ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องกิจกรรมชาวมุนดัส

    ลำดับตอนที่ #11 : [บทที่ 9] สิ้นสุด

    • อัปเดตล่าสุด 12 เม.ย. 57


                    พวกท่านตัดสินใจวิ่งตรงไปตามทางอันคดเคี้ยว ฟรีซแช่แข็งผนังถ้ำเพื่อชะลอไม่ให้มันถล่อมลงมารวดเดียวจนฝังคณะเดินทางทั้งเป็น มันช่วยได้นระดับหนึ่ง แต่ทันใดนั้นขณะที่พวกท่านวิ่งอย่างสุดชีวิต ตัวถ้ำก็ระเบิดขึ้นอย่างแรงพร้อมกับร่างทุกคนลอยคว้างไปในอากาศ

     

                    [คณะเดินทางทุกคนเลือดลด 6 หน่วย]

     

                    ร่างของทุกคนลอยคว้างพร้อมเศษหินจำนวนมาก ดูเหมือนว่าทุคนจะอยู่สูงจากพื้นมากทีเดียว แสงแดดยามเช้าที่โผล่ขึ้นมาจากขอบฟ้ามาได้ส่วนหนึ่งเป็นสัญญาณของวันใหม่ อากาศบริสุทธิ์ลอยเข้าจมูกจนหลายคนรู้สึกโล่ง แต่มันจะโล่งกว่าถ้าไม่ได้อยู่กลางอากาศ!

     

                    ฟรีซจัดการใช้พลังเปลี่ยนอากาศบริเวณใกล้พื้นให้ข้าสู่จุดเยือกแข็ง ก่อนจะใช้พลังออร่าก่อให้เกิดปุยหิมะหนามารองรับคณะเดินทางทุกคน แม้อุณหภูมิติดลบจะเสียดเข้ากระดูกทันทีที่ตกลงไปในกองหิมะ แต่อย่างน้อยก็ดีกว่ากระดูกหักตาย

     

                    “เมื่อกี้มันบ้าอะไรกัน” อากิระโวย เขาแหงนหน้ามองไปยังจุดที่ระเบิดเมื่อครู่ ปรากฏว่าบริเวณนั้นเป็นภูเขาลูกหนึ่งที่มีฝุ่นคลุ้งเต็มไปหมด ตอนนี้พวกท่านอยู่ที่ทุ่งทางเหนือของหุบเขาบารุค หากตรงไปทางเหนือก็จะเข้าเขตนครศักดิ์สิทธิ์

     

                    “นั่นใคร” ฟรีซตั้งท่าเตรียมสู้ ดูเหมือนว่าไม่ไกลจากพวกท่านมีชายคนหนึ่งสวมชุดคลุมดำทั้งตัว ใส่หน้ากากปกปิดใบหน้ากำลังเดินตรงมาทางพวกท่าน

     

                    “อะไรอีกเนี่ย” เกรเกอร์อยากจะบ้าตาย ตลอดคืนี่ผ่านมาทุกคนไม่ได้นอน ทั้งยังต้องต่อสู้กับปิศาจมามากมาย เป็นเวลาที่ยาวนานสำหรับคณะเดินทางในครั้งนี้

     

                    “ระเบิดเมื่อสักครู่ ฝีมือเจ้าใช่ไหม” อากิระเล็งปืนไปที่หัวของบุรุษลึกลับพร้อมเป่าหัวให้กระจุย แต่เพียงชายหนุ่มกระดิกนิ้วเล็กน้อย ปืนในมืออากิระก็เหมือนถูกอะไรสักอย่างตบอย่างแรกจนหลุดมือ แกรนดีนไม่รอช้ารีบชิงจังหวะปาขวดน้ำกรดใส่ ชายผู้สวมหน้ากากรับขวดนั้นก่อนโยนไปด้านหลังแบบไม่ใส่ใจ

     

                    ฟรีซที่ตั้งท่าดูเชิงอยู่ใช้หอกแทงใส่ร่างของชายหนุ่มปริศนา เขาเอี้ยวตัวหลบ จับด้ามหอกนั้นยกขึ้นรับดาบของไวลี่ที่ฟันมาจากด้านหลัง และในวินาทีนั้น ทุกคนก็กระเด็นไปหลายเมตรเหมือนกับถูกระเบิดลมที่มองไม่เห็น

     

                    “แค่ทักทายเล็กน้อย” ชายคนดังกล่าวพูด “ข้าจับตาดูพวกเจ้าตลอดการเดินทาง นับว่าทำได้ดี...”

     

                    “หมายความว่ายังไง” ทุกคนถามแทบจะพร้อมกัน

     

                    “ขออภัยที่แนะนำตัวช้า ข้าคือกวีไร้หน้าแห่งมุนดัส มาที่นี่เพื่อมอบบางสิ่งให้พวกท่าน” เขากล่าว “การเดินทางของพวกเจ้าครั้งนี้ช่างทำให้ข้ามีสีสัน”

     

                    พูดจบก็มีลำแสงหลากสีพุ่งทะลุร่างพวกท่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ส่งผลต่อร่างกายใดๆ

     

                    [คณะเดินทางได้รับค่าประสบการณ์เพิ่ม 200] (เว้นมิเคล)

     

                    พวกท่านรู้สึกได้ถึงพลังที่ล้นหลาม เรี่ยวแรงที่หดหายกลับฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้ง ยังไม่ทันที่พวกท่านจะทำอะไรต่อ กวีไร้หน้าก็พูดขึ้น

     

                    “ไม่มีใครเคยรอดจากหุบเขานี้ ผู้คนต่างเล่าขานไปต่างๆนานา บ้างร่ำลือว่าภายในหุบเขามีปิศาจ บ้างว่านักเดินทางจะต้องคำสาปให้หายสาบสูญไปชั่วนินิรันดร์ แต่วันนี้...พวกเจ้าจะกลับไปบอกคนเหล่านั้นว่าภายในเป็นเช่นไร”

     

                    เขาหันหลัง เดินกลับไปทางหุบเขา

     

                    “ยังมีอะไรอีกมากที่พวกเจ้ายังไม่ได้เห็น แต่เรื่องที่พวกเจ้าเจอ...มันนับว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่า”

     

                    สิ้นเสียงภาพทุกอย่างก็ตัดมาอยู่ที่นครศักดิ์สิทธิ์อเล็กซานเดรียโดยที่สภาพของพวกท่านสุดแสนมอมแมมไม่ต่างจากเพิ่งผ่านสมรภูมิรบอย่างหนักมา

     

                    ประชาชนที่เดินขวักไขว่ในเมืองต่างแตกฮือพร้อมกับเปิดวงล้อมให้พวกท่าน ดูเหมือนพวกเขาจะตกใจมากทีเดียวที่จู่ๆมีคนปรากฏขึ้นมาในบริเวณนี้แบบกะทันหัน

     

                    “เวทมนตร์เคลื่อนย้ายมิติ...” แองจีล่าพึมพำ เธอเป็นนักบวช ไม่แปลกที่จะได้ศึกษาเวทมนตร์หลากหลายชนิด

     

                    “กลับมากันแล้วสินะ” เดนิต้าเดินเข้ามาทักทายท่ามกลางความงุนงงของทุกคน

     

                    “นี่มันเรื่องอะไรกัน” อากิระยิงคำถามใส่ทันที

     

                    “ตอนประกาศรับสมัครผู้กล้าทำภารกิจ ท่านกวีไร้หน้าหาข้าแล้วบอกว่าถ้าผู้ใดทำงานสำเร็จ เขาจะส่งคนเหล่านั้นกลับมา” เดนิต้าอธิบาย “ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะทำสำเร็จด้วยสิ” เธอกวาดสายตามองสภาพพวกท่านพร้อมไอเทมที่ติดมาด้วย

     

                    [โรลความรู้สึกขณะไปรับรางวัล และอำลาเพื่อนร่วมทาง]

     

                    หลังจากอำลากันเรียบร้อย พวกท่านก็แยกย้ายกันไปตามเส้นทางของตัวเอง ท่ามกลางเสียงชื่นชมของเหล่าประชาชนชาวอเล็กซานเดรีย พวกท่านหวังว่าสักวันจะได้มาร่วมเดินทางกันอีกครั้งหนึ่ง

     

                    แม้ทุกอย่างจะจบลงแบบตาลปัตรชวนสับสน การเดินทางเต็มไปด้วยความยากลำบาก แต่เมื่อหวนนึกถึงวันแรกที่ออกเดินทาง พวกท่านกลับอมยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย...

     

                    ทุกคนในคณะเดินทาง (ยกเว้นมิเคล) ได้รับค่าประสบการณ์และเงินรางวัลจากกิจกรรมครั้งนี้รวม

     

    เงิน          2,000     ไคลน์

    ค่าประสบการณ์   200      หน่วย     [ รวมประสบการณ์จากกวีไร้หน้าอีก 200 หน่วย เป็น 400 หน่วย]

    เกรเกอร์ได้รับ “ขนนกใต้ขุนเขา”

                   

    การอัพสกิลและสเตตัส ท่านสามารถเข้าไปอ่านได้ >>ที่นี่<<

    การสร้างอาวุธแอดมินจะโพสต์บอกในเร็วๆนี้


     

    โพล152480

    หากมีอะไรสามารถติติงได้ เพื่อความมันส์ในกิจกรรมถัดปัยย์

     

     

     

     





     
    กวีไร้หน้า
     
    "ความโกงของข้านั้นไร้เหตุผล"


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×