ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    การเมืองหมาๆ

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3 นายกหมา ๆ ภาค 2

    • อัปเดตล่าสุด 19 ก.ย. 49


    ฉบับที่แล้วผิดพลาดไปเยอะ ผมอยู่บ้านนอก ต้นฉบับอยู่กรุงเทพฯ รูปอยู่ทางหนึ่ง เรื่องอยู่ทางหนึ่ง จึงตกไปหลายอย่าง รวมทั้งสุภาษิตประจำวัน
           
           วันนี้เลยต้องขอยกยอด ด้วยสุภาษิตหมาๆ ปิดหัวปิดท้ายนะครับ
           
           “I like pigs. Dogs look up to us. Cats look down on us. Pigs treat us as
           equals.”
           “ข้าพเจ้าชอบหมู หมาบูชามนุษย์ แต่แมวดูถูกเรา หมูถือว่ามันกับเราเท่าเทียมกัน” Sir Winston Churchill
           
           วินสตัน เชอร์ชิล คือนายกหมาๆ ที่เราจะเขียนถึงในฉบับนี้
           
           เป็นรัฐบุรุษที่คนอังกฤษเชิดชูบูชา ถือว่าเป็นยอดคนของแผ่นดินจนกระทั่งทุกวันนี้ ชื่อเสียงและประวัติของเชอร์ชิลชักจะเลือนหายไปจากความทรงจำและการเล่าเรียนของประเทศและมหาวิทยาลัยในประเทศไทย ซึ่งหายใจเข้าออกเป็นเดวิด เบ็คแคม ไมเคิล โอเวน ฯลฯ
           มีผู้ที่รักใคร่ชอบพอโทรมาติงว่า ทำไมผมชักจะเขียนสะเปะสะปะ ไม่มีอะไรจะเขียนแล้วหรือ ถึงได้หันมาเขียนเรื่องหมาๆ เดี๋ยวก็จะโดนด่าว่าเป็นนักเขียนหมาๆหรอก เชิญครับ ด้วยความยินดี บางคนก็ถามว่าผมมีวัตถุประสงค์ซ่อนเร้นอะไรหรือ กำลังจะเล่นงานใคร ไม่มีเลยครับ เขียนเล่นสนุกๆ ให้อ่านเล่นสนุกๆเหมือนกัน หากไม่เป้นที่สบอารมณ์ทำให้ท่านผู้ใดโมโหโกรธา ก็โปรดให้อภัยด้วย
           
           ผมเองเจียมตัวว่าเป็นครูสอนรัฐศาสตร์ที่ล้มเหลว ยิ่งทุกวันนี้มีผู้เรียนผู้จบรัฐศาสตร์กันมากขึ้น ได้ปริญญาโทปริญญาเอกกันเต็มบ้านเต็มเมือง แต่แผ่นดินการเมืองไทยกลับยิ่งต่ำลงๆ ผมเลยไม่อยากแนะนำให้เราทำการเรียนการสอนรัฐศาสตร์กันแบบทุกวันนี้ เสียดายว่าหมดเปลืองงบประมาณไปเปล่าๆปลี้ๆ สู้เอาไปเรียนวิชาหมาๆ หรือวิชาเลี้ยงหมาสอนหมา หรือเขียนการ์ตูนหมาเสียยังจะได้ประโยชน์มากกว่า
           
           ความจริง การเขียนหนังสือแบบล้อเลียนหรือประชดประชันการเมืองที่เรียกว่า political satire ไม่ค่อยจะมีการเรียนการสอน หรือการเขียนกันในเมืองไทย ในต่างประเทศ ยิ่งเจริญก็ยิ่งมีการล้อเลียนการเมืองมาก ทั้งขำทั้งขัน ทั้งลึกซึ้งแหลมคม ผู้เขียนก็ไม่จำเป็นต้องเรียนรัฐศาสตร์ ตัวอย่างที่พอจะเห็นก็คือผู้จัดกวนทุกวันนี้ ซึ่งอาจจะเป็นความหวังใหม่ political satire ชิ้นล่าสุดที่ผมเห็นว่าดีมากๆ ได้แก่” ทักษินย้ายพรรค” ของรังสรรค์ ธนะพรพันธุ์ ที่ทำนายอวสานของ”พรรคไทยลวงไทย”
           
           ถึงอย่างไร ผมเชื่อว่าเมืองไทยเรายังมียักษ์ใหญ่อยู่ 2 คน ซึ่งไม่น้อยหน้ากว่าชาติใดๆ นั่นก็คือ ประยูร จรรยาวงศ์ กับ ผู้ใหญ่ มา ทุ่งหมาเมิน หือ ชัย ราชวัตร เสียดายที่ชัย ราชวัตรไม่ได้เขียนการ์ตูนหมาๆ แต่เขียนถึงประเทศที่แม้แต่หมาก็ยังเมิน ซึ่งไม่น่าจะใช่ประเทศไทย เพราะประเทศไทย แม้แต่หมาก็ยังไม่อดตาย ทั้งป. จรรยาวงศ์และ ชัย ราชวัตร เป็นราชาการ์ตูน
           
           การล้อเลียนหรือประชดประชันการเมืองมีทั้งที่เป็นบทความ เป็นเรื่องสั้น เรื่องยาว เป็นการ์ตูนมีมากว่าร้อยปีแล้ว และนับวันจะมากและดีขึ้น และอย่าได้แปลกใจเลยว่าหมาได้กลายเป็นตัวชูโรงสำคัญ ฝรั่งถือว่าหมาเป็นเพื่อนมิใช่เป็นสัตว์เลี้ยง จึงดูแลและยกย่องหมาดีกว่าพวกเรา พฤติกรรมของหมา ก็ไม่ต่างอะไรกับพฤติกรรมของคน คือมีทั้งดีทั้งเลว อะไรที่หมาทำเลวก็ถูกนำมาล้อเลียน อะไรที่หมาทำดีก็นำมายกย่อง ไม่เหมือนกับเราที่ไม่เห็นความดีของหมาเสียเลย ทำอะไรไม่สบอารมณ์ ก็ด่าว่าเลวยิ่งกว่าหมา ทั้งๆที่ไม่รู้หรอกว่าหมาเลวตรงไหน
           
           วินสตัน เชอร์ชิลเป็นรัฐบุรุษที่ได้รับการยกย่องว่าเหมือนหมา
           
           ผมไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนขนานนามหมาๆให้กับเชอร์ชิล แต่คนที่พูดถึงเชอร์ชิลเสมอๆโดยไม่ยอมออกชื่อก็คือ โจเซฟ สตาลิน จอมเผด็จการโซเวียต ผมไม่อยากให้พวกเราลืมว่า ในสงครามโลกครั้งที่ 2 โซเวียตรัสเซีย อังกฤษ อเมริกา กอดคอเป็นพันธมิตรกันทำสงครามต่อสู้กับฮิตเลอร์ ญี่ปุ่น และอิตาลี แถวๆกลางเมืองลอนดอนจะมีรูปปั้นทองแดงของประมุข 3 ประเทศนั่งโอบกันอยู่ นักท่องเที่ยวจากเมืองไทยเดินผ่านไปผ่านมาก็ไปนั่งลงข้างๆสตาลิน รูสเวลส์กับ เชอร์ชิลชักรูปเป็นที่ระลึก โดยไม่เฉลียวใจว่า นี่คือมหามิตร เหตุไฉนหลังสครามจึงมาหลอกให้เรารบกับคอมมิวนิสต์จะเป็นจะตาย หมาแท้ๆ!
           
           สตาลินเรียกเชอร์ชิลว่าอย่างไร เขาเรียกว่า That English Bulldog หรือ หมาบุลด็อกอังกฤษตัวนั้น!
           
           ถ้าใครพูดถึง English Bulldog ละก้อ โปรดเข้าใจได้เลยว่าชื่นชม ชอบหรือยกย่อง เพราะนั่นหมายถึงหมาสายพันธุ์ที่คนอังกฤษนับถือ หรือหมายถึงวินสตัน เชอร์ชิล ผู้นำอังกฤษโรมรันกับเยอรมัน ป้องกันมิให้อังกฤษล่มจม ใช้อัจฉริยภาพและบุคลิกของยอดคนทำให้พันธมิตรยอมรับ รักษาขวัญและกำลังใจของอังกฤษไว้ได้ หากอังกฤษแพ้เสียก่อนเหมือนฝรั่งเศส ใครจะรู้ว่าอเมริกันจะไม่หมดกำลังใจถอยไปก่อนที่จะมีปรมาณู กล่าวกันว่า หากมิใช่เชอร์ชิล อังกฤษคงจะไม่ยืนหยัดอย่างนั้น
           
           เชอร์ชิลมีความสามารถยอดเยี่ยมในการปลุกใจผู้ฟังไม่ให้ท้อถอย ครั้งหนึ่งเขาพูดในสภาผู้แทน ซึ่งกำลังขวัญหายกับสงครามว่า I have nothing to offer but blood, toil, tears, and sweat. ข้าพเจ้าไมมีอะไรจะให้ นอกจากเลือด แรงกาย น้ำตา และหยาดเหงื่อ.. We shall not fail or falter; we shall not weaken or tire. Neither the sudden shock of battle nor the long-drawn trials of vigilance and exertion will wear us down. Give us the tools and we will finish the job เราจะไม่ล้มเหลว ไม่ล้มคว่ำ เราจะไม่เหน็ดเหนื่อย และไม่อ่อนแอ ไม่ว่าความโหดของการรบ ความยืดยาวของการต่อสู้อย่างทรหดและสุดกำลัง ก็ไม่สามารถสยบเราได้ จนกว่าเราจะทำหน้าที่เสร็จ...
           
           ความทรหดอดทน การดำรงความมุ่งหมาย และการกัดไม่ปล่อย คือสัญลักษณ์ของหมาบุลด็อก เหนือกว่าสัญลักษณ์คู่ประเทศอังกฤษคือสิงโต เขาจึงยกย่องเชอร์ชิลเช่นนั้น!
           
           อีกไม่นานคงจะมีการศึกษาเปรียบเทียบบทบาทของแบลร์กับเชอร์ชิลในเรื่องที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์กับอเมริกา แม่ของเชอร์ชิลเป็นอเมริกัน เชอร์ชิลมีศรัทธาในความเป็นอเมริกันอย่างยิ่ และนอเมริกันก็ยกย่องนิยมเขาอย่างจริงใจ ในสงครามเขาเปรียบเสมือนผู้นำคนหนึ่งของอเมริกา เชอร์ชิลบอกว่า คนอเมริกันนี่ประหลาด อาจจะเริ่มต้นด้วยความงี่เง่าผิดพลาดอยู่เสมอ แต่เมื่อจนตรอกไม่มีทางเลือกแล้ว การตัดสินใจครั้งสุดท้ายของอเมริกันมักจะไม่ผิด ผมอยากให้เชอร์ชิลวิเคราะห์จอร์จ บุช ว่าเป็นหมาบ้าของชาวอังกฤษจริงหรือไม่
           
           เชอร์ชิลอาจจะเปนคนเดียวในโลกที่เป็นนักรบ นักประพันธ์และนักการเมืองที่ยิ่งใหญ่ เขาเคยเข้าต่อสู้อย่างฉกาจเช่นเดียวกับธีโอดด รูสเวลส์ของอเมริกา เขาได้รับรางวัลโนเบล ทางวรรณคดี ด้วยงานเขียนและบทเรียนทางประวัติศาสตร์ที่ล้ำลึก และถ้ามิได้เขาเป็นนายกอังกฤษในสงครามโลกแล้ว อนาคตของโลกปัจจุบันอาจจะมิเป็นเช่นนี้ ครั้นพิชิตสงครามเสร็จ แทนที่ประชาชนอังกฤษจะให้รางวัลเขา กลับไปลงคะแนนให้พรรคแรงงานบรรพบุรุษของแบลร์เขี่ยเขาจนตกเก้าอี้นายกรัฐมนตรี
           
           แต่เชอร์ชิลก็อยู่ได้อย่างสง่าสงามและไม่สดุ้งสะเทือนสมกับทีเขาเป็นหมาบุลดอกอังกฤษที่แท้จริง
           
           ****
           ภาษิตหมาประจำฉบับ My goal in life is to be as good of a person my dog already thinks I am. เป้าหมายในชีวิตของข้าพเจ้าคือการดำรงตนเป็นคนดี ให้สมกับที่หมาของข้าพเจ้าคิดว่าข้าพเจ้าเป็นคนดี
           
    --Unknown
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×