ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Priest Knight & 7Dragon นักบวชอัศวินเเละมังกรทั้ง7

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4 : เจ้าของร้านรับจ้าง ( ที่เขาว่ากันว่ามีทุกอย่าง)

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.ค. 58



    บทที่4

    เจ้าของร้านรับจ้าง(ที่เขาว่ากันว่ามีทุกอย่าง)

     

                    ข้าเกลียดแสงแดดยามเช้า เพราะมันหมายถึงเวลาที่ข้าต้องตื่นนอน เอาจริงๆคือข้าขี้เกียจนั้นแหละ ให้ตายข้าตื่นมาเจอสารพัดงานที่ท่านอาจารย์ทิ้งให้ข้าทำอีกแล้วถึงข้าจะชอบอะไรเป็นพิเศษแต่ข้าก็ทำได้ ข้าเหนื่อยสายตัวแทบขาดเมื่อวานนู่นก็วิ่งเคลีย์งานเอกสารอนมากมายก่ายกองที่ตำหนักเทพอัศวิน เมื่อวานข้าก็ต้องไปสู้กับมังกร มังกรเชี่ยวนะ ข้าเกือบถูกเผาสดอยู่แล้ว พูดถึงเรื่องเมื่อวานแล้วข้านอนอยู่บนเตียงได้ยังไงกัน ช่างเถอะนอนต่อดีกว่าเดี๋ยวก็มีคนมาบอกอะไรต่ออะไรกับข้าเองนั้นแหละ  ว่าแล้วก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเสียแต่เจ้าผ้าห่มนั้นมันสบับข้า!!!   

     

                    ถ้าเจ้าตื่นแล้วก็ลืมตาสักที อย่าทำเป็นนอนต่อเด็ดข้า แล้วก็เลิกคิดนั้นคิดนี่สักทีข้ารำราญ เสียงของผู้ชายคนหนึ่งบ่นข้าด้วยความระอาอย่างปิดไม่มิด ข้าก็เลยเริ่มคิดได้ว่าข้าคงก่อความเดือดร้อนให้เขาไม่น้อยเขาอาจจะเป็นนักบวชอารมณ์ร้อนสักคนที่ถูกใช้งานเข้าไปให้อาหารเจ้ามังกรบ้านั้นแล้วบังเอิญไปเห็นข้านอนสลบนิ่งอยู่ในห้องเลยไปลากข้าออกมา ข้าเลยเริ่มสำรวจห้องทันที ข้าก็พบว่านี่มัน ห้อง ของ ข้า หันไปหาผู้ชายเอ้ยนักบวชที่ช่วยข้าก็พบว่า เขาคือใครที่ข้าก็ไม่อาจทราบ  เขาสวมชุดเอ่อ น่าจะเป็นเสื้อกั๊กแบบที่พวกนักล่าทั้งหลายชอบใส่ข้างในคาดว่าน่าจะเป็นเสื้อกล้าม ผมสีขี้เถา มีดูตาสีแดงเพลิงให้ความรู้สึกร้อนๆชอบกล นี่....ใครกัน เหมือนได้ยินเสียงเส้นความอดทนของใครสักคนตึงๆแต่ข้ามั่นใจว่าไม่ใช่ขาดแน่ๆ

     

                    นี่เจ้า จำข้าไม่ได้งั้นเรอะ เดี๋ยวพ่อก็พ่นไฟเผาให้เกรียมเลยนี่ โว้ยยยย ไอห้องบ้านั้นไม่มีคนเข้าไปหรอกถ้าเขาไม่มีธุระกับข้า เอ้าไหนบอกมาสิว่าเป็นใครกัน !!  ”  ใครกันเหรอ ข้าขมวดคิ้ว ถ้าข้ารู้ข้าจะถามหรือไงกัน อีกอย่างข้าแค่คิดเองแท้ๆไม่ได้ถามเจ้าสักคำทำไมถึงรู้ได้ เจ้าใช้เวทย์อ่านใจหรือไง หรือว่ามิวเทนจะแกล้งอะไรข้าอีกแล้ว ไม่มั้งทางนั้นงานยุ่งจะตายคงไม่มีเวลามานั่งคิดแผนแกล้งให้ข้าปวดหัวเล่นหรอก ไหนๆเจ้าก็อ่านใจข้าได้ก็ตอบข้าหน่อยแล้วกันข้าเพลียจิตที่จะคิดล่ะอ่ะ

     

                    ข้าก็เซลไงเล่า  มังกรไฟเซลนะ เป็นนักบวชภาษาอะไรของเจ้า โง่ชะมัดถึงว่าทำไมไอแก่นั้นใช้ให้เจ้ามาให้ข้ากิน เหอะ อีกอย่างถ้าเจ้าจะถามหาเจ้าภูติอะไรนั้นของเจ้ามันกลับตั้งชาติที่แล้ว!!  ”  อ้อที่แท้ก็มังกรที่สู้กับข้าตั้งนานสองนานแหมะข้าล่ะดีใจจริงๆที่รอดตายมาได้แถมยังสภาพครบ  32 ไม่บุกสลายสักนิดข้าล่ะปลื้มปริ่มซะจริง

                    แล้วเจ้ามาปรากฏตัวแบบนี้ไม่เป็นอะไรรึไง ถ้าเจ้าหายตัวไปจากที่พัก...ข้าหมายถึงไอห้องนั้นของเจ้า มันจะไม่วุ่นวาย เรอะไง พูดก็พูดเถอะถึงข้าจะไม่อะไรกับเจ้า(ถึงแม้ว่าจะเกือบฆ่าข้าตายก็เถอะ)แล้วแต่พวกท่านอาจารย์ก็คงไม่ยอมแน่ๆ  

                    “ ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้นมั้ง  ตอนเจ้าหลับข้าก็ได้เห็นอะไรสนุกๆหลายอย่างเชียว ทำพันธะสัญญากับเจ้าอาจจะไม่เลวร้ายเท่าไร แต่จากนี้เจ้าอาจจะเหนื่อยสักหน่อยล่ะนะ หึหึหึ ว่าแล้วก็หายไปที่ไหนสักแห่ง แล้วหายไปที่ไหนกัน

    ข้าอยู่ในตราพันธะสัญญาของเจ้าไงเล่า ตอนเจ้าทำพันธะสัญญากับภูติของเจ้าไม่มีเหรอไงถึงว่าทำไมข้าร้อนๆที่ต้นแขน แต่ข้าก็ไม่คิดจะเปิดด้วยหรอกข้ายังทำใจไม่ได้ที่แขนข้ามีรอยสัก อีกอย่าง มิวเทนเป็นภูติที่คอยช่วยข้าหรอกนางให้สร้อยไว้กับข้าข้าก็เลยคุยกับนางได้ต่างหาก ว่าแต่เจ้าจะหายเข้าไปในตราพันธะสัญญทำไมกัน คำตอบของเจ้ากำลังมาแล้วไงเล่าทันใดนั้นเสียงหมุนลูกบิดประตูก็ดังขึ้น และข้าก็กำลังรอคอยคำตอบของข้าอย่างใจจอดใจจ่อ พบว่าคำตอบของข้านั้นคือ ท่านอาจารย์.....

                    อ้าวลูเอเจ้าฟื้นแล้วเรอะ ข้านึกว่าเจ้าจะหลับไปนานกว่านี้ซะอีกฟื้นตัวเร็วจริงๆนะเจ้า ดีๆแล้วข้ากำลังมีเรื่องจะคุยกับเจ้าอยู่พอดี ข้าหวังว่าเรื่องที่ท่านจะคุยกับข้าคงไม่ใช่เรื่องไปถล่มที่นั่นไปสร้างความวุ่นวายที่นี้ให้ข้าที่หรอกใช่ไหม

                    “ เจ้าค่ะท่านอาจารย์ ท่านอาจารย์มีอะไรกับข้าหรือเจ้าค่ะ

                    “ เอาน่า  เจ้าจะเกรงใจข้าไปทำไมคนกันเองทั้งนั้น  ”  ตาแก่ ข้ายังไม่ลืมหรอกนะว่าท่านเป็นท่านอาจารย์ของข้าและท่านส่งลูกศิษย์ตัวเองไปให้มังกรกินนะ

                    เอาเถอะ ดูเหมือนข้าจะนินทาท่านในใจมากไปหน่อยท่านเลยส่งสายตามาประมาณว่าเจ้านินทาข้าอีกแล้วเรอะ ไหนๆมังกรนั้นมันก็หนีไปแล้วแต่ก็ดีจริงๆที่เจ้าปลอดภัยดี แม้ตอนแรกเจ้าจะมาในสภาพโดนไฟไหม้ มีแผลเลือดไหลไม่หยุด ลำบากลำบนพวกนักบวชชั้นสูงอยู่หลายคนทีเดียว ในฐานะที่ข้าเป็นอาจารย์และรับหน้าที่รับผิดชอบสูงสุดในงานครั้งนี้ ข้าอนุญาตให้เจ้าพักร้อนได้เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ แต่ก่อนหน้านั้น เจ้าช่วยไปติดต่อ ร้านรับจ้างให้ข้าที พอดีข้าต้องการคนสัก4-5คน บอกให้มาหาข้าก็พอเขารู้ต้องทำอย่างไร

    “  ข้าเข้าใจแล้วค่ะ  ว่าแต่งานของท่านท่านรีบหรือเปล่าเจ้าค่ะ ถ้ารีบมากข้าจะได้ไปรีบติดต่อให้เลย

    “  แล้วแต่เจ้าจะคิด เฮ้อ ว่าก็ว่าเถอะลูเอ เจ้ามังกรไฟนั้นไม่ได้ทำอะไรเจ้าเพิ่มใช่ไหม กลิ่นมันงี้หึ่งเชียว ข้ายกมือขึ้นมาดม แล้วก็พบที่มาของกลิ่น....

    “  ข้าว่ามันเป็นของข้าเองมากกว่าเจ้าค่ะ ท่านอาจารย์  ถ้ายังไงเดี๋ยวข้าจะรีบติดต่อทางนั้นให้ท่านนะเจ้าค่ะ

    ฝากเจ้าด้วยล่ะ ข้าจะไปทำงานต่อ พอเจ้ามังกรนั้นหายไปงานเรายุ่งมาทีเดียว เจ้ากลับมาจากพักร้อนแล้วก็เข้าวังกับข้าหน่อยล่ะกัน เฮ้อ เหนื่อยชะมัดพวกเทพอัศวินก็ขยันหาเรื่องให้ข้าซะจริง  จริงๆมันมีมากกว่านั้นอีกนะที่ท่านอาจารย์บ่นนะ แต่ข้าก็หูดับไปนานแล้วสงสัยงานนี้ข้าจะงานเยอะแหะ ทันทีที่ประตูห้องข้าปิดลงเจ้ามังกรมันก็โผล่มาอีก

    โฮ่ ข้าพึ่งรู้นะว่าตาแก่นั้นเป็นอาจารย์เจ้านะ แถมยังได้กลิ่นข้าอีกต่างหาก  

    ไม่ใช่กลิ่นข้าหรือไง ข้าว่าข้าก็จมูกดีใช่ได้นะเฮ้ย กลิ่นตุๆนั้นกลิ่นข้าแน่ๆ

    เหอะๆ มักกรนะจมูกดีมากนะจะบอกให้ เอาเถอะ เจ้าจะไปข้างนอกไม่ใช่เหรอไง รีบๆเข้า ข้าอยากจะไปเที่ยวเต็มแก่แล้ว  

    ว่าแต่เจ้าปรากฏตัวออกมากอย่างนี้ข้าไม่ต้องแห้งตายเหรอไง

    ไรสาระนะเจ้า เผ่าพันธุ์อย่างพวกข้านั้นแข็งแกร่งตองให้มีนายพวกเราก็แทบจะเป็นอิสระจากพลังเวทย์ของเจ้านายเราจะใช้พลังเวทย์ของเจ้านายเพียงน้อยนิดเท่านั้นแหละ อีกอย่างไอคนที่มันสู้กับมังกรได้ตั้งนานสองนานอย่างเจ้ามีหน้ามากลัวอะไรอย่างนี้ด้วยเหรอไง  อ้อ งั้นข้าก็สบายใจข้าล่ะ งั้นข้าก็ไปอาบน้ำได้อย่างสบายใจ สุขขีจริงๆ จากนั้นข้ากับเจ้ามังกรก็ออกเดินทางไปย่านร้านค้าตลาดมืดทันทีแน่นอนว่านักบวชที่ทำหน้าที่รับใช้เทพเจ้าอย่างข้าจะมีเรื่องแบบนี้หลุดออกไปไม่ได้เด็ดขาดข้าจึงปลอมตัวเป็นเพียงนักเวทย์คนหนึ่งที่มากับทีมภารกิจของข้า(ข้าบังคับให้เซลแสร้งทำตัวให้เหมือนเป็นทีมภารกิจ)ถึงแม้ตลอดทางจะมีแต่คำเถียงไร้สาระของเซลตามมาตลอดทางอาทิ ลูเอเสร็จงานแล้วข้าว่าไปรับภารกิจมาทำให้สมจริงให้รู้แล้วรู้รอดเถอะ ข้ารู้สึกว่าแถวนี้มีพวกสัตว์ประหลาดให้ล่าเยอะแยะเต็มไปหมด จะที่ไหนก็มีเหมือนกันแหละน๊า อีกอย่างวันนี้พอจ้างวานเสร็จข้ากะว่าจะไปเดินดูบ้านเช้าสักหน่อย ห้องข้าจะไม่มีที่เก็บของอยู่แล้ว ห้องเจ้ามันเท่ารูหนูจริงๆนั้นแหละ งั้นข้ายอมก็ได้แต่เจ้าต้องให้ข้าด้วยห้องหนึ่ง เจ้ามีเงินมาช่วยออกค่าบ้านให้ข้า ข้าก็ไม่ว่าอะไรเจ้าหรอก  หรือจะเป็น ลูเอ ข้าอยากได้อาวุธใหม่สักหน่อย เจ้าตีดาบเป็นไหม ’  เซล..ข้าเป็นนักบวช(ที่แสนจะบอบบาง)เจ้าคิดว่าข้าตีอาวุธหรือไง อีกอย่างแค่พลังเวทย์กับเวทย์ของเจ้า ก็เกินพอแล้วจะเอาอาวุธไปทำไม ข้าก็นึกว่าตาแก่นั้นจะสอนเจ้าตีอาวุธซะอีก  ท่านอาจารย์ข้าไม่รับจ็อบทำทุกอาชีพนะเอ่อ จนข้าเถียงกับหมดจนเหนื่อยนั้นแหละมันถึงได้หยุด เอาล่ะตอนนี้ข้ากำลังยืนอยู่หน้าร้านๆหนึ่งที่มีป้ายติดไว้ว่า ร้านรับจ้างประตูไม้ที่ดูเก่าๆโทรมๆ เหมือนจะไม่ค่อยแข็งแรง แต่จริงๆแล้วแข็งแรงเกินคาด ข้าทำใจสักพัก ก่อนจะเข้าไป พร้อมกับเซลที่ดูจะตื่นตาตื่นใจกับที่นี่มากซะเหลือเกิน นี่เจ้าไม่ได้ออกมาข้างนอกนานขนาดไหนกัน  ไปถามตาแก่ท่านอาจารย์เจ้าเอาสิ อ้องั้นข้าไม่ถามเจ้าแล้ว ข้าเดินเข้าไปแล้วถามพนังงานว่าเจ้าของร้านอยู่ที่ไหนข้ามีเรื่องต่อคุยกับเจ้าของร้านโดยตรงเหมือนจะเป็นเด็กใหม่เพราะถ้าเห็นข้าพูดแบบนี้จะรีบพาข้าไปหาเขาแล้วแท้ๆ ไออาชีพนักบวชอย่างเจ้านี่มันต้องพึ่งพาอะไรที่เป็นด้านมืดๆอย่างนี้บ่อยขนาดนั้นเลยเรอะไง

    แล้วเจ้าข้าคิดว่าข้าอยากมานักเหรอไง ถ้าไม่ใช่เพราะท่านอาจารย์ใช้ให้ข้าทำอะไรที่ลงบันทึกในงานประจำวันไม่ได้บ่อยๆล่ะก็ข้าก็ไม่อยากพึ่งที่นี่ให้เม็ดเงินกระเด็นหรอก พูดแล้วแค้นซะจริง

                    คือตอนนี้นายท่านไม่อยู่ขอรับ นายท่านไปธุระข้างนอกอีกนานกว่าจะกลับ  

                    “ เฮอะ เจ้านั้นรักร้านยิ่งกว่าอะไรดี จะไปจากร้านได้ยังไง ข้ารู้ว่าเขาอยู่นี่อีกอย่างนี่ไม่ใช่ช่วงที่เจ้านั้นจะออกท่องเที่ยวหรือไปทำธุระ ถ้าเขาถามว่าใครก็บอกไปด้วยว่าท่านเจ้าไม่อยากโดนข้าอัดก็รีบๆมาได้แล้ว

                    “ ท่านมาก่อกวนร้านเรารึ ขอรับ หากจะมาก่อกวนร้านขออภัยหากข้าต้องใช้กำลัง

                    “ เจ้ากล้าก็ลองดู  ”  เซลเตรียมตัวลุยล่ะ หึหึ ข้าว่าแล้วว่าอยู่กับเจ้านี่จะต้องมีอะไรสนุกๆว่าแล้วเซลก็จุดไฟขึ้นที่มือเตรียมพร้อมรบ หน่วยก้านของพนักงานร้านถือว่าดีทีเดียว ถึงข้าจะไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้เปลี่ยนชุดต้อนรับใหม่ทั้งหมดก็เถอะ อย่างน้อยข้าก็ได้ออกแล้วกับเซลล่ะนะ ข้ารับมือกับเจ้านักเวทย์ที่อยู่ตรงเคาทเตอร์คาดว่าพวกนักรบอีกสองคนที่เข้ามารุมเซลคงเก่งใช้ได้ทีเดียว แต่คงเก่งไปมากกว่าเซลไม่ได้หรอก เซลนะเป็นถึงมังกรไฟในตำนานเทพของพวกข้าเชียวน๊า  ใครเป็นของพวกเจ้ากันแม้เขาจะเถียงอย่างนั้นเขาก็ต่อสู้ได้ไม่เลวเลยทีเดียว แต่ก่อนที่ข้าจะได้ร่ายเวทย์ไปมากกว่านี้ ก็มีเสียงมาขัดจังหวะซะได้ให้ตายสิข้ายังได้แค่เวทย์เกราะสวรรค์เองนะ!!!

                    “ พอแค่นั้นพวกเจ้าจะพังร้านข้ารึไงกัน !!!!! ”

                    “ นายท่าน!!! ” นี่คือเสียงของเหล่าลูกน้องประจำร้านนั้น

                    เจ้า/แก จะรีบออกมาทำสากอะไร นี่คือเสียงของข้าและเซลตามลำดับ

                    เฮ้อออออ ไหนเจ้าลองอธิบายข้ามาสิ ว่าเรื่องมันเป็นยังไงมายังไง  

                    “ คะ คือ คุณผู้หญิงท่านนี้เขามาขอพบท่านขอรับ แล้วข้าก็ทำตามที่ท่านสั่ง แต่เขากับไม่ยอมฝากงานไว้ขอรับ แถมยังบอกว่า ถ้าท่านไม่ออกมาเขาจะไปทำร้ายท่านขอรับ ข้าก็เลยคิดว่าเขามาก่อกวนแล้วมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆนะขอรับ เจ้านักเวทย์ประจำเคาทเตอร์นั้นจ้องข้าด้วยสายตาเอาเรื่องรู้งี้ข้าน่าจะให้เซลเผาเจ้านั้นแล้วข้าไปสู้กับนักรบซะ

                    ข้าเผาให้ตอนนี้เลยก็ได้นะ เอาสุกระดับไหนดีละหือ  ลูเอ  ....เจ้ารับมุขข้าดีนะ

                    เอาแค่กลางๆล่ะกัน ท่านเอาซะสุกเลยมาน่าเกลียดเกินไป  

                    “ จัดให้ตามคำขอ พลันลูกไฟสีแดงวิ่งเข้าไปหาเจ้านักเวทย์นั้นด้วยความเร็วแต่กลับถูกปราการดินดักไว้ซะได้ ชิ

                    “ ลูเอ เจ้ากำลังทำให้ลูกน้องข้าอยากฆ่าเจ้าขึ้นมาจริงๆนะ เสียงนั้นพูดขึ้นมาด้วยเหนื่อยๆหน่ายใจ

                    ก็ลูกน้องเจ้ามันไม่ได้เรื่อง ชุดเก่ายังดีกว่านี้เลย เจ้าจะเปลี่ยนทำไมกัน ไม่งั้นข้าก็ไม่ต้องเสียแรงร่ายเวทย์สักบท

                    “ เสียมารยาทนะเจ้า ข้าเป็นนักเวทย์ชั้นสูงนะ !!! / ข้านะระดับนักรบชั้นพรีเมี่ยมนะจะบอกให้!!! ” เอาเถอะข้าไม่สนใจแล้วข้าสนใจแต่เจ้าของร้านเท่านั้นแหละ ตอนนี้เจ้านั้นขมวดคิ้วคงกำลังคิดหนักมากเลยทีเดียว

                    ตามข้ามา จะคุยเรื่องงานใช่ไหม  

                    “ แต่นายท่านขอรับ  

                    “ หุบปากน่า  เจ้าพึ่งมาใหม่อาจจะยังไม่รู้ ว่ายัยนี่นะลูกค้าประจำร้านเรา อีกอย่างท่านเจ้าคิดจะลองดีกับนางเจ้านั้นแหละที่จะตายเอา  

                    “ ข้าเป็นผู้หญิงบอบบางนะ เจ้าก็ว่าเกินไป  

                    “ ถ้าผู้หยองอย่างเจ้าบอบบางล่ะก็ งั้นมังกรอย่างข้าคงเป็นแค่ลูกหมาแล้วล่ะ  เจ้าบ่นอะไรนะเซล  ป่าวไม่มีอะไรหรอก  เจ้าคงหูฝาด  ข้าผยักหน้าแล้วเดินตามคุณเจ้าของร้าน ไปด้านหลังร้านพร้อมๆกับเซล

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×