ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    one heart one love เพียงหนึ่งรัก | exo

    ลำดับตอนที่ #17 : One heart One love :: 14

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.5K
      2
      29 ต.ค. 57




    One Heart One Love

    -Fourteen-

     

     

    พี่ลู่หาน

     

    เสียงกระซิบที่ดังขึ้นข้างหูเรียกให้ลู่หานลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ ขยี้ตาเล็กน้อยก่อนจะทำตาโตเมื่อรู้ว่าใครเป็นคนเรียกตนเอง

     

    มาทำอะไรที่นี่อ่ะเซฮุน

     

    พี่แทมินไม่อยู่บ้านครับ... ส่วนพ่อกับแม่ก็เหมือนเดิม”  ท้ายประโยคเสียงทุ้มอ่อนลงเล็กน้อย ใบหน้าหล่อเหลาหมองลงก่อนจะพูดต่อ  “ไม่มีใครอยู่บ้านด้วย ผมก็เลยมาหาพี่ลู่หานดีกว่า

     

    แล้วมาหาพี่ยังไงล่ะเนี่ย?”

     

    ผมนั่งรถพี่แทมินมาก่อนที่พี่แทมินจะเลยไปทำธุระต่อครับ

     

    แล้วขากลับจะกลับยังไง? หรือคุณแทมินจะมารับกลับ?”

     

    คงนั่งรถกลับเอง... หรือพี่ลู่หานจะให้ผมนอนด้วยก็ได้นะ” เซฮุนเอ่ยติดตลก รอยยิ้มบางๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าเรียว ลู่หานยิ้มตามอย่างมีความสุข... แค่เห็นเซฮุนยิ้ม เขาก็มีความสุขแล้ว 

     

    เขาขอแค่รอยยิ้มของเซฮุน... รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข

     

    ...แค่นี้เขาก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว           

     

    ถ้านายอยากกินลูกปืน นายก็นอนที่นี่เลย พี่อนุญาต” 

     

    เซฮุนหน้าเหวอกับคำขู่ของคนตัวเล็ก ก่อนจะพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ “ผมไม่กลัวหรอก ก็แค่ลูกปืน จะกลัวทำไม ฮ่าๆๆๆ” 

     

    เสียงหัวเราะแห้งๆเรียกรอยยิ้มของลู่หานได้อย่างดี มือบางเอื้อมไปรั้งใบหน้าของเซฮุนเข้ามาใกล้ก่อนจะกดริมฝีปากลงไปบนแก้มนั้นแผ่วเบาแต่ก็ทำให้หัวใจพองโตขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้

     

    เซฮุนมองลู่หานอย่างเจ้าเล่ห์แล้วผละใบหน้าออกห่างจากอีกคนไปนิดหน่อยแล้วเอ่ยขึ้น “ยั่วหรอ?”

     

    แค่คำถามสั้นๆคำถามเดียวแต่มันก็ทำให้แก้มใสขึ้นสีแดงระเรื่อจนลามไปถึงหู เซฮุนเม้มปากแน่นอย่างใช้ความคิดแล้วรั้งเอวบางเข้ามาใกล้ตัว

     

    ถ้าไม่ตอบ ผมจะจูบพี่นะ

     

    ...ไม่ได้ยั่วสักหน่อย คิดเองเออเอง” ลู่หายส่ายหน้าปฏิเสธ  “พี่ตอบแล้วก็ห้ามจูบนะ

     

    เชื่อหรอว่าผมจะไม่จูบพี่ถ้าพี่ตอบ” ร่างสูงโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ ลมหายใจอุ่นร้อนที่รวยรินอยู่บริเวณผิวแก้มทำให้ใบหน้าสวยหวานแดงมากขึ้นกว่าเดิม “คิดผิดแล้วล่ะ

     

    ...”

     

    พูดไม่ทันจบประโยค เซฮุนก็ประทับริมฝีปากปิดกั้นคำพูดที่ลู่หานต้องการจะเอ่ยลงไปจนหมด สัมผัสราวกับปุยนุ่นจากการที่ริมฝีปากแตะกันเบาๆทำให้ลู่หานรู้ว่าตัวเองเสพติดจูบแบบนี้เข้าให้แล้ว... ไม่มีการล่วงล้ำ... แบบนี้ล่ะที่ลู่หานรักและชอบมากที่สุด

     

    เนิ่นนาน... กว่าเซฮุนจะผละริมฝีปากออก ลู่หานสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วหันมองร่างสูงที่กำลังมองมาที่ตัวเองอยู่เหมือนกัน

     

    นายพูดไม่เป็นคำพูด” ลู่หานว่าเสียงดุแฝงความตำหนิอยู่ในที แต่เซฮุนกลับมองว่ามันไม่ได้ดูน่ากลัวเลยสักนิด... เพราะมันน่ารักมากเลยต่างหาก อย่างนี้ต้องโดนลงโทษหน่อยแล้ว

     

    ลงโทษ?”

     

    ใช่แล้ว

     

    ขอผมคิดบทลงโทษได้ไหมอ่ะ?”

     

    เซฮุนทำหน้าออดอ้อน แขนเรียวยาวเกาะแขนลู่หานพร้อมทำตาปริบๆ แต่รอยยิ้มกลับเจ้าเล่ห์ผิดกับดวงตาที่พยายามปรับให้ใสซื่อเต็มที่อย่างสิ้นเชิง

     

    ทำหน้าเจ้าเล่ห์ขนาดนี้ พี่คงเชื่อใจได้หรอกนะ

     

    จะไม่ผิดคำพูดแบบเมื่อกี้แล้ว สัญญาเลย *O*” นิ้วก้อยถูกยื่นมาตรงหน้าลู่หาน ร่างเล็กมองนิ้วนั้นอย่างชั่งใจ ลังเลนิดหน่อยว่าจะสัญญากับคนเจ้าเล่ห์อย่างเซฮุนได้ไหม แต่สุดท้ายก็ยอมยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวกับนิ้วเซฮุน เจ้าของนิ้วนั้นยกยิ้มกว้างแล้วดึงลู่หานเข้าไปกอดแน่น 

     

    นี่ล่ะ...บทลงโทษของผม

     

    บทลงโทษอะไรกัน นี่มันเรียกของตอบแทนนายต่างหาก -3-“ ลู่หานทำปากยื่นเป็นเด็กๆ แล้วตีแขนเซฮุนไปแรงๆหนึ่งที “นี่สิถึงจะเรียกว่าลงโทษ

     

    การกอดต่างหากคือบทลงโทษ!”

     

    ตี!”

     

    กอด!”

     

    ตี!”

     

    กอด! กอดๆๆๆๆๆๆ! บอกว่ากอดไง!”

     

    พี่บอกว่าตี อย่าเถียงพี่สิ -___-“

     

    งั้นพี่ตี 1 ทีผมกอดพี่ 1 ครั้ง พี่ตี 2 ทีผมกอดพี่ 2 ครั้ง แต่ถ้าพี่ตีผมสามที ผมจะจูบพี่ ^^” เซฮุนเอ่ยตัดบทเสร็จสรรพ ลู่หานทำท่าจะเถียงแต่ก็โดนเซฮุนใช้นิ้วชี้แตะที่ปากเขาก่อน   “อ๊ะๆ... ผมเพิ่มบทลงโทษดีกว่า  ถ้าพี่พูดออกมาอีกครั้งผมก็จะจูบพี่นะ ถ้าผมไม่อนุญาตให้พูด พี่ห้ามพูด เข้าใจมั๊ย?”

     

    “…”  ลู่หานไม่ตอบแต่ขมวดคิ้วมุ่นอย่างขัดใจแทน

     

    ถ้าผมถามอะไรไปพี่ต้องทำแค่พยักหน้าหรือส่ายหน้าแทนคำตอบ โอเคนะ

     

    ลู่หานเบ้หน้า ขยับปากพึมพำออกมาเป็นคำพูดไร้เสียง

     

    เอางี้ก่อนจะเริ่มคำถาม... ผมให้สิทธิ์พี่พูดออกมาได้หนึ่งประโยค เชิญเลยครับ ^_^”

     

    ตกลงเป็นพี่หรือนายกันแน่ที่ต้องลงโทษอีกฝ่าย -3- มันต้องเป็นพี่สิที่ลงโทษนาย เมื่อกี้พี่แค่ให้นายคิดบทลงโทษ แต่นี่อะไร.. บทลงโทษนี่นายได้เปรียบทุกอย่างเลย ไม่แฟร์อ่ะ” ลู่หานพูดรัวๆก่อนตีแขนเซฮุนไปหนึ่งทีอย่างลืมตัว มารู้สึกก็ตอนที่เซฮุนกอดตัวเองแน่นๆนั่นแหละที่ทำให้รู้ว่าพลาดไปแล้ว

     

    ขี้โกง =[]=!!!”

     

    จุ๊บ~

     

    อนุญาตแค่หนึ่งประโยคเองนะ ^^ เมื่อกี้พี่พูดเกินไปประโยคหนึ่งแถมยังตีผมอีกต่างหาก หนึ่งจูบกับหนึ่งกอดพอดี ><”

     

    “…” 

     

    ลู่หานทำหน้ามุ่ยหนักกว่าเดิม กอดอกตัวเองแน่น รอฟังคำถามที่เซฮุนจะถามอย่างตั้งใจ

     

    มาเริ่มคำถามแรกเลยดีกว่า

     

    “…”

     

    ทำไมพี่ถึงชอบผม ให้พูดได้ 3 พยางค์

     

    พี่ไม่รู้

     

    ห้ามตอบว่าไม่รู้นะครับ ^^”

     

    “…”

     

    ตอบช้าแบบนี้... หรือจะเพิ่มกติกาเป็นจับเวลาด้วยดี?” เซฮุนทำหน้าครุ่นคิด ลู่หานได้ยินอย่างนั้นจึงรีบตอบออกมาทันที 

     

    นายน่ารัก!”

     

    ขอคำตอบนี้อีก 5 พยางค์ รวมเป็น 8 พยางค์

     

    นายน่ารักแถมดีกับพี่ด้วย” ลู่หานเอ่ยพร้อมใบหน้าที่ขึ้นสีแดงจัดจนเซฮุนอดไม่ได้ที่จะหยิกแก้มใสๆนั่น

     

    งั้นคำถามต่อไป... พี่รักผมไหมห้ามพูดนะ

     

    ลู่หานส่ายหน้าแรงๆ หวังแกล้งเซฮุนเต็มที แต่พอเห็นใบหน้าหงอยๆนั้นก็ทำให้รู้สึกผิดขึ้นมาจนต้องเปลี่ยนเป็นพยักหน้ารับแทน ร่างสูงเผยยิ้มแล้วกุมมือลู่หานไว้แน่น

     

    รักพี่เหมือนกันนะครับ

     

    ลู่หานพยักหน้า

     

    ฮ่าๆๆๆๆ อันนี้ให้พูดก็ได้ พูดเต็มที่เลย

     

    รักนายเหมือนกัน เซฮุนอา~~~” พูดแล้วก็ยื่นมือไปหยิกจมูกโด่งๆด้วยความหมั่นไส้ เซฮุนส่ายหน้าเป็นเชิงบอกให้ลู่หานหยุดทำซักที แต่ดูท่าร่างเล็กจะไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย มือเล็กยังคงหยิกจมูกอีกคนเล่นอย่างสนุกมือ

     

    หยุดหยิกจมูกผมเลยนะถ้าไม่หยุด ผมจูบ” เซฮุนขู่พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เพราะรู้ว่าคำขู่นี้ได้ผลเสมอ ลู่หานชะงักแล้วค่อยๆลดมือลงแนบลำตัวอย่างเดิม

     

    คำถามต่อไปเลยแล้วกัน... ถ้าวันหนึ่งผมตายไป พี่จะยังรักผมอยู่ไหม

     

    ไม่มีคำตอบใดหลุดออกจากริมฝีปากสีชมพู... ร่างเล็กนั่งนิ่งราวกับกำลังประมวลคำถาม ความเงียบที่ยาวนาน... ค่อยๆกัดกร่อนหัวใจของเซฮุนช้าๆ... ความเงียบที่ได้ยินเพียงแค่เสียงลมหายใจของกันและกันบีบรัดหัวใจของเซฮุนจนเจ็บ... ความทรมานจากการที่ลู่หานไม่ตอบอะไรเลยทำให้เซฮุนรู้สึกกลัวขึ้นมา

     

    หรือว่าพี่ลู่หานจะไม่รักเขาอีกแล้วถ้าเขาตายจากไป

     

    พี่ลู่หาน...จะไปรักคนอื่นใช่ไหม

     

    ทำไมพี่ไม่ตอบล่ะ

     

    “…”

     

    หรือว่าพี่จะไม่รักผมอีก... ถ้าผมตายไป...”

     

    ประโยคตัดพ้อทำให้ลู่หานเงยหน้าขึ้นมา กัดปากตัวเองอย่างหนักใจ มือบางกำผ้าห่มแน่นจนยับยู่ยี่ กระทั่งในที่สุดลู่หานก็ยอมตอบออกมาแต่โดยดี

     

     พี่รักนาย รักเสมอ... รักตลอดไป

     

    “…”

     

    แล้วที่พี่ไม่ตอบ... เพราะพี่รู้ว่ามันคงไม่มีวันที่นายจะตายจากพี่ไปก่อนหรอก มันไม่มีทางมีวันนั้น ^^”   

     

    ลู่หานฝืนยิ้มทั้งที่ในใจกำลังร้องไห้ ความรู้สึกเหมือนมีลางสังหรณ์ว่าเซฮุนจะจากไปจริงๆอย่างที่เจ้าตัวถามออกมา...  กำลังทลายความเข้มแข็งทั้งหมดให้มลายลงอย่างรวดเร็ว... จะประกอบให้เหมือนเดิมอีกครั้งก็คงทำได้ยากยิ่ง

     

    ความเข้มแข็งที่ถูกสร้างปกปิดความอ่อนแอในใจพังทลายไม่เหลือชิ้นดี... แม้แต่เศษเสี้ยวความเข้มแข็งก็ไม่เหลืออีกแล้วในใจของลู่หานเขากลัว... กลัวกับอนาคตที่มองไม่เห็น... กลัวกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น... กลัวสิ่งที่เรียกว่าการจากลา

     

    น้ำตาแห่งความอ่อนแอไหลรินลงมาคล้ายระบายความเข้มแข็งทั้งหมดในใจให้จางหายไป เพื่อที่ความอ่อนแอจะได้แทรกเข้ามาแทนที่

     

    เซฮุนมองภาพตรงหน้าอย่างอึ้งๆ... พี่ลู่หานร้องไห้อีกแล้ว

     

    เขาเกลียดน้ำตา...โดยเฉพาะถ้ามันเป็นน้ำตาจากคนที่เขารัก

     

    ...เขายิ่งเกลียด

     

    ถึงจะไม่รู้สาเหตุว่าทำไมลู่หานถึงร้องไห้ออกมาหนักขนาดนี้ แต่เซฮุนก็รีบขยับเข้าไปใกล้ร่างของอีกคน กอดร่างที่สั่นเทาไว้แน่น มองลู่หานแล้วก็รู้สึกเกลียดตัวเองขึ้นมาเฉยๆ

     

    หรือว่าพี่ลู่หานจะร้องไห้เพราะคำถามเมื่อกี้?

     

    เซฮุนทำท่าจะถามแต่แล้วก็ปิดปากฉับ ถ้าถามออกไปตอนนี้เรื่องอาจจะแย่ลง รอพี่ลู่หานหยุดร้องไห้แล้วค่อยถามดีกว่า

     

    ความเงียบอันแสนน่ากลัว... เวลาที่เดินไปอย่างรวดเร็ว... ฟ้าที่เริ่มมืดลงเรื่อยๆ... ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังทำให้เซฮุนร้อนใจ

     

    เขาเหลือเวลาอยู่กับพี่ลู่หานอีกแค่นิดเดียวเองหรอ...

     

    บ้าชะมัดเลย...

     

    พี่ลู่หาน

     

    เซฮุนร้องเรียกคนในอ้อมกอดเบาๆ ลู่หานยังคงนิ่งอยู่อย่างนั้นกระทั่งเซฮุนผละร่างนั้นออกจากอกของตัวเองถึงรู้ว่าลู่หานร้องไห้จนหลับไปแล้ว

     

    ร่างสูงมองพี่ชายตัวเล็กน้อยๆแล้วจัดท่าให้ลู่หานนอนอย่างสบายที่สุด ดึงผ้าห่มผืนหนาขึ้นมาจนถึงลำคอ... ก่อนจะจูบลู่หานอีกครั้งอย่างแผ่วเบา... แล้วร่างสูงก็รีบเดินออกจากห้องไปในทันที

     

    เซฮุนปิดประตูบานใหญ่เบาๆ มองไปรอบข้างก็ไม่พบสิ่งผิดปกติอะไรจึงรีบเดินห่างห้องพักของลู่หานไปอย่างรีบร้อน

     

    พรุ่งนี้ผมจะมาหาใหม่นะครับ

     

     

     

     

    มีคนแอบมาหาคุณลู่หานครับ

     

    ชายร่างสูงในชุดเสื้อยืดธรรมดากับกางเกงยีนส์สีซีดก้าวออกมาจากที่ซ่อน กรอกเสียงรายงานปลายสายไปพร้อมกับมองตามหลังเซฮุนที่ทิ้งห่างไปเรื่อยๆ ใบหน้าคมนิ่งเรียบจนน่ากลัว ริมฝีปากหยักยิ้มเล็กน้อยตามแบบฉบับของตัวเอง ดวงตาสีดำสนิทกลอกไปมาอย่างเซ็งๆ ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ที่ตั้งอยู่หน้าห้องของลู่หาน 

     

    [อืม... งั้นพรุ่งนี้แกต้องไปที่นั่นเร็วกว่านี้]

     

    มาเร็วกว่านี้?”

     

    [ใช่แล้ว... พรุ่งนี้แกต้องจับตัวไอ้คนที่มาหาลู่หานไปไว้ที่บ้านเล็กก่อน จับขังไว้เลยนะ ส่วนเรื่องอื่นเดี๋ยวฉันจะโทรบอกอีกที

     

    แล้วผมต้องไปหาประวัติไอ้เด็กนั่นด้วยไหมครับ?”

     

    [ไม่ต้องก็ได้... ถ้าเดาไม่ผิดไอ้เด็กนั่นน่าจะเป็นแฟนลู่หานที่ชื่อเซฮุนแน่ๆ]

     

    โอเคครับ... ไว้พรุ่งนี้จับมันได้เมื่อไรจะรีบโทรแจ้งนะครับ

     

    [อืม]

     

    ร่างสูงตัดสายไปทันทีแล้วหย่อนโทรศัพท์เครื่องบางลงไปในกระเป๋าสะพายที่หยิบติดมาด้วย

     

    มินโฮ’ ยิ้มมุมปาก แววตาที่ดูไม่เป็นมิตรเหี้ยมเกรียมขึ้นอย่างน่ากลัวเมื่อนึกไปถึงเหตุผลที่เขาตัดสินใจมาทำงานนี้ให้ชองยุนโฮ

     

    อีแทมินยังตัดใจจากแฟนเก่าไม่ลง

     

    เขารู้ว่าแทมินเพียรพยายามติดต่อแฟนเก่าตลอดเวลาที่คบกัน เขาต้องทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเรื่องทั้งหมดและทำร้ายร่างกายคนตัวเล็กแทบจะทุกครั้งที่รู้ว่าแทมินแอบหาข้อมูลของคิมจงอินตลอด 2 ปีเต็มจนในที่สุดความอดทนของเขาก็เดินมาถึงทางตัน

     

    มินโฮบอกเลิกแทมินอย่างเย็นชา คิดไว้แล้วว่าแทมินอาจจะร้องไห้เพราะน่าจะผูกพันกับเขาอยู่บ้าง แต่เปล่าเลย... แทมินไม่มีน้ำตาแม้สักหยดให้เขาเห็น มีเพียงรอยยิ้มบางๆพร้อมกับคำพูดทิ่มแทงใจให้เขาเจ็บเล่นๆเท่านั้น

     

     

    ฉันรอเวลาที่นายจะพูดคำนี้มานานแล้ว... ขอบคุณที่ในที่สุดนายก็ปล่อยฉันเป็นอิสระสักที

     

     

    หลังจากนั้นไม่กี่วันแทมินก็นั่งเครื่องกลับมาเกาหลี และเป้าหมายที่ร่างเล็กต้องการพบก็คงหนีไม่พ้นแฟนคนเก่า

     

    คิมจงอิน...

     

    มินโฮเฝ้าเก็บความแค้นนี้ไว้มานานจนในที่สุด ชองยุนโฮ...ญาติผู้พี่ก็ยื่นงานเสนอให้เขา

     

    งานที่จะได้แก้แค้นลีแทมินอย่างสาสม...

     

    เขาตกลงทำงานตามแผนของยุนโฮโดยไม่เสียเวลาคิดเลยแม้แต่น้อย... เขารู้แค่ว่าต้องแก้แค้น

     

    เขาเกลียดลีแทมิน...และเกลียดคิมจงอินด้วยเช่นกัน

     

    ทั้งๆที่เขาดีกว่าจงอินแทบทุกอย่าง... ทั้งหน้าที่การงาน... ฐานะ... หน้าตาในสังคม... การศึกษา... แต่ลีแทมินก็ยังเลือกจงอินโดยไม่แคร์เลยว่าเขาก็เจ็บเป็นเหมือนกันกับการที่แทมินทิ้งเขากลับมาเกาหลีอย่างไม่ใยดี

     

    มินโฮนั่งนิ่งระงับอารมณ์... เม้มปากตัวเองแน่น 

     

     

    อีแทมิน... ฉันจะเกลียดนายไปจนวันตาย

     

     

    ----------------------------------------

     

     

    แบคฮยอน...”

     

    ชานยอลเปิดเปลือกตาที่แสนหนักอึ้งขึ้นช้าๆ เอ่ยเรียกแบคฮยอนเบาๆแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับอะไรกลับมา

     

    สายตาคู่คมมองไปรอบๆที่ที่เขาอยู่อย่างสับสน...

     

    เขารู้แค่ว่าลูกน้องของเทาพาเขามาที่รถ โดยมีแบคฮยอนนั่งอยู่ข้างๆ แต่หลังจากนั้นเขาก็นึกอะไรไม่ออกเลย... รู้แค่ว่าตัวเองยังเจ็บบริเวณต้นคออยู่เท่านั้น

     

    ที่นี่ที่ไหน?

     

    แล้วแบคฮยอน...

     

    ฟื้นแล้วหรอ

     

    เสียงทุ้มของใครสักคนดังขึ้นข้างหู ชานยอลรีบขยับตัวหนี แม้จะมองไม่เห็นอะไรก็ตามเพราะความมืดที่เข้ากลืนกินห้องนี้โดยสมบูรณ์ แต่เขาก็รับรู้ได้ว่าคนคนนั้นจะเป็นใครไม่ได้ถ้าไม่ใช่...

     

     ..เทา...

     

    นายพาฉันมาที่ไหน... แล้วแบคฮยอน... แบคฮยอนอยู่ไหนนายทำอะไรเขา?!”

     

    ทันทีที่ได้สติชานยอลก็พุ่งใส่เทาเต็มแรง มือหนากำคอเสื้อของอีกคนไว้แน่น เทาเงยหน้ามองชานยอลอย่างท้าทาย จับข้อมือคนที่กำคอเสื้อเขาไว้แล้วออกแรงบีบมันจนชานยอลร้องเสียงหลง รีบชักมือตัวเองกลับมาอย่างรวดเร็ว

     

    ผมไม่จำเป็นต้องตอบคำถามพี่

     

    ชานยอลถลึงตาใส่คนที่ลุกยืนค้ำหัวเขาอย่างโมโห ร่างสูงทำท่าจะลุกตามแต่ก็โดนอะไรบางอย่างรั้งเขาไว้ไม่ให้ขยับ

     

    ...โซ่

     

    ผมคงต้องจับพี่ล่ามไว้ก่อนน่ะ อย่าโกรธผมแล้วกัน ไว้พ่อกับแม่กลับมาเมื่อไรผมจะรีบมาเล่า ‘ความจริงทุกอย่างให้พี่ฟัง

     

    “…”

     

    ตอนนี้ก็ทนอยู่อย่างนี้ไปก่อนแล้วกัน...นะครับ” เทากดเสียงต่ำแล้วเดินออกจากห้องไป 

     

    ชานยอลกัดฟันแน่นอย่างแค้นใจ เขามองไม่เห็นสักอย่างว่าในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆแคบๆนี้มีอะไรอยู่บ้าง... เขาเห็นแค่โซ่ขนาดใหญ่ที่ล่ามเขาไว้กับเสากลางห้องเท่านั้น

     

    ชานยอลทิ้งตัวลงนอนอย่างหมดแรง ขืนดิ้นหนีไปก็ไม่มีประโยชน์สู้อยู่เฉยๆเก็บแรงไว้ปะทะกับเทาครั้งหน้าจะดีกว่า

     

    เวลาผ่านไปเรื่อยๆโดยที่ชานยอลไม่รู้ตัว เขาเตรียมจะนอนต่ออีกครั้งหากไม่ได้ยินเสียงกรีดร้องที่ดังมาจากห้องข้างๆ... เสียงของแบคฮยอน!

     

    ชานยอลขยับตัวไปใกล้กับผนังห้อง ตั้งใจฟังเสียงทะเลาะกันที่ดังมาจากห้องข้างๆอย่างร้อนรน... แบคฮยอนอยู่ห้องถัดไปแน่ๆ

     

    แบคฮยอนจะเป็นอะไรหรือเปล่านะ...

     

    ฉันอยากไปหานายจังเลยแบคฺฮยอน... ฉันเป็นห่วงนาย

     

     

     

     

    พี่แบคฮยอน ผมรู้ว่าพี่ตื่นแล้ว

     

    เทาขยับเข้ามาใกล้ร่างของแบคฮยอน ทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามกับร่างเล็กที่โดนล่ามโซ่ไว้ทั้งแขนและขา ต่างจากชานยอลที่โดนล่ามแค่ขาเท่านั้น แล้วเริ่มเปิดบทสนทนาทันที

     

    ถ้าพี่อยากหลับตาคุยก็ตามใจ

     

    “…”

     

    พี่รู้ไหมว่าผมเสียเวลาแค่ไหนกับการต้องสะกดรอยตามพี่” เทาเอ่ยติดจะโมโหนิดๆ “พี่แม่งโคตรดื้อด้านเลยว่ะ อยู่ดีๆก็ไม่ชอบ ต้องหนีกลับมาเกาหลีกับแฟนเก่า

     

    “…”

     

    หนีกลับมาทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีประโยชน์อะไรเลย

     

    “…”

     

    ไม่คิดจะเถียงอะไรหน่อยหรอ

     

    “…”

     

    เฮ้... นี่คือคำสั่ง พี่ต้องพูดกับผมเดี๋ยวนี้!” 

     

    เสียงเชิงออกคำสั่งแข็งกร้าว มือหนาเชยคางของแบคฮยอนขึ้นอย่างแรงจนแบคฮยอนเผลอลืมตาขึ้นมา แต่ก็รีบปิดลงไปทันทีเมื่อเจอกับดวงตาสีดำสนิทเหมือนสีรัตติกาลจ้องเขาเขม็ง

     

    ได้... อยากลองดีกับผมใช่ไหม

     

    พลั่ก!

     

    เทาผลักร่างเล็กจนแผ่นหลังชิดกับกำแพงอันแสนเย็นเฉียบเพราะมันเป็นห้องที่ไม่ได้ใช้งานมานานแถมนี่ยังเป็นฤดูหนาวอีกต่างหาก 

     

    มือหนาบีบคางมนแรงขึ้นตามอารมณ์โกรธที่ปะทุเกินจะห้ามไหว ส่วนมืออีกข้างก็กดแขนที่มีรอยช้ำลงไปกับกำแพงจนแบคฮยอนร้องโอดโอยเสียงดัง

     

    โอ๊ยยย!  ปล่อยฉัน!!!”

     

    พูดได้แล้วสินะ... พี่เป็นพวกนิยมความรุนแรงหรือไงถึงไม่ตอบผมแต่แรก ต้องให้ผมออกแรงหรือไงถึงจะยอมทำตามที่ผมสั่งน่ะ!?”

     

    ไม่ใช่เรื่องของนาย!”

     

    ทำไมจะไม่ใช่...ในเมื่อผมเป็นคู่หมั้นของพี่... ผมมีสิทธิ์รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับพี่!”

     

    ฉันไม่ใช่คู่หมั้นนาย หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ! ฉันไม่อยากฟัง!!!” 

     

    แบคฮยอนร้องเสียงดังลั่นห้อง ยกมือขึ้นปิดหูตัวเองแล้วหลับตาลง ไม่อยากเห็นอะไรทั้งนั้น... ไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น

     

    เขาเกลียดคนคนนี้...เกลียดเทา

     

    ถึงพี่จะเกลียดผม... แต่ความจริงยังไงมันก็คือความจริงอยู่วันยันค่ำ... สิ่งที่พี่ทำได้มีแค่ยอมรับกับไม่ยอมรับเท่านั้น

     

    “…”

     

    แต่ผมขอเตือนไว้ก่อน... อย่าคิดขัดขืนหรือต่อต้านผมเด็ดขาด

     

    “…”

     

    ชีวิตพี่ตอนนี้ก็เหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย... สามารถขาดออกจากกันได้ทุกเมื่อถ้าผมต้องการ... ชีวิตของพี่อยู่ในกำมือผมแล้ว จำไว้ซะ พยอนแบคฮยอน!!!”

     

    ตะคอกเลร็จเทาก็ปล่อยคางแบคฮยอนอย่างแรงจนร่างเล็กหน้าหัน แล้วเดินถอยห่างออกไป 

     

    แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นจ้องเทาตอบอย่างไม่ยอมแพ้

     

    เทาเพียงแค่ยกยิ้มมุมปากและยักไหล่อย่างไม่สนใจ  ก่อนจะเดินหนีออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วโดยไม่แม้แต่จะหันมามองอีกคนเลยแม้แต่หางตา

     

    พอประตูปิดลงแบคฮยอนก็ปล่อยทำนบน้ำตาลงมาทันที

     

    เจ็บทั้งกายเจ็บทั้งใจ...

     

    น้ำตาที่ไหลลงมาไม่ใช่น้ำตาแห่งความอ่อนแอ...แต่เป็นน้ำตาแห่งความแค้นต่างหาก

     

    ฉันไม่มีวันทำตามคำสั่งนายแน่เทา... จำเอาไว้เลย

     


    ----------------------------------------

     

     


    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×