ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นานาจิตตัง

    ลำดับตอนที่ #23 : OC Starfighters 5

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 185
      3
      6 ก.พ. 62

    ใบสมัครและข้อมูลส่วนตัวฮีโร่




    ชื่อ-นามสกุล:$&^&** @^*$( *ไม่สามารถออกเสียงด้วยภาษามนุษย์ได้

     ชื่อเล่น:ชิโระ

     อายุ:ลืมไปแล้ว แต่เธออยู่มาตั้งแต่ก่อนที่ฉางเอ๋อจะขึ้นไปติดบนดวงจันทร์

    ชื่อในวงการ:มิคาสึกิ(三日月-Mikazuki)

    ประเภทฮีโร่: Mighty

    เผ่าพันธุ์:เกียกคุโตะ(กระต่ายมณี)

    วัน/เดือน/ปี เกิด:วันที่ 15 กันยายน L.C.0196(ปีศักราชLuna Century)

    สัญชาติ:ดวงจันทร์

    เชื้อชาติ:ดวงจันทร์

    สังกัด:Max(Alien,Animal,Tech,Agent,Lady)

    สาย:Leader(Attack,Defence)

    ระดับ:Master

    Level:100

    ส่วนสูง:150

    น้ำหนัก:18(ลมพัดทีแทบจะปลิว)

    เพศ:หญิง

    รหัสประจำตัว:L21141

    สถาบันการศึกษา: แอสดราซิล เวิร์ล ฮีโร่ แอนด์ การ์เดี้ยน อคาเดมี่ 

    สถานะ: เรียนอยู่

    อุปนิสัย:ค่อนข้างจะพูดน้อย และมักจะพูดด้วยเสียงโทนเดียวเสมอ ขี้รำคาญและขี้หงุดหงิด แต่ไม่ค่อยแสดงออก(แต่จะงอนไม่พูดด้วยแทน) มักจะหลบตาคนที่ไม่คุ้นเคยและทำปากบึ้ง()บ่อยๆ ซึ่งมันดูน่ารักจนมักตกเป็นเป้าหมายของพวกที่ชอบของน่ารัก ต้องเป็นคนรู้จักที่ไว้ใจเท่านั้นที่เธอจะเริ่มแสดงสีหน้าแบบอื่นออกมา ขี้เหงา โหยหาความรัก แต่กลับพยายามตีตัวออกห่างผู้คน แต่ถึงอย่างนั้นแม้จะพยายามเว้นระยะห่างเพียงไร ตัวเธอก็มักจะดึงดูดผู้คนให้มารวมกันเสมอๆ ขวัญอ่อน ตกใจง่าย  กลัวฉางเอ๋อแบบสุดๆ แบบแค่เห็นรูปหรือพัดของฉางเอ๋อก็แทบจะเผ่นแน่บแล้ว แค่มีคนพูดชื่อขึ้นมาก็ถึงกับขนลุกซู่เลยทีเดียว อีกทั้งยังเกลียดเสียงดังๆ(เพราะหูดี) สามารถจดจ่อกับการทำอะไรซักอย่างได้เป็นเวลานานๆโดยไม่มีบ่นซักคำแม้ว่าจะไม่ชอบก็ตามที โดยปกติแล้วจะนอนแค่เพียงวันละ3ชั่วโมงเท่านั้น

    ความสามารถ:แรงค่อนข้างเยอะ สามารถถือของที่หนักประมาณ60กิโลแล้วยังวิ่งปร๋อได้ เคลื่อนไหวได้เร็วมากๆ เร็วจนสามารถทำให้เกิดโซนิคบูมได้เลยหากว่าเคลื่อนที่โดนไม่มีสิ่งกีดขวาง กระโดดได้สูงมากๆด้วย เธอสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วด้วยการถีบตัวออกจากสิ่งต่างๆ อีกทั้งยังมีความสามารถในการดึงดูดและรวบรวมผู้คนอย่างน่าประหลาด หูดีสุดๆ สามารถนอนอยู่หอไซเลนแล้วได้ยินเสียงปืน(เสียงปลุกของคนที่คุณก็รู้ว่าใคร)ในหอการ์กอยได้ อีกทั้งยังสามารถมองเห็นได้ไกลสุดๆ เธอสามารถมองเห็นและแยกแยะใบหน้าได้แม้ว่าจะมองลงมาจากดวงจันทร์ก็ตามที

    พลัง:Moonlight Butterfly - ปีกแสงที่ปรากฏออกมาบริเวณไหล่ด้านหลังเมื่อใช้พลัง โดยปกติแล้วจะดูคล้ายปีกนก โดยตัวจริงของมันนั้นเป็นพลังลึกลับจากดวงจันทร์(ขอเรียกว่าLPละกัน) ที่เก็บอยู่ในตัว ตราบใดที่พลังนี้ยังไม่หมด ก็ไม่จำเป็นต้องนอนก็ได้(เลยนอนพักแค่วันละ3ชั่วโมงกันเบลอ) โดยขนาดของปีกตอนใช้พลังจะบ่งบอกถึงพลังที่เหลือและสามารถฟื้นฟูได้ด้วยแสงจันทร์  ซึ่งค่อนข้างจะแตกต่างกับการชาจแบตโทรศัพท์ แม้ว่าพลังจะเต็มแล้วแต่เธอก็ยังสามารถรับพลังได้อยู่เรื่อยๆ เมื่อใช้พลัง พลังส่วนเกินดังกล่าวจะกระจายออกจนดูคล้ายกับปีกผีเสื้อแทน เลยถูกเรียกว่าผีเสื้อแสงจันทร์(Moonlight Butterfly) ถึงแม้ว่าปีกนี้จะไม่ได้ทำให้บินได้ แต่ก็ช่วยในเรื่องการเคลื่อนไหวกลางอากาศได้เป็นอย่างดี


    Quanta Storage - เทคโนโลยีการเก็บสิ่งของ หน้าตาคล้ายหน้าต่างinventoryในเกม สามารถใส่ของเข้าไปได้ไม่สิ้นสุด และของที่ถูกใส่เข้าไปจะถูกหยุดเวลาเอาไว้จนกว่าจะนำออกมา


    Dual Winged -ปืนพกคู่ที่มีสีขาวดำตัดกันโดยถูกจัดอยู่ในประเภทของBeam Pistol โดยใช้LPเปลี่ยนมาเป็นกระสุนบีม สามารถปรับความแรงได้ด้วยการเพิ่มปริมาณLPที่ใช้ และอาวุธนี้เป็นต้นแบบของปืนที่แมคกี้กับอีธานใช้



    Virgo Nautilus  - อาวุธปืนขนาดใหญ่ สามารถยิงกระสุนขนาดใหญ่ที่มีอำนาจทะลุทะลวงสูงที่สามารถเจาะเกราะของรถถังได้เหมือนเต้าหู้ อีกทั้งยังสามารถยิงกระสุนระเบิดได้จากฝั่งท้าย(มีปากกระบอก2ทาง) อีกทั้งยังสามารถยิงลำแสงพลังทำลายสูงได้ แรงถีบยังจัดว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับอำนาจการยิง(ยกเว้นโหมดยิงลำแสง) ทำให้สามารถยิงได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งตัวปืนยังแข็งเอาเรื่องสามารถใช้เหวี่ยงใส่หรือใช้ทุบเพื่อโจมตีได้ด้วย ปืนนี้ไม่ต้องใช้LPแต่ใช้การดูดพลังเวทที่อยู่รอบๆมาสร้างเป็นกระสุนแทน Made By อาโอโกะ แต่ว่าเจ้าปืนนี้ไม่มีไกปืนหรือปุ่มกลไกใดๆเลย แล้วมันใช้งานได้ยังไงกันนะ?



    Sphere - การโจมตีพิเศษของDual Winged กระสุนที่จะสร้างระเบิดพลาสม่าพร้อมแรงดันลมมหาศาลเมื่อกระทบเป้า รัศมีการทำลายเป็นทรงกลม(Sphere)พอดีเป๊ะๆ ใช้LPค่อนข้างเยอะ ตอนกลางวันยิงได้ประมาณ4ครั้งเท่านั้น


    Twin Photon Blaster - โหมดอำนาจการยิงสูงสุดของDual Winged ใช้LPทั้งหมดที่มียิงลำแสงพลังทำลายล้างสูงที่สามารถเป่าอุกกาบาตขนาดล้างโลกให้หายไปได้ในครั้งเดียว แน่นอนว่าโดนสั่งห้ามไม่ให้ยิงลงพื้น หลังจากที่ยิงแล้วจะหมดสติในทันที หากใช้ขณะอยู่บนฟ้าก็โปรดนัดแนะกับคนข้างๆว่าให้ช่วยรับตอนตกด้วย

    Psychic - พลังจิตระดับสูง อาจจะพอๆกับเจซซินเลย แต่เป็นพลังจิตคนละประเภทกัน พลังจิตของเธอเป็นประเภทเกี่ยวกับคลื่นและอณุภาค เป็นหลัก ไม่สามารถก่อให้เกิดผลในทางฟิสิกส์ได้โดยตรงนัก

    PsycoWave - คลื่นพลังจิตที่ส่งออกมาจากสมองในระดับอะตอม สามารถใช้เพื่อควบคุมอุปกรณ์ต่างๆได้โดยไม่ต้องใช้มือ ไม่ได้มีแค่เฉพาะอุปกรณ์ของเธอเท่านั้น มันสามารถใช้ได้กับอุปกรณ์ที่ใช้คลื่นสัญญาณทุกชนิด แม้กระทั่งการล็อครถด้วยรีโมทก็สามารถปลดล๊อคได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังสามารถตัดขาดควบคุมของอุปกรณ์หรือพลังพิเศษที่จำเป็นต้องสั่งการหรือควบคุม(คือไม่ใช่พวกที่ควบคุมด้วยมือ ไปกดๆโยกๆที่ตัวเครื่อง กับพวกที่ทำงานได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องควบคุม)ด้วยการส่งคลื่นไปรบกวนการส่งสัญญาณ อีกทั้งยังสามารถชิงการควบคุมของอุปกรณ์นั้นๆมาได้อีกด้วย(แต่ชิงพลังพิเศษได้แค่บางอย่าง)

    Psycho Field - เปลี่ยนคลื่นพลังจิตให้เป็นอณุภาค และสามารถสร้างเป็นสนามพลังที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าสามารถป้องกันการโจมตีจากระยะไกลได้ทุกประเภท ถึงแม้ว่าหากเจอการโจมตีที่รุนแรงมากๆเข้าจะกันไม่ได้ทั้งหมดและทะลุผ่านมาได้ แต่ก็ลดทอนพลังไปได้เยอะมาก อีกทั้งอนุภาคนี้ยังสามารถสร้างแรงกระทำในทางกายภาพ(จำพวกผลัก ยก)ได้อีกด้วย

    Particle Manipulation - สร้างและควบคุมอนุภาคที่สร้างขึ้นมาได้อย่างอิสระ ขอแค่มีความรู้เกี่ยวกับมันมากพอ ก็สามารถสร้างได้แม้แต่อณุภาคที่ไม่มีอยู่จริง 


    รูปร่าง/หน้าตา:ผิวสีเผือก ตาสีฟ้า ตาข้างขวาสีเข้มกว่าข้างซ้าย ผมยาวสีขาวยุ่งเหยิงที่เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินประกายขาวราวกับท้องฟ้ายามค่ำคืนเมื่อต้องแสงจันทร์ มีหูกระต่ายสีขาวบนหัวที่ดูนุ่มมากๆ

    ลักษณะการแต่งกาย

    ชุดไปรเวท:เดรสกะลาสีปกใหญ่สีขาว ปกสีแดง สวมรองเท้านักเรียนหญิง มีเครื่องประดับผมรูปพระจันทร์เสี้ยวติดอยู่บริเวณเหนือหน้าผาก ผูกโบว์ยาวสีแดงที่หูข้างซ้าย

    ชุดปฏิบัติการณ์:ไม่มีเป็นพิเศษ แต่มีPartเสริมเป็นบูทหนังกับกระเป๋าที่เป็นบูสเตอร์สำหรับเวลาบินสู้กลางอากาศ

    ชั้นมหาวิทยาลัย

    คณะ:รัฐศาสตร์

    สาขา:การปกครอง

    ระดับ:ปริญญาโท


    เพิ่มเติม:ปีศักราชL.C. -เหล่าลูกหลานของกระต่ายดวงจันทร์ได้เริ่มสร้างอารยธรรมขึ้นบนดวงจันทร์ จนกระทั่งวังจันทราได้ถูกสร้างจนเสร็จ เป็นการเริ่มนับปีศักราชL.C.(Luna Century)ที่1

    อาการฉางเอ๋อโฟเบีย - ในอดีตนั้นเธอเป็นถึงเจ้าหญิงของเหล่ากระต่ายดวงจันทร์ และเป็นเจ้าของอย่างชอบธรรมของวังจันทรา ทว่าวันหนึ่ง ฉางเอ๋อที่ตกสู่ด้านมืดเนื่องจากการสูญเสียโฮ่วอี้ ผู้เป็นสามี ได้ปรากฏตัวขึ้นมา และเข้ายึดวังจันทราไว้ และจับกระต่ายทั้งหมดไปเป็นทาสตำยา ด้วยเหตุการณ์นั้นพระอินทร์ถึงกับต้องออกหน้ามาจัดการด้วยตนเอง แม้ว่าเรื่องทุกอย่างจะจบไปนานแล้ว แต่ความกลัวก็ยังคงฝังรากลึกอยู่ในจิตใจ

    อุปกรณ์-อุปกรณ์ที่อาโอโกะสร้างนั้นส่วนใหญ่ที่มักจะพบว่ามันเป็นOXT(Over Extra Technology) จะมีต้นแบบมาจากอุปกรณ์ที่เธอแบกมาจากดวงจันทร์ซะเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงความรู้เกี่ยวกับพวกหลักการทำงานต่างๆด้วย จะว่าไปมันดูเหมือนเธอจะเป็นลูกมือไปกลายๆ

    กระต่ายมณีเรื่องราวของกระต่ายที่กระโจนลงกองไฟนั้นเป็นเรื่องเล่าที่ค่อนข้างโด่งดัง  เกียกคุโตะ(กระต่ายมณี)นั้นเป็นชื่อที่เรียกอย่างให้เกียรติแก่กระต่ายแห่งดวงจันทร์ หรือบางแห่งก็เรียกกันว่ากระต่ายทอง หรือกระต่ายแห่งเกียรติยศ

    ตำนานกระต่ายดวงจันทร์ -เมื่อครึ่งหนึ่ง พระอินทร์ อยากลองใจสัตว์สามชนิด คือ “เต่า ลิงและกระต่าย” ที่ต่างก็บำเพ็ญเพียรบารมี เพื่อลองใจดูว่าสัตว์ตัวไหนจะบรรลุธรรม


              พระอินทร์จึงแปลงร่างเป็นฤๅษีเฒ่า ลงมาบนโลกด้วยอาการอดอยากหิวโหย และเข้าไปหาเต่าที่ริมหนองน้ำ เป็นตัวแรก เต่าจึงลงไปหาผักบุ้ง และพืชน้ำ (อันเป็นอาหารประจำของตน) มาเป็นอาหารให้กับฤๅษี (แปลง) ซึ่งก็สร้างความพอใจกับองค์อินทราเป็นอย่างมาก จึงกล่าวให้พร “เจ้าผ่านการบำเพ็ญแล้ว ขอให้เจ้ามีอายุยืนยาว ยิ่งกว่ามนุษย์”


              เมื่อพระอินทร์ในร่างฤๅษี เดินทางมาพบกับลิง และขอความช่วยเหลือ ลิงก็ได้กุลีกุจอไปหาผลหมากรากไม้ (อันเป็นอาหารประจำของตน) มาให้ด้วยความเต็มใจ พระอินทร์จึงให้พร “เจ้าผ่านการบำเพ็ญแล้ว ขอให้เจ้าว่องไวและชาญฉลาด”


              จนเมื่อพระอินทร์เดินทางมาทดลองใจกับกระต่าย กระต่ายรีบไปหาหญ้า ที่เป็นอาหารประจำของตน มาให้ ระหว่างทางก็คิดขึ้นได้ว่า “อันหญ้านั้นเป็นเพียงอาหารสำหรับสัตว์อย่างเราเท่านั้น พระดาบสผู้เจริญจะมาทานอาหารแบบนี้ คงไม่ได้” 


              เมื่อกลับมาพบพระฤๅษี กระต่ายก็ยกแต่หญ้าแห้งมากองใหญ่ พระอินทร์ (แปลง) เลยสงสัย และคิดในใจทันทีเมื่อเห็นว่า “กระต่ายเอย เจ้าคงบำเพ็ญบารมีไม่เพียงพอ จึงคิดได้แค่เอาหญ้าแห้งที่แม้แต่ตัวเจ้าเองไม่สามารถทานได้มาให้แก่ผู้อื่นเพราะเจ้าเพียงคิดถึงแต่ตัวเอง เจ้าคงไม่ผ่านการบำเพ็ญในครั้งนี้แล้ว”


              แต่ยังไม่ทันที่จะเอ่ยวาจา กระต่ายกล่าวขึ้นว่า “พระดาบสเจ้าข้า อันตัวข้าน้อยนั้น มิอาจจะนำอาหารที่เป็นของสัตว์ชั้นต่ำอย่างข้า มาถวายให้แก่ผู้ถือศีลบารมีเช่นท่านได้” ว่าแล้วกระต่ายก็จุดกองไฟจากหญ้าแห้งที่ตนนำมาขึ้นจนลุกโชติ พาให้พระอินทร์งงงวย สงสัย


               “...พระมุนีผู้เมตตา ถึงข้านั้นจะไม่มีอาหารในชีวิตประจำวันของข้ามาถวายให้สมแก่ท่าน แต่ตัวข้านั้นก็คือ “อาหาร” อันโอชะที่สุดในโลกนี้ พระมุนีไม่ต้องแตะต้องหรือฆ่าตัวข้าให้เกิดเป็นบาปกรรม ข้านั้นยินยอมที่จะเป็นอาหารเพื่อดับความหิวโหยให้แก่ผู้ทรงศีล..... ขอพระมุนีได้โปรดทานข้าดับความหิวโหยอันโหดร้าย เมื่อข้าสิ้นชีวิตลงด้วยเถิด....”


              ว่าแล้ว กระต่ายจึงกระโดดเข้าสู่กองไฟ จนร่างไหม้สุก ส่งกลิ่นหอมหวนน่าทานไปทั่วป่า


             พระฤๅษีหรือพระอินทร์ ผู้ทดสอบความดีแห่งสรรพสัตว์ ถึงกับน้ำตาตก “นี่ข้าดูเจ้าผิดพลาด ไปตั้งแต่แรกเลยเชียวหรือ การบำเพ็ญเพียรของเจ้าได้สร้างมโนธรรมแห่งความเสียสละที่ยิ่งใหญ่กว่าสรรพสัตว์ใด ที่ข้าเคยพบเห็น ... ขนาดสายตาเช่นข้า ยังดูแคลนเจ้าได้ แล้วใครเล่าจะเห็นความดีงามอันประเสริฐของเจ้ากัน” 


              พระอินทร์จึงนำวิญญาณของกระต่ายขึ้นไปยังดวงจันทร์ และได้นำขี้เถ้าจากร่างอันสุกไหม้ (สีเทาขุ่น) ไปใช้วาดรูปของกระต่ายไว้บนประภามณฑลแห่งจันทราเทพ เป็นอนุสรณ์เตือนใจถึงการเสียสละอันยิ่งใหญ่แก่ทั้งสามโลก 


              “ในทุกวันพระจันทร์เต็มดวง เมื่อเหล่าสรรพสัตว์บนโลก เทพยดาบนสรวงสวรรค์และผู้ชดใช้กรรมในนรกภูมิ มองขึ้นมาบนท้องฟ้า พวกเขาจะได้สัมผัสแสงอันรัญจวนแห่งจันทรา และพวกเขาจะเห็นเจ้า เพื่อเตือนสำนึกให้เพียรสร้างความดี แลความเสียสละแก่ผู้อื่น” 


    …ทุกคนจะได้เห็นเจ้าอยู่เสมอ... ไม่ใช่แค่เพียงข้า อีกต่อไป


    เรื่องราวนี้มีการแตกแขนงออกไปหลากหลายเวอชั่น ตามความพยายามในการกลืนศาสนา 




    -------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ใบสมัครและข้อมูลส่วนตัวฮีโร่



    ชื่อ-นามสกุล:เอริธ อาเวล(Aerith Aveli)

     ชื่อเล่น:เอริธ

     อายุ:ประมาณ700

    ชื่อในวงการ:Black Dawn Witches

    ประเภทฮีโร่: Firstclass

    เผ่าพันธุ์:จอมเวท

    วัน/เดือน/ปี เกิด:18 พฤศจิกายน XXXX

    สัญชาติ:โรมาเนีย

    เชื้อชาติ:โรมาเนีย

    สังกัด:Magic

    สาย:Attack

    ระดับ:Master

    Level: 78

    ส่วนสูง:165

    น้ำหนัก:53

    เพศ:หญิง

    รหัสประจำตัว:L11951

    สถาบันการศึกษา: แอสดราซิล เวิร์ล ฮีโร่ แอนด์ การ์เดี้ยน อคาเดมี่ 

    สถานะ: เรียนอยู่

    อุปนิสัย:เป็นคนที่ค่อนข้างจะประหลาด ดีดสุดๆ ร่าเริงจนเกินพอดี บ้าพลัง มักใช้คำพูดแบบกันเองๆกับทุกคนหากอยู่ๆพูดสุภาพขึ้นมานั่นคือกำลังประชด เธอมีความเชื่อแปลกๆว่าแม่มดต้องสวมชุดสีดำ และนั่นทำให้ชุดมั้งหมดของเธอเป็นชุดสีดำ มักจะมีปัญหากับพวกที่มาจากศาสนจักรบ่อยๆ เนื่องจากเข้าใจผิดว่าเธอเป็นแม่มดที่ใช้มนต์ดำ เพราะเธอถูกเรียกว่าแม่มดดำเนื่องจากชอบใส่ชุดสีดำนั่นเอง(แต่ก็เอาตัวรอดได้แบบสบายๆตลอด) โดยส่วนตัวแล้วเธอไม่ชอบเวทมืดเท่าไหร่นัก เธอชอบพวกเวทที่มันระเบิดตู้มต้ามอย่างยิ่งใหญ่(เสียงเมกุมินลอยมา เอ็กโพลชั่น!!!) ไม่ก็เฉิดฉายสาดแสงอลังการแวววาวสายรุ้งหลากสียิ่งกว่ากัปตันคอลลีน ดังนั้นเวทหลักของเธอมักจะเป็นเวทระเบิดกับพวกเวทแสงเป็นส่วนใหญ่ เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับเรย์โกะในการถล่มองค์กรย่อยของสมาคมMammon ขาประจำห้องสมุดหมวดตำราเวท และยังชอบไปยืนดู(กดดัน)ยูเอะเวลาเขียนตำราเวทอีกด้วย แม้ว่าเธอจะเป็นผู้เหลือรอดจากยุคล่าแม่มดก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจกับอดีตเท่าไหร่นัก แถมยังชอบพูดติดตลกแซะพวกศาสนจักรว่าในยุคนั้นจากบรรดาคนที่โดนเผาไปทั้งหมดมีแม่มดจริงๆอยู่ไม่ถึง5%เลยด้วยซ้ำกว่าครึ่งที่โดนเผาเป็นนักวิทยาศาสตร์ แถมแซะเพิ่มด้วยว่าพระเจ้าอุส่าส่งผู้มีปัญญาลงมาช่วยเหลือมนุษย์พวกก็เล่นจับเผาทิ้งซะเหี้ยนเลย

    ความสามารถ:สามารถอ่านหนังสือได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ใจความสำคัญไม่ได้ขาดหายไปเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังมีความอึดทน ตายยากพอสมควร สามารถอดข้าวอดน้ำได้เป็นปีๆโดยใช้พลังเวททดแทน

    พลัง:Infinite Mana Supply - พลังเวทที่มีอย่างไม่จำกัด ทำให้สามารถยิงเวทใหญ่ๆได้เรื่อยๆแบบnon stop แต่ถึงพลังเวทจะมีไม่จำกัด แต่การยิงเวทใหญ่ๆเยอะๆก็ทำให้เหนื่อยได้เหมือนกัน 

    Explosion Magic - ไม่จำเป็นต้องมีคำบรรยายให้มากความ Explosion!!!!

     

    ผิดๆๆ เอ๊ะแต่ก็ไม่ผิดซักเท่าไหร่นี่หว่า ก็ตามชื่อเลยว่าเป็นบรรดาเวทสายระเบิดที่จะมาพร้อมกับความวินาศสันตะโร ที่จะลากเอาเป้าหมายและสิ่งที่อยู่รอบๆพังพินาศไปพร้อมๆกัน นับว่ายังดีที่ยังไม่เคยมีใครโดนลูกหลงนอกซะจากตึกรามบ้านช่อง

    Light Amplification Magic - บรรดาเวทสายลำแสง ที่จะยิงลำแสงพลังทำลายสูงออกไป ส่วนใหญ่แล้วการโจมตีจะเป็นเส้นตรงเท่านั้น แต่มีอำนาจการทะลุทะลวงสูง และสร้างความเสียหายตลอดเส้นทางที่มันมุ่งหน้าไป สามารถเสริมธาตุต่างๆลงไปเพื่อเปลี่ยนสีของลำแสงได้ แล้วพอยิงออกไปเยอะๆด้วยธาตุที่แตกต่างกันจะทำให้เกิดเป็นลำแสงหลากสีสันอย่างอลังการ การโจมตีแบบนี้ส่วนใหญ่จะเรียกกันว่าการสาดสายรุ้ง


    *ภาพตัวอย่างของการโจมตีแบบสาดสายรุ้ง

    Multi-Lock Full Burst - เวทเฉพาะตัวที่จะสร้างวงเวทขนาดใหญ่ขึ้นมา ศัตรูทั้งหมดที่ถูกมองผ่านวงเวทนี้จะถูกล็อคเป้าหมายไว้ในทันที อีกทั้งยังสามารถล็อคซ้ำเป้าหมายเดิมได้ด้วย เมื่อล็อคเป้าจนพอใจแล้ววงเวทดังกล่าวก็จะแตกตัวออกมาเป็นวงเวทขนาดเล็กนับไม่ถ้วน ตามจำนวนเป้าที่ล็อคไว้ และสาดลำแสงใส่เป้าหมายทั้งหมดที่ได้ล็อคเอาไว้ โดยเลือกธาตุที่อีกฝ่ายแพ้ทางออกมาโดยอัตโนมัติ(หากไม่มีธาตุที่แพ้ก็จะสุ่มมา1ธาตุ)สามารถปรับลดความรุนแรง(เพื่อให้ไม่ถึงตาย)ได้  ลำแสงที่ถูกยิงออกมานั้นสามารถเลี้ยวเข้าหาเป้าหมายเองได้ อีกทั้งเวทนี้ยังสามารถใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว ดังนั้นแล้วเธอมักจะเตรียมเวทอีกอย่างไว้ที่มืออีกข้างเสมอ เหมาะสำหรับใช้ในการละลายกองทัพ 

    โฟโตคิเนซิส(หรือจะเรียกลูโมคิเนซิสก็ได้) - ความสามารถในการสร้างและควบคุม เปลี่ยนรูปแสงได้ดั่งใจ เป็นพลังแบบเดียวกับตระกูลธาตุ ยกเว้นแต่เรื่องที่มันม่ใช่พลังที่สืบทอดมาในตระกูล เธอไขว่คว้าพลังนี้มาได้ด้วยตัวเอง



    รูปร่าง/หน้าตา:ผมสีทอง ตาสีทอง ร่างกายดูผอมผิดปกติมากๆ มีหน้าอกพอประมาณ

    ลักษณะการแต่งกาย

    ชุดไปรเวท:ตามภาพ แต่ไม่มีหมวกกับผ้าคลุม

    ชุดปฏิบัติการณ์:ชุดเดียวกับไปรเวทแค่มีหมวกกับผ้าคลุม


    *ชั้นมหาวิทยาลัย

    คณะ:สังคมศาสตร์

    สาขา:มานุษยวิทยา

    ระดับ:ตรี

    ศึกษาชั้นปี: 2

    เพิ่มเติม:ที่ปลายของด้ามไม้กวาดห้อยไม้กางเขนเอาไว้ เป็นไม้กางเขนที่ไปไถ่มาจากพระสันตะปาปา(ซักองค์ในอดีตที่เป็นเพื่อนกับเธอ)เป็นเหมือนยันต์กันผี ไว้กันคนจากศาสนจักรมาล่า(ประมาณว่าตูคนดีนะโว้ย) แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผล เลยไปไถอันเล็กๆมาเพิ่มอีกเกือบ20อันห้อยไว้ที่เอว กลับกลายเป็นว่าในยุคนั้นมีข่าวลือแปลกๆว่าเธอไปล่าคนของศาสนจักรแล้วเอาไม้กางเขนมาเป็นที่ระลึก(อารมณ์เหมือนพวกที่ฆ่าคนแล้วตัดนิ้วมาทำสร้อย)ไปซะฉิบ แต่ไหนๆก็อุส่าหน้าด้านไถมาแล้ว เธอก็เลยยังหน้าด้านห้อยมันไว้ยันทุกวันนี้นี่ละ

    -------------------------------------------------------------------------

    ใบสมัครและข้อมูลส่วนตัวฮีโร่


    ชื่อ-นามสกุล:เซเลสเทียร์ (Celestia)

     ชื่อเล่น:เซเลส

     อายุ:25

    ชื่อในวงการ:Tiamat

    ประเภทฮีโร่: Mighty

    เผ่าพันธุ์:มังกรทองนักบุญ(Golden Saint Dragon) - ผู้สืบเชื้อสายสุดท้ายของเทียแมทมังกรโบราณในเทวตำนานของบาบีโลเนีย

    วัน/เดือน/ปี เกิด:12 มกราคม XXXX

    สัญชาติ:ยูเอสเจแปน

    เชื้อชาติ:เมโสโปเตเมีย

    สังกัด:Max(God,Monster,Animal)

    สาย:Leader(Ptotect,Defence,Heal,)

    ระดับ:Master  

    Level: 68

    ส่วนสูง:165

    น้ำหนัก:8.8ตัน

    เพศ:เมีย

    รหัสประจำตัว:D52291

    สถาบันการศึกษา: แอสดราซิล เวิร์ล ฮีโร่ แอนด์ การ์เดี้ยน อคาเดมี่ 

    สถานะ: เรียนอยู่

    อุปนิสัย:ใสซื่อบริสุทธิ์ ไม่ประสีประสา ดูไปแล้วก็เหมือนเด็กที่ตัวโตๆ ร่าเริง รักสนุก ชอบสำรวจ หัวอ่อน เชื่อคนง่าย เลยมักจะโดนยูเอะแกล้งเล่นอยู่เสมอๆ ติดชิโระแจสุดๆ มักจะเห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกันบ่อยๆ (แถมชิโระยังคอยกันพวกไม่ประสงค์ดีให้ด้วย)

    ความสามารถ: แรงเยอะสุดๆ(ระดับมังกร) มีความสามารถในการต่อต้านเวทมนต์หรือคำสาปโดยธรรมชาติ พิษไม่มีผล โรคภัยไข้เจ็บทำอะไรไม่ได้ 

    พลัง:Divine Breath - เป็นDragon Breathเฉพาะตัวของเธอ ยิงลำแสงสีทองธาตุศักดิ์สิทธิ์(Divine)ออกไป พลังทำลายสูงมาก ยิงใส่ทะเลทีทะเลถึงกับแยกยังกับโมเสสมาเอง ถึงจะบอกว่าเป็นลมหายใจ(Breath) แต่จริงๆแล้วลมหายใจมังกร(Dragon Breath)ก็เป็นเวทมนต์ชนิดหนึ่ง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องยิงออกมาจากปากก็ได้(ยิงจากตา จากมือ จากปีกได้หมดเลย) แถมยังยิงได้มากกว่า1เส้นพร้อมกัน แต่ใช้เวลาค่อนข้างนานในการยิงแต่ละครั้ง แถมตอนยิงยังเป็นเป้านิ่ง อีกทั้งยังควบคุมความรุนแรงไม่ได้จึงไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเท่าใดนัก

    Divine Protection - กางปีกออกกว้าง และสร้างละอองแสงจำนวนมากปกคลุมทั่วพื้นที่ สร้างเป็นโล่ป้องกันการโจมตีและคำสาปให้กับฝ่ายเดียวกันในระยะ และยังสามารถดัดแปลงสร้างเป็นบาเรียป้องกันพื้นที่ได้ด้วย

    Twin Divine Rifile - ปืนไรเฟิลหน้าตาแปลกๆที่เหมือนหลุดมาจากการ์ตูนหุ่นยนต์ มีสองกระบอกประกบกันเป็นอันเดียว ขนาดค่อนข้างใหญ่ Made By อาโอโกะ ถูกสร้างมาเพื่อแก้ปัญหาของDivine Breath จากที่ต้องเป็นเป้านิ่งนานๆ เหลือแค่เหนียวไกก็ยิงได้เลย แถมยิงได้ทีละ2เส้นด้วย อีกทั้งยังสามารถปรับลดความรุนแรงลงได้อย่างอิสระอีกด้วย

    Divine Magic - เวทมนต์ธาตุศักดิ์สิทธิ์ เป็นเวทแบบเดียวกับที่พวกนักบวชใช้กัน 


    รูปร่าง/หน้าตา:ตาสีโกเมน ผมสีขาวแซมทองยุ่งเหยิงยาวถึงคอ มีหูคล้ายหูแมวสีขาวอยู่เหนือหัว มีเขาเล็กๆสีทองอยู่เหนือดูอีกที มีปีกสีขาวขนาดใหญ่4ปีก ปีกคู่บนนั้นซ่อนไว้ด้วยเวทมนต์ ส่วนคู่ล่างหุบแนบลำตัวจนกลมกลืนไปกับชุดที่สวม มีหางมังกรสีขาวที่มีขนปุกปุยแทนเกล็ด

    ลักษณะการแต่งกาย

    ชุดไปรเวท:ตามภาพ

    ชุดปฏิบัติการณ์:ชุดเดียวกับไปรเวท

    ระดับชั้น


    *ชั้นมหาวิทยาลัย

    คณะ:สัตวแพทยศาสตร์

    สาขา:สัตวแพทยศาสตร์

    ระดับ:ปริญญาโท


    เพิ่มเติม:การบิน - แม้ว่าจะมีปีกถึง4ปีกก็ตาม แต่ด้วยน้ำหนักที่มากถึง8ตันทำให้ยากที่จะบินได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้ใช้เวทมนต์ช่วยในการบิน โดยลอกเลียนหลักการมาจากบูสเตอร์ที่ชิโระใช้

    ชมรม-อยู่ชมรมกระจายเสียง

    มังกรทองนักบุญ - จริงๆแล้วมันไม่ได้มีมังกรสายพันธุ์นี้อยู่จริงๆหรอก เป็นชื่อที่ตั้งมาเป็นพิเศษเพ่อเซเลสเพียงตัวเดียวเท่านั้น เนื่องจากในร่างมังกรของเธอนั้นเรืองแสงคล้ายกับรัศมีของพระผู้เป็นเจ้า อีกทั้งด้วยคุณสมบัติต่างๆที่เป็นธาตุDivineจึงถูกเรียกแบบนั้น

    แถม ภาพในร่างมังกร


    เทียแมท(Tiamat)ใน เทวตำนานโบราณของบาบิโลเนีย เทียแมท คือมังกรเพศเมียขนาดยักษ์ เป็นสัญลักษณ์ของมหาสมุทร เป็นมารดาแห่งสิ่งมีชีวิตทั้งมวลรวมถึงเหล่าเทพด้วย เทียแมทมีคู่ครองคืออัปซู (Apsu) สัญลักษณ์ของน้ำจืดซึ่งอาศัยอยู่ใต้โลก ทั้งคู่ได้ให้กำเนิดเทพคู่แรกของโลก ลัคมู (Lachmu) และลัคคามู (Lachamu) ซึ่งต่อมาเทพทั้ง 2 นี้ได้ให้กำเนิด อันซาร์ (Ansar) และ คีซาร์ (Kisar) ต่อมาอันซาร์และคีซาร์ก็ได้ให้กำเนิด อานู (Anu) ราชาแห่งเหล่าทวยเทพ และ เออา (Ea) เทพวิทยาการทั้งมวล และเออา กับเทพมารดาแดมคีนา (Damkina) ก็ได้ให้กำเนิดมาร์ดุค (Marduk) เทพผู้รังสรรค์จักรวาล เทพผู้สร้างมวลมนุษย์ เทพแห่งแสงและชีวิต และฉายาอื่นๆอีกมากกว่า 50 ชื่อ


    มหา กาพย์ เอนูมา เอลิช (Enuma Elish) ซึ่งถูกเขียนขึ้นเมื่อกว่า 2000 ปีก่อนคริสตกาลกล่าวว่า เทียแมทและอัปซูวางแผนที่จะทำลายลูกหลานของพวกตนทั้งหมด แต่เออาล่วงรู้แผนการนี้ จึงมาสังหารอัปซูเสียในตอนที่กำลังหลับอยู่ เมื่อเทียแมทรู้ว่าอัปซูถูกสังหารนางก็โกรธจนบ้าคลั่ง สร้างกองทัพสัตว์ประหลาดขึ้นมาเพื่อแก้แค้นให้กับอัปซู กองทัพสัตว์ประหลาดนี้นำทัพโดย คิงกุ (Kingu) ผู้เป็นทั้งบุตรชาย และสามีคนที่ 2 ของนางด้วย แต่สุดท้ายทั้งเทียแมทและคิงกุก็ถูกมาร์ดุคสังหาร


    จากนั้นมาร์ดุคก็ ผ่าร่างของเทียแมทออกเป็น 2 ส่วน สร้างท้องฟ้าด้วยร่างท่อนบน สร้างผืนดินด้วยร่างท่อนล่าง เลือดกลายเป็นก้อนเมฆ น้ำตาของนางก่อเกิดแม่น้ำไทกริสและยูเฟรติส และใช้เลือดของคิงกุที่ไหลนองพื้นดินจนกลายเป็นดินสีแดงสร้างมนุษย์คนแรก ขึ้น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×