ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : คำทำนาย
จะว่าไปแล้ว สังคมสมัยนี้เอาเสแสร้ง ปั้นหน้าเข้าหากันจนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอันไหนจริงจริงใจแบบไหนเสแสร้ง ผมล่ะเหนื่อยใจจริงๆกับคนพวกนี้ อันที่จริงผมจะไม่เก็บมันมาใส่ใจก็ได้แต่ทว่าถึคุณเป็นผมลูกชายคนเดียวของประธานใหญ่แห่งบริษัทผลิตซอฟท์แวร์ทีใหญ่ที่สุดของเอเชียล่ะก็ คุณคงจะไม่ปวดหัวหรอก ก็คนพวกนี้เล่นปั้นหน้าเข้ามาหาผมก็มีแค่เรื่องเดียวทั้นแหละ ไม่อยากได้ผมไปทำลูกเขยก็หวังผลประโยชน์กันทั้งนั้น
เฮ้อ!!!
เอี๊ยก
.กกกกกกก!!!!
ผมเหยียบเบรกสุดแรงเกิด ด้วยความตกใจจะไม่ให้ตกใจได้ยังไง จู่ๆก็มีใครก็ไม่รู้วิ่งมาตัดหน้ารถผม น่าจะเป็นผู้หญิงนะ หลังรวบรวมสติได้แล้วผมก็รีบเปิดประตูรถลงไปดูอย่างไม่ลังเล แล้วก็เป็นอย่างที่ผมคิดไว้เธอเป็นผู้หญิงจริงๆ ผมยืนมองเธออย่างงงๆ เธอไม่เป็นอะไรเลยสักนิด ไม่แม่แต่จะเสียขวัญ แต่กลับก้มๆเงยๆเก็บเอกสารที่อยู่ร่วงกระจายจากมือเธอ แล้วก็ชะเง้อมองหาอะไรบางอย่าง สภาพเธอตอนนี้เหมือนเด็กกำลังหาพอแม่แม่ไม่เจออย่างงั้นแหละ ผมตัดสินใจเดินเข้าไปถามเธอเผื่อจะช่วยอะไรได้บ้าง
“ขอโทษครับ เอ่อ..”เธอไม่สนใจผมเลยด้วยซ้ำ ไอ้สิ่งที่เธอกำลังหาอยู่มันคงสำคัญมากพอดู เพราะว่าเธอไม่สนใจเสียงผมเสียงผมเลยสักนิด แต่เพียงครู่ก็เหมือนเธอพบในสิ่งที่เธอต้องการแล้วหล่ะ เธอเงยหน้ามามองผมชัดๆแล้วถามผมด้วยรอยยิ้มว่า “ขอโทษนะคะ เมื่อสักครู่คุณพุดว่าอะไรนะคะ” เธอยิ้มให้ผมอีกครั้งหนึ่งเมื่อพูดจบเคยไหมครับที่เหมือนถูกสะกดน่ะครับ รอยยิ้มของเธอที่ยิ้มให้ผมมามันเหมือนมีมนต์สะกดเลยครับ รู้สึกว่ามุมปากผมที่มันน้อยครั้งมันจะปริออก ตอนนี้มันยิ้มไม่ยอมหุบสมองมันอื้ออึงเหมือนไม่สั่งงาน นานเท่าไหร่ไม่รู้ได้แต่รู้สึกเหมือนว่าจะมีเสียงอะไรบางอย่างที่ดังระงมไปหมดเลยตอนนี้ แล้วมันก็คือเสียงแตรรถนั่นเองครับ เสียงแตรระงม บีบใส่ผมนี่แหละ พอรู้ตัวอีกทีเธอก็หายไปแล้ว มลผมสลัดความคิด แล้วรับขับรถไปด้วยอารมณ์ที่หลากทั้ง งง ประทับใจ เอ๋อ ที่สำคัญออกจะหัวเสียนิดๆด้วยซ้ำ ผมขับรถคู่ใจไปยังจุดหมาย ‘เกาะช้าง’ ที่นี่เป็นที่ที่ครอบครัวผมมาเที่ยวกันบ่อยในวันหยุด ที่สำคัญที่นี่เป็นวันบ้านเกิดแม่ผมด้วย เมื่อก่อนสมัยพ่อกับแม่ผมยังไม่ได้อย่ากัน ผมใช้ชีวิตวัยเด็กอยู่ที่นี่อย่างมีความสุข ผมขับรถไปเรื่อยๆ ตอนนี้ก็เวลาประมาณห้าโมงกว่าๆแล้วพระอาทิตย์ใกล้จะตกดิน ท้องทะเลกำลังจะเป็นสีทองเหมือนดวงอาทิตย์ ลมหนาวที่โชยมามันทำให้ดูเหงาๆยังไงชอบกล ผมจอดรถแล้วเดินเลียบชายหาดอยู่สักพักผมกะว่าจะหมกตัวเองอยู่บ้านแม่สักสองสามวัน ผมชักเบื่อความวุ่นววายในกรุงเทพมหานครเมืองใหญ่เสียแล้วสิ จู่ๆภาพรอยยิ้มของเธอคนนั้นก็ลอยมาในความคิดผมอีกครั้งรอยยิ้มของเธอช่างกินใจผมยิ่งนัก เสียดายที่ไม่มีโอกาสได้รู้จักกันก่อน ผมชอบรอยยิ้มแบบนี้จัง มันทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นแล้วดูจริงใจดี ผมจะมีโอกาสได้เจออีกสักครั้งหนึ่งไหม?
โอมเพี้ยง!!! ขอให้คำทำนายของใบเซียมซีเป็นจริงด้วยเถิ๊ด สาธุ! เสียงเบรกดังเอี๊ยดของรถยนต์ข้างหน้าฉันไม่ได้ทำให้ฉันสนใจแต่อย่างใดก็ฉันยังอ่านใบทำนายไม่จบเลยแล้วมันดันปลิวออกไปที่ถนน ฉันจึงรีบวิ่งไปเก็บโดยไม่ด้สนใจสิ่งรอบข้างสักนิด ในที่สุดฉันก็ตามไปเก็บมันมาจนได้ เจ้าของรถลงมาถามฉันว่าเป็นอะไรมากมั้ย ไม่รู้สิไม่มีอารมณ์ตอบอะไรได้แต่ยิ้มให้ หน้าตาของเจาฉันยังจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เขาไม่ยอมพูดอะไรเลย ไม่ได้อยากเสียมารยาทหรอกนะแต่ฉันรีบมากจริงๆ ก็เลยไม่ได้ขอโทษอะไร วิ่งแจ้นไปยังร้านขายของชำเพื่อซื้อของใช้ที่จำเป็นสำหรับการไปเที่ยวทะเลนะสิ ก็วันนี้พี่ดนัยพี่ชายแสนใจดีของฉันเขาจะพาฉันไปเที่ยวทะเลด้วย จริงๆอย่าเรียกว่าเที่ยวทะเลเลยเรียกว่า มาเป็นเพื่อนจะดีกว่าเพราะพี่ดนัยพาลูกค้าไปสัมนาที่เกาะช้าง นี่เป็นการไปเที่ยวทะเลครั้งแรกของฉันในรอบ่าได้ อีกอย่างถือเป็นการมาพักผ่อนไปในตัวของฉันด้วย เพราะฉันเรียนจบมาได้สองเดือนแล้วกำลังหางานทำอยู่ กลับจากเที่ยวทะเลคราวนี้ก็คงได้ฤกษ์หางานทำจริงๆจังซักที..อ้อ ลืมบอกไปแน่ะว่า ในใบเซียมซีของฉันน่ะบอกว่าผู้ชายคนแรกที่เจอหลังเสี่ยงเซียมซีใบนี้คือเนื้อคู่ของฉันแหละ ส่วนอีกเรื่องหนึ่งก็บอกว่า ฉันจะต้องมีเกณฑ์เดินทางไกล โถ่เอ๊ย!ไม่น่าวิ่งไปเก็บมาเลย ไอ้ส่วนที่อ่านไม่จบมีดเนื่อหาแค่ว่าจะได้เดินทาง ชิ!คุณพระ ถ้าคำทำนายแม่นจริงดังคำล่ำลือละก็ผู้ชายที่ฉันวิ่งตัดหน้ารถเขาก็อาจจะเป็นเนื้อคู่ของฉันก็ได้นะ แย่แล้ว!ฉันดีนจำหน้าเขาไม่ได้นี่สิ TT^TT
ไม่!!!!!!!!!นะ !!!!!!!!!!
ผมขับรถมาที่ร้านอาหารของแม่ผมแล้วก็รีบเดินเข้าไปกอดแม่ ตามด้วยหอมอีกสองฟอดใหญ่ๆอย่างที่แม่ไม่ทันตั้งตัว แม่ตีผมที่แขนเบาๆแล้วก็กอดผมด้วยความคิดถึง เพราะผมไม่ได้กลับมาหลายเดือนแล้ว
“กินข้าวมาหรือยังตากร”ผมหอมแก้มแม่อีกสองที แล้วตอบอย่างออดอ้อน “ยังเลยครับแม่ นี่เก็บท้องจากกรุงเทพมากินข้าวฝีมือแม่เลยนะครับ”แม่ส่งค้นมาให้ใช้ผมวงใหญ่
“อย่ามาทำเป็นปากหวานแถวนี้นะ งั้นไปนั่งรอแม่เดี๋ยวนะ เดี๋ยวแม่ทำอะไรให้กิน”ผมทำตามอย่างว่าง่าย แต่ก็ไม่ได้นั่งเฉยๆหรอก ผมเดินไปช่วยพนักงานในร้านเสิร์ฟอาหารอย่างคล่องแคล่ว แต่สายตาผมก็หันไปสะดุดกับใครคนหนึ่งเข้า ใช่แล้ว เธอคือผู้หญิงคนนั้น ผมไม่รอช้ารีบเดินเข้าที่โต๊ะเธอทันที แต่ผมยังไม่ทันจะถึงก็มีผู้ชายคนหนึ่งเข้าไปนั่งข้างๆเธอซะแล้วท่าทางดูสนิทสนมกันเหลือเกิน คงจะเป็นแฟนเธอละสิ
ผมรู้สึกใจห่อเหี่ยวแปลกๆ ทำไมหนอชายหนุ่มที่แสนจะเพรียบพร้อมอย่างผมถึงต้องผิดหวังเรื่องความรักอยู่ร่ำไป
“คุณกรคะ ป้าแก้วให้มาตามไปทานข้าวค่ะ”พนักงานคนหนึ่งในร้านเดินมาตามผมด้วยท่าทางเหมือนผมจะกินเธอไปอย่างนั้นแหละ
“เรียกแม่ผมว่าไงนะ ป้าหรอ?”พนักงานคนดั่งนั้นทำท่าทางอึกอักกล้าๆกลัวๆ
“ผมถาม!” ผมแกล้งทำเสียงดัง
“เอ่อ คือว่า ทีหลังหนูไม่เรียกแล้วค่ะ”ผมแกล้งทำหหน้าขรึม แต่แอบขำในใจ นี่ผมหน้ากลัวขนาดนั้นเลยหรอ
“จะเรียกก็เรียกไปสิ ผมไม่ได้ว่าอะไรนี่นา แค่สงสัยว่า แม่ผมแก่ขนาดนั้นเลยหรอ ” เห็นพนักงานคนนั้นทำท่าโล่งใจอย่างน่าขัน แต่ผมก็เดินชนกับยายคนหนึ่งเข้าอย่างจังจนแกเซ
"ขอโทษครับยาย เป็นอะไรหรือเปล่าครับ"หญิงชรายิ้มเนือยๆ แล้วก็ส่ายหน้าช้า "ไม่เป็นไรหรอกพ่อหนุ่ม" ผมถอนหายใจเบาๆ วันนี้ไม่รู้เป็นอะไรเจอแต่อุบัติเหตุ สงสัยต้องไปทำบุญซะแล้วสิ
"งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ"
"เดี๋ยวพ่อหนุ่ม"ผมหันกลับไปทางยาย"ขอโทษครับยาย เป็นอะไรหรือเปล่าครับ"หญิงชรายิ้มเนือยๆ แล้วก็ส่ายหน้าช้า "ไม่เป็นไรหรอกพ่อหนุ่ม" ผมถอนหายใจเบาๆ วันนี้ไม่รู้เป็นอะไรเจอแต่อุบัติเหตุ สงสัยต้องไปทำบุญซะแล้วสิ
"งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ"
"เร็วๆนี้พ่อหนุ่มจตะได้เจอเนื้อคู่"ผมงงสุดขีด แล้วยายจะรู้ได้ยังไง แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก ได้แต่ยิ้มตอบแล้วยายก็เดินออกไปจากร้าน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น