ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [2PM] OTAKU BOY ~

    ลำดับตอนที่ #8 : OTAKU BOY - 07 -

    • อัปเดตล่าสุด 22 ธ.ค. 57


     
    -07-
     
     
     
      “สวัสดีค่ะท่านอ๊ก”
      “สวัสดีครับท่าน”
     
      พนักงานในบริษัทพูดเป็นเสียงเดียวกันในขณะที่ลุกขึ้นยืนตัวตรง หันไปโค้งคำนับอย่างสุภาพให้กับท่านผู้บริหารร่างใหญ่ที่เพิ่งปิดการประชุมไปเมื่อครู่ คนมีอำนาจใหญ่โตเดินผ่านโต๊ะประชุมตัวยาวและก้มหน้าตอบพนักงานที่ยืนเป็นแถวอย่างสุภาพ มือข้างหนึ่งซุกอยู่ในกระเป๋ากางเกงผ้าเนื้อดีราคาสูง ส่วนอีกข้างก็ดึงแว่นตากรอบดำยี่ห้อดังที่สวมอยู่ยื่นให้กับผู้ที่เป็นที่ปรึกษาอย่างจินอุนที่เดินตามมาติดๆ ซึ่งคนรับก็หยิบมาแล้วพับขาแว่นแล้วเก็บใส่กล่องกำมะหยี่ขนาดพอดีให้เรียบร้อย
     
      “การประชุมผ่านไปได้ด้วยดีนะครับ” จินอุนพูดขึ้นมาคำแรกหลังจากที่ทั้งคู่ออกมาจากห้องประชุมหรู เสียงพนักงานที่เข้าร่วมประชุมยังคงดังเซ็งแซ่อยู่เบื้องหลังประตูหนาสีน้ำตาลไหม้บานนั้น
     
      “อืม ฉันรู้” แทคยอนตอบรับเนือยๆ ใช้มือนวดขมับเบาๆพลางหยีตาสู้แสงแดดอ่อนๆที่ส่องเข้ามาตามทางเดิน “ที่เหลือก็ทำตามแผนงานที่วางไว้ให้ดี อย่าให้พลาด”
      “แน่นอนครับ”
      “ฉันจะไปเช็คเอกสารอื่นๆต่อแล้ว ฝากบอกมินอาให้ชงกาแฟผสมวิสกี้ให้ด้วย”
      “ท่านควรจะพักซักหน่อยนะครับ” ที่ปรึกษาใบหน้าหวานพูดอย่างเป็นห่วง “โหมงานขนาดนี้ผมกลัวท่านจะทรุดเอา”
     
      “เมื่อไหร่ที่ฉันหยุดทำงาน หมายความว่าฉันไม่ได้เป็นผู้บริหารที่นี่อีก”

    แทคยอนตอบกลับด้วยใบหน้าเคร่งขรึม เป็นสัญญาณว่าให้จบเรื่องเพียงเท่านี้ ซึ่งจินอุนก็ก้มหน้ารับพลางกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ รู้สึกหวั่นๆที่โดนท่านผู้บริหารพูดด้วยน้ำเสียงดุและเยือกเย็น
     
      แทคยอนกระตุกยิ้มบางๆแล้วพยักหน้าเล็กๆให้ก่อนที่จะเดินเข้าไปในลิฟท์เพียงคนเดียว จินอุนโค้งให้อย่างสุภาพจนกระทั่งประตูลิฟท์ปิดลง
      เมื่อถึงชั้นที่ต้องการ ขายาวๆก็ก้าวนำไปตามทางเดินเงียบเชียบที่ปูพรมสีเข้ม แทคยอนใช้มือผลักประตูบานใหญ่ของห้องทำงานตัวเองแล้วเดินไปที่โต๊ะทำงานขนาดใหญ่ซึ่งมีเอกสารที่รอให้เขาเซ็นอนุมัติกองอยู่นับไม่ถ้วน แต่เขากลับนั่งลงที่เก้าอี้แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแบบร้อนรน กดหมายเลขที่โทรออกเป็นประจำ
     
      วันนี้ประชุมมันทั้งวัน ไม่ได้โทรถามความคืบหน้าของนิชคุณแล้วใจจะขาด!
     
      แต่.. แต่ทำไมถึงโทรไม่ติดล่ะ!!!! *สติแตก*
      แทคยอนกดโทรออกอีกรอบ อีกรอบ อีกรอบ และอีกรอบ แต่เหมือนเดิม ไม่ติด ไม่ติด แว๊กกกกกกกกก ไม่ติดดดดดด!!
     
      ม๊ายยยยยยยย เมื่อวานก็ไม่ได้เจอ นี่ก็ติดต่อชานซองไม่ได้อีก สรุปรวมเป็นสองวันแล้วที่ไม่ได้ข่าวคราวอะไรเลย ไม่นะ T[]T
     
      ทั้งที่บอกกับตัวเองว่าถึงจะมีเวลาเพียงเล็กน้อยแค่ไหนแต่ก็ต้องไปหานิชคุณให้ได้ แต่ความเป็นจริงมันทำไม่ด๊ายยยยย เขาลืมไปว่าเขาเป็นผู้บริหารบริษัทที่ใหญ่โตแค่ไหน และมีกิจการที่ต้องดูแลมากมายแค่ไหน เมื่อวานก็โฟนอินคุยเรื่องธุรกิจกับป๊าและวางแผนขยายโรงแรม วันนี้ก็ประชุมตั้งแต่เช้ายันเย็นจนแทบไม่ได้พักหายใจ..
     
      ...และเสียงเครื่องตอบรับในสายก็ยังคงย้ำคำเดิมว่าเบอร์ของชานซองติดต่อไม่ได้ ให้มันได้ยังงี้ดิ้!!
     
      แทคยอนขว้างโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะ นั่งหันหน้าเข้าหาเอกสารที่วางอยู่แล้วเปิดอ่านอย่างรวดเร็ว มือข้างที่ถนัดก็จับปากกาเตรียมพร้อมที่จะเซ็นอนุมัติหรือไม่อนุมัติ กะว่าจะรีบเซ็นๆให้เสร็จๆแล้วจะบุกบริษัทแม่งให้หมดเรื่อง
     
      ขณะที่สายตากำลังไล่ไปตามตัวหนังสือเล็กๆหลายบรรทัด สมองก็ทำงานพร้อมประมวลผล แต่ใจกลับร้อนรุ่มอยู่ไม่สุข
     
      ‘ เรียนท่าน.. นิชคุณทำอะไรอยู่นะ .. เนื่องจากตอนนี้ .. นิชคุณกินข้าวรึยัง ชานซองมันเข้าใกล้รึเปล่า .. ทางบริษัทต้องการ .. เมื่อวานก็ไม่ได้ไป วันนี้ก็ติดต่อไม่ได้ .. จึงเรียนมา .. อยากเจอนิชคุณ อยากเจอ อยากเจอ .. หวังว่าท่านจะอนุญาต ’
     
      ห๊ะ? เบลอขนาดสมองรวนเลยเหรอวะเนี่ย
     
      โอ๊ยยยยยยย ไม่มีสมาธิโว้ยยยยยยยยย
      บริหารงานมาห้าปีไม่เคยฟุ้งซ่านแบบนี้มาก่อน ว๊ากกกกก
     
      ปกติเขาแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกเสมอ เขาไม่เคยคิดถึงเรื่องไอดอลในเวลางานเลยซักครั้ง
     
      แต่...แต่นี่มัน.. ก็เขาไม่ได้เจอนิชคุณตั้งสองวันแล้วนี่นา!
      ระหว่างนี้นิชคุณจะไปใจเต้นตุ๊ๆต่อมๆกะใครมั่งก็ไม่รู้ ไม่เอานะ นิชคุณเป็นไอดอลของเขา เขาจะไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกเด็ดขาด!!!
     
      คนร่างใหญ่ทุบโต๊ะดังปัง ยกมือต่อยตีไปในอากาศอย่างหงุดหงิด เกือบที่จะร้องว้ากออกไปแล้วติดที่ว่าได้ยินเสียงเคาะประตูพร้อมกับเสียงนุ่มๆที่คุ้นเคยของมินอาเลขาส่วนตัวซะก่อน..
     
      แทคยอนปรับสีหน้ากลับไปเป็นปกติแทบจะทันที พร้อมกับตอบรับให้เลขานุการสาวเข้ามาในห้องเพื่อเสิร์ฟกาแฟที่สั่งไว้ ดวงตาเล็กๆของหญิงสาวมองลอดกรอบแว่นสีเทามาที่แฟ้มปึกหนาซึ่งแทคยอนเปิดค้างไว้
     
      “คุณแทคยอนคะ ดิฉันว่าท่านควรจะพักบ้างนะคะ..” มินอาพูดอย่างเป็นห่วง
     
      คนที่กำลังจิบกาแฟอยู่ขมวดคิ้วพร้อมส่งสายตาไม่พอใจเล็กๆมาให้ ถึงจะไม่ใช้คำพูดแต่ก็ทำเอาคนที่พูดด้วยความห่วงใยเมื่อครู่ถึงกับขนลุก ใบหน้านิ่วด้วยความกลัวก่อนที่จะโค้งเป็นการขอโทษแล้วรีบออกจากห้องเพื่อไม่เป็นการรบกวน
     
      แทคยอนทำปากย่นอย่างไม่พอใจ ทำไมใครๆถึงได้คอยบอกให้เขาพักบ้าง ให้เขาหยุดทำงานบ้าง ไม่มีใครเข้าใจรึไงว่าเขาเป็นผู้บริหารระดับสูง ไม่มีการหยุดทำงานน่ะหา!?
     
      ถ้าเขาหยุดทำงานแล้วบริษัทมันจะรุ่งเรืองแบบนี้อยู่ได้ยังไงเล่า!
      ถ้าเขาหยุดงานแล้วงานกองๆไว้แบบนี้มันใช้ได้ที่ไหนเล่า!
      ถ้าเขาหยุดงานแล้วงไปตามไอดอลป๊าจะฆ่าเขามั้ยเล่า! มันต้องรีบทำเท่าที่จะทำได้เพื่อจะไม่ต้องมีอะไรให้น่าห่วง
     
      ใช่ แล้วเขาก็จะไปหานิชคุณได้อย่างสบายใจ แฮร่..
     
      แทคยอนเป่ากาแฟที่ยังร้อนอยู่แล้วรีบกระดกลงคออย่างเร่งรีบ หันมาใส่ใจกับเอกสารที่เซ็นค้างไว้ ใช่ๆ เหลืออีกแค่สามแฟ้มเท่านั้น เขาจะได้เลิกงานแล้วไปหานิชคุณซักที ไม่ได้เจอกันสองวันเต็มๆ เมื่อวานงานยุ่ง วันนี้ติดต่อไม่ได้ เขาทนไม่ไหวแล้ว ฮืออออ
     
      ชานซองมันปิดก็เครื่องอีก ...แม่งน่าโมโห เอ๊ะ หรือจะแบตหมด?? ใช่ ต้องแบตหมดแหละ เพราะมันไม่มีทางงงงงงง...ที่จะปิดมือถือใส่เขาหรอก ชิชิ
     
      ในที่สุดก็เซ็นเอกสารสุดท้ายเสร็จสิ้น มือหนาปิดแฟ้มสีเข้มดังฉับ อ๊ากกกกก เสร็จแล้วว้อยยยยยยยยยยยยยยยย!! น้ำตาจะไหล ในที่สุดก็จะได้ไปหาเทพบุตรสุดแสนน่ารักที่ชื่อนิชคุณแล้วสินะ ดีใจ ดีใจ ดีใจที่สุด!
     
      โทรศัพท์เครื่องสีดำที่อยู่บนโต๊ะดังขึ้น แทคยอนจุ๊ปากอย่างหงุดหงิดก่อนที่จะกดรับพร้อมกรอกเสียงกลับไป
     
      “มีอะไร ฉันจะกลับแล้ว ฝากเรื่องไว้แทนได้มั้ย” 
      “ดิฉันจะโทรมาเตือนว่าท่านต้องไปโรงแรมที่ปูซานวันนี้นะคะ เดี๋ยวจะบอกซึลองให้เตรียมรถไว้ให้”
      “ห๊า? ไปอะไร ไปทำไม? มันไกล ไม่ไป”
      “คะ..คุณแทคยอนต้องไปนะคะ”
      “ไม่เห็นมีเอกสารบอกเลยว่าฉันต้องไปที่นั่น เพราะฉะนั้นไม่ไป!” แทคยอนพูด มืออีกข้างก็กดโทรศัพท์มือถือโทรออกไปที่เบอร์เดิม ทำไมไม่รับวะไอ้หมีอ้วน!
     
      “เอกสารฉันวางให้แล้วนะคะ จะมีเรื่องที่มีศิลปินกลุ่มหนึ่งจะไปพักที่นั่นด้วย ท่านไม่เห็นรึเปล่า แฟ้มสีน้ำเงินค่ะ”
     
      แทคยอนทำปากติดจมูก ส่งเสียงจิ๊จ๊ะก่อนที่จะหันไปรื้อกองแฟ้มบนโต๊ะ ไหนวะ เขาว่าเขาเซ็นหมดแล้วนะ ไม่มีทางที่เขาจะรีบไปหานิชคุณโดยทำงานไม่เสร็จแน่ๆ ก็เขาน่ะมีความรับผิดชอบ...
     
      แฟ้มสีน้ำเงินเข้มวางอยู่ใต้แฟ้มสีเข้มอีกสองอันที่มุมขวาของโต๊ะทำงาน เมื่อเปิดดูก็เห็นว่าช่องที่ให้เซ็นยังคงว่างเปล่า
     
      ...อุ่ย ยังไม่หมดนี่นา ทำงานผิดพลาดครั้งแรกเลยนะเนี่ย แฮร่
     
      “เออ เห็นแล้ว เดี๋ยวอ่านก่อน แต่ไม่ไปนะมินอา ฝากเธอแจ้งทางนั้นด้วย ฉันมีธุระ  คนดังที่ไหนจะมาพักก็ช่างหัวมัน เตรียมการ์ดดูความเรียบร้อยไว้ก็พอ ห้ามแฟนคลับเข้าเด็ดขาด”
     
      พูดจบก็วางสาย หยิบแฟ้มสีเข้มสองเล่มมาเซ็นก่อน จากนั้นก็หยิบแฟ้มสีน้ำเงินที่พูดถึงเมื่อครู่มาเปิดอ่านพร้อมกับจิบกาแฟที่เหลือ คิ้วเข้มขมวดมุ่นขณะที่ไล่สายตามองไปตามตัวหนังสือในกระดาษ
      คนดังที่ไหนจะมาพักปูซานจนเดือดร้อนเขาต้องไปเนี่ย? แค่จัดการเรื่องโรงแรมที่โซลกับคอนโดที่เป็นเจ้าของก็ปวดตับจะตายอยู่ละ แล้วถ้าเขาต้องไปปูซานมันก็เสียเวลาอดตามนิชคุณอีก ขนาดเวลาปกติยังไม่ค่อยจะไปนอกจากวันที่เขาต้องไปตรวจความเรียบร้อย ซึ่งนั่นก็สองสามเดือนต่อครั้ง
     
      ไอ้นี่หนิ อย่าให้รู้ว่าใครนะ พ่อจะ.....
      จาง อูยอง
      อี จุนโฮ
      นิชคุณ หรเวชกุล
     
      แทคยอนสำลักกาแฟดังพรวด กระแทกถ้วยกาแฟลงโต๊ะ หันไปที่โทรศัพท์แล้วกดหมายเลขด่วนหาเลขาแทบไม่ทัน
     
      “มินอา!!!! ฉันจะไปปูซาน!”
     
      “ต..แต่ฉันเพิ่งยกเลิกตามคำสั่งท่านไปเมื่อกี้..”
      “ก็จะไปแล้วอะ เตรียมรถและหาไฟลท์บินเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะไล่เธอออก!!!!!”
     
     
    สปอนเซอร์รายใหญ่และผู้บริหารโรงแรมมาถึงที่ปูซานตอนเก้าโมงเช้าของอีกวัน
    สิริรวมแล้วเขาไม่ได้เจอและไม่ได้ข่าวคราวของนิชคุณมาสามวันเต็มๆ แทบจะลงแดงตาย
     
      รีบสุดชีวิต จองไฟลท์บินเสร็จแต่ก็ต้องมายกเลิกเพราะป๊าโฟนอินมาคุยเรื่องโรงแรมอีกแล้ว พยายามปั้นหน้าคุยต่อทั้งที่ในใจอยากจะพูดกลับไปว่า ‘ป๊าบริหารโรงแรมที่อเมริกา จะมาถามผมที่บริหารโรงแรมในเกาหลีหาอะไร’ แต่ก็กลัวว่าจะโดนกักตัวไว้ด่าต่ออีกห้าชั่วโมงโทษฐานหยาบคาย..

    สุดท้ายก็พลาดมันทุกไฟลท์ กว่าจะได้เฟิร์สคลาสนี่มินอาแทบจะนอนร้องไห้ตายคาโทรศัพท์ เครื่องบินส่วนตัวก็ไม่อยู่เพราะป๊ากับม๊าเอาไปด้วย ลูกป๊าเลยไปหานิชคุณช้าเลยเนี่ย มันร้ายแรงนะป๊า ร้ายแรง!

    แทคยอนก้าวลงจากรถ เดินฉับๆเข้าไปในโรงแรมอย่างหงุดหงิดโดยไม่สนใจพนักงานที่ตาลีตาเหลือกรีบเรียงแถวหน้ากระดานมาต้อนรับ ไม่คาดคิดว่าวันนี้เจ้าของโรงแรมจะมากะทันหันแบบนี้ แต่คนที่ได้รับการต้อนรับนั้นไม่มีตาจะมองไม่มีสมองจะสนใจอะไรทั้งนั้น 
     
      สายตามัวแต่สอดส่องหาทีมงานและสตาฟของบริษัท JYPE ลูกเดียว เขาเข้าออกบริษัทพอสมควร จำได้อยู่แล้วว่าใครเป็นใคร และถ้าใครทำงานกับคุณ-นูนอจะจำได้เป็นพิเศษ ฮึ!
     
      ไอ้ฮวาง ชานซอง เรื่องใหญ่แบบนี้ทำไมไม่บอกเขา ทำไมปิดโทรศัพท์ ทำไมไม่บอกล่วงหน้าว่าคุณ-นูนอมาเป็นเกสให้อูยองที่กำลังทัวร์คอนเสิร์ต ถ้าวันนี้เขาไม่ฟังมินอา ถ้าเขาบุกบริษัทคงจะไปเก้อสินะ ทำไมแกทำกับฉันแบบนี้ 
     
      แน่ะ เจอละไอ้ตัวปัญหา
      กำลังยืนคุยอะไรกับผู้จัดการส่วนตัวของอูยองอยู่ที่หน้าลิฟท์ด้วยหน้าอึนๆอยู่นั่น
     
      “ชานซอง!”
     
      คนถูกเรียกที่กำลังยืนคุยกับมินแจหันมาพร้อมใบหน้าตกตะลึง ...
      เฮ้ยยยยยยยยยยยย!
     
      คิดอยู่ตะหงิดๆว่าแทคยอนต้องมา และมันก็มาจริงๆ ก็ที่นี่โรงแรมมันนี่หว่า
    ...มันต้องด่าเรื่องที่มาปูซานแล้วทำไมไม่บอกมันแน่ๆ

    แต่เขาไม่รู้เรื่องจริงๆนะ T[]T ชานซองเป็นแค่สตาฟที่คอยดูแลเทคแคร์ไอดอลเฉยๆ เขาสั่งอะไรก็ต้องทำ ให้มาปูซานแบบกระทันหันก็ต้องมา
     
      แต่ไอ้เรื่องโทรศัพท์... เอ่อ เขาจงใจปิดเองแหละ กลัวมันถามแล้วตอบไม่ถูกง่ะ ฮือออ
      แทคยอนเดินจ้ำอ้าวเข้าไปที่เพื่อนร่างสูง กระชากแขนออกมาให้ห่างจากมินแจที่โค้งให้สปอนเซอร์รายใหญ่อย่างสุภาพแล้วเดินเข้าลิฟท์สีทองไป
     
      “ทำไมแกไม่บอกฉันว่านิชคุณมาปูซาน” แทคยอนเปิดฉากฉะแบบเรียบๆตรงหน้าลิฟท์แบบไม่แคร์สายตาใคร ก็เขาใหญ่ ใครจะกล้าหือ?
     
      “อ่า... แหะๆ ฉันไม่รู้จริงๆนะ อยู่ๆเขาก็ลากฉันมาด้วย”
    “แกไม่รู้ได้ไงวะ แกเป็นสตาฟนะ”
     
      “เอาข้าวขาหมูหนึ่งแสนจานเป็นประกันเลยเอ้า แกก็รู้ว่าวันๆฉันก็แค่คอยดูแลความเรียบร้อย ดารงดาราอะไรฉันก็ไม่รู้จัก เขาสั่งให้ฉันอยู่กับคุณ-นูนอฉันก็อยู่ สั่งให้ฉันเก็บกระเป๋าฉันก็เก็บ และเนี่ย.. จ่างจ๊าง!! ฉันมาอยู่ที่ปูซานเฉยเลย” 
     
      ชานซองทำหน้างอแง “ฉันมีตำแหน่งเป็นสตาฟแต่จริงๆก็เหมือนเป็นแค่เงาตามตัวดาราเฉยๆ ก็แกน่ะเป็นคนกำชับเองไม่ใช่รึไงว่าให้ฉันตามกับดูแลอย่างเดียวน่ะหา ใครจะกล้าสั่งฉันให้ทำอย่างอื่นวะ”
     
      แทคยอนมีสีหน้าผ่อนคลายลง แต่ก็ยังคงถามต่อด้วยสุ้มเสียงวางอำนาจ “แล้วมือถือแกเป็นอะไร โทรไม่ติดตั้งแต่เมื่อวาน โทรทั้งคืนยันเช้าวันนี้ก็ไม่ติด”
      ร่างสูงกลืนน้ำลายดังเอื๊อก นี่มันโทรจิกขนาดนี้เลยเรอะ? ถ้าเปิดเครื่องมามันจะมีซักกี่พันมิสคอลเนี่ย? ฮร่ากกกกก
      “อ่า.. คือ คือ มันเสียน่ะ แกก็รู้ว่ามือถือฉันมันราคาถูก เดี๋ยวติดเดี๋ยวดับ นี่มันดับไปสองวันแล้วพรุ่งนี้คงใช้ได้”
    “แกนี่มันจริงๆเลย เอามือถือมานี่”
     
      ชานซองทำตาปริบๆ แต่ก็ยื่นโทรศัพท์มือถือรุ่นฝาพับให้อย่างหวาดๆ รวมถึงกลัวสายตาของคนร่างใหญ่ที่กำลังสำรวจโทรศัพท์อยู่ ไอ้แทคมันจะรู้มั้ยว่าเขาแค่ปิดมือถือเฉยๆน่ะ ไม่ได้เสียอะไรอย่างที่เม้ามอยไว้เมื่อกี้หรอก
      เอาวะ ถ้ามันกดเปิดเครื่อง เขาก็จะบอกว่า ‘อ้าวววว ใช้ได้แล้ว’ แบบนี้ดีมะๆ ทำเหมือนไม่รู้เรื่อง นั่นสิเนอะ...
     
      แต่แทคยอนไม่ทำแบบนั้น
     
      มือหนาเปิดฝาพับขึ้นก่อนที่จะหักครึ่งแบบไม่เกรงใจเจ้าของเครื่อง เสียงโทรศัพท์หักดังเป๊าะพร้อมๆกับใจชองชานซองที่แตกดังเพล้งไปพร้อมกัน
     
      โทรศัพท์กรูววววววววววววว T[]T ใช้มาสามปีเลยนะ ม่ายยยยยย!
      แทคยอนยื่นถุงกระดาษที่ถือติดมือมาให้ชานซองพร้อมกับยิ้มกว้าง ต่างจากใบหน้าของอีกคนที่กำลังจะร้องไห้อยู่รอมร่อ 
     
      “ฉันรู้ว่ามือถือแกมันห่วย ทิ้งๆไปซะ ฉันซื้อมาให้ใหม่แล้ว รุ่นใหม่ล่าสุดเป็นระบบสัมผัส มีกล้องหน้าและหลัง สามารถเฟซไทม์ได้ด้วย ฉันเปิดเบอร์ไว้ให้แล้ว ค่าใช้บริการใช้ได้ไม่อั้น ใช้แค่ไหนก็ลงบัญชีชื่ออ๊ก แทคยอนเรียบร้อย”
     
      ชานซองตาเป็นประกาย มองโทรศัพท์ราคาแพงที่เขาไม่เคยแม้แต่จะคิดมาซื้อที่อยู่ในถุง น้ำตาที่กำลังไหลหดกลับไปทันที
     
      แต่ขณะที่กำลังจะอ้าปากพูดขอบคุณ ในใจกลับคิดอะไรขึ้นมาได้ มีรึที่ไอ้หมอนี่ลงทุนขนาดนี้ถ้าไม่หวังผลตอบแทนจากเขาน่ะ? และถ้าเข้าใจไม่ผิด เฟซไทม์ในโทรศัพท์เครื่องที่มันว่านี่คงไม่ได้เพื่อเขาแน่ๆ อย่างมันเรอะจะพิศวาสอยากเห็นหน้าเขาเวลาคุยกัน ไม่ม้าง...
     
      “...เพราะฉะนั้น ถ้าฉันเฟซไทม์มาแกก็ต้องรับ ฉันจะได้รู้ว่าแกอยู่ไหน นิชคุณทำอะไร ในเวลาที่ฉันมาหาไม่ได้ฉันก็จะได้เห็นหน้านิชคุณได้ โอเคนะ จบ”
     
      นั่นไง กูว่าแล้ว ... ตลอดดดดดดดด เอะอะก็นิชคุณตลอดดดด
     
      “เอาล่ะ นิชคุณอยู่ไหน ไปหากันเต๊อะ!”
     
     
     
      แต่ด้วยตารางงานที่รัดตัวของไอดอลและตัวแทคยอนเองก็มีหลายเรื่องในโรงแรมที่ต้องจัดการเพราะไม่ได้มาที่นี่นาน สรุปว่ากว่าจะได้เจอนิชคุณก็ปาเข้าไปบ่ายโมง ไม่สิ ยังไม่ได้เจอด้วยซ้ำ แค่เข้ามานั่งหน้ามุ่ยอยู่ที่แถวหน้าสุดในคอนเสิร์ตของจาง อูยองเท่านั้น..
     
      WOOYOUNG CONCERT TOUR 2011: WYOURs in Busan 
     
      เป็นชื่อคอนเสิร์ตที่น่าหมั่นไส้มาก มาจาก WOOYOUNG + TOUR ซึ่งจะอ่านแปลงเป็น yours ก็ได้ (อูยองของคุณ แหวะ) หรือ ours (อูยองของเรา ยี้) 
     
      ไม่ได้อยากดูเล้ยยยยย คอนเสิร์ตซูเปอร์สตาร์เนี่ย ถ้าไม่ติดที่ว่าคุณ-นอมาเป็นเกสนี่ไม่ดูเลยจริงๆ
      เสียดายที่เขาไม่มีอำนาจพอที่เหมาบัตรแถวหน้าแบบที่เคย ก็เขาไม่ได้เป็นสปอนเซอร์ของอูยองนี่นา และถึงอยากจะเหมาซื้อบัตรสามแถวหน้าใจจะขาดแต่ก็ทำไม่ได้แล้ว เพราะบัตรขายหมดก่อนที่เขาจะรู้เรื่องว่าคุณ-นูนอมาเป็นเกสซะอีก 
     
      บัตรคอนเสิร์ตที่ปูซานทั้งสองรอบ(บ่ายและค่ำ)ขายหมดภายในสองชั่วโมง สมกับเป็นจาง อูยอง ไอดอลที่ดังเป็นพลุแตกในเวลาแค่สามเดือนหลังจากเดบิวและเป็นไอดอลอันดับต้นๆมาตลอดปีกว่าๆที่ผ่านมา
     
      ถ้ารู้เรื่องคอนเสิร์ตก่อนหน้านั้นมีรึจะไม่พลาด ยอมเหมาแถวหน้าทั้งที่ไม่ได้ชอบเพื่อรอดูแค่เกสเลยเอ้า!!
     
      คอนเสิร์ตกำลังจะเริ่ม มันอลังการมากกกกก สมกับเป็นคอนเสิร์ตของไอดอลอันดับหนึ่งของเกาหลีจริงๆ สถานที่จัดก็ใหญ่โต เอฟเฟกแสงสีเสียงก็กระหึ่มมาก เขานั่งเท้าคางพร้อมกระดิกเท้ามองดูแฟนคลับสาวๆรอบข้างที่ยืนกระโดดกรีดร้องอย่างตื่นเต้นเมื่อ VTR เปิดตัวของอูยองจบลง ..แน่นอนว่ารวมถึงไอ้แฟนคลับพันธุ์แท้อย่างปาร์ค แจบอมที่เห็นหน้าบ่อยๆก็เช่นกัน ไอ้ตี๋นี่มันนั่งอยู่ข้างเขาพอดี
     
      แจบอมอยู่ในชุดที่จัดเต็มเพื่อคอนเสิร์ตโดยเฉพาะ ใส่เสื้อสีดำมีตัวอักษรเขียนว่า WYOURs ที่เป็นสินค้าหน้าคอนเสิร์ตของอูยอง (ตัว WY สีขาว แต่ OURs เป็นสีน้ำเงิน) ที่ข้อมือขาวซีดใส่ริสแบนด์สีดำและน้ำเงินอย่างละข้าง ใส่ที่คาดผมมีไฟที่เขียนว่า JAY LOVE WY อันเดิม และถือผ้าเชียร์สีดำพร้อมกับตะโกนปาวๆอย่างบ้าคลั่ง
     
      แต่แทคยอนไม่ได้ตื่นเต้นเลยซักนิด เบื่อชะมัด ชิ..
     
      เขาเข้าใจอารมณ์ของแจบอมเมื่อตอนที่เจอกันครั้งแรกแล้วล่ะ ที่แจบอมไปนั่งหง่าวเพื่อรอให้เกสออกมาน่ะแหละ แต่คราวนี้เป็นเขาเองที่นั่งหง่าว.. ฮึก ไม่หนุก เขาไม่ชินกับการเข้ามาในคอนเสิร์ตแล้วนั่งเฉยๆ แต่จะให้เชียร์อูยองมันก็ไม่มีอารมณ์ คนมันไม่ได้ชอบนี่ ฮ่วย!
     
      แทคยอนไม่อยากดูคอนเสิร์ตง๊า!!! แทคยอนอยากไปหลังเวทีเพื่อดูนิชคุณแต่งตัวนี่นา บ่นไปก็เท่านั้น ทำอะไรไม่ได้แล้วนี่นา จะไปหลังเวทีก็กลับมาตรงที่นั่งยากอีก.. รอก็รอวะ
     
      เสียงดนตรีเพลง Tired of waiting ดังขึ้น (ถึงแทคยอนจะไม่ใช่แฟนคลับ แต่เขาก็รู้เรื่องเพลงมากกว่าชานซองที่มีความสนใจเรื่องดาราเท่าเม็ดถั่วเขียว) ไฟสีฟ้าสลัวๆก็กะพริบรัวๆ เห็นอูยองที่นั่งอยู่กลางเวทีอย่างมีมาด
     
     อูวววว...ไอ้ขี้เก๊กเอ้ย
     
    แจบอมกระโดดโลดเต้นซะจนสติแตก ตะโกนเรียก ‘อูยอง! อูยอง!’ ซะเสียงแหลมเปี๊ยบ แขนขาไร้การควบคุมจนปัดมาโดนหน้าแทคยอนตั้งสามรอบ แม่ง...
     
     
     
      แล้วไอ้อูยองก็เหอะ เมื่อไหร่จะร้องจบ เอานิชคุณออกมาซักทีเด้!
     
      แทคยอนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดหยุกหยิกๆอย่างไม่แคร์สายตาคนอื่น ก็เขาจะนั่งเฉยๆแล้วจิ้มโทรศัพท์อยู่ในคอนเสิร์ตของสุดยอดไอดอลท่ามกลางแฟนเกิร์ลที่บ้าคลั่งแล้วจะทำไม ใครมีปัญหารึงายยยย?
     
      ‘พี่จุนซูอยู่ไหน มาปูซานด่วน’
      คนร่างใหญ่พิมพ์ข้อความเสร็จแล้วกดปุ่ม send
      รอพักหนึ่ง จุนซู ช่างภาพคนสนิทก็ตอบกลับมาว่า ‘อยู่โซล กำลังทำข่าววันเดอร์เกิร์ล, ให้ไปปูซานเพื่อ?’
     
      ‘คุณ-นูนอกำลังจะขึ้นร้องเพลง มาถ่ายรูปทีดิ้ สามแสนวอนเลยอะ’
      ‘แกคิดว่าฉันมีเครื่องวาร์ปรึไงวะถึงได้บอกฉันตอนนี้ ไม่ไปเว้ย ปัญญาอ่อน!’
     
      โอ๊ยยยยยยยยยย พี่จุนซูไม่ใจเลยอะ ขนาดล่อด้วยเงินก็ไม่ยอมมา แย่มาก!
      อูยองก็ยังร้องเพลงอยู่นั่น แล้วเมื่อไหร่นิชคุณจะขึ้นมาก็ไม่รู้ จะมาร้องเพลงสุดท้ายรึเปล่านะ ถ้าเป็นยังงั้นแทคยอนต้องตูดแฉะตายคาเก้าอี้แน่ๆ ฮือออ
     
      แล้วตอนนี้นิชคุณทำอะไรอยู่นะ..
     
      แทคยอนก้มลงไปจิ้มข้อความในโทรศัพท์ยิกๆอีกครั้ง คราวนี้ส่งไปหาไอ้เพื่อนร่างสูงโย่งที่เป็นสตาฟของไอดอลแทน
     
      ‘นิชคุณทำอะไรอยู่’
      ‘....แกไม่ดูคอนเสิร์ตรึไง’ ชานซองตอบกลับมา
     
      แน๊! มีย้อน เดี๋ยวนี้มีถามย้อนเรอะ
      ‘นิชคุณทำอะไรอยู่ ตอบให้ตรงคำถาม’
     
      ‘แต่งตัว’
      ‘ใส่ส่วนไหนอยู่ เสื้อหรือกางเกง แกห้ามหันไปมองนะ!!’
      ชานซองเพ่งมองข้อความล่าสุดที่ได้มาแล้วขมวดคิ้ว ไอ้นี่มันชักโรคจิตขึ้นทุกวันเว้ยเฮ้ย เขาถอนหายใจแล้วจิ้มโทรศัพท์ตอบกลับไปแบบเก้ๆกังๆด้วยความไม่ชิน
     
      ‘รองเท้า’
      ถ้ามันถามมาอีกว่าใส่ข้างไหนนี่เขาสาบานได้ว่าจะเขวี้ยงโทรศัพท์มันทิ้งซะ...
      แต่แทคยอนตอบกลับมาแค่ ‘จิ๊...’ สงสัยจะผิดหวังสินะไอ้โอตาคุ
     
      “ชานซอง ขอน้ำ”
     
      ร่างสูงยัดโทรศัพท์มือถือลงในกระเป๋ากางเกง เดินไปหาจุนโฮที่เรียกเมื่อครู่แล้วยื่นขวดน้ำให้ แต่คนตัวเล็กนั่นกลับไม่มองหน้า ได้แต่ทำแก้มป่องดูดน้ำจากหลอดดังอึกๆ ดวงตาหลุบต่ำแบบจงใจ
      ตั้งแต่วันที่สารภาพรัก จุนโฮแทบจะไม่มองเขาอีกเลย ได้แต่สั่ง สั่ง สั่ง และสั่งเขาให้ทำโน่นทำนี่ไม่หยุดหย่อน ถึงใบหน้าจะปั้นปึ่งตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน แต่ชานซองก็รู้สึกว่าจุนโฮพยายามเข้าใกล้เขามากกว่าเมื่อก่อน แต่เขาเองก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรหรอกนะ..
     
      ว่าแต่ทำไมสองสามวันนี้นิชคุณถึงได้ชอบใช้สายตามองชานซองเหมือนจะจับผิดนักนะ? ยิ่งเวลาเขาหยิบโน่นนี่ให้จุนโฮ ดวงตากลมคู่นั้นก็ยิ่งหรี่มองอยู่ได้
    มองอารายยยยย อยากกินกันมั่งรึไงน้ำแตงโมปั่นน่ะ มองกันอยู่ได้จนอึดอัด ฮึ่ย
      หรือเพราะเขาทำงานไม่ได้เรื่องรึเปล่า จะแอบเอาไปฟ้องพี่ชางมินรึเปล่า..
      หรือนิชคุณอยากให้เขาปรนนิบัติมั่งวะ? ไม่นา.... นิชคุณไม่ชอบให้ใครไปจุกจิก แล้วมองอะไรกันวะเฮ้ย ชานซองไม่เข้าใจ!!
     
      จะว่าไปนิชคุณที่ถูกแทคยอนรุกเมื่อครั้งนั้น วันต่อๆมาค่อนข้างเงียบผิดปกติ ชานซองสังเกตได้ว่าบรรยากาศรอบตัวไอดอลหน้าสวยคนนี้ช่างอึมครึมซะไม่มี
     
      อย่างตอนนี้ก็เหมือนกัน นั่งหน้ามู่ทู่เท้าคางอยู่คนเดียวอยู่โน่น
     
     
     
     
      นิชคุณกำลังเครียดมาก.. มากกกกกกกกกก
     
      ตั้งแต่ที่ไอ้อ๊กตาคุมันเริ่มคลั่งเขานี่ก็ผ่านมาสี่วันแล้วสินะ.. เป็นสี่วันที่นิชคุณยังให้คำตอบไม่ได้ว่าเขาฝันไปรึเปล่า ฝันร้ายรึเปล่า?! อยู่ๆไอ้คนที่เป็นแฟนคลับบ้าคลั่งและเป็นเจ้าพ่อบุญทุ่มสำหรับนูนอมาชอบเขาแบบกระทันหันได้ยังไงวะเนี่ย!
      ก็ที่ผ่านมามันเมินเขาตลอดเวลา เสียมารยาทตลอดเวลา แถมยังเคยด่าเขาอีก..
     
      จริงอยู่ที่ตอนแรกนิชคุณล่ะหมั่นไส๊...หมั่นไส้ที่มันบังอาจเมินเขาไปได้ ทั้งๆที่นิชคุณออกจะมีเสน่ห์ขนาดนี้ น่ารักขนาดนี้ แล้วก็เป็นคนต่างชาติที่มาเดบิวที่เกาหลีแบบนี้น่าสนใจออกจะตาย ทำไมไม่สนใจกันเลยก็ไม่รู้ ก็เกิดมาไม่เคยมีใครเมินเพอร์เฟคบอยอย่างนิชคุณ หรเวชกุลมาก่อนเลยนะให้ตายเหอะ!
    แต่พอเห็นมันบ่อยๆเข้า เห็นมันตามจุนโฮมากๆเข้า
    ...นิชคุณรู้สึกโชคดีเหลือเกินที่ไอ้บ้านี่ไม่ได้ชอบเขา

    จากที่อิจฉา.. ไม่สิ ไม่ได้อิจฉานะ! จากที่หมั่นไส้ จากที่เคยอยากให้มันมาสนใจกลายเป็นโล่งอกที่มันชอบจุนโฮ 
      และตอนนี้ความโล่งอกมันกลายเป็นความหนักอกหนักใจที่จู่ๆมันก็เบนเข็มมาที่เขาซะอย่างงั้นอ้ะ!!!!
     
      คิดให้ตายยังไงก็คิดไม่ออกว่าทำอีท่าไหนไอ้หัวขวดนั่นถึงมาคลั่งเขาได้
      เพราะเขาน่ารักเหรอ? มันก็ใช่อะนะ แต่ที่ผ่านมาก็เห็นๆอยู่นี่นาว่าต่อมรับรู้ความน่ารักมันผิดปกตินี่! มันบ้าจุนโฮมาตั้งสามสี่เดือน ทั้งที่จุนโฮน่ารักน้อยกว่าเขาอีก!
     
      จะว่านิชคุณไปยั่วแทคยอนก่อนมันก็ไม่น่าใช่นี่นา เขาเคยเหรอ? ม๊ายยยย ไม่เคยแน่นอน!!!!
      หรือว่าจะเป็นวันที่เมา หรือว่าจะในคอนเสิร์ต... ไม่น่าใช่แฮะ เพราะถึงแม้ว่าตอนคอนเสิร์ตเขาพยายามให้แทคยอนสนใจก็จริง แต่มันก็ไม่เห็นสนใจเขาเลยซักนิดนี่นา..

    รวมเวลาทั้งหมดก็ผ่านมาตั้งเกือบสามเดือนยังไม่มองเลยนะ เพราะฉะนั้นตัดไปได้เลย!
     
      คิดไม่ออก และหาทางออกไม่ได้ ..
      ขนาดวีนใส่ก็แล้วยังไม่มีทีท่าจะกลัว ไล่ให้ไปให้พ้นก็ยังตื๊อ วันนั้นเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของนิชคุณเลย ฮือออ วงยิ่งไม่ค่อยดังอยู่ แล้วเจอแฟนคลับแบบนี้เนี่ยนะ..
     
      “เป็นอะไรน่ะพี่คุณ” 
     
      จุนโฮถามพร้อมกับสะกิดเข้าที่ไหล่ ก่อนที่จะมานั่งปุ๊อยู่ข้างๆด้วยใบหน้าใสซื่อตามฉบับอี จุนโฮ แก้มกลมรับกับผมใหม่สีอ่อนเข้ากับเสื้อแจ็กเก็ตหนังสีเหลืองเป็นอย่างดี
     
      “เครียด” คนถูกถามตอบสั้นๆ 
      “เรื่องอะไร เรื่องคอนเสิร์ตเนี่ยเหรอ ตื่นเต้นเหรอครับ”
     
      คนหน้าสวยหันมาปรายตามองจุนโฮอย่างเย็นชา คนอย่างนิชคุณเนี่ยนะจะเครียดเรื่องคอนเสิร์ต ฉันมันมืออาชีพกว่าแกละกันไอ้เด็กหน่อมแน้มอ่อนหัดอีจุนโฮ!
     
      “ทำไมไอ้หัวขวดนั่นมาชอบฉัน ทำไมมันไม่ชอบนายต่อล่ะ!” 
      “อ้าว เมื่อก่อนพี่คุณก็อยากให้คุณแทคยอนชอบไม่ใช่เหรอ”
      “ฉันไม่เคยพูดแบบนั้นนะ!” 
      “แต่สีหน้าเวลาที่พี่เห็นคุณแทคยอนคลั่งผมมันฟ้องนี่นา” จุนโฮพูด ฉีกยิ้มกว้างจนตาหยี
      นิชคุณหันมาถลึงตาใส่ “นี่ฉันคิดจนปวดหัวจะตายอยู่แล้ว แกยังจะมีหน้ามาพูดเล่นอะไรอีก”
      “อูวววววว นี่ที่หน้าเป็นตูดมาสามสี่วันเพราะคิดถึงคุณแทคยอนเหรอพี่คุณ”
     
      “ไอ้บ้าอีจุนโฮ!!!!”
     
      นิชคุณร้องแว้ดพร้อมกับฟาดหัวรุ่นน้องด้วยไมค์ที่ถืออยู่รัวๆ แต่คนถูกฟาดก็แค่หัวเราะลั่นที่ยั่วพี่ชายสำเร็จ ลุกขึ้นวิ่งออกไปเตรียมตัวที่หลังเวทีโดยมีชานซองเดินตามออกไปติดๆ ตัวติดกันเชียวนะ เชอะ..
     
      แล้วจุนโฮนี่ก็เหลือเกิน พอรู้ว่าตัวเองรอดจากการเป็นเป้าหมายของไอ้หัวขวดแล้วเลยลัลล้าขึ้นมาทันตาเห็น แค่สี่วันจากหน่อมแน้มเป็นลัลล้า แม่ง จะบ้าตาย
     
      นิชคุณทำหน้ามุ่ยก่อนจะเดินลงส้นตึงๆออกไปบ้างเพราะได้ยินเสียงเพลง Ready or not ซึ่งเป็นเพลงที่สี่และร้องไปได้ครึ่งเพลงแล้ว อีกสองเพลงก็ถึงคิวเขากับจุนโฮที่ต้องออกไปแล้วสินะ
      สตาฟของอูยองเดินเข้ามาถามนิชคุณที่กำลังไปหลังเวทีว่าพร้อมหรือยัง ให้เตรียมสแตนด์บายได้แล้ว ซึ่งเขาก็พยักหน้ารับแล้วยิ้มบางๆ
     
      นิชคุณหายใจเข้าลึกๆขณะที่กำลังรอคิวของตัวเองอยู่หลังเวที ก้มมองเสื้อหนังสีแดงที่ตัดกับกางเกงสีขาวของตนเพื่อเช็คความเรียบร้อย ขยับเท้าไปมาให้มั่นใจว่าจะเคลื่อนไหวถนัด เสียงเพลงของอูยองยังคงดังก้องพร้อมกับแฟนๆที่กรีดเสียงเชียร์อย่างไม่หยุดหย่อน
     
      แอบยื่นหน้าออกไปดูก็ยิ่งตกตะลึง มินิคอนเสิร์ตของเขาเมื่อเกือบหกเดือนที่แล้วที่ถือว่าเป็นการเปิดตัวนี่เทียบกับคอนเสิร์ตครั้งนี้ไม่ติด เวทีใหญ่อลังการและคนดูที่มาดูพร้อมกับโบกแท่งไฟสีขาวไปมาเต็มไปทั่วทั้งฮอลล์ 
     
      นิชคุณแอบเห็นกลุ่มคนที่นั่งอยู่ชั้นบนมีการใช้แท่งไฟสีฟ้าทำเป็นตัว WY อยู่ท่ามกลางแท่งไฟสีขาวได้อย่างสวยงาม
      ซักวันเขาและจุนโฮต้องทำได้แบบนี้มั่งแหละ เชอะ คอยดูละกันฮึ
     
      ตอนนี้เข้าใจว่าพวกเขายังไม่มีชื่อเสียงระดับนั้น เลยต้องมีอูยองคอยดันหลังและคอยช่วยโปรโมทให้แบบเนียนๆตามสไตล์ของรุ่นพี่รุ่นน้องในบริษัท เอาเถอะ.. ซักวันพวกเขาต้องดังแบบอูยองให้ได้
     
      นิชคุณละสายตาจากเวทีแล้วหันไปมองจุนโฮที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามของหลังเวทีไกลๆ เจ้าคนเสื้อสีเหลืองหันมาเห็นสายตาที่มองมาอยู่พอดีจึงทำหน้าทะเล้นใส่แล้วชูสองนิ้ว ยิ้มกว้างพร้อมกับทำปากว่า ‘คุณ-นูนอไฟท์ติ้ง!’ มาให้ ซึ่งเขาก็ส่ายหน้าอย่างขำๆกับท่าทางไร้เดียงสาของเจ้านั่นแล้วพยักหน้ากลับไป
     
      เรื่องในห้องเตรียมตัวเมื่อกี้เดี๋ยวค่อยฉะทีหลังนะจุนโฮ.. ตอนนี้กำลังจะได้เวลาที่เขาต้องออกไปร้องเพลง ต้องลืมให้หมด ทั้งเรื่องโดนจุนโฮแซวและเรื่องไอ้โอตาคุหัวขวดนั่น
     
      วันนี้แทคยอนไม่มาดูคอนเสิร์ตด้วย เพราะเขาไม่เห็นมันเลย ใช่สิ ที่นี่ปูซานนะ ไอ้บ้านั่นคงกำลังทำงานหัวฟูอยู่ที่โซล ไม่เจอมาตั้งสามสี่วัน สงสัยมันคงไม่สนใจเขาแล้วมั้ง ทีตอนจุนโฮมันยังมาบ่อยๆไม่ก็โทรมาหาชานซองขอคุยอยู่บ่อยๆ แต่นี่ไม่เห็นมีเลยแฮะ
     
      นิชคุณยกมือขึ้นไหว้ ขอให้การแสดงครั้งนี้ผ่านไปด้วยดีนะครับ และขอให้อ๊กแทคยอนมันหายไปจากชีวิตเขาด้วยนะครับ สาธุ
     
    จบเพลง One in a million แล้ว
     
      สตาฟส่งสัญญาณให้นิชคุณและจุนโฮออกไปพร้อมกับอินโทรของเพลง I hate you ที่ขึ้นมา อูยองกำลังร้องท่อนแรกซึ่งได้รับเสียงกรีดร้องตอบรับเป็นอย่างดี 
     
      แต่เสียงแฟนๆก็ดังขึ้นไปอีกเมื่ออูยองหยุดร้องและเห็นจุนโฮที่เดินออกมาคู่เขาที่อยู่อีกฝั่งเป็นคนร้องต่อ สปอทไลท์ฉายมาที่เขาทั้งคู่จนต้องหยีตา แท่งไฟที่โบกไปตามจังหวะยิ่งโบกเร็วกว่าเดิม และเสียงกรี๊ดก็ดังกว่าเดิมเมื่อนิชคุณร้องท่อนที่สาม ...ต้องยังงี้สิ 
     
      พอมายืนกลางเวทีก็ถึงท่อนฮุคที่ทั้งสามต้องร้องพร้อมกัน
     
      นิชคุณออกสเต็ปเต้นตามเพลงอย่างมั่นใจ ดวงตาคู่กลมโตมองกวาดไปที่คนดูตั้งแต่ชั้นบนลงมาชั้นล่าง สะดุดตาเข้ากับแฟนคลับผู้หญิงที่คุ้นหน้าซึ่งใส่ชุดสีแดงเขียนว่า I LOVE NK พร้อมกับป้ายไฟอันเดิมที่เห็นบ่อยๆ เห็นดังนั้นจึงส่งยิ้มกว้างกลับไปให้ 
      แต่แล้วดวงตาคู่สวยก็สะดุดกับอีกคนที่ถัดไปไม่กี่ที่นั่ง คนๆนั้นใส่เสื้อลายเดียวกับแฟนคลับของเขา กระโดดเชียร์และถือป้ายไฟชื่อ ‘นิชคุณ’ เป็นภาษาไทย และ..
     
      “นิชคุ๊ณณณณณณณณ”
      “L.O.V.E – LOVELY นิชคุณณณณณ!!!!”
     
      ชิบหาย นั่นมันไอ้โอตาคุหัวขวด อ๊ก แทคยอน!!!!
     
     
     
     
     
      ทนฟังเสียงอูยอง ฟังเสียงแฟนคลับที่กรี๊ดๆแบบน่ารำคาญ รวมถึงทนโดนไอ้แจบอมกระโดดโลดเต้นพร้อมเอามือมาฟาดหน้าเขาอยู่ตั้งนาน ในที่สุดนิชคุณก็ออกมา ฮร่ากกกกก
      ใส่ชุดตอนเดบิวซะด้วย อ่อก แทคยอนอยากจะกัดลิ้นตาย จะน่ารักบริสุทธิ์ผุดผ่องน่าฟาดน่าเอากลับบ้านไปถึงไหน๊?
     
      แทคยอนลุกขึ้นยืนทันที ท่อนแขนแข็งกำยำกระแทกเข้ากับท่อนแขนผอมบางของแจบอมจนคนตัวเล็กนั่นตัวเซ หันมาทำหน้าเขม่นก่อนที่จะสะบัดหน้าแล้วร้องตามเพลงของอูยองต่อไปแบบไม่ผิดเพี้ยนซักคีย์
     
      แต่แทคยอนไม่สนใจ เพราะสายตานั้นมองผ่านแจบอมไปที่ผู้หญิงผมยาวคนนั้นที่เคยเจอในมินิคอนเสิร์ตคุณ-นูนอ  จัดเต็มเหมือนเดิมนะนังคนนี้
     
      โอ๊ยยยยยยยยยยย ไม่ยอม 
      แทคยอนก้มลงไปหยิบป้ายไฟที่อุตส่าห์ไปจ้างทำอย่างดีแล้วชูขึ้นสูง ป้ายนี้เขียนชื่อนิชคุณเป็นภาษาไทยด้วย เด่นกว่าชื่อภาษาอังกฤษอยู่แล้วเพราะนิชคุณเค้าเป็นคนไทยเว้ยยัยทึ่ม 
     
      อ๊ากกกกกกกกกกกกก ได้ผล นิชคุณหันมาแล้ว! หันมามองแทคยอนด้วย จ้องด้วย ทำตาโตแป๋วแหววด้วย!!
     
      “นิชคุ๊ณณณณณณณณ” แทคยอนตะโกนเสียงดัง
      “L.O.V.E – LOVELY นิชคุณณณณณ!!!!”
     
      อยู่ๆนิชคุณที่กำลังเต้นอย่างไม่มีที่ติก็เต้นผิดไปจังหวะนึง เอ๊ะ ทำไมล่ะ เพราะนิชคุณมัวแต่มองแทคยอนใช่มั้ยล่ะ???! ให้ตายสิ เขาไม่น่าแต่งตัวเด่นทำตัวเด่นให้นิชคุณเห็นเลย แบบนี้ก็เขินแย่น่ะสิ ขอโทษนะครับ
      ..แต่นิชคุณน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก มากจนแทคยอนอดใจไม่ไหวที่ต้องตะโกนไปอีกรอบ
     
      “L.O.V.E – LOVELY นิชคุณ! นิกกกก-คุณ! นิช-ชะ-คุณ!”
     
     แฟนเกิร์ลที่ชื่อวิคตอเรียหันขวับมาทางต้นเสียงบ้าคลั่่งนั้นด้วยความหงุดหงิด ซึ่งแทคยอนก็มองกลับไปอย่างท้าทาย ทำบากเบะแบบไม่แคร์แล้วชี้ป้ายชื่อภาษาไทยของนิชคุณให้ดูเป็นเชิงอวดๆ ฝ่ายหญิงสะบัดผมใส่แล้วหันไปกรีดร้องใส่นิชคุณด้วยเายงดังเหมือนจะข่ม
     
     
     
      “นิชคุ๊ณณณณณณ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด นิชคุณณณณณณ”
     
      โอ๊ยนังนี่ เห็นแล้วหมั่นส๊ายยยยย! แทคยอนไม่มีทางยอมหรอก 
      “นิชคุณคร้าบบบบบ ไอเลิฟนิชคุณ L-O-V-E – LOVELY นิชคุณณณ!!”
     
      “กรี๊ดดดดด นิชคุณ นิชคุณโอปป๊าาาาา!”
      แทคยอนถึงกับย่นจมูก หน้าหล่อนเป็นแม่ได้แล้ว ยังจะมาเรียกนิชคุณของเขาว่าโอปป้าอีกเหรอ ยี้! แต่เมื่อเขากำลังจะตะโกนเรียกนิชคุณอีกรอบ ไอ้ตี๋ตัวเล็กๆที่เป็นแฟนคลับอูยองก็เข้ามาตะปบปากไว้แล้วตะโกนเรียก
     
      “จางอูยอง ไอเลิฟยูวววววว!”
     
      แทคยอนใช้มือหนาดึงข้อมือไอ้แฟนบอยตัวเล็กออกอย่างหงุดหงิด ตะโกนกลับแบบไม่ยอมแพ้ แข่งกับยัยผู้หญิงคนนั้นยังไม่พอ ต้องมาตะโกนแข่งกับไอ้ตัวเล็กนี่อีก โอ๊ยยยย
     
      “นิชคุณของแทคยอน ไอเลิฟยู!!!!”
      “แกมาชอบไอ้ลำยองได้ยังไงน่ะ? อูยองๆ อูยองงงงงง!!!!”
      “หุบปากเลยไอ้ตี๋”
      “ฉันก็จะเรียกอูยองเหมือนกันนะเว้ยไอ้ดำ”
      “แกเรียกมาตั้งห้าเพลงแล้ว ฉันจะเรียกนิชคุณบ้าง หุบปากกกกกกกกก”
      “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด นิชคุ๊ณณณณณณณ”
      “โอ๊ยนังวิคตอเรีย! นิชคุณ!!!! ได้ยินมั้ยคร๊าบบบบ ไอเลิฟยูนิชคุ๊ณณณณณ ไอเลิฟยู๊วววววว!!!!”
      “จางอูยอง!!!! เจย์เลิฟอูยองงงงงงง!!!!”
     
     
     
      แฟนคลับสองคนที่ใส่เสื้อสีแดงท่ามกลางแฟนๆที่ใส่เสื้อสีดำอยู่แถวหน้านั้นเป็นจุดเด่นสำหรับนักร้องบนเวทีพอแล้ว ยิ่งป้ายไฟสีแดงชื่อนิชคุณทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษที่อยู่ท่ามกลางแท่งไฟสีขาวของอูยองยิ่งเด่นชัด
      รวมถึงตอนนี้ที่ร่างเล็กๆของแจบอมกับร่างใหญ่ๆแทคยอนกำลังตบตีเพื่อแย่งกันตะโกนยิ่งเห็นชัดกันเข้าไปใหญ่
      จุนโฮที่ร้องเพลงอยู่ถึงกับหลุดหัวเราะออกไมค์ ก็ได้ยินเสียงและได้เห็นแฟนคลับที่คุ้นหน้าทั้งสามคนแข่งกันตะโกนโวยวายเรียกไอดอลของตัวเองแบบไม่มีใครยอมใครแล้วมันอดหัวเราะไม่ได้นี่นา ถึงจะไม่ได้ยินก็เถอะ แต่มันตลกอ้ะ!
      เขาเหลือบตาไปมองรุ่นพี่ทั้งสองคนที่กำลังร้องเพลงอยู่แล้วอมยิ้ม
      อูยองน่ะทำได้ดีไม่มีที่ติ สมกับตำแหน่งไอดอลแห่งปี สมาธิแน่วแน่มาก ไม่ได้สนใจกลุ่มวุ่นวายนั้นแม้แต่น้อย
     
      แต่นิชคุณที่ ‘เคย’ รักษาใบหน้าได้ดีทุกครั้งเมื่ออยู่บนเวที นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นพี่ชายคนนี้หลุดมาดของไอดอล ใบหน้าที่มีเสน่ห์ดูตึงเครียดเหมือนอยากจะตายให้ได้ ยิ่งคุณแทคยอนทำท่าบ้าคลั่งเท่าไหร่ นิชคุณก็ดูเหมือนจะอยากกลับเข้าหลังเวทีเท่านั้น
     
      พอถึงช่วงหลังๆ มีท่าที่เสริมมาคือจุนโฮและนิชคุณจะต้องอยู่ด้านหลังของอูยอง
    ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคำรามที่จุนโฮคุ้นเคยดังมาจากหน้าเวที
     
      “นูนอกับอูยองอย่าบังนิชคุณ ออกป๊ายยยยย!!!!”
     
      จุนโฮลดไมค์ลงแล้วหลุดขำกับเสียงแทคยอนออกมาอย่างไม่เกรงใจ หันไปมองนิชคุณที่กำลังเต้นอยู่ยิ่งขำกว่าเดิม พี่คุณกำลังหลับตาร้องเพลง คิ้วขมวดมุ่นดูจริงจังกับการร้องแต่จริงๆแล้วคือกำลังข่มอารมณ์อย่างสุดความสามารถ
     
      ใบหน้าที่รักษาอย่างดีมาตลิดตั้งแต่เดบิวของพี่คุณจะมาพังลงเอาตอนเจอคุณแทคยอนเนี่ยนะ คึคึคึ
     
      จุนโฮเคยเจอความคลั่งของแทคยอนมาก่อน รู้ดีว่าโอตาคุร่างใหญ่คนนั้นจะบ้าได้แค่ไหน แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่อะ รู้สึกว่าดีกรีความคลั่งนิชคุณของแทคยอนนั้นมันมากกว่าสมัยที่ชอบเขาซะอีก
      จะว่าไปนะ .. คุณแทคยอนกับพี่คุณนี่เคมีเข้ากันดีออก
      แฟนคลับแอนด์สปอนเซอร์จอมตื๊อ กับไอดอลขี้วีน
      ถ้าเกิดวันนึงตื๊อวีน ตื๊อวีน ตื๊อวีน จนรักกันขึ้นมาจะเป็นยังไงนะ? แหม่ะ แค่คิดก็สนุกแล้ว คึคึคึ
     
     
     
     
     
      แล้วถ้าเป็นสตาฟกับไอดอลล่ะ
     
      รักกัน.. จะได้มั้ยนะ
     
     
     
     
    To be continued
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×