คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : chapter: 3 [100%]
2
วันนี้วันดีมีความสุข ฟาโรห์นายต้องเจอกับกับดักที่ฉันวางไว้และนายไม่มีทางรอดไปได้ นายผิดเองนะที่ก่อศัตรูไว้เยอะ แต่วันนี้ไม่ใช่วันปิดบัญชีหรอก เกมพึ่งเริ่ม ถ้าจบเร็วก็น่าเบื่อแย่เลย แล้วเหยื่อก็...ไม่ทรมานทุรนทุราย หึๆ
"รับน้ำเพิ่มมั้ยครับ"ตอนนี้ฉันอยู่ที่ร้านเบเกอร์รี่ดังมากๆแห่งแล้วมีนายบริกรหน้าหม้อมาถามไถ่เรื่องน้ำกินของฉัน มันน่ารำคาญมากเลยนะที่ต้องมีคนมาถามบ้าอะไรก็ไม่รู้ทุกๆครั้งที่ฉันจิบน้ำ
"นายรวยมั้ย"
"ห๊ะ? อะไรนะครับ"
"ฉันถามว่านายรวยมั้ย"
"มะไม่ค่อยครับ"
"งั้นก็ไปไกลๆได้และ ฉันไม่อยากคบกับคนจน เข้าใจป่ะ"ฉันตอบด้วยใบหน้าเฉยชา
"=[]="ใบหน้าอึ้ง
"เชิญคะ"ฉันไล่เขาทางอ้อม
"ขะครับ"แล้วนายนั่นก็เดินจากฉันไปพร้อมทิ้งเศษหน้าที่แตกละเอียดยับเยินของตัวเองไป
ตุบ!!!
จู่ๆก็เกิดดเสียงเหมือนคนทุบโต๊ะแล้วก็ใช่จริงๆด้วยไอ้เสียงเหมือนคนทุบโต๊ะนั่นก็คือเสียงคนทุบโต๊ะแล้วโต๊ะที่ทุบก็ดันเป็นโต๊ะที่ฉันนั่งอยู่ด้วยทำให้ฉันตกใจนิดๆ ฉันส่งสายตาอาฆาตพยาบาทแล้วมองหน้าคนที่มันทุบโต๊ะแล้วปรากฏว่าคนที่ทุบโต๊ะฉันเป็นผู้หญิง ปากแดงจัดจ้านคนนึงใส่ชุดรัดรูปสุดเอ็กซ์หน้าดูดีนิดๆผมสีทองอร่ามเหมือนจุมลงไปในบ่อขี้
"อีหน้าด้าน!!! สะใจมึงนักใช่มั้ยห๊าที่ทำให้กูกับพัตเตอร์ต้องเลิกกัน อีเวร!!"อีกและ มาอีกและอีหรอบนี้ ว่าแต่ใครคือพัตเตอร์วะ
"ฉันขอถามอะไรคุณซักหน่อยได้มั้นคะ ทำไมคุณไร้มารยาทจังเลย ไม่เคยมีใครสั่งสอนมารยาทกับคุณเหรอคะ"ฉันถามมันด้วยใบหน้าที่ใสซื่อบริสุทธิ์
"ฉันไม่จำเป็นต้องใช้มารยาทกับผู้หญิงต่ำๆแบบหล่อน"
"งั้นถ้าคุณไม่มีมารยาทกับฉันก่อนฉันก็คงต้องตอบคุณกลับซะหน่อยเลยได้มั้ยคะ"พอจบคำฉันก็ลุกขึ้นยืนแล้วเอื้อมมือไปจิกผมที่เหมือนตกบ่อขี้ของนังหัวขี้แล้วจับหัวมันโขกกับโต๊ะหลายๆที
"กรี้ดดดดดดดดดด!! โอ๊ย!! อีควาย โอ๊ย!!!!!!!!"ยัยหัวขี้ได้แต่พยามตีมันฉันให้หลุดจากการจิกหัวมันแล้วก็สบถคำหยาบคายมาด่าฉัน อ้อได้อยากลองดีนักใช่มั้ย เอาให้ตายกันไปข้างนึงเลยแล้วกัน
ฉันตัดสินใจนั่งลงโดยที่มือยังจิกหัวยัยนั่นอยู่เลยส่งผลให้ยัยนั่นต้องนั่งลงตามแล้วฉันก็เหวี่ยงมือที่ยังคงจิกผมยัยนั่นไปให้โขกกับพื้นกระเบื้อง
เอ๋? ใครว่าทำแบบนี้โหดร้ายกัน นี่มันแค่ขั้นเบสิคๆเฉยๆนะสำหรับพวกที่มาหาเรื่องฉัน ไอ้ฉากที่ฉันยอกพวกหล่อนไปก่อนหน้านี้หนะหรอ หึๆ ความลับจ้ะ
"ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยชั้นด้วย อีเวรนี่มันจะฆ่าช้านนน อ๊ากกกกกกกก"ยัยหัวขี้พยายามร้องเรียกคนช่วยแต่ไม่เป็นผมหรอก ที่นี่เป็นหนึ่งในเครือของดราก้อน ถึงฉันจะทำแบบนี้ซักกี่หมื่นครั้งก็คงไม่มีใครช่วยแกได้อยู่ดี
"เรียกไปให้ลูกกระเดือกแตกก็ไม่มีใครมาช่วยแกได้หร้อก เอ้าเรียกเข้าไปสิ อยากมาหาเรื่องฉันนัก ตอนมาไม่กลัวตายรึไง ห๊ะ!!"ฉันที่หยุดการกระทำอันโหดร้ายนั่นแต่ก็ไม่วายจิกผมมันดังเดิมและจิกหัวมันมาใกล้ๆปากฉันที่กำลังพูด
"ฮึก ขอร้องล่ะปล่อยฉันไปเหอะนะ ฉันไม่มากวนเธออีกเลย อย่าทำฉันอีกเลยนะ ฉันกลัวแล้วฮึก ฮือTT^TT"นังนั่นพูดพร้อมยกมือขึ้นมาไหว้ฉันด้วยมืออันสั่นงกๆ
"คงไม่ได้หรอกนะจ้ะ ในเมื่อเธออยากลองดีกับฉันต่อให้เธอตายไปยังไงฉันก็จะไม่ปล่อยเธอแน่^++^"ฉันพูดกับนังนั่นด้วยรอยยิ้มปีศาจ
แต่จู่ๆก็มีมือคู่หนึ่งมาจับแขนข้างที่ไม่ได้ทำอะไรของฉันเอาไว้แถมแรงบีบยังมีความรุนแรงมหาศาลอีกตางหาก พอฉันหันไปก็พบนายหัวหมอกนั่น หึคิดจะมาทำตัวเป็นสุภาพบุรุษรึไง
"ช่วยไปตบกันทางอื่นไม่ได้รึไง เกะกะร้าน"
"นี่จงใจจะหาเรื่องกันรึไงคะ"
"มีแต่คนโง่ไร้สมองอย่างเธอเท่านั้นแหละถึงคิดอะไรโง่ๆแบบนั้นได้"โหย แรงมาก วันนี้ทำไมฉันเจอคำทำร้ายจิตใจเยอะจังเลย
"เอ๋ ฉันก็นึกว่าเราเป็นพวกเดียวกันซะอีกถึงได้ถามอะไรแบบนั้นออกไป ไม่ใช่รึไงคะ"ฉันปล่อยมือที่จิดผมยัยนั่นออก วันนี้เป็นวันดีของแกนะยัยหัวขี้ ไม่งั้นแกเละเป็นขี้แน่ๆ พอฉันปล่อยมืออกจากยัยหัวขี้นั่นยัยนั่นก็ลนลานรีบคลานออกจากรัศมีของฉันแล้วร้องไห้ออกจากร้านไป ไวจริงๆนะมึง
"เหอะ! ทุเรศจริงๆผู้หญิงอะไร"
"คงจะเป็นผู้หญิงหน้าไม่อายอย่างฉันมั้งคะ"
"ใช่ เป็นผู้หญิงหน้าไม่อายอย่างเธอ"
"ไม่หน้าไม่อายอย่างเดียวนะคะ แต่ว่ามีไร้ยางอาย ชั่วช้า ร่าน แรด กระแดะ จอมมาร และเลว"ฉันพูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
"ชีวิตเธอมันก็แค่สวะสังคมอย่างเห็นได้ชัด"มันพูดอย่างดูถูกฉันมากแต่ฉันไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใดในคำกล่าวว่าตอขานของเขาเพราะฉันไร้ซึ่งความรูสึกผิดใดๆก็ตาม มันไม่หลงเหลือในร่างกายและจิตใจของฉันอีกต่อไปแล้ว ถ้าฉันทำสิ่งๆนั้นได้สำเร็จชีวิตฉันก็ไร้ซึ่งความหมายที่จะเดินต่อไปอีก
"แล้วแต่คุณจะคิดได้ค่ะ เพราะถึงคุณจะคิดยังไงฉันก็ไม่อาจสนใจความคิดของคุณได้"
"หึ"
ตู๊ดดดดดด
จู่ๆเสียงริงโทนโทรศัพท์ของไอ้เบื้อกนั่นก็ดังขึ้นที่ฉันรู้ก็เพราะนายนั่นเอาโทรศัพท์ที่มาของต้นตอขึ้นมายังไงหละ
"อืม ว่าไง"
[แว้ดๆๆๆ ฮือโฮว แว้ดๆๆ]
"ว่าไงนะ อยู่เฉยๆก่อนนะ อย่าใจร้อน อย่าสติแตก ควบคุมอารมณ์ไว้นะ ฉันจะรีบไปที่นั่นทันทีเธอต้องซ่อนตัวไว้ให้ดี อย่าส่งเสียงดังด้วย โธ่เว้ย"พูดจบนายนั่นก็สบถออกมาเบาๆแล้วเผยสีหน้าซีเรียสทำให้ฉันเผยอยิ้มที่มุมปากอย่างจงใจ
แล้วนายนั่นก็รีบเดินผ่านฉันไปอย่างว่องไวแต่มีหรือฉันจะปล่อยไป
"รีบไปช่วยเธอคนนั้นจังเลยนะคะ กลัวเธอได้รับบาดเจ็บขนาดนั้นเลยเหรอคะ" หมอนั่นหยุดชะงักทันทีแล้วมองมาที่ฉันอย่างเคียดแค้นแล้วฉกข้อมือฉันไปกำไว้แน่นจนเหมือนกระดูกจะแตกออกมาแต่ฉันที่เจอเรื่องแบบนี้มาบ่อยมากจึงคิดว่าความเจ็บปวดระดับนี้มันแค่ชิวๆ
"เธอ ทำอะไรยัยนั่น"หมอนั่นพูดด้วยน้ำเสียงรอดไรฟัน
"เอ๋ คุณพูดถึงเรื่องอะไรกันคะ ฉันไม่เห็นจะเข้าใจความหมายของคุณเลยซักนิด"
"อย่ามาตอแหลน่ายัยหน้าด้าน เธอเอายัยนั่นไปไว้ไหน แล้วคิดจะทำอะไรกันแน่"
"ถ้าไม่รีบไปจะไม่ทันการเอานะคะ"
"เหอะ! เธอตามมาด้วยกันเดี๋ยวนี้"หมอนั่นมันตะคอกใส่ฉันฉันแล้วลากแขนฉันไปด้วยความไวแสงที่รุนแรงและรวดเร็ว
ฉันก็ทำได้แต่ตามหมอนั่นไป มันเปิดประตูรถฝั่งคนที่ไม่ได้ขับแล้วผลักฉันใส่เบาะนั่งอย่างแรงแต่ฉันที่มีความสามรถด้านการรบสูงเลยตั้งท่าที่เจ็บน้อยที่สุดและมองไอ้บ้านั่นด้วยสาตาที่ว่างเปล่า
หมอนั่นมันขับรถด้วยความไวสูงปรี้ด รถบ้าอะไรวะสี่ร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้วมันก็เหยียบมิด ให้ตายเหอะนี่มันต้องเป็นรถผิดกฎหมายแน่ๆเลยเพราะฉันไม่เคยเห็นรถบ้าอะไรมีความไวขนาดนี้ แต่มันสะใจดีแหะ ยิ่งขับเร็วมากเท่าไหร่ฉันก็รู้สึกสนุก ยิ่งปาดหน้ารถชาวบ้านยิ่งมัน ยิ่งมีคนเกลียดเท่าไหร่ยิ่งมีความสุข
แต่แล้วความสุขของฉันก็จบลงด้วยความรวดเร็ว แล้วเราก็มาจอดรถตรงตึกร้างผุๆเก่าๆแห่งหนึ่ง หมอนั่นรีบเดินเข้าไปในทางเข้ามืดๆที่ไม่มีประตูอย่างรวดเร็วแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆอย่างร้อนรน
"ชะช่วยด้วย"เสียงผู้หญิงแผ่วๆดังแว่วๆออกมา ฟังแล้วหลอนแถมขนลุกชะมัดเลย ถ้าฉันมากับดวงใจของฉันเธอคงคิดว่าเป็นผีไปนานแล้ว หึๆ
พอหมอนั่นได้ยินเสียงหลอนๆนั่นจบมันก็รีบเดินตามต้นเสียงนั้นไปอย่างรวดเร็วและฉันก็ต้องตามมันไปด้วย เฮ้อสกปรกเป็นบ้าเลย แถมเหม็นอับด้วย แต่ก็คุ้มกับการที่จะได้ทำลายคน
ในที่สุดเราก็ตามหาต้นเสียงเจอจนได้ ต้นเสียงคือยัยเมษาที่โดนล่ามไว้ด้วยเชือกกับต้นเสา ใบหน้าน่ารักๆของเธอเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา
นายเบื้อกนั่นรีบเข้าไปช่วยหล่อนจากการพันธนาการของเชือกนั่นพอหล่อนหลุดจากการพันธนาการปุ้บหล่อนก็โผเข้ากอดไอ้บ้านั่นทันทีแล้วปล่อยโฮออกมามันก็กอดปลอบ
"ฮือๆ ฟาร์เมกลัว ฮึก พวกมันบอกว่าจะฆ่าเมด้วย ถ้าฟาร์ไม่มาเมเมฮือๆ"
"ไม่เป็นไรนะเม ฉันมาแล้วเธอไม่ต้องร้องไห้นะ"ไอ้เบื้อกนั่นลูบผมยัยเมษาอย่างแผ่วเบา ถึงเวลาที่ตัวร้ายต้องออกโรงแล้วสินะ
"แล้วพวกมันหายไปไหนหมด...เม"พอยัยเมษาได้ยินเสียงฉันหล่อนก็โผล่หัวออกมาจากอ้อมกอดของนายนั่นแล้วทำหน้าตาตกใจ
"ลูน่า!! มาได้ไง"
"ตามไอ้เบื้อกนั่นมาสิ"
"ลูน่าก็มาช่วยเมใช่มั้ย ขอบใจจ้ะ"พูดจบหล่อนก็ผละออกจากอ้อมกอดของชายที่รักของหล่อนมาหาฉัน
"อาจใช่หรืออาจไม่"
"ต้องใช่แน่ๆเลย ฟาร์ไปเจอกับลูน่าที่ไหนอ่ะ"นายบ้านั่นที่ได้แต่ทำท่างงงวยแต่พอยัยเมษาถามมันก็ค่อยๆปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วตอบ
"ที่ร้านเค้ก แล้วเธอโทรมาพอดีกับที่ยัยนั่นกำลังขวางทางฉัน สงสัยได้ยินตอนนั้นมั้ง แล้วยัยนี่ทำตัวน่าสงสัยฉันก็นึกว่ายัยนี่อาจเป็นคนทำร้ายเธอเลยลากมาด้วย ว่าแต่เธอรู้จักยัยนนี่ได้ยังไง"
"ก็คนนี้ไงเพื่อนเมที่เจอกันตอนม.4อ่ะ ที่เมชอบพูดเรื่องเพื่อนคนนั้นให้ฟาร์ฟังเพื่อนคนนั้นก็คือคนนี้แหละที่เข้ามาช่วยเมตอนถูกรุมทำร้าย ตอนที่ฟาร์คิดว่าเพื่อนเมทำร้ายเมฟาร์ต้องทำตัวแย่ๆกับเพื่อนเมด้วยใช่มั้ยขอโทษเพื่อนเมมาเลยนะฟาร์"ยัยเมทำหน้ายักษ์แยกเขี้ยวใส่นายเบื้อกนั่น
"เฮ้อ ฉันขอโทษด้วยที่ทำตัวแย่ๆใส่เธอผู้ที่มีบุญคุณกับเมษา พอใจยังแม่ตัวเล็ก"
"เหอะ ขอโทษไม่มีความจริงใจเลยนะฟาร์ ลูน่าอย่าถือสาฟาร์เลยนะ นะนะนะเมขอร้อง"ยัยเมษาทำหน้าอ้อนฉันใหญ่
"อืม ฉันไม่ได้ถือสาอะไรหรอกนะเรื่องนี้ แต่เรื่องอื่นก็ไม่แน่ และจงระวังตัวไว้ให้ดี ฉันไปนะ เธอไม่เป็น’ไรก็ดีแล้ว"ฉันกระตุกยิ้มที่มุมปากใส่สองคนนั้นก่อนเดินจากมาแล้วโบกมือให้น้อยๆจากทางด้านหลัง อืมนายนั่นรักยัยเมษามากเลยนะและนายก็คงรักยัยเมมากสิท่า แต่ยังไงซะความรักของนายก็ต้องจากลากันอยู่ดีเพราะฉันชักจะชอบนายเข้าแล้วสิฟาโรห์ แต่ฉันคงจะไม่สามารถทำร้ายเพื่อนรักให้เจ็บปวดได้หรอกถ้ายัยเมไม่ทำให้ฉันเกลียดเธอ
ติ้ด ติ้ด ติ้ด ติ้ด
ฉันควานมือหาโทรศัพท์บนหัวเตียงอย่างหัวเสีย ใครมันโทรมาวะตอนเวลานอนแบบนี้ ในที่สุดฉันก็เจอโทรศัพท์ที่แผดเสียงดังลั่นแทบคว้างทิ้งแต่ราคามันไม่สมควรกระทำรุนแรง
ฉันมองดูคนโทรเข้ามามันขึ้นชื่อว่า ‘ยัยเตี้ย’ ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากยัยเมษา ฉันรับโทรศัพท์ด้วยเสียงขุ่นเคือง
"ไม่มีใครตายไม่ต้องโทรมา"ฉันกรอกเสียงลงไปเป็นประโยคแรก
[เมนี่ไงที่จะตายเพราะปลุกเธอ]
"มี’ไร รีบๆพูดมา อย่านอกเรื่อง รำคาญ"
[อ่าคืองี้นะ เมกับฟาร์อยากจะขอโทษลูน่าเรื่องที่เขาทำกิริยาแย่ๆใส่ลูน่า เมเลยจะชวนไปภูเก็ต]
"ไปกันสามคนฉันก็เหงาดิ พวกเธอไปกันสามคนก็เหมือนสองคน"
[เมเลยคิดว่าลูน่าจะชวนใครไปก็ได้คนนึงไง อย่างนี้จะได้ไปเป็นคู่ ว่าไง]
"ไปวันไหน"
[พรุ่งนี้จ้ะ เพราะมันตรงกับวันหยุดของพวกเราพอดีไง ไปสามวันสองคืน]
"คิดก่อน แค่นี้ บาย"พูดจบฉันก็วางสายแล้วนอนต่อ
ณ ซานตะกร้าผับ
ฉันกำลังเต้นอยู่บนฟลอร์เต้นอย่างร้อนแรงวาดลวดลายจนพวกโคโยตี้ยังชิดซ้าย ดาวยั่วต้องถอยห่าง สายตาของฉันกวาดหาพ่อหนุ่มน้อยคนเมื่อวันนั้น
และฉันก็เจอจนได้ เขายืนเด่นเป็นสง่ามาแต่ไกล ฉันเดินออกจากฟลอร์เต้นรำมาทักทายเขาคนนั้น
"ไฮ บอย"
"บอย? ผมเหมือนเด็กน้อยนาดนั้นในสายตาคุณใช่มั้ยเนี่ย"
"ก็ฉันชอบกินเด็กนี่"
"แต่ผมไม่อยากเป็นเด็กนี่"
"น่ารักจัง ถ้าไม่อยากเป็นเด็กงั้นก็ดื่มไอ้นี่เป็นเพื่อนหน่อยสิ"ฉันยกแก้วเตกีล่าให้เขาดู
"แหมเล่นของแรงจังเลยจะครับ"
"ไม่กล้าเหรอ"ฉันท้า
"ผิดคนแล้วครับ"จากนั้นเขาก็ฉกแก้วฉันไปดื่ม
"ค่อยน่าคบด้วยหน่อย เราไปแด้นซ์กันเถอะ"พูดจบฉันก็ลากเขาไปที่ฟลอร์แล้วจัดการแด้นซ์กันอย่างเมามัน
พ่อหนุ่มน้อยแสนหล่อนั่นใช้โอกาสที่ฉันเผลอจับเอวฉันบ่อยมากจริงๆนะ แต่ช่างมันฉันต้องยั่วเขาให้ได้นี่คือประเด็นหลักๆ
ฉันเริ่มการยั่วเขาด้วยการเข้าไปเต้นใกล้ๆ ค่อยๆเอามือไปปลดกระดุมเสื้อเก๋ๆของเขาทีละเม็ดๆอย่างอ้อยอิ่ง พอถึงเม็ดสุดท้ายฉันก็ย่อตัวลงแล้วใช้ปากปลดกระดุมจากนั้นก็ค่อยๆยืนตรงฉันได้ยินเสียงคนรอบร่างผิวปากแซวบ้างก็ร้องวี้ดว้ายตามประสาไทมุง
"หึๆ"เขาหัวเราะอย่างสะใจ
ฉันก็เริ่มแผนการยั่วต่อโดยการถอดเสื้อเขาออกแล้วโยนให้บรรดาผู้หญิงหิวกระหายที่แอบมองเด็กน้อยนี่ แล้วจุ๊บร่องอกแบนๆของเขา เล่นเอาเขาครางเบาๆแล้วตามด้วยด้วยเสียงเซ็งแซ่ของบรรดาไทมุง
"อา คุณกำลังทำให้ผมคลั่ง"เขาพูดจบก็ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาจับใบหน้าของฉันอย่างนุ่มนวลแล้วโน้มหน้าลงมาประกบปากฉันอย่างแผ่วเบาแล้วมอบสัมผัสที่ดุดันและร้อนแรงพร้อมกับอารมณ์ดิบเถื่อนเขาของที่โดนฉันต้อนให้ออกมาจากตัวเขา
ริมฝีปากนุ่มๆร้อนๆของเขาที่ทาบทับและกำลังวาดลวดลายอยู่บนริมฝีปากของฉันมันทำให้ฉันร้อนรุ่มและยากจะควบคุมตัว ลิ้นนุ่มๆที่ตวัดไปทั่วอย่างมีชั้นเชิงของเขาทำเอาฉันพอใจอย่างมาก ในที่สุดเขาก็หยุดความกระหายของเขาเพราะความเหนื่อย เราสองคนหอบจนตัวโยน ฉันว่าจูบนี้เป็นจูบที่ดีที่สุดตั้งแต่ที่ฉันมีมา ไม่ใช่มาจากความรัก ไม่ได้มาจากความเมา ไม่ใช่ตัณหา แต่ความรู้สึกนี้มันอะไรกันที่ทำให้ใจฉันกระตุกไปวูบนึง
ฉันใช้จังหวะที่เขาเผลอยืดตัวไปฝากคิสมาร์กไว้ที่ลำคอด้านซ้ายของเขาไว้แล้วผละตัวออกมาอย่างรวดเร็วแล้วรีบไปที่รถของฉัน
ทันทีที่ฉันถึงรถของฉันฉันก็เห็นนายฟาโรห์ยืนกอดอกพิงกระโปรงรถฉันไว้ ฉันเดินไปที่รถของตัวเองเหมือนไม่เห็นนายนั่นอยู่ในสายตาแต่มันก็หยุดการกระทำของฉันได้ด้วยคำพูดๆนึง
"ที่เมโทรไปแล้วเธอดุใส่ก็เพราะว่าออกมาแรดทุกวันจนต้องกลับดึกๆดื่นๆงั้นเหรอ เป็นการกระทำที่ต่ำสิ้นดี"
เฮ้อ ฉันกะจะอภัยให้นายในเรื่องก่อนๆแล้วนะเพราะสิ่งที่ฉันจะทำลงไปมันจะทำให้นายเสียใจที่สุดในชีวิตแต่นายมาจุดประกายไฟในตัวฉันให้ลุกโชนราวกับว่าก่อนหน้านี้มันไม่เคยมอดลงไป ฟาโรห์ ฮาวเวิร์ด เจสัน อัลเบอร์ ในเมื่อนายเลือกทางเดินที่นายต้องการเดินก็จงอย่าล่าถอยเพราะไม่งั้นฉันจะล้างแค้นนายให้กระอักเลือดและทรมานอย่างเชื่องช้าที่สุดเท่าที่คนอย่างฉันจะทำได้
"อย่าเอาเรื่องเมษามาอ้างเลยค่ะ ทั้งๆที่คุณหึงฉันแท้ๆ"
"เธอต้องไม่ใช่เพื่อนของยัยนั่น เธอต้องการอะไรจากยัยนั่นถึงได้ตีสนิทยัยนั่น เพราะไม่มีเพื่อนที่ดีคนไหนเขาหาว่าแฟนเพื่อนหึงตัวเองหรอก จริงมั้ย"
"จริงคะ แต่ว่าเรื่องตีสนิทฉันป่าวทำนะคะ โชคดีค่ะ"พูดจบฉันก็ขึ้นรถแล้วเตรียมจะสตาร์ทกลับบ้านแต่ไอ้บ้านั่นกลับเอามือทุบกระจกรถที่นักของฉันแทบแตกจนฉันต้องรีบลงรถไปห้ามมันไว้ ถึงแม้ว่ากระจกรถคันนี้จะกันกระสุนได้และแข็งแรงมากแต่ฉันก็รักรถคันนี้มากนะเฟร้ย
"ทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย"ฉันพูดกับมันอย่างหัวเสีย
"เธอนี่ชอบหนีจริงนะ ครั้งก่อนหน้านี้เธอก็หนี ครั้งนี้เธอก็หนีอีก"หมอนั่นจี้ใจดำฉันสุดๆไปเลย
"ฉันไม่ชอบการเผชิญหน้าตรงๆนี่คะ เพราะฉันชอบแทงข้างหลังคนอื่น เพราะฉันคือซาตานชาติชั่วจากนรกตามคำร่ำลือ"
"ต่อให้เธอได้ฉายาอะไรก็ช่างเธอแต่จำไว้ว่าถ้าเธอทำร้ายเมษาให้เจ็บปวดแม้แต่นิดเดียวเธอต้องตายด้วยฝีมือฉัน"หมอนั่นขู่ฉัน
"แต่ว่าคุณคงจะต้องตายก่อนที่ฉันจะได้ทำร้ายเมษาแน่นอนค่ะฉันสัญญา แล้วเจอกันนะคะ"ฉันขึ้นรถและขับออกไปโดยที่เขาไม่ขัดขวางฉันเลย
"หวัดดีเม"
[อืม อา ลูน่าใช่มั้ย]
"ใช่ โทษทีที่โทรมาตอนดึกๆ ฉันพึ่งเลิกงาน เราจะไปภูเก็ตพรุ่งนี้ใช่มั้ย กี่โมง"
[เจ็ดโมงเช้าจ้ะ ลูน่าตกลงแล้วใช่มั้ย เราจะไปพักบ้านพักของเมกันจ้ะ เจอกันที่’หนามบินURLเวลาเจ็ดโมงเช้านะ]
"อืม ขอบใจเมมากนะ"
[โอ๊ย! ขอบจงขอบใจอะไรกันเล่า ฟังเมต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษและขอบใจ]
"นอนได้แล้ว เดี๋ยวก็ตื่นไม่ไหวหรอกเธอน่ะ"
[ว่าแต่เขาตัวเองก็ทำด้วยล่ะ ฮ้าวง่วง นอนก่อนนะ บายจร้า เจอกันพรุ่งนี้]
"อืมบาย ตู้ด"แล้วฉันก็วางสายไปจากนั้นก็กดเบอร์หาเพื่อนเก่า
[ฮัลโล]
"ไฮ เฟรน ยูโอเค้"ฉันทัก
[no!]ปลายสายตอบกลับมา
"วาย"
[เพราะเธอโทรหาฉันไง]
"หึๆ"
[ว่าไง มี’ไรให้ฉันรับใช้]
"หมายเลข172359 รู้จักใช่มั้ย"
[เยส!]
"ความสัมพันธ์ของพวกเธอคืออะไร"
[อา..กิ๊กเก่า]
"ฉันต้องการเธอ"
[เธอจะเอาฉันไปใช้เรื่องนั้นเหรอ]
"ใช่"
[เพราะบอสสั่ง]
"โน้ว"
[โอวววว เธอเริ่มแล้วเหรอ]
"เยส"
[เอาแรงขนาดไหน]
"เกินกว่าธรรมดามาหหน่อยนึง แต่ทำไปเรื่อยๆให้แตกหัก"
[ok! แต่ข้อแลกเปลี่ยนของเธอคืออะไร]
"สิ่งที่ทั้งเธอและฉันต่างต้อนการ"
[I love u]
"หรือแค่สิ่งนั้นกันแน่"
[หึๆ]
"พรุ่งนี้ฉันจะไปรับตอนหกโมง เตรียมตัวเก็บของไปภูเก็ตสามวันสองคืนได้เลย"
[wow ได้สิ่งที่ต้องการแถมได้ไปเที่ยวฟรีด้วยใช่มั้ย]
"แวรี่ชัวร์"
[เจ๋ง]
"บายบาย"
[ok! บายบาย ตู้ด]
อา คืนนี้ช่างยาวนานจริงๆ ไม่อยากนอนเลยเดี๋ยวไม่ตื่น
คิดได้ดังนั้นแล้วฉันก็ไม่นอนซะเลย ฉันเดินไปจัดกระเป๋าเพื่อไปภูเก็ตพรุ่งนี้ เอ...สิ่งที่ต้องเอาบ้างก็มีครีมกันแดด โลชั่น เครื่องสำอาง ชุดว้ายน้ำ ใส่แบบไหนไปดี แบบเซ็กซี่ๆดีกว่า ชุดลำลอง ตัวนี้ๆๆ แล้วก็ตัวนั้นๆ เอมีอะไรอีกมั้ยที่ต้องเอาไป อ้อแปรงสีฟันยาสีฟัน หวี สายชาร์ตแบต ไดร์เป่าผมไม่ต้องมั้ง ยัยเมต้องมีอยู่แล้ว อ้อมีรองเท้าด้วย นี่ขาดไม่ได้เลย ทำไมต้องไปเครื่องบินด้วยเนี่ย ขนของไปไม่ถนัดเลย
ติ้ด ติ้ด ติ้ด ติ้ด
มาอีกละโทรศัพท์เจ้ากรรม คราวนี้ใครโทรมา
‘N.1’
"ไฮบอส"
[ไม่ต้องมาฮงมาไฮเลยนะยะ]
"มาถึงก็บ่นเลย ระวังแก่เร็วนะ"
[ก็มีพวกแกนั่นแหละที่จะทำให้ฉันแก่เร็ว]
"ลูน่าไปทำอะไรให้บอสความดันขึ้นล่ะ"
[แกน่ะป่าวแต่คนอื่นนี่สิ ฉันล่ะอยากจะบ้าตาย]
"แล้วบอสโทรมาทำไม"
[ไอ้คู่แข่งเรานั่นแหละจู่ๆลูกค้ามันก็พรุ่งพรวด ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร]
"สงสัยได้มีดีมามั้ง"
[นั่นแหละฉันเลยมาบอกแกว่าให้ระวังตัวไว้หน่อยก็ดี]
"ขอบคุณบอสจากใจจริงมากเลยนะคะที่นำข่าวมาบอก"
[ไม่เป็นไรๆ แต่ไงก็ระวังตัวไว้ให้มากๆนะเข้าใจมั้ย แกยิ่งติดค่าหัวสูงที่สุดอยู่ด้วย]
"Tank u bye bye ตู้ด"ฉันตัดสายบอสไปด้วยความรำคาญ ที่บอกว่าเป็นห่วงแต่ห่วงเรื่องขาดฉันไปกลัวว่าลูกค้าจะไม่มีสิท่า หึ วงการที่มีแต่ความหลอกลวง ทุกคนล้วนแต่หันหน้ากากเข้าหากัน
ติ๋งต่อง
ใครกันที่มากดออดชาวบ้านชาวช่องเขาดึกขนาดนี้
ฉันกดอินเตอร์โฟนดูว่าใครมาปรากฏว่าเป็นนายเด็กน้อยในผับนั่น ว้าว กล้ามากเลยนะหนูที่มาเข้าถ้ำเสือแบบนี้
ฉันเดินไปเปิดประตูต้อนรับเหยื่อ
"ว่าไงเนื้อแสนอร่อย ตามเสือมาให้กินถึงถ้ำเลยรึไง"ฉันทัก
"แบบนี้คงไม่เป็นถ้ำแล้วล่ะมั้งครับ ที่นี่มันดูดีกว่าถ้ำเยอะ"
"หึๆ"
"ผมขอเข้าไปได้มั้ย"
"ไม่ได้ถ้าเนื้อไม่ยอมบอกว่ามาทำไม"
"เนื้อมาให้เสือกิน"
"วันนี้เสือไม่อยากกินเนื้อ"
"งั้นเนื้อจะกินเสือเอง"
"ไม่ให้:P"
"ฮ่ะๆ งั้นเนื้อเข้าไปเฉยๆก็ได้"
"โอเคๆ ตามสัญญา"ฉันเปิดประตูให้นายละอ่อนเข้าไปจากนั้นก็ปิดประตูแล้วเดินนำเนื้อไปที่โซฟารับแขก
"ว้าววิวสวยแหะ"
"คงจะไม่สู้บ้านเธอหรอกมั้ง"
"คงงั้นมั้ง"
"หิวมั้ย"ฉันถามเพื่อทำลายบรรยากาศที่กำลังจะอึดอัด
"หิวมาก"
"ไม่ใช่หิวฉันย่ะ หิวข้าวไรงี้เหอะ"
"หว้า ไรว้า"
"มาทำไมเนี่ยดึกๆดื่นๆ บ้านช่องไม่มีให้กลับรึไงห๊ะไอ้หนู"
"มีแต่ไม่อยากกลับ"
"มีปัญหา"
"ใช่"
"อ่าฮะ ไปกินข้าวซะ หน้าปากซอยจะมีร้านขายราดหน้าอยู่ ไปซื้อมากินซะ เอาของฉันด้วยนะ ราดหน้าทะเลกับราดหน้าหมู พิเศษทั้งคู่ ของนายจะกินอะไรก็สั่งเอาเงินทอนนั่นแหละ"
"โหยไรอ้ะ มันเป็นหน้าที่ของเจ้าบ้านไม่ใช่เรอะที่จะหาข้าวให้แขก"
"เรื่องไร ใครคิด คนคิดไม่ใช่พ่อแม่ฉันซะหน่อย สน’ไม ไปได้แล้วชิ่วๆ"ฉันลากไอ้หนูนั่นให้ออกไปจากห้องของฉันแล้วไม่ลืมหยิบเงินสองร้อยบาทให้
"อย่ามาแย่งกุ้งผมไปดิ"ไอ้หนูนั่นหยิบถ้วยราดหน้าหนีตะเกียบฉัน
"ก็ฉันหิวนี่ แถมเงินที่ให้ไปซื้อก็เงินฉันด้วย"
"แต่คุณเองก็กินไปตั้งสองถุงแล้ว"
"ใคร ใครกินกันตั้งสองถุง มั่วเหอะ"ฉันแสร้งทำหน้าไม่รู้เรื่อง
"โห โกหกหน้าด้านๆเลย"
"แล้วเมื่อไหร่จะกลับเนี่ย นี่มันก็ตีสี่แล้วนะ กะจะไม่ให้ฉันหลับไม่ให้ฉันนอนเลยรึไง"
"อา งั้นคุณก็ไปนอนสิ ผมไม่ขโมยของคุณไปหรอกเพราะระดับผมคอนโดแห่งนี้ยังเข้ามาได้สบายๆแปลว่าผมต้องรวยมากอยู่แล้ว"หมอนั่นอวด
"ไม่รวยก็โจรระดับเซียนที่เจาะระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่ได้"ฉันเสริม
"อ่านะ ไม่รวยก็โจร สองอันนี้ทั้งๆที่เป็นคู่ปรับกันแต่เข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ"ไอ้หนูพูด
"ใครสน โลกนี้ไม่มีอะไรที่ฉันต้องกังวล ใครจะเป็นตายร้ายดีก็เรื่องของมัน ต่อให้ฉันต้องฆ่าใครหรือทำร้ายคนนับล้านฉันก็จะทำถ้ามันทำให้ฉันมีความาสุข"
"คุณไมกลัวบาปรึไง"
"ถูกผิดคือสิ่งที่มนุษย์คิดขึ้นมาเองไม่ใช่รึไง"
"อา ช่างเป็นความคิดที่เห็นแก่ตัวสิ้นดีเลย"
"ฉันไม่สน"
"คุณนี่ดีจังเลยเนอะที่เดินตามทางของตนเองได้โดยไม่แคร์คนอื่นเลยซักนิด คุณกล้าที่จะโดนคนทั้งโลกเกลียด"
"อืมใช่ ต่อให้คนทั้งโลกเกลียดฉันแค่คนที่ฉันรักมีความสุขฉันก็ยอม"
"หืมใครกันคนๆนั้น"
"ไม่รู้สิ แล้วนายเกี่ยวอะไรด้วย ใครส่งนายมากันแน่"ฉันพูดกับไอ้หนูนั่นทั้งที่หน้ายังมองไปทางหน้าต่างบานใหญ่ที่สามารถมองวิวได้ทั่วทุกทิศ(เพราะไอ้หน้าต่างที่ว่ามันติดอยู่รอบห้องเลยไงหละ)
"คุณรู้ได้ยังไง"เด็กน้อยนั่นทำหน้าเครียดทันที
"กล้องวงจรปิดไง ตอนที่นายไปซื้อราดหน้าฉันก็ไปดู ฉันเห็นใครสักคนส่งนายและฉันก็สืบดูว่าคนๆนั้นคือบอสของนาย ใช่มั้ยพ่อหนุ่มน้อย"คราวนี้ฉันหันหน้ามามองตานายเด็กนั่นด้วยสายตาที่ว่างเปล่า(สายตาปกติก็ว่างเปล่าอยู่แล้ว)
"อ่าฮะ ผมว่าฝีมือผมเนียนแล้วนะ"เขาบ่นอย่างหัวเสีย
"ถ้าคิดจะล้มฉันต้องเนียนกว่านี้นะพ่อหนูน้อย"
"อา ผมจะเก็บไว้เป็นอุทาหรณ์แล้วกัน"
"นายเป็นมือดีของที่นั่นสิท่า"
"ใช่ครับผม แต่ว่าผมยังเป็นที่สาม ผมยังล้มสองคนข้างหน้านั่นไม่ได้ ไม่น่าหละที่สองคนนั้นไม่เคยรับงานเกี่ยวกับคุณซักที เพราะคุณร้ายกาจแบบนี้ทั้งสองคนนั้นก็เลยไม่กล้าเสี่ยงกับคุณ"
"แต่นายก็ยังกล้ามาเสี่ยง"
"อานั่นสิ"
"ทำไมนายไม่เห็นตกใจมากกว่านี้เลย แล้วทำไมเรายังคุยกันได้อย่างสบายๆทั้งๆที่เรื่องแดงขนาดนี้แล้วแท้ๆ น่าแปลก"
"นั่นสิครับ ผมก็ว่างั้น สงสัยเราคงจะคุยกันถูกคอสิท่าถึงได้เข้าใจกันขนาดนี้"
"อาจใช่และอาจไม่"
"คุณทำไมชอบพวกอะไรกำกวมจังเลย ผมตามคุณไม่ค่อยทันแหะ"
"ถ้านายตามฉันทันนายก็คงล้มฉันได้แล้วล่ะ อ้อยังไม่ได้ถามชื่อนายเลยนิ ฉันชื่อลูน่า นายชื่ออะไร"
"ผมนึกว่าชาตินี้คุณจะไม่ถามชื่อผมซะแล้ว ปล่อยให้ผมรอตอบมาจนหมดความหวัง"เขาทำหน้าเหมือนน้อยใจแล้วเบะปากเหมือนเด็กน้อยน่ารักๆเลย
"แล้วจะตอบมั้ย"
"ตอบครับป๋ม ป๋มจื่อเอ็ดเวิร์ดครับ อย่าหัวเราะนะ"ฉันกำลังจะหัวเราะเพราะนายเด็กนี่ชื่อเอ็ดเวิร์ดซึ่งมันทำให้ฉันคิดถึงพระเอกในเรื่องTWILIGHTMที่แบบว่านิสัยแตกต่างจากเด็กนี่โดยสิ้นเชิง
"อะเอ็ดเวิร์ด โอ๊ยฮามากอ่ะ ฮ่าๆๆๆ"
"เชอะ ผมเริ่มเกลียดชื่อนี่สุดๆแล้วนะ=^="เด็กน้อยนั่นทำหน้างอนสุดๆไปแล้ว
"อ่าแล้วไง ถึงงอนไปสุดท้ายเราก็ต้องจากกันอยู่ดี"
"ทำไมคุณถึงไม่คิดว่าเราจะได้เจอกันอีก"
"อืมมมม ไม่รู้สิ เพราะเราทั้งคู่หมดประโยชน์ต่อกันไง ในเมื่อความจริงเปิดเผยนายก็กลับไปบอกบอสและดำเนินชีวิตต่อไปส่วนฉันก็ต้องทำในสิ่งที่เลวทรามต่อไป"
"คุณนี่เย็นชาจังเลยนะ ผมนึกว่าคุณจะมีความรู้สึกแบบผมด้วยซะอีกที่รู้สึกว่าชอบกันอะไรเทือกนี้"
"ฉันเคยบอกนายแล้วไงโลกนี้ไม่มีสิ่งที่ฉันกังวลนอกจากที่รักของฉัน แล้วก็เจอกันนะเพราะยามมาแล้ว"ยามที่ฉันโทรไปเรียกเข้ามาในห้องฉันแล้วหิ้วปีกนายเด็กน้อยนี่ออกไปจากห้องของฉัน
"บะบาย"ฉันโบกมือให้
"อาให้ตายสิ คุณนี่เหนือกว่าที่ผมคิดไว้มากเลยแหะ ลูน่า บะบาย แล้วเจอกันใหม่ครับ เฮ้ยปล่อยได้แล้วหน่า"เด็กน้อยนั่นพยายามสะบัดยามตัวเบิ้มออกแต่ไม่เป็นผมเลยทำได้แต่สาปแช่งยามไปตลอดทาง
ความรู้สึกชอบต่อนายงั้นเหรอเด็กน้อย...
มันไม่มีหรอกเพราะนายเป็นได้แค่เครื่องมือที่ฉันต้องใช้เท่านั้น
ลาก่อนเด็กน้อย
เพราะฉันไม่สามารถเผลอหัวใจให้หวั่นไหวได้
โอ้มายก็อด
ครั้งนี้ฉันแต่งจบตอนเร็วมาก
ภูมิใจในตัวเองสุดๆ
ปมเริ่มเคลื่อนออกมาแล้ว
เอ็ดเวิร์ดน่ารักจริงๆนะเนี่ย
ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจเสมอมาทำให้ฉันมีกำลังใจแต่งต่อได้ ขอบคุณคะ ขอบคุณจริงๆ
ความคิดเห็น