คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : chapter: 5 [100%]
4
อื้อหือ ฉันกำลังมองฉากมันส์ๆระหว่างยัยแยมลูกสาวผู้ใหญ่บ้านกับนายหัวหมอก
อ้อ อาจมีคนสงสัยว่าฉันไปรู้จักมักจี่กับยัยแยมได้ยังไงเหรอ ฉันจะท้าวความให้ฟัง
ระหว่างที่นายหัวหมอกหลับไปแล้ว(หลงกับแฟนตัวเองแท้ๆไม่รู้สึกกระวนกระวายบ้างรึไงวะ ดูฉันซิ ขนาดจะพักผ่อนรอยังต้องอารมณ์เสียขั้นร้ายแรงจนทุกคนหนาวปากสั่น)ฉันก็เดินออกจากห้องไปจ๊ะกับยัยแยมพอดีเลยขอยืมเสื้อผ้ายัยนั่นหน่อยแล้วไปอาบน้ำ จากนั้นฉันก็ชักเบื่อสีผมของตัวเองเลยต้องถามยัยนั่นว่าที่(บ้านนอก)มีร้านเสริมสวยมั้ย ยัยนั่นก็ตอบมาว่ามีฉันเลยไปอุดหนุนซะหน่อยด้วยหัวสีบลอนด์ที่เป็นสีผมแท้ๆของฉัน(ฉันเป็นลูกครึ่งอเมริกัน-ไทย)
"เธอเป็นใคร=*="นายหัวหมอกถามยัยแยม(หัว)ดำ
"ฮึกT^T ทำไมนายใจร้ายแบบนี้ ฮือๆ"ยัยแยมดำระเบิดน้ำตาออกมา
"ฟาโรห์ นายจำฉันไม่ได้เหรอ"
"เฮ้ๆ พวกเธอรู้จักกันได้ยัง"ผู้ใหญ่บ้านตีหน้าโหดใส่นายหัวหมอกที่ทำลูกสาวสุดที่รักของเขาร้องไห้
"ไม่ทราบครับ ผมไม่เคยรู้จักเธอ=*="อื้อหือ หน้างี้แตกละเอียดยับเยินเลยนะเนี่ย
"จะพูดกันเพื่ออะไรไม่ทราบคะ รู้เรื่องแล้วไง มันทำให้คนที่หลงป่าไปกลับมาหาพวกเรารึป่าวคะ ถ้าทำไม่ได้หุบปากไว้จะดีกว่านะคะเพราะเราต้องใช้พลังงานในการเรียกชื่อคนอีกนาน อย่ามาเสียเวลาเพราะเรื่องไร้สาระโง่ๆแบบนี้ดีกว่านะคะ"ฉันที่เริ่มสติแตกทนดูละครน้ำเน่าของพวกนี้ไม่ได้ ช่วยหาตัวยัยเมษาเร็วๆหน่อยได้มั้ย ยื่งเจอยัยเมษาเร็วเท่าไหร่ฉันก็ยิ่งมีอารมณ์กลับสภาพเดิม แต่ถ้าไม่ทุกอย่างก็จะล่ม เธอคนนั้น ของฉันก็จะ...เรื่องแบบนี้ช่างมันละกัน เอาเป็นว่าฉันต้องหายัยเมษาให้ได้ ไม่ว่าจะต้องพลิกแผ่นดินหาก็ตาม
"อึก!=[]="สีหน้าของผู้ใหญ่บ้านกับยัยแยมดำ
"-W-"สีหน้าของนายหัวหมอก
"เอ่อนั่นสิพ่อผู้ใหญ่ เรารีบๆหาตัวเพื่อนของหนูลูน่าให้เจอจะดีกว่า"ป้ามาลีที่เจอรังสีเย็นยะเยือกของฉันรีบพูดขึ้นมาเพื่อให้รังสีเย็นยะเยือกของฉันกลับเข้าร่างตามเดิม
และแล้วพวกเราก็มาตามหายัยเมษาที่ป่าที่ฉันตกลงมากัน
"หนูเมษา!!"
"หนูแจส!!"
"เมษา!!"
"แจส!!"
"มีใครอยู่แถวนี้มั้ย!!!"นี่คือตัวอย่างประโยคที่พวกเราตะโกนร้องเรียกสองคนนั้นมานานประมาณชั่วโมงครึ่งได้แล้วมั้ง
โอ๊ะ!
ทำไมฉันลืมเรื่องสำคัญไปได้ โทรศัพท์มือถือไง
คิดได้ดังนั้นแล้วฉันก็รีบควักโทรศัพท์โทรหาเมษาทันที
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด
[ฮัลโหล!!]
"เมษา เธออยู่ที่ไหน!!"ฉันถาม
"ห๊ะ! ยัยหัวทอง เธอมีมือถือเหรอ ทำๆไมไม่โทรไปตั้งแต่แรก"นายหัวหมอกที่ร้องตะโกนอยู่หยุดทันทีที่ฉันโทรหาเมษา เร็วจริงๆนะเออ
"หุบปากน่า!!"ฉันตะคอกใส่
[ลูฟ ฉันอยู่กับแจสและก็น้องชายคนนั้นที่ส.น.จังหวัดตรัง]แล้วไป ถ้ายัยเมษาเป็นอะไปฉันจะไม่ยอมให้อภัยคนก่อเรื่องแน่ๆ ต่อให้ลงนรกฉันก็ต้องตามไปจัดการกับมัน
"อืมดีแล้ว"
[แล้วลูฟล่ะอยู่ไหน]
"ฉันอยู่กับแฟนเธอที่หมู่บ้านที่ไหนซักแห่งที่โดนดินถล่มทางเข้า เธอก็ช่วยหาพวกเราด้วยแล้วกัน"
[อ้อ! แล้วไป ฉันเป็นห่วงพวกเธอสองคนแทบแย่ นี่ถ้าลูฟไท้โทรมาฉันก็ลืมเรื่องโทรศัพท์ไปเลยแหะ]
"อืม ฉันก็พึ่งนึกได้เมื่อกี้นี่แหละ"
[เดี๋ยวฉันส่งฮอลฯไปรับนะ]
"ไม่ได้ หมู่บ้านนี้ภูมิประเทศมีแต่ต้นไม้เต็มไปหมด ฮอลไม่มีทางมาได้แน่"
[อ้อ อย่างนี้นี่เอง]
"แค่นี้ก่อนนะเม เปลืองแบตมาก"
[อ้ะ! ดะ! ตู๊ด]
ฉันรีบกดวางสายยัยเมษาทันที นายหัวหมอกก็รีบโวยทันใจ
"เฮ้! ฉันยังไม่ได้คุยกับยัยตัวเล็กเลย"
"ใช้ของตัวเองสิ แต่ถ้าวันจะกลับแล้วแบตหมดหากันไม่เจอฉันไม่รู้ด้วย"
"เหอะ! ที่นี่ต้องมีที่ชาร์ตแบตรุ่นฉันหลอก...มั้ง"
"บลูเบบอรี่น่ะนะ รู้จักใช้สมองบ้างได้มั้ยคะคุณ ในเมื่อเราไม่ต้องตามหาพวกนั้นแล้วงั้นให้พวกนั้นตามหาเราเอาเองแล้วกัน"
"=__+"
"ฉันไปบอกเรื่องนี้กับพวกป้าๆก่อนนะ ส่วนนายก็ไปบอกพวกลุงๆด้วย ลาล่ะ ทางใครทางมัน"พูดจบฉันก็โบกมือลานายหัวหมอกแล้วเดินจากมาหาพวกป้าๆที่ช่วยกันร้องจนคอแทบแตก
"ป้ามาลีคะ พอดีเพื่อนหนูเขาพึ่งโทรมาเมื่อกี้ว่ากลับไปแล้วคะ"
"อ้อ อย่างนี้นี่เอง งั้นป้าก็ดีใจด้วยนะ"
"ขอบคุณป้าอีกครั้งมากๆลยนะคะที่ช่วยพวกหนู"
"ไม่เป็นไรจ้ะหนูลูน่า แหมหนูนี่ขี้เกรงใจจริงๆนะ งั้นเราก็กลับบ้านกันดีกว่านะ นี่มันก็บ่ายแก่ๆแล้ว ป่ะๆ แยกกันกลับบ้าน ป้าไปก่อนนะหนูลูน่า พอดีมีเรื่องต้องคุยกับเพื่อนป้าน่ะ"ป้ามาลีขอตัว
"บ้ายบายคะป้ามาลี"ป้ามาลีโบกมือให้ฉันแล้วก็รีบเดินไปบอกเพื่อนๆบ้าแล้วพวกเราทั้งหมดก็แยกย้ายกันกลับบ้าน...
...แต่ไม่ใช่ฉัน
ไหนๆเราก็หลงมาที่ๆไม่รู้จัก งั้นเราควรมาทำความรู้จักไม่ดีกว่ารึไง
"เฮ้ๆ! ยัยหัวทอง คนอื่นเขากลับหมดแล้วเธอมาทำอะไรอยู่นี"ไอ้มารขวางคอหัวหมอกดันมาทักฉันซะได้ อย่ามายุ่งกับฉันได้ไหม แกจะไปตายห่าที่ไหนก็ไป อย่ามายุ่งกับฉัน แต่เอาเถอะ ครั้งนี้ฉันจะยกให้เป็นกรณีพิเศษเพราะฉันค่อนข้างอารมณ์ดีและโล่งอกที่หายัยเมษาเจอ
"สำรวจทาง ไปมั้ย"ฉันถามนายหัวหมอก
"มันต้องมีหมี หรือสัตว์ป่าบ้าๆนั่น เธอน่าจะลองเอาสมองอันชาญฉลาดของตัวเองไตร่ตรองดูหน่อย"
"โง่รึป่าว ถ้ามีของแบบนั้นจริงพวกนั้นจะพาเราเข้ามาเหรอ แล้วที่ๆสัตว์ป่าอยู่มันไม่ใช่สภาพแวดล้อมแบบนี้ สภาพแบบนี้มันแปลกๆ ถ้าคนมีสมองเขาคิดแบบนี้กันนะคะคุณฝาโรง"
"ยัยลู่นา เธอจะไม่จิกกัดฉันจะตายไหมห๊ะ!!"
"ในหัวคุณคิดเรื่องอะไรอยู่ ฉันก็เปลี่ยนชื่อคนในหัวของคุณเป็นคุณไงคะ ประมาณว่าให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว นี่คงตรงกับสำนวนไทยที่เข้าเรื่องตอนนี้มากที่สุดสินะคะ"
"=_=++++++"
"ฟาโร้ห์!!!!!!!!!!!"จู่ๆก็เกิดเสียงดังสนั่นเหมือนหมีควายโดนเชือดเข้ามาในโสตประสาทซ้ายขวาของฉนอย่าไม่น่าให้อภัย
แล้วร่างของหมีป่าแยมดำก็ตามมาติดๆกับเสียง ปกติความไวแสงต้องมาก่อนเสียงสิ แต่ยัยนี่ผิดแปลกจากเพื่อนเพราะเสียงมาก่อนแสง
"เหอๆ"นายหัวหมอกทำหน้าประมาณว่ายังไงดี มันอธิบายยากแหะ เอาแบบนี้ดีกว่า ทำหน้าแบบคนเหยียบอึหมาที่พึ่งทำการปลดปล่อยแบบสดๆร้อนๆส่งกลิ่นสุดจะรับไม่ได้ ประมาณนี้แหละ
"ช่วยฉันหน่อยได้มั้ย"
"ทำไมคะ"
"เหอะน่า"
"อะไรนะคะ ฉันไม่ค่อยได้ยินคุณพูดเลย"ฉันแกล้งใช้มุกไม่ได้ยินแบบหน้าด้านๆนี่ล่ะ
"เธอเริ่มเองนะ"พูดจบไอ้บ้านั่นก็หมุนตัวฉันไปหามันแล้วโอบเอวฉันไว้ก้มหน้ามาประกบปากแต่ไม่ทำเรื่องที่เกินเลยกว่านี้ในช่องปากแหะ ฉันใช้หางตาหันไปมองยัยแยมดำเห็นยัยนั่นทำหน้าตาประมาณว่าช็อกสุดๆ รับไม่ได้แบบเว่อร์อย่างไม่น่าให้อภัย
ฉันเลยส่งสายตาไปหานายหัวหมอ
‘ไอ้ฝาโลง นายทำบ้าอะไร’
แล้วมันยังมีหน้ามาส่งสายตาตอบฉันอีกนะ
‘เรื่องแบบนี้ยังจะให้ฉันบอกอีกเหรอ คนช่ำชองแบบเธอน่าจะรู้ดีกว่าฉันอีกนะฉันว่า’
‘ตอบอะไรโง่ๆ ในหัวมีสมองมั่งรึป่าวคะ’
‘ก็เธอถามโง่ๆมาจะไม่ให้ตอบแบบโง่ๆได้เช่นไร จริงมะ’
‘ฉันหาเรื่องที่คุณพูดจริงไม่ได้ฉันหาเรื่องที่คุณพูดจริงไม่ได้เลยคะ’
‘เออน่า ช่วยๆฉันไปก่อนไม่ได้รึไง’
‘ไม่คะ’
‘ไม่มีความคิดดีๆที่จะช่วยเพื่อนร่วมโลกรึไง’
‘คุณไม่เคยมีเหมือนกันไม่ใช่รึไงฉันถึงได้ให้คุณในแบบที่คุณให้ฉัน แล้วอีกอย่างน้ำหน้าอย่างคุณคงไปฟันแล้วทิ้งเธอคนนั้นสิท่า’
‘ไม่รู้สิ’
‘ตอบแบบไร้ความรับผิดชอบที่สุดเลยนะคะ’
‘งั้นมั้ง ไหนๆก็ไหนๆเราก็ควรปรองดองกันไว้ พอออกจากที่นี่ไปได้ค่อยมาปะทะกันใหม่ไม่ดีกว่าเหรอ’
‘ถ้าจุดประสงค์คุณมีแค่นั้นฉันทำให้ได้ แต่ถ้าไม่รับรองได้จะไม่มีสิ่งใดที่คุณจะเอาไปจากฉันได้’
‘ถ้าเธอมั่นใจว่ารักษาได้ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องของฉันนี่’
‘หึ แล้วที่เราจะร่วมมือกันนี่ฉันรู้สึกได้ว่าฉันเสียเปรียบสุดๆไปเลยนะคะ’
‘ไม่มีทางอยู่แล้ว ถ้าเธอช่วยฉันคราวนี้ฉันมีข้อเสนอที่ว่าเธอจะขออะไรจากฉันก็ได้อย่างหนึ่ง’
‘อืม...ก็ได้คะ แต่เรื่องนี้เมษาไม่เอี่ยวและไม่ลึกซึ้งเกินกว่าเครื่องมือของกันและกันใช่มั้ย งั้นจูบนี้คือพันธะสัญญาของเรา’พอส่งสายตาเสร็จปุ้บ ฉันก็เริ่มจูบนำนายหัวหมอกทันที
จูบของเราทั้งยาวนานและลึกซึ้งแต่มันไม่มีความรู้สึกใดๆเจือปนอยู่ด้วยแม้แต่นิดเดียว มันคือจูบที่ไร้ความรู้สึกอย่างสิ้นเชิง ลึกซึ้งแต่ไร้หัวใจ และนี่คือจุดเริ่มต้นของเกมที่ฉันวางหมากมาเนิ่นนานและเตรียมตัวรบมาตลอดชีวิต...
พอเราถอนจูบออกจากกันฉันก็เห็นยัยแยมดำนั่งหมดแรงร้องไห้อยู่ไม่ไกลจากพวกเราเท่าไหร่นัก
เธอคงเห็นสินะ จูบอันร้อนแรงของพวกฉันและไร้ความรู้สึก แต่เธอคงไม่รู้เรื่องอันหลังสินะ ผู้หญิงที่เติบโตมาอย่างเธอต้องเจอซาตานอย่างฉัน
ฉันพักหายใจซักนิดหน่อยก่อนจะเดินไปหายัยแยมดำเพื่อกระซิบบอกในสิ่งที่มันทำให้ฉันบรรลุเป้าหมาย
"คนเมื่อกี้ผัวฉัน จำไว้"แล้วจากนั้นฉันก็มองหน้าหล่อนอย่างอัมหิตแล้วเดินจากมา ต่อให้ยัยนั่นดีกับฉันแค่ไหนแต่ถ้าหล่อนเป็นสิ่งกีดขวางเป้าหมายของฉันก็ต้องกำจัดลูกเดียว
ตกค่ำ
ผู้ใหญ่บ้านมองพวกฉันด้วยสายตาแปลกๆแต่ก็ไม่มีท่าทีอะไรอื่นนอกจากนี้ ยัยแยมดำคงไม่ได้บอกเรื่องนายหัวหมอกกับพ่อของตัวเองสินะ ถ้าบอกไปมันจะสนุกขนาดไหนนะ ฉันชักอยากรู้ขึ้นมาแล้วล่ะ
แต่เดี๋ยวนะ ช่วงนี้ไม่ใช่ช่วงปิดเทอม ฉันอยู่ปีสี่ ชิบหายแล้วไงล่ะ ปีนี้เป็นปีสุดท้ายแล้ว นักศึกษาทุกคนต้องเตรียมตัวฟิตเรียน ปั่นรายงานให้จบ และฉันก็ต้องเป็นหนึ่งในนั้นด้วยแต่ว่านี่ฉันต้องมาติดแหง็กอยู่ที่นี่ เวรสุดๆแล้วไง ฉันต้องพลาดการเรียนที่น่าเบื่อๆพวกนั้น แต่ไอ้การเรียนที่น่าเบื่อพวกนั้นฉันต้องเรียนเพื่อเป้าหมายของฉัน บ้าชิบ
เอาวะช่างมันละกัน
"แยม เดี๋ยวพ่อไปประชุมก่อนนะ แกก็อยู่บ้านดูแลพวกแขกเขาด้วยล่ะ เข้าใจมั้ย"ผู้ใหญ่บ้านหันไปสั่งลูกตัวเองหลังกินเข้าเสร็จแล้วลุกขึ้นไปประชุมที่ข้างนอก
อาหารที่มีนี่ก็พอรับได้อ่ะนะ ถึงจะมีแจ๋วอะไรเทือกๆนี้ฉันก็เลี่ยงๆไม่กิน ให้ตายเหอะ ถ้าฉันเจออาหารที่รับไม่ได้หนักกว่านี้ฉันจะทำยังไงดีวะ ไม่กินดีกว่าเฮ้อ
แล้วอยู่ๆอะไรก็ดลใจให้ฉันหันหน้าไปมองหน้านายหัวหมอกและนายนั่นก็หันมามองฉันพอดี เรามองหน้ากันอย่างแหยๆเพราะเรื่องอาหารนี่ล่ะมั้ง
"อาหารสุดๆไปเลยเนอะ"นายหัวหมอกพูดขึ้นทำลายความเงียบ
"ใช่มั้งคะ"เอ่อนายหัวหมอก นายลืมเรื่องสำคัญไปรึป่าวที่ว่าเราไม่ได้อยู่ที่นี่กันแค่สองคน การพูดเรื่องอาหารต่อหน้าต่อตาเจ้าบ้านแบบนี้มันค่อนข้างเสียมารยาทแบบไม่หน้าให้อภัยเลยนะ ดูสิหน้ายัยแยมดำซีดเผือดเลย
"ขอโทษนะคะที่อาหารไม่ถูกปากพวกคนหัวสูงอย่างพวกคุณ"ยัยแยมดำประชดประชันพวกฉัน
"ฉันไม่ได้บอกซะหน่อยว่าอาหารของเธอรสชาติแบบไหน อย่าตีความเอาเองสอครับ"นายหัวหมอกโต้ตอบบ้าง
"แค่คุณอ้าปากฉันก็เห็นลิ้นไก่ของคุณแล้วล่ะคะ"
"ฉันว่าเธอไม่ฉลาดพอจะอ่านความคิดของฉันได้หรอก"อูย เจ็บนะคะเนี่ยคำนี้
"ฟาโรห์ คุณมันมีดีแค่หน้าตาฐานะและก็เซ็กซ์เท่านั้น เพราะคนมีการศึกษาเขาไม่ทำกันแบบนี้"อู้ อันนี้ก็แรงไม่แพ้กันเลยนะเนี่ย
"อ่าฮะ ใช่ คนมีการศึกษาเขาไม่อึ๊บกันโดยที่ยังไม่ได้แต่งงานกันหรอก ใช่มั้ย แล้วถ้าเร่องนี้เข้าหูพ่อเธอใครกันแน่ที่จะโดน"โอ้ว คำนี้แทบกระอักเลือดเลย ดูสิหน้ายัยแยดำซีดกว่าเดิมหลายเท่าเลย
"นิสัยคุณมันเกินคำว่าเลวที่สุดไปหลายขุม คุณลูน่าฉันเตือนคุณด้วยความหวังดีเลยนะคะว่าคนแบบนี้คุณไม่ควรคบด้วย เพราะไม่งั้นตอนหลังคุณจะเสียใจแบบฉัน คนแบบนั้นไม่มีทางรักใครได้หรอกคะ"เหรอ แล้วยัยเมษานั่นล่ะ ฉันว่าเธอคิดผิดแล้วมั้ง หรือเธอจะคิดถูกกันนะแยม
"เคยได้ยินเพลงความรักมั้ยคะ ความรักในสายตาของฉันมันก็เป็นแบบนั้นล่ะคะ"
พอนายหัวหมอกได้ยินดังนั้นก็มองหน้าฉันแล้วส่งสายตาไม่เชื่อมาให้ ฉันพูดอะไรผิดความรักในแบบฉบับฉันมันเป็นแบบนี้จริงๆนี่เพียงแต่ว่าฉันยังไม่เคยมีนี่นา ไอ้สิ่งที่เรียกว่าความรัก เพราะงั้นฉันก็พูดจริงทุกอย่าง
"ถ้างั้นฉันก็ขอให้คุณเจอคนที่ดีกว่าฟาโรห์แล้วกันนะคะ"
"ไม่ดีกว่าคะ ก็ฉันรักของฉันนี่ค่ะ จะให้ทำไงได้"พอได้ยินเช่นนั้นแล้วนายฟาโรห์ก็(แกล้ง)ทำตาหยีหน้าตาเหมือนฉันน่ารักซะเต็มประดา อึ๋ย สยองอ่ะ
"น่าร้ากกกกก มาจุ๊บทีได้มั้ย>3<"นายหัวหมอกทำท่าจะกระโดดเข้ามากอดฉันฉันก็เลยส่งสายตาไปห้าม
‘อย่ามาเว่อร์’
‘สมจริงหน่อยสิ’
‘ฉันน่ะทำสมจริงแล้วนายอย่ามาทำเสียแผน ขรึมๆไว้ซะ!!’
‘ก็ได้’
"งั้นฉันขอตัวก่อนนะ วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันขอตัวไปนอนก่อน"ฉันขี้เกียจซะเต็มประดาเลยหาทางหนี วันนี้ฉันเหนื่อยจริงๆจนไม่สามารถต่อล้อต่อเถียงกับใครได้(วันที่เหนื่อยกว่านี้ก็มีแต่วันนี้ขี้เกียจมากกว่าอย่ามาอ้าง:ผู้แต่ง)
พอฉันเดินขึ้นมาถึงห้องนอนฉันก็กระโดดตุบลงเตียง
"อั๊ก!"แต่ ลืมไปซะสนิทเลยว่าเตียงมันทำมาจากกราบมะพร้าวไม่ใช่ไอ้ของนุ่มๆที่เตียงนุ่มๆเขาใช้ทำกัน โอย เจ็บชิบหายเลยอ้ะ เลว เลวๆๆๆๆ ฮือๆเข้าใจความรู้สึกของไอ้หัวหมอกแล้วว่าทำไมหมอนั่นทำท่าเหมือนจะเป็นจะตายให้ได้
ง่วง เจ็บตัว เหนื่อย ไม่สนแล้ว นอนดีกว่า
อืมมมมม
แสบตาชิบเป๋งเลยอ้ะ
อีนังพระอาทิตย์บ้า แกจะส่องแสงหาเข็มในมหาผืนแผ่นดินแอนด์ผืนมหาสมุทรสุทสาครอะไรของแกนักหนาวะ ฮือๆ แล้วร่างกายฉันเป็นอะไรไปเนี่ย ปวดเมื่อยระบมไปหมดแล้ว มายด์ก็อด
เอ้ะ!
ห้องสีนี้ที่มีแต่น้ำลายของแมลงมุมเต็มไปหมด เตียงแข็งๆนี่ ผ้าห่มเก่าๆที่เหมือนผ้าขี้ริ้ว หมอนที่แข็งเหมือนก้อนหิน คนที่นอนข้างที่หันหลังให้บ่งบอกถึงความพิศวาสที่ไม่มีให้ซักนิด
อ่าฮ่า นึกออกละ ที่นี่คือที่ๆฉันหลงมานี่เอง
ฉันค่อยๆลุกขึ้นนั่งบิดขี้เกียจบนเตียง
"อื้ออออออออออออ"เสียงประกอบเพื่อให้รู้รับถึงอรรถรส
พอทำภารกิจไร้สาระเสร็จฉันก็ลุกขึ้นจากเตียงเดินออกจากห้องนอนด้วยความเงียบเชียบและเห็นยัยแยมเดินออกจากห้องมาพอดี
"อ้าว'หวัดดีลูน่า ตื่นเช้าจังนะ"
"สวัสดี เธอก็ตื่นเช้าเหมือนกัน อ้อซื้อแปรงสีฟันให้หน่อยได้มั้ย แล้วที่นี่มีร้านขายชุดชั้นในมั้ย"ฉันพยายามพูดเบาๆเท่าที่ลมปาก(เหม็นๆ)ของฉันจะทำได้
"อ้อมีสิ เดี๋ยวฉันไปแปรงฟันก่อนแป้บนึงนะแล้วจะซื้อแปรงสีฟันมาให้"
"ขอบใจจร้า งั้นเดี๋ยวฉันไปรอที่เก้าอี้หน้าบ้านเธอนะ พอดีอยากดื่มด่ำกับธรรมชาติซักหน่อย"
"อ้อ โอเค ไปนะๆ"จบประโยคของยัยแยมพวกเราก็เดินแยกจากกัน ส่วนฉันก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้หวายเก่าๆตัวนึงที่หน้าบ้านที่มีสวนเล็กๆๆๆๆๆๆมากๆๆๆๆๆๆของบ้านหลังนี้
แสงแดดอุ่นๆยามเช้ามันช่างทำให้ผิวที่ขาวใสดุจหิมะของฉันสว่างไสว ผมสีบลอนด์ของฉันก็ยิ่งเปล่งประกายวิ้งๆ สวยมาก คนอะไรสวยไร้ที่ติแบบนี้เนี่ย
"แยม! แยม! ยะ"จู่ๆก็มีเสียงผู้ชายโพล่งขึ้นมา ยัยแยมเธอนี่มันสุดๆจริงนะยะ มีผู้ชายมาหาแต่เช้าเลย(ไม่เหมือนฉันที่มีผู้ชายออกไปแต่เช้าหลังจากเสร็จกิจกรรมยามค่ำคืน)แต่พอผู้ชายคนนั้นเห็นหน้าฉันก็หยุดนิ่งราวกับเจอสาวสวยหยาดฟ้า(ยังคงไม่หยุดความหลงตัวเอง) อ่าฮ่า หน้าตานายนี่หล่อใสๆน่ารักๆ ผิวขาวๆ เขาตัวผมเดียวกับคังมินฮยอกสามีของฉันที่เป็นนักร้องเกาหลีเป้ะๆ เดี๊ยะๆเลย แถมน่ารักเหมือนกันอีก ผิดที่วานายนี่ไม่ค่อยหน้ายู่เลยดูดีกว่านิดส์นึง(ย้ำมากกกกกกๆๆๆๆๆว่าแค่นิดเดียวเท่านั้น เพราะไม่มีใครสู้สามีฉันได้) จ้องนานๆแบบนี้เดี๋ยวแม่ก็จับกินซะนี่ ฉันเลยยักคิ้วใส่นายเลิฟลี่นี่ซะเลย เล่นเอานายเลิฟลี่หน้าแดงแปร๊ด โอโห นายนี่ช่างบริสุทธิ์ผุดผ่องเป็นยองใย จนน่าเขมือบซะเหลือเกิน
"มาหาแยมเหรอจ้ะ"ฉันเริ่มทักทายนายเลิฟลี่นี่ด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานและนุ่มนวลเพื่อดักกระตายน้อยให้มาหลงกล
"อ่าครับ=\\\\="ว้าว หน้าแดงหนักกว่าเดิมอีก
"พอดีว่าแยมไม่อยู่จ้ะ ถ้ามีอะไรเร่งด่วนบอกพี่ก็ได้นะ เดี๋ยวพี่บอกแยมให้ แต่ถ้ารอได้ก็ช่วยรอแยมเป็นเพื่อนพี่หน่อยสิจ้ะ ได้มั้ย"แผนการอ่อยของฉันก็ได้เริ่มขึ้น
"อ่า>\\\\\\\\\\\\\<"
"ได้มั้ย นะจ้ะ"ฉันทำหน้าตาน่ารักๆเพื่อออดอ้อนนายเลิฟลี่นี่โดยเฉพาะเลยนะ อา มุขนี้ฉันเคยใช้สมัยที่จีบ ศจ.แอลเลียตนี่นา
"ครับ('\\\\\\\\\\\\\\\\')"
"ไฮเซ็กซี่"จู่ๆไอ้บ้ามัมมี่ก็โผล่หัวมาจากไหนไม่รู้มาสวมกอดฉันจากข้างหลังแล้วหอมแก้มฉันไปหนึ่งฟอดใหญ่ๆ ไอ้บ้านี่ยบังอาจมาทำลายแผนของฉันได้ไง
อย่าพึ่งคิดไปไกลว่าหมอนี่กำลังหึงฉัน ฉันเป็นพวกเซ้นส์แรงงงงงงงงงงงงงงส์มากถึงแรงส์(ใส่ส.การันเพื่อความกระแดะแบบไม่น่าให้อภัย)ที่สุด อย่างที่บอกฉันเซ้นแรงมาก แล้วอาการที่นายมัมมี่นั่นทำก็ไม่ได้มีอารมณ์พิศวาสหรือหึงหวงฉันแม้แต่น้อยผิดจากอารมณ์ที่นายนี่มีให้ยัยเมษาที่เขาแสดงมันออกมามากซะจนฉันเอียน
กลับมาที่นี่ด่วนๆ พอนนายมัมมี่จุ๊บแก้มฉันไปหนึ่งทีก็ทำเอานายเลิฟลี่ของฉันหน้าเหวออย่างปิดไม่มิด ไอ้เวรแกมาทำให้กระตายของฉันตื่นตูมจนได้
"ไฮแฮนด์ซั่ม ตื่นเช้าดีนะ"ฉันเลยทำการทักคืนแต่ไม่มีการหอมแก้มนะ
"อ่า(.\\\\\\\\\\\\\\\\\\\.)"นายเลิฟลี่ของฉันก้มหน้าแสดงอาการผิดหวังนิดๆและอายหน่อยๆที่พวกฉันแสดงความรัก(ที่ไม่มี)ต่อกัน หึๆ นายเริ่มตกหลุมพรางของฉันแล้วนะนายน่ารัก
"ฉันขอเตือนนายหน่อยนะเด็กน้อย ถ้าไม่อยากเจ็บอย่ายุ่งกับยัยนี่จะดีกว่า"ไอ้มัมมี่บอกนายกกระต่ายของฉันด้วยท่าทีข่มขู่เหมือนแฟนหนุ่มหึงแฟนสาวสวยรวยเสน่ห์ ไอ้เบื๊อกนี่ ถ้าแกจะเตือนเขาก็ไม่ต้องทำท่าหึงแบบนี้ก็ได้ เดี๋ยวฉันคิดบัญชีรวมกับเกมในกระดานของฉันซะหรอก
"อ้าวเลโอมาได้ไงอ้ะ"จู่ๆยัยแยมก็โผล่มาทักทายพวกเราสามคนที่กำลังเกิด(ไม่)รักสามเศร้าอยู่
"อ๋อ แยมพอดีพ่อฉันจะให้เธอมาเป็น...เป็นอะไรวะ โทษทีพอดีฉันลืมสนิทเลยอ่ะ"ง่ายๆกันแบบนี้เลยเรอะ
"อะเหรอ มาข้างในมานั่งคิดก่อนก็ได้"ยัยแยมเชิญนายหล่อน่ารักเข้ามาในบ้านแล้วเดินนำพวกเราเข้าไปในบ้านเฉยเลย แล้วเธอไม่คิดจะเอาแปรงสีฟันมาให้ฉันเลยรึไงยะ
ฉันเลยได้แต่เดินตามยัยแยมเข้าไปแล้วยื่นมือไปขอถุงของใช้ที่จำเป็นต่อการอาบน้ำของฉันแล้วโบกมือลายัยแยมจากนั้นก็เดินเข้าห้องน้ำไป
ดีนะเนี่ยที่ห้องน้ำที่นี่ไม่ได้โทรมๆเหมือนในอินเดียอะไรประมาณนี้แล้วมีตุ๊กแกหรือจิ้งจกเกาะฝาผนังเพราะไม่งั้นล่ะก็ไอ้สัตว์พวกนั้นโดนฉันจับไปขายหมดแน่(ปล.ล้อเล่นถึงฉันไม่กลัวแต่ก็ไม่กล้าจับอ่ะ ดูสีดิ อี๋ มันทำให้ฉันอยาก!@#@#$%^&*(*&^&+_)(*ชะมันเลย น่าเกลียดสุดๆ)และก็ดีนะที่มันไม่ได้เป็นขันเจาะรูแบบในเดี่ยวแปดไม่งั้นฉันฮาแตกจริงๆด้วย
ฉันใช้ขันตักน้ำแล้วคงไม่ต้องอธิบายอะไรให้มันมากความหรอกมั้งเรื่องแบบนี้คนเคยแปรงฟันเขาคงต้องรู้กันว่าแปรงฟันแบบไหน
เอาเป็นว่าพอฉันแปรงฟันเสร็จแล้วฉันก็เกิดปัญหาที่ว่าฉันไม่ได้เอาผ้าเช็ดหน้ามา ดีนะที่ไม่อาบน้ำด้วย ฉันเลยต้องเอาชายเสื้อมาเช็ดหน้าตัวเองแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยท่าทางที่(จงใจ)เซ็กซี่ของตัวโดบมีหยดน้ำเม็ดเล็กหลายๆเม็ดเกาะแพรวพราวตามเส้นผมและใบหน้านิดหน่อยแถมสะบัดผมไปมาสองสามครั้งเพื่อจงใจอ่อยบุคคล(เพศชาย)ที่มองฉันตามเป็นมันอยู่คนเดียว(ส่วนอีกคนตายด้าน)
ฉันหันไปมองพวกที่มองฉันตาค้างเพราะความสวยเซ็กซี่องฉันเข้าตาด้วยสีหน้างงๆนิดหน่อยพร้อมเลิกคิ้วข้างซ้ายเพื่อแสดงให้เห็นว่าฉันไม่เข้าใจแววตาที่พวกเธอมองฉันเลย
"อ้อเหรอ"แต่ถูกขัดด้วยน้ำเสียงอันเหมือนรู้ทันของไอ้หัวหมอกทันที
"อะไรหรอคะ"ฉันถาม
"เกี่ยวอะไรกับเธอด้วย"
"งั้นคุณก็บ้าสิที่พูดคนเดียวได้"พอฉันพูดจบไอ้หัวหมอกก็ถลึงตาใส่ฉันแล้วเดินมากอดฉันจากด้วนหลังแล้วหอมแก้มฉันไปทีนึงแล้วหัวเราะร่าก่อนจะไปนั่งที่เดิม ไอ้เวร แกดันมาทำลายแผนอ่อยเยื่อของฉัน ฉันเลยเดินไปนั่งลงข้างๆไอ้ฝาโลงแล้วแอบหยิกไปแรงๆทีนึงจนหมอนั่นได้แต่ทำหน้าแหยกแกด้วยความเจ็บปวด เชื่อฉันร้อยทั้งร้อยที่ตรงที่ฉันหยิกช้ำแน่นอน
"สองคนนี้ดูรักกันดีนะครับ"นายเลโอที่น่ารักของฉันพูดขึ้นทำลายบรรยากาศชมพู(ตรงไหน)ของพวกฉัน
"แหมก็เราสองคนรักกันนี่จะไม่รักกันก็แปลกใช่มั้ยลูน่า ฟอด"จากนั้นไอ้ฝาโลงก็หอมแก้มฉันอีกทีพร้อมกอดฉันหลวมๆ หึๆอยากลองดีนักใช่มั้ย ด้าย ได้ นายเจอดีแน่
"ทำอะไรเนี่ย ขึ้นไปข้างบนเดี๋ยวนี้เลยนะฟาร์"ฉันลุกขึ้นยืนแล้วดึงแขนข้างนึงของไอ้ฝาโลงให้รู้ว่าต้องลุกขึ้นตามฉันไป
"ไม่เอาอ้ะ"ไอ้ฝาโลงทำท่างอแง เดี๋ยวแกโดน
ฉันเลยจัดการกระชากแขนไอ้ฝาโลงแรงๆทีนึงจนเกิดเสียงดังก๊อกเบาๆแล้วจากนั้นตัวไอ้ฝาโลงก็ลอยมาหาตัวฉันแต่ฉันใช้มืออีกข้างที่ไม่ได้ทำอะไรดันหัวไอ้ฝาโรงไว้ไม่ให้มันมากอดตัวฉันได้แล้วจากนั้นมันถึงยอมขึ้นไปข้างบนห้องกับฉัน
"ยัยบ้า เธอทำอะไรของเธอเนี่ย ดีนะที่แขนฉันไม่หลุด"พอมาถึงไอ้บ้านั่นก็โวยวายทันที กระแดะจังนะไอ้หัวหมอก
"สองคนนี้ดูรักกันดีนะครับ"
"แหมก็เราสองคนรักกันนี่จะไม่รักกันก็แปลกใช่มั้ยลูน่า ฟอด"
ฉันจัดการเปิดเสียงที่อัดไว้ในเครื่องอัดเสียงที่เตรียมมาให้ไอ้ฝาโลงฟังแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม
"อ่าฮ่าลองคิดดูนะคะว่าถ้าเมษาได้ยินเสียงนี้แล้วเธอจะคิดยังไง ถ้าไม่อยากให้เรื่องนี้ถึงหูเมษาเลิกกวนและยุ่งเรื่องของฉันจะได้มั้นคะ"
"ก็ด๊ายยยยยยยยยยย!"ไอ้ฝาโลงตอบฉันด้วยน้ำเสียงแหลมปรี๊ดทะลุเยื่อแก้วหูของฉันเลยก็ว่าได้ ฉันจะเป็นหูน้ำหนวกรึป่าวเนี่ย
"แล้วนี่คุณได้แปรงฟันรึยังคะ"
"เออใช่ ลืม"สุดจะบรรยายค่ะ
"=___="
"แล้วเธอล่ะแปรงรึยังอย่ามาว่าแต่ฉันเลย"
"แปรงแล้วสิคะ"
"ไหนมาทดสอบหน่อยซิ>3<"นายฟาโรห์ทำท่าจะเข้ามาจุ๊บปากฉันแต่แล้วก็ไม่ทำแล้วเปลี่ยนท่าทางมาเป็นเคร่งขรึม
"เดี๋ยวฉันไปบอกให้แยมไปซื้อแปรงสีฟันมาให้จากนั้นเราก็ควรจะไปซื้อเสื้อผ้ากันนะคะ"
"เออ รู้แล้วน่า"
"งั้นฉันไปก่อนนะคะ"
"อืม"จบคำอำลาฉันก็เดินออกมาหายัยแยมข้างล่างบ้านแต่ขณะที่ฉันลงบันไดมาฉันก็ได้ยินอะไรบางอย่าง
"พ่อเธอจะเอายังไง"
"ไม่รู้สิ ถ้าพวกนั้นไม่วุ่นวายกับเรื่องของเราก็แล้วไป"
"ฉันไม่อยากให้พวกนั้นมายุ่งเรื่องของเราเลย"
"ถ้ายุ่งพวกนั้นก็คงมีเล่ห์รอดได้อยู่ โดยเฉพาะผู้หญิงคนนั้น"
"อ่าฮ่า"
"เมื่อไหร่นายจะเลิกทำตัวเป็นเสือซ้อนเล็บซะที"
"มันสนุกดีนี่ เลิกพูดเถอะ"
"อืม"
"อืม"
"แล้วพ่อนายส่งนายมาทำไม"
"อันนี้ฉันจำไม่ได้จริงๆ"
อืมมมมม หมู่บ้านนี้น่าสงสัยจริงๆสินะ อ่าฮ่าและนายด้วยนะเลโอ บุคคลน่าสงสัย
เอาล่ะถึงเวลาปรากฏตัวของฉันแล้วสินะ
"ไฮ"ฉันเดินลงบันไดพร้อมส่งเสียงทักทายบุคคลทั้งสองที่นั่งคุยกันอยู่บนโซฟาข้างล่างบ้าน
"หวัดดี"
"เช่นกันครับ(./////.)"นายเลโอ(ชื่อนี้ใช่มั้ย ไม่ค่อยมั่นใจเลย)หน้าแดงแปร๊ดส่งมาให้ฉัน ดูแล้วน่ารักสุดๆ แต่ถ้าคิดจะตลบหลังฉันนายต้องตาย
และไม่ใช่แค่นายคนเดียวเท่านั้นที่ต้องตายกับการหักหลังฉัน ระวังตัวไว้ให้ดี
ความคิดเห็น