นายทักษิณปกครองประเทศไม่ได้แล้ว! - นายทักษิณปกครองประเทศไม่ได้แล้ว! นิยาย นายทักษิณปกครองประเทศไม่ได้แล้ว! : Dek-D.com - Writer

    นายทักษิณปกครองประเทศไม่ได้แล้ว!

    ง่ะ++++++++++++

    ผู้เข้าชมรวม

    340

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    340

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  3 ส.ค. 49 / 02:50 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
             หลังจากโต้เถียงกันมาหลายเดือนว่าเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันรุ่งหรือทรุด บัดนี้เป็นที่ยอมรับทั่วกันทุกฝ่ายแล้วว่าเศรษฐกิจไทยกำลังทรุดหนักลงทุกที ทุกภาคส่วนธุรกิจของประเทศกำลังตกอยู่ในห้วงวิกฤตด้วยกันทั้งสิ้น
             
             รวมทั้งรัฐบาลที่กำลังถังแตกและกำลังจะอ้วกแตก แต่ยังฝืนตีหน้ารื่นยื่นความเท็จอยู่เหมือนเดิม
             
             นายทักษิณไปพูดที่หอการค้าไทย-จีนเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2549 ท่ามกลางเสียงขับไล่ “ท้าก…ษิณ ออกไป” และท่ามกลางใบปลิวขับไล่ว่อนที่ประชุม ยอมรับความจริงว่าเศรษฐกิจทรุดแล้ว
             
             จึงหวังว่าไอ้พวกหน้าม้าและสมุนบริวารคงจะไม่ฝืนโกหกพกลมอีกต่อไป เพราะถ้าใครบอกว่าดีก็เท่ากับตบหน้านายทักษิณนั่นเอง
             
             เศรษฐกิจไทยทรุดและจะหนักลงไปทุกทีจนกระทั่งแก้ไม่ไหว ปัญหาอยู่ตรงที่ใครเป็นต้นเหตุ? ทุกคนพูดตรงกันว่าการเมืองเป็นต้นเหตุ
             
             พวกในระบอบทักษิณพยายามบอกคนไทยว่าพวกว่างงานนอกรัฐธรรมนูญเป็นผู้ก่อเหตุ ในขณะที่ฝ่ายประชาชนกล่าวหาว่าเพราะการขายชาติ ปล้นชาติ การทุจริตคอร์รัปชั่น การเล่นพรรคเล่นพวก และการใช้อำนาจไม่เป็นธรรมของพวกรัฐบาลเถื่อนต่างหากที่เป็นต้นเหตุ จึงต้องไล่ออกไป
             
             ก็ว่ากันไป แต่ความจริงก็คือรัฐบาลเถื่อนชุดนี้ถูกกล่าวหาว่าขายชาติ ปล้นชาติ ทุจริตคอร์รัปชั่น เล่นพรรคเล่นพวก ใช้อำนาจไม่เป็นธรรม ปิดหูปิดตาประชาชน ลิดรอนสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนและประชาชน แต่ไม่ยอมชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาซึ่งมีรายละเอียดถึง 40 ข้อเลย
             
             พอเขารุกไล่ตรวจสอบก็พาลยุบสภา แล้วให้มีการเลือกตั้งโดยขัดรัฐธรรมนูญ จนเป็นวิกฤตมาถึงทุกวันนี้ นี่คือความจริงที่คนไทยทุกคนรู้ดี
             
             มิหนำซ้ำยังแบ่งแยกคนไทยออกเป็นสองพวก คือพวกระบอบทักษิณกับพวกนอกรัฐธรรมนูญ ซึ่งแท้จริงก็คือคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
             
             หนักขึ้นกว่านั้นคือแผนการอุบาทว์ที่ต้องการนำระบอบทักษิณเข้ามาแทนที่ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และจะทำให้พระมหากษัตริย์เป็นแค่สัญลักษณ์เท่านั้น
             
             เป็นเหตุให้ผู้ที่มีความจงรักภักดีรวมตัวกันก่อเป็นกระแสเสื้อเหลืองครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพื่อแสดงจุดยืนว่าไม่เอาระบอบทักษิณ และยืนอยู่ข้างระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
             
             ดังนั้นการเมืองโดยระบอบทักษิณนี้จึงเป็นต้นเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศพังพินาศป่นปี้ย่อยยับ
             
             ล่าสุดคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติประจำภาคพื้นเอเชียก็ได้ออกจดหมายเปิดผนึกถึงนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย คนซึ่งระบอบทักษิณจะปลุกปั้นให้เป็นเลขาธิการสหประชาชาติ โดยได้ใช้จ่ายเงินทองของประเทศมากมายมหาศาลเพื่อการหาเสียงไปแล้ว
             
             จดหมายเปิดผนึกดังกล่าวได้ทวงถามคุณสมบัติของคนที่จะเป็นเลขาธิการสหประชาชาติว่าต้องมีคุณสมบัติในการพิทักษ์ปกป้องสิทธิมนุษยชน และเทิดทูนสิทธิเสรีภาพของประชาชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
             
             โดยจดหมายเปิดผนึกดังกล่าวระบุว่าทั้งที่ได้ใช้ความพยายามมาเป็นเวลานานในการรวบรวมข้อมูลและค้นคว้าหาหลักฐาน ปรากฏว่าไม่พบคุณสมบัติที่ว่านี้เลย! แม้กระทั่งการเป็นภาคีสิทธิมนุษยชนก็ยังไม่ยอมเป็น
             
             และยังย้ำด้วยว่าการละเมิดสิทธิมนุษยชน การอุ้มฆ่าประชากรของตนเอง การลิดรอนสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนและประชาชนเกิดขึ้นมากมาย อย่างนี้แล้วหากไปเป็นเลขาธิการสหประชาชาติก็จะทำให้เกิดความเสียหายแก่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนประจำภาคพื้นเอเชีย
             
             เพราะจะไปทำความเสียหายให้เกิดขึ้นแก่ประชาคมโลกอย่างใหญ่หลวง
             
             เห็นหรือยังว่าความไม่เชื่อถือต่อระบอบทักษิณนั้นขยายตัวไปกว้างขวางขนาดไหน และเป็นที่รู้เห็นของประชาคมโลกขนาดไหน นี่ขนาดองค์กรของสหประชาชาติแท้ ๆ ยังตำหนิติเตียนแบบไม่ไว้หน้า ทำให้คนไทยต้องหน้าแตกกันทั้งประเทศ ยังจะมีหน้ามาพูดอีกหรือว่าคนอื่นทำให้เสียความเชื่อมั่น
             
             ระบอบทักษิณนั่นแหละที่ทำให้ประเทศไทยสูญเสียความเชื่อมั่นและทำให้ประชาคมโลกดูหมิ่นเหยียดหยามประเทศไทยและคนไทย
             
             ที่นายทักษิณพูดจาแขวะว่าถ้ากระบวนการยุติธรรมไม่น่าเชื่อถือก็จะเป็นอันตรายมากนั้น เป็นการสะท้อนความรู้สึกลึก ๆ ให้เห็นอย่างชัดเจนอีกครั้งหนึ่งว่า
             

             ข้อแรก
      นายทักษิณสำนึกรับผิดชอบในกระแสพระราชดำรัสและพระราชประสงค์ที่พระราชทานมาหรือไม่ เพราะยังคงปัดความผิดไปให้สถาบันอื่นและคนอื่นทั้งหมด
             
             ข้อสอง คำตัดสินของศาลที่ให้จำคุก กกต. และที่หมายเรียกทนายความส่วนตัวไปไต่สวนเรื่องดูหมิ่นศาลนั้น ทำให้เกิดความหวั่นไหวในหัวใจจนไม่อาจคุมอารมณ์ให้ปกติต่อไปหรือไม่
             
             ข้อสาม นายทักษิณคิดอะไรเกี่ยวกับสถาบันศาล ทั้ง ๆ ที่รู้ดีอยู่แล้วว่าพระเจ้าอยู่หัวทรงขอร้องให้สถาบันศาลเข้ามาแก้ไขปัญหาวิกฤตของชาติและเป็นความหวังความเชื่อของคนไทยทั้งประเทศและของประชาคมโลกด้วย แล้วทำไมนายทักษิณจึงพูดแขวะว่ากระบวนการยุติธรรมไม่น่าเชื่อถือ
             
             เพราะถ้าจะพูดเช่นนี้ก็ต้องพูดว่ากระบวนการยุติธรรมเฉพาะในส่วนของรัฐตำรวจที่เป็นผลิตผลของระบอบทักษิณนั้นเป็นอันตรายและทำให้ขาดความเชื่อถือ ไม่ใช่ส่วนที่เป็นสถาบันศาล ดังตัวอย่างหนังสือเปิดผนึกของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาตินั้น
             
             ทำไมจึงต้องไปแขวะกระบวนการยุติธรรมว่าทำให้เกิดความไม่เชื่อถือ คุณคิดอะไรกับพระเจ้าอยู่หัวและสถาบันศาล?
             
             ภายในประเทศหมดความเชื่อถือไปแล้ว ไปไหนก็มีแต่คนขับไล่ไสส่ง ขณะนี้ประชาคมโลกโดยองค์กรสำคัญของสหประชาชาติก็ทำจดหมายเปิดผนึกประจานไปทั้งโลกแล้ว ไปไหนก็ต้องเอาปี๊บคลุมหัว
             
             นายทักษิณจึงไม่สามารถปกครองบ้านเมืองได้อีกต่อไปแล้ว! นี่คือสิ่งที่จะต้องรู้ตัวเองและต้องสำนึกรับผิดชอบต่อประเทศชาติด้วย.

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×