คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : chapter: 4 [100%]
3
[Pharo’s strory]
"ฟาร์จำไว้นะฟาร์ต้องทำตัวดีๆกับเพื่อนเมไว้นะ ไม่งั้นเมโกรธฟาร์มากจริงๆด้วย"ยัยเมตัวเล็กแฟนผมกำลังเทศนาผมเป็นพักๆมาตั้งแต่วันที่ยัยนั่นรู้เรื่องที่ผมทำตัวแย่ๆใส่เพื่อนเธอ
"รู้แล้วน่า"ผมบอกปัดอย่างรำคาญ ผมรู้น่าว่าผมผิดแต่ผมไม่ไว้ใจเพื่อนยัยตัวเล็กของผมซักนิด ทั้งหน้าตา แววตา คำพูด การกระทำ ทุกอย่างที่ออกมาจากตัวเธอมันไร้ซึ่งความรู้สึก ยัยตัวเล็กของผมทำไมติดใจยัยนั่นนักหนา ทั้งๆที่การกระทำของยัยนั่นไม่มีความรู้สึกเลย คำพูดแต่ละคำของยัยนั่นไม่เคยไม่ทำร้ายยัยตัวเล็กของผม แต่ทำไมยัยตัวเล็กของผมถึงรักยัยนั่นนักหนา บอกว่ายัยนั่นดีอย่างนู้นเก่งอย่างนี้
"อ้ะมาแล้ว"ยัยตัวเล็กของผมส่งเสียงดังเรียกความสนใจของผม
ผมเห็นยัยลูน่าเดินเด่นมาแต่ไกล ผมสีม่วงอมน้ำเงินที่ยาวถึงก้นของยัยนั่นมันนี้ถูกถักเป็นเปียสวยงามน่ามอง วันนี้ยัยนั่นใส่เสื้อกล้ารัดๆสีแดงลายเสือดาวและกางเกงขาสั้นๆสีเดียวกันเพื่อโชว์ขาขาวๆเรียวสวยของเจ้าตัว แถมเธอยังใส่แจ็กเก็ตสีดำมันวับตามมาด้วยพนักงานชายของสนามบินที่ลากกระเป๋ามาสองใบให้เธอกับผู้หญิงอีกคนนึง
"ฟาร์ฟาร์ เหม่ออะไรอ่ะ"เสียงยัยตัวเล็กเรียกสติผมกลับมาได้ ให้ตายเหอะยัยนั่นดันลากผู้หญิงอีกคนมาด้วยแล้วคนๆนั้นดันเป็นกิ๊กเก่าที่ผมชอบควงด้วยมากที่สุด ถึงตอนนี้ยังไม่เลิกกันแต่ก็ห่าๆกันไปแล้ว บ้าเอ๊ย! ยัยนั่นทำกันได้แสบชะมัดเลย
"ไฮ"ยัยบ้านั่นส่งเสียงทักพวกผมด้วยน้ำเสียงหยาดเยิ้มแต่แววตายังคงไร้ความรู้สึกดังเดิม
"หวัดดีจร้าลูน่า แล้วนั่นใครเหรอ"ยัยตัวเล็กส่งเสียทัก
"เพื่อนเก่าฉันเองล่ะ พอดีไม่เจอกันนานละเลยชวนมาด้วย"
"อ้าเพื่อนของลูน่าก็เหมือนเพื่อนของเม หวัดดีจร้ะ"
"สวัสดีจ้ะเมษาเพื่อนของลูน่าและ...แฟนของเมษา"ยัยเจสกิ๊กเก่าของผมจงใจหยุดที่ชื่อผมและพูดดังๆและชัดเจนจนผมรู้สึกกลัว กลัวว่ายัยนี่จะทำให้ผมกับเมต้องเข้าใจผิดกันและจบลงด้วยการจากลา
ผมเงียบไปนานจนยัยตัวเล็กต้องเอาศอกกระทุ้งผมและกระซิบบอกผมว่า
"ทำตัวดีๆหน่อยสิฟาร์"
"อืม สวัสดีเช่นกัน"
"นี่ก็จะเจ็ดโมงแล้วนะจ้ะทุกคน ไม่รีบไปเดี๋ยวก็ตกเครื่องหรอกเม"ยัยบ้าหัวสีแรงจี้ดพูดขึ้น
"โอ้วใช่ ลืมสนิทเลยอ้ะ ป่ะทุกคนเรารีบไปกันเหอะเดี๋ยวไม่ทันเครื่อง"พูดจบยัยตัวเล็กก็เดินควงแขนเพื่อนรักของเธอไปทิ้งไว้ซึ่งผมและเจส อ้อลืมนายพนักงานชายคนนั้นด้วย
"เอากระเป๋าตามสองคนนั้นไป"ผมหันไปสั่งพนักงานคนนั้น
"ครับ"แล้วมันก็เดินตามสองคนนั้นไป
"เธอต้องการอะไรกันเจส"ผมถามหน้าเครียด
"ฉันป่าว ต้องการอะไรจากนายนนะฟาโรห์ ฉันแค่มาเที่ยวตามคำเชิญของเพื่อนเก่าก็เท่านั้นเอง"
"หมายความว่าคนที่ต้องการอะไรจากฉันไม่ใช่เธอแต่เป็นคนอื่นสินะ"ผมถามด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
ตู้ดติ้ดๆๆๆ
จู่ๆเสียงมือถือของใครซักคนก็ดังขึ้น อ้อเสียงมือถือยัยเจสนี่เอง
"ฮัลโหล"ยัยนั่นรับสาย
[@#$%^Y&UIOP{PLKJUYTR$E#@#$%^555!]
"โอเคๆ"
[^&%$^%&^*(%&LIOY(&%*&076785we@+]
"เยส"
[pouiuytrt$%^&*081!@Z&*(]
"ได้ๆ แค่นี้นะ"
"ลูน่าโทรมาบอกว่าพวกนั้นอยู่บนเครื่องแล้วถ้าเราไม่ไปจะไม่ทัน"
"ถ้าฉันกับเธอไปไม่ทันเครื่องเธอก็ไม่มีทางได้ทำอะไรฉันกับเมษาได้สินะ"
"ถ้านายคิดอย่างนั้นก็ได้แต่รู้จักการไซโคมั้ยล่ะ ถ้ารู้จักล่ะก็เราควรรีบไปดีกว่านะ"
"เหอะ!"เถียงได้ไม่สู้ (อย่างนี้แหละที่เขาเรียกว่าแพ้แล้วพาล)
"ทำไมมาช้าจังเลยอ่ะฟาร์"ยัยตัวเล็กถามผม
"พอดีฉันกับเจสคุยถูกคอกันนิดหน่อยน่ะ"ผมตอบด้วยความเป็นจริง(อันน้อยนิด)
"เหรอ"
"อ้าเจอแล้ว!"จู่ๆก็มีเสียงร่างเริงสดใสแต่เป็นเสียงผู้ชายดังขึ้นพวกเราสี่คนเลยหันไปตามเสียง
ผมเห็นไอ้ผู้ชายที่อยู่ในผับเมื่อวานนี้ที่เล่นหนังสดกับยัยหัวน้ำเงินนั่นนี่หว่า มาได้ไงใครเชิญหรือจะเป็นยัยนั่น ผมหันไปมองยัยหัวน้ำเงินนั่นปรากฏว่าผมเห็นเธอทำหน้าเหวอเสี้ยววินาทีก่อนจะเปลี่ยนเป็นเย็นชาและว่างเปล่าดังเดิมแถมยัยนั่นขมวดคิ้วอีก เห็นแบบนี้แล้วผมเลยตรัสรู้ได้ว่ายัยนี่ไม่ได้ชวนมาแน่นอน
"พี่สาว เป็นไงหล่าผมหาพี่เจอแล้ว"ไอ้หน้าละอ่อนนั่นเสนอหน้าไปคุยกับยัยหัวน้ำเงินที่นั่งอยู่ที่นั่งโดยไม่เห็นหัวพวกผมเลย
"คุณเป็นใครคะ"ยัยหัวน้ำเงินถาม สมน้ำหน้าไอ้น่าละอ่อนนี่
"อ้าพี่สาวอ้ะ ทำไมใจร้ายใจดำใส่กันอย่างนี้อ้ะ"
"คุณเป็นใครคะ"เธอย้ำอีกครั้ง
"พี่สาวอ่ะ เราพึ่งจากกันเมื่อเช้านี้เองนะ"
"ถ้าคุณยังพูดไม่รู้เรื่องฉันจะแจ้งเจ้าหน้าที่นะคะ"
"ก็เอาเลยพี่สาว แต่ว่าพ่อของผมเป็นเป็นเจ้าของสายการบินนี้"รวย แต่ยังไม่สู้ผมหรอกเด็กน้อย
เธอไม่ตอบแต่ค้นกระเป๋าหาอะไรซักอย่างพอหยิบมันขึ้นมามันคือโทรศัพท์มือถือแล้วยัยนั่นก็กดยุกยิกๆ
"สวัสดีคะ ฉันไอบารอนไฮเวย์นะคะ"ยัยนั่นพูดโคดลับอะไรซักอย่างใส่
"ช่วยจองที่นั่งสี่ที่ไปภูเก็ตให้ฉันด้วย เอาเดี๋ยวนี้เลย"พูดจบยัยนั่นก็สางสายแล้วลุกขึ้นทันที
"ป่ะเราไปขึ้นสายการบินอื่นกันเถอะ"ยัยนี่ใจกล้ามากแหะ สุดยอด สมน้ำหน้าไอ้หน้าละอ่อนนั่นเหวอไปเลยเป็นไงล่ะหึ
"ลูฟ(ชื่อย่อลูน่า)ไม่เอาน่า ดูหน้าน้องเขาสิเหวอไปหมดแล้ว ไม่ต้องย้ายหรอก น้องเขาไม่ได้ทำอะไรผิดนี่"ยัยตัวเล็กเธอเข้าไปช่วยไอ้หน้าละอ่อนนี่ทำไม
ยัยหัวม่วง(สรุปแล้วเอาม่วงแล้วกันน้ำเงินอมม่วงมันยาวไป)หันมาส่งสายตาเย็นเยียบมาทางยัยตัวเล็กเล่นเอายัยตัวเล็กเกือบร้องไห้
"งั้นเธอเก็บคุณคนนี้เป็นแขกของเธอมั้ย"
"จ้ะๆ"
"แล้วก็เก็บแขกของเธอให้ดีอย่ามายุ่งกับฉันเด็ดขาดไม่งั้นต่อให้อยู่กลางทะเลฉันก็สั่งให้จอดเครื่อง"
"จ้ะ จ้ะ"ยัยตัวเล็กพงกหัวรับคำสุดชีวิต
ไอ้บ้าหน้าละอ่อนนี่ทำให้ยัยตัวเล็กของผมเดือดร้อนกล้าดียังไงวะ
ผมส่งสายตาเคียดแค้นให้ไอ้หน้าละอ่อนนี่มันบังอาจทำให้ยัยตัวเล็กของผมซวยแต่ว่าไอ้บ่หน้าละอ่อนนี่หน้าด้านเกินกว่าที่สายตาทิ่มแทงของผมจะทำอะไรมันได้ คนบ้าอะไรวะหน้าด้านสุดๆ
"อ่าคุณชายคะ เชิญคุณชายไปนั่งที่ของตัวเองก่อนได้มั้ยคะ"ยัยแอร์เดินมาบอกกไอ้หน้าละอ่อนที่ยืนอยู่ตรงที่นั่งของยัยหัวม่วงอย่างเก้ๆกังๆ
"ฉันจะนั่งตรงนี้"ไอ้หน้าละอ่อนชี้ไปยังตรงที่ว่างข้างหลังแถวของผม
"อาค่ะคุณชาย"พูดจบยัยแอร์ก็จากไป
"เอ่อน้องชายจ้ะ เธอรู้จักกับลูน่าเหรอ"ยัยตัวเล็กของผมชะโงกหน้าไปถามไอ้หน้าละอ่อนที่บัดนี้มันนั่งอยู่ข้างหลังยัยตัวเล็ก(ผมนั่งติดหน้าต่างเหมือนยัยหัวม่วง)
"ครับ ขอคุณคุณมากนะครับที่ช่วยผม ผมพยายามจีบพี่สาวอยู่อ่ะครับแต่เธอไปไม่ยอมเล่นด้วย"อ้อเหรอที่ไม่ยอมเล่นด้วย แล้วเมื่อคืนนี้ฉากจูบฮ็อตๆกลางผับนั่นคืออะไรวะ อย่าบอกนะว่ายัยนั่นฟันแล้วทิ้งแกน่ะไอ้หน้าละอ่อน
"น้องชายนี่ใจกล้ามากเลยรู้ตัวมั้ยจ้ะ ถ้าเป็นคนอื่นเจอแบบนั้นไปถอยหนีหมดแล้ว"
ก็เพราะไอ้หน้าละอ่อนนี่มันด้านไงถึงทำได้
"แหมก็พี่สาวเขาทำให้ผมหลงรักหัวปักหัวปำจนฉุดไม่อยู่นี่ครับ"
โอยเลี่ยน
"ว้าว! เลิศมาก ชนะใจลูน่าให้ได้นะพี่เชียร์เธอสุดหัวใจ"
"หรืออาจมาล้างแค้นฉันก็ได้"เสียงยัยหัวม่วงโผล่งขึ้นเล่นเอาพวกเราเงียบกริบ
"คิกๆ"เสียงยัยเจสกลั้นหัวเราะ
"ไม่ลองไม่รู้นี่ครับ"ไอ้หน้าละอ่อนตอบโต้กลับ
"ใช่ ไม่ลองไม่รู้"นายหน้าอ่อนสะอึกไปเลยกลับคำพูดของตัวเอง สองคนนี้มมีลับลมอะไรกันน่าสงสัยเป็นอย่างยิ่ง
"เอ่อ แล้วนี่น้องชายชื่ออะไรเหรอจ้ะ"ยัยตัวเล็กพยายามทำลายบรรยากาศที่น่าอึดอัดนี่
"ผมชื่อ ห้ามหัวเราะชื่อผมนะ"
"อืม ไม่แน่จ้ะ"
"อ่า ผมชื่อเอ็ดเวิร์ดครับ(. .)"
"อุ๊บ!"สงสัยล่ะสิว่าเสียงใครกลั้นหัวเราะ ตอบให้เสียวผมกับยัยเจสเองล่ะส่วนยัยตัวเล็กทำหน้าตาเป็นประกายเพ้อฝันไปไกลแล้ว
"ว้าวเจ๋ง ตำนานรักแวมไพร์สุดโด่งดัง เลิศมาก"
"ฮ่ะๆ"ไอ้หน้าละอ่อนหัวเราะอย่างแหยๆ
"อ้อแล้วนี่น้องชายจะพักที่ไหนจ้ะเนี่ย"ยัยตัวเล็กยังคงถามไม่หยุด
"เฮือก ซวยแล้วไง ไม่มีที่พัก"ไอ้หน้าละอ่อนหน้าซีด
"งั้นพักกับพวกพี่ดีมั้ยจ้ะ"ไม่เว้ย ไม่มีทาง
"ไม่มีทาง!!!"ผมคำรามบอก
"เงียบน่าฟาร์ คนมีความผิดติดตัวอย่างนายไม่สมควรโต้แย้งใดๆทั้งสิ้น"
"แล้วถ้าเกิดไอ้นี่กับยัยหัวม่วงนั่นรวมหัวกันหลอกพวกเราล่ะ พวกมันอาจเป็นสิบแปดมงกุฎก็ได้"
"ฟาร์!!!"ยัยตัวเล็กตวาดผม
"หรือไม่จริง"ผมทำเป็นไม่สนใจเสียงยัยตัวเล็ก
"นั่นเพื่อนเมนะ ฟาร์ควรให้เกียรติเพื่อนเมมั่งสิ เมโกรธฟาร์สุดๆไปเลยนะ"
"อาาาาาาาา นั่นสินะ ถ้าฉันเป็นจริงแล้วนายจะทำไม"เสียงกวนๆดังออกมาจากปากของยัยหัวม่วง
"ก็จะแฉไง"
"งั้นก็คงต้องใช้สำนวนที่ว่าไก่เห็นตีนงูงูเห็นนมไก่สินะคะ"
"พอเลยทั้งคู่นั่นแหละ"ยัยตัวเล็กตวาด
ติ้ด ติ้ด ติ้ด
จู่ๆเสียงโทรศัพท์มือถือของใครซักคนบนเครื่องบินลำนี้ก็ดังขึ้น ชั้นที่พวกเรานั่งอยู่เป็นชั้นเฟิร์สคลาสที่มหาแพงแสนแพงคนน้อย(ที่ผ่านมาคุยกันเหมือนไม่มีคนอยู่เลย)
"ฮัลโล"เสียงเจ้าของเครื่องรับและเสียงๆนั้นเป็นของยัยหัวม่วง
"ใช่...ทำไม...รู้แล้ว...ไม่สะดวก แค่นี้นะ "
"ขึ้นเครื่องเขาไม่ให้โทรศัพท์นิ พวกบ้านนอกไม่รู้เรื่องรู้ราว"ให้ทายว่าเสียงจิกกัดเสีนงนี้มาจากใคร คำตอบคือ
ผมเอง
ทำไม มีปัญหารึไง
"พอดีว่าเครื่องบินลำนี้มีระบบที่ดีเยี่ยมเหมาะกับพวกนักธุรกิจชั้นสูงที่ต้องการคุยโทรศัพท์ทุกชั่วโมงทุกนาที ไม่เหมือนเครื่องบินธรรมดาที่บ้านนอกยิ่งกว่าอย่างคุณเคยนั่งหรอกคะ(ปล.สิ่งที่มาเมื่อกี้คนแต่งมั่วเอาเองอาจจะมีจริงหรือไม่มีจริงก็ได้ในความเป็นจริงแต่ในนิยายมีค่ะเพราะมั่วเอาเอง)"เจ็บและแสบ
ยัยตัวเล็กได้แต่นั่งกุมหัวด้วยความจนใจ
วืดดดดดดดดดดด
"กรี้ดดดดดดดดดด!!!!"
จู่ๆก็เกิดวิกฤตกาลเครื่องบินตก พวกผู้หญิงต่างก็พากันกรีดร้อง ชิบหายแล้วไง
ยัยแอร์รีบเดินมาด้วยสีหน้าที่แตกตื่นแต่สติยังคงอยู่
"เรียนผู้โดยสารทุกท่าน ขณะนี้ทางเครื่องบินของเราได้เกิดเหตุขัดข้องจากการที่ผู้ร้ายในคดีXYZได้ลอบขึ้นเครื่องและติดตั้งระเบิดขนาดเล็กที่เครื่องยนต์บางส่วนของเราและขณะนี้เครื่องกำลังดิ่งลงสู่พื้น และผู้โดยสารทุกท่านโปรดอยู่ในความสงบและทำตามคำแนะนำของพวกเราด้วยค่ะ ผู้ที่นั่งที่XXและ YYโปรดเปิดประตูทางออกฉุกเฉินตามคู่มือที่ทางเราให้ท่านอ่านด้วยคะ จากนั้นก็ตู๊ดๆๆๆๆๆ"เอาเป็นว่าผมของละสิ่งที่ยัยแอร์พูดก็แล้วกันตัดมาตอนที่พวกผมกำลังโดดร่ม
"เชิญคุณผู้หญิงผมสีน้ำเงินเหลือบม่วงก่อนคะ กระโดดได้ทีละคนนะคะ เพื่อความปลอดภัย"
"แล้วถ้าฉันโดดไปข่างล่างจะเป็นทะเลรึป่าว"ยัยผมม่วงถาม
"ไม่คะ ที่ๆพวกคุณจะตกลงไปเป็นพื้นดินว่างๆหรือไม่ก็ไร่ข้าวคะ"
"โอเค ฉันไปก่อนก็ได้"ยัยนั่นยืนทำใจแป้บนึงแล้วโดดแว้บหายออกไปจากเครื่องส่วนผมก็ได้แต่มองในความกล้าของเธอที่ผิดกับยัยตัวเล็กที่ตัวสั่นจนต้องให้ผมกอดปลอด
"ช่วยเร็วๆด้วยคะ"ยัยแอร์เร่ง
ยัยเจสยักไหล่ก่อนจะหายใจเข้าลึกๆแล้วก็โดดตามไป ส่วนยัยแอร์ก็มาเร่งให้ยัยตัวเล็กไปเพราะมีคนต่อหลังอีกมาก
"ฮือๆฟาร์เมกลัว"
"ไม่เป็นไรเม ไม่ตายหรอกแต่ถ้าเราอยู่ต่อไปอาจตายได้รีบๆลงไปซะคนอื่นรออยู่"
"อืม เอาวะ กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!"แล้วยัยเมก็กระโดดตามลงไป ถึงรอบผมบ้างผมทำใจนิดหน่อยก่อนกระโดดตามไป
ความรู้สึกของผมตอนนี้คืออะไรผมตอบได้เลยว่ากลัวและเสียวไส้มาก ผมที่กระแทกหน้าผมทำเอาผมเจ็บแสบมากของบอก ผมตั้งสติได้เลยรีบดึงเชือกร่มก่อนตกลงมาตาย
แรงยึดเหนี่ยงของเชือกตวัดเอาตัวผมที่กำลังตกสู่พื้นตามแรงโน้มถ่วงของโลกเจ็บถึงกับแทบกระอักเลือด
ผมมองหายัยตัวเล็กแต่เห็นยัยนั่นลอยอยู่ไกลมากๆ ยัยนั่นลอยไปนู่นได้ยังไงวะ
วืด
จู่ๆก็มีลมพายุพัดมาจากไหนไม่ทราบพัดพาเอาผมไปไหนอันนี้ผมก็ไม่สามารถตรัสรู้ได้เหมือนกัน
ในที่สุดผมที่ลอยเท้งเต้งก็สามารถได้กลับมายืนอยู่บนพื้นได้อีกครั้ง วู้ เกือบตาย แล้วที่นี่ที่ไหนครับเนี่ย
(. . ) ( . .)
ควับ
ผมหั้นซ้าย แลขวา และก็เห็นยัยหัวม่วงยืนอยู่ไม่ไกลแต่ท่าทางเธอหัวเสียมากเพราะปกติยัยนี่จะทำหน้าไร้อารมณ์สีหน้าเย็นชาแต่ครั้งนี้เห็นได้ชัดเลยว่ามีออร่าอาฆาตพยาบาทแผ่ออกมาและบรรยากาศเย็นยะเยือกแต่ภายในอกกลับร้อนระอุราวกลับมีใครมาเผาอกผมทั้งเป็น
พูดถึงบรรยากาศผมยังไม่ได้บรรยายถึงสถานที่ๆเราตกลงมาเลยนี่หว่า เอที่นี่มันที่ไหนกันอ้ะ ทำไมรอบตัวผมมีแต่ต้นไม้เต็มไปหมดอย่างนี้อ้ะ โชคดีแค่ไหนแล้วที่ผมตกลงมาตรงที่ราบไม่ได้ตกลงมาบนต้นไม่พวกนั้นไม่งั้นเจ็บตัวแหง
"ที่นี่ที่ไหน"ผมวิ่งทักๆไปถามยัยหัวม่วง
ควับ
ยัยนั่นหันหน้ามาหาผมด้วยความไวแสงพร้อมด้วยออร่าอาฆาตที่ตามติดตัวมา
"ไม่ทราบคะ"ดีนะที่เธอยังพูดสุภาพอยู่
"อ่า เหรอ"ผมชักสงสัยแล้วนะว่าพอผมแต่งงานไปผมจะเป็นโรคกลัวเมียรึป่าว น่าคิดแหะ
"เราไปหาชาวบ้านแถวนี้กันดีกว่านะคะ"เธอหันมาพูดกับผมด้วยใบหน้าดังเดิม แสดงว่าอารมณ์คงที่แล้วสินะ
"อืมอืม"แล้วพวกเราทั้งคู่ก็ไปตามทางเดิน แล้วเห็นหมู่บ้านแวบๆเราเลยรีบเดินไปทันทีจากนั้นเราก็ไปถามชาวบ้านที่นั่งอยู่ใต้ถันบ้านตัวเอง
"ขอถามอะไรหน่อยได้มั้ยคะ"ยัยหัวม่วงถามป้าคนหนึ่งที่นั่งอยู่ในใต้ถุน
"ว่าไงจ้ะหนู"
"ที่นี่ที่ไหนคะ"
"หมูบ้านอินเดียแดง"หมู่บ้านอินเดียแดง ผิดที่รึป่าวครับป้า ที่นี่มันประเทศไทยนะเฟร้ยไม่ใช่อินเดียจะมีหมู่บ้านอินเดียแดงได้ไง(หมู่บ้านอินเดียแดงมันอยู่ที่อินเดียเรอะฟาโรห์:ผู้แต่ง)
"แล้วจะออกไปจากที่นี่ยังไงคะ"
"แล้วหนูมาจากไหนล่ะจ้ะ"
"หลงป่าคะมาคะ"
"อ้อ งั้นเดี๋ยวป้าพาไปหาผู้ใหญ่บ้านแล้วกัน"พอป้าแกพูดจบป้าแกก็ลุกขึ้นแล้วเดินนำพวกเราไปยังบ้าผู้ใหญ่บ้านที่ป้าแกบอก
เราเดินตามป้าแกมาเรื่อยๆจนมาถึงบ้านหลังไม่ใหญ่และไม่ค่อยสวยแต่ก็โอเคกว่าบ้านไม้เก่าๆผุๆพังๆของป้าแกนั่นแหละ
"พ่อผู้ใหญ่! พ่อผู้ใหญ่! อยู่มั้ย!"ป้าแกตะโกนถามผู้ใหญ่บ้าน
"อยู่จ้าๆ!"เสียงผู้ชายแก่ๆตอบกลับมา
"ออกมาหาหน่อย!!"
"ได้ๆ!"
แกรก กร็อก ตึงๆ แอ้ดดดดดดด
"ว่าไงแม่มาลี"ชายหนุ่มท่าทางสุขุมแบบบ้านๆเปิดประตูบ้านๆและอยู่ในชุดบ้านๆแถมทักทายด้วยคำบ้านๆ(ไอ้คนไฮโซเอ๊ย!!!:ผู้แต่ง)
"พ่อผู้ใหญ่ มีคนหลงป่ามาเลยอยากให้พ่อผู้ใหญ่ช่วยพาเขาไปส่งในเมืองหน่อยจ้า"
"โอ้ว พอดีฉันกำลังจะประกาศให้ทุกคนในหมู่บ้านได้รู้ว่าทางสายเดียวของเราโดนหินถล่มใส่เลยออกจากหมู่บ้านไม่ได้สักสองสัปดาห์"
"เฮ้ย!!"
"=*=!!!!"จู่ๆผมก็รู้สึกหนาวจนใจแทบจะขาดรอนๆอยู่รอมร่อ พอผมหันไปมองคนข้างๆและชัดเลย ยัยหัวมม่วงกำลังทำตัวเป็นเครื่องทำความเย็นเย้นเย็นเย็น
รู้สึกว่าทางป้ามาลีกับผู้ใหญ่บ้านก็คงรู้สึกเหมือนผมถึงได้ปากสั่นนิดๆยกมือกอดอก
"พวกหนูขออยู่ที่บ้านใครซักคนก่อนได้มั้ยคะ"ยัยหัวม่วงเปลี่ยนจากเรื่องทำความเย็นกลายเป็นเครื่องทำความร้อนต่อหน้าต่อตาผม
ช่าง ช่าง ช่างแหลได้ยอดเยี่ยมสุดๆไปเลยผู้หญิงคนนี้
"ได้จ้าๆ มาๆ มาพักที่บ้านฉันสิหนู คนไทยด้วยกันต้องช่วยกันสิ"ไอ้ตาแก่หัวงูรีบรับปากทัน
"ขอบคุณคุณผู้ใหญ่จริงๆนะคะ ถ้าไม่มีผู้ใหญ่บ้านกับป้ามาลีหนูคงไม่รู้จะพักที่ไหน หนูกราบขอบคุณทั้งสองคนมากจริงๆนะคะ"ยัยหัวม่วงแกล้งบีบน้ำตาและแสดงท่าทางที่ผมดูยังไงก็ซุงแหลงได้โล่จริงๆ
"ผมก็ด้วยครับ ถ้าไม่มีทั้งสองคนผมคงแย่"ผมก็ร่วมด้วยช่วยกัน เฮ้อ เซ็ง ต้องมาติดแหง็กอยู่ที่บ้านนอกแบบนี้ เบื่อ อยากดูบอล อยากซิ่งรถ อยากกอดยัยตัวเล็ก ผมคิดถึงยัยตัวเล็กเป็นบ้าเลย ไม่รู้ป่านี้ยัยนั่นจะปลอดภัยไม่ หรือผมอาจพัดยัยนั่นมาหลงป่า โอ๊ย! ยิ่งคิดยิ่งอยากจะเป็ยบ้าตาย
"แล้วเสื้อพ่งเสื้อผ้าหล่ะทั้งสองคน"ป้ามาลีเอ่ยถาม
"หายคะ"ยัยหัวม่วง เธอช่างทำหน้าที่ได้ดีซะจริงๆนะ
"อ้อ"ผู้ใหญ่ร้อง
"แล้วก็มีอีกเรื่อง พอดีว่าหนูมากับเพื่อนอีสองสามคนแล้วเราก็หลงกันหนูเลยอยากจะลองตามหาดูเพื่อเขายังไม่ออกป่ามา"โอ้ ฉลาดมากยัยหัวม่วง
"อ้อได้ๆ เดี๋ยวฉันให้คนในหมู่บ้านช่วยอีกแรง"ผู้ใหญ่บ้านบอก
"ขอบคุณผู้ใหญ่มากๆเลยนะคะ"
"ไม่เป็นไรๆ เรามันคนกันเอง"
"หนูติดหนี้ทุกคนอยู่มาก ขอบคุณผู้ใหญ่บ้านกับป้ามาลีมากนะคะที่ช่วยคนที่ไม่เคยรู้จักกันอย่างหนู"
ป้ามาลีกับผู้ใหญ่ทำหน้าตาเอ็นดูยัยหัวม่วงสุดๆ เหอๆ พวกคุณคงไม่รู้หรอกว่ายัยยนี่โกหกพวกคุณอยู่
"ผมก็ขอบคุณพวกคุณทั้งสองคนจากใจจริงครับ"ผมพูดจริงนะไอ้ที่พูดไปเมื่อกี้ เพราะทั้งสองคนนี้จะช่วยผมตามหายัยตัวเล็กของผม ขอให้เธอปลอดภัยนะยัยตัวเล็ก
"แต่ว่าป้าว่าพวกหนูคงจะเหนื่อยมาก ไปพักซักสองสามชั่วโมงให้หายเหนื่อยแล้วค่อยไปตามหาเพื่อนๆของหนูดีกว่านะจ้ะ ผู้ใหญ่! ไปเตรียมห้องเร็วๆด้วย"ป้ามาลีหันไปสั่งผู้ใหญ่บ้าน
"ขอบคุณคะป้ามาลี หนูเพลียหน่อยๆพอดี"
"ถ้าเพลียล่ะก็ตามฉันมาเลยนะหนูนะ"ผู้ใหญ่บ้านรีบพาพวกเราขึ้นบ้านทันที
"ขอบคุณคะป้ามาลี หนูขอตัวก่อนนะคะ"พูดจบยัยหัวม่วงก็ยกมือไหว้ป้ามาลีแล้วตามผู้ใหญ่ไปทำให้ผมต้องกระเสือกกระสนตามไปด้วย แต่ก่อนไปผมก็ยกมือไหว้แทนการขอบคุณป้ามาลีอยู่นะ
"ฉันอยู่กับลูกสาววัย18สองคน ตอนนี้ลูกสาวของฉันไม่อยู่ไปอะไรก็ไม่รู้ พวกเรามีห้องรับแขกอยู่ห้องเดียวสองคนนี้ท่าทางเป็นแฟนกันอยู่ด้วยกันสองคนคงไม่เป็นอะไรใช่ไหม"พอผู้ใหญ่บ้านพูดจบเราสองคนก็หันมามองหน้ากันแล้วแววตาของเราก็สื่อถึงกันได้ว่า
'ฉันไม่เกิดอารมณ์ร่วมกับนายหรอกไอ้แหย'
'ฉันไม่พิศวาสยัยหัวสีประหลาดอย่างเธอหรอก'
'โอเค อยู่ห้องเดียวกัน ถ้านายกล้า'
'ฉันไม่กล้าอยู่กับตัวประหลาดอย่างเธอหรอก'
'ไอ้ฝาโลง!!!'
'ยัยลู่นา!!'
'ได้!!!!!!'
'ok!!!!!!!'
พอเราสองคนตกลงกันทางสายตาเสร็จพวกเราก็พยักหน้ารับผู้ใหญ่บ้าน จากนั้นผู้ใหญ่บ้านก็มาส่งพวกเราที่ห้องแล้วจากไปก่อนจะกลับมาอีกรอบ
"อ้อ ฉันลืมบอกไปว่าถ้าหนูเอ่อ หนูชื่ออะไรหรอ"
"หนูชื่อลูน่า ส่วนเขาชื่อฝา...ฟาโรห์คะ"
"อ้อ ถ้าหนูลูน่าอยากได้เสื้อผ้าอะไรล่ะก็รอลูกสาวฉันมาก่อนนะเดี๋ยวฉันบอกแกเอง ส่วนพ่อหนุ่มคงต้องใส่ชุดของฉัน เธอคงจะไม่ว่าอะไรใช่มั้ย"
"แค่ผู้ใหญ่บ้านให้ที่พักพวกผมก็บุญโขแล้วครับ"
"ไม่เป็นไรๆคนกันเอง อ้ะ! ฉันลืมสนิทเลยว่าต้องรีบไปบอกทุกคนเรื่องทางเข้าออกของหมู่บ้านแล้วล่ะ ไปนะพ่อหนุ่มแม่หนู"
"บายคะ"แล้วผู้ใหญ่บ้านก็หายไป
จากนั้นเราสองคนก็เดินเข้าไปในห้องที่มีเตียงนอนขนาดสองคนนอนได้แบบแออัดยัดเยียด ดูจากลักษณะแล้วถ้าจะเป็นเตียงที่ฟูกทำมาจากกราบมะพร้าวแน่ๆเลย นอนไปมันจะแทงหลังผมมั้ยเนี่ย แล้วอะไรเนี่ย ไม่มีห้องนำในตัว แถมแอร์ก็ไม่มี มีตู้เสื้อผ้ากระจิ๋วหลิววางอยู่ใกล้ๆเตียงกับโต๊ะเครื่องแป้งโทรมๆที่ไม่มีอะไรวางนอกจากเศษฝุ่น แถมห้องก็แค้บแคบ เฮ้อ
"นี่นาย เลิกบ่นเรื่องสภาพที่นี่ในใจจะได้มั้ย มันเสียมารยาทต่อเจ้าของที่พักมากเลยนายเคยรู้มั่งไหม"อย่าบอกนะว่ายัยนี่อ่านใจคนได้
"ใช่"
"เฮ้ย! โกหกน่า"
"ใช่ ฉันโกหก"
"เอ้ะ! ยัยนี่ กวนติง"
"หน้านายตอนนี้อ่านง่ายมากเลยรู้ตัวรึป่าว ถ้าไม่รีบกลับไปขรึมเหมือนเดิมนายอาจโด นฉันแทงข้างหลังก็ได้ ระวังตัวไว้ให้ดีล่ะ"
ยัยบ้านี่ มีใครที่ไหนจะลอบแทงข้างหลังกันแล้วมาบอกกันอย่างนี้ แต่ยัยนั่นก็ไม่ใช่คนปกติ โอ๊ย! ช่างมัน ง่วง นอนดีกว่า
คิดได้ดังนั้นผมล้มตัวลงนอนบนเตียงอย่างเหนื่อยล้า
ตุบ
โอ๊ย! ที่นอนบ้าอะไรวะแข็งชิบเป๋งเลย ฮือๆ หลังจะหักมั้ยเนี่ย
"อย่ามาเว่อร์ โดนแค่นั้นไม่ถึงกับหลังหักหลอกคะ"ยัยหัวม่วงบอกผมอย่างรู้ทัน
ตุบ
ยัยหัวม่วงนั่งลงบนตียงคนละฝั่งกับผมแล้วล้มตัวลงนอนหลับตา ในเมื่อยัยนั่นหลับไปแล้วงั้นผมก็ขอหลับด้วยละกัน
"นี่คุณ ตื่นได้แล้ว"อืมง่วง อยากตื่นก็ไปเองเดะ
"งึมงึม อย่ามากวน"ผมตอบออกไป
"งั้นก็ไม่ต้องไปหาสุดที่รักคุณนะคะ"สุดที่รักฉัน ใครกัน โอ๊ยง่วง ไปไกลๆหน่อยไม่ได้รึไง คนจะหลับจะนอน
"งั้นถ้าคุณยังไม่ตื่นแบบนี้ฉันมีอะไรจะเล่าให้คุณฟัง วันนี้เราเครื่องบินตก พลัดหลงมาอยู่ที่ไหนซักแห่งในประเทศไทย และเมษาก็กำลังได้รับอันตราย"หือ จริงเหรอ
"อ้ะมาแล้ว"
"ฟาร์ฟาร์ เหม่ออะไรอ่ะ"
"ไฮ"
"หวัดดีจร้าลูน่า แล้วนั่นใครเหรอ"ยัยตัวเล็กส่งเสียทัก
"เพื่อนเก่าฉันเองล่ะ พอดีไม่เจอกันนานละเลยชวนมาด้วย"
"อ้าเพื่อนของลูน่าก็เหมือนเพื่อนของเม หวัดดีจร้ะ"
"สวัสดีจ้ะเมษาเพื่อนของลูน่าและ...แฟนของเมษา"
"ทำตัวดีๆหน่อยสิฟาร์"
"อืม สวัสดีเช่นกัน"
"นี่ก็จะเจ็ดโมงแล้วนะจ้ะทุกคน ไม่รีบไปเดี๋ยวก็ตกเครื่องหรอกเม
"พอดีว่าเครื่องบินลำนี้มีระบบที่ดีเยี่ยมเหมาะกับพวกนักธุรกิจชั้นสูงที่ต้องการคุยโทรศัพท์ทุกชั่วโมงทุกนาที ไม่เหมือนเครื่องบินธรรมดาที่บ้านนอกยิ่งกว่าอย่างคุณเคยนั่งหรอกคะ"
วืดดดดดดดดดดด
"กรี้ดดดดดดดดดด!!!!"
"เรียนผู้โดยสารทุกท่าน ขณะนี้ทางเครื่องบินของเราได้เกิดเหตุขัดข้องจากการที่ผู้ร้ายในคดีXYZได้ลอบขึ้นเครื่องและติดตั้งระเบิดขนาดเล็กที่เครื่องยนต์บางส่วนของเราและขณะนี้เครื่องกำลังดิ่งลงสู่พื้น และผู้โดยสารทุกท่านโปรดอยู่ในความสงบและทำตามคำแนะนำของพวกเราด้วยค่ะ ผู้ที่นั่งที่XXและ YYโปรดเปิดประตูทางออกฉุกเฉินตามคู่มือที่ทางเราให้ท่านอ่านด้วยคะ จากนั้นก็ตู๊ดๆๆๆๆๆ"
"เชิญคุณผู้หญิงผมสีน้ำเงินเหลือบม่วงก่อนคะ กระโดดได้ทีละคนนะคะ เพื่อความปลอดภัย"
"แล้วถ้าฉันโดดไปข่างล่างจะเป็นทะเลรึป่าว"ยัยผมม่วงถาม
"ไม่คะ ที่ๆพวกคุณจะตกลงไปเป็นพื้นดินว่างๆหรือไม่ก็ไร่ข้าวคะ"
"โอเค ฉันไปก่อนก็ได้"
"ช่วยเร็วๆด้วยคะ"ยัยแอร์เร่ง
"ฮือๆฟาร์เมกลัว"
"ไม่เป็นไรเม ไม่ตายหรอกแต่ถ้าเราอยู่ต่อไปอาจตายได้รีบๆลงไปซะคนอื่นรออยู่"
"อืม เอาวะ กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!"
"เฮือก!!"ผมเด้งตัวขึ้นอย่างตกใจ โอว เมื่อกี้มันเป็นความทรงจำตอนเครื่องบินตกหนิ ยัยนี่ทำเอาผมหัวใจจะวายตาย
"กว่าจะตื่นได้นะคะ"
"เธอ เล่นอะไรของเธอเนี่ย ฉันเกือบหัวใจวาย เฮ้ย!!!"ผมหันไปแหวใส่ยัยหัวม่วงที่ แต่ เอ้ะ!! ยัยผู้หญิงผมยาวย้าวยาวยาวสีบลอนด์ จมูกโด่งๆ ตาคมๆ ตัวสูงๆเพรียวๆ ผิวขาวๆคนนั้นคือใคร แถมยังใส่เสื้อยืดธรรมดาแต่ทำไมดูดี๊ดูดี แล้วก็กางเกงขาสั้นๆที่ธรรมดาอย่างอภัยให้ไม่ได้แต่เธอคนนี้ใส่แล้วดูดีมากมายก่ายกองเป็นยองใย แถมยัยนั่นก็หน้าคุ้นๆ
"อะไรคะ อย่าบอกนะว่าจำฉันไม่ได้ พึ่งเจอกันเมื่อสามชั่วโมงที่แล้วเอง"
"เธอ! เธอคือยัยหัวม่วง!"โอ้ว ถ้าผมจำยัยนี่ได้สิถึงว่าแปลก หน้าเธอก็ไม่แต่ง ในยามปกติยัยนี่แต่งหน้าหนายิ่งกว่าพื้นดินชั้นอาร์ที่เป็นต้นกำเนิดของดินซะอีก นึกว่าไอ้ที่หน้าหนาๆแบบนั้นเป็นหน้าจริงๆของยัยนี่ซะอีก ช่างแตกต่างกับเมื่อก่อนหน้านี้ลิบลับ ดูหน้าตอนนี้ก่อนสิครับ ขาวใสไม่เหมือนหน้าจูออนก่อนหน้านี้ซักนิด
"ตกใจอะไรคะ แต่ว่าคุณไม่ควรเรียกคนไม่รู้จักด้วยสีผมเลยนะคะ(พูดอย่างกับตัวเองไม่ทำ) เอาล่ะรีบๆลุกขึ้นเร็วๆสิคะ เดี๋ยวหาเมษาไม่เจอก่อนค่ำมันจะแย่เอานะคะ"
"อืม"จากนั้นผมก็ลุกขึ้นจากเตียงแล้วแล้วตามยัยหัวม่วงเอ๊ย!ไม่ใช่ยัยหัวทอง(ขี้เกียจพูดหัวบลอนด์มันหลายพยางและทำให้เหนื่อยมาก)
พอผมลงไปข้างล่างผมก็เห็นเหล่าบรรดาชายหญิงอยู่ในวัยกลางคนประมาณสิบคนกว่าๆยืนอยู่รอพวกผม
"ขอบคุณทุกคนอีกครั้งนะคะที่ช่วยหนู"ยัยหัวทองบอกกับทุกคน
"หนูจ๋า ช่วยบอกลักษณะของเพื่อนหนูให้พวกเราฟังหน่อยสิ"ป้าคนนึงถาม
"เป็นผู้หญิง ตัวเล็กๆผิวขาวๆ ผมดีดำยาวถึงกลางหลัง หน้าตาน่ารักๆ ส่วนอีกคนเป็นผู้หญิงผิวขาวตัวเตี้ยกว่าหนูหน่อยนึง ผมสีแดง หน้าสวยๆคะ"
"อ้อจ้ะ เดี๋ยวป้าช่วย"
"ขอบคุณคะ...เอ่อ"
"หญิงจ้ะ"
"ขอบคุณคะป้าหญิง"ยัยหัวทองรีบยกมือไหว้ป้าคนนั้นแบบปัจจุบันทันด่วน
"น่ารักน่าชังจริงๆเลย ถ้าไม่ติดว่าหนูมีแฟนแล้วป้าส่งลูกชายป้ามาบรรณาการหนูแน่ๆ"โอ้โห อะไรจะขนาดนั้น สงสารลูกชายป้าจังเลยที่ป้าตาต่ำขนาดจะเลือกยัยนี่มาเป็นสะใภ้
"ฮ่ะๆ แหมคุณป้าหญิงก็"ยัยหัวทองทำเป็นเขินอาย กระแดะจริงๆเลยยัยนี่นิ
"เลิกว่าฉันในใจสักทีจะได้มั้ยคะ ฉันพูดอะไรก็แขวะตลอดเลย"ยัยหัวทองหันมากระซิบผมเบาๆ
"ช่วยไม่ได้"ผมยักไหล่แบบไม่แยแสแต่แอบหวั่นไหวเล็กในช่องว่างของจิตใจ ยัยหัวทองเธอจะน่ากลัวเกินไปแล้วที่สามารถอ่านความคิดของฉันซะทะลุ
"งั้นเราไปกันเถอะคะ"ยัยหัวมะ...ทองหันไปพูดกับป้ามาลี
"รอพ่อผู้ใหญ่ก่อนนะจ้ะหนูลูน่า"ป้ามาลีบอก
"อ๋อคะ"ทำไมคำพูดไม่เหมือนการกระทำเลยวะ ปากพูดซะเพราะพริ้งแต่หน้าตาเธอตอนนี้กำลังแผ่รังสีอัมหิตทั่วแล้วนะเฟร้ย
โอยหนาว อีตาผู้ใหญ่บ้านเมื่อไหร่จะมาฟระ เดี๋ยวลูกบ้านแกก็หนาวตายกันหมดเพราะยัยหัวทองปล่อยอ่อร่าอัมหิต+เย็นชาหรอก
"มาแล้วๆ"โอ้ ในที่สุดผู้ใหญ่บ้านก็เสร็จมาได้ซะที แล้วนั่นพาใครมาด้วยล่ะนะ โอ๊ะหน้าคุ้นๆ ผมยาวประบ่าสีดำสนิท ดวงตากลมโต ปากเล็กจมูกหน่อย(ดั้งน้อยๆ:ลูน่า)
"ฟาโรห์!!"ยัยผู้หญิงคนนั้นเรียกชื่อผม
ใครเนี่ย แล้วมารู้จักผมได้ยังไง
"คิกๆ"
[END’S PHARO]
เม้าท์ทูเม้าท์
โอ้โหแหะ รู้สึกว่าช่วงนี้แต่งนิยายจบเร็วมากจริงๆเพราะอะไรกัน
หรือจะเป็นเพราะว่าคำอธิบายมันจะน้อยลง(ทุกทีๆ)และมีประโยคพูดมากขึ้น
แหมมันก็เหมือนเพลงที่มีท่อนนึงร้องว่า
ไม่ต้องหาถ้อยคำดีๆมาบอกฉัน... จะไม่ว่าเหตุผลอะไรก็คงไม่สำคัญ (ตัดต่อเพลงสุดๆ)
ยังไงคนแต่งก็ขอเชียร์เอ็ดเวิร์ดสุดใจขาดดิ้น
แบบว่าแค่อิมเมจมองก็รู้อยู่แล้วว่าคนแต่งลำเอียงอย่างไม่น่าให้อภัย
แต่ยังไงพระเอกก็รู้ๆกันอยู่ ปัญหาก็คือ ฉันจะจบให้พระเอกกับนางเอกจะสามารถรักกันได้มั้ยนะ
เพราะว่านางเอกจะทำการ...ที่พระเอกจะต้องเลือก
ระหว่างความถูกต้องและหัวใจ(แอบบอกปมแล้วนะเนี่ย อิๆ)
ความคิดเห็น