ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องกิจกรรมชาวมุนดัส

    ลำดับตอนที่ #30 : [บทที่ 5] เดินทาง

    • อัปเดตล่าสุด 6 ส.ค. 57


    [ทีมวินเซนต์]

                    สมาชิกในทีมทุกคนได้รับไอเทม

                    [เนื้อนกx2] เนื้อสดใหม่ของนกที่รอการนำไปปรุงอาหาร ไม่แน่ว่าอาหารที่ถูกปรุงออกมาจะมีรสชาติที่ดีไม่น้อย

                    [กรงเล็บนยักษ์x1] กรงเล็บที่ใหญ่และแข็งแกร่ง ลองเอาไปให้เหล็กเจียระไนเป็นด้ามดาบ หรือเอาไปกะเทาะมาทำเป็นเครื่องประดับดีนะ...

                    = = = = =

                    พวกท่านมองนกยักษ์ที่นอนแน่นิ่งอยู่ตรงหน้าพร้อมบาดแผลเหวอะหวะทั้งตัวก่อนจะแหงนมองไปบนยอดเนินที่ยู่ไกลลิบๆ ใช่แล้ว...ตอนนี้พวกท่านลงมาอยู่หุบเหวเบื้องล่างที่ด้านข้างมีธารไหลผ่าน คาดการณ์กันว่ามันคงอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลเป็นแน่แท้ กลิ่นเกลือที่ปนมากับลำธารนั้นเป็นตัวพิสูจน์

                    อีกฝั่งของคลองเล็กๆถูกผาสูงชันด้านบนบดบังแสงอาทิตย์จนบริเวณนี้มืดลงถนัดตา ในตอนนี้ต่อให้ขึ้นไปได้ ก็ไม่สามารถตามพวกลิงที่ขโมยเสบียงได้ทัน สิ่งที่พวกท่านทำได้มีเพียงสำรวจและหาทางกลับไปสมทบกับเพื่อนที่อยู่ด้านบน ซึ่งเดเลียเองก็เหน็ดเหนื่อยเกินกว่าจะพาทุกคนขึ้นไปได้

                    เวลาผ่านไปกับการหาทางขึ้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหาทางขึ้น อีกอย่างหนึ่งในบริเวณนี้พวกท่านเองก็เกรงว่าจะมีสัตว์ร้ายรอทำร้ายอยู่อีก จึงตัดสินใจลองปีนขึ้นไปกัน แต่ผลลัพธ์คือต้องลื่นไถลลงมาที่เดิม

                    “บางทีแถวนี้อาจมีทางลับที่จะขึ้นไปด้านบนนะ” อัลตอนยังคงไม่ย่อท้อ

                    “ขึ้นไปด้านบนน่ะใช่ แต่จะเจออะไรด้านบนไม่รับประกันนะ” วินเซนต์เดินไปยังริมธาร มองสายน้ำที่ไหลไปทางทิศตะวันออก

                    “แสดงว่าพื้นทางตะวันตกสูงกว่า ถ้าเดินทางนั้นอาจมีทางขึ้นอยู่” วินเซนต์เสนอ “จะไปทางไหนกัน”

                    “ยังเหลือตัวเลือกอีกเหรอ” ลีอายักไหล่

                    “ข้ายังไงก็ได้อยู่แล้วล่ะน่า ขอแค่หาทางขึ้นไปได้ก็พอ”

                    พวกท่านเงียบไป ก่อนจะเลือกเส้นทางที่จะใช้ขึ้นไปด้านบน

                    1              เดินตามลำธาร

                    2              เดินย้อนลำธาร

                    3              หาไม้มาก่อเรือแล้วล่องไปตามธาร

                    4              ลองปีนอีกรอบ

                    5              ลองตะโกนเรียกขอความช่วยเหลือ


     

    [ทีมเซรอธ]

                    พวกท่านพักผ่อนคลายความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ นับว่าคืนนี้เป็นคืนที่ค่อนข้างจะเงียบสงบ ทุกคนหลับสนิทจนกระทั่งเช้า นับว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับคณะเดินทางจนเป็นเรื่องน่าแปลกใจ

                    หลังจัดการเตรียมพร้อมสำหรับเดินทางในวันนี้แล้ว ทุกคนก็เตรียมออกเดินทาง

                    การเดินทางครั้งนี้เริ่มต้นด้วยการสำรวจหาทางขึ้นเขา เพื่อที่จะได้สำรวจชัยภูมิโดยรอบ หลังจากที่พวกท่านกระจายกำลังสำรวจกันแล้ว เกรเกอร์ก็เป็นคนสังเกตเห็นว่ามีบันดินหินเล็กๆ ซึ่งน่าจะใช้ขึ้นไปยังด้านบนได้ เมื่อพวกท่านมาดูแล้ว มันเป็นบันไดที่ทอดยาวขึ้นไปบนเนินเขาแห่งนี้ มันแคบและชันจนสามารถเดินเรียงแถวหน้ากระดานขึ้นไปได้ พวกท่านจึงเรียงแถวตอนขึ้นไปกันช้าๆ

                    กระทั่งขึ้นมายู่ด้านบนสุดของเนิน สายลมพัดเข้าปะทะใบหน้าของพวกท่านอย่างแรงจนบางครั้งรู้สึกได้ว่าหากพัดแรงกว่านี้อาจปลิวลอยขึ้นไปบนฟ้าเลยทีเดียว

                    ตอนนี้สิ่งที่พวกท่านเห็นเบื้องหน้าคือที่ราบสูงที่มีโขดหินอยู่ประปราย หากหันกลับไปเบื้องหลังจะเห็นทะเล ป่า และเรือที่พวกท่านนั่งมา ซึ่งในตอนนี้บริเวณค่ายมีควันไฟโขมงเต็มไปหมด พวกท่านมองเนินแห่งนี้ที่ไกลสุดลูกหูลูกตา อีกฝั่งทางใต้ อาจมีอะไรสักอย่างรออยู่

                    แล้วพวกท่านก็หันมาปรึกษากัน

                    1              เดินไปทางใต้ เพื่อหาทางไปยังทะเลอีกฝั่ง

                    2              เดินเลาะไปทางตะวันออก

                    3              เดินเลาะไปทางตะวันตก

                    4              กลับลงไป ลองเดินไปดูค่าย

     


     

    [ทีมซีอา]

                    ทุกคนในทีมได้รับ

                    [ท่อนไม้x2] ท่อนไม้เนื้อดีที่มีเนื้อแน่นและแข็ง หากช่างไม้มีฝีมือสักหน่อยอาจแปรรูปมันเป็นอะไรสักอย่างได้

                    [หัวใจพฤกษา] ทั้งทีมได้ไอเทมนี้เพียงชิ้นเดียว เป็นแก้วสีเขียวใสที่อยู่บริเวณหน้าอกของต้นไม้ยักษ์ โดยรวมแล้วก็เหมือนผลึกทั่วไป แต่ถ้าเอาไปให้ช่างอัญมณีหรือพ่อมดระดับสูงตรวจสอบดูอาจจะรู้อะไรเพิ่มเติม (สามารถท้าประลองเพื่อจัดการผู้ครองครองหรือขโมยมาได้)

                    = = = = =

                    หลังจากต้นไม้ล้มลงสิ้นใจ พวกท่านก็เข้าไปสำรวจร่างไร้ชีวิตนั้นอย่างรวดเร็ว หลังจากจัดการเก็บของกันเรียบร้อยแล้ว พวกท่านก็ตัดสินใจรีบออกจากบริเวณนี้อย่างรวดเร็ว โดยหวังว่าจะไม่เจอเรื่องเลวร้ายยิ่งกว่านี้ ซึ่งบางทีการเดินทางในตอนนี้ยังปลอดภัยเสียกว่าการพักผ่อนในเขตอาคม

                    พวกท่านตัดสินใจวิ่งไปทางที่พวกวินเซนต์ไปอย่างรวดเร็ว กระทั่งพระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า คณะเดินทางก็มาถึงชายป่า..

                    บริเวณนี้เต็มไปด้วยทุ่งโล่งกว้างซึ่งไม่ไกลมากนักมีทางลาดชันลงไปเบื้องล่าง อีกฝั่งเป็นป่าอีกแห่งหนึ่ง หากเดินตรงไปทางใต้จะมีสะพานข้ามเหวดังกล่าวไปโดยไม่ต้องเข้าป่า แต่ไกลไปสุดขอบฟ้า มีเขาลูกหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่

                    พวกท่านเดินทางมาหยุดตรงสะพานหิน หาเส้นทางที่จะเดินทางต่อด้วยความเมื่อยล้า เมื่อหันกลับไปทางทิศเหนือซึ่งเป็นจุดที่เป็นค่ายหลัก พวกท่านก็เห็นกลุ่มควันที่ลอยโขมง

                    พวกท่านปรึกษากันอย่างรวดเร็ว

                    1              เดินเข้าป่าอีกแห่งที่อยู่อีกฝั่งของเหว

                    2              กระโดดลงเหว

                    3              เดินผ่านทุ่งกว้างไป

                    4              กลับไปยังค่ายใหญ่


     

    [ทีมเรย์อาเซีย]

                    พวกท่านฮัมเพลงร้องเพลงตามเสียงนั้น ช่างเป็นเสียงที่ไพเราะจนไม่อาจหักห้ามใจได้จริงๆ คืนนั้นนับว่าเป็นคืนที่วิเศษทีเดียวสำหรับการนอนพักผ่อน

                    ในขณะที่ทุกท่านกำลังเคลิ้มจนบางคนก็เริ่มจะหลับแล้ว

                    เสียงเพลงนั้นก็ดังขึ้นเล็กน้อยราวกับต้องการกล่อมพวกท่านให้หลับใหลอย่างมีความสุข

                    แต่ทันใดนั้นเอง...

                    เสียงเพลงนั้นก็ดังขึ้นเรื่อยๆจนแสบแก้วหู ทั้งยังเพิ่มเสียงให้ดังขึ้นอีกนทุกท่านต้องรีบยกมือขึ้นมาปิดหู แต่เสียงกรีดร้องแหลมนั้นกลับทะลุเข้าโสตไปจนไม่อาจทนได้

                    [ทุกคนได้รับความเสียหาย 4 หน่วย]

                    พรายทะเล คือชื่อของมัน...พวกมนจะร้องเพลงให้นักเดินเรือหรือผู้เดินทางในบริเวณนั้นหลงใหลไปกับบทเพลง หากมันไม่รู้ตัวก็ดีไป แต่หากร้องเพลงตามให้มันรู้สึกตัวว่ามีคนได้ยินเสียงมัน มันจะแผดเสียงร้องเสียงดังจนทะลุโสตประสาทตาย ก่อนจะนำวิญญาณไปเป็นพวกเดียวกับมัน

                    พวกท่านหาทางทำอะไรสักอย่าง ไม่อาจมองเห็นเลยว่ามันมาจากทางไหนหรืออยู่ตรงไหน แต่ในขณะที่โสตประสาทของทุกท่านใกล้จะถึงขีดสุด โวเอลก็เหลือบขึ้นไปเห็นร่างสีดำที่ลอยอยู่บนฟ้า มันเป็นร่างของโครงกระดูกที่มีผมยาวสลวย กำลังลอยวนไปมาและกรีดร้องอยู่อย่างนั้น ราวกับรอให้พวกท่านสิ้นใจ

                    [สถานการณ์บังคับสู้]

                    (หากสู้จบ ตัวเลือกจะขึ้นมาให้ท่านเลือก)

     
     

     
    [แช่แข็ง]

    พลังโจมตี                6             พลังป้องกัน          2

    พลังชีวิต        8/65                     พลังออร่า           50/50






    โจมตีเทิร์นละครั้ง

    จมตีใส่ผู้เล่นที่มีพลังออร่าสูงที่สุดก่อน



     

     

    [ทีมลิซ่า]

                    หลังจากเข้าไปทักทายดูเหมือนว่าชายคนนั้นจะตกใจไม่น้อยที่มีกลุ่มนักเดินทางจากต่างถิ่นเข้ามา เขารีบถอยห่างจากท่าน และเอื้อมมือไปจับด้ามมีดที่ซ้อนอยู่หลังเอวเพื่อป้องกันพวกท่านจะทำร้าย

                    “พวกเจ้าเป็นใคร แล้วมาที่นี่ได้ยังไง” เขาร้องถามด้วยสำเนียงที่แปลกจากปกติเล็กน้อย

                    หลังจากอธิบายให้เขาฟังว่าพวกท่านมาเพื่อสำรวจเกาะ ชายคนนั้นก็ยังคงมีท่าทีไม่วาใจพวกท่านอยู่บ้าง แต่เขาก็ดูไม่ได้เลวร้ายเหมือนนักเดินทางคนอื่น

                    เขายื่นปลาให้พวกท่านส่วนหนึ่ง

                    “เหมือนพวกเจ้าจะยังไม่มีอะไรกินใช่ไหม เอานี่ไป”

                    จากนั้นเขาก็จัดการเก็บเรือและจัดการเก็บปลาใส่ลังเพื่อเตรียมขนกลับไปยังหมู่บ้าน

                    “ดินแดนนี้ไม่ต้องการคนนอก ข้าไม่รู้หรอกว่าพวกเจ้ามาที่นี่เพื่อจุดประสงค์อะไรกันแน่ แต่เป็นไปได้ก็อย่าเข้าเขตเมืองของอาณาจักรนี้ เจ้าจะโดนจับถลกหนังและนำไปทำพิธีกรรมอีกมากมายทีเดียว”

                    เมื่อชายคนนั้นจัดการงานของตัวเองเสร็จ เขาก็เตรียมออกเดินทาง

                    “ข้าต้องไปแล้ว ไม่ทราบว่าพวกเจ้าจะเดินทางไปที่ไหน หากข้าผ่านบริเวณนั้นจะได้นำทางไปได้”

                    1              ไปไหนไปกัน ข้าไปกับเจ้าทุกที่เลย

                    2              ไปยังใจกลางเกาะ

                    3              ไปอีกฟากของเกาะซึ่งเป็นจุดที่ต้องไปตั้งค่าย

                    4              พาไปหาสถานที่เด็ดๆ ลุยบอสเลย

                    5              ตรงไหนมีไอเทมโหดๆ ไปที่นั่นแหละ

     


     

    [ทีมคลาเรียส]

                                    ทุกคนในทีมได้รับไอเทม

                    [เนื้อเละx2] เนื้อกิ้งก่าที่เละได้ที่ บางทีหากนำไปปรุงอาหารอาจได้เมนูเปิบพิสดารใหม่ๆ

                    [หนังแข็งx1] หนังที่ได้มาแข็งจนคมดาบฟันแทบไม่ข้าเชียวละ หากมีช่างทำชุดดีๆคงช่วยแปรรูปเป็นเกราะได้

                    = = = = =

                    เอ็ดล้มลงในสภาพเลือดอาบร่าง ลาสกับคลาเรียสสำรวจโดยรอบว่าจะมีศัตรูโผล่มาอีกหรือไม่ ในตอนนี้พวกท่านมั่นใจได้ว่าคงไม่มีอะไรโผล่มาอีกสักระยะ แต่สิ่งที่ต้องทำคือออกเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆต่อ

                    การต่อสู้กินเวลายาวนานจนรุ่งสางทีเดียว วกท่านทั้งสามเหน็ดเหนื่อยจนอยากหลับลงเสียตรงนั้น แต่ก็มิอาจทำได้เนื่องจากไม่ปลอดภัยพอ

                    ในตอนนี้คณะเดินทางต่อไปโดยที่เอ็ดสภาพปางตาย

                    พวกท่านเดินไปเรื่อยจนพ้นเขตชายป่า เบื้องหน้าเป็นทุ่งโล่งกว้าง ทั้งยังมีรั้วหนามตั้งไว้เป็นแนวยาวสุดลูกหูลูกตา พวกท่านจึงตัดสินใจบางประการ เพื่อหาทางไปต่อ

                    1              ข้ามรั้วเดินเข้าไปในทุ่งกว้าง

                    2              เดินเข้าป่า

                    3              เลาะชายทะเลต่อไป

                    4              เดินเลาะรั้วไป ดูว่าสุดขอบรั้วมีอะไร

                    5              กลับค่าย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×