คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Outreach Love : Chapter 6
บทที่
6
เวลาผ่านไปหนึ่งเดือนแล้วครับสำหรับชีวิตในชนบทของผม
และแล้วการช่วยงานที่ไร่ลุงของผมก็จบลง
เนื่องจากพี่ๆคนงานกลับจากพักร้อน(เหรอ)กันเรียบร้อยแล้ว
คุณคิดว่าผมสบายแล้วสินะที่ไม่ต้องช่วยงานลุงหยาง
ครับ...
แง้งงงงงงงงงงงงงงง!!!!!!!!!!!!
เสียงร้องอันโหยหวนของมนุษย์เด็กดังขึ้นจนหัวใจแทบวาย
สบายกับผีสิครับ!!!!
ความวุ่นวายพวกนี้คืออะไรกัน T^T
มนุษย์ส่วนสูงประมาณ 80-98
เซนติเมตรวิ่งวุ่นกันไปหมด
ทั้งเสียงร้องงอแง เสียงทะเลาะอันแหลมเล็ก
นี่มันยิ่งกว่าไปทัวร์คอกหมูอีกนะ
ครับผมได้รับหน้าที่ในการบำเพ็ญประโยชน์โดยการมาเป็นพี่เลี้ยงเด็ก
กูอ่อนโยนเหมาะกับเด็กมากเหรอครับ!
ให้ผมไปช่วยงานที่บ้านพักคนชราแบบพี่จินฮวานฮันบินยังดีซะกว่าอ่ะ
“ย๊า!! นายจะร้องอะไรนักหนา
อยู่ที่นี่ไม่ตายหรอกน่า”
ผมหันไปพูดกับเด็กชายคนหนึ่งที่แหกปากร้องตั้งแต่แม่เขาพามา ผ่านไปเกือบสองชั่วโมงยังไม่หยุดร้องเลยครับ..
“แง้งงงงงงง!!!!!!!!!” ไม่หยุดร้องแถมเสียงดังกว่าเดิมอีก..
“เฮ้ย! เงียบ!!” โอ้ยยย จนปัญญาละครับ
เกิดมาเคยทำแต่คนร้องไห้ เคยปลอบใครที่ไหนเล่า
TT
“นี่ พูดดีๆกับเด็กๆสิ”
ต้นเหตุที่ทำให้ผมมาอยู่ท่ามกลามฝูงลิงขี้แยพวกนี้มาละครับ
คิมดงฮยอก...
ผมไม่ตอบอะไรทำเพียงส่งสายตาเคืองๆไปให้
หมอนั่นก้มลงอุ้มเด็กนั่นแล้วปลอบให้หยุดร้อง
โคตรเคืองอะผมพูดเลย
ทำไมต้องให้ผมมาอยู่กับเด็กด้วยวะ
“โอ๋ๆ หยุดร้องนะครับแทฮาคนเก่ง
เดี๋ยวพี่ดงพาไปกินขนมตกลงมั้ยครับ”
ผมลุกขึ้นยืนเต็มความสูงกอดอกมองคิมดงฮยอกปลอบเด็กอยู่
เด็กแทฮานั่นพอได้อยู่ในอ้อมกอดดงฮยอกก็เงียบซะอย่างกับไม่เคยร้อง
แม่งแกล้งให้ดงฮยอกโอ๋ปะวะ - -
“แง้งงงงง”
พอเด็กแทฮานั่นสบตาผมมันก็ร้องออกมาอีกทันที
“นี่กูจุนฮเว อย่าแกล้งน้องดิ”
ดงฮยอกหันมาดุผม
“เฮ้ย ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ อุ๊กก!!”
อยู่ดีๆก็มีแรงกระแทกเล็กๆที่แม่งโคตรเจ็บพุ่งมาที่เหนือเข็มขัดผมนิดเดียว
ใครทำวะ
ผมก้มลงมองเจ้าของแขนเล็กๆนั่น
“ลุงแกล้งแทฮาทำไม!!!”
“อุก!!”
สิ้นเสียงตะโกนเล็กๆนั่นก็ตามด้วยการพุ่งชนจากหัวกลมๆนั่น
คราวนี้.. เต็มๆเป้าเลยครับ...
ทรุดเลย ผมนี่ทรุดเลย
“ทำงี้ด..ได้ไง...วะ”
ผมพูดออกมาด้วยความยากลำบาก
จุก คำเดียวเลย
“ก็ลุงแกล้งแทฮาอะ!”
“ฉันไม่ได้ทำเว้ย!”
“ลุงอะแหละทำ!”
เสียงแหลมนั่นยังคงเถียงผมอย่างไม่ยอมแพ้
หนอยย จะลองดีเหรอเด็กนี่
“ซง มัน เซ! มาให้ฉันฟาดซะดีๆ!”
ทำทีที่สิ้นเสียงผม เด็กนั่นก็ออกตัววิ่งหนีไปทันที
ตามสิครับรออะไร
“ย๊า! หยุดนะเฟ้ย!”
“ไม่หยุด! แบร๊!!” หันมาแลบลิ้นปลิ้นตาแล้วก็วิ่งไปต่อ
เด็กอะไรวิ่งเร็วชะมัด
ฟึบ! คว้าคอเสื้อเด็กมันเซได้ผมก็ยกตัวเขาขึ้นทันที
“หึหึหึหึ เสร็จฉันล่ะ”
“ปล่อยมันเซนะ!!”
ปล่อยก็โง่สิวะ
ผมวางเด็กมันเซลงก่อนลงมือจัดการอย่างโหดเหี้ยม
จั๊กจี้..
ก็เด็กจะเล่นแรงๆด้วยมันก็ไม่ดีใช่มั้ยครับ -
-
“ฮ่าๆๆๆ ปล่อยมันเซ ฮะๆๆๆ ปล่อย อึก ฮะๆๆ”
“แฮ่ซ์~! ฉันจะขยี้ให้พุงยับเลย”
พุงเด็กนี่นิ่มจัง 55555
“นี่ๆ พอได้แล้ว เดี๋ยวมันเซหายใจไม่ทำ”
การแก้แค้นของผมจบลงเพราะดงฮยอกเดินเข้ามาห้ามศึก
แหม่ ทีเด็กนี่แกล้งผมไม่เห็นสนใจกันฟระ!
“พี่ดง!”
เด็กมันเซลุกขึ้นก่อนวิ่งไปกอดดงฮยอก
“ทีดงฮยอกล่ะเรียกพี่ ทำไมเรียกฉันลุงวะ”
“นายแก่มั้ง ฮ่าๆๆๆๆ” ดงฮยอกตอบครับ - -
“ลุงไม่ต้องมาใกล้พี่ดงเลยนะ ออกไปห่างๆเลย”
ทันทีที่ผมก้าวเท้าเข้าไปหาดงฮยอก
มันเซพูดขึ้นเสียงดัง
พร้อมกอดดงฮยอกไว้แน่น
“ทำไม ก็ฉันจะใกล้อะ”
อย่างนี้มันต้องแกล้งสิครับ
“หยุดเลยนะ พี่ดงเป็นของมันเซ อย่ามายุ่ง!” ผมยังคงเดินเข้าใกล้ดงฮยอกเรื่อยๆ
นี่ก็ยิ้มจัง ยิ้มไรนักหนาวะ
ผมขยับเข้าใกล้ดงฮยอกอีกนิดพร้อมเอาแขนพาดไหล่หมอนั่นไว้
“ดงฮยอกก็เป็นของฉัน ทำไมจะใกล้ไม่ได้”
เฮ้ย พูดไรออกไปเนี่ย..
ดงฮยอกหันขวับมาหาผม
ด้วยความที่ผมเอี้ยวตัวไปหามันเซที่อยู่ในอ้อมกอดดงฮยอก
มันเลยทำให้หน้าผมกับดงฮยอกอยู่ห่างกันนิดเดียว
นิดเดียวชนิดที่ว่า ดงฮยอกหายใจรดแก้มผมเลยอ่ะ
“พ..พูดบ้าอะไรของนาย”
ดงฮยอกพูดขึ้นเบาๆพลางขมวดคิ้ว
“ม..ไม่รู้ดิ” แล้วนี่ผมจะติดอ่างทำไมวะ
“ไม่จริง!!! พี่ดงเป็นของมันเซคนเดียว!”
ป้าบ! ฝ่ามือเล็กๆนั่นฟาดเข้าที่แก้มผมเต็มๆ
“มันเซหอมแก้มพี่ดงแล้ว
แสดงว่าพี่ดงเป็นของมันเซ” เด็กมันเซพูดขึ้นหน้าเขียวหน้าแดง
นี่โกรธฉันเหรอ ด้ายยย
เดี๋ยวจะทำให้โกรธกว่านี้ให้ดู
จุ๊บ~!
ผมหันหน้าไปจุ๊บแก้มดงฮยอกเบาๆ
แล้วหันมายักคิ้วให้มันเซ
“ดงฮยอกเป็นของฉัน”
“กรี๊ดดดดดด! พี่ดงเป็นของมันเซ!!
แง้งงงง!!”
แล้วก็ปล่อยโฮออกมาเสียงดังลั่นห้อง
ทำไมเด็กร้องมันต้องกรี๊ดด้วยวะ
“ท..ทำบ้าอะไรของนายน่ะ มันเซร้องไห้ใหญ่เลย”
ดงฮยอกก้มหน้าก้มตาปลอบมันเซยกใหญ่
ผมยืนมองแล้วยิ้มอย่างผู้ชนะ
“นายหน้าแดงอ่ะ คิมดงฮยอก ฮ่าๆๆ”
ผมพูดอย่างที่เห็นไป
เขินผมงั้นเหรอ..
“คุณครูมาแล้ว เงียบนะครับคนเก่ง
ไม่ร้องนะครับ”
ดงฮยอกยังคงปลอบเด็กมันเซอยู่อย่างนั้น
ผ่านไปเกือบสิบนาทีมันเซก็หยุดร้องไห้
แล้วไปรวมตัวกับเด็กคนอื่นๆเพื่อฝึกทักษะเช่นทุกวัน
ผมกับดงฮยอกจึงมาเตรียมอาหารกลางวันให้เด็กๆ
ดงฮยอกก้มหน้าก้มตาตักอาหารไม่สนใจผมเลยสักนิด
เป็นไรวะ หรือดงฮยอกจะโกรธที่ผมจุ๊บแก้มเขา..
ไม่หรอกมั้ง จะโกรธทำไม
ไม่มีอะไรเสียหายสักหน่อย
“นี่..” เงียบได้สักพักใหญ่ๆ ดงฮยอกก็พูดขึ้น
แต่ไม่ได้เงยหน้ามองผมหรอก
“หืม?” ผมเงยหน้ารอฟังว่าอีกคนจะพูดอะไร
บรรยากาศอึดอัดนี้มันอะไรกัน
“เมื่อกี้น่ะ.. นาย หอมแก้มฉันทำไม”
โถ่ นึกว่าเรื่องอะไร 555
ไม่อยากเข้าข้างตัวเองหรอกนะ
แต่ดงฮยอกหน้าแดงว่ะครับ
"ก็..แกล้งมันเซไง"
ผมตอบพลางเหลือบมองดงฮยอกที่ยิ้มบางๆแล้วพยักหน้า
"อ่อ แค่นั้น" เขาตอบผมมาแค่นั้น
ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองผม
"ทำไม
นายคาดหวังคำตอบแบบไหนจากฉันล่ะ" ผมวางจานในมือ ก่อนเดินเข้าไปหาดงฮยอก
แกล้งสิครับงานนี้รออะไร
"เปล่า"
ดงฮยอกยังเอาแต่ก้มหน้าอยู่อย่างนั้น อาหารมันน่ามองกว่าผมรึไงกัน
ผมไม่พูดอะไร แต่เดินเข้าไปประชิดตัวดงฮยอก
จับไหล่เล็กให้หันมาเผชิญหน้าผม ก่อนเชยคางมนขึ้น
"ท..ทำอะไรของนาย" แก้มนั่น
แดงอีกแล้ว
"นายน่ะ..."
ดงฮยอกกระพริบตามองผมปริบๆอย่างรอคำตอบ
"..หน้าแดงเหมือนลิงมากตอนนี้
ฮ่าๆๆๆๆๆ" ผมผละออกมาก่อนหัวเราะดังๆ
เอาละครับ คิมดงฮยอกหน้าแดงกว่าเดิมอีก
5555555
"กูจุนฮเว.." รังสีความหายนะแผดซ่านอีกแล้วครับ...
"ไปตายซะ!!"
"ว๊ากกกกก~!" นี่สิคิมดงฮยอกตัวจริง TT
ผมวิ่งหนีอ้อมโต๊ะตัวยาวกลางห้องครัว
โดยมีดงฮยอกถือมีดไล่ฟันผมอย่างโหดเหี้ยม
ให้ตายเถอะ ไม่น่ากระตุกหนวดแมวเล๊ยยย
หลังจากที่ผมวิ่งหนีดงฮยอกมาสักพักใหญ่ๆ
สงครามของเขากับผมก็หยุดลงเพราะสังขาร -
-"
"ถ้านายจับฉันได้จะฆ่าฉันจริงๆเหรอ"
ผมถามทีเล่นทีจริงในขณะที่ยังคงหอบอยู่จากการวิ่งหนี
"เออดิ
กล้าดียังไงมาบอกว่าฉันเหมือนลิง" ดงฮยอกดูเคืองผมมากอ่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ
"ก็มันจริงนี่ นายหน้าแดงมากๆอ่ะ
ฮ่าๆๆๆๆ"
ดงฮยอกทำหน้าเหมือนจะฆ่าผมอีกรอบ ตลกชะมัด
555555
"เคยยืนอยู่ดีๆแล้วหงายมั้ย"
ผมไม่ตอบอะไรได้แต่หัวเราะกับท่าทางแบบนั้นของดงฮยอก
ดูเหมือนไอ่ตัวเล็กนั่นขี้เกียจจะต่อปากต่อคำกับผมแล้วล่ะ
ดงฮยอกเดินกลับไปยังโต๊ะอาหารผมก็เดินตามไปห่างๆเพื่อตักข้าวเตรียมไว้ให้เด็กๆ
ผมก็ช่วยบ้างเล็กๆน้อยๆดงฮยอกก็ไม่ขัดอะไร
เวลาผ่านไปสักพักถาดหลุมลายแบ๊วมิ้งขั้นสุดก็ถูกวางเป็นคู่เรียงไปตามความยาวของโต๊ะด้วยฝีมือของผมและดงฮยอก
อยากกลับบ้านชิบ - -
\\เย้~~~!//
เสียงแหลมเล็กนับสิบดังขึ้นก่อนจะมีเสียงฝีเท้าวิ่งเข้ามาในห้องอาหารทีผมยืนอยู่
ปรากฏร่างมนุษย์80-98เซนวิ่งกรูกันเข้ามานั่งประจำที่
"เอาล่ะ เด็กๆครับ
ก่อนทานอาหารต้องทำอะไรก่อน"
ดงฮยอกไปยืนอยู่ที่หัวโต๊ะก่อนพูดด้วยน้ำเสียงที่2
ความแบ๊วระดับ 10
แม่.ง.. ต่างจากที่พูดกับผมมาก - -
"สวดขอพรพระเจ้าค๊าบบบบ~"
เด็กๆตอบขึ้นอย่างพร้อมเพรียง
แล้วบทสวดขอพรพระเจ้าก่อนอาหารก็เริ่มขึ้นโดยมีดงฮยอกเป็นคนนำ
ผมชอบเวลานี้นะ ดงฮยอกตลกดี
รอยยิ้มดงฮยอกในเวลาที่อยู่กับเด็กๆเนี่ยมันสดใสแปลกๆ
ผมไม่ได้สังเกตดงฮยอกอะไรขนาดนั้นนะ
คือมันต่างจากปกติอ่ะ! มันก็สังเกตง่ายป๊ะล่ะ!
แต่ผมไม่ได้สังเกตนะ!! -3-
"เอาล่ะ เริ่มทานได้ครับ
ค่อยๆทานอย่าให้หกเลอะเทอะนะครับ~"
ดงฮยอกกำชับเด็กๆอีกทีก่อนย้ายตัวเองออกมาจากตรงนั้น
"นายรู้มั้ยเวลาที่เด็กๆน่ารักที่สุดคือเวลาไหน"
ดงฮยอกเดินมายืนข้างๆผมก่อนพูดขึ้นโดยสายตายังคงจับจ้องไปที่เด็กๆ
"ไม่รู้อ่ะ"
"ตอนกินนี่แหละ น่ารักมากๆเลย
นายดูดิ" พูดก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมาอีกครั้ง
ตึกๆ.. ตึกๆ..
โอ้โห.. น่ารักมาก
"นายก็น่ารักมากเวลาเด็กๆกินข้าว"
จริงๆ..
"ห๊ะ?" ดงฮยอกหันขวับมาที่ผม
ห๊ะ? อะไร
ผมพูดไรไปวะ!
"อ..เอ่อ เปล่าๆ
เด็กน่ารักจริงๆเวลากินข้าวอ่ะ เนอะๆ"
ผมทำเฉไฉชี้โบ้ชี้เบ๊ไปเรื่อย
นี่ผมพูดอะไรน่าอายออกไปใช่มั้ย
เชี่ยเอ้ย..
"ตลกนะนายอ่ะ ฮ่าๆๆๆ"
ดงฮยอกหัวเราะร่วน ทำเอาผมทำตัวไม่ถูก คันท้ายทอยแปลกๆ
แล้วบทสนทนาเราก็หยุดอยู่แค่นั้น
ดงฮยอกดูผ่อนคลายมากๆ
แล้วตอนนี้ก็เดินไปนั่งป้อนข้าวเด็กแล้ว
มีแต่ผมเนี่ยกระวนกระวายอยู่คนเดียว
ผมไม่ได้ชอบดงฮยอกนะเว้ย..
ไม่รู้ดิ...
ผมแค่ชอบเวลาหมอนั่นยิ้มแค่นั้นเอง..
.
.
.
ตกเย็นผมยืนรอส่งเด็กๆให้กับผู้ปกครองเช่นทุกวัน
สถานที่นี้จากที่คึกคักตอนนี้กลับเงียบฉี่
เด็กๆกลับไปหมดแล้ว เหลือเพียงมันเซที่กลับบ้านพร้อมผมทุกวัน
ผมเดินกลับเข้าไปในตัวอาคารอีกครั้งเพื่อไปเอากระเป๋าและไปหาจุนฮเวกับมันเซที่รออยู่
ป่านนี้สองคนนั้นคงทะเลาะกันใหญ่โตแล้วมั้งครับ
ทุกครั้งที่เจอกันต้องทะเลาะกันทุกที ฮ่าๆๆๆ
จุนฮเวก็เหลือเกินทะเลาะแม้กระทั่งกับเด็ก ตลกดีนะฮะ
ผมเดินมาตามทางเดินอย่างไม่รีบร้อน
เพราะออกจากที่นี่เราก็ไม่ได้กลับบ้านเลย
มันเซชอบเดินเล่นก่อนฮะ
ทุกเย็นผมจุนฮเวแล้วก็มันเซจึงไปเดินเล่นกัน
จุนฮเวกับมันเซนั่งรอผมอยู่ตรงสุดทางเดินที่เป็นทางออก
ผมเดินไปหาสองคนนั้นเงียบๆ
อ่าไม่ได้เป็นอย่างที่ผมคิดแหะ
ตอนนี้จุนฮเวนั่งหลับ
โดยมีมันเซนั่งหลับอยู่บนตักด้วยเช่นกัน
หัวกลมๆนั่นพิงอยู่ที่อกของจุนฮเว
น่าเอ็นดูจัง ฮะๆ
ผมนั่งลงข้างๆจุนฮเวอย่างเบาที่สุด
เกรงว่าทั้งสองจะตื่น
เหนื่อยกันสินะ
ตอนนี้สองคนเหมือนพ่อลูกกันมากอ่ะฮะ ฮ่าๆๆๆ
ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นจุนฮเวผมว่ามันเซกับเขาหน้าเหมือนกันมากๆ
มากจนผมเองก็ตกใจ
แต่ตลกดีอีกนั่นแหละ
หน้าเหมือนกันไม่พอนิสัยยังคล้ายๆกันอีก
เพราะเหตุนี้สองคนเลยไม่ค่อยถูกกันเท่าไร
แต่เด็ก 4ขวบนี่รู้จักเกลียดแล้วเหรอฮะ
55555
“จะมองอีกนานมั้ย” จู่ๆจุนฮเวก็พูดขึ้น
ผมสะดุ้งตัวออกมาเล็กน้อย
“เด็กลิงนี่ หนักชิบ”
จุนฮเวบ่นงึมงำแต่ก็ไม่ได้ปลุกมันเซ
“เหมือนพ่อลูกกันเลยอ่ะ ฮะๆๆๆ”
ผมพูดอย่างที่คิดออกไป
จุนฮเวก้มลงมองมันเซที่หลับไม่รู้เรื่องก่อนหัวเราะออกมาเบาๆ
“ป่ะ เย็นแล้วกลับกัน”
ผมลุกขึ้นสะพายกระเป๋าเตรียมออกเดิน
“เฮ้ย เดี๋ยวดิ ลิงนี่ล่ะ ปลุกนะ”
“น้องหลับอยู่ อย่าไปปลุกเดี๋ยวงอแง
อุ้มมาเลย” จุนฮเวทำท่าจะปลุกมันเซ
ผมเลยรีบปรามไว้
ด้วยความที่พระอาทิตย์เริ่มจะตกดินแล้ว
จุนฮเวจำต้องทำตามที่ผมบอก
เขากระชับกอดมันเซก่อนค่อยๆลุกขึ้น
แล้วเดินตามผมมา
“เด็ก4ขวบมันหนักได้ขนาดนี้เลยรึไงกัน”
ตลอดทางที่เดินมา จุนฮเวยังไม่เลิกบ่นเลยฮะ
ขี้บ่นชะมัด - -
“อย่าบ่นสิ บ่นอะไรมากมาย ฮะๆ”
“หัวเราะอะไร” จุนฮเวหันมามองผม
ผมไม่ได้ตอบอะไร แค่ยิ้มกลับไปเท่านั้น
จุนฮเวรีบหันหน้ากลับไปแล้วเดินต่อเงียบๆ
ผมหัวเราะอะไรน่ะเหรอ แค่เห็นว่ามันน่ารักดีน่ะฮะ
เวลาจุนฮเวอยู่กับเด็กน่ะ
ถึงมันจะดูไม่น่าจะเข้ากันได้เท่าไร
แต่จุนฮเวก็มีมุมอ่อนโยนนะ..
ผมไม่ได้สังเกตเขานะฮะ
แค่มันต่างจากเดิม เลยเห็นได้ชัด.. แค่นั้นเอง
เราสามคนเดินในเส้นทางเดิมที่ใช้กลับบ้านอย่างไม่เร่งรีบ
อ่า บรรยากาศตอนพระอาทิตย์ใกล้ตกดินเนี่ย
สวยจริงๆนะฮะ
TBC.
-------------------------------------------------
อันนยองงงงงงงงงง ไม่ได้เจอกันนานมากกับฟิคเรื่องนี้ 555555555555
ไรท์สำนึกผิดแล้วค่ะ T^T
หวังว่ายังมีคนติดตามเรื่องนี้นะคะ 55555555555
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมให้สุขสมอุรากับฟิคไร้สาระเรื่องนี้น๊าค๊าา >3<
ความคิดเห็น