ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักของนายโอตาคุ(เวอร์ชั่นเก่า) แจ้งข่าวเปิดพรีฯ สนพ.ลิชต์

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3 กลับบ้าน รีไรท์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.37K
      86
      3 ก.ย. 61

    ตอนที่ 3 กลับบ้าน

     

    อ๊ะ อึก ...อ๊า~ ตรงนั้น ...เบาๆหน่อยครับ อึก คุณโรส...” เสียงครางดังก้องไปทั่วห้อง มันคือเสียงผม พอได้ยินเสียงแปลกๆของตัวเองก็รู้สึกหน้าจะระเบิด กัดปากกลั้นเสียงสุดฤทธิ์ แต่สุดท้ายมันก็กลั้นไม่อยู่ ความรู้สึกวูบวาบยามที่โรสส่งปลายนิ้วสัมผัสไปทั่วร่างผม มัน...มันทำให้ผมรู้สึกวาบหวิวไปทั้งตัว

    อ่า ความรู้สึกนี่มัน ...มันคืออะไร?

    คุณหมูคะ แล้วตรงนี้โอเคไหมคะ?” เดซี่เอ่ยถามเมื่อมือเธอกดเน้นตรงจุดที่ทำให้ผมรู้สึกสั่นสะท้าน

    อ๊ะ คะ คุณเดซี่ ...ตะ ตรงนั้น ตรงนั้น! แรงอีก! แรงๆ อ๊า~” ผมร้องออกมาอีกครั้งอย่างห้ามไม่ได้ มันเสียวซ่านจนเกร็งไปทั้งตัว อึก ระ แรงอีก แรกอีก

    แรง...

    เดี๋ยวๆๆ ! อย่าเพิ่งเข้าใจผิด!!! ผมรู้สึกว่าบทสนทนาตะกี้มันสองแง่สองง่าม ซึ่งมักจะเห็นดักกันตามการ์ตูนและนิยายต่างๆ และเป็นมุขที่เล่นซ้ำกันจนน่าเบื่อ ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่มีอะไรตามนั้นจริงๆ!

    ก็แค่ ...โรสกับเดซี่นวดน้ำมันให้ผมเท่านั้นเอ๊ง! แน่นอนว่ามีแต่ผมที่โป๊ ส่วนเมดทั้งสองยังใส่ชุดครบชิ้นปิดมิดชิดไม่มีกระดุมหลุดสักเม็ด ตอนแรกผมก็เขินละนะ แต่พอทำทุกวัน มันก็เริ่มชินไปแล้ว

    หลับตานอนสบายพลางคิดถึงเรื่องต่างๆ ผมออกจากโรงพยาบาลมาได้ 1 เดือนแล้วครับ อีกทั้งโรสกับเดซี่ยังตามมาดูแลผมถึงบ้านด้วย รู้สึกเกรงใจพวกเธอที่ต้องมาดูแลผมระยะยาวแบบนี้ ตอนแรกที่พวกเธอมานะ ผมโคตรรู้สึกอายสุดๆ ...

    เมื่อ 1 เดือนที่แล้ว

                    ในตอนนั้น ผมเพิ่งรู้ว่าโรสกับเดซี่จะมาอยู่บ้านผม ผมตกใจมากเพราะนึกว่าพวกเธอจะดูแลอยู่แค่ที่โรงพยาบาล ส่วนม๊าป๊าเนี่ยรู้อยู่ก่อนแล้วเลยจัดเตรียมห้องไว้ให้ทั้งสอง ผมลองถามพวกเธอดูว่าพี่ครอสให้มาดูแลผมนานแค่ไหน โรสเลยตอบว่า

    ท่านครอสไม่ได้บอกระยะเวลาค่ะ ไม่ต้องคิดมากนะคะ โรสกับเดซี่จะดูแลคุณหมูเป็นอย่างดี” 

    เอิ่ม โอเค! ผมจะไม่คิดมากครับ แล้วนี่ถ้าพี่ครอสลืมพวกคุณทั้งสองคนล่ะ?...สงสัยจะได้ดูแลผมไปตลอดชีวิตแหง แต่ผมยินดีนะ เอิ๊กๆ

    และในที่สุดวันที่ได้กลับบ้านก็มาถึง อย่างที่เคยบอกไว้ว่าบ้านผมเป็นตึกแถวเล็กๆ ด้านล่างเปิดเป็นร้านขายของชำ ชั้น 2 มีห้องเก็บของกับห้องนอนม๊ากับป๊า ส่วนผมกับน้องอยู่กันชั้น 3 แล้วสิ่งที่ผมอายมากคือโรสกับเดซี่เพยายามเข้าไปห้องผมนั่นเอง!!

    เพราะอะไรน่ะเหรอ? หึ!

    ห้องผมน่ะมันสะอาดครับ สะอาดมาก~ สะอาดเหมือนไม่ใช่ห้องเด็กผู้ชาย จัดวางเป็นระเบียบเรียบร้อย พื้นนี่เงาแบบไม่มีฝุ่นเกาะ ทุกอย่างดูดีเหมือนห้องในนิตยสารที่ถอดแบบออกมา ผมอายมากที่ห้องของผมมันไม่แมน...

    ... ถุ้ยยย! ไม่ใช่ละ เอาความจริงเลยนะ แบบว่า ...รก!!! รกยิ่งกว่ารังหมู ...เอ้ยหนู! ไม่มีใครกล้าเข้าไปทำความสะอาดสักคน ขนาดป๊ากับม๊ายังไม่เข้าไปเลย พวกท่านบอกว่า 'เรื่องของลื้อสิ อั๊วไม่เอาด้วยหรอก หยี๋ แหยะ!' แล้วดู! ของวางระเกะระกะ เหลือพื้นที่ให้เดินไปเตียงนอน 40 เซน ผมมองเห็นห่อขนมที่กินแล้วลืมทิ้งมันก็ยังอยู่ที่เดิม แต่ขนมไม่เหลือแล้ว สงสัยน้องมดกับกะจั๊วจัดการหมด แล้วฝุ่นนี่จับหนาหลายเซน ไหนจะแผ่นเกม การ์ตูน ฟิกเกอร์ โมเดลที่ยังต่อไม่เสร็จ กระจัดกระจายทั่วทั้งห้องอย่างสวยงาม แน่นอนว่า โดจินทั้งวายและไม่วายยังเปิดอ้าซ่า ...แว๊กๆๆๆ! คือ มันยังอยู่ ณ จุดๆเดิมก่อนจะไปงานโอตาคุโปรฯอ่ะ แถมเปิดหน้าหน้าอล่างฉ่างไว้อีก

    ผมหันไปมองเมดทั้งสองแล้วแทบจะร้องไห้ด้วยความอาย ไม่เป็นผมไม่รู้หรอก แต่เมดทั้งสองกลับไม่ตกใจหรือแสดงท่าทางรังเกียจอะไรออกมาเลย หน้านิ่งมาก แถมขออนุญาตเข้าไปทำความสะอาดทันที แน่นอนว่าผมเหว๋ออ้าปากค้าง จะห้ามก็ไม่ทันเพราะคุณเธอทั้งสองเข้าไปจัดการต่างๆเรียบร้อยแล้ว เห็นดังนั้นผมเองก็รีบเข้าไปเพื่อจะจัดห้องด้วยอีกคนเช่นกัน แต่...

    ปัง! ช้าไปแล้วครับ คุณเมดท่านแขวนป้าย "close" ปิดประตูใส่หน้าผมไปแล้ว แถมยังล็อกกลอนประตูประดุจเป็นห้องตัวเอง เอิ่ม ...แล้วผมล่ะ? ก็ได้แต่จรลีขอไปแทรกตัวที่อื่นโดยปริยาย

    หลังจากนั้น 3 ชั่วโมง

                “คุณหมูคะ”

                “อะ!... ครับ” โรสก็มาเรียกผมที่นอนอืดอยู่ห้องยัยปลา ได้แต่เดินตามหลังโรสไปอย่างมึนๆ แต่พอเปิดประตูเท่านั้นแหละ แสงออกจ้าสว่างแสบตาจนผมต้องหรี่ตามองเข้าไป

    ตื่น ...ตื่นเลยผม นี่มัน มัน....โอ้วว !!

    ผมเบิกตากว้างมองห้องตัวอย่างด้วยความทึ่ง มันสะอาด เรียบร้อย เป็นระเบียบเวอร์ ผนังห้องถูกทาสีห้องใหม่เป็นสีชมพูอ่อน ทั้งๆที่เพิ่งทาสี แต่กลับไม่มีกลิ่นสีเลยสักนิด เพิ่มชั้นวางตรงผนังและจัดวางฟิกเกอร์อย่างสวยงาม โมเดลที่ต่อค้างไว้ก็วางอีกมุมนึงพร้อมอุปกรณ์ต่อโมเดลที่ผมหาไม่เจอมาเป็นปี ส่วนหนังสือการ์ตูนก็เรียงเข้าตู้เป็นระเบียบ แปะป้ายประเภทแยกเป็นหมวดหมู่ให้อีก ...ขนาดผ้าปูเตียงยังเปลี่ยนให้เป็นสีม่วงเลย ...แล้วยังมีแอร์

    ..เฮ้ย! เอามาติดตอนไหนฟะ?

    มันจะเร็วเกินไปแล้ว! นี่พวกคุณเคยไปแข่งในรายการทีวีแชมป์เปี้xxมาใช่ไหม เหมือนเป๊ะ เพียงแต่เร็วกว่าปกติเป็น 10 เท่า หรือพวกคุณไม่ใช่คน? อาจเป็นหุ่นยนต์ไรเงี้ย แต่จะอะไรยังไง ก็ทำเอาผมประทับใจจนกลั้นไม่อยู่ และเหมือนเมดผมจะรู้ว่าผมจะท้วงเรื่องแอร์กับเรื่องค่าใช้จ่าย คุณเธอเลยบอกว่า

    "ท่านครอสจัดให้ค่ะ" x2 ...จบ

    โอเค เขาเสนอเราสนอง ...เย็นสบาย ตังอยู่ครบ โฮก!

    หลังจากวันนั้นโรสกับเดซี่ก็ดูแลผมดีมาก ทั้งยังทำกายภาพบำบัดให้ผมอีก เห็นพวกเธอบอกว่าเรียนจบเกี่ยวกับกายภาพบำบัดมาก่อนด้วย... สรุปเรียนจบวิชาชีพเมดหรืออะไรกันหว่า? ช่างเถอะ เพราะเหตุนี้ทุกวันของผมเลยมีอาหารมาป้อนให้ถึงเตียงครบ 3 มื้อ ไหนจะมีคอร์สนวดตัว นวดหน้า ขัดผิว

    ...นี่สรุปผมเข้าคอร์สเจ้าสาวใช่ไหม? อืม... ผมอาจจะคิดมากไปเอง

    และเพราะเหตุนี้ผมเลยเลยไม่ได้ออกจากบ้าน(ห้อง)มาจนถึงตอนนี้

    ...

    แล้วตูจะดราม่าทำไมฟะ? ปกติก็ไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว หมกตัวดูอนิเมชั่นเป็นเดือนสองเดือนก็เคยมาแล้ว ฮ่าๆๆ

    ณ ปัจจุบัน

    -ตลึง!- เสียงโปรแกรมแชทดังขึ้น ทำให้ผมหยุดคิดเรื่องอดีตรีบคว้ามือถือขึ้นมาดูอย่างรวดเร็ว

    ข้อความ-ซันนี่: หมูว่างเปล่าวะ เบื่อว่ะ น้ำแม่งโคตรงุงงิง

    ไอ้ซันมันมาแนวนี้อีกแล้วครับ ทุกทีเลย หลังจากผมออกจากโรงพยาบาลมันก็หายหัวไม่ห่วงเพื่อนคนนี้เลยสักนิด จะมาคิดถึงก็ตอนที่ตัวเองมีความทุกข์สินะ ...ชิ!

     ข้อความ-หมูขาวมว๊ากก: เอ่อ ว่างตลอด มีไรว่ามา

     ข้อความ-ซันนี่: แปป เดี๋ยวไปหา 10 นาทีถึง

    ข้อความ-หมูขาวมว๊ากก: เอ่อ

     

    แชทกันเสร็จซันก็เงียบไป สงสัยกำลังวิ่งมาบ้านผมจริงๆ ผมกับซันรู้จักกันมาตั้งแต่เรียน ม.ปลายแล้วครับ บ้านมันเปิดร้านซักรีดอยู่ใกล้ๆบ้านผมนี่แหละ เห็นอย่างนั้นมันก็รวยมากนะ เพราะร้านซักรีดมันมีหลายสาขาทั่วประเทศ และเพราะใกล้กันเลยไปกลับทางเดียวกัน เล่นเกมเกรียนด้วยกัน และบ้าอนิเมะเหมือนกัน พวกผมรวมทั้งยัยปลาจึงสนิทกันมากถึงมากที่สุด

    ผมนอนเล่นอยู่บนเตียง ไล่ดูรายชื่อเพื่อนในโปรมแกรมแชทไลน์ที่มีอยู่น้อยนิดขณะรอไอ้ซัน ในรายชื่อเพื่อนมีพี่ครอสด้วย เห็นชื่อแล้วคิดถึง ว่าแล้วก็ตัดสินใจทักแชทไป ไม่กี่นาทีพี่แกก็ทักตอบ ถึงจะคุยกันไม่มากนักแต่ผมก็ดีใจที่ได้คุย ส่วนคนอื่นๆในรายชื่อก็มีแต่ส่งคำเชิญเกมโน่นนั้นนี่ เหอะๆ มาขอชีวิตผม เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน โดยเฉพาะของยัยปลากับยัยน้ำแฟนไอ้ซัน ตี4 มันยังส่งมาขอชีวิตเล๊ย~

    ก๊อกๆ คุณหมูคะ คุณซันมาขอพบค่ะเดซี่เคาะประตูก่อนจะแง้มเปิดเข้ามาบอก ผมพยักหน้า รีบแชทบอกพี่ครอส ก่อนวางมือถือไว้ข้างหมอน รอสักพักไอ้ซันก็เดินเข้ามา ดูมันจะตกใจกับห้องที่เปลี่ยนไป ผมเห็นซันมองรองห้องแล้วขยี้ตาตัวเองซ้ำไปมา หึๆ เป็นไงล่ะห้องตรู หวานไหมค้าบเพื่อนรัก ทั้งห้องมีอยู่ 2 สี ไม่ม่วงก็ชมพู แล้วยิ่งโรสกับเดซี่อยู่นานเท่าไหร่ สี 2 สีนี่ก็เหมือนไวรัสที่สามารถลุกลามไปถึงห้องอื่นได้

    ไง มีอะไรว่ามาผมลุกขึ้นและทักทายมันที่ตาโตอยู่นานสองนาน

    “เอ่อ! ไอ้มะ...” ซันหันมาเหมือนจะทักตอบ แต่กลับเงียบค้างจนผมเอียงคอมองมันงงๆ มันจ้องผมแล้วอยู่ๆก็หน้าแดง ...สงสัยข้างนอกอากาศร้อนน่าดู

    คุณเป็นใครครับ?” ...!! ผมมองดูไอ้ซันถามผมอย่างสุภาพก็ถึงกับสะดุ้ง ฉิบหาย นี่มันทะเลาะกับแฟนจนจำผมไม่ได้เลยเหรอ? ดูท่าว่าเรื่องนี้จะแรงได้อีก ผมลุกขึ้นถอนหายใจ ตีหน้าเศร้าสร้อย แล้วเข้าไปตบที่ไหล่มัน

    ซัน นายทะเลาะกับน้ำแรงจนลืมเราเลยเหรอ? เราหมูไง โธ่...เราบอกแล้วว่านายน่ะเหมาะจะคบกับผู้ชายมากกว่า ฮ่าๆๆ....อ่าวเฮ้ย.. ไอ้ซัน! จะไปไหนวะ?” มันไปโน่นละครับ ถึงกับเดินออกจากห้องผมเลย ผมได้แต่มองมันงงๆ เห็นไอ้ซันออกไป เอ่อ ...ไปคุยกับเดซี่ที่ยืนอยู่หน้าประตู

    ขมวดคิ้วก้มมองดูตัวเองทันที...ก็ไม่มีอะไรนิ แค่ไขมันเป็นชั้นๆของผมหายไป แขนขาเล็กลง แล้วก็ก้มเห็นปลายเท้าตัวเองเท่านั้นเอ๊ง หรือว่าผมผอมจนมันจำผมไม่ได้ความจริงผมผอมลงตั้งแต่อยู่โรงพยาบาลแล้วนะ แต่โดนพันเป็นมัมมี่ไง แถมยังใส่ที่ดามคอพันแผลที่หัวและคางอีก กว่าจะเอาออกได้ก็ตอนผมมาอยู่บ้านได้ 1 อาทิตย์โน่น ก็เป็นไปได้ที่มันจะจำผมไม่ได้จริงๆ

    พอซันมันคุยกับเดซี่เสร็จก็ทำท่าตกใจ หันมามองสงสัยผมใหญ่ แล้วเดินกลับเข้ามาห้องอีกครั้ง หรี่ตาดูผมตั้งแต่หัวจรดเท้า สักพักก็เบิกตากว้าง แล้วยกนิ้วขึ้นมาชี้หน้าผม อ้าปากพะงาบๆจนเห็นลิ้นไก่ 

    ...ผมว่าผมสามารถดึงลิ้นไก่มันได้นะ ว่าแล้วก็เดินเข้าไปใกล้ จีบนิ้วเตรียมแหย่เข้าไปในปากมันทันที

    ไอ้เชี้xxxxxxxxหมู!!!!!!!!!!!!!”

    เฮ้ย! ตกใจจนเกือบหงายหลัง มันจะตะโกนใส่หน้าผมทำม๊ายยย! เอาซะผมหูชาเลย ลั่นไปถึงหน้าปากซอย น้ำลงน้ำลายเต็มหน้าผมหมดแล้วว หยี๋~~~ ผมรีบหาผ้ามาเช็ดหน้าแล้วมองไอ้ซันที่ยังค้างอยู่ท่าเดิม

    "ซัน.."เรียกคนตรงหน้า แต่ ...เงียบ

     "ไอ้ซัน" ลองเข้าไปเขย่าตัวดู แต่ก็ไร้ซึ่งปฏิกิริยา

    "ไอ้คุณซัน!!!!" มันก็ยังคงเงียบค้างเหมือนเดิม ตบหัวยิกแก้มดูแต่มันก็ยังคงค้าง

    ...

    ...... 

    10 นาทีแล้วนะเว้ย!!!!

    ตกลงวันนี้เรากะนาย จะคุยกันรู้เรื่องป่ะครับ? คุณซัน...

                    ...

     “ไอ้เชี้xxxxxxหมู!!!!!!!!!!!!!”

    "เอ่อออ!!! ว่าไง! ไอ้เชี้xxxซัน" ผมตะโกนใส่มันกลับหลังจากที่มันค้างไปนาน นานมาก นานจนผมอ่านการ์ตูนจบไปสองรอบ ซันมองหน้าผมตาโต ปากเริ่มขยับเหมือนมันอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ได้แต่งึกๆงักๆ

                    "... อะ ...เอ่อ ...อุ อึก" …อะไรของมันวะ? "...อะ เฮ้อ~~~ พูดไม่ออกเลยว่ะ" แล้วมันถอนหายใจเสียงดัง แถมทำหน้าเหนื่อยๆใส่ผมอีก ผมเลยเอียงคอยิ้มให้ กระพริบตาปิ๊งๆ ใส่ท่าแอ๊บแบ๊วตามสาวๆในอนิเมะเผื่อมันจะหายเครียด แล้วไม่ลืมที่จะดัดเสียงพูดกวนตีนใส่มันเล่นตาม สเต็ป

    "ไม่เป็นไรซัน... หมูรู้ว่าซันมีกิ๊กเป็นผู้ชาย แล้วยัยน้ำมันจับได้ใช่ป่ะ? ...อ่าวเฮ้ย! ไหงหน้านายแดงงั้นวะ? เรื่องจริงดิ!?" มันถึงกับสะดุ้งหน้าแดงแจ๋เข้าไปอีก ผมเดาทางมันถูกใช่ไหม? มันมีกิ๊กเป็นผู้ชายแน่ๆ ไอ้ผู้ชายคนนั้นมันเป็นใคร? มันอยู่ที่ไหน? ผมอยากรู๊!

    "อ๊ากกกกก ไอ้หมู !! อย่าทำหน้าแบบนี้อีกนะเว้ยยย โอ้ยยย...ซันสุดหล่อคนนี้จะบ้าตาย เพื่อนตรู ตายแน่! ตายแน่ๆ! ตายๆๆ" ดูปากมัน แช่งผมอีก แล้วนี่คุณเพื่อนรักจะมาเขย่าหัวผมทำไม!?

                    "ปะ...เป็นอะไรมาก...ปะ เปล่าวะ? โอ้ย! ไอ้ซัน! หยุดเขย่าหัวเราบัดนาว เราก็ทำหน้างี้ใส่นายออกบ่อย พอผอมนิดผอมหน่อยนี่ทำไม่ได้? มันจะตายให้ได้หรือไงวะ?" พูดจบไอ้ซันก็ทำเสียงจิ๊จ๊ะใส่ ดูมันเป็นเอามากนะเนี่ย

    "...นายไม่ได้ดูหนังหน้าตัวเองเลยใช่ป่ะ?" อืมมม แร๊ง... เอ่อ มันถามผมหรือพูดด่าผมกันแน่? ผมเลยส่ายหน้าตอบมัน "ว่าแล๊วว! เราลืมไปว่าหมูเป็นโรค 'กลัวกระจก'... เฮ้อ.. รอเราแป๊บ" พูดเสร็จมันก็เดินออกไปหาโรสที่อยู่นอกห้อง คือ ...เมดผมผลัดกันเฝ้าเวรกันหน้าห้องอ่ะนะ ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมาตงิดๆ มันหนาวๆร้อนๆชอบกล แล้วไม่นานนักผมก็รู้ว่าเพราะอะไร เมื่อเห็นโรสเอากระจกบานใหญ่เข้ามาตั้งไว้กลางห้องแล้วเดินออกจากห้องไปทันที

     “เอ้า!! มาส่องเลย ...เร็วๆไอ้หมู! นี้นายจะกลัวอะไรนักหนา!?” มันพูดพร้อมจับแขนลากผมให้ไปอยู่หน้ากระจก ส่วนผมน่ะเหรอ ดิ้นสิครับ! ผมหน้าซีดยิ่งกว่ากระดาษ หัวใจเต้นถี่จนจะเด้งออกมาเต้นข้างนอกแทนแล้ว

    ไม่ๆๆๆๆ ไม่เอา เรารู้ตัวเองว่าหล่อ ไม่ต้องก็ได้ ระ เรากลัว ... ขอล่ะ ไม่เอาจริงๆ อึก ฮือออๆๆ" น้ำตาแตกเลยผม

    คือ... ผมเป็นโรคกลัวกระจกครับ ต้องคอยหลบเงาที่สะท้อนตัวเองมาตลอด มันเรื่องจริงนะ กลัวมาตั้งแต่ ม.ต้นแล้ว ผมรู้สึกว่าไม่อยากมองตัวเองในกระจกนั่น พอมองแล้วมันนึกถึงอดีตสมัยเด็ก อดีตที่ถูกล้อว่าอ้วน น่าเกลียด น่าขยะแขยง แถมยังถูกแกล้งมาสารพัด มันทำให้ผมรู้สึกหดหู่ ... ไม่เอา ผมไม่ชอบ! ถึงตอนนี้ผมจะไม่แคร์แล้วก็เหอะ แต่ผมก็ยังไม่อยากส่องตัวเองในกระจกนั่นอยู่ดี และเพราะแบบนี้มันเลยทำให้ผมกลัวกระจกไปโดนปริยาย

    ไอ้ซันมองผมแล้วถอนหายใจ มันปล่อยผมแล้วนั่งรอให้ผมสงบสติอารมณ์อยู่สักพัก ก่อนจะพูดขึ้น  “หมู... เรื่องนี้มันเป็นปัญหาใหญ่เลยนะมันพูดเสียงเรียบ ...แล้วกลัวกระจกมันเป็นปัญหาใหญ่ตรงไหนฟะ? “หมู...เรามีเรื่องจะบอกว่ะอยู่ๆซันก็ทำสีหน้าลังเลเล็กน้อย ทำเอาต่อมอะไรบางอย่างลุกขึ้น

     “เรื่องอะไรวะ?” ผมหยุดร้องไห้และรีบถามมันกลับทันที

    คือ...”

    คือ...?

     “...เฮ้อออ!!” มันถอนหายใจแล้วเอามือทึ้งหัวตัวเอง เฮ้ย! นายจะลีลาไปถึงไหนวะ!?

     “เอาล่ะ! ฟังดีๆ เราจริงจัง หมูดูหน้าเรา!” เอ่อ! ผมพยักหน้าให้ ถ้ามันพูดงี้แสดงว่ามันโคตรจริงจัง เครียดแอนด์ซีเรียล เอ้ย! ซีเรียส

     “หมู นายน่ะ! มีฟีโลโมนล่อผู้ชายมาตั้งแต่เรารู้จักกับหมูแล้ว!!”

    ….ห๊ะ!?

    ห๊า!?

     “หมูจำได้ป่ะ ตอนช่วงม.ปลาย ตลอด 3 ปีจะมีขนมโฮมเมดบ้าง ขนมที่หมูชอบบ้าง วางไว้ที่โต๊ะหมูเกือบทุกวัน แล้วหมูก็ทึกทักเอาเองว่ามีสาวมาหลงชอบ...แต่เสียใจด้วยว่ะ รุ่นพี่ผู้ชายทั้งดุ้น เราเห็นได้แต่อ้าปากค้าง อ้าวกรรมจริงดิ!? แล้วทำไมนายไม่บอกเรา!

    แล้วตอน ม.5 ที่หมูเสือกไปเห็นรุ่นพี่ตีกันแล้วเอามาเล่าให้เราฟัง รู้ป่ะว่าเขาตีกันเพราะอะไร? เพราะหมูล้วนๆเฮ้ย! ผมไปเกี่ยวอะไรด้วยอ่ะครับ? แล้ว ...นายรู้ได้ไง!? “ตอนปีหนึ่งอีก หมูไม่สงสัยเลยเหรอ ว่ามีแต่ผู้ชายเข้ามาหา ไม่มีผู้หญิงสักคน!” มะ มันเป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่เหรอ? “ยังมีอีก เรื่องที่หมูโดนแต๊ะอั๋งบนรถไฟ หมูบอกโดนเกือบทุกครั้ง แต่เรา! เราไม่เคยโดนสักครั้ง มันหมายความว่าไง ...หมายความว่าไงห๊า!!” เอ่อ จริงด้วย... แต่รู้สึกว่าประโยคหลังมันเหมือนจะน้อยใจยังไงชอบกล อืม... ไม่สิ จะบ้าเหรอ เป็นไปไม่ได้หรอก ใครจะมาสนใจผมที่อ้วนเผละแบบนั้นเล่า...!!

     “หยุด ! ไอ้หมู เรารู้ว่านายจะแย้งว่า 'เป็นไปไม่ได้หรอก ใครจะมาสนใจหมูที่อ้วน' แต่เพราะเรา เราคือคนที่มองเห็นสิ่งต่างๆที่นายไม่คิดที่จะมอง หมูคิดแต่ว่าหมูอ้วนแล้วไม่มีใครสน หมูเลยมองข้ามทุกอย่างแล้วหมูก็ปิดกั้นตัวเอง!

    ...

    จี๊ดว่ะ

     “ ยิ่งตอนนี้ หมูผอม! ผอมไม่พอ ทั้งหุ่น! ทั้งหน้า! แม่งโคตรเคะ เราว่านะ แค่หมูออกจากบ้านไป 10 ก้าว ...ไม่สิ 3 ก้าว หมูไม่รอดแน่เลยว่ะ

     “ห๊ะ!? เราจะถูกฆ่าเหรอวะ!?”

    ไอ้สสัดหมู !! โดนฉุดโว้ยยย ยังจะมาเกรียนอีกผมแค่เห็นมันเครียดน่ะครับ เลยแหย่เล่นนิดนึงเอง แต่ดูมันดิ่ ด่าผมซะ เหอะๆ ได้แต่หัวเราะแห้งๆแล้วกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาด นี่ถ้าที่มันบอกเป็นเรื่องจริง ดูท่าผมคงอยู่โลกใบนี้ยากแล้วสิ นั่งทำใจอยู่พักใหญ่ พยายามเอาชนะความกลัวซึ่งมันก็ยากเหลือเกิน

    “...โอเคซัน ขอบใจนายมากว่ะ เราจะพยายามผมค่อยๆลุกขึ้นจากเตียง หลับตาลง แล้วคลำทางอย่างกล้าๆกลัวๆ จนไอ้ซันถึงกับทนดูไม่ไหวลากผมให้ไปยืนที่หน้ากระจกแทน

     “เอ้า... ถึงหน้ากระจกแล้ว ถ่างตาดูแล้วหาทางแก้ปัญหาด้วย เราขอพักแป๊บ คุยกะนายแล้วโคตรเพลีย!” ส่งเสร็จ มันก็เดินกลับไปล้มตัวนอนที่เตียงทันที

     “เฮ้ยย...ไอ้ซัน! อย่าเพิ่งทิ้งกันดิ๊~” ผมหลับตาปี๋ทันที โอ้ย! คนมันยังกลัวอยู่นะโว้ยยย

    ซะ...ซัน... ซันน?” …เงียบ ไหงมันเงียบแปลกๆ

    คร็อกกกกก.......ฟี้โอเค เสียงกรนคือคำตอบ เอิ่ม...จะหลับเร็วไปไหมวะ!? กรนซะดังไม่เกรงใจเจ้าของห้องอีก ผมได้แต่ยืนค้างหลับตาทำใจอยู่นาน จนในที่สุดก็ตัดสินใจเผชิญหน้ากับสิ่งที่ผมกลัวมาตลอดชีวิต

    เอาวะ!’ ค่อยๆหรี่ตาขึ้นช้าๆ สิ่งที่เห็นเป็นภาพลางๆของคนตัวเล็กที่หรี่ตามองดูผมเช่นกัน

    ภาพนั้นค่อยๆเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ

    เรื่อยๆ

    ....

    เมื่อปรับโฟกัสภาพตรงหน้า ก็ทำเอาผมอุทานออกมาเสียงดัง

    เฮ้ยยยย...............................!!”

    นะ... นี่มัน...

    นัยน์ตาสีดำเป็นประกายสั่นไหวเล็กน้อยเมื่อได้เห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ดวงตากลมโตพร้อมหยาดน้ำตาเบิกกว้างอย่างตกใจ ยกมือขึ้นเกลี่ยน้ำตาตรงแก้มนิ่มที่ตอนนี้ขึ้นสีแดงระเรื่อ อดไม่ได้ที่จะลูบใบหน้าสวยของตนที่เนียนใสกิ๊กจนไม่เห็นรูขมขน ปากนิดจมูกหน่อย ริมฝีปากสีส้มอ่อนดูชุ่มช่ำน่าสัมผัส รูปร่างผมตอนนี้ต่างจากแต่ก่อนราวฟ้ากับเหว แถมผิวยังขาวเนียนขึ้นมากจนไม่สามารถละสายตาได้ ตัวบางร่างเล็ก เอวคอด อีกทั้งรอบๆตัวผมยังเหมือนมีออร่าปกคลุมทั่วร่างกาย

    “…” อึ้ง ผมอึ้งกับภาพที่เห็น นี่.! ผมจริงดิ๊ มัน.... โคตรโมเอ๊~~~~~~อ๊ากกกๆๆ

    ผมได้แต่ตะโกนก้องอยู่ในใจ ทรุดตัวลงนั่งดูตัวเองไม่ละสายตา ผมว่า ผมชักหลงรักตัวเองซะแล้วแหละ ที่เห็นอยู่ในกระจกตอนนี้นี่มันสเป็คผู้หญิงของผมเลยอ่ะครับ เพิ่งรู้ว่าพอตัวเองผอมแล้วหน้าจะออกหวานเหมือนผู้หญิงแบบนี้ ...มิน่าแหละ ไอ้ซันถึงบอกผมว่าผมโคตรไม่ปลอดภัย แค่หน้านี่ก็ล่อตะเข้แล้วนะ ถ้าบวกไอ้ฟีโรโมนล่อตัวผู้เนี่ย ผมว่าฉิบหายวายป่วงแน่!

                    ตัดสินใจเริ่มสำรวจตัวเองไปเรื่อยๆ ก่อนจะลองเลิกเสื้อขึ้นดู เผยให้เห็นหน้าท้องแบนราบเนียนสวย ความจริงมันควรจะมีรอยแตกลายเพราะผอมลงเร็วเกินไป แต่นี่เนียนจนผมต้องลูบสัมผัส ...นิ่มมือ ที่เป็นแบบนี้น่าจะมาจากการกายภาพบำบัดที่เหมือนออกกำลังกาย กับฝีมือการนวดของโรส&เดซี่สินะ

                    กลืนน้ำลายหนึ่งอึก ก่อนจะเลิกสูงขึ้นไปอีก

                    ...

    อะ...

    อ๊ากกกกกกกกกกก!!!!!!!!

    เฮ้ย! เป็นไรวะ!?” ไอ้ซันสะดุ้งตื่นขึ้นทันทีที่ผมร้องตะโกนเสียงดัง มันลุกขึ้นนั่งแล้วถามผมที่ยังตกใจไม่หาย ผมหันไปมองมันเบะปากน้ำตาคลอ ตอนนี้หน้าผมทั้งชาและเห่อร้อนจนแทบระเบิด

                    “...ฮึก ไอ้ซัน เรา...” ค่อยๆลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปหามันอยากยากลำบาก จากนั้นเอามือวางบนไหล่ 2 ข้างและทรุดตัวลงที่ตัวซัน บอกตรงๆไม่มีแรงจะยืนแล้ว แต่ ...เอ่อ คุณซันค้าบบ คุณอย่าเพิ่งหน้าแดงตอนนี้ เราเครียด

     “ไอ้ซัน เราจะทำไงดีวะ? หน้าเราโคตรหวานเลยว่ะ หุ่นนี่ก็โครตเคะ ผิวนี่ยังกับหลอดไฟนีออน ขนบนตัวเราแทบเหลือ แถมๆๆ...” เม้มปากพยายามทำใจพูดออกมา

    “แถม?” ซันทำหน้างงๆ แต่ตามันดูเหม่อลอยไปแล้ว

    อึก ....แถมหัวนมเราเป็นสีชมพู!!!!!” ชมพูไม่ธรรมดานะโว้ย ชมพูใสน่ารัก น่า ...โว้ยยยยย!!! ต้องเป็นโรส&เดซี่แน่ เล่นเอาซะผมดูเองยังเลือดกำเดาพุ่ง ต้องเป็นตอนพอกตัวเมื่อวันก่อนแน่นอน มิน่าถึงได้หัวเราะกันคิกคักๆ นี่ผมยังไม่ได้ดูช่วงล่างของผมนะเนี่ย อึก! ชะ ...ช่วงล่าง

    เฮ้ยยย! จริงดิหมู ขอดูหน่อยดิ เราชอบ!” อ๊ากกก ผมตีหัวมันไปหนึ่งที

    สลัดซัน เราเครียดนะโว้ยยย!!! นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายหมูสุดหล่อคนนี้เนี่ย!?” ผมพูดพร้อมเขย่าตัวมันแรงๆแรงเท่าที่ทำจะแรงได้

    ทะ ทำ ใจ เฮอะโอ๊ยย หยุดเขย่าดิวะ! นายอ่ะ! เหมาะจะโดนผู้ชายกดมากกว่า” ...คุ้นๆว่ะ ผมเบะปากอีกรอบ แล้วขยับทิ้งตัวลงไปนั่งข้างๆมัน อดที่จะร้องไห้ไม่ได้ ถึงทุกอย่างมันกระทันหันก็จริง แต่ ...หัวสมองผมตอนนี้ดันคิดแต่เรื่องวายๆ!

    โอ้ยย ตายๆ แล้วนี่ผมจะโดนเหมือนในพวกการ์ตูนวายไหมอ่ะ? แบบที่ถูกฉุดเอาไปขายงานประมูลใต้ดิน ให้กินยาปลุกเซ็กส์ แล้วถูกประมูลไปเป็นนายบำเรอให้กับเจ้าพ่อมาเฟีย หรือองค์สุลต่าน โฮ่กกกกก

    ...หรือจะโดนจับไปขังในห้องที่มืดมิด มัดมือมัดเท้าด้วยเชือก แบบ sm แล้วนอนตัวเปลือยกายรอไอ้คนที่ฉุดเข้ามากระทำชำเรา อ๊ากกกก

    ไม่ๆ อาจจะถูกผู้ชายรุมล้อมจนกลายเป็นหลายพี...

    และอีกมากมายนับไม่ถ้วน ความคิดวายตีกันไปมาจนเละเทะ แต่ไหงในภาพที่จินตนาการผมผมต้องเป็นฝ่ายถูกกระทำด้วยฟะ!?

    บอกตรงๆ ...ผมกลัว ผมไม่น่าเสพวายมากเลย มันทำให้ผมจิ้นมาก จิ้นลึกทุกซอกทุกมุม จิ้นจนรู้ทะลุปรุโปร่ง ให้จิ้นคนอื่นผมชอบ แต่เอาตัวเองมาจิ้นเนี่ย ...ผมขนลุกเสียวสันหลังวูบ

     “แล้วนายจะเอาไงวะหมู? คิดออกยัง?” ซันเอ่ยถาม ทำให้ผมนิ่งไปอยู่นาน แล้วตัดสินใจอะไรได้บางอย่าง

                    “...เรา” ผมพูดขึ้นพร้อมกำมือแน่น “เราจะเลิกเสพวาย!” แล้วผมก็ประกาศออกมาด้วยสายตาที่มุ่งมั่น ผมไม่คิดอะไรให้ยากหรอกครับ เป็นไงละ วิธีการแก้ปัญหาผม เจ๋งป่ะ?

    เอ่อ! ดี งั้นนายมาเข้าสาวกโลลิกับเรา! .... ถุ้ย! ไอ้เชีx หมู! มันคงแก้ปัญหาให้ได้อยู่หรอก เราว่า...นายน่ะเลิกวายไม่ได้ว่ะ เพราะนายมันหนุ่มโอตาคุวาย!! และจะเป็นหนุ่มวายที่โดนสาววายจิ้นวายวาย... นายทำใจยอมรับให้ได้เถอะ และตัดสินใจคบกับผู้ชายซะใครบอก เราสายผสมโมเอะกับวายต่างหาก... อึก แล้วมันจะมาวงมาวายอะไรมากมายวะ? ...ตอนนี้หมูรับไม่ด๊ายยยยยย!!

    ไอ้ซัน ถึงเราจะวาย! แต่เราก็ไม่ได้ชอบผู้ชายนะโว้ย เราชอบผู้หญิง! และถ้าเราจะต้องชอบผู้ชายจริงๆ เราจะต้องเป็นเมะ! เป็นรุก! เข้าใจไหม!? รุกๆๆ มันคือศักดิ์ศรีของลูกผู้ชาย คนอย่างหมูต้องกด ย้ำ ต้องกด!!!” ผมโวยวายใส่ทันที ซันไม่พูดอะไร มองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วส่งเสียงเฮ่อะออกมา ทำเอาผมต้องพูดต่อ

    ซัน เรารู้ว่าหน้าเราตอนนี้มันพูดแบบนั้นไม่ได้ แต่เราจะไม่เป็นเคะ ต่อจากนี้ เราจะเล่นกล้าม! เข้าชมรมชกมวย! ไปทำสีผิวให้เข้ม จะกินนมให้สูงขึ้นอีก 20 เซน นี่แหละ วิธีการแก้ปัญหาของเราพูดจบไอ้ซันมองผมอึ้งๆ ผมทำจริงนะ ผมจะต้องบึกบึนให้ได้

    ...นายก็คิดได้เนอะ เฮ้อ! เอางี้ เราว่าระยะนี้หมูอย่าออกไปไหน หมกอยู่ในบ้านเนี่ยแหละ แล้วถ้าจะออกไป โทรหาเรา ไม่ก็ไปพวกพี่เมดหรือยัยปลา อ่อ นายคงต้องปลอมตัวและลดออร่ากับฟีโรโมนของนายซะด้วย เอ่อ... ยัยปลามันจะกลับมาเมื่อไหร่วะ?” ซันพูดด้วยน้ำเสียงปลงๆ และเปลี่ยนเรื่องไปพูดถึงยัยปลา พอดีน้องสาวผมมันไปค้างบ้านญาติครับ คลุกอยู่นั้นเป็นเดือนๆแล้ว เพราะลูกพี่ลูกน้องผมทำการ์ตูนบวกโดจินขาย ยัยปลาเลยดี๊ด๊าไปช่วยงานเขาเป็นประจำ

    น่าจะมะรืน...” ผมตอบ

    อึม...” ซันพยักหน้าแล้วเงียบไป ปล่อยให้ผมนั่งเหม่อคิดหาทางแก้ปัญหาอย่างเงียบๆ

    เฮ้ออ...” ผมถอนหายใจ ปลอมตัวงั้นเหรอใช่ ผมคงต้องปลอมตัว แล้วผมก็มองดูรอบห้องจนไปสะดุดตากับเสื้อลายสก๊อตที่พับไว้โดยมีแว่นตาเชยๆวางไว้ด้านบน ทำให้ผมยกยิ้มมุมปากเมื่อนึกถึงวันนั้น วันที่ผมปลอมตัวเพื่อแย่งน้องครอสจัง

    ...

    หึ ! การปลอมตัวน่ะ ระดับผมมันไม่ยาก ...แต่ไอ้การลดออร่ากับฟีโรโมนอะไรของไอ้ซันเนี่ย จะให้ตูทำไงวะ?’ ผมคิด คิดจนหัวแตกก็คิดไม่ตก เลยได้แต่ปล่อยเลยตามเลย ส่วนไอ้ซันนะเร๊อะ? ตอนนี้มันยึดเตียงผมนอนหลับเฝ้าพระอินทร์ไปได้สักพักแล้ว.....

     

    …………………………………………………………………………………..

    *โรคกลัวกระจก หรือ Catoptrophobia เป็น โรคกลัวชนิดพิเศษ ที่บุคคลจะกลัวกระจก หรือ กลัวพื้นผิวที่มีเงาสะท้อน ผู้เป็นโรคกลัวกระจกนั้นจะเกิดอาการกลัวกระจกเนื่องด้วยเหตุผลหลายประการ ด้วยกัน เช่น กลัวกระจกเพราะความชอกช้ำทางจิตใจบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับกระจก , กลัวการถูกจ้องมองผ่านกระจก หรือ กลัวว่ากระจกจะเป็นประตูไปสู่โลกใหม่ที่เหนือธรรมชาติ เป็นต้น นอกจากนั้น ผู้เป็นโรคกลัวกระจกอาจเป็นเพราะสภาวะทางด้านจิตใจของตนเอง เช่น การขาดความมั่นใจการหลีกเลี่ยงที่จะพบเห็นและตัดสินตนเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะค่อยๆก่อตัวขึ้นจนเกิดอาการรังเกียจและไม่ชอบกระจก แม้ว่าภายหลังจะมีความมั่นใจตนเองแล้วก็ตาม

    เครดิตโดย กระปุกดอทคอม http://hilight.kapook.com/view/15162

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×