ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Legendary Encyclopedia สารานุกรมสัตว์ในตำนาน

    ลำดับตอนที่ #78 : สฟิงซ์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.04K
      1
      28 ต.ค. 52




    ชาวอียิปต์เชื่อว่า สฟิงซ์แห่งอียิปต์มีความเกี่ยวโยงไปถึงกษัตริย์ สุริยเทพ-เร อย่างแน่นอน
    แต่ชาวอาหรับกลับเรียกสฟิงซ์ว่า อะบลูฮัล ( Abu Hal) แปลว่า บิดาแห่งความน่าสะพรึงกลัว
    สฟิงซ์จะมีใบหน้าและทรวงอกของหญิงสาว ท่อนล่างเป็นสิงโต และ มีปีกแบบนกอินทรี
    ส่วนสฟิงซ์ของพวกกรีก มันทรยศหักหลัง ก้าวร้าวรุนแรง และกระหายเลือด และพวกนี้ยังชอบกินคนเป็นอาหารเสียด้วย
    ลักษณะที่เด่นชัดของสฟิงซ์ กรีกอีกอย่างหนึ่งก็คือ ความคล้ายแมว หรือจะว่าอีกทีก็คล้ายผู้หญิงด้วย
    นั่นคือ มันจะพูด คุยหยอกเหยื่อของมันก่อนที่จะสวาปามเข้าไป แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าหากเกิดเยื่อหนีรอด ไปได้ สฟิงซ์จะบินดิ่งทิ้งตัวกระแทกพื้นหรืออะไรสักอย่าง ด้วยความโกรธเกรี้ยวจนตายไปเอง



    เรื่องราวเกี่ยวกับสฟิงซ์ของกรีกที่โด่งดังเรื่องหนึ ่ง เห็นจะไม่พ้นเรื่องของ เจ้าแม่เฮรา (Hera) ซึ่งมอบหมายหน้าที่ลงโทษชาวเมืองธีบีส (Thebes) เพราะความเมามายไร้สติของพวกเขา หลังจากที่ ไดโอนิซุส เทพแห่งเมรัยได้มาสอนการทำไวน์ ให้แก่ชาวเมืองนี้ ตามปกติสฟิงซ์จะไม่เข้าขย้ำเหยื่อ ที่ผ่านมาในทันทีทันใด แต่จะ ให้โอกาสเหยื่อด้วยการถามปัญหา ที่เรียกกันว่าปัญหา ของตัวสฟิงซ์ (The Riddle of the Sphinx) ซึ่งสัญญาจะปล่อยเหยื่อเป็นอิสระ หากตอบปัญหาของนางได้
    สฟิงซ์ (Sphinx)อียิปต์ เป็นลูกผสมที่มีส่วนผสมของสัตว์หลายชนิดรวมอยู่ในตัว เดียวกัน
    ตามความเชื่อของคน แถวอียิปต์
    แอนโดรสฟิงซ์ (Andro-Sphinx) สฟิงค์ที่เกิดจาก การรวมตัว อันแปลก ประหลาด ระหว่างมนุษย์กับสิงโต ส่วนหัวที่เหมือนมนุษย์นั้น มีสัญลักษณ์ ของฟาโรห์อียิปต์ แสดง ไว้ชัดเจน คือมีเคราที่คาง ตรงหน้าผาก มีงูจงอางแผ่แม่เบี้ย และมีเครื่องประดับ รัดเกล้าแบบกษัตริย์โดยรอบ
    ความกว้างของ ใบหน้านั้น ประมาณ 14 ฟุต ส่วนลำตัวที่เป็นสิงโต มีความยาว เกินกว่า 240 ฟุต (วัดจากหัวถึงหาง) ขนาดของมัน มโหฬาร จนคนที่เดินผ่าน เหลือตัวนิดเดียวว่ากันว่าสฟิงซ์ คือ รูปเหมือน ขนาดใหญ่ กว่าร่างจริง สองเท่าของฮาร์มาชิส เทพแห่งรุ่งอรุณ เมื่อตอนที่แปลงร่าง เป็นสิงโต มีเศียร เป็นฟาโรห์อียิปต์หรือ "sphingein แปลว่า การบีบรัด
    ที่ได้ชื่อว่าบีบรัดนั้นก็เพราะว่า สฟิงซ์ของชาวกรีก เป็นสฟิงซ์ที่นิสัยไม่ดี ชอบหยอกเล่นกับเหยื่อ พอมีเหยื่อหลงเข้ามา ก็จะถามคำถาม และถ้าตอบไม่ถูก จะฆ่าทิ้ง
    ความจริงสฟิงซ์ในอียิปต์มิใช่มีแต่รูปสิงโตเท่านั้น หากแต่ว่าในสมัยต่อๆ มา โดยเฉพาะสมัยราชอาณาจักรกลางและใหม่ มักมีการสร้างสฟิงซ์ในรูปของแกะ และสัตว์อื่นๆ เพื่อตั้งเรียงรายเป็นแถวยาวเหยียดอยู่หน้าวิหาร เช่น วิหารลักซอร์ มหาวิหารคานัก แะวิหารของพระนางแฮตเซปชุต เป็นต้น

    ตำนาน สฟิ้งค์

    http://writer.dek-d.com/writer/story...728&chapter=17
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×