คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : อาหารญี่ปุ่น
.เย็นวันนั้น................
“นายมาสาย5นาที” เรมีมองปอนด์เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ สายตาข่มขู่ของเธอทำให้ปอนด์กลัวจนหัวหด
“ผมเป็นเวรทำความสะอาดครับ”
“ไม่ได้ถามใครสั่งให้ตอบ” เสียงที่แสนจะเย็นชาของเรมีเอ่ยขึ้น ปากบางได้รูปพร้อมจะเปล่งวาจาเชือดเฉือนออกมาได้ทุกเมื่อ
“ขอโทษครับ”ชายหนุ่มพูดพร้อมกับปาดเหงื่อเม็ดเป้งบนหน้าผาก พลางก้มหน้าก้มตาไม่ยอมสบตาหญิงสาวตรงหน้า
“เดี๋ยวเราไปหาอะไรกินกันดีกว่า อยากกินอะไรล่ะ
“OxO”
“ฉันพูดแล้วไม่พูดด้วยเนี่ย หาเรื่องเหรอ” แววตาของเธอวาวโรจน์ น้ำเสียงหาเรื่องเต็มที่
..ซวยแล้วไอ้ปอนด์ ทำสาวโหดโกรธจนได้...............
“คือ.....เอ่อ.....ไม่ใช่ครับ.....ผะ..ผม..”น้ำเสียงของปอนด์สั่นเครือ
“พอเหอะ พูดติดอ่างอยู่ได้ รำคาญ”
“ขอโทษครับ”
“นายทำอะไรผิด ทำไมต้องขอโทษด้วย พูดแต่ขอโทษขอโทษ ถ้าฉันได้ยินคำว่าขอโทษจากปากนายอีกคำเดียวนะ ฉันจะเชือดคอนาย เข้าใจมั้ย” ท้ายประโยคพูดด้วยเสียงอันเหี้ยมเกรียม
“เข้าใจคร้าบบบบToT”
“เราไปหาอะไรกินกันเถอะ นายซื่อบื้อ” เรมีพูดกับชายหนุ่มตรงหน้าแล้วหมุนตัวเดินนำไปก่อน ทิ้งให้ชายหนุ่มยืนงงอยู่ตามลำพัง
“นายซื่อบื้อ นี่มันใครวะ”ปอนด์พึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะเดินตามเรมีไป
บรรยากาศยามเลิกเรียนช่างวุ่นวาย นักเรียนเดินสวนกันไปมาอย่างขวักไขว่ คู่รักหลายๆคู่ก็พากันจับจองที่นั่งแถวร้านคอฟฟี่ชอฟเก๋ๆ บางคนยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะไม้หินอ่อนใต้ต้นไม้พร้อมหนังสือในมือ นักเรียนชายพากันจับกลุ่มเล่นกีฬาที่ตนเองถนัด เหล่านักเรียนหญิงก็ไปชอปปิงตามศูนย์การค้าดังๆในย่านนั้นๆ เรมีและปอนด์เดินทอดน่องผ่านร้านอาหารต่างๆมากมาย ไม่มีใครคิดพูดอะไรซักอย่าง ต่างคนต่างจมอยู่ในความคิดของตนเอง
“นายอยากกินอะไรล่ะ”เรมีเป็นผู้เอ่ยทำลายความเงียบที่น่าอึดอัด
“อะไรก็ได้ครับ ที่ไม่ใช่อาหารญี่ปุ่น”
“งั้นฉันจะกินอาหารญี่ปุ่น”สาวโหดพูดพร้อมกับก้าวเข้าไปในร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง
ปอนด์ยังคงยืนอ้าปากค้างกับการกระทำของเธอ
นี่เธอฟังเขาพูดไม่รู้เรื่องรึไงนะ เขาก็ได้แค่คิดเท่านั้น ถ้าขืนพูดออกไปล่ะตายแน่
“ถ้าไม่อยากตายก็รีบตามเข้ามา” เรมีโผล่หน้าออกมาจากประตูกระจกของร้านพร้อมกันเสียงที่บ่งบอกถึงความหงุดหงิดเต็มที
(_ _) (-_-) (_ _) (-_-) ปอนด์ยังคงก้มหน้าก้มตายอมรับชะตากรรมของตนเอง
“จะกินอะไรก็สั่งซิ” เสียงพูดขึ้นลอยๆของสาวโหดทำให้เขาต้องหันมาสบตาเธอ เขาอยากจะบอกเหลือเกินว่า
เขาแพ้อาหารญี่ปุ่น
“นายอยากพูดอะไรรึเปล่า ตอนนี้ฉันอนุญาตให้นายพูด”
ใชแล้ว เขาต้องรอให้เรมีอนุญาตก่อนนั้นเองถึงจะพูดได้ “คือผมแพ้อาหารญี่ปุ่นครับ”
“ใครใช้ให้นายแพ้”
คำตอบของเรมีทำเอาเขาอึ้ง แล้วจะให้ตอบว่าไงเนี่ย
“ไม่มีใครใช้ครับ คือ...มันเป็นตั้งแต่เกิด” ปอนด์ตอบอย่างระวังคำพูดมากที่สุด ด้วยกลัวว่าคำพูดของเขาอาจไปสะกิดต่อม’อยากฆ่าคน’ของหญิงสาวตรงหน้า
“แล้วจะเกิดมาทำไม”
“ห๊ะ” คำตอบของเรมีทำเอาเขาอึ้งอีกครั้ง แถมอึ้งกว่าครั้งที่แล้วอีก นี่เธอไม่มีคำถามที่มันสร้างสรรค์กว่านี้ที่จะถามเขาแล้วรึไง
“เอ่อ คือตอนนี้ทางร้านของเรามีโปรโมชั่นพิเศษนะคะ” พนักงานร้านเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าบรรยากาศเริ่มไม่ดี พร้อมกับมือที่เอื้อมไปหยิบโบรชัวร์ที่อยู่หลังกระเป๋า “นี่ค่ะ เป็นโปรโมชั่นสำหรับคนที่มาเป็นคู่รักนะคะ ลดค่าอาหารทันที10% พร้อมของสมนาคุณจากทางร้านค่ะ” ใบหน้าของสาวพนักงานยังคงยิ้มแย้ม
“เรา2คนไม่ได้เป็นคู่รัก แต่เป็นแฟน” เรมีพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“เอ๋ คู่รักกับแฟนก็เหมือนกันแหละค่ะ
“-*-“สายตาจิกทิ่มแทงของเรมียังใช้ได้เสมอ ผลของมันคือทำให้ผู้รับเกิดอาการ’กลัว’นั่นเอง ”บอกว่าไม่เหมือนก็ไม่เหมือนสิ”
“ค่ะๆ ไม่เหมือนค่ะ” พนักงานร้านยิ้มแห้งๆพร้อมกับหันหน้าไปหาปอนด์ สายตาเหมือนจะบอกปอนด์ว่า ถ้ามีแฟนแบบนี้ แกไปฆ่าตัวตายดีกว่าปะ
“ฉันเอาอาหารชุดที่สองละกัน” เจ้าของแววตาประกายแห่งความกลัวหันมาถามปอนด์ “แล้วนายล่ะ”
“ผมเอาเอ่อ...” ปอนด์กวาดสายตาไปทั่วเมนู พร้อมกับนึกในใจ
.....บอกว่าแพ้อาหารญี่ปุ่น ยังจะถามอีกว่ากินอะไร.....
“ผมขอชาเขียวแก้วนึงแล้วกันครับ”
พนักงานสาวโค้งหัวรับก่อนจะเดินลับไป
อาหารหลากหลายถูกลำเลียงมาบนโต๊ะ ทุกจานถูกตกแต่งมาอย่างสวยงามจากฝีมือกุ๊กชั้นเลิศ เรมีหักตะเกียบออกจากกันก่อนจะลงมือกิน ในขณะที่ปอนด์มีเพียงชาเขียวไว้ดับกระหายเท่านั้น
“จะกินก็ได้นะ ฉันไม่ว่า”
อยากจะบอกเป็นครั้งที่2แล้วว่า “ผมแพ้อาหารญี่ปุ่นครับ”
“อ๋อ ใช่ฉันลืมไป แต่นายต้องจำไว้ว่าฉันไม่ชอบจำรายละเอียดเล็กๆน้อยๆหรอกนะ”
(_ _)(-_-)(_ _)(-_-)
แล้วอีกอย่าง ฉันไม่ชอบผักชี อี๋” เรมีคีบผักชีออกด้วยสีหน้าเหม็นเขียวเต็มที เธอทำอย่างกับว่าผักชีเป็นหนอนเน่าก็ไม่ปาน
“แล้วอีกอย่างสำคัญที่สุด” เรมีหยุดพูดเพียงอึดใจ เนื่องจากเธอเคี้ยวซูชิอยู่ “ฉันไม่ชอบให้ใครมาสั่ง”
.......โหดอย่างนี้ ยังมีคนกล้าสั่งอีกเหรอ..... และเป็นอีกครั้งที่ปอนด์ทำได้แค่คิดในใจ
“แล้วนายอยากกินอะไรต่อมั้ย ชาเขียวแก้วเดียวจะอิ่มเหรอ”
อยากตะโกนบอกเป็นครั้งที่3แล้วว่า “ผมแพ้อาหารญี่ปุ่นครับ”
“ฉันลืมไป”
.......ยัยผู้หญิงความจำสั้น นอกจากโหดแล้วยังขี้ลืมอีก.......
“ไปกันเถอะ” หลังจากที่เรมีจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว เธอก็ลากปอนด์ออกจากร้านด้วยความรวดเร็ว
“จะรีบไปไหนครับ”
“ฉันต้องรีบกลับบ้าน และนายต้องเป็นคนไปส่งฉันด้วย”
“แต่ว่า....”
“นี่คือคำสั่ง” เรมีเอ่ยเสียงเฉียบขาด และเป็นเสียงที่ทำให้เขาต้องทำตามเสียด้วย นี่เขาต้องทนเป็นเบี้ยล่างของผู้หญิงคนนี้อีกนานเท่าไหร่เนี่ย
ปอนด์ตั้งหน้าตั้งตาปั่นจักรยานต่อไป เหงื่อเม็ดเล็กๆผุดขึ้นบนหน้าผากก่อนจะไหลย้อยมาตรงขมับ แต่คนซ้อนนี่ซิแสนสบายนั่งเฉยๆ แถมยังกินขนมสบายใจเฉิบ
“เร็วๆหน่อยได้ไหม ถ้าฉันโดนป๊าด่าแล้วฉันจะโทษนาย”
“อยากให้เร็วกว่านี้ก็มาปั่นเองซิ” ปอนด์พึมพำกับตัวเองเบาๆ
“นายว่าไงนะ” เรมีพูดเสียงเกือบตวาด
“เปล่าครับเปล่า” ตอนนี้ปอนด์รู้สึกถึงลางร้ายที่ใกล้เข้ามา
“ก็ได้ฉันจะปั่นเอง แต่นายลงไปเดินซะ”
“แต่นี่มันจักรยานผมนะ”
“นายกล้าเถียงงั้นเหรอ”น้ำเสียงข่มขู่เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
ปอนด์จำต้องลงจากรถจักรยานของตนเองแล้ววิ่งตามเรมีซึ่งขี่จักรยานของเขาไปหน้าตาเฉย จากที่ปั่นจักรยานเหนื่อยอยู่แล้ว พอวิ่งตามเหนื่อกว่าอีก ต่อไปนี้เขาต้องจำไว้ว่าเวลาคิดอะไรไม่ควรพูดออกมา แม้จะแค่พึมพำเบาก็ตาม เขาวิ่งตามเรมีมาเรื่อยๆ จนกระทั่ง
“นี่แหละบ้านฉัน”
ปอนด์เงยหน้าขึ้น’บ้าน’ตรงหน้า บ้านหลังใหญ่โตดูโอ่อ่า มีสนามหญ้าเขียวชอุ่มล้อมรอบ และลานน้ำพุอันหรูหราตั้งอยู่ใจกลางสวน ลองดูจากตัวบ้านแล้วเนี่ย ไม่ต้องเดาเลยก็รู้ว่าห้องน้ำบ้านนี้ต้องใหญ่กว่าห้องน้ำเขาแน่นอน
แบบนี้ไม่น่าเรียกว่าบ้านแล้ว ต้องเรียกคฤหาสน์
“นายจะเข้าไปหาป๊าฉันมั้ย”เรมีหันมาถามชายหนุ่มที่ยังยืนตะลึงกับคฤหาสน์ของเธอ
(-_- )( -_-)(-_- )( -_-) “ไม่ดีกว่าครับ”
“แต่นายต้องไป” เรมีเอ่ยด้วยเสียงเฉียบขาด พร้อมกับลากปอนด์เข้าไปในบ้านจนได้
....................บังคับกันแบบนี้จะถามก่อนทำไมฟะ...................
ความคิดเห็น