ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
       
                                                                     
        “เจ้าคิดจะไปอย่างนั้นรึ” คนสูงศักดิ์กลั้นใจถามคนต่ำศักดิ์กว่า ถึงแม้ว่านางจะรู้อยู่แก่ใจแต่ก็ยังอยากจะถาม
        “เพคะ หม่อมชั้นต้องการจะไปหาท่านพี่” ร่างบางเอ่ยเสียงเรียบ แต่นัยน์ตาสีเลือดหมูกลับฉายประกายวาบ
        “แล้วท่านพี่ของเจ้าเข้าใจเจ้าแล้วงั้นรึ” ถ้าคิดจะรั้ง ก็รั้งได้ แต่ไม่รั้ง ที่ถามไม่ใช่จะไม่ให้ไป แต่เป็นห่วง ห่วง
      เด็กคนนี้เหลือเกิน ในระหว่างคนอายุมากว่ายังจมอยู่กับห้วงความคิด จำเลยผู้ขอก็ยังชั่งใจกับคำถามนั้น
      จริงสิ.......ท่านพี่ไม่ได้ยอมรับเรา แต่ทำไมเราถึงยังดันทุรัง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็จะต้องไป
      “คงไม่เข้าใจหรอกเพคะ แต่ถึงอย่างไรหม่อมชั้นก็จะไป” เสียงตอบฉะฉานทันทีที่ตัดสินใจเสร็จ
      “แล้วแม่ของเจ้าคนนี้หล่ะ เจ้าก็คงจะทิ้งไปสินะ” ร่างสูงเอ่ยน้ำเสียงตัดพ้อ ที่ทำให้อีกคนใจสั่น
            “โธ่ท่านแม่ ถึงท่านแม่จะไม่ไช่แม่แท้ๆของหม่อมชั้น แต่หม่อมชั้นก็รัก ท่านเหมือนแม่แท้ๆนะเพคะ”
        อีกสตรียังพยายามหว่านล้อมเต็มที่ ทำไมจะไม่รักละ ท่านรักข้าขนาดนี้ ข้ารักท่านจะตายไป.....
         
      “เฮ้อลูกคนนี้ถ้าคิดจะไปยังไงก็ห้ามไม่ได้สินะ เอาเถอะ เจ้าไปเถอะ” อีกคนก็เอ่ยเหมือนตัดใจ
“จริงนะเพคะ” หญิงเจ้าของคำขอยิ้มจนแก้มแทบปริแถมยังกระโดดกอดคนที่มีศักดิ์เป็นมารดาอย่างไม่กลัวเสีย
มารยาทอีกจนร่างสูงต้องถอนหายใจกับความไร้เดียงสาของคนตรงหน้า น่าสงสาร ไม่ผิดเลยแท้ๆแต่กับต้องรับ
เคราะห์ “งั้นหม่อมชั้นไปเก็บของก่อนนะเพคะ” เสียงจากคนที่สุขจนแทบจะหยุดยิ้มไม่ได้ 
“จ๊ะไปเถอะ” ส่วนอีกนารีก็เพียงแต่ตอบรับเบาๆกับรอยยิ้มบางๆเท่านั้น
        พอร่างเล็กก้าวพ้นห้อง คนเป็นมารดาก็ถอนหายใจหนึ่งทีก่อนจะกระตุกยิ้มที่มุมปาก
“ท่านพี่ ไฉนจะต้องหลบละเพคะ นึกว่าน้องไม่รู้หรอ” สิ้นคำพูดเรียบๆ ที่เล่นเอาคนที่หลบอยู่สะดุ้งเฮือก
ก่อนจะก้าวออกมาช้าๆ “ทำไมถึงปล่อยไปละลูน่า” เสียงของผู้ที่เข้ามาใหม่เอ่ยถาม
  “ก็นางอยากไป” คนตอบก็ตอบสั้นๆอย่างน่าจับไปตี 
“แต่พันธะสัญญานั่นยังอยู่ไม่ใช่รึไง” เจ้าปีศาจยังคงซักต่อ
  “โธ่ ท่านพี่เอวี่ นางน่าสงสารออก ปล่อยนางไปดีกว่า” แม้เสียงจะพยายามดัดให้ร่าเริง แต่ความเศร้าลึกที่แฝงอยู่
มีหรือว่าบุรุษข้างๆจะไม่รู้
      “ลูน่าอย่าหลอกใจเจ้าเองดีกว่า เจ้าเป็นน้องพี่ ทำไมพี่จะดูไม่ออกว่าเวลาไหนเจ้ามีความสุข เวลาไหนเจ้าเศร้า”
“ข้าหลอกท่านพี่ไม่ได้จริงๆสินะ” น้ำเสียงสั่นเครือที่ถ้าไม่ไช่คนในครอบครัว คงไม่มีทางรู้หรอกว่า
                                                            เจ้าหญิงปีศาจ
                                                        ราชินีแห่งมูนซิตี้ 
                                            คนอย่าง ลูน่า เกรเดเวล ราชินีจันทรา
                                                          จะอ่อนไหว
                                              ไม่ว่าจะตั้งกำแพงสักเพียงไร
                                         
                                      ปีศาจก็ยังคงมีหัวใจอยู่วันยังค่ำนั่นแหละ
      คนเป็นพี่ส่ายหน้าช้าๆกับความรั้นกับน้องสาวคนนี้ ไพล่ไปนึกถึงวันแรกที่เด็กนั่นมาที่นี่
            เด็กที่หัวรั้นไม่ผิดกับน้องสาวเค้าสักนิด ของตอบแทนที่นางสัญญากับลูน่า
เพื่อให้ช่วยชีวิตพี่ชายเพียงคนเดียวของตนเอง เค้ายังจำได้ดี คำประกาศกร้าวจากพี่ชายของนาง
คำกล่าวหาที่นางไม่คิดจะตอบโต้สักนิด คิดแล้วสงสารขึ้นมาจับใจ ในเมื่อโชคชะตาพาให้พานพบกันอีกครั้ง
                                                    ข้าก็คงทำได้แค่ขอให้เจ้าโชคดี
                                         
                                          คาเรน  เกรเดเวล  เดอะ  ปริ๊นเซส  ออฟ  เดมอส
             
                            หลานสาวหัวรั้นขอข้า    คนที่มีเสียงหัวเราะที่ปนกับความเศร้าเสมอ 
                   
                                                                       
                                                                          หรือ
                                         
                                              คาเรน  ธันเดอร์  เดอะ  ไนท์  ออฟ  ไนล์
       
                                                หญิงสาวผู้มีพันธะสัญญากับปีศาจ 
                            ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร ข้าขอให้เจ้าได้พบกับความสุขจิงๆเสียทีเถอะ
        ปัง! เสียงประตูเปิด เรียกสติที่กำลังหวนนึกถึงความหลังของเจ้าปีศาจ กลับมาอีกครั้ง แถมคนที่เข้ามาก็
มิใช่ใคร  ยายหลานสาวตัวดีของเค้านั่นเอง
       
“ท่านแม่ อ้าว! ท่านลุงเอวิเดสก็ออยู่ด้วย ถวายบังคมเพคะ”เสียงทักอย่างสดใสร่าเริงมาจากคนที่พึ่งเปิดประตู
“ไม่ต้องมากพิธีหรอกหลานข้า ว่าแต่นี่เจ้าเก็บของเสร็จแล้วรึ” คนเป็นลุงยิ้มน้อยก่อนจะถามขึ้น     
“เพคะ  หม่อมชั้นจะมาลา” คราวนี้เสียงของคนตอบอ่อนลง และดูก็รู้ว่าพยายามไม่สบตากลับแม่ตัวเอง
บุรุษเพียงหนึ่งเดียวเมินหน้าไปมอง ยังน้องสาวจอมดื้อที่ตอนนี้กำลังกลั้นน้ำตาสุดฤทธิ์
                เห็นแล้วเกือบต้องปล่อยก๊าก ถ้าไม่ติดเสียภาพพจน์ละนะ
       
        “ท่านลุง ข้าขอกอดหน่อย” ร่างเล็กไม่ทันฟังคำตอบก็กระโดดกอดหมับ
        จนคนตัวโตยิ้มออก กับความน่าเอ็นดูของหลานสาวต่างสายเลือดคนนี้
“อ้าวท่านแม่ หายไปไหน” หญิงที่โผกอด มองซ้ายมองขวาด้วยความฉงนก่อนทำท่าจะเดินตามหา แต่ยังไม่ทัน
        ไปไหน คนตัวโตก็รั้งไว้เสียก่อน
         
        “ปล่อยนางไปเถอะ คาเรน”เสียงนุ่มๆที่เอ่ยเป็นเชิงบังคับแกมขอร้อง     
      “แต่” อีกสตรีก็ไม่แพ้กันขัดขึ้นทันทีที่ฟังจบ       
        “นางยังไม่พร้อม” เหตุผลจะฟังขึ้นหรือไม่ขึ้นก็ตามแต่มันก็ทำให้คนหัวรั้น หยุดได้
          ก่อนจะตอบตกลงเสียงอ่อยๆ  “ก็ได้เพคะ ท่านลุง”
    “งั้นข้าว่าเจ้ารีบไปเถอะ เดี๋ยวจะไปถึงไม่ทัน” คนชนะรีบแสดงอาการเป็นห่วงขึ้นมาทันใด       
    “เพคะ” คาเรนถอนสายบัวงามๆ ทีนึง ก่อนทำท่าจะวิ่งออกไป เสียงของคนสูงศักดิ์ก็ดังไล่หลังมา
    “คาเรน จำเอาไว้นะ ถ้าพี่ชายของเจ้าไม่ยอมรับเจ้า กลับมาที่นี่นะ กลับมาที่บ้านหลังนี้ของเจ้า ที่นี่เดมอสต้อน
รับเจ้าเสมอนะ”    “เพคะ ท่านลุง” ร่างของสตรีผู้นั้นไม่หันกลับ เดินตัวตรงออกไป 
      แต่ไหล่บางนั่นกับสั่นระริก เฮ้อ เหมือนจริงๆ เหมือนกับลูน่า ไม่เคยยอมรับความอ่อนแอ ภายนอกทำตัวแข็ง
อย่างเหล็กกล้า แต่ใครละจะรู้ ว่าข้างไนอ่อนยวบราวกับสำลี
                                   
                                                    ข้าหวังว่าเจ้าจะสมหวัง หลานข้า  คาเรน
       
                                                                     
        “เจ้าคิดจะไปอย่างนั้นรึ” คนสูงศักดิ์กลั้นใจถามคนต่ำศักดิ์กว่า ถึงแม้ว่านางจะรู้อยู่แก่ใจแต่ก็ยังอยากจะถาม
        “เพคะ หม่อมชั้นต้องการจะไปหาท่านพี่” ร่างบางเอ่ยเสียงเรียบ แต่นัยน์ตาสีเลือดหมูกลับฉายประกายวาบ
        “แล้วท่านพี่ของเจ้าเข้าใจเจ้าแล้วงั้นรึ” ถ้าคิดจะรั้ง ก็รั้งได้ แต่ไม่รั้ง ที่ถามไม่ใช่จะไม่ให้ไป แต่เป็นห่วง ห่วง
      เด็กคนนี้เหลือเกิน ในระหว่างคนอายุมากว่ายังจมอยู่กับห้วงความคิด จำเลยผู้ขอก็ยังชั่งใจกับคำถามนั้น
      จริงสิ.......ท่านพี่ไม่ได้ยอมรับเรา แต่ทำไมเราถึงยังดันทุรัง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็จะต้องไป
      “คงไม่เข้าใจหรอกเพคะ แต่ถึงอย่างไรหม่อมชั้นก็จะไป” เสียงตอบฉะฉานทันทีที่ตัดสินใจเสร็จ
      “แล้วแม่ของเจ้าคนนี้หล่ะ เจ้าก็คงจะทิ้งไปสินะ” ร่างสูงเอ่ยน้ำเสียงตัดพ้อ ที่ทำให้อีกคนใจสั่น
            “โธ่ท่านแม่ ถึงท่านแม่จะไม่ไช่แม่แท้ๆของหม่อมชั้น แต่หม่อมชั้นก็รัก ท่านเหมือนแม่แท้ๆนะเพคะ”
        อีกสตรียังพยายามหว่านล้อมเต็มที่ ทำไมจะไม่รักละ ท่านรักข้าขนาดนี้ ข้ารักท่านจะตายไป.....
         
      “เฮ้อลูกคนนี้ถ้าคิดจะไปยังไงก็ห้ามไม่ได้สินะ เอาเถอะ เจ้าไปเถอะ” อีกคนก็เอ่ยเหมือนตัดใจ
“จริงนะเพคะ” หญิงเจ้าของคำขอยิ้มจนแก้มแทบปริแถมยังกระโดดกอดคนที่มีศักดิ์เป็นมารดาอย่างไม่กลัวเสีย
มารยาทอีกจนร่างสูงต้องถอนหายใจกับความไร้เดียงสาของคนตรงหน้า น่าสงสาร ไม่ผิดเลยแท้ๆแต่กับต้องรับ
เคราะห์ “งั้นหม่อมชั้นไปเก็บของก่อนนะเพคะ” เสียงจากคนที่สุขจนแทบจะหยุดยิ้มไม่ได้ 
“จ๊ะไปเถอะ” ส่วนอีกนารีก็เพียงแต่ตอบรับเบาๆกับรอยยิ้มบางๆเท่านั้น
        พอร่างเล็กก้าวพ้นห้อง คนเป็นมารดาก็ถอนหายใจหนึ่งทีก่อนจะกระตุกยิ้มที่มุมปาก
“ท่านพี่ ไฉนจะต้องหลบละเพคะ นึกว่าน้องไม่รู้หรอ” สิ้นคำพูดเรียบๆ ที่เล่นเอาคนที่หลบอยู่สะดุ้งเฮือก
ก่อนจะก้าวออกมาช้าๆ “ทำไมถึงปล่อยไปละลูน่า” เสียงของผู้ที่เข้ามาใหม่เอ่ยถาม
  “ก็นางอยากไป” คนตอบก็ตอบสั้นๆอย่างน่าจับไปตี 
“แต่พันธะสัญญานั่นยังอยู่ไม่ใช่รึไง” เจ้าปีศาจยังคงซักต่อ
  “โธ่ ท่านพี่เอวี่ นางน่าสงสารออก ปล่อยนางไปดีกว่า” แม้เสียงจะพยายามดัดให้ร่าเริง แต่ความเศร้าลึกที่แฝงอยู่
มีหรือว่าบุรุษข้างๆจะไม่รู้
      “ลูน่าอย่าหลอกใจเจ้าเองดีกว่า เจ้าเป็นน้องพี่ ทำไมพี่จะดูไม่ออกว่าเวลาไหนเจ้ามีความสุข เวลาไหนเจ้าเศร้า”
“ข้าหลอกท่านพี่ไม่ได้จริงๆสินะ” น้ำเสียงสั่นเครือที่ถ้าไม่ไช่คนในครอบครัว คงไม่มีทางรู้หรอกว่า
                                                            เจ้าหญิงปีศาจ
                                                        ราชินีแห่งมูนซิตี้ 
                                            คนอย่าง ลูน่า เกรเดเวล ราชินีจันทรา
                                                          จะอ่อนไหว
                                              ไม่ว่าจะตั้งกำแพงสักเพียงไร
                                         
                                      ปีศาจก็ยังคงมีหัวใจอยู่วันยังค่ำนั่นแหละ
      คนเป็นพี่ส่ายหน้าช้าๆกับความรั้นกับน้องสาวคนนี้ ไพล่ไปนึกถึงวันแรกที่เด็กนั่นมาที่นี่
            เด็กที่หัวรั้นไม่ผิดกับน้องสาวเค้าสักนิด ของตอบแทนที่นางสัญญากับลูน่า
เพื่อให้ช่วยชีวิตพี่ชายเพียงคนเดียวของตนเอง เค้ายังจำได้ดี คำประกาศกร้าวจากพี่ชายของนาง
คำกล่าวหาที่นางไม่คิดจะตอบโต้สักนิด คิดแล้วสงสารขึ้นมาจับใจ ในเมื่อโชคชะตาพาให้พานพบกันอีกครั้ง
                                                    ข้าก็คงทำได้แค่ขอให้เจ้าโชคดี
                                         
                                          คาเรน  เกรเดเวล  เดอะ  ปริ๊นเซส  ออฟ  เดมอส
             
                            หลานสาวหัวรั้นขอข้า    คนที่มีเสียงหัวเราะที่ปนกับความเศร้าเสมอ 
                   
                                                                       
                                                                          หรือ
                                         
                                              คาเรน  ธันเดอร์  เดอะ  ไนท์  ออฟ  ไนล์
       
                                                หญิงสาวผู้มีพันธะสัญญากับปีศาจ 
                            ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร ข้าขอให้เจ้าได้พบกับความสุขจิงๆเสียทีเถอะ
        ปัง! เสียงประตูเปิด เรียกสติที่กำลังหวนนึกถึงความหลังของเจ้าปีศาจ กลับมาอีกครั้ง แถมคนที่เข้ามาก็
มิใช่ใคร  ยายหลานสาวตัวดีของเค้านั่นเอง
       
“ท่านแม่ อ้าว! ท่านลุงเอวิเดสก็ออยู่ด้วย ถวายบังคมเพคะ”เสียงทักอย่างสดใสร่าเริงมาจากคนที่พึ่งเปิดประตู
“ไม่ต้องมากพิธีหรอกหลานข้า ว่าแต่นี่เจ้าเก็บของเสร็จแล้วรึ” คนเป็นลุงยิ้มน้อยก่อนจะถามขึ้น     
“เพคะ  หม่อมชั้นจะมาลา” คราวนี้เสียงของคนตอบอ่อนลง และดูก็รู้ว่าพยายามไม่สบตากลับแม่ตัวเอง
บุรุษเพียงหนึ่งเดียวเมินหน้าไปมอง ยังน้องสาวจอมดื้อที่ตอนนี้กำลังกลั้นน้ำตาสุดฤทธิ์
                เห็นแล้วเกือบต้องปล่อยก๊าก ถ้าไม่ติดเสียภาพพจน์ละนะ
       
        “ท่านลุง ข้าขอกอดหน่อย” ร่างเล็กไม่ทันฟังคำตอบก็กระโดดกอดหมับ
        จนคนตัวโตยิ้มออก กับความน่าเอ็นดูของหลานสาวต่างสายเลือดคนนี้
“อ้าวท่านแม่ หายไปไหน” หญิงที่โผกอด มองซ้ายมองขวาด้วยความฉงนก่อนทำท่าจะเดินตามหา แต่ยังไม่ทัน
        ไปไหน คนตัวโตก็รั้งไว้เสียก่อน
         
        “ปล่อยนางไปเถอะ คาเรน”เสียงนุ่มๆที่เอ่ยเป็นเชิงบังคับแกมขอร้อง     
      “แต่” อีกสตรีก็ไม่แพ้กันขัดขึ้นทันทีที่ฟังจบ       
        “นางยังไม่พร้อม” เหตุผลจะฟังขึ้นหรือไม่ขึ้นก็ตามแต่มันก็ทำให้คนหัวรั้น หยุดได้
          ก่อนจะตอบตกลงเสียงอ่อยๆ  “ก็ได้เพคะ ท่านลุง”
    “งั้นข้าว่าเจ้ารีบไปเถอะ เดี๋ยวจะไปถึงไม่ทัน” คนชนะรีบแสดงอาการเป็นห่วงขึ้นมาทันใด       
    “เพคะ” คาเรนถอนสายบัวงามๆ ทีนึง ก่อนทำท่าจะวิ่งออกไป เสียงของคนสูงศักดิ์ก็ดังไล่หลังมา
    “คาเรน จำเอาไว้นะ ถ้าพี่ชายของเจ้าไม่ยอมรับเจ้า กลับมาที่นี่นะ กลับมาที่บ้านหลังนี้ของเจ้า ที่นี่เดมอสต้อน
รับเจ้าเสมอนะ”    “เพคะ ท่านลุง” ร่างของสตรีผู้นั้นไม่หันกลับ เดินตัวตรงออกไป 
      แต่ไหล่บางนั่นกับสั่นระริก เฮ้อ เหมือนจริงๆ เหมือนกับลูน่า ไม่เคยยอมรับความอ่อนแอ ภายนอกทำตัวแข็ง
อย่างเหล็กกล้า แต่ใครละจะรู้ ว่าข้างไนอ่อนยวบราวกับสำลี
                                   
                                                    ข้าหวังว่าเจ้าจะสมหวัง หลานข้า  คาเรน
       
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น