คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Outreach Love : Chapter 7
มันต่อเนื่องจากตอนที่แล้วนะคะ หากจำไม่ได้ ให้กลับไปอ่านใหม่ 5555555555555555
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บทที่
7
“หลับสนิทเชียว
ขอบใจที่พาน้องมาส่งนะลูก ทำไมวันนี้ถึงหลับได้ล่ะเนี่ย”
หญิงสาววัยกลางคนหน้าสะสวยรับเด็กลิงจากอ้อมแขนผมไปเบาๆ
ด้วยความกลัวเด็กนี่ตื่น
โอ้โห่ เอาซะแขนล้า - -
“วันนี้มันเซคงใช้พลังงานไปเยอะน่ะครับ”
ดงฮยอกตอบแม่ของมันเซพลางยิ้มร่า
ผมก็ยิ้มตามเออออไป
ดงฮยอกยืนคุยกับแม่เด็กลิงไปสักพัก
เราก็บอกลาท่านเพราะแลดูจะเมื่อยกับการอุ้มเด็กนั่นเต็มทน
ผมกับดงฮยอกเดินออกจาบ้านของมันเซ
ตอนนี้มืดแล้ว
แต่ยังมีแสงสว่างจากไฟสองข้างทางเป็นระยะ
ผมเงยขึ้นมองดูท้องฟ้า
อ่า.. สวยชะมัด
ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามันสวยขนาดนี้..
“หลงรักที่นี่แล้วดิ”
ผมละสายตาจากท้องฟ้ามามองคนข้างๆ
ดงฮยอกยิ้มนิดๆแต่ไม่ได้มองหน้าผม
อ่า... กูเขินทำไม..
สติ! กูจุนฮเว!
“ก็เปล่าหนิ
แค่ไม่เคยเห็นดาวเยอะขนาดนี้” ผมละสายตาจากดงฮยอกก้มลงมองพื้นแทน
เป็นบ้าอะไรเนี่ย - -
"จะว่าไป
ทำไมนายถึงโดนให้ออกมาบำเพ็ญประโยชน์เหรอ"
ดงฮยอกถามผมขึ้น
หน้าตาเอ๋อๆนั่น ตลกชะมัด
"ฉัน..
เอ่อ.."
แกล้งสิครับงานนี้
ผมแกล้งอ้ำอึ้งให้อีกคนสงสัยมากกว่าเดิม
"ทำไมเหรอ?? ทำไมอ่ะ"
ผมคุมสีหน้าตัวเองให้ดูเครียดจนอีกคนอดที่เขย่าแขนผมทวงคำตอบไม่ได้
"คือฉัน.."
ดงฮยอกตั้งใจฟังผมมากๆอ่ะ
ฮ่าๆๆ
"...."
"ฉันขับรถชนคนตายน่ะ
ฮึกก" ผมแกล้งทรุดนั่งลงกับพื้น
ก้มหน้าร้องไห้ในฝ่ามือตัวเองเหมือนสาวน้อยโดนข่มขืนก็ไม่ปาน(หืม?)
"จ..จุนฮเวฉัน
ฉันขอโทษ" ดงฮยอกรีบนั่งลงตาผม ดูเขาจะลุกลี้ลุกลนน่าดู
ผมมองไม่เห็นหรอก
เดาเอาน่ะ จากน้ำเสียง
"ฮรึกก
ทุกวันนี้ภาพนั้น ยังติดตาฉันอยู่เลย โฮรววววว" บทดราม่าผมก็ได้นะครับ
มีใครสนใจรับผมไปเล่นละครมั้ย
ฮ่าๆๆ
"จ..จุนฮเวอ่า
ฉันขอโทษ ไม่เป็นไรนะ มันผ่านมาแล้ว ไม่เป็นไรนะ"
ช็อคโลก!!!
จู่ๆดงฮยอกก็ดึงหัวผมไปกอด แล้วลูบเบาๆเหมือนผมเป็นเด็กน้อยเป็นการปลอบ
“อ..เอ่อ..
ฉันล้อเล่นน่ะ” ผมผละตัวเองออกมายิ้มให้อีกคน
ดงฮยอกเหวอไปเลยครับ
“ล..เล่นบ้าอะไรของนาย!”
ดงฮยอกรีบผละออกจากผมก่อนลุกขึ้นยืนอย่างหัวเสีย
แล้วเดินนำผมออกไป
ผมลุกขึ้นแล้วเดินตามดงฮยอกไปเงียบๆ
“นี่.. คิมดงฮยอก
นายเป็นห่วงฉันเหรอ” ผมก้าวขายาวๆให้ทันคนตัวเล็กข้างหน้า
ก่อนผ่อนจังหวะลงให้เดินไปพร้อมกัน
“อืม..”
คำตอบตรงๆของดงฮยอกทำเอาผมใจเต้นไม่น้อย
ใจเต้นเหรอ... เอ่อ
เดินมากเลยเหนื่อยมั้ง ฮ่ะๆ
แล้วความเงียบก็เข้าปกคลุมพวกเราทั้งคู่อีกครั้ง
ได้ยินเสียงแมลงกลางคืนแข่งกันส่งเสียงร้อง
ถึงจะดูเหงาแต่ฟังๆไปก็อบอุ่นดีนะ
“ถ้าจบบทลงโทษแล้วนายจะกลับมาที่นี่อีกมั้ย”
ดงฮยอกเอ่ยขึ้นหลังจากที่เราเงียบกันมาสักพัก
“ไม่รู้สิ”
“อ่า งั้นเหรอ..”
“อยากให้ฉันมาอีกเหรอ”
ผมว่าพลางเอาไหล่ชนอีกคนเบาๆ
“ไม่อยากมาก็ไม่ต้องมา
ดีละ ที่นี่จะได้ปลอดมลพิษโรคคุณหนู”
“เฮ้ๆ
นายว่าฉันเป็นโรคคุณหนูเหรอ”
“ก็เปล่านะ
แต่จะมีมนุษย์หน้าไหนที่รักรองเท้าเป็นบ้าเป็นหลังแบบนายกันอีกล่ะ”
ดงฮยอกพูดพลางเอาเท้ามาเขี่ยๆจอร์แดนลูกรักของผม
ที่สภาพยับเยินแทบไม่เหลือเค้าเดิม
“ฉันเลิกนิสัยนั้นแล้วเถอะ
ดูสภาพลูกฉันสิ เยินไม่มีดี...”
ผมพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า
ที่เศร้าจากใจจริงพลางก้มมองลูกรักอีกครั้ง
ผมไม่น่าพามันมาลำบากเลย
T^T
“เดี๋ยวนายก็ได้กลับโซลแล้วนี่
ซื้อใหม่ก็ได้หรอก”
ดงฮยอกอมยิ้มน้อยๆราวกับพยายามกลั้นหัวเราะก่อนเอื้อมมือมาแตะไหล่ผม
รู้หรอกน่าว่าเรื่องที่ผมบ้ารองเท้ามันตลกน่ะ
-3-
“นายไม่เป็นฉันไม่เข้าใจหรอกคิมดงฮยอก”
ผมเบะใส่น้อยๆ ก่อนมองไปด้านหน้า
เมื่อเห็นว่าใกล้ถึงบ้านแล้วผมจึงรีบเข้าบ้านไปก่อนดงฮยอก
ผมไม่อยากเห็นหน้าอมยิ้ม
รึยิ้มของคิมดงฮยอกแล้ว
คือใจมันเต้นแรงเหมือนวิ่งมาสักสิบกิโลอย่างไงอย่างงั้น...
.
.
.
"จุนฮเว..จุนฮเว.."
เสียงอันแสนจะคุ้นเคยดังเข้ามาในโสตประสาทของผมในขณะที่ตายังคงปิดสนิท
ปลุกอะไรแต่เช้าวะคิมดงฮยอก..
"อืมม.."
ผมครางตอบไปด้วยความขี้เกียจพลางพลิกตัวหนี
"นี่!ลุกได้แล้ว
เร็ว!" ดงฮยอกเขย่าผมแรงๆเอาซะหัวแทบหลุด
แต่นั่นไม่ทำให้ผมลุกขึ้นหรอก
พูดเลย
ผมกระชากผ้าห่มคลุมโปงหนีดงฮยอก
โห่
อากาศดีงี้โรคขี้เกียจกำเริบสิครับ..
"นี่
ไปรับมันเซให้หน่อย วันนี้ฉันต้องไปตลาดให้แม่" ดงฮยอกบอกจุดประสงค์ของการปลุกผมในครั้งนี้
ก่อนจะตีผมแรงๆแล้วลุกเดินออกไป
ตีเพื่อ
มือก็ใช่ว่าจะเบามั้ยล่ะ!
นี่บอกรึยังว่าจะไปรับให้
- -
ไม่ไปหรอกเว้ย!
เด็กนั่นโตจะตาย ไปเองแบบคนอื่นก็ได้หรอก!
จุนฮเวจะนอนครับ!
เชอะ!
สุดท้ายผมก็มายืนอยู่หน้าบ้านเด็กมันเซเรียบร้อย...
- -
ให้มันได้งี้สิ
ไม่เคยขัดหมอนั่นได้เลย
ทุกคนรู้ใช่มั้ยครับดงฮยอกเวลาโหดน่ะน่ากลัวจะตาย..
"มันเซ
ไปกันได้แล้ว! จะสายแล้วนะ!"
6โมงครึ่งครับ สาย
ผมตะโกนเรียกเด็กลิงที่ป่านนี้ยังไม่โผล่พ้นประตูออกมาสักที
มันหนาวนะเฟ้ย!
"อ่าวจุนฮเว
มันเซกินข้าวเช้าอยู่น่ะลูก รอก่อนนะ"
แม่ของเด็กมันเซออกมาบอกผมยิ้มๆ
ผมก็ได้แต่โค้งตอบเออออไป
"อ่อครับผม"
"ทำไมวันนี้เป็นจุนฮเวมารับกันล่ะ
ดงฮยอกไปไหนลูก"
แม่เด็กมันเซถามผมด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
รอยยิ้มนั่นทำผมคิดถึงหม่อมแม่เอามากๆเลยครับ
จัลล้อง! ฮอล!
"วันนี้ดงฮยอกต้องไปตลาดให้คุณป้าน่ะครับ
เลยให้ผมมาแทน" ผมตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่สาวเห็นแล้วกรี๊ดสลบ
แต่คงใช้ไม่ได้กับแม่มันเซ
ฮ่าๆๆๆๆ
"อ๋อ
อย่างนี้นี่เอง งั้นน้าเข้าไปดูมันเซก่อนนะ"
"ครับ"
ผมตอบกลับยิ้มๆก่อนเดินไปนั่งแคร่ไม้ที่ตั้งอยู่หน้าบ้านมองกำแพงปูนที่ก่อขึ้นลวกๆด้านหน้า
ถนนเล็กๆนี่มันทำให้ผมรู้สึกเหงาแล้วก็อบอุ่นได้ในเวลาเดียวกัน
แปลกดีนะ..
เดี๋ยวผมก็ไม่ได้สัมผัสอากาศดีๆแบบนี้ที่หาไม่ได้ในโซลแล้วสิ..
"ลุง!!
มาทำไมเนี่ย!!" เสียงเล็กแหลมของเด็กลิงดังขึ้นขัดการสัมผัสอากาศดีๆของผม
มันจะตะโกนทำไม
หูจะแตก - -
"มารับลิง
จะไปได้ยัง" ผมหันไปมองมันเซก่อนลุกขึ้นยืน
"ไม่ไป!
พี่ดงอยู่ไหน ถ้าพี่ดงไม่มามันเซก็ไม่ไป" ผมลอบมองบนกับท่าทีเอาแต่ใจและความเรื่องมากของมันเซก่อนลงไปนั่งยองๆด้านหน้าเด็กน้อยนั่น
"พี่ดงอยู่ในใจ"
ผมตอบพลางยิ้มกว้าง เด็กมันเซเบะอีกแล้วครับ เบะแรงมาก ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
"ตาลุงโรคจิต!!"
"ย๊า!
พูดกับฉันดีๆหน่อยสิ! เดี๋ยวไม่ให้ดงฮยอกมาเจออีกนะ"
เท่านั้นแหละครับเด็กมันเซเงียบกริบ
สองแขนเล็กนั่นยกขึ้นมากอดอกคิ้วย่นๆขมวดติดกันบ่งบอกว่ามันเซกำลังไม่พอใจเอามากๆ
มันดูน่ารักดีนะ
ฮ่าๆๆ เหมือนเวลาดงฮยอกไม่พอใจเลยอ่ะ
"จะไปได้ยัง
เดี๋ยวสายนะ" ผมเตรียมหันหลังเดินไป แต่เสื้อก็โดนมันเซดึงรั้งไว้ก่อน
ผมเลยจำต้องหันกลับไปมอง
"มีไรอีกกกกกก"
"อยากขี่หลังอ่ะ"
ตากลมๆมองผมด้วยนัยตาอ้อนนิดๆ
ไม่ใจอ่อนหรอกเว้ย
"ไม่
โตแล้วเดินเองเลย" ผมหันกลับไปแต่ก็ต้องหันกลับมาอีกครั้ง
เพราะมือเล็กๆนั่นยังคงรั้งเสื้อผมไว้อย่างไม่มีท่าทีจะปล่อย
"นะลุงนะ
มันเซปวดขา"
โห่.. เด็กนี่..
ไม่ใจอ่อนหรอก!!!.......
"โหววว
บนหลังลุงสู๊งสูงงง"
เริงร่าท้าลมหนาวเสียจริง
สนุกมากมั้ง
แต่กูจุนฮเวหนักครับ! - -
"นี่ๆ อยู่เฉยๆ
เดี๋ยวก็ตกลงไปคอหักตายหรอก"
ผมดุมันเซที่อยู่บนหลังผมไปทีเพราะเด็กนั่นเอาแต่ขยับไปขยับมา
"พี่ดงยังไม่เคยบ่นเลย
ตาลุงนี่แก่แล้วยังขี้บ่นอีก!" ดูคำพูดคำจา มันน่าปล่อยให้ตกลงไปจริงๆเลย!
"เดี๋ยวฉันปล่อยให้หล่นลงไปเลยดีมั้ย
ห๊ะๆ"
"ไม่เอา!"
ว่าแล้วแขนสั้นๆนั่นก็รัดคอผมเอาไว้แน่นจนหายใจหายคอแทบไม่ออกกันเลยทีเดียว
ผมเดินอย่างไม่เร่งรีบนักเพราะมันยังเช้าอยู่มากๆ
มันเซก็ทักทายประชาชีอย่างร่าเริงมาตลอดทาง
"นี่มันเซ.."
"ว่าไงลุง"
มันจะพูดดีๆกับกูสักนาทีสองนาทีจะไม่โตเหรอ - -
"ทำไมนายถึงไม่พูดดีๆกับฉันล่ะ"
ในที่สุดผมก็ถามความในใจของผมออกไป
มันเซน่ะเป็นเด็กฉลาด แต่ยังไงเขาก็เป็นเด็กแหละนะ
"ก็มันเซไม่ชอบลุงอ่ะ"
แล้วมาขอขี่หลังกูเนี่ยนะ - -
"ก็แล้วทำไมไม่ชอบฉันล่ะ"
ผมขยับตัวเล็กน้อยเพราะมันเซเริ่มไหลลงจากหลังผมแล้ว
"เพราะลุงชื่อจุนฮเว.."
"นี่เหรอเหตุผลของนาย
= ="
"ก็ชื่อจุนฮเว
มันคล้ายกับชื่อจุนเน่ที่เป็นคนที่พี่ดงรักน่ะสิ มันเซไม่ชอบ"
คนที่ดงฮยอกรัก..?
มันเซกอดคอผมก่อนค่อยๆซบไหล่
มันเซกำลังเศร้าเหรอ..
"คนที่ดงฮยอกรัก?"
"อื้อ
พี่ดงรักมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว พี่ดงเคยเล่าให้ฟัง แต่มันเซไม่สนหรอกนะ
พี่ดงต้องรักมันเซมากกว่านายจุนเน่นั่น! แล้วก็ลุงด้วย!
ห้ามมารักพี่ดงของมันเซ!"
มันเซพูดขึ้นเสียงดัง
ผมหลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อย
"ฮ่าๆ
เป็นเด็กเป็นเล็กรักเป็นแล้วเหรอ"
ผมขยับตัวให้มันเซเข้าที่ก่อนออกเดินต่อไป
ใช้เวลาสักพักก็ถึงที่หมาย
ดงฮยอกยืนรออยู่หน้าประตูก่อนแล้ว
ทันทีที่วางมันเซลง เด็กลิงนั่นก็วิ่งไปหาดงฮยอกอย่างไม่คิดจะหันกลับมามองคนที่แบกมันมาตลอดทางอย่างผมเลย
- -
ตึกๆ..ตึกๆ..
จู่ๆหัวใจผมก็เต้นผิดจังหวะเมื่อดงฮยอกหันมามองแล้วยิ้มให้
เขินทำไมวะ..
‘ก็ชื่อจุนฮเว
มันคล้ายกับชื่อจุนเน่ที่เป็นคนที่พี่ดงรักน่ะสิ’
รู้อะไรมั้ย
ชื่อเล่นของผมคือจุนเน่นะ คิกๆๆๆๆๆ
บ้าจริงเราหยุดยิ้มไม่ได้เลยน่ะ
-/////////////-
“อะ..เอ่อ.. จุนฮเว
นายเป็นอะไรของนายน่ะ ยืนบิดไปบิดมาเป็นตุ๊ดไปได้ =
=”
ดงฮยอกทักทายผมล่ะ
“อ่อ เปล่าๆ
เช้านี้อากาศดีฉันเลยอารมณ์ดีน่ะ ป่ะๆๆ เข้าข้างในกันดีกว่า”
ผมเดินเข้าไปหาดงฮยอกกับมันเซก่อนดันไหล่ให้ดงฮยอกเข้าไปด้านใน
วันนี้ยังคงดำเนินไปเหมือนทุกวัน
ที่นี่ยังคงเต็มไปด้วยเสียงเจ๊าะแจ๊ะของบรรดามนุษย์85ซม.
เสียงโหยหวนอันน่าหวาดกลัว
ความวุ่นวายที่ยังเหมือนเดิม
ดงฮยอกก็น่ารักเหมือนเดิม...
อะ..เอ่อ..
เพี้ยะ!
ผมฟาดมือเข้าที่แก้มตัวเองเพื่อเรียกสติ
นี่ผมเป็นบ้าอะไร
พร่ำเพ้อไม่หยุด ทำไมจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแบบนี้..
“ฮ่าๆๆ
วันนี้ใครจับพี่ได้จะได้ของหวานเพิ่มน๊า~”
เสียงหวานที่ร่าเริงอันแสนคุ้นเคยเรียกให้ผมหันไปมอง
โอ้โหวว
ดงฮยอกท่ามกลางเด็กๆนี่ยังกับวิ่งอยู่ในสวนดอกไม้
ออร่าความสดใสนี่มันอะไรกัน
“สติจุนฮเวสติ
ดงฮยอกยังไงก็เป็นดงฮยอกเว้ย สติ สติ..สะ..ติ สะ..สวยจังง”
“อาการหนักเหมือนกันนะ
พี่น่ะ”
“เอ๋?”
ผมหันมองเด็กหญิงวัยประถมที่ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆผม
อาการหนัก? ใคร?
ผมเหรอ?
“พี่นั่นแหละค่ะ”
เธอพูดก่อนก้มลงดูดนมสตอว์เบอร์รี่นั่นไปอึกหนึ่ง
“เธอไม่ไปโรงเรียนเหรอ
คิมดาฮยอน” เด็กหญิงหันมามองหน้าผมก่อนยิ้มกว้างให้
“วันนี้ที่โรงเรียนมีกิจกรรมหนูเลยกลับมาก่อนค่ะ”
“งั้นเหรอ.. เอ่อแล้ว
ไอ้ที่บอกว่าฉันอาการหนักนี่เธอหมายถึงเรื่อง..”
“ก็เรื่องที่พี่ชอบพี่ดงไงคะ”
ห่ะ! ผมเนี่ยนะชอบดง! –[]-?
“ไม่ต้องทำหน้าเอ๋อค่ะ
นั่งมองเขาซะตาเยิ้มขนาดนั้น”
“เปล่านะ! ฉันก็แค่เห็นว่าหมอนั่นดูน่ารักดีเวลาอยู่กับเด็กๆน่ะ”
“เฮ้ออ ผู้ใหญ่นี่นะ
ทำไมชอบปฏิเสธความรู้สึกตัวเองกันจังเลย ทั้งๆที่แสดงออกมาเยอะซะขนาดนั้น
งั้นพี่ก็มองเขาอยู่ห่างๆแบบนี้ต่อไปแล้วกัน อย่าลืมนะ พี่ดงน่ะ มีคนมาจีบเยอะแยะเต็มไปหมด
ถ้าไม่รีบทำอะไรสักอย่างล่ะก็ พี่ได้กินแห้วแน่ๆ หนูไปละ”
แล้วเด็กหญิงก็เดินจากผมไป..
นี่ผมชอบดงฮยอกจริงๆเหรอเนี่ย..
TBC.
---------------------------
เยาขอโทษษษษษษ ที่มาอัพช้า T^T
เยาไม่ว่างจริมๆนั้มมมม
ขอบคุณที่ยังติดตามกันนะคะ ฮืออออ
จะพยายามอัพนะคะ เรื่องนี้จะต้องจบเราสัญญา
อาจจะใช้เวลานานหน่อย แต่เราไม่ทิ้งแน่นอน
รีดเดอร์คะ ซารางเงลลลลลลลลลลลล
ความคิดเห็น