หลังจากโต้เถียงกันมาหลายเดือนว่าเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันรุ่งหรือทรุด บัดนี้เป็นที่ยอมรับทั่วกันทุกฝ่ายแล้วว่าเศรษฐกิจไทยกำลังทรุดหนักลงทุกที ทุกภาคส่วนธุรกิจของประเทศกำลังตกอยู่ในห้วงวิกฤตด้วยกันทั้งสิ้น รวมทั้งรัฐบาลที่กำลังถังแตกและกำลังจะอ้วกแตก แต่ยังฝืนตีหน้ารื่นยื่นความเท็จอยู่เหมือนเดิม
นายทักษิณไปพูดที่หอการค้าไทย-จีนเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2549 ท่ามกลางเสียงขับไล่ “ท้าก
ษิณ ออกไป” และท่ามกลางใบปลิวขับไล่ว่อนที่ประชุม ยอมรับความจริงว่าเศรษฐกิจทรุดแล้ว
จึงหวังว่าไอ้พวกหน้าม้าและสมุนบริวารคงจะไม่ฝืนโกหกพกลมอีกต่อไป เพราะถ้าใครบอกว่าดีก็เท่ากับตบหน้านายทักษิณนั่นเอง เศรษฐกิจไทยทรุดและจะหนักลงไปทุกทีจนกระทั่งแก้ไม่ไหว ปัญหาอยู่ตรงที่ใครเป็นต้นเหตุ? ทุกคนพูดตรงกันว่าการเมืองเป็นต้นเหตุ
พวกในระบอบทักษิณพยายามบอกคนไทยว่าพวกว่างงานนอกรัฐธรรมนูญเป็นผู้ก่อเหตุ ในขณะที่ฝ่ายประชาชนกล่าวหาว่าเพราะการขายชาติ ปล้นชาติ การทุจริตคอร์รัปชั่น การเล่นพรรคเล่นพวก และการใช้อำนาจไม่เป็นธรรมของพวกรัฐบาลเถื่อนต่างหากที่เป็นต้นเหตุ จึงต้องไล่ออกไป
ก็ว่ากันไป แต่ความจริงก็คือรัฐบาลเถื่อนชุดนี้ถูกกล่าวหาว่าขายชาติ ปล้นชาติ ทุจริตคอร์รัปชั่น เล่นพรรคเล่นพวก ใช้อำนาจไม่เป็นธรรม ปิดหูปิดตาประชาชน ลิดรอนสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนและประชาชน แต่ไม่ยอมชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาซึ่งมีรายละเอียดถึง 40 ข้อเลย
พอเขารุกไล่ตรวจสอบก็พาลยุบสภา แล้วให้มีการเลือกตั้งโดยขัดรัฐธรรมนูญ จนเป็นวิกฤตมาถึงทุกวันนี้ นี่คือความจริงที่คนไทยทุกคนรู้ดี มิหนำซ้ำยังแบ่งแยกคนไทยออกเป็นสองพวก คือพวกระบอบทักษิณกับพวกนอกรัฐธรรมนูญ ซึ่งแท้จริงก็คือคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
หนักขึ้นกว่านั้นคือแผนการอุบาทว์ที่ต้องการนำระบอบทักษิณเข้ามาแทนที่ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และจะทำให้พระมหากษัตริย์เป็นแค่สัญลักษณ์เท่านั้น เป็นเหตุให้ผู้ที่มีความจงรักภักดีรวมตัวกันก่อเป็นกระแสเสื้อเหลืองครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพื่อแสดงจุดยืนว่าไม่เอาระบอบทักษิณ และยืนอยู่ข้างระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ดังนั้นการเมืองโดยระบอบทักษิณนี้จึงเป็นต้นเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศพังพินาศป่นปี้ย่อยยับ ล่าสุดคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติประจำภาคพื้นเอเชียก็ได้ออกจดหมายเปิดผนึกถึงนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย คนซึ่งระบอบทักษิณจะปลุกปั้นให้เป็นเลขาธิการสหประชาชาติ โดยได้ใช้จ่ายเงินทองของประเทศมากมายมหาศาลเพื่อการหาเสียงไปแล้ว
จดหมายเปิดผนึกดังกล่าวได้ทวงถามคุณสมบัติของคนที่จะเป็นเลขาธิการสหประชาชาติว่าต้องมีคุณสมบัติในการพิทักษ์ปกป้องสิทธิมนุษยชน และเทิดทูนสิทธิเสรีภาพของประชาชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
โดยจดหมายเปิดผนึกดังกล่าวระบุว่าทั้งที่ได้ใช้ความพยายามมาเป็นเวลานานในการรวบรวมข้อมูลและค้นคว้าหาหลักฐาน ปรากฏว่าไม่พบคุณสมบัติที่ว่านี้เลย! แม้กระทั่งการเป็นภาคีสิทธิมนุษยชนก็ยังไม่ยอมเป็น และยังย้ำด้วยว่าการละเมิดสิทธิมนุษยชน การอุ้มฆ่าประชากรของตนเอง การลิดรอนสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนและประชาชนเกิดขึ้นมากมาย อย่างนี้แล้วหากไปเป็นเลขาธิการสหประชาชาติก็จะทำให้เกิดความเสียหายแก่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนประจำภาคพื้นเอเชีย
เพราะจะไปทำความเสียหายให้เกิดขึ้นแก่ประชาคมโลกอย่างใหญ่หลวง เห็นหรือยังว่าความไม่เชื่อถือต่อระบอบทักษิณนั้นขยายตัวไปกว้างขวางขนาดไหน และเป็นที่รู้เห็นของประชาคมโลกขนาดไหน นี่ขนาดองค์กรของสหประชาชาติแท้ ๆ ยังตำหนิติเตียนแบบไม่ไว้หน้า ทำให้คนไทยต้องหน้าแตกกันทั้งประเทศ ยังจะมีหน้ามาพูดอีกหรือว่าคนอื่นทำให้เสียความเชื่อมั่น
ระบอบทักษิณนั่นแหละที่ทำให้ประเทศไทยสูญเสียความเชื่อมั่นและทำให้ประชาคมโลกดูหมิ่นเหยียดหยามประเทศไทยและคนไทย
ที่นายทักษิณพูดจาแขวะว่าถ้ากระบวนการยุติธรรมไม่น่าเชื่อถือก็จะเป็นอันตรายมากนั้น เป็นการสะท้อนความรู้สึกลึก ๆ ให้เห็นอย่างชัดเจนอีกครั้งหนึ่งว่า
ข้อแรก นายทักษิณสำนึกรับผิดชอบในกระแสพระราชดำรัสและพระราชประสงค์ที่พระราชทานมาหรือไม่ เพราะยังคงปัดความผิดไปให้สถาบันอื่นและคนอื่นทั้งหมด
ข้อสอง คำตัดสินของศาลที่ให้จำคุก กกต. และที่หมายเรียกทนายความส่วนตัวไปไต่สวนเรื่องดูหมิ่นศาลนั้น ทำให้เกิดความหวั่นไหวในหัวใจจนไม่อาจคุมอารมณ์ให้ปกติต่อไปหรือไม่
ข้อสาม นายทักษิณคิดอะไรเกี่ยวกับสถาบันศาล ทั้ง ๆ ที่รู้ดีอยู่แล้วว่าพระเจ้าอยู่หัวทรงขอร้องให้สถาบันศาลเข้ามาแก้ไขปัญหาวิกฤตของชาติและเป็นความหวังความเชื่อของคนไทยทั้งประเทศและของประชาคมโลกด้วย แล้วทำไมนายทักษิณจึงพูดแขวะว่ากระบวนการยุติธรรมไม่น่าเชื่อถือ
เพราะถ้าจะพูดเช่นนี้ก็ต้องพูดว่ากระบวนการยุติธรรมเฉพาะในส่วนของรัฐตำรวจที่เป็นผลิตผลของระบอบทักษิณนั้นเป็นอันตรายและทำให้ขาดความเชื่อถือ ไม่ใช่ส่วนที่เป็นสถาบันศาล ดังตัวอย่างหนังสือเปิดผนึกของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาตินั้น
ทำไมจึงต้องไปแขวะกระบวนการยุติธรรมว่าทำให้เกิดความไม่เชื่อถือ คุณคิดอะไรกับพระเจ้าอยู่หัวและสถาบันศาล? ภายในประเทศหมดความเชื่อถือไปแล้ว ไปไหนก็มีแต่คนขับไล่ไสส่ง ขณะนี้ประชาคมโลกโดยองค์กรสำคัญของสหประชาชาติก็ทำจดหมายเปิดผนึกประจานไปทั้งโลกแล้ว ไปไหนก็ต้องเอาปี๊บคลุมหัว
นายทักษิณจึงไม่สามารถปกครองบ้านเมืองได้อีกต่อไปแล้ว! นี่คือสิ่งที่จะต้องรู้ตัวเองและต้องสำนึกรับผิดชอบต่อประเทศชาติด้วย.
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น