ตอนที่ 39 : Epilogue
Epilogue
ในที่สุด…
วันปิดเทอมของแบคฮยอนก็มาถึง!
หลังจากตั้งหน้าตั้งตานับถอยหลังรอตั้งแต่ยังไม่ทันจะได้เริ่มสอบจนกระทั่งสอบเสร็จ ในที่สุดวันที่แบคฮยอนรอคอยก็มาถึงจริงๆซักที...วันปิดเทอม ช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน ไม่ต้องปั่นรายงาน ไม่ต้องติวเข้มก่อนสอบ ไม่ต้องอดหลับอดนอนเพราะอ่านหนังสือไม่ทัน แบคฮยอนรอคอยเวลานี้มานานเหลือเกิน
อันที่จริงเขาสอบเสร็จมาเกือบอาทิตย์นึงแล้ว ทว่ายังต้องแก้รายงานส่งต่อจากนั้นอีก เพิ่งมีเวลาว่างจริงๆก็เมื่อวาน ก่อนหน้านั้นเคยคิดอยากชวนใครต่อใครไปเดินเที่ยว หาของอร่อยๆกินให้หนำใจ เพื่อเป็นการฉลองส่งท้ายให้กับภาระงานและความเหน็ดเหนื่อยตลอดระยะเวลาหนึ่งเทอมของเด็กปีหนึ่งหัวธรรมดาๆที่ได้พ้นผ่านไปแล้ว แต่พอเวลานั้นมาถึงจริงๆแบคฮยอนกลับไม่ได้ทำอะไรอย่างที่แพลนไว้เลยนอกจากการนอน…นอน…และนอนทั้งวัน!
หิวโหยช่วงเวลาพักผ่อน โหยหาความสบายจนไม่อยากลุกออกไปทำอะไรเลย แบคฮยอนเชื่อว่าหลายๆคนที่ผ่านการสอบไฟนอลมาก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน ดังนั้นเมื่อวานแบคฮยอนจึงนอนชดเชยให้กับตัวเองทั้งวัน..หากไม่นับรวมกับที่ต้องลุกไปหาอะไรใส่ท้องน่ะนะ
“พ พี่แบคฮยอนคะ”
เมื่อวานน่ะนอน แต่วันนี้น่ะมีกิจกรรมให้ทำ..
“บะ..โบมีจะไม่ตกลงไปใช่มั้ย ฮือออ”
นั่นคือการสอนน้องสาวปีนต้นไม้ คึคึ
“ถ้ากลัวความสูงก็อย่ามองลงไป มองแค่ข้างบนก็พอ”
“ไม่ให้มองข้างล่างแล้วตอนลงโบมีจะลงยังไงล่ะคะ!”
“มีเซฮุนยืนรอรับอยู่ทั้งคนไม่มีไรหรอกน่า ไม่ตกแน่นอน”
“แต่ว่า..กรี๊ดด!!!”
‘อร๊ายย!! คุณหนู!!’
แบคฮยอนก้มหน้าลงมองน้องสาวด้วยความตกใจ เมื่อกี้มือเธอลื่นออกจากกิ่งไม้ขนาดพอเหมาะมือ ส่งผลให้เท้าลื่นกิ่งไม้ใหญ่ที่เหยียบไปด้วย แต่เป็นโชคดีที่เธอไม่ร่วงตกลงไปให้เจ็บตัว ยังสามารถนอนเกาะเกี่ยวกิ่งไม้ใหญ่นั้นไว้ได้…ในท่าหมีโคอาลา
“ฮ่ะ ฮ่ะๆๆๆ”
แบคฮยอนขำน้องสาวจนตัวสั่น ทั้งสงสารทั้งเอ็นดู แต่เหนือสิ่งอื่นใดท่านอนคร่อมกอดกิ่งไม้ราวกับหวงแหนยิ่งกว่าหมีตัวน้อยนั้นมันช่างน่าขำสำหรับแบคฮยอนซะจริงๆ และเพราะแบคฮยอนเอาแต่หัวเราะไม่หยุด ชองโบมีถึงต้องเงยหน้าขึ้นมองค้อนพี่ชายอย่างแง่งอน เบะปากเหมือนจะร้องไห้ใส่ด้วย
“พี่แบคฮยอนใจร้าย ไม่ห่วงน้องแล้วยังมาหัวเราะเยาะอีกต่างหาก”
“ใครว่าไม่ห่วงล่ะ ที่ขำเพราะเธอน่ารักต่างหาก ฮ่ะๆ”
“ไม่ต้องเลยนะ โบมีไม่อยากปีนต่อแล้วอ่ะ โบมีกลัว”
“ครั้งแรกก็เสียวๆแบบนี้แหละ อีกนิดเดียวก็จะถึงพี่แล้ว ตามขึ้นมาเร็วๆเข้า” น้องสาวส่ายหน้าพรืด สีหน้าซีดเซียว ยังอกสั่นขวัญหายเพราะเกือบตกลงไปเมื่อกี้ไม่หาย รู้สึกคิดผิดที่เห็นดีเห็นงามกับคำชวนของพี่ชายตัวเล็ก ตอนแรกเธอคิดว่ามันคงไม่ใช่เรื่องยาก ในหนังในซีรีย์นางเอกเซี้ยวๆก็ปีนกำแพงปีนที่สูงกันเยอะไปเลยอยากลองทำดูบ้าง
แต่แล้วก็มารู้เมื่อได้ลงมือทำจริงๆว่ามันตรงกันข้ามทั้งหมด มันยากยิ่งกว่าฝึกกรีดอายไลน์เนอร์ครั้งแรก ยากยิ่งกว่าทำสีเล็บลายน่ารักๆซะอีก ไม่รู้ว่าพี่แบคฮยอนของเธอปีนขึ้นไปได้ยังไง ไวยิ่งกว่าลูกลิง แถมยังยืนบนกิ่งไม้ที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งเป็นที่ที่บอกให้เธอตามขึ้นไปด้วยท่าทางสบายๆ สีหน้าไม่บ่งบอกถึงอาการหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย
‘คุณหนูโบมี คุณแบคฮยอนรีบกลับกันลงมาเถอะค่ะ เดี๋ยวตกลงมาเจ็บเนื้อเจ็บตัวจะไม่คุ้มเอานะคะ’
‘นั่นสิคะ ถ้าคุณท่านรู้เข้าจะถูกดุเอานะคะ คุณแบคฮยอนพาน้องลงมาเถอะค่ะ’
‘แบคฮยอนลงมาได้แล้ว’
เสียงวิงวอนร้องบอกจากสาวใช้สองคนและปาร์คเซฮุนทำเอาแบคฮยอนยู่ปากอย่างหมดสนุก กอดอกพลางก้มลงมองชองโบมีที่ยังคงนอนกอดกิ่งไม้ห่างจากตนไปสองสามช่วงแขนขณะคิดพิจารณา
ใจหนึ่งอยากทำตามที่ทุกคนบอก แต่อีกใจก็ทักท้วงว่าเพิ่งปีนขึ้นมากันได้ไม่ถึงสิบนาทีจะให้ลงแล้วไม่สนุกเลย นานๆทีจะมีโอกาสได้ทำอะไรแบบนี้ เรียกว่าครึ่งปีที่ผ่านมาแทบไม่ได้ทำเลยก็ว่าได้ ไหนๆก็อาศัยช่วงที่ชานยอลคุยเล่นกับคุณท่านในบ้านแล้วก็น่าจะเอาให้สุดเลยสิ
‘แบคฮยอน พาโบมีลงมาได้แล้วนะก่อนที่พี่ชานยอลจะเข้ามาเห็น’
“เซฮุนบอกว่าวันนี้ชานยอลมีธุระมาคุยกับคุณท่านไม่ใช่หรอ ท่าทางจะนานด้วยนี่”
‘กันไว้ดีกว่าแก้ ถ้าแบคฮยอนดื้อแล้วถูกตีขาลายเราช่วยไม่ได้นะ’
“ชานยอลไม่ตี”
‘ถึงไม่ตีก็ต้องถูกดุแน่ ลงมาเร็ว’
“ฮื่อ..ก็ได้ โบมีลงเลย”
“แงงงง แล้วโบมีต้องลงยังไงล่ะคะ ลงไม่เป็น” น้องสาวโอดครวญ แบคฮยอนส่งสายตาให้เซฮุนเข้ามาช่วย เด็กหนุ่มไม่ได้ปีนขึ้นไปด้วย แต่ช่วยแนะนำวิธีลงว่าต้องปีนมาเหยียบกิ่งไม้กิ่งไหน ต้องจับลำต้นของมันไว้แน่นๆหรือต้องทำอะไรบ้าง และเมื่อเธออยู่ในระยะที่เอื้อมถึง เด็กหนุ่มก็เขย่งตัวรับน้องสาวลงมาให้ถึงพื้นโดยสวัสดิภาพ
“ขอบคุณนะคะ” น้องสาวขอบคุณพร้อมท่าทางเอียงอายนิดๆ แก้มขึ้นสีเลือดฝาด เขินความใจดีและความหล่อของปาร์คเซฮุน ที่มากกว่านั้นคือเธอเขินเสียงหัวเราะคิกคักชอบใจจากแบคฮยอนที่ยืนมองลงมาจากบนต้นไม้นั่น
“ไม่ต้องมาหัวเราะน้องเลยนะ ตัวเองน่ะรีบๆลงมาเลย”
แบคฮยอนแลบลิ้นใส่น้องสาว ตั้งท่าเหมือนจะกระโดดลงมาจนสาวใช้ร้องกรี๊ดห้ามเพราะตกใจและกลัวหลานคนโปรดของท่านหญิงจะตกลงมาแข้งขาหัก แต่ดูเหมือนพวกเธอจะถูกคุณหนูตัวแสบแกล้งให้แล้ว เพราะนอกจากแบคฮยอนจะไม่ได้กระโดดลงมาจริงๆแล้วยังยืนปิดปากขำพวกเธออีกต่างหาก
“คุณแบคฮยอน!”
“ฮ่ะๆๆๆ พวกพี่นี่ตลกดีจัง ผมไม่กระโดดลงไปหรอกน่าสูงขนาดนี้” ว่าแล้วค่อยๆปีนลงมาท่ามกลางสายตาลุ้นระทึกของทุกคน
“ระวังๆนะแบคฮยอน”
“สบายมาก” แม้ว่าท่าทางของเพื่อนจะดูคล่องแคล่วไม่น่าเป็นกังวลใดๆ แต่เซฮุนก็ไม่วายเข้าไปยืนรอรับอย่างใจจดใจจ่อด้วยความเป็นห่วงอยู่ดี
“ทำอะไรกัน”
“พี่ชานยอล! / คุณชาย!”
“พี่แบคฮยอนระวังค่ะ!!”
“เหวอ~”
“กรี๊ดดดดดดดดดด”
ร่างเล็กลอยดิ่งลงมาจากบนต้นไม้ต่อหน้าต่อตาทุกคน เขาร่วงลงมาพร้อมกับเสียงกรี๊ดตกใจของสาวๆที่ดังขึ้นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย เซฮุนอ้าแขนรอรับอย่างมุ่งมั่น แต่พอได้ยินเสียงพี่ชายตัวเองตะโกนมาจากด้านหลังว่าให้ถอยไป เด็กหนุ่มจึงหลบทางให้ และเป็นปาร์คชานยอลที่พุ่งเข้ามารับตัวแบคฮยอนไว้แทน
ตุ่บ!
ร่างเล็กตกลงสู่อ้อมแขนของชายหนุ่มในท่าอุ้มเจ้าสาวอย่างพอเหมาะพอเจาะ จากที่หลับตาปี๋ก็ค่อยๆหรี่ตามองคุณชายหน้าดุทีละข้าง และเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลานั้นชัดเจนเต็มๆสองตาแล้วแบคฮยอนรีบส่งยิ้มแห้งๆให้อย่างรู้ชะตาชีวิตตัวเองต่อจากนี้ทันที
“ต้องให้ถามอีกมั้ยว่าอายุเท่าไหร่แล้ว”
“แฮร่...”
“ว่างมากถึงขนาดที่ต้องปีนขึ้นไปบนต้นไม้เล่นเลยหรอ”
“ชานยอลไม่ดุแบคฮยอนน๊า…”
“ที่คุณยายบอกจะยกเลิกการเรียนมารยาทคงไม่ต้องแล้วมั้ง ปิดเทอมเป็นเดือนๆแบบนี้ควรจะเพิ่มเวลาเรียนเป็นจันทร์ถึงศุกร์เลยมากกว่า จะได้ไม่ต้องดื้อ”
“ไม่เอา..ไม่รังแกแบคฮยอนแบบนี้น๊าชานยอล”
“ก็นายดื้อ”
“ถ้าผมเอาเวลาว่างไปเรียนมารยาทหมดเราก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันนะ ชานยอลจะไม่ได้เห็นผมทั้งวัน พาไปเที่ยวก็ไม่สะดวก พาไปกินขนมก็ยาก จะออกไปไหนมาไหนด้วยกันก็ต้องหาเวลาให้ลำบาก และพอเปิดเทอมเราก็จะเจอกันแค่..อ๊ากก!” แบคฮยอนร้องลั่นเมื่อชานยอลแกล้งทำท่าจะอุ้มโยนเขาออกไปไกลๆ สองแขนเล็กกอดคอชายหนุ่มจนแน่น หน้าเหวอจนคนรอบข้างพากันหัวเราะขำ ไม่เว้นแม้แต่คนขี้แกล้ง
“แกล้งผมอีกแล้วนะ”
“ก็ปากดี หัวหมอแต่เรื่องแบบนี้”
“เวลาช่วยก็ช่วยเฉยๆได้มั้ยล่ะ ทำไมชอบดุเป็นของแถม ถ้าปล่อยให้เซฮุนช่วยรับผมแต่แรกเซฮุนไม่ดุผมแบบนี้หรอก ออกจะปลอบใจด้วยซ้ำเนาะ” เซฮุนยิ้มตอบแบคฮยอน คนตัวเล็กดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนแกร่งเพื่อให้ถูกปล่อยตัว หากแต่ชานยอลกลับยังอุ้มไม่ยอมปล่อย ไม่แคร์สายตาสาวใช้และน้องๆเลยสักนิด
“บอกกี่ครั้งแล้วว่าแขนเซฮุนไม่แข็งแรง”
“แขนตัวเองแข็งแรงมากเลยงั้นสิ”
“อุ้มลูกหมูได้ตั้งหนึ่งตัวถ้าไม่เรียกว่าแข็งแรง อยากจะเรียกอะไรก็แล้วแต่เถอะ”
“ชานยอล!” แบคฮยอนถลึงตาใส่คุณชายปากร้าย ได้ยินเสียงหัวเราะขำของทุกคนแล้วยิ่งดิ้นแรงเข้าไปใหญ่ แต่ไม่ว่าจะยังไงคุณชายของคุณลุงพ่อบ้านก็ไม่ยอมให้ลงดีๆ ซ้ำยังมายืนทำหน้าหล่อ ส่งสายตาแพรวพราวอย่างคนที่ถือไพ่เหนือกว่าให้แบคฮยอนหมั่นไส้อีก
“ลูกหมู”
“ผมไม่ใช่นะ”
“ลูกหมูกินจุ”
“ย๊า..ผมไม่หมูนะ ผมไม่อ้วนด้วย”
“ฮ่ะๆ”
“โถ่เอ้ย…อยู่ต่อหน้าทุกคนทำเป็นเข้มใส่ผม ดุอย่างนั้นดุอย่างนี้ ลับหลังล่ะเรียกผมที่รักทุกคำ” คุณชายทำหน้างง จำไม่ได้ว่าตัวเองเคยทำแบบนั้นตอนไหน “บอกรักก่อนนอนทุกคืน ตอนเช้าก็ต้องมีมอนิ่งคิส”
“เฮ้..” ชานยอลมองสายตาลอกแลกพ่วงด้วยแก้มแดงๆของสาวๆในบ้านที่ยืนฟังอยู่ด้วย สลับกับใบหน้าของแบคฮยอน “ฉันทำถึงขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ไม่เจอผมไม่กี่ชั่วโมงก็โทรมาบ่นคิดถึง” คนตัวเล็กเล่าเรื่องเกินความเป็นจริงด้วยสีหน้าปกติราวกับกำลังพูดเรื่องดินฟ้าอากาศอยู่ จนคนรอบข้างพากันหลงเชื่อตามไปด้วย พากันเขินอาย หัวเราะคิกคัก และหลบสายตาชานยอล พาลให้คนถูกปรักปรำทำตัวไม่ถูก ได้แต่ยืนหูแดง ขมวดคิ้วใส่คนในอ้อมแขนและน้องชายตัวเองที่เอาแต่ยืนเบะปากหมั่นไส้มาให้
“เวอร์”
“เรื่องจริงทั้งนั้น ชานยอลน่ะมุ้งมิ้งจะตาย”
“ให้ตาย..”
ชานยอลล่ะนึกเกลียดคำศัพท์ที่แบคฮยอนสรรหามาใช้จริงๆ
“คิกๆ”
แบคฮยอนเองก็พอจะรู้ดีแก่ใจว่าชานยอลไม่ชอบให้เปรียบเทียบกับอะไรที่หวานๆเลี่ยนๆ ชานยอลเป็นประเภทภายในอบอุ่นแต่ข้างนอกดูแข็งกระด้าง ถึงจะบอกว่ารักว่าคิดถึงก็ยังดูแข็งๆทื่อๆอยู่ดี ไม่ได้หวานแหววอย่างที่กำลังบอกเล่าให้พี่ๆสาวใช้ฟังตอนนี้หรอก
ก็แค่อยากแกล้งให้อายเล่น ชานยอลน่ะกล้าแต่ตอนอยู่กับเพื่อนๆ กับคนที่ทำท่าจะเข้ามาจีบแบคฮยอน พอกลับสู่โหมดปกติล่ะก็วางท่ามากทุกที มันน่าเอาคืนซะให้เข็ด…ถึงแม้ว่าตัวเองจะต้องเขินอายไปด้วยก็ไม่เป็นไร
“คุณชายน่ารักจังเลยนะคะคุณแบคฮยอน”
“มุ้งมิ้งสุดๆเลยฮะ ในห้องนอนมีแต่สีชมพู”
“อร๊าย แบ๊วมากเลยค่ะคุณชายขา”
“ฮ่ะๆ ชอบสะสมตุ๊กตาหมีน้อยด้วยนะฮะ วันดีคืนดีนอนดูดนิ้วด้วย เหมือนเด็กน้อยเลย น้ำลายยืดเป็นทะ..โป๊ก!” ชานยอลเอาหัวโขกหน้าผากแบคฮยอนให้หยุดพูดจามั่วซั่วให้เขาเสียหาย ถ้อยคำใส่ร้ายเกินจริงของหลานคุณยายกำลังจะทำให้เขาหมดภาพลักษณ์ที่ดี และก่อนที่มันจะกลายเป็นแบบนั้นจริงๆเขารีบอุ้มแบคฮยอนออกไปจากตรงนั้น ไม่ลืมทิ้งท้ายคำพูดส่อแววให้เหล่าสาวๆได้กรี๊ดกร๊าด คิดกันไปไกลด้วยว่า..
‘อย่าเชื่อเด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมมาก ผมไม่เคยดูดนิ้วตัวเอง แต่ถ้าดูดของคนอื่นน่ะไม่แน่…’
“ปล่อยผมลงได้แล้ว”
“ถ้าไม่ปล่อยแล้วจะทำไม”
“ไม่อายคนสวนเค้าหรือไง”
“ใครๆเค้าก็รู้กันทั้งนั้นว่าตอนนี้เราเป็นอะไรกัน ขนาดนายยังกล้าเล่าเรื่องเกินความเป็นจริงให้สาวใช้คนสนิทฟังโดยไม่อายได้ แบบนี้ยังจะมาถามฉันอีกเหรอว่าอายหรือไม่อาย”
“โอเค..ผมยอมแพ้ชานยอลแล้ว” แบคฮยอนกลอกตามองไปทางอื่น แก้มขึ้นสีแดงจางๆ ชานยอลมองแล้วอมยิ้มก่อนจะปล่อยตัวแบคฮยอนลง ตามด้วยการหอมแก้มเสียงดังฟอด~
“เด็กดื้อ”
“ฮื่อ..” แบคฮยอนครางประท้วง มือกุมแก้มข้างที่ถูกฉวยโอกาส กัดปากทำตาใสใส่ไม่ทันไรแก้มอีกข้างที่ยังไม่ถูกทำตำหนิก็ถูกริมฝีปากของชานยอลเข้ามาสัมผัสเพิ่มอีกจนได้
“ขี้โกง ชอบเอาเปรียบ”
“หอมคืนมั้ยล่ะจะได้เท่าเทียมกัน”
“ไม่เอา แก้มชานยอลไม่นุ่ม ผมชอบแก้มเซฮุนมากกว่า..โอ้ยย” แก้มนุ่มๆของแบคฮยอนถูกดึงซะจนยืดติดมือใหญ่ไปด้วย “มันเจ็บนะ”
“บอกว่าอย่าชมคนอื่นต่อหน้าแฟนตัวเองไง..ไม่สิ ว่าที่คู่หมั้นต่างหาก”
“ก็ชานยอลแกล้งผม”
“เขินก็บอกว่าเขิน ไม่ต้องเอาคนอื่นมาพูดให้ฉันฟัง”
“ขี้หึง”
“ใช่ เพราะงั้นถึงอยากจะหมั้นเร็วๆ จะได้มีสิทธิ์มีเสียงมากกว่านี้”
“…” แบคฮยอนหมุนตัวหันหลังหนีไปมองนกมองไม้ในสวนแทนใบหน้าหล่อเหลาร้ายกาจนั้น บ่นพึมพำไม่เต็มเสียงว่าชานยอลบ้า ทั้งที่ตัวเองกลั้นยิ้มเขินจนปิดแทบไม่มิด…แก้มตึง ยกขึ้นเบียดดวงตาให้เล็กลงเรื่อยๆ ก่อนจะได้หน้าแดงยิ่งกว่าเก่าเมื่อความอบอุ่นจนเกือบร้อนแผ่มาถึงตัวเพราะใครบางคนเข้ามาสวมกอดจากด้านหลัง
“คุณยายบอกว่าน้องยังเด็ก อยากให้พี่ชานยอลดูกันไปนานๆไม่อยากให้ใจร้อน” แบคฮยอนรู้สึกเหมือนตัวเองแก้มจะแตกเพียงเพราะได้ยินคำพูดเพราะๆ น้ำเสียงทุ้มๆ และสัมผัสอบอุ่นที่ได้รับทั้งหมด
“แบคฮยอนว่าพี่ควรจะทำยังไงดี”
“หยา..พี่อะไรกัน อย่าแทนตัวเองแบบนี้สิ”
“เขินหรอ” ชานยอลกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น กดจมูกลงบนซอกคอคนตัวเล็ก ทำเอาคนถูกกระทำต้องหดคอด้วยความจั๊กจี๋
“หื้มม์”
“อย่ามาทำเสียงหล่อใส่ผมน่า”
“ฮ่ะๆ พูดเพราะด้วยก็ไม่ได้ พอพูดปกติด้วยก็ว่าฉันดุ จะเอายังไงฮึ”
“ไม่รู้…” อยู่ดีๆทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบ แต่เป็นความเงียบที่ไม่ได้มีความอึดอัดปนอยู่เลย กลับมีเพียงแต่ความสบายใจ อบอุ่นหัวใจยามเมื่อได้ยืนอยู่ด้วยกัน…กอดกันให้แน่นๆแบบนี้
“ปิดเทอมหน้ามาเป็นคู่หมั้นให้ฉันนะ”
“…”
“จะไปขอพ่อเฒ่ากับแม่ครูให้ถูกต้อง สัญญา”
“อื้ม”
“จะไม่ดูแลแค่นายคนเดียว แต่จะดูแลครอบครัวนายให้เหมือนกับครอบครัวตัวเองด้วย…จะทำเท่าที่ตัวเองทำได้เลย” แบคฮยอนค่อยๆหมุนตัวเข้าหาชานยอล สองมือน้อยยกขึ้นสัมผัสแก้มสากช้าๆ ขยับปากพูดคำว่าขอบคุณซ้ำๆ เบาๆ…นัยน์ตาทั้งสองคู่สะท้อนภาพกันและกัน ในนั้นมันเอ่อล้นไปด้วยคำว่ารักและความรู้สึกดีๆ...
“หมั้นกันไว้ก่อน เรื่องแต่งงานยังไม่ต้องพูดถึงก็ได้ เอาไว้ให้เราทั้งคู่พร้อม จะอีกห้าปี สิบปี หรืออีกยี่สิบปีก็ไม่เป็นไร ให้มันเป็นเรื่องของอนาคต”
“ผมเชื่อชานยอล ชานยอลว่ายังไงผมก็ว่าอย่างนั้น”
“ไม่อึดอัดใช่มั้ย” แบคฮยอนส่ายหัวพลางซบหน้าลงกับอกแกร่ง สองแขนโอบรอบคอคนรัก เช่นเดียวกับชานยอลที่กอดตอบเอวเขาไว้..ไม่ให้แน่นและไม่ให้หลวมจนเกินไป
“ถ้ายังไม่พร้อมจะเลื่อนออกไปก่อนก็ได้นะ ถึงอยากจะใจร้อนแค่ไหนแต่ถ้านายบอกมาคำเดียวว่าอึดอัดฉันยินดีจะรอ”
“ไม่อึดอัด ชานยอลอยากให้ผมเป็นอะไรผมก็จะเป็น ถึงจะดูใจง่ายแต่ผมไม่ชอบฝืนความรู้สึกตัวเอง..” เงยหน้าขึ้นมอง ตามด้วยการจูบปลายคางชานยอลเบาๆ
“ผมมีความสุขที่เราดีต่อกันแบบนี้”
ชายหนุ่มค่อยๆประทับจูบลงบนกลีบปากบางเล็กของแบคฮยอน นิ่งอยู่แบบนั้นกันซักพัก ซึมซับความรู้สึกมากมายโดยไม่มีใครคิดจะละตัวออกไปก่อน กลับกัน...แรงดึงดูดที่มีอยู่ภายในใจทำให้ริมฝีปากทั้งสองเริ่มขยับเพื่อให้ได้สัมผัสกันและกันได้ลึกซึ้งมากขึ้น
กลีบปากเล็กเผยอออก ยอมให้ริมฝีปากอิ่มหนาและลิ้นชื้นของคนตัวสูงสอดเข้ามาด้วยความเต็มใจ ต่างฝ่ายต่างดูดดุนลิ้นกันไปมา แลกน้ำลายกันจนเกิดเสียงดังจ๊วบจ๊าบ หากชานยอลดูดกลีบปากล่างของแบคฮยอน…แบคฮยอนจะงับพลางดูดกลีบปากด้านบนของชานยอลคืนอย่างไม่ยอมน้อยหน้ากัน…ทุกอย่างในตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นปฏิกิริยาทางร่างกาย ความรู้สึกภายในใจที่รู้ว่าอีกคนชอบแบบไหน และอีกคนไม่ชอบแบบไหนมันรับส่งกันได้ดีกว่าครั้งแรกๆ
ทุกอย่างดำเนินไปในทิศทางที่ดี…ค่อยๆเรียนรู้ซึ่งกันและกันจนสามารถเข้ากันได้ ความแตกต่างในหลายๆเรื่องที่เคยคิดว่าคือปัญหา กลับไม่ใช่เมื่อต่างคนต่างยอมเปิดใจให้แก่กัน…
“จูบเก่งขึ้นทุกวันเลยนะ อย่าให้รู้ว่าแอบไปทำกับใครที่ไม่ใช่ฉันล่ะ”
“ชานยอลก็จับผิดเก่งขึ้นทุกวัน ผมคงได้ไปทำกับคนอื่นหรอก”
เสียงหัวเราะเบาๆอย่างมีความสุขเกิดขึ้นพร้อมกับแรงเต้นถี่ๆของหัวใจทั้งสองดวง ริมฝีปากเริ่มดึงดูดให้เคลื่อนเข้าหากันอีกครั้ง ทว่า…
พลั่ก!
แบคฮยอนเหลือบตาไปเห็นกลุ่มมนุษย์ในบ้านหลายชีวิตกำลังยืนโผล่ตัวออกมาจากหลังต้นไม้ใหญ่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากพวกเขาเข้าเสียก่อน จึงรีบดันตัวชานยอลให้ออกห่างทันที
ทุกคนกำลังมองมาทางนี้ด้วยดวงตาโตตกตะลึง ไม่ต่างอะไรจากแบคฮยอนที่ทำตาโตมองตอบเช่นกัน ยืนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทำตัวไม่ถูกอยู่พักหนึ่งแล้วตัดสินใจวิ่งไปซ่อนอยู่ด้านหลังของคุณชายด้วยความอับอาย ได้ยินเสียงแซวเสียงล้อของคนในบ้านหน้าเขายิ่งขึ้นสีแดงจัด ที่สำคัญตรงนั้นมีคุณท่านของเขายืนรวมอยู่กับทุกคนด้วย!
'กิ้วกิ้ววว~'
ฮื่อออ
“ชานยอลลล” แบคฮยอนมุดหน้ามุดหลัง จับชายเสื้อของชานยอลไม่ยอมปล่อย ไม่ยอมโผล่หน้าออกไปให้ใครเห็น ขณะที่ชานยอลเอาแต่ยืนขำ ไม่รู้ว่าหน้าทำมาจากปูนหนาแค่ไหน เรื่องแบบนี้ถึงไม่เคยสะเทือนเลย
หารู้ไม่ว่าจริงๆแล้วปาร์คชานยอลเองก็อายไม่ต่างกัน แค่คิดว่ายิ่งแสดงออกว่าอายมันยิ่งน่าอายมากขึ้น เลยมักแสดงอาการเฉยๆออกไป บวกกับไอ้การทำตัวเป็นลูกแมวพันแข้งพันขาของแบคฮยอนนั้นมันทำให้เขาอยากขำมากกว่าเขินน่ะสิ
บ๊อก!!!
เสียงเห่าของสิ่งมีชีวิตตัวหนึ่ง คุ้นหูซะจนชานยอลไม่จำเป็นต้องก้มลงมองก็รู้แล้วว่าอีกตัวที่เข้ามากัดขากางเกงยีนส์ของเขานั้นมันอะไร…ไม่ใช่แค่กัดเท่านั้น แต่มันกำลังทั้งกัด ทั้งสะบัด ทั้งดึงขากางเกงของเขาเลย!
“บัดดี้!!!”
“ชานยอลอย่าเตะมันนะ!”
บ๊อก บ๊อก!!!
“ชานย๊อล!” แบคฮยอนรีบเข้าไปอุ้มลูกสุนัขพันธุ์โกลเด้นที่เริ่มเติบโตแข็งแรงจนวิ่งซนไปทั่วบ้านขึ้นมาแนบอก รีบเอามันมาไว้กับตัวก่อนที่จะโดนชานยอลเตะเหมือนคราวก่อน ตอนที่มันแอบคาบเอารองเท้าผ้าใบของชานยอลไปซ่อน แถมด้วยการกัดเชือกรองเท้าคุณชายเค้าจนขาดครึ่งท่อนไม่เหลือชิ้นดี
บ๊อก! บ๊อก!
“ไอ้หมาตัวแสบ”
แบคฮยอนไม่รู้ว่าหนึ่งคนกับหมาหนึ่งตัวนั้นเกลียดอะไรกันนัก เจอหน้ากันทีไรถึงเป็นอันต้องเห่าต้องด่ากันอยู่ร่ำไป แบคฮยอนแอบสันนิษฐานว่าบัดดี้คงอยากเล่นกับชานยอล แต่เพราะชานยอลชอบเมินใส่มันมันก็เลยประท้วงด้วยวิธีเรียกร้องความสนใจแบบนี้แทน
จะว่าไปแล้วมันก็คุ้นๆ คลับคล้ายคลับคลาว่าเหมือนเรื่องราวของตัวเองกับชานยอล…ที่ยิ่งถูกเขาทำเมินใส่ก็ยิ่งต้องเข้าไปวุ่นวายให้เขาสนใจ
บ๊อก บ๊อก!!!!
“อย่ามาเสียงดังใส่ฉันนะ ”
แบคฮยอนว่าตัวเองเข้าใจความรู้สึกของบัดดี้นะ ฮี่ๆ
บ๊อก บ๊อก บ๊อก!!!!!
“บอกให้เงียบไงไอ้หมา..”
“อย่าหยาบคายกับมันนะชานยอล”
“นี่นายเข้าข้างหมามากกว่าฉันหรอ”
“มันเป็นลูกของเรานะ”
“ฉันไม่มีลูกเป็นหมา”
“งั้นลูกของผมกับเซฮุนก็ได้ เซฮุนต้องอยากรับเป็นพ่อแน่ๆ”
บ๊อก บ๊อก บ๊อก!!!!!!
“เหอะ! น่าหงุดหงิดทั้งหมาทั้งเจ้าของหมา”
“แต่เมื่อกี้บัดดี้บอกว่าอยากให้ชานยอลเป็นพ่อมันมากกว่า”
“…”
“ใช่มั้ยบัดดี้ อยากให้ชานยอลเป็นพ่อมากกว่าใช่มั้ย”
บ๊อก!
“ไร้สาระ ทำอย่างกับรู้ภาษามัน”
“คิดว่าผมไร้สาระแล้วยิ้มทำไม” แบคฮยอนแกล้งจับบัดดี้เข้าไปใกล้ๆตัวชานยอล คุณชายรีบถอยหลังหนี แต่แบคฮยอนยังคงตามไปแกล้งไม่เลิก หากคุณชายขยับซ้าย เขาจะขยับตาม หากคุณชายขยับขวา เขาก็จะขยับขวาด้วย ตามไปทุกหนทุกแห่งจนกลายเป็นวิ่งไล่กันราวกับเด็กๆ ให้คนในบ้านส่งเสียงหัวเราะด้วยความสุขตามๆกัน
“ชานยอลมาหาลูกบัดดี้ซะดีๆ”
“เอามันไปห่างๆเดี๋ยวนี้ไม่งั้นจะหาว่าฉันไม่เตือน”
“มามะ มาให้บัดดี้หอมแก้มหน่อย”
“แบคฮยอน”
“ชานยอลจ๋า ลูกอยากหอมแก้ม”
“เดี๋ยวเถอะนะ แบคฮยอน!”
“ฮ่ะๆๆ”
“สงสัยต้องโดนด้ามไม้กวาดนี่ก่อนแล้วมั้งถึงจะเลิกดื้อ”
ฟวั่บ!
“ว๊ากกกก” แบคฮยอนกระโดดหนีด้ามไม้กวาดที่ปาร์คชานยอลไปคว้ามาจากคนสวน ชายหนุ่มกำลังย่างสามขุมเข้ามาหาด้วยท่าทางขึงขัง ผิดกับแววตาที่ดูยิ้มแย้มพอๆกับริมฝีปากอิ่มคู่นั้น
“มาสิ เข้ามาใกล้ๆ”
“คนใจร้าย ไม่รักลูกไม่รักแฟน”
“เพ้อเจ้อ”
“ยิ้มแก้มจะแตกแล้วยังมาหาเรื่องว่าคนอื่นเค้าอีก ปากแข็ง..”
ฟวั๊บ!
“ชานยอล! ถ้ามันโดนผมขึ้นมาจริงๆมันเจ็บนะ..ฟวั๊บ! อ๊าก!!~” แบคฮยอนแผดเสียงโวยวายลั่นสนามหญ้าในสวน หอบลูกสุนัขหลบหลีกด้ามไม้กวาดในมือปาร์คชานยอลไปมา กลัวก็กลัว ขำก็ขำ คนในบ้านก็เอาแต่หัวเราะใส่ ไม่รู้ว่ากำลังเล่นอะไรกันอยู่
แต่โดยรวมแล้วแบคฮยอนรู้สึกมีความสุขนะ และหวังว่าตัวเองจะพบเจอแต่เรื่องราวดีๆ วันดีๆ แล้วก็คนดีๆแบบนี้ตลอดไป
ถึงไม่ใช่วันเกิดก็อยากขอให้ตัวเองมีชานยอลอยู่เคียงข้าง คอยดูแลคอยเอาใจใส่ สร้างความสุขแบบนี้ไปด้วยกันทุกๆวัน..
The end
จบลงจริงๆแว้วววว
ขอบคุณสำหรับการติดตามและทุกๆกำลังใจเลย เราซึ้งงงง
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นที่ให้กันมาตลอด มันคือกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ของเรา
มีกำลังใจเขียนต่อก็เพราะทุกๆคนนะคะ <3
***
ตอนนี้หนังสือเปิดโอนแล้ว ถ้ารักกันก็อย่าพลาดเก็บไว้
เราตั้งใจมากๆ ตอนสอบถามคราวก่อนยอดมันเกินเป้าที่ตั้งไว้ถึงเปิดให้จอง
แต่ถ้าวันปิดโอนจริงๆแล้วยอดไม่ถึงเราคงต้องขออนุญาตโอนเงินคืนทุกคนนะคะ T^T
ลิงค์รายละเอียดการจองและตอนพิเศษ
v
ฝากด้วย!
และอย่าลืมร่วมกิจกรรมส่งความในใจของตัวเองมาชิงหนังสือล่า
สำหรับคนที่ส่งเข้ามาแล้วเราขอบคุณมากๆ เราอ่านทุกตัวอักษรอย่างตั้งใจ
แต่ละคนมายาวมากจริงๆ จะแข่งกับแต่ละ chapter ที่ลงใช่มั้ย? ฮ่ะๆ
ขอบคุณสำหรับการติดตามอีกครั้ง
ดีใจที่ได้สร้างความสุขเล็กๆให้กับทุกคนนะคะ
คิดถึงหลานคุณยายกันด้วยน๊าาา
Bye bye
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

กลับมาอ่านอีกรอบก็ยังยิ้มไม่หุบอยู่ดีอะ ^Y^
น่านักมากๆเลยอ่ะ