ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [2PM] OTAKU BOY ~

    ลำดับตอนที่ #2 : OTAKU BOY - 01 -

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 382
      6
      19 ธ.ค. 57

    - 01 -
     
     
     
    เหมือนความฝันเลยที่ได้เห็นอิจนูนอตัวเป็นๆกำลังยิ้มอยู่
     
    ไม่ว่าจะชื่ออิจนูนอแบบในวงการ หรืออี จุนโฮตามชื่อจริง ชื่อไหนก็น่ารักสำหรับแทคยอนเสมอ
     
    ตอนที่กำลังยืนแบบเขินๆอยู่ข้างๆนิชคุณก็น่ารัก
    ตอนที่หัวเราะแบบอายๆแล้วเอามือจับจมูกก็น่ารัก
    ตอนที่ตอบคำถามแล้วกระโดดดุ๊กดิ๊กไปมาก็น่ารัก
     
    แทคยอนเองก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเขาถึงชอบดูโอคู่นี้ทั้งที่ปกติตัวเองมักจะชอบแต่เกิร์ลกรุ๊ป ตอนที่ฟังเพลงก็เฉยๆ ตอนที่เห็นทั้งคู่ในทีวีครั้งแรกก็งั้นๆ ดูแล้วรู้สึกว่านิชคุณมีสเน่ห์กว่าตั้งเยอะ
    แต่คงเป็นเพราะนิชคุณมีสเน่ห์มากจนเกินไปล่ะมั้ง เลยทำให้เขาไม่ชอบพวกที่หน้าตาดีหรือเพอร์เฟคมากเกินไป คนที่มีสเน่ห์น้อยกว่าจึงน่าสนใจสำหรับเขาโดยไม่ยาก ยิ่งทำให้อยากรู้ว่านายจะมีอะไรดีถึงได้มาเป็นนักร้องคู่กับคนที่เสน่ห์เหลือร้ายอย่างนิชคุณได้
     
    อีกอย่าง นูนอมีในสิ่งที่นิชคุณไม่มี คือตายิ้ม...
    ใช่แล้ว ตายิ้มแอทแทค
     
    นิชคุณยิ้มแล้วตาเยิ้ม แต่แทคยอนชอบคนตายิ้ม มันน่ารัก มันมองได้เรื่อยๆ จบ! 
     
    ตอนแรกที่รู้ตัวว่าชอบไอดอลผู้ชาย จนถึงกับพูดออกมาได้ว่า ‘น่ารัก’ แทคยอนก็ตกใจตัวเองเหมือนกัน
     
    เอาน่า ก็คือๆกันแหละ ไอดอลก็คือไอดอล
    .......แต่นูนอน่ารักจริงๆนะ *เขิน
     
    ชานซองที่ยืนอยู่ข้างๆทำเสียงฮึดฮัดๆแง่งๆใส่แทคยอนมาซักพักแล้ว หงุดหงิดว่าเมื่อไหร่จะได้ออกไปจากที่ตรงนี้เสียที แต่คนร่างใหญ่กลับไม่สนใจ สิ่งที่ดึงดูดความสนใจเขายังคงเป็นนักร้องดูโอ ‘คุณ-นูนอ’ ที่อยู่บนเวที ตอนนี้ยังคงสัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องเพลงซิงเกิลที่ออกมา น่าเบื่อนิดหน่อยเพราะเขาจำรายละเอียดได้ทั้งหมดแล้ว
     
    “แทค ฉันทนไม่ไหวแล้วว้อย” เสียงชานซองบ่นมาเป็นระยะๆ แต่แทคยอนไม่สนใจ
     
    ดูสิ นูนอกำลังอมยิ้ม น่ารัก..
     
    “เมื่อไหร่จะได้เวลากลับวะ ฉันจะตายแล้ว”
     
    ตอนเขินก็ไปหลบข้างหลังนิชคุณ ยิ่งน่ารัก..
     
    “หิวง่า ไม่ไหวแล้วง่า เมื่อยแล้วง่า”
     
    พูดชื่อเพลงตัวเองผิด เป๋อเหลอที่สุด แต่น่ารักกกกกก..
     
     
    “แทคว้อย แทคคค!!”
     
     
    ชานซองตะโกนลั่น พอดีกับที่บนเวทีกำลังเงียบเพราะเพิ่งจะตอบคำถามเสร็จ เสียงตะโกนราวกับหมีคำรามจึงได้ดังไปทั่วบริเวณ ถึงจะไม่มากพอที่จะหยุดทุกสิ่งที่เคลื่อนไหวได้ แต่ก็พอที่จะทำให้คนบนเวทีทั้งสี่หันมามองคนทั้งคู่ที่ยืนหลังแผงกั้นเหล็กได้ชั่วขณะหนึ่ง
     
    จุนโฮมองมาทางชานซองแล้วกะพริบตาปริบๆ ริมฝีปากเล็กๆส่งยิ้มน้อยๆมาให้ ส่วนนิชคุณทำหน้างงๆแต่ก็ยังสวยและน่ารักอยู่ดีทั้งที่ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรเลย นายจะมีใบหน้าที่เพอร์เฟคไปถึงไหนวะ?
     
    โอ... สัมภาษณ์กันต่อไปเถอะ หมีอาย..
     
     
    “ไอ้ชาน!” แทคยอนกึ่งคำรามกึ่งกระซิบ 
     
    “เออ ขอโทษๆที่ฉันขัดจังหวะไอดอลบนเวทีของแก แต่ฉันหิวอะแทค เราไปหาไรกินไม่ได้เหรอฮื้อออ?”
     
    คนร่างยักษ์ยิ้มแป้น ตอบแบบไม่สนใจประโยคเมื่อครู่ของเพื่อน “เมื่อกี้แกเห็นนูนอหันมาทางนี้มั้ย เขามองฉันรึป่าววะชาน แกเห็นมั้ยๆ”
     
    แทคยอนดีใจจนเนื้อเต้นโดยไม่สนใจดวงตาคมที่เหล่มองอย่างเอือมระอาของชานซอง

    เมื่อกี้นูนอหันมาด้วย เมื่อกี้นูนอหันมาด้วย!
    เขาจะเห็นแทคยอนมั้ย? เห็นสิ เพราะเขาออกจะตัวสูง ต้องเห็นแน่ๆ

    ความคิดนั้นทำให้อ๊ก แทคยอนแทบอยากจะลงไปดิ้นเพราะความเขิน
     
     
    “เฮ้ย ถามจริงเหอะแทค..” ชานซองพูดกึ่งๆตะโกน แข่งกับเสียงของสาวๆที่เริ่มกรี๊ดกร๊าดอีกครั้ง “แกชอบไอ้จุนโฮอะไรนี่ตรงไหนวะ”
     
    “ทำไมอะ ชอบไม่ได้รึไง” แทคยอนพูดเสียงแข็งๆ ดูท่าทางจะไม่พอใจ
     
    เป็นเอามาก.. แตะไม่ได้เลยทีเดียว คนร่างสูงคิดอย่างอึ้งๆ
     
    “ก็นิชคุณออกจะดูดีกว่าอีก ทั้งสวยทั้งหล่อ เอนเตอร์เทนแฟนๆก็ดีกว่า หลายๆอย่างอะ ฉันว่าไอ้จุนโฮอะไรนี่ด้อยกว่าเยอะในหลายๆด้าน”
     
    แทคยอนหรี่ตามองเพื่อนนิ่งๆ ชักสีหน้าไม่พอใจจนชานซองรู้สึกกระอักกระอ่วน อยากจะถอนคำพูดที่ล่วงเกินไอดอลของมันและของสาวๆแต่ก็ไม่ทัน สาวๆรอบตัวชานซองเองก็ส่งสายตาอำมหิตมาให้เช่นกันแต่น่ากลัวน้อยกว่าแทคยอนประมาณสองร้อยปีแสง..
     
    “ถ้านายเลิกมองแต่นิชคุณ นายก็จะเห็นว่านูนอมีดีอะไร” คนร่างใหญ่พูดเชิ่ดๆ
     
    “เฮ้ย เฮ้ย ฉันไม่ได้มองแต่นิชคุณ” ชานซองรีบแก้ตัว “ก็มันมีออร่ามากกว่านี่หว่า เด่นกว่าด้วย”
     
    “ก็ถ้านายเลิกสนใจอะไรที่มันถูกปั้นมาให้เพอร์เฟคอยู่แล้ว นายจะเห็นอะไรที่มันเพอร์เฟคกว่าอยู่ข้างหลัง”

    "ห๊ะ"

    "คิดสิ คิด!!!"
     
    คนร่างสูงก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าไอ้ยักษ์มันหมายความว่ายังไง...
     
    ถึงเวลาแจกลายเซ็น พิธีกรประกาศให้แฟนคลับของคุณ-นูนอไปเรียงแถวอยู่ด้านข้างเวที จุดนี้แทคยอนถึงกับลากแขนเพื่อนร่างสูงแล้ววิ่งแซงคนรอบข้าง ปาดซ้ายขวา กระแทกคนที่เกะกะให้หลบไปโดยลืมความเป็นสุภาพบุรุษไปเลยทีเดียว ลืมไปแม้กระทั่งว่าคู่แข่งของเขาทั้งหลายนั่นเป็นผู้หญิง..
     
    แทคยอนได้ยินชานซองพูด ‘ขอโทษครับๆ’ เบาๆระหว่างที่เขากำลังทำการฝ่าฝูงชนเพื่อจะไปต่อแถวอยู่หน้าๆให้ได้ คือบางทีก็ไม่จำเป็นขนาดนั้น เพราะการแจกลายเซ็นวันนี้มันต้องใช้บัตรสมาชิก โดยหมายเลขสมาชิกแรกจะเป็นคนแรกที่ได้ลายเซ็นก่อนอยู่แล้ว
     
    ทายสิว่าใคร?
     
    แฟนคลับเมมเบอร์แรกของคุณ-นูนอ คืออ๊ก แทคยอน.. 
    และหมายเลขสองคือฮวาง ชานซอง นั่นเพราะแทคยอนสมัครให้หรอกนะ ก็เขาอยากให้นูนอมีแฟนคลับเยอะๆ เขาเลยสมัครเผื่อชานซองไว้ด้วย เพราะเขาจะต้องให้ชานซองช่วยซัพพอร์ตนูนอของเขาอีกแรง
     
    ครั้งแรกที่บอกแบบนี้ ชานซองถึงกับพูดว่า แกตัดสินใจให้ฉันซัพพอร์ตใครล่วงหน้าโดยไม่สนใจเลยเหรอว่าฉันจะเอาด้วยรึเปล่า? แน่ใจเหรอว่าฉันจะซัพพอร์ตคนเดียวกับนาย?
     
    แน่นอนว่าแทคยอนไม่สนใจหรอก แค่คุณ-นูนอได้สมาชิกแฟนคลับเพิ่มอีกคนก็พอ~
     
     
    หลังจากฝ่าฟันไปจนถึงข้างเวที เพื่อนซี้ร่างใหญ่ก็ยืนอยู่เป็นคนแรกของแถวจนได้(เพราะการแซง แย่ง และเบียดของแทคยอนที่ไม่จำเป็น) ยืนตรงนี้แล้วยิ่งมองเห็นคู่ดูโอที่อยู่บนเวทีได้ชัดกว่าเดิม ทั้งคู่นั่งเรียบร้อยอยู่หลังโต๊ะที่ถูกจัดเตรียมมาให้ จุนโฮนั่งอยู่ด้านขวา แสดงว่าแทคยอนต้องได้ลายเซ็นของนิชคุณก่อน
     
    ชิ.. ไม่เป็นไร ได้ของนูนอทีหลังก็ได้ 
    ได้จับมือนูนอทีหลัง ดีกว่าได้รอยมือของนิชคุณมาแปะทับ โอเคๆๆๆๆ
     
     
    พิธีกรบอกให้สองคนแรกเดินขึ้นไปก่อน โดยแทคยอนจะให้นิชคุณเซ็น พูดคุย จับมือ ในระหว่างที่ชานซองยืนรออยู่ด้านข้าง เมื่อแทคยอนขยับไปทางจุนโฮ ชานซองถึงจะได้ให้นิชคุณเซ็นบ้าง(เขาไม่ได้ต้องการเล้ย...)
     
    แทคยอนใจเต้นตึกตัก มองไปที่คู่ดูโออย่างตื่นๆ ทั้งสองคนก็มองเขาแบบสนใจอยู่เหมือนกัน เพราะแฟนคลับของพวกเขาส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง แทคยอนและชานซองถือว่าเป็นแฟนบอยคนแรกๆก็ว่าได้
     
    จุนโฮสนใจขนาดที่ว่ายื่นหน้าออกมามองให้ชัดๆ ตาตี่ๆนั้นกะพริบปริบๆอย่างสนใจ
     
    โอพ่อแก้วแม่แก้ว พระเจ้าจอร์จทอดกล้วย!
    หน้าตาน่ารัก ท่าทางที่ยื่นหน้ามามองเขาอย่างสนใจแบบนั้น แทคยอนอยากจะถลาเข้าไปให้นูนอเซ็นก่อนเหลือเกิน...
     
    ขายาวๆก้าวขึ้นไปบนเวทีอย่างเก้ๆกังๆ สายตายังคงมองไปที่จุนโฮ ซึ่งคนถูกมองก็ยิ้มบางๆแล้วพยักหน้าให้
     
    ‘ป๊าดดดดดดดดดดดดดดดดด ทำไมน่ารักแบบนี้!’
     
    แทคยอนเดินดุ่มๆจนเดินเลยนิชคุณไปสองก้าว ก่อนจะนึกได้แล้วหันมาทางคนหน้าสวยที่นั่งอยู่คนแรก แต่ใบหน้าสวยคนนั้นแอบมีแววไม่พอใจเล็กๆ แทคยอนไม่สนใจเท่าไหร่ จึงเอาซีดี ซีดีพรีเมี่ยม โฟโต้บุค นิตยสารวางกองๆไว้ตรงหน้านิชคุณโดยไม่พูดอะไร สายตายังคงจับจ้องไปที่จุนโฮที่นั่งข้างๆ
     
    นูนอของเขา(?)เลิกคิ้วให้นิดหนึ่งเพราะตัวเองยังว่าง ยังไม่ได้เซ็นอะไรให้ใคร ใบหน้าเล็กๆยื่นไปมองนิชคุณที่กำลังเซ็นอย่างสนใจ แล้วก็มองแทคยอนสลับไปมา ปากเล็กๆขยับยุกยิก ปากจู๋บ้าง ทำแก้มป่องบ้าง
     
    โอยยยยย ขอบคุณตัวเองที่เกิดมา ไม่งั้นคงไม่เจออะไรที่น่ารักขนาดนี้...
     
     
    “ชื่ออะไรครับ” นิชคุณถาม ดึงความสนใจมาจากจุนโฮมาได้ขณะหนึ่ง
     
    แทคยอนทำหน้างงๆ “เอ่อ.. อ๋อ แทคยอน”
     
    ใบหน้าสวยได้รูปนั้นคลี่ยิ้มให้ “คุณแทคยอน.. มีของเยอะจังนะครับ”
     
    “หือ.. อื้อ ใช่ครับ”
     
    ตอนนี้นูนอส่งยิ้มให้เขา ก่อนที่จะหันไปโบกมือให้แฟนๆคนอื่นที่ไม่ได้ขึ้นมาตรงนี้
    แทคยอนละสายตาไปไม่ได้แล้ว.....
     
    “ให้เขียนอะไรเป็นพิเศษมั้ยครับ” นิชคุณถามอีกครั้งพร้อมยิ้มหวาน รอยยิ้มแบบฉบับของนิชคุณ หรเวชกุลที่ใครเห็นก็ต้องหวั่นไหว ยอมสยบแทบเท้า
     
    ...แต่ไม่ใช่อ๊ก แทคยอน
     
     
    “ห๊ะ? ไม่ต้องๆ เซ็นๆไปเถอะครับ เสร็จรึยัง” คนร่างใหญ่ถามอย่างไร้มารยาท ไม่สนใจหรอก ก็เขาอยากได้ของนูนอมากกว่านี่นา!
     
    นิชคุณหุบยิ้ม ทำปากขมุบขมิบส่งเสียงจิ๊จ๊ะเล็กน้อยแล้วรีบเซ็นให้
     
    “ขอบคุ....”
     
    “เออๆ ขอบคุณนะ” แทคยอนดึงกองของที่ถูกเซ็นออกมา ยื่นมือจับพอเป็นพิธีแล้วก้าวขาขยับตัวไปทางจุนโฮที่นั่งรออยู่

    เขาจะเป็นอะไรมั้ย ไปยืนข้างหน้าแล้วจะเป็นลมมั้ย

    จุนโฮนั่งยิ้มแป้นแล้น ยื่นมือมารับของแล้วเริ่มเปิดบุ๊คเลทของซีดีไปที่หน้าตัวเองแล้วลงมือเซ็น


    "ชื่ออะไรครับ”

     
    เสียงยังน่ารัก โอยตายยยยยยยยยยยย 
    มัวแต่อึ้งกับความน่ารักของคนตรงหน้า ลืมตอบจนจุนโฮต้องถามอีกครั้ง
     
    “เอ่อ ชื่ออะไรครับ?”
     
    “อ...อ๊ก แทคยอนครับผม!”
     
    พูดเสียงดังฟังชัดประมาณ250 เดซิเบล ทำเอาชานซองที่กำลังยื่นซีดีให้นิชคุณเซ็นถึงกับหัวเราะพรืดออกมา ฝ่ามือใหญ่ตบที่ไหล่แทคยอนดังป้าบ
     
    “แกบ้าไปแล้วเหรอ ก๊ากกกกก”
     
    นิชคุณส่งสายตาไม่พอใจเล็กๆไปให้ชานซองและแทคยอนอีกครั้ง ดูเหมือนคนทั้งคู่จะให้ความสนใจกับเขาน้อยมาก ทั้งที่ปกติแล้วเขานี่แหละคือตัวดึงดูดความสนใจนะ...
     
    สนใจนิชคุณ หรเวชกุลคนนี้หน่อยเซ่!
     
     
    จุนโฮไม่หัวเราะ แต่ยิ้มกว้างขึ้น “ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณแทคยอน”
     
    แทคยอนอึ้ง นูนอพูดชื่อเขา นูนอพูดชื่อเขา! ไม่มีอะไรบรรยายใดๆให้ลึกซึ้ง เขารู้สึกว่าตัวเองมีหน้าแบบนี้..
     
     
    \( T[]T )/
     
    สั้นๆง่ายๆ ...แทคยอนมีความสุขม๊ากกกกกกก!
     
    “ข...เขียนว่า รัก ให้ด้วยได้มั้ยครับ”
     
    จุนโฮหัวเราะอย่างน่าเอ็นดูแล้วพยักหน้า พร้อมกับเซ็นตามคำขอของแฟนบอยประหลาดๆคนนี้

    ระหว่างที่คนร่างเล็กตรงหน้าใช้มือน้อยๆค่อยๆเซ็นของไปทีละชิ้น แทคยอนได้ยินชานซองพูดกับนิชคุณอยู่ข้างๆ
     
    “ห๊ะ ไม่ใช่คนเกาหลีเหรอ โหววววววววว”
    “เซ็นแล้วทำไงต่ออะ ห๊ะ? อ้อเหรอๆ”
    “ฉันเพิ่งเคยเห็นหน้านายนะเนี่ย กิ๊วๆ เพื่อนฉันมันบ้าพวกนายมากเลย”


    และประโยคสุดท้าย เขาหันมาพูดกับแทคยอน “เฮ้ยแทค ฉันต้องจับมือกับหมอนี่ป่าววะ”
     
    ไร้มารยาทจนนิชคุณรู้สึกปวดหัวตุบๆ... สองคนนี้เป็นเมมเบอร์หมายเลขหนึ่งและสองได้ยังไงวะ?
     
    จุนโฮเซ็นเสร็จแล้ว พร้อมกับส่งรอยยิ้มกล่าวขอบคุณให้แทคยอน เขารู้สึกว่าตัวเองพลาดอย่างแรง ช่วงนาทีที่นูนอเซ็นชื่อให้ทำไมไม่ชวนคุย? ทำไมถึงได้มัวแต่จ้องใบหน้าน่ารักนั้น ทำไม ทำไม ทำไม .. (เสียงเอคโค่)
     
    โอกาสสุดท้ายมาถึง มือเล็กๆของจุนโฮยื่นมา แทคยอนคว้าหมับเต็มสองมือด้วยความรุนแรงปนกับความคลั่งไคล้จนคนถูกจับมือถึงกับสะดุ้ง ใบหน้าใสซื่อนั้นฉายแววตื่นตระหนกเป็นครั้งแรก
     
    “ผมอ๊ก แทคยอนครับ ผมชอบคุณมากนะครับนูนอ อาอิชิเตรุ บงชูร์ เฌอแตม หว่ออ้ายนี่ เอ่อ... ง่า... คุณน่ารักมากๆ นิสัยดีมากๆ เสียงดีมากๆ ผมติดตามคุณมาตั้งแต่คุณเดบิว เป็นเมมเบอร์หมายเลขหนึ่งด้วย คนแรกเชียวนะครับ คนแรกๆ เดี๋ยวเอาบัตรให้ดูนะครับนูนอ ดูนะครับ...”
     
    แทคยอนปล่อยมือข้างหนึ่งแล้วล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงอย่างทุลักทุเล อยากจะอวดบัตรเมมเบอร์ที่มีหมายเลขติดอยู่ให้นูนอดู ก็เมมเบอร์สามคนแรกมันเป็นบัตรโกลด์เชียวนะ! ใช้มือข้างเดียวหยิบกระเป๋าสตางค์ก็ลำบาก แต่จะให้ปล่อยมือนูนออีกข้างนึงมันก็ไม่ได้ เดี๋ยวขาดใจ!
     
    ชานซองที่ยืนนิ่งๆอยู่หน้านิชคุณถึงกับตกใจเมื่อเห็นอาการลนลานของเพื่อน
     
    “แทค! มึงปล่อยมือเขาก่อน เขาก็ไม่หนีไปจากหน้ามึงหรอกนะเว้ย ไอ้บ้า!!”
     
    “หุบปากแล้วคุยกับนิชคุณไป๊” คนร่างยักษ์สวนกลับ 
     
    “จะให้ฉันคุยอะไรกับมันอ้ะ”
     
     
    นิชคุณกระตุกยิ้ม ‘มัน’ งั้นเรอะ...
     
     
    แต่แทคยอนก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเพราะหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาได้พอดี ยื่นบัตรโกลด์เมมเบอร์ให้จุนโฮดูอย่างภูมิใจ
     
    จุนโฮยิ้มแห้งๆ “ข...ขอบคุณมากนะครับ”
     
    “คือ คือออออ....” แทคยอนพูดเสียงสั่น ตาเบิกกว้าง ได้จับมือแล้ว แนะนำตัวแล้ว ให้ดูบัตรแล้ว เหลืออีกอย่างนึงที่เขาอยากทำแต่ไม่เคยทำมาก่อน เขาจะลองขอนูนอดู!
     
    “น...นูนอครับ ขอจับแก้มได้มั้ยครับ”
     
    จุนโฮเบิกตากว้าง “ห๊ะ?”
     
    “นะ.. ขอนะ”
     
     
    คนร่างเล็กหันไปหานิชคุณแบบช็อคๆราวกับจะบอกว่า ‘พี่คุณ ช่วยผมด้วย’
     
    แต่นิชคุณเองก็กำลังช็อคไม่แพ้กัน
     
    ไอ้ผู้ชายที่ยืนนิ่งตอนขอลายเซ็นเขา กลับกลายเป็นคนบ้าสติแตกตอนขอลายเซ็นจุนโฮเนี่ยนะ ต่อมรับเสน่ห์ของนายมันเป็นยังไงนะไอ้ยักษ์? ฉันมันไม่มีเสน่ห์ตรงไหนวะถึงได้ไม่สนใจกันเลย นิชคุณได้อันดับหนึ่งในการจัดอันดับหนุ่มหล่อมี
    เสน่ห์ที่สุดเชียวนะ จุนโฮได้แค่อันดับยี่สิบเองนะ รู้มั้ย รู้มั้ย???????
     
    คนหน้าสวยฉุนกึก แต่กผ้ทำอะไรไม่ได้นอกจากส่งสายตาเป็นความนัยว่า 'ยอๆมันไปเหอะ!'
     
     
    จุนโฮหันกลับมาทางแทคยอนที่ส่งสายตาเป็นประกาย “อ่า.. ได้ครับ”
     
    คนร่างยักษ์พ่นลมหายใจดังพรืด หัวใจเต้นแรงจนแทบไม่ได้ยินเสียงอะไรนอกจากคำว่า ‘ได้ครับ’ ของนูนอวนไปมาในหัว เขาค่อยๆยื่นมือไปแตะแก้มอ่อนนุ่มนั้นอย่างเบามือ
     
    ให้ตายเถอะแม่เจ้า นุ่มกว่าที่คิดอีก แว๊กกกกกกกกกกกกก!!!!
     
    เสียงแฟนคลับสาวๆร้องกรี๊ดอย่างสติแตกอยู่ด้านล่างเวที หลายคนร้องแว้ดๆสาปส่งแทคยอนที่บังอาจเอามือไปจับไอดอลของเธอ 
     
    ส่วนชานซองที่เอาแต่เหลือบมองคนทั้งคู่จนไม่สนใจนิชคุณนั้นช็อคไปแล้ว ...ไอ้นี่มันบ้ากว่าที่คิด
     
    “นูนอครับ..”
     
    ตอนนี้จุนโฮทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ มือก็ถูกบีบเสียแน่น แก้มก็โดนจับอยู่ แต่ในสายตาแทคยอน ใบหน้านั้นเหมือนกำลังออดอ้อน น่ารัก น่ารัก น่ารัก!
     
    แทคยอนดึงมือของจุนโฮให้ไปแตะที่อกข้างซ้ายของตน (เสียงแฟนๆกรีดร้องถล่มทลาย แต่เขาไม่สนใจ)
     
    “CAN YOU FEEL MY HEARTBEAT?”
     
    ชานซองหัวเราะลั่นเวทีอีกครั้ง แต่ไอดอลทั้งคู่นั่งนิ่งไปแล้ว โดยเฉพาะจุนโฮที่นั่งตัวแข็งเป็นหินด้วยความรู้สึกที่เกินจะบรรยาย
     
    ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วไม่เกิน 30 วินาที ตั้งแต่แทคยอนยื่นบัตรโกลด์เมมเบอร์ให้ดู จนถึงตอนนี้บรรดาสต๊าฟก็เริ่มกันแทคยอนออกมาจากจุนโฮ (หรืออาจจะเพราะทนดูไม่ได้อีกแล้ว) แรกๆไม่สามารถแงะตัวของเขาออกมาได้ สต๊าฟอีกสามคนจึงมาช่วยอีกแรง ระหว่างที่โดนลากออกไปพร้อมกับของที่ถูกเซ็นชื่อเรียบร้อย คนร่างใหญ่ก็ยังไม่ลืมที่จะตะโกนบอกจุนโฮอีกครั้ง...
     
    “นูนอครับ ผมสมัครเป็นเมมเบอร์คนแรกเลยนะครับ อ๊ก แทคยอนนะครับ จำไว้นะคร๊าบบบบบบ”
     
     
    แทคยอนลงไปยืนข้างเวทีด้วยความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูก อะดรีนารีนพลุ้งพล่าน หัวใจยังเต้นรัวเร็ว น่ารัก น่ารัก น่ารัก..
     
    มือก็นุ่ม แก้มก็นิ่ม เสียงก็น่ารัก นอบน้อมอีกต่างหาก..
     
    แทคยอนขอเป็นแฟนคลับนูนอไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่!
     
    ช่างหัวเกิร์ลกรุ๊ปแล้ว แทคยอนตัดสินใจจะตามแต่ KHUN×NUNEO (โดยเฉพาะนูนอ) เท่านั้น!
     
    หันไปที่เวทีเพื่อจะมองไอดอลของตัวเองให้ชัดอีกรอบ ตอนนี้ถึงคิวชานซองแล้ว คนร่างสูงเริ่มพูดคุยกับคนร่างเล็กที่ลงมือเซ็นบนแผ่นซีดี แววตาของชานซองที่มองนูนอมันแปลกไปจากเดิมจนแทคยอนรู้สึกหมั่นไส้
     
    แกคุยอะไรกับนูนอของฉันวะ?
     
     
     
    ชานซองยื่นแผ่นซีดีให้จุนโฮที่ยังคงยิ้มเจื่อนๆจากเหตุการณ์เมื่อครู่ รู้สึกว่าหมอนี่ยังเก็บอารมณ์และสีหน้าไม่เก่งเลย ไม่เหมือนนิชคุณที่ตอนนี้ปรับสีหน้าเป็นเทพบุตร ยิ้มหวาน ปากก็คุยเจื้อยแจ้วกับแฟนคลับผู้หญิงอยู่ด้านข้างเขา จุนโฮช่างอ่อนหัดต่อการเป็นไอดอลจริงๆ
     
    “ชื่ออะไรครับ”
     
    “อ่า... ชานซอง”
     
    จุนโฮเงยหน้าขึ้นมาแล้วยิ้ม
    “คุณคนที่ตะโกนเสียงดังตอนนั้นเองสินะ”
     
    คนร่างสูงเบิกตากว้างที่เห็นว่าไอดอลตรงหน้าจำเหตุการณ์เล็กๆน้อยๆได้ทั้งหมด น่าทึ่งแฮะ
     
    “คือ...” ถึงตอนนี้ชานซองรู้สึกตัวเองหน้าแดงอย่างไม่มีสาเหตุ “เมื่อกี้ ขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยนะ”
     
    ร่างเล็กส่ายหน้าน้อยๆ มือเล็กๆก็ยังคงเซ็นต่อไปช้าๆ ดูแล้วยังเซ็นไม่ค่อยคล่องเท่าไอดอลคู่หูตัวเอง “ไม่เป็นไรครับ ตลกดี ผมไม่ถือหรอก”
     
    “ผม...”
     
    ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทั้งที่ไม่ได้สนใจดารานักร้อง ทั้งที่เพิ่งรู้จักคนทั้งคู่ แต่ก็อยากที่จะพูดคุยกับจุนโฮมากกว่านิชคุณ อยากให้จุนโฮเซ็นช้าๆเพื่อที่ตัวเขาเองจะได้คุยต่อไปเรื่อยๆ...
     
    “ครับ?” ร่างเล็กตอบ สายตายังคงจดจ่ออยู่กับบุ๊คเลท “ให้เขียนอะไรเป็นพิเศษมั้ยครับ”
     
     
    “.....น่ารัก”
     
     
    จุนโฮเงยหน้า เอียงคอมองอย่างงงๆ “หือ?”
     
    “เอ่อ เปล่าๆ ไม่มีอะไร” ชานซองรีบตอบ ส่ายหน้าไปมาเหมือนคนบ้า
     
     
    คนร่างเล็กยิ้มแป้น ชูแผ่นซีดีที่เซ็นเสร็จแล้วคืนให้ร่างสูงที่ยื่นมือมาหยิบช้าๆ ต่อไปก็จับมือสินะ... ชานซองรู้สึกว่ามือมันเย็นเฉียบยังไงก็ไม่รู้
     
    มือเล็กๆยื่นมาให้ มือใหญ่เลยคว้าไว้แล้วบีบเบาๆ ดวงหน้าของคนถูกจับมือฉายความเป็นมิตร ทำเอาคนจับแทบจะละลายอยู่ตรงนั้น จริงอย่างที่แทคยอนพูด ถ้าให้เทียบกันตรงๆโดยไม่ใช่แค่มองแล้วจุนโฮมีออร่ามากกว่านิชคุณตั้งเยอะ คนๆนั้นเค้ามีออร่า มีสเน่ห์ที่เหลือร้ายก็จริง แต่ก็แค่นั้น... จบที่แค่นั้น ไม่มีอะไรให้น่าจดจำนอกจากความหล่อ ใบหน้าที่สวยเหมือนผู้หญิง วิ้งพิฆาต(ท่าขยิบตา) และรอยยิ้มหวาน
     
    แต่อี จุนโฮกลับมีความน่ารักซ่อนอยู่ไว้เต็มไปหมด ถ้าไม่ได้สัมผัสเองจะไม่รู้เลยจริงๆ
     
    “จุนโฮ” ชานซองพูดเบาๆ
     
    คนถูกเรียกเบิกตาน้อยๆ ไม่ชินกับที่ถูกเรียกชื่อจริง เพราะตั้งแต่เดบิวมาจะมีแต่คนเรียกชื่อในวงการเขาซะส่วนใหญ่ มีแค่คนร่างสูงตรงหน้านี่แหละเป็นแฟนคลับคนแรกที่เรียกเขาว่า ‘จุนโฮ’
     
    “ครับ คุณชานซอง?”
     
    ชานซองมองเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลนุ่มของไอดอลตรงหน้า พูดประโยคน่าอายประโยคเดียวกับเพื่อนแบบยั้งไว้ไม่ทัน
     
     
    “ขอจับแก้มได้มั้ย”
     
     
    นิชคุณหันขวับทันทีที่ได้ยิน ไอ้สองซี้นี่มันยังไงกันวะ?
     
    จุนโฮหัวเราะ เหมือนจะทำใจได้ตั้งแต่เจอคนร่างยักษ์เมื่อครู่เลยพยักหน้ารับอย่างเขินๆ แฟนคลับผู้ชายขอจับหน้าเนี่ยนะ วันนี้มันวันอะไรกัน?
     
    ชานซองเบิกตากว้าง ตกใจกับการกระทำตัวเองเลยรีบปล่อยมือจากคนตรงหน้าโดยไม่ทันได้ทำสิ่งที่ตัวเองขอไว้ แล้วหยิบแผ่นซีดีก่อนที่จะเดินลงเวทีอย่างเร่งรีบ
     
    “ขอบคุณนะครับ” จุนโฮพูดไล่หลังมา
     
    ชานซองแทบอยากจะกระโดดขึ้นเวทีแล้วไปจับแก้มเสียให้รู้แล้วรู้รอด เข้าใจแล้วทำไมไอ้แทคมันถึงคลั่งอิจนูนอคนนี้จัง ก็น่ารักทั้งตัวและนิสัยขนาดนี้

    โอยยยย ชานซองแทบเป็นลม!

     
     
     
     
     
    แทคยอนทำหน้าไม่พอใจเท่าไหร่ตอนที่ชานซองเดินมาทางเขา ก็มันจับมือนูนอของเขานี่นา จับนานซะด้วยนะไอ้หมีควาย!
     
    “เป็นไงชานๆๆๆๆๆ นูนอน่ารักมั้ยล่ะ”
    “แกนี่มันชักช้านะ คุยอะไรอยู่ได้”
    “แกว่าเขาจะจำฉันได้มั้ยวะ”
    “พี่จุนเคอยู่ไหน ฉันอยากได้รูป..”
     
    แทคยอนเริ่มพูดไม่หยุดเพราะความตื่นเต้นอีกครั้ง
     
    คนร่างสูงมองใบหน้าเคลิ้มและอาการสติแตกของเพื่อนแล้วถึงกับพ่นลมหายใจดังพรืด อยากจะรู้เหลือเกินว่าถ้าหากพนักงานในบริษัทของแทคยอนมาเห็นสภาพผู้บริหารของตัวเองในตอนนี้จะรู้สึกยังไง?
     
    คงไม่รู้ตัวตนของผู้บริหารคนนี้ล่ะมั้ง ก็เวลาทำงานน่ะ แทคยอนจริงจังจนดูเหมือนคนบ้างานที่สุดในโลก น้อยนักที่จะมีใครเห็นเขาในสภาพนี้หากไม่เคยไปถึงบ้าน (มันมีห้องเก็บของเกี่ยวกับไอดอลสามห้องถ้วน..) รวมถึงการแต่งตัวก็อีก เพราะเสื้อผ้าของแทคยอนในเวลาเข้าสังคมกับเวลาส่วนตัวแบบนี้จะแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว..
     
    เออ จะว่าไอ้หมอนี่มันเป็นคนสองบุคลิกก็ว่าได้แฮะ..
     
    “สรุปว่าไงชานซอง” แทคยอนถามอีกครั้ง เสียงเรียกดึงสติของคนร่างสูงที่แอบนินทา ‘ผู้บริหาร’ ในใจให้กลับมาอยู่กับสถานการณ์ตรงหน้า
     
    “อิจนูนอของฉัน นายว่าเป็นไง”
     
    ชานซองยักไหล่ เหลือบตามองคนถูกพูดถึงที่อยู่บนเวทีแล้วตอบแบบอุบอิบในลำคอ “ก็งั้นๆ”
     
    “งั้นๆตรงไหนห๊ะ!”
     
    แทคยอนส่งเสียงโวยวาย กำหมัดใหญ่ทุบป้าบๆไปที่หลังของคนร่างสูงอย่างไม่พอใจที่วิจารณ์ ‘อิจนูนอ’ ของเขาแบบซังกะตาย
     
    ก็นูนอออกจะน่ารักขนาดนี้ มันจะ ‘ก็งั้นๆ’ ได้ยังไงล่ะ! ไอ้บ้าฮวาง ชานซองช่างตาไม่ถึงจริงๆ 
     
    “นู .. นอ .. ของ .. ฉัน .. น่า .. รัก .. ที่ .. สุด .. เว้ย!”
     
    หมัดใหญ่ทุบอั้กๆลงไปตามจำนวนคำที่ตะคอกใส่แบบไม่เกรงใจคนรอบข้าง
     
    แต่คนโดนทุบก็ส่งเสียงแง่งๆกลับไปบ้างพร้อมกับใช้มือใหญ่ๆตะปบรัวเร็วเป็นการเอาคืน ปากก็เริ่มโวยวายเสียงดังขอค่าจ้างของวันนี้ด้วยการไปกินเนื้อย่างเป็นอาหารเย็น ไม่งั้นจะเอาซีดีที่เซ็นไปทิ้งถังขยะ!
     
    เสียงทะเลาะแว้ดๆของทั้งคู่ไม่ได้ดังเท่าเสียงดนตรีประกอบของงานแจกลายเซ็นก็จริงอยู่ แต่ร่างสูงโย่งของผู้ชายสองคนที่กำลังกระโดดเหย็งๆผลักอกกันไปมาก็ดึงความสนใจของคนที่อยู่บนเวทีให้หันไปมองได้ชั่วขณะนึงโดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ตัวเลย 
     
    ดวงตาคู่เล็กกะพริบปริบๆมองไปทางคนร่างสูงเพราะจำเสียงได้ คนๆนั้นกำลังตะโกนโวยวายแต่เสียงเพลงบนเวทีมันดังกลบคำพูดเสียหมด เขาจึงได้ยินแค่คำว่า ‘ข้าว’ ‘เนื้อย่าง’ และ ‘ซีดี’ เท่านั้นเอง
     
    ส่วนเจ้าของดวงตาคู่กลมโตที่อยู่ไม่ห่างกันนั้นก็หรี่ตามอง ‘โอตาคุ’ ร่างใหญ่สลับกับมองเพื่อนคู่หูของตัวเองที่เดบิวมาด้วยกันที่นั่งข้างๆ ซึ่งเจ้าตัวนั้นได้ถอนสายตาจากชานซองและเริ่มลงมือแจกลายเซ็นต่อไป แต่คนหน้าหวาน ตากลมยังคงจ้องไปทางแฟนบอยประหลาดๆสองคนนั้นอยู่โดยเก็บซ่อนความรู้สึกไม่พอใจเล็กๆไว้ โดยเฉพาะไอ้คนตัวดำๆใหญ่ๆนั่น
     
     
     
    นิชคุณ หรเวชกุลคนนี้ออกจะน่ารักกว่าจุนโฮเป็นไหนๆ
     
    ทำไมนายถึงได้ชอบมันมากกว่าฉันล่ะ ไอ้อ๊กตาคุ แทคยอน!?



    - to be continued -
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×