ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [2PM] OTAKU BOY ~

    ลำดับตอนที่ #6 : OTAKU BOY - 05 -

    • อัปเดตล่าสุด 22 ธ.ค. 57


    จางอูยองกำลังนั่งพักอยู่ที่ห้องแต่งตัวระหว่างรอทีมงานเซ็ตฉากเพื่อเตรียมถ่ายภาพโปรโมทอัลบั้มใหม่ มองโทรศัพท์หรูที่อยู่ในมือพลางไล่สายตาตามในจอภาพ มือก็ยังคงจิ้มไปที่จอระบบสัมผัสเพื่อเช็คข่าวด้วยความเคยชิน
     
      ‘คุณอู’ ‘อูโฮ’
     
      ดวงตาคู่เล็กมองคำที่เจอในอินเตอร์เน็ตก่อนที่จะหัวเราะเบาๆ
     
      ตั้งแต่เข้าไปเป็นแขกพิเศษในมินิคอนเสิร์ตเปิดตัวของคู่ดูโอรุ่นน้องอย่างคุณ-นูนอเมื่ออาทิตย์ก่อน ภายในคืนเดียวกันนั่นแหละก็เริ่มมีกลุ่มแฟนคลับบางคนเกิดจินตนาการบรรเจิดจับคู่ให้เขากับสองคนนั้น หนำซ้ำภาพที่เขามองตากับจุนโฮ หรือภาพที่เขาเอนหัวพิงหัวนิชคุณที่ถูกถ่ายได้ก็ถูกเอามาเป็นประเด็นในโลกไซเบอร์ซะครึกโครม
     
      อูยองไม่คิดอะไรมากหรอก ก็แค่จินตนาการของแฟนคลับ เพราะเขาไม่ได้คิดอะไรกับสองคนนี้อยู่แล้ว
     
      แต่สงสัยว่าทำไมต้องคุณอู? นิชคุณในชุดกระโปรงบานสีส้มวันนั้นมันดูแมนกว่าเขาในชุดหนังสีดำตรงไหนเนี่ย ห๊ะ? หรือเพราะตัวเขาขาวเกินไปนะ เพราะแก้มยุ้ยๆกลมๆนี่ใช่มั้ยนะ หรือเพราะเวลายิ้ม ..ไม่ว่าจะยังไงก็เหอะ
     
      ถึงเขาจะน่ารัก แต่เขาก็แมนนะเว้ยเห้ย!!!
     
     “พ…พี่อูยองครับ”
     
      เสียงที่คุ้นเคยดังแผ่วๆอยู่ตรงประตูห้องแต่งตัว คนถูกเรียกจึงหันไปมอง
     
      จุนโฮ หนึ่งในดูโอคุณ-นูนอที่แฟนคลับ ‘จิ้น’ ให้เขารักกันนั่นเอง ใบหน้าน่ารักนั้นมีแววตื่นๆ
     
      “หือ?” อูยองตอบกลับสั้นๆ
    “คือ.. วันนี้เลิกงานแล้วไปคาราโอเกะกัน”
    “หา????”

     
      ดวงตาคู่เล็กเบิกกว้าง ไปคาราโอเกะ? ถึงจะอยู่ค่ายเดียวกัน สนิทและรู้จักกันในระดับนึง แต่ไม่เคยไปเที่ยวด้วยกันเลยซักครั้งเพราะอูยองนั้นยุ่งเกินไป และจุนโฮขี้เกรงใจเกินไป
      อยู่ๆเจ้านี่มาชวนเขาไปเที่ยวเนี่ยนะ?
     
      สายตาของจุนโฮดูหลุกหลิกชอบกล อูยองเห็นตาคู่เล็กนั่นเหล่ไปทางประตูที่เปิดค้างไว้จึงหันไปมองตาม และก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่เห็นหัวกลมๆทุยๆพร้อมกับดวงตาหรี่เล็กของแจบอมที่อยู่ตรงนั้น
     
      เพียงเท่านี้ก็เดาเรื่องออกว่าทำไมเจ้าเด็กนูนอนี่ถึงมาชวนเข้าไปเที่ยวทั้งที่ไม่เคยไป สงสัยโดนแจบอมขู่อะไรไว้แน่ๆ เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาโดนไอดอลใหม่ๆเอ่ยปากชวนทั้งที่ไม่สนิทกัน
     
      ปาร์ค แจบอมมักจะเข้าไปขู่เด็กใหม่ให้มาชวนเขาไปเที่ยวเสมอเพื่อแลกกับการกุมความลับของคนๆนั้น และถ้าอูยองไปตามคำชวน คนๆนั้นก็จะพ่วงแจบอมไปด้วย ประมาณว่าใช้ไอดอลเป็นเครื่องมือในการไปเที่ยวกับเขาทางอ้อมว่างั้น
     
    และแน่นอนว่าเขารู้ทันเสมอ.. ใช้มุกนี้มาเกือบสิบรอบแล้วไม่ได้ผล ก็ยังจะดั้นด้นใช้อยู่อะเนอะพี่เจย์เอ้ยยยยยย
    อูยองละสายตามาจากคนจอมวางแผน แล้วมาสบตากับจุนโฮที่ยืนทำหน้าแหยๆผสมกับลำบากใจก่อนที่จะลุกขึ้น คลี่ยิ้มใจดีให้พร้อมตบบ่าเบาๆ
     
    “พี่เจย์ให้มาชวนล่ะสินูนอ”
    จุนโฮอ้าปากหวอ ทำหน้าเลิ่กลั่ก “เอ่อ…เอ่อ… คือ ไม่ใช่นะครับ ผม..ผม…”
    “ไม่ต้องตกใจ แผนอะไรนั่นฉันรู้อยู่แล้วน่า” อูยองขยิบตา ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ไปหน้าตื่นกลัวของรุ่นน้อง
     
    เขาแอบเห็นทางหางตาว่าแจบอมกำลังทำหน้าไม่พอใจและอ้าปากร้องโวยวายแบบไร้เสียง คนแก้มกลมแอบหัวเราะในใจแบบคนเหนือกว่า แต่ยังคงพุ่งความสนใจไปที่จุนโฮที่อยู่ตรงหน้า
     
    “คราวนี้โดนขู่ว่าจะเปิดโปงเรื่องอะไรอีกล่ะ”
     
    จุนโฮเบะปาก ทำหน้าลำบากใจ ส่ายหน้าดุกดิก “ไม่..ไม่..”
    อูยองใช้มือขยี้หัวจุนโฮแล้วหัวเราะลั่น “ไม่ต้องสนใจหรอก คนนั้นเค้าก็เห่าไปงั้นแหละ แต่กัดใครไม่เป็น”
     
    พูดจบ คนที่แอบอยู่หลังประตูก็เดินฉับๆมาแทรกกลางคนทั้งคู่ ผลักอกจุนโฮให้ออกห่างจนคนร่างอวบถึงกับเซ แจบอมหันไปเผชิญหน้ากับคนแก้มกลมที่ยืนยิ้มเยาะ ยิ่งเห็นก็ยิ่งเดือด เสียทีไอ้แก้มอูมนี่อีกแล้ว บ้าชิบ!
     
    “อูด้งบ้า ฉันไม่ใช่หมานะว้อย!” คนหน้าตี๋แว้ดลั่น เอามือเท้าเอว ทำปากยื่น
    “แน่ะ ร้อนตัวออกมาเชียว พี่ไปขู่อะไรนูนออีกเนี่ย”
    “ฉันป่าวนะ ทำไมฉันต้องไปขู่หน่อมแน้มมันด้วยเล่า!?”
     
      อูยองหัวเราะพรืด   ชื่อใหม่อีกแล้ว ชื่อหน่อมแน้ม? โอ๊ยยยยยย ช่างตั้งเนาะแจบอมเนาะ
     
    “นี่ ผมต้องไปถ่ายรูปต่อนะ ตอบมาดีๆเลยดีกว่าว่าไปขู่อะไรนูนอ”
    “ไม่มีอะไร๊ ฉันป่าวนะ ฉันจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร?”
    “ก็เพื่อจะไปเที่ยวกับผมไง” อูยองพูดพลางเอียงคอ ยิ้มน้อยๆ “หรือง่ายๆ ก็จะเดทกับผมทางอ้อมว่างั้น”
    แจบอมทำหน้าหงิก หันไปค้อนให้จุนโฮที่ทำหน้าอ้ำอึ้งอยู่ด้านหลังก่อนที่จะหันมาจ้องหน้าอูยองตรงๆอีกครั้ง
     
    “….งั้นไม่อ้อมก็ได้ ไปเดทกัน”
     
    ก่อนที่อูยองจะตอบและก่อนที่แจบอมจะตื๊ออีกรอบ สตาฟคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในห้องโดยมีชานซองเดินตามหลังมาติดๆ ไอดอลอย่างจุนโฮที่ยืนเป็นใบ้กินมาตลอดหันไปมองคนร่างสูงที่เดินเข้ามาก็เบิกตากว้าง ก้มหน้างุด
     
    “อูยอง พร้อมรึยัง” สตาฟคนแรกพูด “ต้องถ่ายต่อแล้วนะ”
    “จะออกไปเดี๋ยวนี้ครับพี่มินแจ”
     
    คนที่ชื่อมินแจหันมามองจุนโฮที่อยู่ในห้องก็ทำหน้างงๆ “อ๊ะ นูนอ ชานซองตามหาอยู่พอดีแน่ะ”
     
    “อะ…ครับ” จุนโฮตอบรับเบาๆ ก้าวเท้าสั้นๆเข้าไปหาชานซองที่ยืนอยู่ คลี่ยิ้มบางๆให้ ซึ่งคนร่างสูงก็ยิ้มแฉ่งกลับมาอย่างอารมณ์ดีเพราะเพิ่งกินข้าวเสร็จเมื่อกี้ 
     
    แจบอมเห็นท่าทางของจุนโฮจึงหันมากระซิบกับอูยอง แววตาคู่เล็กเป็นประกายระริบระยับด้วยความตื่นเต้น เรื่องชาวบ้านขอให้บอก แจบอมตาดีจมูกไวพร้อมเสนอหน้าเสมอ เป็นลักษณะปกติของคนที่เป็นแฟนคลับที่กระหายอยากรู้เรื่องไอดอล
    “นี่ๆๆๆ เห็นมั้ยอูด้ง ดูหน้าหน่อมแน้มมันสิ ตอนนี้ไอ้หมีนี่มาเป็นสตาฟหน่อมแน้มมันยิ่งเก็บอาการไม่อยู่นะ ดูสิๆ”

    "ปล่อยนูนอมันไปเถอะน่า อย่าไปยุ่ง" อูยองตอบคนที่เป็นแฟนคลับดุๆ “นี่อย่าบอกนะว่าไปขู่นูนอเรื่องนี้เนี่ย? จุ้นว่ะ แล้วก็เลิกตั้งชื่อเล่นให้ชาวบ้านได้แล้ว ตั้งให้ผมคนเดียวไม่พอรึไง”
     
    “ฉันอยากเรียก แล้วก็เรียกตามที่เห็นนี่ ก็นูนอมัน..”
     
    เสียงตบมือดังป้าบ ทำเอาคนที่กระซิบกระซาบถึงกับสะดุ้งโหยง แต่เมื่อหันไปหาคนที่เป็นต้นเสียงแล้วก็ยอมเงียบปากแต่โดยดี เพราะสตาฟหน้าดุนั้นฉายแววหงุดหงิดเหลือจะทานทน
     
    “อูยอง! เร็วๆ” มินแจพูดดุๆก่อนจะหันไปหรี่ตามองคนหน้าตี๋ที่อยู่ในห้อง “แล้วก็ห้ามตามไปตามถึงสตูดิโอนะแจบอม ออกไปได้ละ"
     
    ลับหลังคนที่ออกคำสั่งที่เดินออกไป แจบอมก็เปิดปากโวยวายขึ้นอีกครั้ง
     
    “อูด้ง ฉันไปด้วยไม่ได้เหรอ ฉันอยากเห็นนายโพสท่าถ่ายรูป”
    “ผู้จัดการส่วนตัวผมพูดแบบนั้นแล้วพี่ยังจะตามไปรึไงฮึ นี่ให้เข้ามาที่บริษัทได้ก็ดีละนะ ถอยไป ผมจะไปทำงานแล้ว”

    อูยองพูดเรียบๆ ผลักร่างคนตัวเล็กให้ออกห่าง แต่คนตัวเล็กกลับดึงแขนไว้

     
    “อย่าเพิ่งไป! เมื่อกี้ยังไม่ตอบคำถามฉันเลยนะ นายจะไปเดทกับฉันมั้ย”
     
    ไอดอลอันดับหนึ่งส่ายหน้าอย่างระอา แต่ปากยังคงเหยียดรอยยิ้มกว้าง ใช้นิ้วป้อมๆผลักหน้าผากคนหน้าตี๋ขี้โวยวายพลางแกะมือคู่เล็กที่เกาะกุมแขนออกแล้วสาวเท้าเดินออกไปจากห้อง
     
      “ผมต้องไปทำงานแล้ว กลับบ้านไปพี่เจย์”
    “เฮ้ ฉันจะไม่กลับจนกว่าจะได้ยินคำตอบนะ”
    “ไม่มีคำตอบทั้งนั้นแหละ จะทำงานแล้ว ห้ามเข้ามา!”
    “ถ้าไม่ตอบจะไม่ให้กินไก่ทอดที่บ้านด้วย”
    “ผมไปกินร้านอื่นก็ได้ บอกว่าอย่าตามมา!!! ออกไป!!”

     
    สิ้นประโยคสุดท้าย ไอดอลอันดับหนึ่งก็ดีดหน้าผากแจบอมดังเผียะ สกัดคนจอมตื๊อให้ชะงักและยกมือกุมหน้าผากร้องโอดโอย ส่วนคนดีดก็ถือโอกาสออกไปจากห้องแต่งตัวทันที แต่ก่อนออกไปก็หันมายิ้มให้จุนโฮและชานซองที่กะพริบตาปริบๆดูคนทั้งคู่เถียงกันฉอดๆมาตลอด
     
    แจบอมร้องว๊าก เอามือถูหน้าผากป้อยๆพลางกระทืบเท้าตึงๆอย่างหงุดหงิดแล้วหันมาหาจุนโฮ ดวงตาหรี่เล็กแบบประสงค์ร้าย แต่คนมองอย่างชานซองเห็นแล้วขำมากกว่า
    แฟนคลับบ้าอะไร มายืนกัดกับไอดอลฉอดๆ แล้วก็ขี้ตื๊อที่สุด ชานซองคิดว่าแทคมันเป็นจอมตื๊อแล้วนะ …แต่แจบอมนี่กินขาดไปเลย
    “หน่อมแน้ม!” แจบอมร้องเสียงดัง ปากยื่นแบบไม่พอใจ ทำเอาจุนโฮสะดุ้งเฮือก “แกมันน่า...”
      ไม่ทันจะด่า เสียงของอูยองก็ดังออกมาจากด้านนอกเหมือนรู้ทัน “พี่เจย์ ห้ามขู่อะไรนูนออีก! กลับบ้านไปได้แล้ว และก็อย่าโวยวายอีกนะ มันหนวกหู!”
     
    “ทำไมนายต้องคอยห้ามฉันตลอดเวลา แล้วก็คอยไล่ฉันตลอดเวลาด้วยล่ะอูด้ง!”
     
    แจบอมร้องสวน หันหน้าหนีจากคนร่างใหญ่กับไอดอลอีกคนแล้วเดินลงส้นตึงตังออกไปพร้อมกระแทกประตูปิดดังปัง 
     
    ชานซองถึงกับลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่คนทั้งคู่ออกไปซะได้ โดยเฉพาะได้เจ้าคนสุดท้าย
    ปาร์ค แจบอมนี่คืออ๊ก แทคยอนฉบับย่อส่วนชัดๆ.. ทั้งขี้โวยวาย ขี้ตื๊อ เอาแต่ใจ

     พวกนายลืมไปรึเปล่าว่านายเป็นแค่แฟนคลับที่ได้รับอภิสิทธิ์จนเคยตัวน่ะหือ? พวกนายมีสิทธิ์อะไรในตัวไอดอลขนาดนี้เนี่ย?
     
    จุนโฮถอนหายใจเฮือกใหญ่ เงยหน้าขึ้นมามองชานซองแล้วยิ้มกว้าง
    “ว่าแต่.. นายตามหาฉันทำไมเหรอ?”
    “ได้เวลาอัดเสียงแล้วน่ะสิ พี่ชางมินกำลังเดือดปุดๆเพราะนายน่ะไปช้า แล้วก็ลืมโทรศัพท์ไว้ด้วย ฉันเลยต้องมาตามหานี่ไง”
    คนตัวเล็กเบิกตากว้างอย่างตกใจ “อ๊า ลืมสนิท! เพราะพี่แจบอมเลย ฮืออออ”
    ชานซองหัวเราะน้อยๆ ซึ่งคนถูกหัวเราะก็หันมามองค้อน “ทำไมชอบหัวเราะเยาะฉันอยู่เรื่อย”
    “ไม่หัวเราะก็ได้” คนร่างสูงพูดอย่างอารมณ์ดี ผายมือไปทางประตูเป็นเชิงถาม “พร้อมจะไปอัดเสียงรึยัง?”
     
    จุนโฮพยักหน้า
     
    คนร่างสูงหมุนลูกบิดประตูเปิดออก พลางใช้มือหนาดุนหลังไอดอลที่อยู่ในความดูแลให้ออกไปข้างนอกอย่างอ่อนโยน คนทั้งคู่เดินผ่านสตูดิโอที่อูยองกำลังโพสท่าถ่ายรูป เสียงตากล้องและเสียงชัตเตอร์ดังไปทั่วบริเวณ ไอดอลอันดับหนึ่งของค่ายอยู่ในชุดเสื้อหนังสีดำ หมวกหนึ่งใบ และแว่นตาดำ ท่าโพสดูดีแบบไม่มีที่ติ เท่แบบไม่มีคำบรรยาย
     
    “คุณวี้นี่เท่เนอะ” ชานซองพูดลอยๆ
      จุนโฮหันมาทำหน้างง “ห๊ะ?” “ก็นั่นอะ คุณวี้ …เอ่อ อูยอง”
      “ทำไมถึงเรียกว่าคุณวี้?”
      “ก็ตอนวันคอนเสิร์ต อูยองเค้าใส่เสื้อ WY ด้วยไม่ใช่เหรอ พี่แจบอมก็ใส่ที่คาดผม JAY LOVE WY ฉันก็เลยอ่านว่าวี้.. เฮ้ ขำอะไร ก็คนมันไม่รู้จักนี่! จุนโฮ นายขำอะไรเล่า!”
      ชานซองเขย่าไหล่คนตัวเล็กกว่าที่กำลังขำไม่หยุดกับการเรียกชื่ออูยองแบบประหลาดๆของตัวเอง แต่จุนโฮขำจริงจังมาก คือจะขำอะไรขนาดนั้น ก็แว่บแรกที่เห็นเขาก็อ่านแบบนี้แล้ว ชานซองผิดมั้ยเนี่ย หา หา หา!?
      “อย่าขำนะหน่อมแน้ม”
    เห็นคนตรงหน้าไม่หยุดเลยเรียกสวนกลับไปด้วยชื่อที่แจบอมเป็นคนเรียกบ้าง ได้ผลแฮะ เพราะคนถูกเรียกถึงกับทำหน้างอเป็นกุ้ง
      “อย่ามาเรียกแบบนั้นนะ”
      “ทำไมถึงชื่อหน่อมแน้มอะ” ชานซองถามขำๆขณะที่เดินนำเข้าไปในลิฟท์ มีจุนโฮเดินตามเข้ามาด้วยใบหน้ามู่ทู่
      คนร่างสูงสะกิดคนที่ทำหน้างอนอีกครั้ง “บอกทีสิทำไมถึงชื่อหน่อมแน้ม”
      จุนโฮเบะปาก “พี่แจบอมเขาว่าฉันดูหน่อมแน้มนี่นา.. หัวเราะแบบนี้อีกแล้ว เห็นด้วยใช่มั้ยน่ะ!”
      ชานซองเอามือกุมท้องขณะที่หัวเราะลั่นลิฟท์ ให้ตายเหอะ เป็นสตาฟที่นี่แล้วมีแต่เรื่องเพี้ยนๆ ไอดอลพิลึกๆ แฟนคลับเพ้อๆ แล้วก็ขำที่ชื่อหน่อมแน้มนี่เข้ากั๊นเข้ากันกับจุนโฮเหลือเกิน
      ถึงจะเพี้ยนแต่ก็ตาถึงและคิดชื่อได้ครีเอทมาก “ชานซอง อย่าขำดิ้!”
      “โอเคๆ ไม่ขำก็ได้ แล้วทำไมไม่ตั้งชื่อกลับไปบ้างล่ะ เอาคืนไง” ชานซองพูดยิ้มๆ เช็ดน้ำตาที่เกิดจากการหัวเราะเมื่อครู่ แต่เมื่อเห็นสีหน้าจุนโฮที่บ่งบอกว่าไม่อยากทำ เขาเลยถามกลับไปอีกทีว่า “ฉันตั้งให้มั้ยล่ะ?”
      จุนโฮอมยิ้มและพยักหน้า ชานซองจึงหลับตาปี๋ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
      อูยองนั้นง่าย ผิวขาวๆ แก้มกลมๆ ชื่อคุณซาลาเปาละกัน ส่วนแจบอม.. เขาลังเลระหว่างชื่อขนมจีบกับเกี๊ยวซ่า เพราะดูแล้วตานั่นชอบหยอดชอบจีบอูยองเหลือเกิ๊นนนน แต่ถ้าให้ชื่อขนมจีบจริงๆมันก็น่ารักเกิ๊นนนน งั้น…เกี๊ยวซ่าก็ได้
      “ซาลาเปากับคุณเกี๊ยวซ่า เข้ากันดีมะ”
      จุนโฮทำหน้าเหวอก่อนที่จะหัวเราะพรวด ทำเอาชานซองตัวต้นคิดหัวเราะตามไปด้วย

    การทำงานเป็นผู้ดูแลไอดอลเนี่ย มันก็ดีเหมือนกันแฮะ
     
     
     
     
    ชานซองไปเป็นสตาฟให้นิชคุณและนูนอได้สองเดือนแล้วสินะ?
    เป็นสองเดือนที่แทคยอนมีความสุขม๊ากกกก T[]T

     
    ทุกๆสามหรือสี่วันที่ได้ส่งของไปให้นูนอ ทั้งอาหารที่นูนอชอบ เสื้อ หมวก เพลงที่นูนอชอบฟัง ทุกๆอย่างที่นูนอเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าชอบ อยากได้หรือต้องการ แทคยอนจำได้ขึ้นใจและกว้านซื้อ พร้อมทั้งส่งไปให้โดยผ่านเพื่อนแสนดีอย่างไอ้หมีฮวางชานซอง

    ทุกครั้งที่ฝากของไปให้ แทคยอนจะถามชานซองเสมอว่านูนอทำยังไงบ้าง และก็ได้รับคำตอบว่า..

     
      ‘ก็บอกว่าขอบคุณแล้วก็ยิ้มแก้มปริน่ะสิ’
     
      ข..ขอบคุณและยิ้มแก้มปริ! TvT แค่ฟังก็อยากจะร้องให้เป็นภาษาสโลวาเกีย อยากเห็นอ้ะ! นูนอดีใจ เขิน ปลื้มใจ มีความสุขเพราะของที่ผมส่งไปให้ใช่มั้ยครับ อมยิ้มแบบนั้นคือเริ่มรับรู้ความรู้สึกของผมแล้วใช่มั้ยครับ?
     
      ถึงตัวของแทคยอนจะไปไม่ได้เพราะงานเยอะ งานยุ่ง แต่เมื่อมีชานซองอยู่ คอยส่งข่าวและรายงานความเป็นไปของนูนอวันละห้ารอบเขาก็หายห่วง

    ค่อยยังชั่วที่ช่วงนี้ทั้งนิชคุณและนูนอไม่มีอีเว้นท์อะไรอีกนอกจากไปออกรายการโปรโมทเพลงซิงเกิลและมินิอัลบั้ม ไม่งั้นเขาคงขาดใจตายแน่ๆ!

     
      แต่วันนี้แทคยอนยอมลงทุนยกเลิกประชุมตอนบ่ายเพื่อไปเตรียมซื้อของหอบใหญ่ ใช้เวลาตั้งหลายชั่วโมงตั้งแต่บ่ายยันค่ำกว่าจะรวบรวมของเสร็จ สั่งเค้กก้อนโต น้ำแตงโมปั่นอีกหลายลิตร ทั้งหมดนี่เพื่อนูนอล้วนๆ
     
      …เพราะวันนี้คือวันเกิดของอิจนูนอ   นูนออายุครบ 21 แล้ว.. เทวดาน้อยๆของแทคยอน
     
      ถึงแทคยอนกับนูนอจะอายุห่างกันตั้งห้าปีก็ไม่มีปัญหา ความรักมันไม่เกี่ยวกับอายุนี่เนอะ ยังไงเขาเอ็นดูเทวดาเด็กคนนี้เสมอ ฮว้าก!
     
      ขอบคุณนูนอที่เกิดมา ขอบคุณที่น่ารักทั้งหน้าตานิสัยและทุกๆอย่าง วันนี้ผมจะตอบแทนความน่ารักของนูนอด้วยการเซอร์ไพรส์วันเกิดสุดแสนประทับใจให้นะครับ!
     
      มือหนาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดโทรหาเจ้าเพื่อนสนิทตัวสูงโย่งที่ทำงานเป็นสตาฟ ใจเต้นตึกตัก อยากรู้ว่าตอนนี้ชานซองทำอะไรอยู่ ดูแลนูนอดีรึเปล่า นูนอกำลังทำอะไรน้อ?
     
      “ฮาโหลวววววว” เสียงของชานซองดังขึ้น ขัดจินตนาการและอาการพร่ำเพ้อของแทคยอนเล็กน้อย เสียงของคนในสายฟังดูยานคางเพราะเบื่อกับการรับโทรศัพท์จากแทคยอน แต่คนที่โทรไปก็ไม่รู้สึก คิดแค่ว่าไอ้นี่ต้องแอบงีบหลับแน่ๆ
      “ชานซอง ตอน..”
     
      ไม่ทันที่แทคยอนจะถามจบ คนในสายก็ตอบกลับมาเป็นชุด
      “ตอนนี้นูนอของแกกำลังถ่ายรูปอยู่ กินข้าวแล้ว กินน้ำแล้ว พอใจยางงงง”
      ถามคำถามเดิมทุกครั้งที่โทรมาตลอดสองเดือน วันละสามถึงห้ารอบ ถามยังกับนกแก้วนกขุนทองที่จำประโยคได้ไม่กี่คำ
     
              ‘นูนอทำอะไรอยู่”
              “นูนอกินอะไรรึยัง”

     
      แค่เนี้ยน่ะแหละ ที่ถามอยู่ทุกวันมีเท่าเนี้ย ชานซองแทบจะอัดเทปตอบให้รู้แล้วรู้รอด ตอบจนเบื่อ! เคยถามว่าแล้วนิชคุณล่ะ ให้เอาอะไรให้มั้ย ซึ่งคนร่างใหญ่ก็ตอบกลับมาว่า ‘ช่างหัวมันสิ’
      ....ถ้าชานซองเป็นนิชคุณ เขาสาบานว่าจะซัดมันให้หายบ้า ตอบโคตรจะไร้มารยาท

     
      “ถ่ายอีกนานมั้ย” คนร่างใหญ่ถาม เอามือเกาคางแกรกๆ
    “นาน ตอนนี้นิชคุณเพิ่งไปเปลี่ยนชุดที่สองเอง”
    “ช่างหัวนิชคุณสิ ฉันถามถึงนูนอ”
    “แล้วมันวงเดียวกันรึป่าววะ ตอบชื่อคนไหนก็มีค่าเท่ากันแหละไอ้บ้า”
    “ไม่อ่ะ สำหรับฉัน นูนอสำคัญที่สุด”

     
      คุยโทรศัพท์แบบนี้ แน่นอนแทคยอนไม่เห็นหรอกว่าทันทีที่สิ้นสุดประโยคเมื่อครู่ ชานซองที่อยู่ในสายเบะปาก ทำหน้าอึ้งๆพร้อมทำท่าอ้วกใส่โทรศัพท์ ทำเอาจุนโฮที่กำลังให้ช่างแต่งหน้าซับเหงื่ออยู่ถึงกับหัวเราะคิก
     
      แน่นอนว่าเสียงหัวเราะน่ารักนั้นดังผ่านเข้าไปในโทรศัพท์ส่งตรงไปให้แทคยอนได้ยินเต็มๆ
     
      “นูนออยู่ข้างๆแกเหรอ!”
    “ก็ต้องอยู่สิวะ ฉันเป็นสตาฟดูแลคุณ-นูนอนะเว้ย” ชานซองตอบแบบหงุดหงิด
    “ชาน แกออกมาจากตรงนั้นก่อน ฉันไม่อยากให้นูนอได้ยิน”
    “จะไปได้ยินได้ยังไงวะ แกคุยโทรศัพท์กับฉันอยู่นะ”
    “ออกมาเหอะน่า ฉันอยากมั่นใจ”

     
      แทคยอนได้ยินเสียงชานซองถอนหายใจเบาๆ เสียงเดินลากเท้า และเสียงวุ่นวายของฝั่งนั้นที่เงียบลง แสดงว่าเจ้าคนร่างสูงมันทำตามคำขอร้องของเขาจริงๆ
     
      “ออกมาแล้วใช่มั้ย” แทคยอนถามเพื่อความแน่ใจ
    “เออ ตอนนี้มายืนอยู่ตรงบันไดหนีไฟ ไกลพอยัง”
    “โอเค ฉันจะเข้าไปทำเซอร์ไพรส์ที่นั่น ขอแรงแกหน่อย”
      “ว่ามา"
      “ฉันจะบอกให้ว่าต้องทำอะไรบ้าง แกต้องช่วยฉันนะ”
     
     
      คนร่างใหญ่ก้มมองกองของที่เพิ่งไปซื้อมาแล้วคลี่ยิ้มหวานเยิ้มถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ต่อหน้าอิจนูนอก็ตาม แค่ได้เห็นของที่จะให้ แค่นึกถึงคนชื่อนี้เขาก็มีความสุขแล้ว
     
      มือหนาหยิบดอกกุหลาบช่อใหญ่ขึ้นมาดม หลับตาพริ้ม นึกใบหน้าน่ารักตอนที่ได้รับของขวัญและเซอร์ไพรส์จากตัวเองแล้วก็ยิ่งตื่นเต้น คราวนี้จะยิ้มจนแก้มปริแค่ไหน จะเขินแค่ไหน
      แค่คิดก็อยากเห็น.. อยากเห็นหน้านูนอตอนเขาไปเซอร์ไพรส์จริงๆ
     
      แทคยอนมาถึงหน้าบริษัทตอนสองทุ่มสามสิบแปดนาที..
      ตามที่ชานซองบอก นิชคุณและนูนอจะยังถ่ายโฟโต้ชูทไม่เสร็จจนกว่าจะสี่ถึงห้าทุ่มหรืออาจจะเลทกว่า เพราะฉะนั้นเขาจะมีเวลาเกือบๆสองถึงสามชั่วโมงหรือมากกว่านั้นเพื่อเตรียมเซอร์ไพรส์ให้นูนอ
     
      แทคยอนได้คุยกับเจ้าของค่ายเรื่องนี้แล้วซึ่งก็อนุญาตให้เขาทำเซอร์ไพรส์ได้
    แน่น๊อนนนน ลองไม่อนุญาตสิ เขาจะเลิกเป็นสปอนเซอร์แม่งเดี๋ยวนั้นเลย ยังไงก็ไม่กล้าปฏิเสธหรอก คุณนูนอต้องการสปอนเซอร์มากๆ ทำไมแทคยอนจะไม่รู้
      ก็คู่ดูโอนี่ยังไม่ดังน่ะสิ ดันยังไงก็ยังไม่ถึงจุดที่อูยองทำไว้ได้ซักที
     
    เขาวางแผนกับชานซองไว้หมดแล้ว..
     
      เริ่มต้นคือให้ชานซองคอยดูแลนูนอที่สตูดิโอให้ดีๆ จะมีเซอร์พงเซอร์ไพรส์ของเหล่าสตาฟอะไรก็ทำไปเถอะ แต่ห้ามให้นูนอออกมาจากสตู ห้ามมาที่ห้องแต่งตัว จะเปลี่ยนชุดอะไรตรงไหนก็เป็นเรื่องของพวกสตาฟที่จะจัดหากันเอง แต่ห้ามเข้าห้องแต่งตัวเด็ดขาด!
     
      เพราะแทคยอนจะอาศัยช่วงเวลานั้นมาเตรียมของที่ห้องแต่งตัวเพื่อจัดเซอร์ไพรส์ให้นูนอน่ะสิ คิคิ 
     
      คนร่างใหญ่ยืนเท้าเอวมองกองของที่หอบขึ้นมาที่ชั้นแปด (โดยมีซึลอง พร้อมกับสตาฟอีกสี่ที่ช่วยขนขึ้นมา) วางระเกะระกะรอการจัดตกแต่งให้เข้าที่เข้าทางอยู่ในห้องแต่งตัวเล็กๆนี่.. ทั้งตุ๊กตาหมี เค้กสูงสามชั้น ดอกกุหลาบอีกบานเบอะ ช่อดอกไม้ที่จะให้กับมือ และอีกมากมายหลายอย่าง ทั้งเสื้อ รองเท้า บลาๆๆ
     
      จะเริ่มจากตรงไหนดีล่ะ?

     
      ผ่านไปสองชั่วโมงกว่าๆ ..
      แทคยอนมองสภาพในห้องแต่งตัวที่ทำการตกแต่งแล้วยิ้มกว้าง นูนอต้องตะลึงตึงตึงตึงแน่ๆ นูนอเข้ามาแล้วจะเป็นยังไงนะ? เขิน? อายม้วนต้วน? แล้วบอกว่า ‘ขอบคุณนะครับ ผมชอบคุณแทคยอนมากเลย’ รึเปล่า? ฮว้ากกกกก และถ้านูนอพูดแบบนั้นจะทำยังไงดี TvT เขาไม่ได้เตรียมใจมาซะด้วยสิ

    แค่ได้ของที่แทคยอนฝากมานูนอยังยิ้มแก้มแทบปริ (ตามที่ชานซองเล่า) แล้วนี่เขาจัดเต็มแบบนี้.. คนตัวเล็กหุ่นอวบๆน่ารักน่ากอดคนนั้นจะพูดยังไง ฮึ้ยยยยยย อยากเห็นกับตาแล้วว้อยยยยยย!
      แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีท่าทีว่าเจ้าของวันเกิดจะมาซักที เลทจริงๆด้วยแฮะ นี่ห้าทุ่มกว่าแล้วอะ เขาเริ่มจะง่วงนิดๆแล้วนะ
    ...หรือจงใจเลทให้ถึงเวลาเที่ยงคืนกันนะ? จะแฮปปี้เบิร์ดเดย์เป็นคนสุดท้ายกันเหรอ
    ฝันไปเถอะ เขาสิคนสุดท้ายของจริง ฮิฮิ ประทับใจกว่าด้วยแน่ๆ โฮะโฮะ
     
      คนร่างใหญ่เอาหูแนบบานประตู หวังจะได้ยินเสียงจากนอกห้องว่าทำอะไรกันอยู่ซึ่งก็ไม่ได้มีประโยชน์เท่าไหร่ เพราะห้องแต่งตัวนี่อยู่ไกลจากตัวสตูดิโอพอสมควร หูกางๆของเขาจึงได้ยินแค่เสียงคนคุยจ้อกแจ้กเท่านั้น
     
      อ๊ะ ได้ยินแว่วๆเหมือนเสียงคนกำลังร้อง ‘เฮ!!’ เสียงดัง นั่นมัน.. นั่นมัน!
    มือหนาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดข้อความหาชานซองทั้งที่มือยังสั่นด้วยความตื่นเต้น
     
      ‘เสร็จแง้วแช่แมะ’
      …รีบไปหน่อยเลยพิมพ์ผิด แต่ช่างมัน หวังว่าไอ้คนตัวสูงนั่นจะอ่านออกก็พอ
     
      รออยู่อึดใจหนึ่ง ชานซองก็ตอบกลับมาสั้นๆว่า ‘กำลังเป่าเค้ก’
      แทคยอนหลับตา เพ่งสมาธิไปที่หูกางๆของตัวเองซึ่งใช้ความสามารถในการคัดกรองเสียงอย่างสุดความสามารถ ในหัวก็จินตนาการตามที่ชานซองบอก
     
      ..ตอนนี้สตาฟคงกำลังยกเค้กก้อนเล็ก(กว่าของเขาที่เตรียมไว้ในห้อง)ไปให้นูนอที่เพิ่งถ่ายรูปเสร็จ ..นูนอคงยิ้มตาหยี ตกใจ แต่ก็โค้งแบบนอบน้อมให้กับทุกคนพร้อมพูดว่า ‘ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ’ ..จากนั้นก็ทำแก้มกลมๆมุบมิบแล้วค่อยเป่าเค้ก ..พอเป่าเสร็จก็ยิ้มตาหยีแล้วโค้งขอบคุณอีกรอบ
      แค่คิดก็อยากจะบ้าตาย อยากออกไปเห็นบ้างอะ อยากเห็นอ้ะ! แทคยอนอยากไปอวยพรมั่งนี่นา ฮือออออออ T____T
     
      เขาเบะปาก กลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหลด้วยความเสียดาย ช่างเถอะ ได้เป็นคนสุดท้ายที่ทำเซอร์ไพรส์สุดแสนประทับใจก็พอ ฮึก.. ทนไว้สิแทคยอน ยอมเสียอย่างหนึ่งเพื่อสิ่งที่คุ้มกว่าในภายหลัง ทนไว้!
     
      หลังจากปลอบใจตัวเอง แทคยอนก็ส่งข้อความไปบอกชานซองอีกครั้ง
      ‘เสร็จแล้วรีบพานูนอมาที่นี่นะ ห้ามให้คนอื่นตามมานะ’
      ‘เออ’
      แทคยอนจุ๊ปากเมื่อเห็นคำตอบสั้นๆของชานซอง วานนิดวานหน่อยทำไม่พอใจ ชิชะ
     
      คนร่างใหญ่เดินแบบดีดสปริงที่เท้ากระโดดดึ๋งๆไปหยิบช่อดอกไม้ช่อใหญ่แล้วไปหลบหลังโซฟา ขดร่างใหญ่ของตัวเองให้มิดชิด ใบหน้ายังคงยิ้มกว้าง เมื่อยกมือหนาขึ้นมาทาบอก เขารู้สึกได้ว่าหัวใจเต้นรัวและแรงที่สุดแบบที่ไม่เคยเป็น
     
    ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยทุ่มเททำอะไรให้ใครแบบนี้มาก่อน จริงอยู่ว่าเมื่อก่อนเขาเคยบ้าคลั่งไอดอลผู้หญิงวงอื่น แต่ให้มาจัดเซอร์ไพรส์ถึงที่ไม่เคยทำจริงๆ ทำก็แค่ซื้อพวกเครื่องเพชรหรือของแบรนด์เนมให้เป็นของขวัญเท่านั้นเอง

     
      อิจนูนอเป็นคนแรกที่แทคยอนทุ่มเทให้ขนาดนี้ ผมตั้งใจทำเพื่อคุณจริงๆนะครับ ของล้ำค่าของผม เทวดาตัวน้อยของผม นูนอของผม..

     
      แต่จะว่าไปเขานั่งขดอยู่หลังโซฟามาสิบห้านาทีแล้วนะ ฮือออ.. ทั้งปวดทั้งเมื่อยแต่ก็ไม่กล้าขยับตัวเพราะมีดอกไม้ช่อใหญ่อยู่ข้างๆ กลัวจะไปโดน ไม่อยากให้ห้องนี้เกิดเสียงอะไรทั้งสิ้น เผื่อนูนอเข้ามาแล้วได้ยิน..
     
      ในที่สุดการรอคอยก็สิ้นสุดลงซะที เพราะชานซองส่งข้อความมาบอกว่า ‘กำลังไป’
     
      แทคยอนรู้สึกดีใจจนเนื้อเต้น กำลังมาแล้ว กำลังมาแล้ว! ใกล้จะถึงเวลาแล้วสินะ!! แต่เขาจะไม่ออกไปทันทีที่นูนอเข้ามาหรอก เขาจะปล่อยให้นูนออึ้งกับสภาพห้องซักพัก และตามที่ตกลงกันไว้ชานซองจะต้องค่อยๆออกไปจากห้องเงียบๆ ปล่อยให้นูนออยู่เพียงคนเดียว จากนั้นเขาถึงจะโผล่หน้าขึ้นไปร้องว่า
     
      ‘สุขสันต์วันเกิดครับอิจนูนอของอ๊ก แทคยอน!’
     
      ฮึ้ยยยยยยยยย มันต้องยังงี้เซร่!

     
      เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาพร้อมกับประตูที่เปิดออก แทคยอนยกมือหนาขึ้นปิดปาก เหลือเพียงแต่ลูกตาที่สอดส่ายหลุกหลิกด้วยความตื่นเต้น
     
      “มีอะไรเหรอชาน…”
     
      เขาได้ยินเสียงนูนอถามชานซองแบบตื่นๆแล้วเงียบไป เงียบแบบนี้ แสดงว่าเห็นสภาพห้องที่แทคยอนทำไว้ให้แล้วล่ะสิ? คึคึคึ
     
     
      ชานซองยืนตัวแข็ง
      ถึงจะรู้ล่วงหน้าว่าแทคยอนมันเตรียมเซอร์ไพรส์ไว้ในห้องแต่งตัวก็เถอะ แต่ใครจะไปรู้ว่ามันจะจัดเต็มแบบนี้..
     
      ห้องแต่งตัวที่เคยเป็นห้องโล่งๆ มีเสื้อผ้าและของบางอย่างระเกะระกะ มีเครื่องสำอางที่ช่างแต่งหน้าวางทิ้งไว้ ตอนนี้ไม่เหลือสภาพนั้นอีกแล้ว เข้าไปก็เจอกับโปสเตอร์ของจุนโฮยิ้มแฉ่งแปะอยู่ที่ผนังด้านหนึ่ง มีตัวหนังสือ ‘สุขสันต์วันเกิด’ ตัวเบ้อเริ่ม โต๊ะตัวที่เคยไว้ใช้นั่งกินข้าวกล่องถูกวางไว้ตรงกลาง มีเค้กสามชั้นวางเด่นเป็นสง่า เหยือกใสใส่น้ำแตงโมปั่นสีชมพูวางอยู่พร้อมแก้วสองใบ ดอกกุหลาบเป็นร้อยดอกที่จัดแต่งประดับประดาไว้ตามจุดต่างๆจนได้กลิ่นหอมเอียนจางๆไปทั่วห้อง กองกล่องของขวัญวางอยู่ทั้งบนโต๊ะแล้วบนพื้น เยอะซะจนยังกับจะมีงานเลี้ยงจับฉลากยังไงยังงั้น แต่ไม่ใช่ นี่มันของขวัญของจุนโฮคนเดียว คนเดียว!
     
      โอ้แม่เจ้า ชานซองอยากจะเป็นลม มันจะจัดเต็มอะไรขนาดนี้วะเฮ้ย?! ไปเปิดห้องไป๊ นี่มันห้องแต่งตัวที่บริษัทเว้ย!
     
      หันไปมองจุนโฮที่กำลังตกตะลึงกับสภาพห้อง ตาคู่เล็กเบิกกว้างจนเห็นตากลมแป๋วใสซื่อ ปากเล็กๆที่มีครีมสดเปื้อนอยู่อ้าค้างด้วยความตกใจ ใบหน้านั้นแดงเป็นมะเขือเทศ 
     
      คนร่างสูงยิ้มบางๆแล้วค่อยๆถอยหลัง ตั้งใจจะจากออกไปเงียบๆ ปล่อยให้จุนโฮอยู่ในห้องคนเดียว และเมื่อประตูปิดลงก็เป็นสัญญาณให้แทคยอนโผล่ขึ้นมาสุขสันต์วันเกิด ‘นูนอ’ ของมันด้วยรอยยิ้มกว้าง..
     
    แต่มันไม่ได้เป็นตามแผน
     
      จุนโฮหันมามองชานซองที่กำลังค่อยๆถอยกลับไป ใบหน้าน่ารักนั้นเป็นสีชมพู ฉีกยิ้มกว้างส่งให้ดวงตาคู่เล็กเป็นเส้นโค้ง มีน้ำตาปริ่ม มือเล็กๆยื่นมาจับชายเสื้อของคนร่างสูงไว้ไม่ให้ขยับไปไหน
     
      “นายทำให้ฉันเหรอชานซอง”
     
      คนร่างสูงทำหน้าเหวอ ชิบหายแล้ว เข้าใจผิดไปกันใหญ่ คิดว่าคนอย่างเขาจะมีปัญญาทำอะไรแบบนี้รึไง ม๊ายยยย พูดออกไปสิว่าไม่ใช่ พูดออกไปสิว่าแทคมันเป็นคนทำ แทคมันแอบอยู่ในห้องนี้ พูดออกไปสิ!
     
      ได้แต่บังคับตัวเองอยู่ในใจ เพราะสายตาและรอยยิ้มนั้นทำให้ชานซองพูดแบบนั้นออกไปไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อจุนโฮเขยิบเข้ามาใกล้แบบนั้น ..ไม่นะ อย่ายิ้มแบบนั้น อย่ายิ้ม
     
      “ฉันดีใจมากเลย ขอบคุณนะ..” จุนโฮพูดเบาๆ เอียงคอยิ้มให้แก้มแทบปริ “นายดีกับฉันมาตลอดเลย ทั้งเอาของที่คุณแทคยอนมาให้ ทั้งคอยดูแล ..แบบที่ไม่เคยมีสตาฟคนไหนดูแลฉันดีขนาดนี้ แล้วยังทำแบบนี้ให้ฉันอีก”
     
      ชานซองอยากจะบอกเหลือเกินว่าที่ทำไปนั่นมันงาน.. ถึงจะมีอารมณ์ส่วนตัวเล็กน้อย แต่มันก็งาน
     
      คนร่างสูงได้แต่ภาวนาว่าขอให้แทคยอนโผล่ออกมาซะที เขาจะได้ผละออกจากจุนโฮแล้วรีบออกไปทันทีเลย เพราะถ้าไม่ออกมาตอนนี้ เขาไม่รับประกันว่าจะเผลอใจไปได้แค่ไหน ยอมรับแล้วว่าอิจนูนอของมันนี่น่ารักแบบที่พูดไว้เป๊ะ ยิ่งใกล้ชิดมาตลอดสองเดือนยิ่งรู้ซึ้ง..
     
      ฉันไม่อยากรู้สึกอะไรกับคนที่แกชอบ และคนนั้นเป็นผู้ชายแบบนี้ด้วย เพราะฉะนั้นช่วยออกมาที!
     
      จุนโฮนิ่งไปพักหนึ่ง กัดริมฝีปากตัวเองเหมือนครุ่นคิดอะไรในใจ ใบหน้าน่ารักฉายแววตื่นๆขณะที่หายใจถี่ ในขณะที่สบตากัน ชานซองแอบเห็นความรู้สึกบางอย่างที่ซ่อนในดวงตาสีช็อคโกแลตคู่นั้น..
     
      “นี่… ฉันชอบนายนะชานซอง” คำพูดสั้นๆหลุดออกมาจากริมฝีปากเล็กๆของจุนโฮ
     
      โอ้ให้ตายเถอะ ทำไมมันพลิกล็อกแบบนี้!?
     
      แทคยอนชอบอิจนูนอ, แทคยอนดันให้ชานซองมาเป็นสตาฟให้คุณ-นูนอ, แต่สุดท้ายอิจนูนอก็ดันมาชอบฮวาง ชานซอง..

    พระเจ้าเล่นตลกหรือยังไง ทำไมชอบทำอะไรให้มันยุ่งยากด้วย ทำไมท่านไม่ทำให้ ‘อิจนูนอ’ ไปชอบอีกคนล่ะครับ?

     
      คนร่างสูงเอามือกุมหัวแล้วหลุดหัวเราะแบบประสาทเสีย คิดไม่ตก ตอบไม่ถูก ได้แค่หัวเราะแห้งๆออกไปเท่านั้น
     
      จุนโฮจ้องเขม็ง คิ้วเรียวขมวดมุ่นเข้าหากัน ใบหน้าตึงเครียด “…ช่วยรับความรู้สึกของฉันไว้ได้มั้ย”
     
      ชานซองกลอกตา จะให้ตอบอะไรออกไปล่ะ อะไรที่มันไม่ทำร้ายจุนโฮที่อยู่ตรงหน้า และไม่ทำร้ายแทคยอนที่แอบอยู่ที่ใดที่หนึ่งในห้องนี้
     
      ชานซองไม่ใช่คนดีเด่เสียสละเพื่อเพื่อนอะไรขนาดนั้นหรอก แค่เห็นไอ้แทคมันทุ่มเทให้คนๆนี้แค่ไหนก็ทำไม่ลง ไม่ว่ามันจะคลั่งไคล้แบบไอดอลหรือคลั่งไคล้เพราะเกิดหลงรักจริงๆเขาก็สงสารมันกับสถานการณ์ในตอนนี้ และพูดตามตรงว่าเขาก็ยอมรับว่าจุนโฮนั้นน่ารัก เห็นแล้วต้องหวั่นไหวสมกับที่แทคยอนมันจะบ้าได้ขนาดนี้ แต่เขาไม่รู้จริงๆว่าเขาคิดยังไงถ้าหากต้องคิดกับจุนโฮแบบ ‘คนรัก’

    …ก็คนมันไม่เคยชอบผู้ชายมาก่อน เขาควรจะรู้สึกยังไง?

     
      ถึงจะดีใจอยู่ลึกๆแต่เขาก็ไม่อยากให้จุนโฮเข้าใจเขาผิด และไม่อยากให้ความพยายามของแทคยอนต้องสูญเปล่า
     
      “ฉันไม่ได้เป็นคนที่ทำห้องนี้เพื่อนาย.. อย่าเข้าใจฉันผิดสิ” ชานซองพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นกลาง ไม่ปฏิเสธ ไม่ตอบรับ

    “ทุกอย่างที่นายได้จากฉันมันมาจากไอ้แทคยอนล้วนๆ มันต้องการให้ฉันดูแลนาย..”

     
      จุนโฮปล่อยมือจากชายเสื้อของคนร่างสูง ใบหน้าที่เคยมีรอยยิ้มสดใสนั้นหม่นหมองลงไปทันที ดวงตาคู่เล็กฉายแววเจ็บปวด
     
      “…จะบอกว่าที่ผ่านมาก็แค่คำสั่งคุณแทคยอนใช่มั้ย”
      “อ่า… ก็ใช่”
      “นายไม่เคยรู้สึก..”
     
      ชานซองไม่ตอบ
    แต่คนร่างเล็กก็ไม่อยากได้คำตอบอีกแล้ว..

     
      ชานซองพยายามโบกมือไปมาที่หน้าของจุนโฮ พร้อมกับเรียกชื่อ ‘หน่อมแน้ม หน่อมแน้ม’ เพื่อแหย่เล่น หวังว่าจะกู้สถานการณ์ตึงเครียดให้ผ่อนคลายโดยที่ไม่รู้ว่าทำแบบนี้มันผิดที่ผิดเวลา ใบหน้าของคนผิดหวังนั้นไม่ตอบสนองอะไรทั้งสิ้น ริมฝีปากที่เปื้อนครีมยังคงเม้มแน่น ดวงตาหลุบต่ำ
     
      คนร่างสูงเอื้อมมือไปแตะริมฝีปากคู่เล็กเพื่อเช็ดคราบครีมสีขาวออก แต่จุนโฮผลักอกชานซองออกห่าง ใบหน้าฉายแววโมโหร้ายเป็นครั้งแรกตั้งแต่รู้จักและทำงานด้วยกันมา
     
      “ถ้าไม่คิดอะไรก็อย่ามาทำแบบนี้อีก ไม่ต้องมาแตะตัวฉันด้วย!”
      “จุน..”
      “พรุ่งนี้ไม่ต้องมาทำงานนะ ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย ลาออกไปได้ก็ดี!!”
     
      คนร่างเล็กกระฟัดกระเฟียดออกไปจากห้อง ซึ่งบังเอิญพอดีกับที่นิชคุณเดินเข้ามาในห้องด้วยใบหน้าหงุดหงิด สงสัยว่าชานซองชวนจุนโฮมาที่ห้องแต่งตัวทำไมตั้งนานสองนานรวมถึงจะมาเอากระเป๋าด้วย พอเขาจะตามมาก็โดนสตาฟคนอื่นห้าม รวมหัวทำอะไรกันก็ไม่รู้ ต้องโดนเขาวีนก่อนถึงจะปล่อยให้มาได้ แต่พอมาถึงจุนโฮก็ออกไปซะแล้ว
     
      แว่บหนึ่งที่เห็นหน้าจุนโฮ …เจ้าหมอนี่โกรธเหรอ เหลือจะเชื่อ!?
     
      ไอ้บ้าฮวาง ชานซองมันทำอะไรให้จุนโฮเป็นแบบนั้น คนที่สามารถทำให้ไอ้ตัวเล็กที่นอบน้อมโกรธได้นี่โคตรจะเมพเหอะ
      แล้ว..บนใบหน้าโกรธเคืองนั่นมันน้ำตาใช่มั้ย
     
      “ชานซอง นายทำอะ.. เหวออออออออออ!”
     
      นิชคุณร้องเสียงดังเมื่อเข้าไปเห็นสภาพห้องแต่งตัวที่กลายเป็นห้องเซอร์ไพรส์ของอีจุนโฮ แล้วหันมามองไอ้คนร่างสูงแบบอึ้งๆแบบไม่เชื่อสายตา ไอ้เจ้านี่ทำแบบนี้ให้จุนโฮเหรอ มันคลั่งจุนโฮแบบไอ้คุณแทคยอนแล้วเหรอ ยี้ ขนลุก!
     
      “นายทำบ้าอะไรกับห้องนี้เนี่ย! แล้วกระเป๋าฉันมันอยู่ตรงไหน ไปหากระเป๋าให้ฉันเลยนะ บ้าเอ้ย”
     
      ชานซองย่นจมูกแบบรำคาญ พยายามไม่ใส่ใจไอดอลขี้วีน เห็นเศษครีมที่ถูกเช็ดมาจากปากจุนโฮที่ปลายนิ้วก็คิดถึงใบหน้าเจ้าของครีมเมื่อครู่ คำถามที่ถามไม่จบของจุนโฮ ชานซองอยากจะตอบว่า ‘เคย..’ แต่ไม่ได้พูดออกไป
     
      คนร่างสูงเลียครีมที่นิ้วอย่างใจลอย ซึ่งคนที่มองอยู่อย่างนิชคุณก็ปัดมือนั้นออก ดึงความสนใจเพื่อจะฉะซึ่งๆหน้า
     
      “ชานซอง ได้ยินมั้ย? ฉันถามว่ากระเป๋าฉันอยู่ไหน แล้วเมื่อกี้นายทำอะไรจุนโฮ?”
      “เปล่าครับ”
      “ก็เห็นๆอยู่ว่าจุนโฮมันโกรธน่ะ นายทำเซอร์ไพรส์จุนโฮซะเว่อร์แบบนี้แล้วทำมันโกรธทีหลังได้ไงวะ เหลือจะเชื่อ”
      “ผมไม่ได้ทำนะ แทคยอนเป็นคนทำ”
     
      นิชคุณหันไปมองในห้องอีกครั้งหนึ่ง ดวงตากลมมองไล่ตั้งแต่กล่องของขวัญที่เยอะยังกับซื้อมาแจกญาติ เค้กก้อนใหญ่ยังกับเค้กแต่งงาน และโปสเตอร์รูปจุนโฮขนาดใหญ่ …ใช่สิ อย่างชานซองมันไม่มีปัญญาทำอะไรแบบนี้หรอก ก็มันอยู่ข้างๆเขากับจุนโฮตลอดเวลา
     
      ไอ้คนที่มีงานแต่ไม่เห็นจะทำ เอาเวลามาซื้อของบ้าคลั่งแบบนั้นมีอยู่คนเดียวอยู่แล้ว ทำไมถึงนึกไม่ออกนะ
     
      “อ้องั้นเหรอ แล้วไอ้คุณอ๊กตาคุแทคยอนว่างงานแสนบ้าคลั่งที่จัดเซอร์ไพรส์ซะเต็มแบบนี้ หายหัวไปไหนล่ะ” นิชคุณเอามือกอดอก พูดเยาะๆพลางเดินไปที่เหยือกแก้วใส่น้ำสีสวย เทใส่แก้วใบหนึ่งแล้วยกขึ้นจิบ ทำหน้าแหวะ น้ำแตงโมปั่นนี่มันเริ่มจืดเพราะน้ำแข็งละลายแล้ว
     
      “นี่ชานซอง! กระเป๋าฉันอยู่ไหน”
     
      ก่อนที่ชานซองจะอ้าปากตอบหรือนิชคุณจะวีนอีกครั้ง ในที่สุดแทคยอนก็ลุกพรวดขึ้นมาจากหลังโซฟาด้วยใบหน้านิ่งๆ แววตาที่เคยบ้าคลั่งนั้นไร้ความรู้สึก
     
      คนร่างสูงที่ยืนอยู่ที่ประตูสะดุ้งเล็กน้อย แต่ไอดอลหน้าสวยที่ยืนกินน้ำแตงโมอยู่ถึงกับพ่นของเหลวออกปากดังพรวดพร้อมกับแหกปากร้องว้าก ตกใจที่ ‘ไอ้คุณแทคยอน’ โผล่ขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยแบบนี้ ใครจะไปรู้ว่าอยู่ในนี้ด้วยล่ะ
     
      ให้ตายเหอะ! เผลอพูดจาไม่ดีใส่สปอนเซอร์รายใหญ่ของวงไปแบบนั้นซะได้ ตายตายตาย นิชคุณเอ้ย ตาย!

    แต่แทคยอนไม่สนใจหรอกว่าคนอย่างนิชคุณจะพูดจาใส่ยังไง เพราะประสาทรับรู้ของเขามันหยุดทำงานไปพักนึงแล้ว

     
      ตั้งแต่ได้ยินนูนอสารภาพรักกับชานซอง และเข้าใจว่าทุกอย่างที่เขาทำมาจากชานซอง แทคยอนก็รู้สึกเหมือนมีน้ำเย็นๆไหลลงมาที่หัว ซึมเข้าไปที่หัวใจ ลงไปที่ท้อง.. รู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัวจนชาและไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว
     
      คำว่า ‘ฉันชอบนาย’ ตามด้วยชื่อของฮวางชานซองที่หลุดออกมาจากปากของอิจนูนอ คำพูดที่เขาอยากได้ยิน แต่ชื่อที่ต่อท้ายไม่ใช่ชื่อเขา
    …สวรรค์เท่านั้นที่จะรู้ว่าเขาเฮิร์ทแค่ไหน


     
    แทคยอนไม่เคยคาดหวังจะได้คบหรือได้ครอบครองอะไรนูนอเลย
      แค่ได้ซัพพอร์ต ได้ทำเพื่อนูนอเท่านั้นก็พอ ให้เสียเงินแค่ไหนไม่สำคัญ มันคือความสุขของเขา

    แต่เมื่อรู้ว่าไอดอลที่ตัวเองคลั่งไคล้มีคนที่ชอบแล้ว มันช็อคยิ่งกว่าช็อค หัวใจหล่นวูบ แทคยอนเชื่อว่าใครที่เป็นแฟนคลับไอดอลซักคนแล้วรู้มาว่าเค้ามีคนที่ชอบในชีวิตจริงแล้วมันจะรู้สึกแย่แค่ไหน..

     
      ทั้งนี้ทั้งนั้น ใครเคยเจอแบบแทคยอนมั้ยล่ะ? ไอดอลที่ตัวเองชอบมีความรักโดยที่คนๆนั้นเป็นเพื่อนตัวเอง
     
    และที่เจ็บกว่าคือเมื่อพูดว่าทุกสิ่งที่ชานซองทำ ทุกสิ่งที่นูนอเห็นมันมาจากแทคยอน และนูนอก็ผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด

    นี่นูนอไม่อยากได้ของๆเขาขนาดนี้เลยเหรอ...
     
    ที่เขาทุ่มเทไปนี่ไม่ได้อยู่ในสายตาของไอดอลที่เขาชอบเลยเหรอ?
    เขาจะซัพพอร์ตไปเพื่ออะไร
    เขาจะทำไปเพื่ออะไร

    แทคยอนก้มมองช่อดอกไม้ในมือครู่หนึ่งก่อนที่จะขว้างทิ้งลงพื้นเพราะมันไม่มีประโยชน์สำหรับเขาอีกต่อไป นิชคุณร้องว้ากอีกครั้ง ทำเอาคนร่างใหญ่หันมามอง คนถูกจ้องถึงกับปั้นหน้าไม่ถูก

     
      เมื่อกี้เผลอนินทา ตอนนี้ก็พ่นน้ำออกจากปากแล้วก็โวยวาย หมดกันภาพพจน์ของฉัน.. ไม่เป็นไร เอาใหม่ๆ
     
      “อ่า.. คุณแทคยอนทำไมอยู่ในห้องนี้ได้ล่ะครับ” คนหน้าสวยพยายามปั้นสีหน้าและรักษาสุ้มเสียงให้คงที่ รวมถึงอยากแก้สถานการณ์ที่ตัวเองเผลอว่าคนตำแหน่งใหญ่คนนี้ไปเมื่อครู่
     
      “คุณแทคยอนตกแต่งห้องนี้เพื่อจุนโฮเหรอ ผมว่าจุนโฮต้องประทับใจมากแน่ๆ เนอะชานซอง เนอะ เนอะ!”
     
      แต่อ๊คแทคยอนก็แค่ปรายตามองนิ่งๆ นิชคุณเพิ่งรู้สึกกลัวไอ้โอตาคุร่างใหญ่คนนี้เป็นครั้งแรก ตั้งแต่เจออ๊กตาคุมา นิชคุณไม่เคยเห็นแววตาน่ากลัวแบบนี้มาก่อน
     
      เมื่อกี้มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นวะเนี่ย!? ทำไมแกไม่ต่อล้อต่อเถียงหรือทำตัวคลั่งจุนโฮใส่ฉันเหมือนเดิมวะ?
      แทคยอนเดินมาตรงหน้านิชคุณที่พยายามทำตากลมและยิ้มหวานใส่ แต่คนร่างใหญ่เพียงแค่เหยียดตามอง
     
      “เลิกพูดจาเลียแข้งเลียขาซะที ไม่อยากฟัง”
     
      ชานซองรีบเดินเข้ามาที่เพื่อนร่างใหญ่ บรรลัยแล้ว แทคยอนโหมดดาร์คเริ่มขึ้นแล้ว
     
      ถ้าแทคยอนผิดหวัง โมโห หรือเสียใจระดับสูงสุดมันจะเป็นแบบนี้ และจะพูดจาทำร้ายจิตใจคนที่อยู่รอบข้างโดยที่ไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น แค่ขอให้ได้พูดเท่านั้น ความรู้สึกแย่ๆของมันจะได้ลดลง
      พูดง่ายๆก็คือ พาลไปทั่ว
     
      แล้วเหยื่ออารมณ์ของมันในคราวนี้ดันเป็นนิชคุณที่ขี้วีนซะอีก จะออกหัวออกก้อยล่ะเนี่ย ปากไวทั้งคู่ซะด้วย ให้ตายเห๊อะ! ถ้าทะเลาะกันขึ้นมาบริษัทถล่มแน่
     
      “แทค กลับบ้าน” คนร่างสูงพูดเรียบๆ “สงบสติอารมณ์ก่อน”
     
    แทคยอนหันมามอง ในดวงตาคมมีเศษเสี้ยวของแทคยอนคนเก่าหลงเหลืออยู่เพียงเล็กน้อยจนชานซองรู้สึกใจหาย ..แทคมันไม่เคยเป็นแบบนี้

     
      ..นี่มันเฮิร์ทเข้าขั้นเลยนะเนี่ย
     
      “ฉันมันผิดเองแหละที่เกิดมาเป็นผู้บริหาร”

    คนร่างใหญ่พูดนิ่งๆเหมือนพูดให้ตัวเองฟัง เหยียดรอยยิ้มบางที่ดูจะฝืนเต็มทน คนร่างสูงที่มองอยู่ถึงกับขมวดคิ้วมุ่นเพราะความเป็นห่วง อีกทั้งรู้สึกผิดที่เป็นสาเหตุหลักทำให้เซอร์ไพรส์ของมันต้องพัง

     
      แต่ถ้าหากชานซองรู้ว่าแทคยอนคิดอะไรอยู่ในใจคงไม่ห่วงและรู้สึกผิดแบบตอนนี้หรอก
     
      ถึงภายนอกจะนิ่ง แววตาจะแข็งกระด้างจนดูเหมือนไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป แต่ภายในก็ยังคืออ๊กแทคยอน ยังคืออ๊กตาคุที่คิดและพร่ำเพ้ออยู่ในใจคนเดียวเหมือนกับแทคยอนคนเดิมไม่เปลี่ยน
     
      นูนอครับ..
     
      ถ้าแทคยอนเป็นสตาฟ ถ้าแทคยอนเป็นคนที่คอยดูแล คอยส่งของที่มีคนฝากมาให้ คนที่นูนอชอบคงจะเป็นผมใช่มั้ยครับ.. รอยยิ้มน่ารักของนูนอตอนที่รับของจากชานซอง ..รอยยิ้มนั้นมันไม่ใช่เพราะของขวัญมันมาจากผม แต่มันเป็นเพราะคนเอามาให้คือชานซองใช่มั้ยครับ?
     
      ทำไมเขาถึงไม่เป็นสตาฟ ทำไมเขาต้องเป็นผู้บริหาร..
      ถ้าแทคยอนเป็นคนคอยดูแลนูนอ มีเรอะที่นูนอจะไม่ปลื้มแทคยอนน่ะ! 
      บริหารงานที่บริษัทมาเป็นเวลาห้าปียังไม่เคยตัดสินใจผิดพลาดแม้แต่ครั้งเดียว
      นี่คือข้อผิดพลาดครั้งแรกในชีวิตเขาสินะ.. ทำไมถึงพลาดแบบนี้ ทำไม?
     
      นี่ถ้าเขาเป็นสตาฟนะ ทุกอย่างมันจะไม่เป็นแบบนี้
     
      นิชคุณหายใจเข้าลึกๆ ฉีกยิ้มและพยายามพูดเอาใจแทคยอนอีกครั้ง “คุณแทคยอนเป็นอะไรรึเปล่าครับ? เจอจุนโฮแล้วใช่มั้ย จุนโฮว่ายังไงบ้าง”
     
      แน่นอนว่าแทคยอนโหมดพาลใส่ทุกคนในโลกเพราะความผิดหวังแบบนี้ไม่มีทางพูดดีๆกลับไปหรอก ยิ่งพูดชื่อนูนอให้ได้ยินเกี่ยวกับเซอร์ไพรส์วันนี้ยิ่งไม่สบอารมณ์
     
      “เพราะผมเป็นแฟนคลับ เพราะผมมีเงิน เพราะผมเป็นสปอนเซอร์ใช่มั้ยล่ะคุณถึงพูดจาหวานๆใสๆแบบนี้น่ะ” แทคยอนเหยียดตามอง

    “ถ้าผมเป็นแค่สตาฟหรือแฟนคลับบ้าๆคนนึง คุณก็คงจะด่าผมแบบที่ด่าชานซองเมื่อกี้ล่ะสิ …เพื่อเงินนี่ทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ”

     
      นิชคุณหุบยิ้มแล้วก้มหน้าพลางกัดริมฝีปากแน่น หายใจถี่ พยายามข่มอารมณ์ไว้แต่ดูเหมือนมันจะยากเย็นเหลือเกิน เขาไม่อยากปรี๊ดแตกต่อหน้าคนใหญ่คนโต แต่คำพูดแบบนั้นมันดูถูกเขามาก..
     
    “คนอะไรสร้างภาพชะมัด”
     
      สิ้นสุดประโยคนี้ นิชคุณถึงกับสติขาดผึง เป็นไงเป็นกัน พูดจาหมาๆแบบนี้ใครจะทนได้!
     
      เป็นบ้าอะไรถึงมาพูดกับฉันแบบนี้น่ะ! ฉันพูดดีๆกับนายนะเว้ย”

    คนหน้าสวยปรี๊ดแตก กล้าชี้หน้าด่าแทคยอนเป็นครั้งแรกโดยไม่ต้องพึ่งแอลกอฮอล์แบบครั้งก่อน

     
      “แล้วจะทำไม” แทคยอนพูดเยาะๆ “ที่กล้าพูดเพราะผมเป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ของคุณไง เข้าใจมะ"
     
      “ถึงไม่มีนายเป็นสปอนเซอร์ฉันเดบิวมาได้ตั้งหลายเดือน อย่ามาถือว่าตัวเองสำคัญนักเลย”
     
      “พูดแบบนี้นี่ดูตัวเองรึเปล่า เป็นไอดอลตีสองหน้าแบบนี้คนอื่นรู้เข้าใครเค้าจะเอา  ถ้าซักวันผมยกเลิกเป็นสปอนเซอร์แล้วจะว่าไง ใครจะหนุนหลังพวกคุณ” แทคยอนตะคอก 
     
      “ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการเป็นไอดอลก็อย่ามาพูดหน่อยเลย ไอ้บ้า!!!!”
    "อย่างแกก็มีแต่เงิน มีแต่เปลือก ความฝันไม่มี แกไม่เข้าใจหรอก!!! เอาเงินยัดปากตายไป๊!!!!!!!"
     
      ชานซองทำหน้าเลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูก ไอดอลกับสปอนเซอร์รายใหญ่มาทะเลาะกันแบบนี้มันใช่เรื่องซะที่ไหน บรรลัยสุดๆ
     
    คนร่างสูงพยายามดึงแขนแทคยอนให้ออกจากห้องแต่ก็ไม่สามารถ จึงเข้ามายืนแทรกกลางระหว่างคนทั้งคู่แล้วคอยบอกนิชคุณให้ใจเย็น แต่ไอดอลขี้วีนนั้นก็ใช้มือจ้วงเค้กที่วางอยู่บนโต๊ะปาใส่หน้าชานซองแบบยั้งอารมณ์ไม่อยู่

     
      “อย่ามายุ่ง!” นิชคุณแว้ดลั่น
     
      คนที่มีเค้กโปะอยู่เต็มหน้าถึงกับกลอกตา ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วหลีกทางลงไปนั่งยองๆกุมขมับ
      โอเค ยอม ต่อยตีกันให้หายบ้าก่อนแล้วค่อยเรียกชานซองละกัน แม่ง… แต่เค้กก็อร่อยดีแฮะ
     
      นิชคุณปาเค้กที่เหลือในมือใส่หน้าแทคยอนหากแต่ไร้คำพูด ริมฝีปากสั่น น้ำตาเริ่มคลอเบ้า

    เขาผิดรึไงที่ต้องสร้างภาพลักษณ์ที่ดีน่ะ มันผิดมากรึไง? เขาก็แค่อยากมีภาพพจน์ที่ดีให้สมกับที่ได้เดบิวเป็นนักร้อง เขาอยากเป็นแบบอูยองที่มีภาพลักษณ์ดีมาก มีชื่อเสียง ไม่มีข่าวฉาว และความนิยมไม่เคยตก

     
      มันผิดมากใช่มั้ยที่เขาพยายามทำแบบนั้นน่ะ!
     
      แล้วต่อหน้าแทคยอนที่เป็นสปอนเซอร์ การวางตัวดีมันก็เป็นสิ่งที่ควรทำไม่ใช่รึไง?! เขาไม่ได้ทำเพราะอยากได้เงิน ไม่ได้ตั้งใจจะสร้างภาพ แต่เขาแค่อยากเป็นแบบอูยองก็เท่านั้น.. เขาแค่อยากวางตัวดีๆให้สมกับเป็นไอดอลเท่านั้น..

      เขาพยายามอย่างหนักเพื่อจะเป็นไอดอลที่ดีก็แค่นั้น นั่นคือเหตุผลทั้งหมด
    ก็แค่อยากให้คนชอบเขาเท่านั้นเอง..

     
      “นายไม่รู้ นายไม่เข้าใจว่าทำไมฉันถึงเป็นแบบนี้ก็..ก็ อย่าพูด” คนหน้าสวยสะอื้นฮักๆ “ฉันไม่ได้ ไม่ได้ทำ..เพื่อเงิน ฉันไม่..”
     
      แทคยอนเบิกตากว้างเมื่อเห็นคนตรงหน้าน้ำตาไหลเป็นทาง 
     
      ชานซองที่กำลังนั่งยองๆปาดครีมออกจากหน้าถึงกับเงยหน้าขึ้นมาทั้งๆที่นิ้วชี้ยังคาอยู่ในปาก คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันแล้วตวัดตาไปมองไอ้ปากหมาตัวปัญหา แต่มันก็ไม่ทำอะไรนอกจากยืนนิ่งๆมองหน้าไอดอลที่กำลังร้องไห้ฮักๆอยู่คนเดียวด้วยแววตาที่ไร้อารมณ์
     
      ชานซองถอนหายใจแล้วลุกขึ้นยืน ขยับตัวจะเข้าไปใกล้นิชคุณแต่โดนเจ้าตัวผลักอกให้ห่างออกไป
     
      “ออกไป ออกไปทั้งคู่ ไป! จะเลิกเป็นสปอนเซอร์ จะทำบ้าอะไรก็ไป!!!” นิชคุณร้องโวยวายขึ้นอีกครั้ง จ้วงเค้กวันเกิดจุนโฮแล้วปาใส่คนทั้งคู่อีกรอบ รวมถึงกล่องของขวัญที่วางอยู่ อะไรที่อยู่ใกล้มือเป็นโดนขว้างใส่หมด
     
      จะไปตาย จะเลิกชอบก็เชิญ แล้วไปให้พ้น!! ไม่ต้องมายุ่งกับพวกฉันอีก ไป!”
     
      แทคยอนถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วออกไปจากห้องโดยมีชานซองที่วิ่งออกมาติดๆ สตาฟผู้หญิงร่างอวบที่คุ้นหน้าคุ้นตาทำหน้าตกใจเมื่อเห็นสีหน้าของสปอนเซอร์ร่างใหญ่ที่เย็นชาสุดๆ รวมถึงเสียงโวยวายเมื่อครู่ในห้องแต่งตัวที่ดังลั่นไปทัั้งสตูดิโอ แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไป..
     
      ชานซองยกมือห้ามเมื่อสตาฟคนนั้นทำท่าจะถาม
    “ไม่ใช่ตอนนี้ครับพี่ ไปดูนิชคุณก่อนเถอะ ส่วนคุณแทคยอนผมจัดการเอง”

    แทคยอนถอนหายใจอีกครั้งพลางเอามือกุมขมับ ทำไมถึงได้วุ่นวายขนาดนี้?
    อยากกลับบ้าน อยากกินยานอนหลับ.. ไม่อยากคิดเรื่องนูนอ และไม่อยากคิดเรื่องนิชคุณ ทั้งที่ปกติแล้วแทคยอนจะไม่เคยคิดถึงชื่อ ‘นิชคุณ’ เลยก็ตาม ไม่เคยอยู่ในสมองไม่เคยสนใจไม่อยู่ในสารบบ
    แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่แบบนั้น เพราะภาพนิชคุณที่มองเขาทั้งน้ำตามันติดอยู่ในสมองเขายิ่งกว่าเสียงนูนอที่สารภาพรักกับชานซองซะอีก…

     
      สองครั้งแล้วที่ไอดอลคนนี้ต้องร้องไห้เพราะคำพูดเขา อะไรกัน..

    เขาแค่ชอบนูนอมากกว่าเท่านั้นเองนะ ชิ..
    เขาก็แค่ระบายอารมณ์ใส่เฉยๆนะ คิดมากไปได้ ชิ...
      และเขาก็รวยจริงนิ มีเงินเป็นถุงเป็นถังแล้วทำไม ชิ...


     
      นิชคุณเอามือปาดน้ำตาและไม่ยอมให้สตาฟคนอื่นๆเข้ามายุ่งวุ่นวาย คนหน้าสวยเดินรื้อของไปทั่วห้องเพื่อหากระเป๋าเป้ของตัวเอง ทั้งถีบทั้งเตะและโยนดอกไม้ลงพื้นแบบไม่แคร์ว่าใครจะเก็บกวาด จนในที่สุดก็เจอสิ่งที่ค้นหา แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นแจบอมยืนยิ้มแฉ่งอยู่ข้างๆ
     
      ห้ามสตาฟได้ สั่งคนอื่นได้ แต่กับปาร์ค แจบอมเขารู้ว่าทำอะไรไม่ได้เพราะคนตรงหน้ารั้นเกินกว่าที่ใครจะเข้าใจ
     
      แล้วนี่มาเพ่นพ่านในบริษัทอีกแล้ว เลิกขายไก่ทอดแล้วมาทำงานที่นี่เลยดีกว่ามั้งไอ้ตี๋ อูยองมันพาเข้ามาในบริษัทในเวลาที่ท่านประธานไม่เข้าตึกอีกแล้วสินะ คอยดูซักวันจะฟ้องให้ เห็นว่าเป็นตัวขายอันดับหนึ่งของค่ายจะทำอะไรก็ได้รึไงหา อูยอง?
     
      “ลำยอง แกร้องไห้เพราะไอ้คุณแทคใช่ม้า ฉันได้ยินเสียงแกทะเลาะกัน”
     
      เสียงใช่ม้า ใช่ม้า น่ารำคาญพร้อมกับชื่อเล่นอันน่าอับอายที่ออกมาจากปากคนหน้าตี๋ ทำเอานิชคุณแทบจะปรี๊ดแตกอีกรอบ แต่ไอ้คนน่ารำคาญก็ไม่รู้ตัว กลับไปเขย่ากล่องของขวัญที่ถูกขว้างทิ้งอย่างสนอกสนใจก่อนที่จะพูดขึ้นลอยๆว่า
     
    “วันนี้มีแต่คนร้องไห้เนาะ หน่อมแน้มก็ร้อง”
      “พี่รู้ด้วยเหรอ” นิชคุณถาม รู้สึกสนใจขึ้นมาเพราะนั่นก็เป็นสิ่งที่เขาสงสัยอยู่แต่ไม่ได้คำตอบ “รู้มั้ยว่าทำไม”
     
    “รู้ดิ้ พอดีฉันกำลังชิ้งฉ่องอยู่แล้วหน่อมแน้มมันเข้ามาในห้องน้ำในสภาพร้องไห้ขี้มูกโป่งเลยแหละ” คนตัวเล็กว่าแล้วแงะกระดาษห่อของขวัญออก 
     
    “ฉันก็เลยรีบชิ้งฉ่องแล้วไปปลอบมัน กระด๊ากกระดากมากอดหน่อมแน้มเนี่ย ไม่เคย”
      “แล้วยังไงต่อเล่า”
      “หน่อมแน้มมันชอบชานซอง เพิ่งสารภาพรักไปด้วย แต่ไอ้หมีนั่นมันบอกว่าที่มันทำดีด้วยเป็นเพราะคำสั่งจากไอ้คุณแทค ไม่ได้เพราะชอบหน่อมแน้มซะกะหน่อย” 
     
      แจบอมแกะกล่องของขวัญได้ในที่สุด เป็นหมวกสีดำยี่ห้อชั้นนำ ซึ่งคนตัวเล็กก็สวมทันที
     
      “แต่ฉันว่าไอ้หมีมันซึนนะแกว่ามั้ย พูดออกมาได้ว่าไม่ได้ชอบ ฉันเห็นเดินตามหน่อมแน้มต้อยๆ”
    “น่าสงสารหน่อมแน้ม วันเกิดทั้งทีต้องมาร้องไห้แบบนี้ ไอ้อวบอ้วนน้อยของฉัน”
    “นี่หน่อมแน้มมันวานให้ฉันมาเอากระเป๋าให้มันนะเนี่ย ใบไหนก็ไม่รู้ แกรู้ปะ”
    “..ว่าแต่ฉันขอหมวกนี่ได้ปะลำยอง เฮ้ย ลำยอง?”
     
      นิชคุณไม่ตอบ
     
      เขารู้สึกตกใจหน่อยๆกับสิ่งที่ได้ยิน แต่ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่เพราะของจุนโฮมันก็ค่อนข้างจะออกอาการว่าแอบปลื้มชานซอง

    เพียงแค่ไม่คิดว่าจะชอบขนาดไปสารภาพรัก และก็ร้องไห้ขนาดนั้นเมื่ออกหัก มิน่าล่ะถึงได้สะบัดตูดแล้วร้องไห้ออกไป

    ทำยังกะละคร..
      ผู้หญิ๊งผู้หญิงว่ะไอ้นี่ เคะจริงๆ  
    ถึงจะเป็นเรื่องน่าเศร้าของไอดอลรุ่นน้อง แต่ใบหน้าของนิชคุณกลับฉีกยิ้มกว้าง ..ไม่ใช่รอยยิ้มเทพบุตร ไม่ใช่รอยยิ้มไอดอล แต่เป็นรอยยิ้มของจริงจากใบหน้าจริงๆของเขาที่ยิ้มเพราะความสะใจอยู่ลึกๆ

     
      เหอะ.. สมน้ำหน้าไอ้อ๊กตาคุ ฝากปลาย่างไว้กับแมว ฝากจุนโฮไว้กับชานซอง สุดท้ายเป็นไง? จุนโฮไม่เคยสนใจแกซักนิด
     
      แม่งอยากจะหัวเราะให้โลกแตก อยากจะรู้เหลือเกิ๊นนนนน ว่าถ้ามันรู้ว่าคนที่มันคลั่งไคล้ไปชอบคนอื่นเนี่ย มันจะทำยังไงต่อไป!?



    - To be continued -
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×