คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #33 : [บทที่ 8] พ้นภัย
[ทีมวินเซนต์]
“ใช่...ไม่ว่าใครก็ไม่อาจลงมือสังหารเพื่อนร่วมทีมได้อย่างลงคอหรอก” มังกรกล่าวกับอัลตอน “ความโหดเหี้ยมคือหนึ่งในสมบัติของเหล่าผู้ถือครองอาวุธเหล่านั้น”
จากนั้นมังกรก็สลายเป็นละอองออร่าสีฟ้าลอยคลุ้งไปทั่วทั้งถ้ำจนสว่าง เป็นภาพที่สวยงามและหาได้ยากยิ่ง
พวกท่านตัดสินใจไปตามถ้ำที่ลงใต้ วิ่งไปตามบนไดอย่างรวดเร็ว แต่ทันทีที่ทุกคนเดินขึ้นบันไดไป บันไดขั้นที่ผ่านมามันก็ร่วงลงสู่ความมืดเบื้องล่าง ส่งผลให้ทุกคนในทีมจำต้องรีบวิ่งไปยังจุดหมายอย่างรวดเร็ว
ยิ่งวิ่ง ความเหนื่อยก็เริ่มกัดกิน ความเร็วในการขึ้นบันไดก็ยิ่งช้า และบันไดแต่ละขั้นก็ค่อยๆร่วงหล่นไป พวกท่านแม้เหนื่อยสักเพียงใด ก็จำเป็นต้องไปต่อ ไม่เช่นนั้นความมืดเบื้องล่างกำลังรอท่านอยู่ อาจตกลงไปเจบางย่างได้ หรือไม่ก็อาจจะตายเพราะความสูง
เวลาผ่านไปนานพอสมควร พวกท่านวิ่งมาเจอกับแสงสีฟ้าที่สว่างเดจ้าอยู่เบื้องหน้า ด้วยความที่บันไดเจ้ากรรมเริ่มร่วงกระชั้นชิดเข้ามา พวกท่านจึงพุ่งเข้าแสงนั้นไปแบบไม่รอช้า
และเบื้องหน้าของทุกท่านในตอนนี้คือ...
กองทัพขนาดใหญ่ที่กำลังลงจากเรือมาตั้งค่ายกันขะมักเขม้น เบื้องหลังเป็นเพียงถ้ำธรรมดาที่ภายในเป็นทางตัน ไม่มีแม้วี่แววของแสงปริศนาดังกล่าว
“พวกเจ้าเป็นนักเดินทางที่มาสำรวจเกาะเมื่อหลายวันก่อนใช่หรือไม่” ทหารคนหนึ่งในชุดเกราะเหล็กสีดำด้านควบม้าเข้ามาถาม ธงทิวสีเหลืองปักเรียงรายแสดงให้เห็นถึงความเกรียงไกรของผู้ที่ยกทัพมาคราวนี้
“น่าตกใจที่ไม่กี่วันก็มาถึงที่นี่ได้ นักเดินทางคนอื่นอยู่ไหน” เขายังคงถามต่อไป “จากนี้กองทหารแห่งไทโรเลียจะรบช่วงต่อเอง พวกเจ้าไปพักผ่อนในค่ายก่อน ในช่วงเย็นจะนำของรางวัลภารกิจมามอบให้ แต่ถ้าพวกเจ้าสำรวจและเขียนแผนที่ได้ตามจุดประสงค์หลักที่ส่งพวกเจ้ามาจะดีมาก”
1 สหายของข้ายังไม่กลับมา ข้าจะเดินทางไปตามพวกเขากลับมา จากนั้นก็เดินจากไปแบบเท่ๆ
2 เข้าไปพักผ่อนในค่าย
3 ไม่สนใจ เดินไปทางอื่น เผื่อได้ลุยกับปิศาจ
4 โจมตีทัพไทโรเลีย
[ทีมเซรอธ]
“แล้วดาบนั่น รู้สึกจะเป็นของเผ่ากินคนนี่ พวกเจ้าสู้กับพวกมันมารึ” พวกท่านตอบตามความจริงไป แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะยังไม่ค่อยให้ความเชื่อใจมากนัก
“พวกเป็นนักเดินทางที่เข้ามาในเกะแห่งนี้สินะ อะไรเป็นเหตุจูงใจให้เข้ามาที่นี่” อีคนที่อยู่บนกริฟฟินถาม
หลังจากตอบไปแล้ว เมื่อเห็นว่าพวกท่านไม่ได้ทำอะไรกับปิศาจเหล่านั้น ไม่แม้จะได้พบ จึงตัดสินใจพากันแยกตัวไป ซึ่งพวกท่านรู้ภายหลังพวกเขาเตรียมจะพาผู้ที่ปราบปิศาจไปรับรางวัลจากหัวหน้าเผ่าของเขาเพราะปิศาจเหล่านั้นเป็นของฝ่ายศัตรูซึ่งอยู่คนละเผ่ากัน
ในขณะที่กริฟฟินเหล่านั้นกำลังจะจากไป พวกท่านเกิดตัวเลือกขึ้นมาหลังปรึกษากัน
1 อ้อนวอนให้เขาพาไปส่งทางใต้
2 ให้พาไปเมืองหลวงของเกาะนี้
3 ให้พาขึ้นไปบนกริฟฟิน แล้วฆ่าทิ้งทั้งหมด
4 เดินไปต่อ ข้างหน้าเป็นทุ่งหญ้ากว้าง คงไม่มีอะไร
[ทีมซีอาเนีย]
ฝนธนูจบลงด้วยการที่พวกท่านอยู่ท่ามกลางดงศรนับร้อยดอก เมื่อเห็นว่าไม่มีการเคลื่อนไหวและมั่นใจว่าพวกท่านตายแน่นอน พวกนั้นก็รีบเคลื่อนทัพไปต่ออย่างรวดเร็ว
พวกท่านไม่อาจเดาได้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ แต่เมื่อเห็นว่าพวกศัตรูจากไป ก็รีบลุกขึ้นมาจัดแจงให้ตัวเองออกมาจากดงศรเหล่านั้นแบบทุลักทุเล
คนเถื่อนบนเกาะเดินทางไปไกลแล้ว เห็นเพียงฝุ่นควันที่ตลบบางๆเท่านั้น ไม่รอช้าพวกท่านรีบออกเดินทางทันที โดยไม่ลืมที่จะปฐมพยาบาลให้ภพ
พวกท่านมุ่งหน้าลงทางใต้ เป็นทางเดียวกันกับที่ศัตรูเคลื่อนที่ไป แต่ปลายทางไม่แน่ว่าจะเป็นที่เดียวกันหรือเปล่า
1 สะกดรอบตามต่อไป
2 มุ่งหน้าลงใต้
3 อินดี้ เดินกลับไปทางเหนือ
4 เปลี่ยนใจ เดินไปทางตะวันตกก็แล้วกัน เหมือนแถวนั้นจะมีแหล่งน้ำ
[ทีมลิซ่า]
พวกท่านรอจนกระทั่งค่ำมืด เป็นเวลาประจวบเหมาะทีเดียวเพราะชาวบ้านหลายคนกลับเข้าบ้านของตนเพื่อพักผ่อนกันเสียหมด ในตอนนี้มีเพียงสิ่งเดียวที่พวกท่านต้อระแวงนั่นคือทหารยามบนกำแพง พวกเขายังคงเดินตรวจตรากันขวักไขว่ ซึ่งในขณะที่ท่านกำลังจะเข้าไปในเมืองนั้น ท่านก็เห็นทัพหน้าของพวกที่ไปโจมตีค่ายของท่านกลับมาแล้ว พวกนั้นเป็นทหารขี่อสูรสี่ขาสีดำทะมึน มีลักษณะคล้ายม้าแต่ดวงตามันสีเหลืองและมีฟันคมกริบ
ประตูเมืองเปิดให้พวกนั้นเข้าไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งพวกท่านเมื่อสบโอกาสก็รีบอาศัยความมืดวิ่งเข้าไปในเมืองได้สำเร็จก่อนวิ่งหลบไปตามซกซอยของบ้านเรือนที่ก่อด้วยหินขัด
ในตอนนี้สถานการณ์ค่อนข้างกดดัน ทุกอย่างรอบตัวท่านอาจชักนำไปสู่การถูกจับกุมก่อนถูกถลกหนังได้ ในขณะที่พวกท่านกำลังจะหาทางไปต่อในเมืองอันแสนกว้างใหญ่นี้ ก็มีเสียงแตรสัญญาณและฆ้องระฆังดังขึ้นทั่วเมือง
“มีศัตรูบุก!!!” เสียงพวกทหารตะโกนบอกกันก่อนที่ความวุ่นวายจะเกิดขึ้นในเมือง ชาวบ้านต่างออกมาวิ่งหาที่ปลอดภัยหลบกันอลหม่าน พวกชาวบ้านผู้ชายก็หยิบอาวุธวิ่งไปตามถนนเพื่อสมทบกับพวกทหาร
ท่ามกลางความสับสนอลหม่าน พวกท่านตัดสินใจกระทหารบางอย่าง
1 วิ่งบวกกับพวกคนในเมือง สร้างความวุ่นวายให้เพิ่มขึ้น
2 อาศัยความชุลมุนนี้ไปทำอะไรบางอย่าง (โปรดแจ้ง)
3 หลบจนกว่าเหตุการณ์สงบ
4 เข้าไปหลบในบ้านใกล้ๆ
5 รีบหนีออกจากเมือง
[เรย์อาเซีย]
หลังสำรวจเสาไปพักใหญ่ ท่านก็พบว่ามันน่าจะเป็นจุดที่ใช้เป็นตัวรับส่งพลังเพื่อทำอะไรสักอย่าง แต่ก็ยังไม่ได้ข้อมูลคืบหน้าแต่ประการแด แม้จะลองสัมผัส ทุบตีเสา มันก็ยังคงตั้งตระหง่านไม่ไหวติงหรือมีปฏิกิริยาใดๆทั้งสิ้น
เป็นอีกครั้งที่ต้องพบเจอกับเรื่องที่ค่อนข้างจะเข้าข่ายความเสี่ยงในการพบเจอกับหายนะ ท่านสัมผัสได้ หากโจมตีไปมากกว่านี้คงมีบางอย่างออกมาแน่นอน สัญชาตญาณบอกท่านเช่นนั้น
ถึงกระนั้นท่านก็ยังคงเลือกที่จะไม่ย่อท้อ หาทางสำรวจเสาต่อไป จนกระทั่งรับรู้ได้ว่ามันน่าจะเป็นพิธีที่ประกอบตอนกลางคืน จึงตัดสินใจรอดู
และเมื่อดวงจันทร์ขึ้นส่องสว่างเหนือฟากฟ้า มันไม่ใช่พระจันทร์เต็มดวง แต่แสงของวงเวทและอักขระก็มีแสงสว่างเรืองรองออกมาเล็กน้อย บางทีหากรอจนถึงพระจันทร์เต็มดวงอาจได้พบอะไรก็ได้
1 รอจนถึงวันพระจันทร์เต็มดวง
2 ไม่สนใจ ลงจากเนินแล้วหาทางไปต่อดีกว่า
3 นอนเล่น พรุ่งนี้เช้าค่อยออกเดินทางไปที่ไหนสักแห่งบนเกาะนี้
4 ทำลายเสาทิ้ง
[คลาเรียส]
รุ่งเช้าท่านเดินสำรวจดูก็พบว่ามันน่าจะเคยเป็นปราสาทหินที่เก่าแก่มาก่อน แต่พังทลายลงด้วยเหตุผลบางประการ แต่ในเมื่อสำรวจไปท่านก็ไม่รู้จะได้อะไรเพิ่มขึ้นมา จึงตัดสินใจออกเดินทางต่อ ไม่นานท่านก็เห็นทหารม้ากองหนึ่งตรงไปทางเหนือ ดูเหมือนจะมีธงของกองทัพไทโรเลียเสียด้วย
1 ฆ่าทิ้ง
2 โบกมือ ขอติดไปด้วย
3 ไม่สนใจ ไม่น่าใช่ธุระ
ความคิดเห็น