ตอนที่ 24 : sᴇʀᴘᴇɴᴛ sᴘᴇᴄɪᴀʟ ②

2 years later…
เช้าวันนี้แฮร์รี่ไปทำงานโดยมีลูกชายตามติดไปด้วย เพราะที่คฤหาสน์มัลฟอยไม่มีใครว่างสักคน ปู่กับย่าต้องออกไปทำธุระที่ต่างเมือง รวมถึงการเดินทางค่อนข้างลำบากสำหรับเด็ก คนเป็นปู่จึงไม่อยากให้หลานชายเหนื่อยล้าจึงไม่พาไปด้วยเหมือนทุกครั้งที่ออกไปข้างนอก
ส่วนพ่อแท้ๆ ก็ติดประชุมกะทันหันจึงไม่สามารถดูแลได้ ครั้นจะฝากไว้กับเอลฟ์ประจำบ้าน เจ้าลูกชายกลับร้องขอตามเขามาทำงานด้วย และแฮร์รี่เห็นว่าไม่ได้ลำบากอะไรจึงยอมให้มา แต่มีข้อแม้อยู่หนึ่งอย่างซึ่งก็คือห้ามกลับร่างเป็นอสรพิษสุ่มสี่สุ่มห้าต่อหน้าคนอื่น เพราะเขากลัวคนที่ไม่รู้เรื่องราวจะตกใจรวมถึงเป็นประเด็นลงหน้าหนึ่งในเดลี่พรอเฟ็ต
รวมถึงวันนี้เขามีนัดทานข้าวกับเพื่อนสนิทพอดี จึงถือโอกาสพาลูกชายไปพบด้วยเลย เพราะตลอดสามปีที่ผ่านมาตอนอยู่ในร่างอสรพิษเขาไม่เคยได้พาออกไหนเท่าไหร่ แต่มีอยู่สองสามครั้งที่รอนกับเฮอร์ไมโอนี่ไปเยี่ยม ทว่าตอนที่สามารถเปลี่ยนร่างได้ตามอำเภอใจกลับยังไม่เคยได้เห็นสักครั้ง วันนี้จึงถือเป็นวันดีที่สุดที่จะได้พบกันเสียที
“ดีแลนจำลุงรอนกับป้าเฮิร์มได้ไหมครับ”
แฮร์รี่ถามขึ้นเมื่อตอนนี้เขากำลังจับมือเล็กป้อมของเด็กวัยห้าขวบอยู่ในลิฟต์ของกระทรวงเวทมนตร์
“จำได้ครับ”
เด็กชายตอบพร้อมกับประตูลิฟต์เปิดออก แฮร์รี่จึงไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะชั้นนี้ถึงที่ทำงานของเขาพอดี ดังนั้นจึงพาลูกชายเบียดตัวแทรกออกมาโดยระหว่างทางก็พยายามใช้ตัวเองกันไม่ให้ลูกได้รับแรงเบียดอย่างมากที่สุด
“โอ๊ะ!”
หากแต่ว่าไม่นานนักเขากลับโดนเบียดเกือบล้มจนเผลอร้องเสียงดังออกมา ทว่าโชคดีที่มีคนช่วยจับเอาไว้ได้ทันและไม่ทำให้เขาหน้าล้มคะมำต่อหน้าลูกชายลงไป
“คุณเป็นอะไรไหมครับ”
“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณครั— อ้าว! คอร์แม็ก!”
คนที่ยืนทรงตัวได้ดีแล้วกำลังเอ่ยขอบคุณคนช่วยเหลือ หากแต่ว่าพอเงยหน้าขึ้นมากลับพบคนคุ้นหน้าคุ้นตาเข้าเสียก่อน
“แฮร์รี่?” อีกฝ่ายเปล่งเสียงออกมาพร้อมกับทำท่านึกไปพลางๆ
“ใช่ ฉันเอง” เจ้าของชื่อตอบรับก่อนจะส่งยิ้มให้
“นายจริงๆ เหรอเนี่ย ฉันไม่อยากเชื่อเลย”
“ไม่เชื่อได้ยังไง ฉันยืนอยู่ตรงหน้าของนายเนี่ย แถมนายยังช่วยฉันเอาไว้อีก ขอบคุณมากนะ”
แฮร์รี่เอ่ยขอบคุณอีกครั้งให้กับคอร์แม็ก แม็คล้ากเก้น อดีตคีปเปอร์กริฟฟินดอร์ที่มาเล่นแทนรอนอยู่ช่วงหนึ่ง
“ฉันได้ยินข่าวมานานแล้วว่านายทำงานอยู่ที่กระทรวงเวทมนตร์ แต่ไม่มีโอกาสได้เจอสักที”
“วันนี้ได้เจอกันแล้วนะ”
“อืม แล้วนายเป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม”
“ฉันสบายดี นายล่ะเป็นยังไงบ้าง ทำงานอยู่หน่วยไหนเหรอ เผื่อวันหน้าฉันจะได้ติดต่อไป”
หากแต่ว่าอีกฝ่ายยังไม่ทันได้ตอบอะไรออกมา เขากลับโดนมือเล็กๆ ที่จับอยู่กระตุกดึงเข้าซะก่อน อีกทั้งเมื่อหันไปกลับเจอดวงตาที่ถอดแบบออกมาจากเขาเป๊ะกำลังเต็มไปด้วยความไม่สบอารมณ์
“รอเดี๋ยวนะครับ” แฮร์รี่บอกพร้อมกับเสียงจากคู่สนทนาถามดังขึ้น
“ลูกนายเหรอ”
“ใช่แล้ว ลูกฉันเอง” ส่วนคนโดนถามเองก็ตอบรับออกไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
“แม่ครับ”
“ครับ”
รวมถึงในตอนนี้แฮร์รี่ไม่ได้สนใจคู่สนทนาของเขาอีกแล้ว เพราะเมื่อเห็นลูกชายกำลังยกมือขึ้นขยี้ตาและอ้าปากหาวเล็กๆ ก็รีบขอตัวแยกออกมาทันที
“เอาไว้เจอกันใหม่นะคอร์แม็ก ฉันต้องรีบไปทำงานแล้ว”
“อ๋อ ได้สิ เดี๋ยววันไหนฉันว่างๆ จะไปชวนทานข้าวกลางวันนะ”
“โอเค ไปหาได้ตลอดเวลาเลยนะ ฉันอยู่ที่ห้องทำงานตลอด”
แฮร์รี่พูดแค่นั้นก็อุ้มลูกชายขึ้นแนบอก เพราะเห็นว่าร่างเล็กเริ่มงัวเงียมากแล้วเนื่องจากโดนขุดออกมาจากที่นอนแต่เช้าตรู่โดยที่ยังไม่ใช่เวลาตื่นของเจ้าตัว
หากแต่ว่าเขาไม่ได้รู้เลยว่าอสรพิษเด็กนั้นแกล้งทำ เพราะเมื่อแม่อุ้มเสร็จเรียบร้อย ดวงตาปรือกลับใสแจ๋วและมองจ้องไปยังคนที่พูดคุยกับคนให้กำเนิดอยู่นานสองนานอย่างเอาเรื่องก่อนจะส่งตรงความคิดหาใครบางคนเพื่อแจ้งข่าว …
ช่วงสายของวันแฮร์รี่ยังคงขะมักเขม้นอยู่กับงานของตนเองโดยที่ลูกชายนั้นเอาแต่นอนหลับอุตุอยู่บนโซฟารับรองและไม่ได้รบกวนเขาแต่อย่างใด ทว่าถึงแม้ตาจะปิดแต่สองหูกลับตั้งใจฟังคนเดินเข้าออกอย่างดีเยี่ยม
รวมถึงเมื่อใดที่มีคนเข้ามาคุยกับเขานานมากๆ และไม่ออกไปเสียที ร่างเล็กก็จะปรากฏขึ้นข้างกายของเขาราวกับคอยอารักขา อีกทั้งยังใช้สายตาดุๆ มองผู้ใหญ่กว่าจนแฮร์รี่ต้องปรามไปหลายที
“เที่ยงนี้คุณพอตเตอร์มีนัดหรือยังครับ”
“ผมเหรอครับ” แฮร์รี่ถามกลับพร้อมกับเงยหน้าจากแผ่นกระดาษที่ชายหนุ่มลูกน้องในสังกัดนำเข้ามาให้เซ็น
“ครับ ผมอยากจะชวนไปทานข้าวกลางวันด้วยกัน”
“มัลฟอย”
ทว่าแฮร์รี่ยังไม่ทันได้ตอบรับออกไปสักคำ เสียงเด็กชายกลับแทรกขึ้นมาเสียก่อนและทำเอาผู้ใหญ่ทั้งสองต้องหันมองพร้อมกัน
“แม่ผมใช้นามสกุลมัลฟอย… แฮร์รี่ เจมส์ มัลฟอย”
“ดีแลนครับ” แฮร์รี่เอ่ยปรามเล็กน้อยโดยที่น้ำเสียงปกติที่สุด
“เอ่อ…”
“ลูกชายของผมเองครับ พอดีวันนี้ไม่มีใครอยู่บ้าน ผมจึงพาเขามาด้วย”
“อ๋อครับ แล้วเรื่องทานข้า—”
“พ่อมาแล้ว”
เพียงเท่านั้นประตูห้องทำงานของแฮร์รี่ก็ถูกเปิดออกอีกครั้งพร้อมกับชายหนุ่มที่แม้ว่าอายุจะมาเพิ่มขึ้นหลายปีแต่ความหล่อเหลาและดูดีกลับไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย เท่านั้นไม่พอชุดสูทที่ดำสนิทที่สวมใส่ยังทำอีกฝ่ายน่ามองมากขึ้นเป็นทุนเดิม
ทว่าใบหน้าไม่สบอารมณ์เท่าไหร่มากกว่าที่ทำให้แฮร์รี่สนใจมากที่สุดและไม่เข้าใจจนกระทั่งหันตามสายตาของคนรักจนไปหยุดอยู่ที่ลูกชายซึ่งมีใบหน้าเหมือนกำลังสื่อสารกันเพียงลำพัง เขาถึงได้รู้ว่าลูกรักคงจะแจ้งข่าวอยู่ตลอดเวลาเป็นแน่ อีกคนถึงได้มีท่าทางเช่นนั้น
“ไม่ทราบว่าจะพาภรรยาของผมไปไหนครับคุณฟลินท์”
มาร์คัส ฟลินท์คือหนึ่งในสมาชิกทีมควิดดิชของสลิธีริน เมื่อก่อนดูไม่ได้เท่าไหร่แต่เดี๋ยวนี้จัดว่าหล่อเหลามากทีเดียวเท่าที่เดรโกสังเกตเห็น
“แสดงว่าข่าวลือเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ”
“ข่าวลือเรื่องไหนล่ะ ถ้าเรื่องแฮร์รี่เป็นภรรยาของฉัน ก็ใช่” ท่าทางถือดียกกลับมาใช้เมื่อครั้งเป็นเดรโก มัลฟอยอดีตซีกเกอร์ประจำบ้านงู
“ไม่คิดว่าหลังจากที่ฉันเรียนจบจะมีอะไรมากมายเกิดขึ้นที่ฮอกวอตส์”
“ … ”
“จากคนที่เคยไม่ถูกกันผันเปลี่ยนมาเป็นคนรัก น่าแปลกดี”
“ไม่มีอะไรแปลก มีเพียงแค่นายไม่รู้”
ฝ่ายที่เพิ่งเข้ามาใหม่พูดจบก็เดินผ่านหน้าอดีตรุ่นพี่ร่วมบ้านไปหาคนรักของตนเองก่อนจะจูบเพื่อทักทายกันแบบที่เคยทำเป็นประจำ โดยไม่สนใจสักนิดว่าจะมีใครอยู่ร่วมห้องบ้าง ถ้าพูดถึงลูกชายนั้นคงจะชินตาไปตั้งนานแล้ว หากเป็นอีกคนหนึ่งต่างหากที่ตอนนี้เหมือนเป็นส่วนเกิน
“หมดธุระแล้วก็ออกไปสิ จะยืนอยู่ทำไมอีกล่ะ”
“เดรโก”
แฮร์รี่เอ่ยปรามเบาๆ ก่อนจะตีเข้าไปที่ต้นแขนหนาของคนยืนล้วงกระเป๋าข้างๆ ไปหนึ่งที
“ถ้าอย่างนั้นขอตัวก่อนนะครับคุณพอตเตอร์”
อีกฝ่ายจงใจเน้นนามสกุลเดิมของเขาอย่างไม่สนใจใครอีกคนในห้องสักนิด
“มัลฟอย”
แต่ในเวลาพร้อมๆ กันเขากลับได้ยินประโยคของท่าทีและน้ำเสียงแบบเดิมดังออกมาราวกับคัดลอกวางไม่มีผิด เล่นเอาเจ้าของห้องได้แต่ส่ายหัวไปมาให้กับสายเลือดตระกูลมัลฟอยทั้งคนพ่อคนลูก
“ก็ไม่แน่ … ในสักวันอาจจะเป็นแฮร์รี่ เจมส์ ฟลินท์ก็ได้”
พอพูดจบก็เดินออกไปโดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิดว่าทิ้งระเบิดลูกโตเอาไว้ให้เขาเสียแล้ว หรือบางทีอาจจะรู้ตัวและจงใจยั่วโมโหเดรโกก็เป็นได้
“หยุดเลย ไม่ต้องตามเขาไป”
“แต่มัน—”
“ไม่เอาน่าเดรโก เขาแค่พูดเล่น นายก็น่าจะดูออก”
“หึ เล่นจริงล่ะสิไม่ว่า ก่อนหน้านี้ยังชวนนายไปทานข้าวกลางวันอยู่เลย ทั้งที่ลูกนั่งอยู่ในห้องแท้ๆ”
นั่นไง เขาคิดถูกไม่มีผิดว่าลูกชายเป็นคนสื่อสารกับพ่อของเจ้าตัวตลอดเวลา ถึงว่าบางครั้งเห็นนั่งนิ่งๆ ไป
“แล้วมาได้ยังไง ไหนว่ามีประชุมด่วน”
รวมถึงแฮร์รี่เองก็เปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็วเพื่อตัดปัญหา แม้ว่าอีกฝ่ายจะฮึดฮัดอารมณ์ยังไม่ลงก็ตาม
“เลื่อนไปตอนบ่ายก็เลยคิดว่ามาทานข้าวกับนายและลูกก่อนดีกว่า”
“อ๋อ งั้นก็ดีเลย วันนี้นัดรอนกับเฮิร์มไว้ด้วย นายนั่งรอกับลูกก่อนสิ สักสิบเอ็ดโมงครึ่งค่อยออกไป”
เดรโกไม่ได้ตอบอะไรต่อแต่เดินเข้าไปที่ชุดโซฟารับรองซึ่งมีลูกชายของตนเองจับจองไว้ก่อน รวมถึงไม่นานแฮร์รี่เองก็หันมาสนใจงานของตนเองอีกครั้งเพราะยังมีเรื่องที่ต้องสะสางมากทีเดียว
ทว่าพอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีกลับเห็นสองพ่อลูกพิงกันนั่งหลับอย่างน่าเอ็นดูไปเสียแล้ว จนกระทั่งเห็นว่าศีรษะกลมเล็กๆ ที่เคยพิงแขนบิดาร่วงลงมาวางแหมะอยู่ที่ตักเพราะตั้งไม่อยู่
เจ้าของห้องจึงเดินเข้าไปจัดแจงท่าทางเพื่อให้ลูกได้นอนสบายๆ แทนอีกทั้งเสื้อคลุมยังถูกห่มให้ร่างเล็กตามไปก่อนจะจุมพิตที่หน้าผากไปหนึ่งทีพร้อมกับแบ่งมาให้คนพ่อบ้าง
แต่เมื่อริมฝีปากจรดบนหน้าผากของคนรัก อีกฝ่ายกลับลืมตาขึ้นมาและกดท้ายทอยของเขาให้เลื่อนอวัยวะเดียวกันไปจบลงบนพื้นที่เดียวกันแทน …
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ถ้ามีคนแย่งแฮรี่ไปจริงๆ คงมีงูไปเฝ้าถึงบ้าน ไม่ก็โดนงูชกตายแน่ๆ
น่ารักมากเลยค่ะ ชเบมากๆ ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ🥰
ปล.พ่อลูกเหมือนกันไม่มีผิด เยี่ยม!!!
ขอบคุณสำหรับนิยายน่ารักๆๆๆๆเรื่องนี้นะคะ สนุกมากเลยย เป็นกำลังใจให้สำหรับทุกๆเรื่องเลยน้าา
เราอ่านเรื่องของคุณแล้วจิกหมอนแทบขาดเลยค่ะ ฮือออ สนุกมากๆ ตามอ่านหลายเรื่องแล้วสู้ๆ นะคะ อยากถามเดรโกจริงๆ ว่า รักมากไหมคะ แง
อ่านรวดเดียวเลย สนุกมาก ชอบมากกก >~<
เจ้าตัวเล็กหวงแม่มาก น่าร้ากกกกก
แต่งานนี้ต้องพรีให้ทันค่ะ
ไม่นกแล้ววว ขอบคุณค่ะ ชอบงานของไรต์มากๆเลยยย
พี่ลบเหรอ
ก็คือรอเงินเดือนธันวาออกจะโอนเลยคะ เป็นทาสดีแลน แง้งง คือกลัวงูมาก แต่เรื่องนี่คือยอมมมมม
งื้อชอบมากกกกก
ถอดแบบมาเหมือนเลย ขี้หวงจังนะ