คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4 : เจ้าของร้านรับจ้าง ( ที่เขาว่ากันว่ามีทุกอย่าง)
บทที่4
เจ้าของร้านรับจ้าง(ที่เขาว่ากันว่ามีทุกอย่าง)
ข้าเกลียดแสงแดดยามเช้า
เพราะมันหมายถึงเวลาที่ข้าต้องตื่นนอน เอาจริงๆคือข้าขี้เกียจนั้นแหละ ให้ตายข้าตื่นมาเจอสารพัดงานที่ท่านอาจารย์ทิ้งให้ข้าทำอีกแล้วถึงข้าจะชอบอะไรเป็นพิเศษแต่ข้าก็ทำได้
ข้าเหนื่อยสายตัวแทบขาดเมื่อวานนู่นก็วิ่งเคลีย์งานเอกสารอนมากมายก่ายกองที่ตำหนักเทพอัศวิน
เมื่อวานข้าก็ต้องไปสู้กับมังกร มังกรเชี่ยวนะ ข้าเกือบถูกเผาสดอยู่แล้ว
พูดถึงเรื่องเมื่อวานแล้วข้านอนอยู่บนเตียงได้ยังไงกัน ช่างเถอะนอนต่อดีกว่าเดี๋ยวก็มีคนมาบอกอะไรต่ออะไรกับข้าเองนั้นแหละ ว่าแล้วก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเสียแต่เจ้าผ้าห่มนั้นมันสบับข้า!!!
“ ถ้าเจ้าตื่นแล้วก็ลืมตาสักที อย่าทำเป็นนอนต่อเด็ดข้า
แล้วก็เลิกคิดนั้นคิดนี่สักทีข้ารำราญ ” เสียงของผู้ชายคนหนึ่งบ่นข้าด้วยความระอาอย่างปิดไม่มิด
ข้าก็เลยเริ่มคิดได้ว่าข้าคงก่อความเดือดร้อนให้เขาไม่น้อยเขาอาจจะเป็นนักบวชอารมณ์ร้อนสักคนที่ถูกใช้งานเข้าไปให้อาหารเจ้ามังกรบ้านั้นแล้วบังเอิญไปเห็นข้านอนสลบนิ่งอยู่ในห้องเลยไปลากข้าออกมา
ข้าเลยเริ่มสำรวจห้องทันที ข้าก็พบว่านี่มัน ห้อง ของ ข้า หันไปหาผู้ชายเอ้ยนักบวชที่ช่วยข้าก็พบว่า
เขาคือใครที่ข้าก็ไม่อาจทราบ เขาสวมชุดเอ่อ
น่าจะเป็นเสื้อกั๊กแบบที่พวกนักล่าทั้งหลายชอบใส่ข้างในคาดว่าน่าจะเป็นเสื้อกล้าม
ผมสีขี้เถา มีดูตาสีแดงเพลิงให้ความรู้สึกร้อนๆชอบกล นี่....ใครกัน
เหมือนได้ยินเสียงเส้นความอดทนของใครสักคนตึงๆแต่ข้ามั่นใจว่าไม่ใช่ขาดแน่ๆ
“ นี่เจ้า จำข้าไม่ได้งั้นเรอะ เดี๋ยวพ่อก็พ่นไฟเผาให้เกรียมเลยนี่
โว้ยยยย ไอห้องบ้านั้นไม่มีคนเข้าไปหรอกถ้าเขาไม่มีธุระกับข้า
เอ้าไหนบอกมาสิว่าเป็นใครกัน !! ” ใครกันเหรอ ข้าขมวดคิ้ว
ถ้าข้ารู้ข้าจะถามหรือไงกัน
อีกอย่างข้าแค่คิดเองแท้ๆไม่ได้ถามเจ้าสักคำทำไมถึงรู้ได้
เจ้าใช้เวทย์อ่านใจหรือไง หรือว่ามิวเทนจะแกล้งอะไรข้าอีกแล้ว
ไม่มั้งทางนั้นงานยุ่งจะตายคงไม่มีเวลามานั่งคิดแผนแกล้งให้ข้าปวดหัวเล่นหรอก
ไหนๆเจ้าก็อ่านใจข้าได้ก็ตอบข้าหน่อยแล้วกันข้าเพลียจิตที่จะคิดล่ะอ่ะ
“ ข้าก็เซลไงเล่า
มังกรไฟเซลนะ เป็นนักบวชภาษาอะไรของเจ้า โง่ชะมัดถึงว่าทำไมไอแก่นั้นใช้ให้เจ้ามาให้ข้ากิน
เหอะ อีกอย่างถ้าเจ้าจะถามหาเจ้าภูติอะไรนั้นของเจ้ามันกลับตั้งชาติที่แล้ว!!
”
อ้อที่แท้ก็มังกรที่สู้กับข้าตั้งนานสองนานแหมะข้าล่ะดีใจจริงๆที่รอดตายมาได้แถมยังสภาพครบ
32 ไม่บุกสลายสักนิดข้าล่ะปลื้มปริ่มซะจริง
“ แล้วเจ้ามาปรากฏตัวแบบนี้ไม่เป็นอะไรรึไง
ถ้าเจ้าหายตัวไปจากที่พัก...ข้าหมายถึงไอห้องนั้นของเจ้า มันจะไม่วุ่นวาย เรอะไง
พูดก็พูดเถอะถึงข้าจะไม่อะไรกับเจ้า(ถึงแม้ว่าจะเกือบฆ่าข้าตายก็เถอะ)แล้วแต่พวกท่านอาจารย์ก็คงไม่ยอมแน่ๆ
”
“ ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้นมั้ง ตอนเจ้าหลับข้าก็ได้เห็นอะไรสนุกๆหลายอย่างเชียว
ทำพันธะสัญญากับเจ้าอาจจะไม่เลวร้ายเท่าไร แต่จากนี้เจ้าอาจจะเหนื่อยสักหน่อยล่ะนะ
หึหึหึ ” ว่าแล้วก็หายไปที่ไหนสักแห่ง แล้วหายไปที่ไหนกัน
‘ข้าอยู่ในตราพันธะสัญญาของเจ้าไงเล่า
ตอนเจ้าทำพันธะสัญญากับภูติของเจ้าไม่มีเหรอไง’ถึงว่าทำไมข้าร้อนๆที่ต้นแขน
แต่ข้าก็ไม่คิดจะเปิดด้วยหรอกข้ายังทำใจไม่ได้ที่แขนข้ามีรอยสัก อีกอย่าง มิวเทนเป็นภูติที่คอยช่วยข้าหรอกนางให้สร้อยไว้กับข้าข้าก็เลยคุยกับนางได้ต่างหาก
ว่าแต่เจ้าจะหายเข้าไปในตราพันธะสัญญทำไมกัน ‘คำตอบของเจ้ากำลังมาแล้วไงเล่า’
ทันใดนั้นเสียงหมุนลูกบิดประตูก็ดังขึ้น
และข้าก็กำลังรอคอยคำตอบของข้าอย่างใจจอดใจจ่อ พบว่าคำตอบของข้านั้นคือ
ท่านอาจารย์.....
“ อ้าวลูเอเจ้าฟื้นแล้วเรอะ
ข้านึกว่าเจ้าจะหลับไปนานกว่านี้ซะอีกฟื้นตัวเร็วจริงๆนะเจ้า
ดีๆแล้วข้ากำลังมีเรื่องจะคุยกับเจ้าอยู่พอดี ” ข้าหวังว่าเรื่องที่ท่านจะ’คุย’กับข้าคงไม่ใช่เรื่องไปถล่มที่นั่นไปสร้างความวุ่นวายที่นี้ให้ข้าที่หรอกใช่ไหม
“ เจ้าค่ะท่านอาจารย์ ท่านอาจารย์มีอะไรกับข้าหรือเจ้าค่ะ ”
“ เอาน่า
เจ้าจะเกรงใจข้าไปทำไมคนกันเองทั้งนั้น ”
ตาแก่
ข้ายังไม่ลืมหรอกนะว่าท่านเป็นท่านอาจารย์ของข้าและท่านส่งลูกศิษย์ตัวเองไปให้มังกรกินนะ
“ เอาเถอะ ” ดูเหมือนข้าจะนินทาท่านในใจมากไปหน่อยท่านเลยส่งสายตามาประมาณว่าเจ้านินทาข้าอีกแล้วเรอะ
“ ไหนๆมังกรนั้นมันก็หนีไปแล้วแต่ก็ดีจริงๆที่เจ้าปลอดภัยดี
แม้ตอนแรกเจ้าจะมาในสภาพโดนไฟไหม้ มีแผลเลือดไหลไม่หยุด
ลำบากลำบนพวกนักบวชชั้นสูงอยู่หลายคนทีเดียว
ในฐานะที่ข้าเป็นอาจารย์และรับหน้าที่รับผิดชอบสูงสุดในงานครั้งนี้ ข้าอนุญาตให้เจ้าพักร้อนได้เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์
แต่ก่อนหน้านั้น เจ้าช่วยไปติดต่อ ร้านรับจ้างให้ข้าที พอดีข้าต้องการคนสัก4-5คน บอกให้มาหาข้าก็พอเขารู้ต้องทำอย่างไร ”
“ ข้าเข้าใจแล้วค่ะ ว่าแต่งานของท่านท่านรีบหรือเปล่าเจ้าค่ะ
ถ้ารีบมากข้าจะได้ไปรีบติดต่อให้เลย ”
“ แล้วแต่เจ้าจะคิด
เฮ้อ ว่าก็ว่าเถอะลูเอ เจ้ามังกรไฟนั้นไม่ได้ทำอะไรเจ้าเพิ่มใช่ไหม
กลิ่นมันงี้หึ่งเชียว ” ข้ายกมือขึ้นมาดม
แล้วก็พบที่มาของกลิ่น....
“ ข้าว่ามันเป็นของข้าเองมากกว่าเจ้าค่ะ
ท่านอาจารย์
ถ้ายังไงเดี๋ยวข้าจะรีบติดต่อทางนั้นให้ท่านนะเจ้าค่ะ ”
“ ฝากเจ้าด้วยล่ะ ข้าจะไปทำงานต่อ
พอเจ้ามังกรนั้นหายไปงานเรายุ่งมาทีเดียว
เจ้ากลับมาจากพักร้อนแล้วก็เข้าวังกับข้าหน่อยล่ะกัน เฮ้อ
เหนื่อยชะมัดพวกเทพอัศวินก็ขยันหาเรื่องให้ข้าซะจริง ” จริงๆมันมีมากกว่านั้นอีกนะที่ท่านอาจารย์บ่นนะ
แต่ข้าก็หูดับไปนานแล้วสงสัยงานนี้ข้าจะงานเยอะแหะ
ทันทีที่ประตูห้องข้าปิดลงเจ้ามังกรมันก็โผล่มาอีก
“ โฮ่ ข้าพึ่งรู้นะว่าตาแก่นั้นเป็นอาจารย์เจ้านะ
แถมยังได้กลิ่นข้าอีกต่างหาก ”
“ ไม่ใช่กลิ่นข้าหรือไง ” ข้าว่าข้าก็จมูกดีใช่ได้นะเฮ้ย
กลิ่นตุๆนั้นกลิ่นข้าแน่ๆ
“ เหอะๆ มักกรนะจมูกดีมากนะจะบอกให้ เอาเถอะ
เจ้าจะไปข้างนอกไม่ใช่เหรอไง รีบๆเข้า ข้าอยากจะไปเที่ยวเต็มแก่แล้ว ”
“ ว่าแต่เจ้าปรากฏตัวออกมากอย่างนี้ข้าไม่ต้องแห้งตายเหรอไง
”
“ ไรสาระนะเจ้า เผ่าพันธุ์อย่างพวกข้านั้นแข็งแกร่งตองให้มีนายพวกเราก็แทบจะเป็นอิสระจากพลังเวทย์ของเจ้านายเราจะใช้พลังเวทย์ของเจ้านายเพียงน้อยนิดเท่านั้นแหละ
อีกอย่างไอคนที่มันสู้กับมังกรได้ตั้งนานสองนานอย่างเจ้ามีหน้ามากลัวอะไรอย่างนี้ด้วยเหรอไง
” อ้อ งั้นข้าก็สบายใจข้าล่ะ
งั้นข้าก็ไปอาบน้ำได้อย่างสบายใจ สุขขีจริงๆ
จากนั้นข้ากับเจ้ามังกรก็ออกเดินทางไปย่านร้านค้าตลาดมืดทันทีแน่นอนว่านักบวชที่ทำหน้าที่รับใช้เทพเจ้าอย่างข้าจะมีเรื่องแบบนี้หลุดออกไปไม่ได้เด็ดขาดข้าจึงปลอมตัวเป็นเพียงนักเวทย์คนหนึ่งที่มากับทีมภารกิจของข้า(ข้าบังคับให้เซลแสร้งทำตัวให้เหมือนเป็นทีมภารกิจ)ถึงแม้ตลอดทางจะมีแต่คำเถียงไร้สาระของเซลตามมาตลอดทางอาทิ
‘
ลูเอเสร็จงานแล้วข้าว่าไปรับภารกิจมาทำให้สมจริงให้รู้แล้วรู้รอดเถอะ
ข้ารู้สึกว่าแถวนี้มีพวกสัตว์ประหลาดให้ล่าเยอะแยะเต็มไปหมด ’ จะที่ไหนก็มีเหมือนกันแหละน๊า
อีกอย่างวันนี้พอจ้างวานเสร็จข้ากะว่าจะไปเดินดูบ้านเช้าสักหน่อย
ห้องข้าจะไม่มีที่เก็บของอยู่แล้ว ‘ ห้องเจ้ามันเท่ารูหนูจริงๆนั้นแหละ
งั้นข้ายอมก็ได้แต่เจ้าต้องให้ข้าด้วยห้องหนึ่ง ’ เจ้ามีเงินมาช่วยออกค่าบ้านให้ข้า
ข้าก็ไม่ว่าอะไรเจ้าหรอก หรือจะเป็น ‘
ลูเอ ข้าอยากได้อาวุธใหม่สักหน่อย เจ้าตีดาบเป็นไหม ’ เซล..ข้าเป็นนักบวช(ที่แสนจะบอบบาง)เจ้าคิดว่าข้าตีอาวุธหรือไง
อีกอย่างแค่พลังเวทย์กับเวทย์ของเจ้า ก็เกินพอแล้วจะเอาอาวุธไปทำไม ‘ ข้าก็นึกว่าตาแก่นั้นจะสอนเจ้าตีอาวุธซะอีก ’ ท่านอาจารย์ข้าไม่รับจ็อบทำทุกอาชีพนะเอ่อ
จนข้าเถียงกับหมดจนเหนื่อยนั้นแหละมันถึงได้หยุด
เอาล่ะตอนนี้ข้ากำลังยืนอยู่หน้าร้านๆหนึ่งที่มีป้ายติดไว้ว่า ‘ร้านรับจ้าง’ ประตูไม้ที่ดูเก่าๆโทรมๆ
เหมือนจะไม่ค่อยแข็งแรง แต่จริงๆแล้วแข็งแรงเกินคาด ข้าทำใจสักพัก ก่อนจะเข้าไป
พร้อมกับเซลที่ดูจะตื่นตาตื่นใจกับที่นี่มากซะเหลือเกิน
นี่เจ้าไม่ได้ออกมาข้างนอกนานขนาดไหนกัน ‘
ไปถามตาแก่ท่านอาจารย์เจ้าเอาสิ ’อ้องั้นข้าไม่ถามเจ้าแล้ว
ข้าเดินเข้าไปแล้วถามพนังงานว่าเจ้าของร้านอยู่ที่ไหนข้ามีเรื่องต่อคุยกับเจ้าของร้านโดยตรงเหมือนจะเป็นเด็กใหม่เพราะถ้าเห็นข้าพูดแบบนี้จะรีบพาข้าไปหาเขาแล้วแท้ๆ
‘ ไออาชีพนักบวชอย่างเจ้านี่มันต้องพึ่งพาอะไรที่เป็นด้านมืดๆอย่างนี้บ่อยขนาดนั้นเลยเรอะไง
’
แล้วเจ้าข้าคิดว่าข้าอยากมานักเหรอไง
ถ้าไม่ใช่เพราะท่านอาจารย์ใช้ให้ข้าทำอะไรที่ลงบันทึกในงานประจำวันไม่ได้บ่อยๆล่ะก็ข้าก็ไม่อยากพึ่งที่นี่ให้เม็ดเงินกระเด็นหรอก
พูดแล้วแค้นซะจริง
“ คือตอนนี้นายท่านไม่อยู่ขอรับ
นายท่านไปธุระข้างนอกอีกนานกว่าจะกลับ ”
“ เฮอะ เจ้านั้นรักร้านยิ่งกว่าอะไรดี จะไปจากร้านได้ยังไง
ข้ารู้ว่าเขาอยู่นี่อีกอย่างนี่ไม่ใช่ช่วงที่เจ้านั้นจะออกท่องเที่ยวหรือไปทำธุระ
ถ้าเขาถามว่าใครก็บอกไปด้วยว่าท่านเจ้าไม่อยากโดนข้าอัดก็รีบๆมาได้แล้ว ”
“ ท่านมาก่อกวนร้านเรารึ ขอรับ หากจะมาก่อกวนร้านขออภัยหากข้าต้องใช้กำลัง ”
“ เจ้ากล้าก็ลองดู ” เซลเตรียมตัวลุยล่ะ หึหึ ‘ข้าว่าแล้วว่าอยู่กับเจ้านี่จะต้องมีอะไรสนุกๆ’ ว่าแล้วเซลก็จุดไฟขึ้นที่มือเตรียมพร้อมรบ
หน่วยก้านของพนักงานร้านถือว่าดีทีเดียว
ถึงข้าจะไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้เปลี่ยนชุดต้อนรับใหม่ทั้งหมดก็เถอะ
อย่างน้อยข้าก็ได้ออกแล้วกับเซลล่ะนะ
ข้ารับมือกับเจ้านักเวทย์ที่อยู่ตรงเคาทเตอร์คาดว่าพวกนักรบอีกสองคนที่เข้ามารุมเซลคงเก่งใช้ได้ทีเดียว
แต่คงเก่งไปมากกว่าเซลไม่ได้หรอก
เซลนะเป็นถึงมังกรไฟในตำนานเทพของพวกข้าเชียวน๊า
‘ใครเป็นของพวกเจ้ากัน’ แม้เขาจะเถียงอย่างนั้นเขาก็ต่อสู้ได้ไม่เลวเลยทีเดียว
แต่ก่อนที่ข้าจะได้ร่ายเวทย์ไปมากกว่านี้ ก็มีเสียงมาขัดจังหวะซะได้ให้ตายสิข้ายังได้แค่เวทย์เกราะสวรรค์เองนะ!!!
“ พอแค่นั้นพวกเจ้าจะพังร้านข้ารึไงกัน !!!!! ”
“ นายท่าน!!! ” นี่คือเสียงของเหล่าลูกน้องประจำร้านนั้น
“ เจ้า/แก จะรีบออกมาทำสากอะไร ” นี่คือเสียงของข้าและเซลตามลำดับ
“ เฮ้อออออ
ไหนเจ้าลองอธิบายข้ามาสิ ว่าเรื่องมันเป็นยังไงมายังไง ”
“ คะ คือ คุณผู้หญิงท่านนี้เขามาขอพบท่านขอรับ แล้วข้าก็ทำตามที่ท่านสั่ง
แต่เขากับไม่ยอมฝากงานไว้ขอรับ แถมยังบอกว่า ถ้าท่านไม่ออกมาเขาจะไปทำร้ายท่านขอรับ
ข้าก็เลยคิดว่าเขามาก่อกวนแล้วมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆนะขอรับ ” เจ้านักเวทย์ประจำเคาทเตอร์นั้นจ้องข้าด้วยสายตาเอาเรื่องรู้งี้ข้าน่าจะให้เซลเผาเจ้านั้นแล้วข้าไปสู้กับนักรบซะ
“ ข้าเผาให้ตอนนี้เลยก็ได้นะ
เอาสุกระดับไหนดีละหือ ลูเอ ” ....เจ้ารับมุขข้าดีนะ
“ เอาแค่กลางๆล่ะกัน ท่านเอาซะสุกเลยมาน่าเกลียดเกินไป ”
“ จัดให้ตามคำขอ ” พลันลูกไฟสีแดงวิ่งเข้าไปหาเจ้านักเวทย์นั้นด้วยความเร็วแต่กลับถูกปราการดินดักไว้ซะได้
ชิ
“ ลูเอ เจ้ากำลังทำให้ลูกน้องข้าอยากฆ่าเจ้าขึ้นมาจริงๆนะ ” เสียงนั้นพูดขึ้นมาด้วยเหนื่อยๆหน่ายใจ
“ ก็ลูกน้องเจ้ามันไม่ได้เรื่อง ชุดเก่ายังดีกว่านี้เลย
เจ้าจะเปลี่ยนทำไมกัน ไม่งั้นข้าก็ไม่ต้องเสียแรงร่ายเวทย์สักบท ”
“ เสียมารยาทนะเจ้า ข้าเป็นนักเวทย์ชั้นสูงนะ !!! / ข้านะระดับนักรบชั้นพรีเมี่ยมนะจะบอกให้!!!
” เอาเถอะข้าไม่สนใจแล้วข้าสนใจแต่เจ้าของร้านเท่านั้นแหละ
ตอนนี้เจ้านั้นขมวดคิ้วคงกำลังคิดหนักมากเลยทีเดียว
“ ตามข้ามา จะคุยเรื่องงานใช่ไหม ”
“ แต่นายท่านขอรับ ”
“ หุบปากน่า เจ้าพึ่งมาใหม่อาจจะยังไม่รู้
ว่ายัยนี่นะลูกค้าประจำร้านเรา อีกอย่างท่านเจ้าคิดจะลองดีกับนางเจ้านั้นแหละที่จะตายเอา
”
“ ข้าเป็นผู้หญิงบอบบางนะ เจ้าก็ว่าเกินไป ”
“ ถ้าผู้หยองอย่างเจ้าบอบบางล่ะก็ งั้นมังกรอย่างข้าคงเป็นแค่ลูกหมาแล้วล่ะ ” เจ้าบ่นอะไรนะเซล “ ป่าวไม่มีอะไรหรอก เจ้าคงหูฝาด ” ข้าผยักหน้าแล้วเดินตามคุณเจ้าของร้าน
ไปด้านหลังร้านพร้อมๆกับเซล
ความคิดเห็น