ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ** The soul Of Satan **

    ลำดับตอนที่ #4 : มิตรภาพ

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ย. 48


                    ที่ห้องลับใต้ดินนี่เองที่อดีตแวมไพร์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ได้รับการขนานนามว่า นอสเฟอราตูว หรือที่แปลว่า ผู้ที่เป็น

    อมตะนั่นเอง  ซึ่งจะมีแวมไพร์เพียง 1 ใน ล้าน ที่จะมีโอกาสได้รับเลือดบริสุทธิ์จากบรรพบุรุษของตน  แวมไพร์พวกนี้จะไม่แก่ และไม่แพ้แดดหรือกระเทียม ต่างจากแวมไพร์ชั้นต่ำทั่วๆไป ที่เพียงโดนแดดก็จะสูญสลายไป…







                ขณะที่ภารโรงหนุ่มคนนี้นั่งดื่มเลือดจากถุงบริจาคโลหิตของโรงพยาบาล  เค้าสังเกตเห็นปีเตอร์นั่งนิ่งเหม่อลอยเหมือนสติไม่อยู่กับตัว    เค้าจึงเอ่ยปากถามในขณะที่เลือดก็ยังกองเต็มปากอยู่





    จอนนี่  -  เป็นไรไป....         ......     เฮ้!!

    ปีเตอร์  -  อ๊ะ!!        อะไรเหรอดูลาฮาน...

    จอนนี่  -  นั่งเหม่ออะไรของนาย..    แล้วเลิกเรียกชั้นแบบนี้ซะที   เรียกว่าจอนนี่สิเฟ้ย!

    ปีเตอร์  -  อ๊ะขอโทษที....                        นี่เพื่อน....   ชั้นมีอะไรจะฝากฝังไว้กับนาย

    จอนนี่  -  อะไรรึ..?    

    ปีเตอร์  -  ชั้นกำลังจะตายในไม่ช้านี้.....       ชั้นอยากจะยกตำแหน่งหัวหน้านักบวชและวิหารนี้ให้กับนาย.....







    เมื่อจอนนี่ได้ยินเช่นนั้น     เค้าถึงกับหยุดดื่มเลือดทันที  แล้วจากนั้นก็วางถุงเลือดลง





    จอนนี่  -  ......   เป็นเพราะวันก่อนสินะ     ชั้นสัมพัสถึงสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ได้...

    ปีเตอร์  -  เค้าเป็นคนที่เคยเป็นอาจารย์ของชั้น...  และชั้นเองก็หักหลังเขา...      เค้าคงจะต้องมาฆ่าชั้นแน่..

                      และก็....   พี่ชายชั้นก็ด้วย...     เค้าไม่มีทางที่จะอภัยให้ชั้นได้..

    จอนนี่  -  นายเล่าเรื่องในอดีตของนายให้ชั้นฟังไม่กี่ครั้ง...   ชั้นเองก็จำไม่ค่อยจะได้หรอกนะ....

                       แต่ว่านะ...      ถึงชั้นจะไม่ได้ชอบไอ้เลือดเย็นๆที่นายเอามาให้เท่าไหร่นัก...     แต่ชั้นก็ไม่ได้ไร้ยางอาย

                       ที่จะปล่อยให้เพื่อนเพียงคนเดียวในรอบ100ปีตายไปต่อหน้าโดยไม่ทำอะไรหรอกนะ...

    ปีเตอร์  -  ตะแต่ว่า!   ชั้นไม่อยากให้นายเข้ามาพัวพันกับเหตุการณ์ครั้งนี้!    มันอันตรายเกินไป!

    จอนนี่  -  ลืมมันไปซะเรื่องนั้นหนะ...      ชั้นเองก็ไม่ได้ศรัทธาในพระเจ้าเหมือนนายนัก   จะให้ชั้นไปเป็นนักบวช

                      สวดมนต์ทุกเช้ามีหวังชั้นคลั่งตายซะก่อน...         และก็....ไอ้อันตรายที่ว่าหนะ...  

                      มันก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ชั้นชื่นชอบเหมือนกัน..........



    ปีเตอร์  -  เฮ่อ......   ชั้นก็คิดไว้ก่อนหน้านี้แล้วหละว่านายก็คงตอบมาแบบนี้....   ชั้นดึงนายเข้ามาในอันตรายจนได้ ..



            ทั้งคู่ต่างก็นิ่งเงียบ...     สักพักจอนนี่ก็ถอนหายใจ   แล้วก็เดินอ้อมมาด้านหลังของปีเตอร์... ....        

    จากนั้นก็......                      โป๊ก!!!! เสียงกำปั้นสัมพัสโดนที่หลังหัวอย่างแรง



    จอนนี่  -  หัวของพวกปีศาจนี่แข็งจริงๆ....     เจ็บมือชะมัด...

    ปีเตอร์  -  ......โอย......                       ทะ   ทำไรของนาย...  เจ็บชะมัด!

    จอนนี่  -  พูดพล่ามอะไร!   พูดเหมือนรู้สึกผิดอะไรมากมายขนาดนั้น!    

                       นายลืมแล้วรึ!    พวกเราหนะเป็น “เพื่อน” กัน     “เพื่อน”  ไม่ใช่รึ!!    

    ปีเตอร์  -  ......  “เพื่อน”……   ใช่แล้ว......   ขอโทษ....                





              ปีเตอร์รู้สึกตื้นตันอย่างยอกไม่ถูก    เค้านึกไม่ถึงว่าชั่วชีวิตนี้จะได้พบกับสหายที่ยอดเยี่ยมจนถึงขนาดจะยอมเอาชีวิตเอาไปเสี่ยงอันตรายเพื่อเขา     ปีเตอร์นั่งก้มหน้านิ่ง....





    จอนนี่  -  ....เฮ้ยๆ    อย่าได้ร้องให้เชียวนะเว้ย   เห็นผู้ชายร้องให้แล้วมันน่าเกลียดหวะ!

    ปีเตอร์  -   จะ  เจ้าบ้า    ชั้นรู้แล้วน่า!         เอาหละ.....ได้เวลาที่ชั้นต้องไปสอนหนังสือให้พวกเด็กกำพร้าแล้ว

    จอนนี่  -  เออๆ    ไปได้แล้ว   ชั้นจะได้นอนซะที

    ปีเตอร์  -  คืณนี้อย่าลืมไปทำความสะอาดจัตุรัสกลางหละ

    จอนนี่  -  ไม่ลืมหรอกน่า   ไปได้แล้ว   ชิ่วๆ คนจะนอน

    ปีเตอร์  -  (ไล่ยังกะหมา...)



    เมื่อคุยธุระเสร็จปีเตอร์ก็เดินออกจากอุโมงค์ใต้ดินแห่งนี้      ความรู้สึกปลื้มปิติที่เค้าได้มันมาในวันนี้นั้น

    มันทำให้เค้ามีกำลังใจที่จะเผชิญสิ่งร้ายๆที่กำลังจะเกิดขึ้นตรงหน้า





    ณ  สวนพักผ่อนหย่อนใจ   เป็นสวนที่มีต้นไม้น้อยใหญ่วางเรียงรายตามทาง   ที่แห่งนี้มีบรรยากาศที่ร่มรื่น

    สนามหญ้ากว้างขวาง เต็มไปน้อยสัตว์น้อย นาๆ ชนิด นก และ ผีเสื้อ โบยบินผ่านหน้ามาเป็นระยะๆ ไม่ว่าจะเป็นใคร  ถ้ากำลังกลุ้มใจอยู่หละก็  ถ้าได้มาที่แห่งนี้ จิตใจที่พลุ้งพล่านจะสงบลงในทันทีทันใด    เมื่อมีเวลาว่าง  เหล่านักบวชหรือประชาชนในละแวกนี้จะมานั่งสนทนากันที่นี่        



                แต่ในวันนี้   มีซิสเตอร์สาวน้อยคนหนึ่ง  เดินเล่นไปเรื่อยๆอยู่คนเดียว....

    ลีออน  -  เฮ้อ....    ว่างจังเลย....      งานบ้านงานเรือนเราก็ทำเสร็จหมดแล้ว   ทำไมเป็นซิสเตอร์มันว่างขนาดนี้น้า..

                     เฮ้อ    เจ้านกน้อย...      ชั้นอิจฉาพวกเจ้าจริงๆ   พวกเจ้ามีปีกโบยบินไปที่ไหนก็ได้โดยเสรี   ชั้นอยากจะมี

                     ปีกเหมือนพวกเจ้าจังเลย    ท่าทางคงจะสนุกน่าดู..             ท่าชั้นมีปีกนะ  ชั้นจะ  บิน   บิ๊น~~



       ลีออนเธอพูดกับตัวเองไปได้ซักพักเธอก็กางแขนออกทั้งสองข้างแล้วก็กระโดดหมุนตัวไปมา  โดยที่เธอไมสังเกต

    เลยว่า  มีคนจำนวนไม่น้อยที่เดินผ่านไปมาได้หยุดมองดูเธอกัน         แต่ว่าไม่ได้มีใจคิดอคติ ทุกคนที่ได้มองเธอในตอนนี้ รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก รอบตัวๆเธอมีแสงแดดอ่อนๆส่องฉาดฉาย  ผีเสื้อหลากหลายสีมาบินล้อมรอบตัวเธอ  และด้วยความน่ารักบ๊องแบ๊วของเธอ หลายคนมองเธอเหมือนเป็นกับเทพธิดาองค์น้อยๆ

    “บิ๊น  บิ๊น  บิ๊น~~~  แอ๊ก!!”   ลีออนสะดุดขาตัวเองล้มลงไป    คนที่มองอยู่แถวนั้นพากันหัวเราะคิกคักเล็กน้อย

    จากนั้นทุกๆคนก็เดินหนีไปที่อื่น  



    ลีออน  -  อ๊ะ!  มีคนมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน..    แสดงว่าพวกเขาเห็นที่เราทำท่าบ้าบอตะกี้แล้วสิ

                      ฮือ.....เค้าต้องว่าเราติ๊งต๊องแน่เลย  ฮือๆ...



    ???  -  เอ่อ.....    เป็นอะไรมากรึเปล่าจ๊ะ??



            

       “สะ.....สวยจังเลย.....” นี่คือสิ่งที่ลีออนคิดตั้งแต่แรกที่ได้เห็น...     หญิงสาวคนหนึ่ง ใส่ชุดซิสเตอร์เหมือนกับเธอ

    ยื่นมือเข้ามาเหมือนจะดึงเธอขึ้นจากพื้น    คนๆนี้มีผมยาวสลวยสีดำเป็นเงามัน  นัยน์ตาสีดำขลับ ศรีษะของเธอบังดวงอาทิตย์ในมุมของสายตาลีออนแต่ก็มีแสงเล็ดลอดออกมาจากศรีษะด้านบนเล็กน้อย  จึงได้ภาพที่เหมือนราวกับว่าเธอคนนี้คือนางฟ้า...      นี่เป็นครั้งแรก...ที่ลีออนรู้สึกใจเต้นกับคนที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน .....



    ลีออน  -  ขอบคุณค่ะ.....  เอ่อ....คุณคือ.....

      ซาร่า  -  ชั้นชื่อ   ซาร่า   โซเร็น   ค่ะ พึ่งสมัครเข้าเป็นซิสเตอร์เมื่อวาณนี้เอง.....  

    ลีออน  -  ชั้นชื่อลีออนค่ะ   ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ...

      ซาร่า  -  เช่นกันค่ะ...     เรามาเป็นเพื่อนกันนะคะ.......





       ณ   อีกมุมหนึ่งในเวลาเดียวกันที่ชั้นใต้ดินของวิหารนี้    จอนนี่ซึ่งกำลังหลับใหลอยู่ก็ลุกพรวดขึ้นมาทันที   เค้าหายใจแรง  เหงื่อแตกพลัก      ดูเหมือนว่าเค้าจะตกใจกับอะไรซักอย่างที่ยืนยันไม่ได้...



    จอนนี่  -  สัมผัสนี้มัน....  ไม่ใช่!     ไม่ใช่ปีศาจ!   ไม่ใช่กลิ่นเดียวกันกับพวกที่มาวันก่อน!....  แต่ว่า...ข้ายืนยันได้!

                     สัมผัสนี่มัน...     เหมือนมนุษย์....   แต่มันไม่ใช่มนุษย์!!!!!!    

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×