ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องกิจกรรมชาวมุนดัส

    ลำดับตอนที่ #5 : [บทที่ 3] ภัยร้ายในหุบเขา

    • อัปเดตล่าสุด 4 เม.ย. 57


                    [ทุกคนในคณะได้รับไอเทม]

                    “ปีกแมลง” คนละ 2 ชิ้น
                    (ปีกแมลงจากปิศาจใต้พื้นพิภพ มีสภาพเป็นสีดำเลื่อมและเหม็นสาบ ไม่มีใครอยากจะเก็บมันไว้หรอก แต่บางทีอาจขายให้คนชอบของแปลกสะสมได้)

                    “ไข่แมลง” คนละ 2 ชิ้น
                    (ไข่สีเหลืองขุ่นขนาดเท่าฝ่ามือ นักเดินทางหลายคนมักถกเถียงกันว่า “เอ็งจะเก็บมาทำพระแสงอะไร
    !” แต่หารู้ไม่นี่คือของสะสมชิ้นสำคัญทีเดียว แต่การใช้ประโยชน์นั้นหามิได้ คงต้องเอาไปตั้งโชว์ในบ้าน หรือท่านจะลองนำไปให้ความอบอุ่นเผื่อสักวันมันจะฟักออกมานะ)

     

    = = =

     

                    หลังจากตกลงกันแล้ว พวกท่านก็เดินตามเสียงนั้นไปโดยพยายามเดินรวมกลุ่มกันอย่างใกล้ชิด ความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางเริ่มกัดกินร่างกาย แต่ละคนเริ่มมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อที่ต้องเดินขึ้นลงเขาตลอดทั้งวัน และยังต้องต่อสู้กับแมลงยักษ์ในถ้ำอีก

     

                    ครืน... ครืน...

     

                    เสียงปริศนายังคงดังก้องไปทั่วถ้ำ ทุกฝีเท้าที่พวกท่านเดินไปยิ่งเข้าใกล้เสียงปริศนาทุกขณะ แถมมันดังขึ้นเรื่อยๆ แสงไฟที่ส่องสว่างในถ้ำพอให้พวกท่านมองออกว่าอะไรเป็นอะไร ในบริเวณนี้ผนังถ้ำมีสีดำเลื่อมและพื้นเป็นหินแข็งสีดำด้าน ยิ่งเดินลึกไปทางเดินก็ยิ่งแคบลง สภาพดังกล่าวอึดอัดเสียจนพวกท่านแทบอยากจะร้องตะโกนออกมาให้สุดเสียง

     

                    ทันใดนั้นท่ามกลางการเดินทางแสนลุ้นระทึก พื้นดินและผนังถ้ำก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงจนพวกท่านเสียหลักล้มคะมำ หลายคนพยายามทรงตัวไว้แต่สุดท้ายก็ไม่อาจทรงตัวท่ามกลางแรงสั่นสะเทือนดังกล่าวได้ ในตอนนั้นเอง พื้นดินก็ได้ทรุดตัว...

     

                    แองจีล่า โนเวทเทจ กับ ไวโอเล็ต เรนเนลล์ ที่เดินรั้งท้ายของกลุ่มเสียหลักล้มลงเช่นเดียวกัน แต่ช่างโชคร้ายพื้นดินบริเวณนั้นทรุดตัวอย่างหนักจนพวกเขาร่วงไปในหลุมที่เกิดจากพื้นทรุดตัวอันแสนดำมืด ทั้งคู่คว้าก้อนหินที่พอจะรั้งไว้ไม่ตกลงไป แต่ท้ายที่สุด พื้นบริเวณดังกล่าวก็ทรุดฮวบเป็นบริเวณกว้างกว่าเดิม

     

                    [แองจีล่าและไวโอเล็ต ร่วงหล่นสู่พื้นใต้พิภพ เสียพลังชีวิตครึ่งหนึ่ง หากเหลือเศษให้ปัดลง]

     

                    ทุกคนในทีมพยายามวิ่งเข้าไปช่วย แต่เมื่อเห็นพื้นทรุดตัวอย่างหนักต่างก็ถอยออกมาเพราะไม่แน่ใจว่าเบื้องล่างมีอะไรอยู่กันแน่ หลังจากนั้นทุกคนต่างคิดหนัก ทางถอยถูกปิดกั้นไปแล้ว ไม่มีทางให้ถอย...มีแต่เดินไปข้างหน้าเท่านั้น เพื่อหาทางลงไปช่วยเพื่อนในกลุ่ม

     

                    ครืน... ครืน...

     

                    เสียงนั้นดังขึ้น และเงียบลง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า พวกท่านเดินตรงไปด้านหน้า เร่งฝีเท้าอย่างรวดเร็ว แต่ดูเหมือนว่าหลังจากเสียงนั้นดังครั้งสุดท้าย มันก็ผ่านไปเกือบยี่สิบนาที...

     

                    มันไม่ดังอีกเลย...

     

                    “เสียงนั้นหายไปไหนแล้ว” ฟรีซเปิดประเด็น

     

                    “เราอาจติดกับของปิศาจในหุบเขานี้ รวมกลุ่มไว้ครับ” อากิระเล็งปืนไปด้านหน้า ค่อยๆเดินไปอย่างระมัดระวัง ทุกคนกำอาวุธในมือมั่นจนชุ่มเหงื่อ บางทีนี่อาจเป็นศัตรูตัวฉกาจที่กำลังรออยู่ พร้อมที่จะขย้ำทุกคนแบบไม่ตั้งตัว...

     

                    “โอ๊ะ...” ชายผมสีดำซอยสั้นชุ่มเหงื่อหันมามองกลุ่มของท่านด้วยความตกใจ เขาสวมชุดหนังสีน้ำตาลเข้มและผ้าคลุมดำ ดาบธรรมดาถูกเก็บใส่ฝักที่เอว เขาตกใจไม่น้อยที่เห็นพวกท่านโผล่มาแบบกะทันหัน

     

                    “เจ้าเป็นใคร” เกรเกอร์ตั้งท่าเตรียมสู้พร้อมยิงคำถาม ดูเหมือนว่าชายคนนั้นจะตกใจไม่น้อย เขารีบยกมือขึ้นเหนือหัว

     

                    “เฮ้ยๆ ใจเย็น! ข้าเป็นนักเดินทางมาเพื่อจะข้ามไปยังอีกฝั่งของหุบเขา เกรทฟิลด์น่ะ แต่ข้าดันหลงแล้วมาอยู่ในถ้ำนี่ซะได้” เขารีบอธิบาย “แต่ดูเถิดท่านคณะเดินทาง ด้านหน้านี้เป็นหินก้อนใหญ่ตั้งขวางทาง มันปิดเส้นทางเดินหมด เมื่อข้าลองผลักดูแล้วปรากฏว่ามันสามารถเลื่อนได้ ข้าก็เลยดันไปเรื่อยๆ หวังว่ามันจะนำไปออกที่ไหนสักแห่งของภูเขาล่ะนะ”

     

                    “หมายความว่า...เสียงที่มันดังก้องที่พวกเราได้ยิน มันเกิดจากเสียงสะท้อนของเจ้าที่ดันหินเหรอ” ไวลี่ตั้งข้อสังเกต

     

                    “เอ่อ อาจจะใช่นะ” ชายคนนั้นขยี้หัว ใบหน้าหล่อเหลาดั่งเทพบุตรที่อาจทำให้สาวสวยหลายคนตกหลุมรักเต็มไปด้วยรอยขี้ดินและฝุ่น

     

                    “ถ้างั้นหมายความว่าที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวเมื่อสักครู่ก็ฝีมือเจ้าสิ” อากิระกระชับปืนแน่น เล็งไปที่หัวของเป้าหมาย

     

                    “เฮ้ย ใจเย็นๆๆๆ เรื่องนั้นข้าไม่รู้ บางทีมันอาจจะเกิดจากหลายสาเหตุ หนึ่งนั้นไม่ใช่ข้าแน่ๆเฟ้ย” เขาพยายามอธิบาย

     

                    “เจ้าเป็นใคร” แกรนดีนที่ยืนฟังอยู่เงียบๆถามย้ำ ทุกคนคิดว่านี่เป็นคำถามที่ดีมากในตอนนี้ แม้เกรเกอร์จะถามไปรอบหนึ่งแล้วแต่ดูเหมือนประเด็นจะถูกเบนไป

     

                    “คาร์ซาร์ แกรเดอไลน์” เขาตอบสั้นๆ “ไหนๆพวกเจ้าก็มาแล้ว ช่วยข้าหน่อยได้หรือเปล่า ดันเจ้าหินนี่ที ตอนนี้ข้าดันยังไงมันก็ไม่เขยื้อนเลย หลายคนย่อมดีกว่าจริงไหม อย่าคิดระเบิดหินนี่เชียวนะ ข้าเกรงว่าเราจะกลายเป็นผีเฝ้าถ้ำกันไปก่อน”

     

                    “ตอนนี้เราต้องรีบไปช่วยเพื่อนของเราที่ตกลงไปใต้พิภพอันดำมืด” ฟรีซบอก

     

                    “เอางี้ ถ้าเจ้าช่วยข้าดันหิน ข้าจะช่วยเจ้าหาเพื่อน ตกลงไหม”

    โปรดตัดสินใจ...

    1                     ช่วยคาร์ซาร์ดันหิน

    2                     กลับไปหาทางลงไปด้านล่างจากหลุมที่สหายท่านตกลงไป

    3                     ระเบิดหินทิ้งเลย! เดี๋ยวก็รู้ใครเป็นผี

     

                    โรลครั้งถัดไปจะเริ่มในเวลา 22.00 น. ของวันที่ 4 เมษายน หากท่านใดไม่สามารถมาตอบได้ทนเวลาโปรดแจ้งล่วงหน้า

                    สำหรับวันนี้แอดมินต้องขออภัยอย่างสุดซึ้งที่มิอาจมาโรลได้ตามเวลานัดเนื่องจากติดภารกิจเร่งด่วน ขออภัยจากใจ m(_ _)m






    Shalunla 

     

     

     

     




     
    คาร์ซาร์ :

    "เจ้าช่วยข้า ข้าช่วยเจ้า จากนั้นแยกย้าย ถือว่าหายกัน ตกลงไหม"


    พลังชีวิต : ???     ออร่า : ???

    พลังโจมตี : ???     พลังป้องกัน : ???






    (ขอบคุณภาพสวยๆจากน้อง

    Reflection The Imagin 

    มากครับ)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×