั่น...มีอะไรพิเศษหรือเปล่า?”

     

    “ไม่มีครับ...ไม่มีๆๆๆ”

     

    “จะย้ำทำไมหลายๆครั้ง...พี่ว่ามันต้องมีอะไรพิเศษที่นั่นแน่ๆเลย~” คริสลากเสียงยาวอย่างล้อๆเมื่อเห็นอาการเหลอหลาของคยองซู “อ่า...พี่ไม่แกล้งแล้ว ไม่ต้องทำตาโตขนาดนั้น ^^”

     

    “ไว้ผมจะเอาคืนพี่คริสบ้าง -^- ”

     

    “ขอให้มีวันนั้นแล้วกัน อ่า...พี่เข้าไปในร้านก่อนดีกว่า ใกล้มืดแล้ว พี่จะรีบไปเก็บร้านแล้วล่ะ ไปแล้วนะคยองซู ไว้เจอกันใหม่นะ ^^”

     

    “ครับพี่คริส บ๊ายบายครับ ^_^” 

     

    คยองซูยิ้มน้อยๆคนเดียวจนคริสเดินจากไป ร่างเล็กกำลังจะเดินออกไปจากบริเวณนั้นแต่อยู่ดีๆก็มีมือของใครไม่รู้รั้งข้อมือเขาไว้อย่างแรง

     

    “โอ๊ย!!! นายมาจับ...จงอิน!!!” คยองซูเอ่ยเสียงดังเมื่อได้เห็นใบหน้าชัดๆของคนที่กำข้อมือเขาไว้แน่น  ร่างเล็กเบิกตาโตกับร่างสูงที่แสดงอารมณ์โกรธออกมาผ่านทางการกระทำด้วยความรู้สึกหวาดกลัว ขาเล็กๆก้าวถอยหลังแล้วพยายามดึงข้อมือตัวเองกลับทั้งๆที่รู้ว่าทำยังไงก็คงเอามือหนาเหมือนคีมเหล็กนี้ออกไปจากข้อมือตัวเองได้

     

    “ตกใจที่ได้เจอฉันขนาดนี้เลยหรอ...คนหลายใจ”

     

    “นายว่าใครหลายใจ?” คยองซูเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยกับคำพูดของจงอิน

     

    “ก็นายไงล่ะ คยองซู”

     

    “ฉันไม่ใช่คนหลายใจ...นายเอาอะไรมาพูด!!!

     

    “ก็เมื่อวันนั้นนายยังบอกว่ารักฉันอยู่เลย...แต่วันนี้กลับมาคบกับผู้ชายอีกคนแถมยังจูบกันอีก ถ้าไม่เรียกว่าหลายใจ...จะให้เรียกว่าอะไร?”

     

    “ฉันกับพี่คริสเคยเป็นแฟนกันมาก่อน ถ้าเราจะกลับมาคบกันก็คงไม่แปลกอะไรสักหน่อย” คยองซูตอบกลับเสียงแข็ง เพื่อกลบเกลื่อนความกลัวที่กำลังก่อตัวขึ้นมาในหัวใจอย่างช้าๆ

     

    “งั้นถ้าฉันจะขอกลับมาคบกับนายบ้าง...ก็คงไม่แปลก”

     

    “ฉันจะไม่กลับไปคบกับนายหรอก...จำไว้ด้วย!!!” ร่างเล็กตวาดใส่หน้าจงอิน ร่างสูงที่พยายามสะกดอารมณ์ไม่นานถึงกับของขึ้นอีกครั้ง

     

    “โอเค...เราไม่ต้องกลับมาคบกันก็ได้ แต่ร่างกายนายต้องเป็นของฉันคนเดียว!!!” จงอินตะคอกแล้วลากร่างเล็กไปเส้นทางด้านหลังร้านทันที

     

    “นายจะพาฉันไปไหน!?! ปล่อยฉัน!!” 

     

    คยองซูพยายามจะหยุดเดินแต่ก็ทำไม่ได้เพราะแรงของจงอินมีมากกว่า ทำให้คยองซูได้แต่เดินเร็วๆตามแรงลากไปอย่างเสียไม่ได้

     

    “จงอิน!!! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!!! นายพาฉันมาที่นี่ทำไม!?!” 

     

    คยองซูเอ่ยถามเสียงดังเมื่อจงอินลากตนเองมาจนถึงบ้านหลังหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากร้านเบเกอรี่ของคริสสักเท่าไรนัก

     

     

    “บ้านฉันไง” 

     

     

    จงอินตอบแล้วรีบล้วงกุญแจในกระเป๋ากางเกงมาไขประตูเปิดออกอย่างรวดเร็ว คยองซูโดนลากขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน จงอินกระชากประตูห้องนอนของตัวเองออกอย่างแรงแล้วผลักคยองซูเข้าไปทันที

     

    “นะ...นายจะทำอะไร”

     

    คยองซูถามเสียงแผ่วพร้อมกับค่อยๆก้าวถอยหลัง จงอินกดล็อคประตูห้องนอนไว้ทันทีแล้วเดินเข้าไปใกล้คยองซูมากขึ้นเรื่อยๆ

     

    “ทำในสิ่งที่นายไม่คิดว่าฉันจะทำไง!” พูดจบ จงอินก็เหวี่ยงร่างของคยองซูขึ้นไปบนเตียงอย่างแรง แล้วตามขึ้นไปคร่อมทับร่างเล็กไว้อย่างรวดเร็ว

     

    “ไม่!! จงอิน....ไม่เอา!!!” 

     

    คยองซูร้องห้ามเสียงดัง มือเล็กพยายามผลักอกคนตัวโตกว่าให้ออกไปจากร่างของตน แต่มันทำได้ยากมาก...เพราะจงอินคร่อมทับร่างเขาไว้ทำให้คยองซูไม่อาจดันตัวเองหนีได้เลย

     

     

    นายเป็นของฉันคนเดียว!!! จำไว้นะคยองซู...ร่างกายของนาย..เป็นสิทธิ์ของฉันคนเดียว!!!”

     

     

    จงอินตะคอกเสียงดังตามแรงอารมณ์ที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ คยองซูมองร่างสูงด้วยดวงตาที่พร่าเลือนเพราะน้ำตาที่ไหลลงมาไม่ยอมหยุด กัดริมฝีปากล่างแน่นจนมันห้อเลือด

     

    จำทุกๆอย่างต่อจากนี้ไว้ให้ดีนะ...โดคยองซู!!!” จงอินตะโกนสุดเสียง เขาฉีกทึ้งเสื้อยืดสีขาวที่คยองซูใส่อยู่จนมันขาดวิ่นและหลุดออกไปจากร่างของคนตัวเล็กในที่สุด

     

     

     

     

    --------------------------------------------------------------

    ฉากจรรโลงใจ

    --------------------------------------------------------------

     

     

     

     

    ผมเป็นบ้าอะไรกันนะ...ผมทำอะไรลงไป...

     

     

    จงอินเอ่ยถามตัวเองซ้ำๆเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กหมดสติไปแล้ว เสียงร้องห้ามกับน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย ทำให้จงอินยิ่งรู้สึกผิดมากกว่าเดิม

     

    “ขอโทษนะคยองซู”

     

     

     
     

     

    ฉันทำอะไรผิด...

     

    ทำไมนายต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย...

     

    ทันทีที่ตื่นขึ้นมาตอนเช้าในสภาพที่ไม่มีอะไรเสื้อผ้าติดตัวเลยสักชิ้นกับอาการเจ็บปวดที่ช่วงล่างยิ่งทำให้ร่างเล็กยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม

     

    คยองซูกลั้นเสียงสะอื้นไว้ป้องกันไม่ให้จงอินที่กำลังนอนกอดเขาอยู่จากด้านหลังรู้ว่าเขาตื่นแล้วและกำลังร้องไห้..

     

     

    จงอิน...ทำไมนายถึงใจร้ายขนาดนี้

     

     

     

    ----------------------------------------

     

     

     



     

     

     

    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×