ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Legendary Encyclopedia สารานุกรมสัตว์ในตำนาน

    ลำดับตอนที่ #62 : แมนเดรก(Mandrake)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 909
      2
      28 ต.ค. 52



    ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Mandragora อยู่ในตระกูล Solanaceae รากของแมนเดรกมีลักษณะคล้ายมนุษย์ จึงถูกนำมาใช้ในเรื่องพิธีการเวทมนตร์ต่างๆ และปรากฏอยู่ในตำนานและนิยายหลายเรื่อง

    แมนเดรกมีเสียงกรีดร้องแหลม สูงเวลามันถูกทำให้ตกใจ ผู้ที่ได้ยินเสียงร้องของแมนเดรกมีโอกาสถึงตายได้ แต่ในขณะที่แมนเดรกยังเป็นต้นอ่อนอยู่ เสียงร้องของมันจะเพียงแค่ทำให้สลบเท่านั้น เชื่อกันว่า น้ำยาที่สกัดได้มาจากต้นแมนเดรกสามารถลบล้างคำสาปได้แทบทุกชนิด

    เรื่อง ราวของพืชชนิดนี้ปรากฏในนวนิยายเกี่ยวกับเวทมน ต์ เรื่องแฮรี่ พอตเตอร์ ที่ดังกระฉ่อนไปทั่วโลกทั้งยอดพิมพ์หนังสือที่มีคนจอ งอย่างล้นหลามแม้นำมาสร้างภาพยนต์ ทำรายได้อย่างถล่มทลาย ท่านที่เป็นแฟนนวนิยายเรื่องนี้คงจะรู้จักเจ้าพืชประ หลาดชนิดหนึ่งที่ส่งเสียงร้องอย่างน่ากลัว ที่เหล่าพ่อมดน้อยใหญ่อยากได้มาทำเครื่องปรุงทางมายิ ก ( ไสยศาสตร์ )
    แมนดราโกร่าหรือแมนเดรค เป็นพืชที่มีอยู่จริง เป็นพืชในตระกูล nightshades หรือ Solanaceae (ตระกูลเดียวกับมะเขือม่วงและมันฝรั่ง) รูปร่างเหมือนผักชีฝรั่ง มีรากแตกแยกสาขาย่อยๆ


    ลักษณะ เป็นพืชที่มีใบเป็นกระจุกสีม่วงอมเขียวคล้ายใบพืชยาส ูบ รูปร่างของลำต้นเหมือนกับมนุษย์ มีดอกสีม่วง ดอกมีสีเขียวค่อนข้างขาว ยาวเกือบ2นิ้วกว้าง ผลมีรูปทรงกลม, ฉ่ำ, สีส้มให้ลูกเล็กๆสีแดง, การคล้ายผลมะเขือเทศเล็ก และ ส่วนทั้งหมดของพืชแมนเดรกเป็นพิษ, รวมทั้งบนCorsica ขึ้นอยู่ตามธรรมชาติตั้งแต่เขตทะเลเมดิเตอร์เรเนียนม า ใต้ และยุโรปกลาง จนถึงประเทศจีน โดยเห็นได้จากพระคัมภีร์ไบเบิลชาวอิสราเอลได้กล่าวถึ งมันไว้ ที่รู้จักกันในฐานะสมุนไพรนั้นประกอบด้วย 3 ชนิดอัน ได้แก่ officinarun L., M. autumnalis Spreng. และ M. caulescens Clarke เป็นพืชที่มีสารอัลคาลอยด์อยู่ในรากเป็นจำนวนมากเช่น เดียวกับพืชอื่นๆในตระกูลเดียวกัน มีฤทธิ์เป็นสารหลอนประสาทและฤทธิ์สารเสพติดในอดีตเคย ใช้เป็นยาแก้ปวดพืช
    ส่วนในตำนานมักจะกล่าวว่าแมนเดรคมีราก แยกเป็นสองแฉกด ูเหมือนรูปร่างมนุษย์ ซึ่งมักมีการวาดรูปเป็นมนุษย์ที่มีรากงอกออกมาที่ปลา ยมือเท้า และมีดอกไม้งอกอยู่บนศีรษะ ซึ่งภาพดังกล่าวนี้ได้รับอิทธิพลจากศาสนายิวอันกล่าว ว่า แมนเดรคเป็นต้นแบบที่พระเจ้าทำขึ้นก่อนการสร้างมนุษย ์ นอกจากนี้ คริสเตียน โรเซนครอยส์ซึ่งเป็นผู้นำของRosenkreuzer (กลุ่มกางเขนกุหลาบในศตวรรษที่ 17) ยังได้กล่าวในบันทึกว่า มนุษย์นี่แหละคือแมนเดรคที่เกิดมาจากพื้นดิน
    บางตำราจะแบ่งแมนเดรคออกเป็นเพศชายและ เพศหญิง โดยแมนเดรคซึ่งบานในฤดูใบไม้ผลิจะมีดอกสีขาวและเป็นเ พศชาย ส่วนแมนเดรคที่บานในฤดูใบไม้ร่วงจะมีดอกสีดำและเป็นเ พศหญิง ยิ่งเป็นแมนเดรคที่มีอายุมาก รากก็จะกลายเป็นสองแฉกและออกจากพื้นดินมาเดินเพ่นพ่า นไปมาได้


    แมนเดรคถูกกล่าวว่ามีคุณสมบัติมากมาย หลายประการ ตั้งแต่เป็นยาพิษ ยาอายุวัฒนะ ยาชา ยาเสน่ห์ ยาหลอนประสาท และมีสรรพคุณสามารถรักษาโรคได้หลายอย่าง ตามความเชื่อทางเวทมนตร์เชื่อว่าเป็นส่วนผสมของยาแก้ คำสาปที่ทรงอนุภาพ ทำให้คนที่ถูกสาปหรือแปลงร่างกลับสู่สภาพเดิม
    วิธีการนำมาใช้คือต้องปอกเปลือกของหัว แมนเดรคออก จากนั้นก็ผูกเชือกแขวนไว้จนแห้ง หรือนำไปต้มกับไวน์ ยาที่สำเร็จออกมาจะสามารถใช้รักษาโรคนอนไม่หลับ ช่วยขับพิษ แก้ปวด หรือใช้ประกอบในการสะกดจิต
    แต่ที่ทำให้แมนเดรคมีชื่อเสียงที่สุด นั้นคงได้แก่วิธ ีการเก็บมันขึ้นมาจากพื้นดินนี่เอง เนื่องจากเชื่อกันว่าเมื่อถอนแมนเดรคขึ้นมาจากพื้น มันจะส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน และใครก็ตามที่ได้ยินเสียงนั้นก็จะขาดใจตาย ว่ากันว่าที่เป็นเช้นนี้เพราะมันมีวิญญาณสิ่งอยู่ โดย


    บันทึกแล้วมีอยู่ 3 วิธีในการถอนแมนเดรค
    1. ให้คนอื่นมาถอนแทน
    2. ขุดหลุมรอบๆแมนเดรคแต่อย่าเพิ่งถอนออกมา แล้วเอาสุนัขมาผูกไว้ จากนั้นก็ถอยไปให้ได้ระยะไกลพอแล้วใช้เหยื่อล่อให้สุ นัขวิ่งถอนแมนเดรคขึ้นมา สุนัขที่ได้ยินเสียงแมนเดรคก็จะตายแทนเรา เป็นวิธีที่คงได้ยินกันบ่อยที่สุด ว่ากันว่าในกรณีนี้ จะมีการขายแมนเดรคทั้งๆที่ผูกติดกับศพสุนัขนั่นแหละ
    3. ใช้ดาบขีดวงกลมรอบแมนเดรค 3 ชั้น จากนั้นก็ถอนแมนเดรคขึ้นมาโดยมองไปทางทิศตะวันตก กล่าวกันว่าเป็นวิธีที่จะได้แมนเดรคมาในสภาพสมบูรณ์ท ี่สุด
    นอกจากนี้ ในเยอรมันยังมีตำนานกล่าวถึงอัลราวเน่(Alraune) ซึ่งเป็นพืชในตระกูลเดียวกับแมนเดรคเช่นกัน กล่าวกันว่าอัลราวเน่จะงอกใกล้กับลานประหารที่มีการป ระหารหรือทรมานนักโทษที่ไม่ได้มีความผิดจริง วิธีการถอนอัลราวเน่ก็ใช้วิธีเดียวกับแมนเดรคนั่นเอง อัลราวเน่ที่ถอนขึ้นมาจะถูกนำไปล้างให้สะอาดด้วยไวน์ แดง จากนั้นก็ห่อด้วยผ้าลายขาวแดงแล้วเก็บใส่กล่องไว้ ทุกๆวันศุกร์จะต้องนำมาล้างน้ำร้อนให้สะอาด และทุกๆคืนเดือนมืดจะต้องเปลี่ยนผ้าห่อผืนใหม่ เมื่อตั้งคำถาม อัลราวเน่ก็จะตอบคำทำนายในอนาคตหรือความลับต่างๆ และนำโชคลาภมาให้ผู้เป็นเจ้าของ แต่หากเรียกร้องมากจนเกินไป อัลราวเน่าก็จะเฉาตายไปได้
    เมื่อเจ้าของตาย กรรมสิทธิ์จะตกเป็นของลูกชายคนเล็ก ซึ่งผู้สืบทอดจะต้องเอาชิ้นขนมปังกับเหรียญเงินใส่ลง ในโลงของพ่อ และหากลูกคนเล็กเสียชีวิตไปก่อนที่พ่อจะตาย กรรมสิทธิ์ก็จะตกเป็นของลูกชายคนโต ซึ่งลูกชายคนโตก็ต้องนำชิ้นขนมปังกับเหรียญเงินใส่ใน โลงของน้องเช่นกัน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×