ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [2PM] OTAKU BOY ~

    ลำดับตอนที่ #4 : OTAKU BOY - 03 -

    • อัปเดตล่าสุด 20 ธ.ค. 57


     
     
    - 03 -
     
     
     
    ซูเปอร์สตาร์อย่างจาง อูยอง มาเป็นแขกรับเชิญพิเศษให้กับมินิคอนเสิร์ตเปิดตัวนักร้องหน้าใหม่อย่างรุ่นน้องในค่าย ‘คุณ-นูนอ’ ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เสียงกรีดร้องของแฟนเกิร์ลดังกระหึ่มราวกับมีคนดูห้าพันคน ทั้งที่จริงๆแล้วมีไม่ถึงพันคนด้วยซ้ำ
     
     
    อูยองร้องและทำหน้ากวนๆพลางยักคิ้วไปทางด้านจุนโฮที่เต้นอยู่ด้านข้าง ปรบมือเป็นจังหวะขณะที่เต้นด้วยท่าทางน่ารัก ทำแก้มป่องหยอกล้อกับคนที่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ คนที่ร้องเมื่อครู่ก็หันไปหยอกนิชคุณที่อยู่ด้านขวามือที่ทำหน้าน่ารักไม่แพ้กัน
     
    แฟนคลับผู้หญิงกรี๊ดอย่างสติแตก
     
    แทคยอนเองก็ไม่ได้กรี๊ดแบบสาวๆพวกนั้นหรอก ได้แต่ตะโกนคำว่า ‘นูนอๆๆๆ’ ซ้ำไปซ้ำมาสลับกับร้องเพลงท่อนเดียวกับที่นูนอร้องด้วยตาเป็นประกาย จมูกที่มีเลือดออกนั้นถูกปล่อยปละละเลยไม่สนใจจนเดือดร้อนคนข้างๆอย่างชานซองที่ต้องคอยเอาผ้าอุดจมูกไว้ให้
     
    แต่คนที่รับหน้าที่อันแสนหน่ายนี้ก็ถอนใจโล่งอก ดีกว่าให้มันไปตะเกียกตะกายจะขึ้นเวทีแบบตอนแรก ดีที่เจ้าตัวนึกได้ว่าเลือดกำเดาไหลเลยได้แต่ยืนสงบเสงี่ยมอยู่กับที่
     
    พอเพลง Marshmallow จบ อูยองกอดคอนักร้องคู่ดูโออย่างสนิทสนม จุนโฮหันไปสบตานักร้องรุ่นพี่แล้วหัวเราะเสียงใส คนที่สบตาด้วยก็เอาหัวชนกับนิชคุณที่อยู่ด้านข้าง ทั้งหมดนี้ยิ่งทำให้แฟนคลับถึงกับส่งเสียงกรี๊ดยิ่งกว่าเดิม
     
    อะไรจะน่ากรี๊ดไปกว่าเห็นไอดอลผู้ชายสนิทกันข้ามวงแบบนี้ล่ะ?
    แฟนคลับผู้หญิงอาจจะกรี๊ด แต่แฟนบอยอย่างแทคยอนไม่อะ
     
    ไอ้จาง อูยอง เอาหน้าแกออกไปจากนูนอของฉันนะว้อยยยยย มากไป แกมากไป มันมากไป!!!!
     
    ตอนนี้คู่ดูโอแนะนำรุ่นพี่ในค่ายให้รู้จักในฐานะแขกรับเชิญ ซึ่งอูยองก็พูดทักทายอย่างอย่างร่าเริงแต่ก็ยังคงภาพลักษณ์ที่มีความเท่อยู่เต็มเปี่ยม
     
    “ช่วยสนับสนุนคุณ-นูนอต่อไปด้วยนะครับ!” อูยองพูดแล้วขยี้หัวจุนโฮที่ผูกโบว์อย่างเอ็นดู
     
    มือใหญ่ของชานซองที่ถือผ้าอุดจมูกให้แทคยอนนั้นกำแน่นโดยไม่รู้ตัว เดือดร้อนเจ้าของจมูกนั่นถึงกับร้องว๊าก
     
    “ไอ้บ้าชานซอง!!! มันเจ็บนะเว้ย บีบจมูกฉันทำไมอ้ะ”
     
    ชานซองคลายมือออก แล้วตอบอุบอิบว่าขอโทษ
     
     
    แทคยอนยุ่นจมูกอย่างไม่สนใจ หันไปมองไอดอลทั้งสามคนบนเวทีอีกครั้ง ตอนนี้กำลังร้องเพลง 10 points out of 10 ร่วมกันเป็นเพลงสุดท้าย ซึ่งเป็นเพลงของอูยองเอง
     
    เพลงนี้มีท่อนที่ให้แฟนคลับร่วมร้องด้วยได้ จึงเป็นเพลงที่ค่อนข้างเอนเตอร์เทนได้ดี เพียงแต่แทคยอนไม่มีอารมณ์จะร่วมเท่าไหร่ พาล พาล พาล! อารมณ์เสียกับไอ้อูยองชะมัดเลย ทำไมต้องเซอร์วิส ทำไมต้องเล่นหูเล่นตากับนูนอของเขาขนาดนี้ แทคยอนช้ำใจ ปวดใจ แทคยอนไม่ยอมมมมมมมม!
    หันไปมองไอ้ตี๋คนที่เป็นแฟนคลับอูยองแล้วก็ถึงกับขมวดคิ้ว
     
    ไอ้ ‘เจย์’ คนนั้นมันทำหน้าบึ้ง ปากขมุบขมิบขณะที่ใช้สายตาจิกไปยังคุณและนูนอบนเวที
     
    แทคยอนทำหน้ามู่ทู่ ดูจากสายตาก็รู้ว่าไอ้หมอนั่นมันหมั่นไส้นูนอพอๆกับที่เขาหมั่นไส้อูยอง
     
    แกไม่ชอบนูนอ ฉันก็ไม่ชอบไอ้อูยองเหมือนกันแหละวะ!
     
     
     
     
     
    คอนเสิร์ตจบ ทั้งแทคยอนและชานซองกึ่งนั่งกึ่งนอนสลบอยู่บนรถสีขาวคันเดิม ทั้งที่ตอนแรกคนที่เป็นเจ้านายบอกว่าไม่ต้องมารับ แต่พอเอาเข้าจริงๆก็กลับไม่ไหว โทรเรียกคนขับรถให้มารับจนได้
     
    ลืมไปว่าครั้งนี้มาดูคอนเสิร์ต ไม่ได้ไปอีเว้นท์ทั่วไป ใช้พลังงานเชียร์ซะจนหมดแรง
     
    นูนอน่ารัก.. พูดเป็นล้านรอบตั้งแต่ขึ้นรถ นูนอน่ารัก อูยองน่าหมั่นไส้ รวมถึงสายตาของไอ้แฟนบอยตัวเตี้ยในคอนเสิร์ตนั่นอีก.. ทั้งพูดทั้งวิพากษ์วิจารณ์จนชานซองที่ตอนแรกก็เห็นด้วยแล้วค่อยๆเงียบเสียงแล้วหลับไป จนในที่สุดเขาเองก็ต้องยอมแพ้แล้วงีบด้วยอีกคน เพิ่งรู้ตัวว่าใช้พลังงานไปเยอะมาก ถึงจะน่ารักและตราตรึงแค่ไหนแต่ตอนนี้เขาก็ต้องพักผ่อนเหมือนกัน
     
    ก็พรุ่งนี้มีประชุมแต่เช้านี่นา คิดแล้วถึงกับเอามือกุมหัว วันนึงทำงาน วันนึงมาหานูนอ...

    การเป็นโอตาคุมันไม่ใช่ง่ายๆเลยนะเนี่ย เฮ่ออออออ
     
    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เพื่อนร่างสูงที่นอนขดอยู่ถึงกับสะดุ้ง แทคยอนเอามือใหญ่ตบหลังให้เบาๆเป็นเชิงว่าหลับไปเถอะ แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กขึ้นมารับอย่างอ่อนเพลีย
     
    “เฮ้ยยยยย บักแทค”
     
    เสียงเหน่อๆบ้านๆแบบนี้มีอยู่คนเดียว พี่จุนเค
    จะโทรมาทำไมวะ ก็บอกแล้วว่ารูปที่ถ่ายให้ส่งมาที่บ้าน
     
    “What’s up?” แทคยอนกรอกเสียงกลับไปเป็นภาษาอังกฤษสั้นๆ การเป็นคนใหญ่คนโตอย่างเขาต้องใช้ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส และจีนในการติดต่องานจนเกือบจะเป็นภาษาหลักในชีวิตประจำวัน เพราะฉะนั้นเวลาสติไม่ค่อยมีเขามักจะพูดหลายภาษาสลับกันไป
     
    “พูดปะกิตกับข้อยทำไม ฮ่วย” จุนเคบ่น 
     
    “พี่ก็พูดภาษากลางกับผมสิ ตอนนี้ผมสติไม่มี ฟังภาษาบ้านนอกไม่รู้เรื่อง”
     
    พูดจบ คนฟังก็พ่นภาษาแดกูด่าใส่หูแว้ดๆๆๆๆจนต้องเอาโทรศัพท์ออกห่างจากหู เสียงที่ออกมาจากมือถือดังซะจนชานซองที่นอนอยู่ถึงกับขมวดคิ้วแล้วเผยอตาหาต้นตอของเสียง
     
    แทคยอนถอนใจ “Ok, Ok, Ok I'm sorry.”
     
    “พูดภาษาเกาหลีเส่ะ!” คนแดกูในสายแว้ดอีกรอบ “แกพูดจาแบบนั้นกับภาษาบ้านเกิดฉัน มันน่านัก เดี๋ยวอดซะเลยแม่ม”
     
    “เออๆขอโทษๆ แล้วอดอารายยยย ค่ารูปก็จ่ายไปแล้วอย่ามาเบี้ยวนะ”
     
    “ไม่ใช่รูปว้อย! แต่ฉันมีบัตรวีไอพีเข้างานอาฟเตอร์ปาร์ตี้หลังมินิคอนเสิร์ตคุณ-นูนอน่ะ แกจะเอามั้ย ห๊ะ” 
     
     
    แทคยอนนั่งหลังตรง ตาสว่างขึ้นมาทันที อะไรนะ? มีงานปาร์ตี้หลังคอนเสิร์ตด้วยเหรอ!
     
    “ปาร์ตี้?! มีด้วยเรอะ เอามาได้ไงอ้ะ” คนร่างใหญ่ตะโกน จนชานซองสะดุ้งตื่นทั้งๆที่หงุดหงิด เอาขาฟาดแทคยอนด้วยความโมโห
     
    “เออ ฉันใช้เส้นเอามาให้ได้ละกัน จะเอาไม่เอา แต่มีใบเดียวนะ”
     
    “แล้วชานซองอะ แบบนี้มันก็เข้าไม่ได้อะดิ้”
     
    เจ้าของชื่อที่ถูกพูดถึงขยับตัว นั่งหลังตรง เข้าอะไร ไปไหนอีก? ไม่ต้องนับเขาก็ได้ ไม่เข้าก็ได้ ชานซองอยากกลับบ้าน...
     
    “เท่าไหร่นะ สามแสนวอนเหรอ ไม่มีปัญหา”
     
    มันจ่ายค่าอะไรอีกแล้วฮึ?
     
    “มีปัญญาจ่ายอยู่แล้ว ถึงจะรู้ว่าพี่ชอบขูดเลือดก็เหอะ เออ แค่นี้แหละ”
    แทคยอนวางสายไปด้วยอารมณ์ตื่นเต้น แค่ได้ยินชื่อนูนอมาก็มีแรงขึ้นมาเหมือนเป็นยาชูกำลัง แล้วนี่ยิ่งเป็นปาร์ตี้หลังคอนเสิร์ตสำหรับสตาฟเท่านั้นอีก
     
    โอยยยยยย ทำบุญมาด้วยอะไรน้อแทคยอน เขาถึงได้โชคดีแบบนี้
     
    ขอบคุณปะป๊าที่สร้างบริษัทขึ้นมาจนรวยมหาศาล จนเขามีโอกาสแบบนี้นะครับ
    ขอบคุณหม่าม้าที่คลอดผมออกมาให้เจอสิ่งมีชีวิตที่น่ารักแบบอิจนูนอนะครับ
     
    อะดรีนาลีนพลุ้งพล่านขึ้นมาอีก แทคยอนรู้สึกว่าถึงไปงานนี้ต่อทั้งคืนเขาก็ยังมีแรงไปประชุมพรุ่งนี้ต่อ
    ก็ได้แรงใจจากอิจนูนอแสนน่ารักคนนั้นไง! คราวนี้จะได้คุย ได้อยู่ใกล้ๆ ได้..ได้.. อ๊ากกกกกกกกกก
     
    แค่คิดก็อยากจะดิ้นให้โลกพัง!
     
    “ซึลองงงงงงง! เลี้ยวกลับไป ฉันไม่กลับบ้านแล้ว”
     
    เสียงตะโกนราวกับสิงโตคำรามแบบเดียวกับที่ตะโกนในคอนเสิร์ตทำเอาคนขับรถตกใจแล้วเหยียบเบรกเอี๊ยด ชานซองหน้าคะมำไปโดนเบาะด้านหน้าดังอั้ก ร้องโวยวายแว้ดๆด่าทั้งคนขับรถและเจ้านายอย่างโมโห ซึลองพูดขอโทษขอโพยซ้ำๆแล้วกลับรถตามคำสั่ง
     
    แทคยอนเอามืออุดปากชานซองแล้วบอกจุดหมายต่อไปแก่คนขับรถ สถานที่จัดงานปาร์ตี้อยู่ห่างไปประมาณ 10 นาที คนขับที่ยังพูดขอโทษชานซองเหยียบคันเร่งเพื่อให้ไปถึงให้เร็วที่สุดเพราะเจ้านายบอกให้เหยียบมิด
     
    “ไปไหนอีก ฉันจะกลับบ้านอ้ะ” ชานซองโวยวายทั้งที่ยังงัวเงีย ทั้งเจ็บตัว ทั้งเหนื่อย ทั้งหิว “ฉันไม่ไปกับนายแล้ว ปล่อยฉันลง จะกลับเอง!”
     
    “หุบปากแล้วไปกับฉัน แล้วจะจ่ายค่าเช่าห้องให้สามเดือน”
     
    ชานซองขมวดคิ้ว ชะงักไปนิดหนึ่งแล้วเถียงกลับ “ไม่อาววววว ตอนนี้ง่วงอะ”
     
    “เลี้ยงข้าวอีกเดือนอะ”
     
    “ง...ง่วงจริงๆนะ”
     
    “ถ้าไม่ไปฉันจะกว้านซื้อคอนโดของแกให้แกไม่มีที่อยู่เลย”
     
    ชานซองนั่งนิ่ง ทำปากขมุบขมิบว่า ‘ไอ้จอมเผด็จการ’ แต่ก็ยอมแพ้ ไปก็ไปวะ
    แล้วนึกยังไงไปผับตอนนี้เนี่ยหา?????
     
    “แต่ฉันไม่มีแรงเต้นแล้วนะ ไปผับแล้วฉันนั่งนิ่งๆได้ม้า แกเต้นไปคนเดียวได้ปะ”
     
    แทคยอนหันมาทำหน้านิ่ง “จะทำอะไรก็ทำ ฉันจะไปหานูนอ”
     
    ห๊ะ??????
     
    “คุณ-นูนอเค้าจัดอาฟเตอรืปาร์ตี้สำหรับสตาฟโดยเฉพาะที่ผับนั่น ลับสุดยอดเลยนะ ฉันได้บัตรวีไอพีมา”
     
     
    โอ้ม่ายยยยยยยยยยย ยึดห้องกูไปเถอะ ยอมมมมม
     
    ไม่อยากเจอดูโอสองคนนั้นอีกแล้ววววววววววว
     
    เจอแล้วต้องเห็นไอ้แทคเป็นคนบ้าแบบนั้น ไม่เอาอีกแล้ว ม๊ายยยยยย 
     
     
     
     
     
    เมื่อก้าวลงจากรถ แทคยอนก็เห็นจุนเคที่นั่งรออยู่หน้าผับ สวมเฮดโฟนฟังเพลงทำคอยึกยักอยู่คนเดียว คนร่างใหญ่เดินเข้าไปหาโดยมีชานซองที่อิดออด เดินบ่นงุบงิบๆ สีหน้าไม่พอใจตามมาข้างหลัง 
     
    จุนเคเงยหน้ามองผู้ชายเสื้อเหลืองเป็นกล้วยทั้งสองคนแล้วยิ้มแฉ่ง ยื่นบัตรวีไอพีให้แทคยอนแล้วหันไปพูดกับคนร่างสูงที่อยู่ด้านหลัง
     
    “ฉันมีใบเดียวอ้ะ ของนายไม่มีนะ”
     
    “อยากได้ตายล่ะ”
     
    แทคยอนเอามือฟาดเพื่อนปากไม่มีหูรูดของตัวเองดังป้าบ จ่ายเงินให้จูนเคที่ทำหน้ามุ่ยก่อนจะเดินไปที่หน้าประตู มีการ์ดยืนอยู่สามคนคอยคุมทางเข้าออก
     
    เขายื่นบัตรวีไอพีให้ การ์ดสามคนนั้นเปิดทางให้เข้าอย่างง่ายดาย แทคยอนลากชานซองเข้าไปพร้อมกันแต่โดนขัดขวาง
     
    “บัตรใช้ได้คนเดียวครับ”
     
    แทคยอนทำปากจิ๊จ๊ะอย่างรำคาญ ยื่นบัตรให้ชานซองที่ยืนเป๋อเหลออยู่ จากนั้นจึงมายืนประจันหน้ากับการ์ดทั้งสามคน
     
    “นายนั่นมีบัตรแล้ว ส่วนฉันจ่ายไม่อั้น เอาเท่าไหร่”
     
    “มีเงินก็เข้าไม่ได้ครับ กรุณาออกไปด้วย”
     
    “แกไม่รู้จักฉันใช่มั้ย ห๊ะ” คนร่างใหญ่เริ่มพูดด้วยน้ำเสียงวางอำนาจตามแบบฉบับคนใหญ่คนโต แต่การ์ดทั้งสามดูไม่กลัวเกรง คงเพราะสภาพการแต่งตัวของแทคยอนก็ไม่ได้ต่างอะไรจากแฟนคลับบ้าคลั่งที่จะมามั่วนิ่มเข้างาน
     
     
    ไอ้คนใส่ชุดเหลืองเป็นกล้วยทั้งตัว ลายเสื้อไอเลิฟนูนอกับแว่นสีเหลืองเขียนว่านูนอ ขู่ไปใครเค้าจะกลัว?
     
    สตาฟอีกสองคนเห็นว่าเหมือนจะมีเรื่องเลยเดินมาที่ประตู สอบถามทั้งแทคยอนและคนคุมประตูทั้งสาม เมื่อรู้เรื่องจึงบอกเสียงแข็งๆว่า
     
    “ไม่มีบัตรก็ห้ามเข้า ออกไป”
     
    “แล้วถ้าผมจะบอกว่า ผมคืออ๊ก แทคยอนล่ะ” คนร่างสูงพูดขรึมๆ ถอดแว่นเหลืองที่ชานซองมองว่าน่าอับอายออก แววตาจริงจังจนดูน่ากลัว เกือบเหมือนแววตาตอนที่ใช้มองพนักงานที่บริษัทเวลาทำงานพลาด
     
    ถึงจะใส่ชุดสีเหลืองลายไอเลิฟนูนอ แต่เมื่อพูดคำว่า ‘ผมคืออ๊ก แทคยอน’ กลับทำให้โอตาคุร่างใหญ่ดูมีออร่า มีความน่าเกรงขามอย่างน่าประหลาด ทำเอาสตาฟคนนั้นยืนนิ่ง หันไปถามสตาฟอีกคนที่ทำปากหวอ กระซิบกระซาบกันอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดด้วยน้ำเสียงต่างไปจากเดิม
     
    “เอ่อ...เชิญครับ ทั้งคู่เลยครับ”
     
    แทคยอนสวมแว่นกลับเข้าที่เดิม หันมาส่งยิ้มกว้างให้ชานซองแล้วกึ่งเดินกึ่งกระโดดเข้าไปในอาคาร ด้วยความตื่นเต้น ไอ้นี่มันสองบุคลิกจริงๆ...
     
    ชื่อแกมันมีอำนาจขนาดนี้เลยเหรอวะเฮ้ย?
    เออ จริงๆแล้วมันเป็นพวกคุณชายไฮโซนี่ มันมีเส้นใหญ่ก็ไม่แปลก
    แต่แปลกที่มันทำตัวบ้าดาราไปวันๆนี่แหละ.....
     
     
    ภายในงานมีคนประมาณร้อยกว่าคน เดินวุ่นวายคุยกันเสียงดัง มีอาหารถูกจัดวางไว้เต็มปรี่ (ชานซองกระตุกแขนเขาถี่ๆแล้วชี้ไปที่อาหาร ถามว่ากินได้มั้ยๆ) บางคนก็ลุกขึ้นมาเต้น แต่หลายๆคนนั่งอยู่ที่โต๊ะโซฟาแล้วคุยกันมากกว่า
    แทคยอนสอดสายตามองไปทั่วบริเวณ เสียงเพลงของคุณ-นูนอและเพลงของอูยองเปิดวนเวียนซ้ำไปมา มีเพลงอื่นๆของค่ายรวมถึงเพลงฝรั่งปะปนอยู่บ้าง
     
    ไหนล่ะนูนอ ไหนล่ะนูนออออ? เขาหาไม่เจอ นูนออยู่ไหน?
     
    แต่เรดาร์หาคนที่คลั่งของแทคยอนก็ไม่เคยทำงานพลาด เพียงแค่บ่นว่านูนออยู่ไหนก็เหมือนมีจีพีเอสบอกทาง พบเป้าหมายที่นั่งอยู่ที่โต๊ะโซฟาห่างไปไม่กี่เมตร มีนิชคุณที่นั่งอยู่ข้างๆพร้อมกับสตาฟอีกสามคน 
     
    ไอดอลทั้งคู่เปลี่ยนเป็นชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์แบบสบายๆแล้ว เว้นก็แค่จุนโฮที่ยังใส่โบว์ไว้บนหัวพลางคุยจ้อและหัวเราะกับคนบนโต๊ะอย่างน่าเอ็นดู
     
    แทคยอนพ่นลมออกจมูกดังพรืด มือใหญ่คว้าแขนชานซองที่กำลังมองของกินตาไม่กะพริบ แล้วเดินดุ่มๆไปที่เป้าหมาย
     
     
    ผมเจอแล้ว ผมเจอแล้ว นูนอของผม คนน่ารักของผม ของล้ำค่าที่น่ารักของผม!
     
    ยังผูกโบว์ไว้ที่หัวอีก อะไรจะน่ารักขนาดนั้น โอ๊ยยยยย อยากจะบ้าตาย น่ารักที่สวดดดด!!!
     
    นูนอจะรู้สึกยังไงที่ได้เจอเขานะ ดีใจใช่มั้ยล่ะ? ก็แทคยอนแฟนคลับนัมเบอร์วันตามมาถึงงานปาร์ตี้แบบนี้มันก็แน่อยู่แล้วที่ต้องดีใจน่ะ
     
     
    สตาฟคนที่อนุญาตให้ทั้งคู่เข้ามาในงานเดินไปที่โต๊ะของไอดอลสองคนนั้นแล้วพูดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง คนทั้งโต๊ะหันขวับมามองแทคยอนและชานซองเป็นสายตาเดียว
     
    ทั้งสองคนใส่เสื้อลาย I LOVE NUNEO คนหนึ่งยังคงสวมแว่นตาสีเหลือง เขียนว่า NUNEO แบบไม่เกรงใจสายตาชาวบ้าน เดินสาวเท้าเข้ามาอย่างน่าขนลุก ส่วนอีกคนเดินตุปัดตุเป๋อยู่ด้านหลังเพราะโดนลากให้ตามมา
     
    จุนโฮเบิกตากว้างเมื่อเห็นแขกที่เข้ามาใหม่สองคน และหนึ่งในแขกคู่นั้นมองกลับมาด้วยแววตาที่เป็นประกาย ประกายน่ากลัวซะจนคนร่างเล็กถึงกับหลบหลังนิชคุณอย่างจงใจ คนที่ถูกเป็นเกราะกำบังทำหน้าตกตะลึง แล้วชี้หน้าโอตาคุร่างใหญ่
     
    ไอ้หมอนี่มันเข้ามาได้ยังไง นี่มันงานเลี้ยงแบบไพรเวทนะ!” คนหน้าสวยทำหน้าไม่พอใจแล้วหันไปหาสตาฟ

    "ไหนว่างานนี้มีแค่พวกเราไง ใครก็เข้ามาไม่ได้ไม่ใช่เหรอครับ”
     
    “น้องคุณ เค้าคือคนที่เหมาบัตรสามแถวหน้าค่ะ” สตาฟผู้หญิงพูดอย่างเกรงๆ “คุณอ๊ก แทคยอน เค้าโทรมาจองตอนที่เราเปิดให้จองบัตรภายใน 10 นาที”
     
    “ม...เหมา? ห๊ะ???” นิชคุณตาโตแล้วหันไปมองไอ้คุณอ๊กอย่างอึ้งๆ สลับกับมองสตาฟไปมา “นี่ที่แถวว่างเพราะไอ้นี่เหรอ”
     
    “น้องคุณเบาๆหน่อย เค้า.....”
     
     
    แทคยอนเดินไปถึงที่โต๊ะของทั้งห้าคน ส่งยิ้มกวาดไปทั่วแต่สายตาจับจ้องอยู่ที่คนๆเดียวเท่านั้น คือคนที่หลบหลังนิชคุณด้วยใบหน้าเจื่อนๆ แต่ในสายตาของเขา ใบหน้านั้นดูออดอ้อนออเซาะน่ารักมุ้งมิ้งที่สุด
     
    แต่ใบหน้าน่ารักนั้นถูกบดบังไปด้วยร่างของนิชคุณอีกแล้ว แทคยอนรู้สึกหงุดหงิด ตั้งแต่บนเวทียันงานปาร์ตี้ จะบังนูนอของเขาไปถึงไหน ห๊ะ?
     
    สตาฟทั้งสามค่อยๆเลื่อนตัวออกจากโซฟาแล้วหลบฉากออกไปอย่างเกรงๆ
     
    “ข..ขอตัวนะคะ น้องคุณ จุนโฮ คุณคนนี้...”
     
     
    “นูนอครับ” แทคยอนพูดแทรกสตาฟผู้หญิงเสียงดังอย่างไม่สนใจไยดี แววตาใต้กรอบแว่นเป็นประกาย สีหน้าหื่นกระหายอย่างเห็นได้ชัด “จำผมได้มั้ย ผมแทคยอนไง”
     
    นูนออยู่ใกล้แค่เอื้อม นูนออยู่ใกล้แค่เอื้อม! นูนอแสนน่ารักที่เขาชื่นชมมาตลอด ตอนนี้เขาได้มีโอกาสเข้ามาในงานปาร์ตี้ มีโอกาสได้ใกล้ชิด มีโอกาสได้พูดคุย มีโอกาสได้กินข้าวใต้แสงเทียน
     
    ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกก แค่คิดก็เลือดกำเดาจะไหล! มีความสุขมากเกินไปแล้ว
     
     
    คนที่ถูกเรียกว่า ‘นูนอ’ เอามือเกาะไหล่นิชคุณ ทำเสียงหงิงๆอย่างน่าสงสาร คนที่เป็นเกราะกำบังให้คู่หูรุ่นน้องตัวเองใช้สายตาจิกไอ้โอตาคุร่างใหญ่ ดูซิมันจะมาไม้ไหนอีก
     
    “พี่คุณ ช่วยผมด้วย ฮืออออ” จุนโฮกระซิบเบาๆ ดวงตาคู่เล็กจดจ้องไปที่แฟนคลับนัมเบอร์วันแสนบ้าคลั่งของตัวเอง ไม่รู้ครั้งนี้เค้าจะโดนทำมิดีมิร้ายรึเปล่า ไม่ใช่คอนเสิร์ต ไม่ใช่อีเว้นท์แบบนี้ จึงไม่มีอะไรกั้นจุนโฮไว้นอกจากพี่ชายกับโต๊ะตัวเดียวเท่านั้น
     
    ชานซองที่ยืนบื้อใบ้กินมาตลอดถึงกับขมวดคิ้วเมื่อเห็นใบหน้าของไอดอลร่างเล็กคนนั้น แอบรู้สึกสงสารจับใจซะจนอยากจะพาหนีออกไปให้พ้นไอ้อ๊กตาคุบ้าคลั่งคนนี้จริงจัง...
     
    ...โอ๊ะ นั่นมันซี่โครงหมูรึเปล่าน่ะ?
     
    “แทค ฉันไปหาอะไรกินก่อนนะ, หวัดดีนะนายสองคน” ชานซองพูด ตบแขนเพื่อนดังป้าบ หันไปทักไอดอลทั้งสองคนแล้ววิ่งเหยาะๆไปที่โต๊ะที่มีอาหารวางเรียงอยู่เต็ม โอ้ววววว มีเบียร์ด้วย สวรรค์~
     
     
    “นูนอครับ” แทคยอนเรียกอีกครั้งแบบไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้นว่าชานซองจะอยู่หรือจะไป ใบหน้ายังคงมีความหวังรอคุยกับไอดอลของตัวเอง
     
    “ค...ครับ” จุนโฮตอบเสียงแผ่ว เมื่อนิชคุณเอี้ยวตัวออกจากจุนโฮให้เจ้าตัวออกมาคุยกับแทคยอน พลางกระซิบใส่หู ‘ยิ้มกว้างๆแล้วคุยกับมัน รักษาภาพพจน์หน่อย’
     
    “จำได้...จำได้ครับ” จุนโฮตอบ ใบหน้านั้นปั้นยิ้มแหยๆ
     
    แทคยอนเบิกตากว้าง นูนอจำเขาได้ นูนอจำเขาด๊ายยยยยยยย
     
    คนร่างใหญ่ถือวิสาสะนั่งปุ๊ที่โซฟาฝั่งตรงข้ามไอดอลทั้งคู่แบบไม่รอคำเชิญ และไม่ดูสีหน้าด้วยว่าเขาต้องการหรือเต็มใจจะให้นั่งร่วมโต๊ะหรือไม่
     
    นั่งได้หรือไม่ได้แทคยอนตัดสินใจเอง เขาอยากคุยกับนูนอนี่นา!
     
     
     
    “คอนเสิร์ตสนุกมากเลยนะครับ ผมชอบทุกเพลง ร้องได้ทุกเพลงเลย นูนอเห็นผมรึเปล่า”
    “เพลงมาร์ชแมลโล่น่ารักมากๆ เพลงเมจิคัลเกิร์ลก็น่ารักมากๆ”
    “นูนอยังผูกโบว์อยู่เหรอครับ น่ารักดีนะครับ อ๊ะ ไม่ต้องครับ ไม่ต้องถอดๆๆๆๆๆๆ ผมชอบ”
    “เพลง I can’t เพราะม๊ากกกกกกก ผมฟังแล้วน้ำตาจะไหล เสียงเพราะ เสียงนุ่ม เสียงทุ้มสุดๆ ชอบมากครับ!”
    “ผมซื้อของแฟนคลับของนูนอหมดเลยนะครับ เห็นแว่นผมมั้ย เห็นเสื้อผมมั้ย”
     
    แทคยอนพูดปาวๆ สาธยายไปเรื่อยๆ สายตาจดจ้องอยู่เพียงแค่อิจนูนอแสนน่ารักที่พยักหน้าหงึกหงัก บ้างก็ตอบรับเบาๆ บ้างก็ยิ้มรับแล้วพูดขอบคุณ
     
     
    อู๊ยยยยยยยยย อะไรจะน่ารักขนาดนี้นะนูนอของอ๊ก แทคยอน TvT
     
    ดูสิ ตอนคุยด้วยก็ยิ้ม ทำปากมุบมิบ เอียงคอน้อยๆ หัวเราะเบาๆ โอ๊ยยยยยย อยากจะกัดลิ้นตายตรงนี้ 
     
     
    ผ่านไป 15 นาทีที่แทคยอนพูดฉอดๆชมนูนอว่าน่ารักอย่างนั้นน่ารักอย่างนี้ เสียงดีอย่างนั้น เต้นเก่งอย่างนี้ ชมไม่หยุดหย่อนโดยข้ามหน้าข้ามตานิชคุณที่นั่งทำหน้ามู่ทู่อยู่ข้างๆอย่างจงใจ แรกๆนิชคุณก็หัวเราะไปด้วย แต่เมื่อโดนสายตาแทคยอนที่มองเหมือนกับเขาเป็นส่วนเกินระหว่างเจ้าตัวกับนูนอ เลยหุบปากเงียบ ทำหน้าบึ้งและจะลุกออกจากโต๊ะตั้งหลายครั้ง
     
    ถ้าไม่ใช่เพราะจุนโฮเกาะแขนเขาไว้นะ เขาไปตั้งนานแล้ว ไอ้แฟนคลับไร้มารยาท 
     
    พูดกับจุนโฮต่อยหอยฉอดๆๆๆๆๆๆๆ แต่พอนิชคุณอ้าปากจะพูดบ้างกลับมองเขาแบบนั้นซะได้ ไร้มารยาทที่สุด ไร้มารยาทตลอดเวลา!
     
     
    “เอ่อ... ฉันไปหาเครื่องดื่มละนะ นายเอาอะไรมั้ยจุนโฮ” นิชคุณพูดเมื่อผ่านไปอีกสิบนาทีของการพร่ำเพ้อ และชมชมนูนอที่ดูเหมือนจะไม่จบไม่สิ้นซักที
     
    แต่จุนโฮรั้งแขนรุ่นพี่ พร้อมกับส่งสายตาขอร้องที่ดูเหมือนจะร้องไห้เต็มประดา
     
    “ผมไปเอาให้นะพี่คุณนะ นะ นะ พี่คุณนั่งอยู่นี่เถอะนะ ขอร้องนะ”
     
    “หา?”
     
    แทคยอนลุกขึ้นยืน “ผมไปเป็นเพื่อนนะครับนูนอ!”
     
    “ม...ไม่เป็นไรครับ คุณแทคยอนนั่งเถอะนะ น๊า...” จุนโฮพูด บีบเสียงเล็กน่ารักแล้วส่งยิ้มให้ “นั่งเป็นเพื่อนพี่คุณก่อนนะครับ เดี๋ยวผมไปหยิบเครื่องดื่มให้คุณแทคยอนด้วย" 
     
     
    โอวววววววววววววว นูนอแสนน่ารัก เป็นห่วงเป็นใยแทคยอนขนาดนั้น
     
    แถมยังเป็นห่วงไอ้เจ้านิชคุณด้วย จิตใจดีงาม นูนอแสนดีของผม ยอมเดินไปเอาเครื่องดื่มให้ผมและนิชคุณ
     
    เอาใจกันขนาดนี้จะไม่หลงรักได้ไง น่ารักสุดยอด รักรักรักรัก!
     
    เมื่อแทคยอนพยักหน้า จุนโฮก็รีบวิ่งตื๋อออกไปจากโต๊ะ หายเข้าไปในกลุ่มสตาฟและทีมงานที่กำลังพูดคุยและสนุกสนานกับงานปาร์ตี้ คนร่างใหญ่ชะเง้อคอมองตาม เห็นจุนโฮแว้บๆ กำลังเดินไปทางชานซองที่กินเอาๆอยู่ตรงมุมอาหาร คนตัวเล็กหยิบเครื่องดื่มกรอกใส่ปากหลายอึก ก่อนที่กลุ่มคนในห้องจะบังจนเขามองไม่เห็น
     
    แทคยอนถอนหายใจ หันหน้ากลับมาแล้วนั่งนิ่งเงียบมองไปเรื่อยเปื่อย จงใจละเลยสายตานิชคุณที่จ้องมาอย่างเห็นได้ชัด
     
     
    “นี่.. นายแทคยอน” คนหน้าสวยเรียก
     
    “หือ ครับ?”
     
    ชวนเขาคุยทำไมฮึ เขากำลังจินตนาการอยู่ว่าจะคุยอะไรกับนูนอต่อดี ชิชะ
    เรียกนายแทคยอนอีกด้วยนะ ไร้หางเสียง ไม่มีมารยาทเล้ยไอดอลอะไร สู้นูนอก็ไม่ได้
     
    “จริงเหรอที่นายซื้อบัตรคอนเสิร์ตสามแถวแรก”
     
    แทคยอนพยักหน้า “ฮื่อ”
     
    นิชคุณรู้สึกเดือดปุดๆกับกิริยาตอบสนองของไอ้คนตรงหน้าที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเมื่อคุยกับเขา สตาฟคนนึงถือขวดเหล้าเดินผ่านมา เขาจึงคว้าไว้แล้วกรอกใส่ปากหลายอึกอย่างหงุดหงิด คนที่ถือขวดมารวมถึงแทคยอนเบิกตากว้าง 
     
     
    ยี้ นิชคุณกินเหล้า!
     
     
    “ซื้อซะขนาดนั้นทำไมไม่เอาไปแจกใครล่ะ ปล่อยให้แถวโล่งทำไม”
     
    คนร่างใหญ่ทำปากจู๋ เกาคางแกรกๆ “ก็ผมไม่ชอบให้ใครมาเบียด แล้วก็ถ้ามีคนอยู่แถวหน้าหมด นูนอก็มองไม่เห็นผมสิครับ”
     
    ตอบหน้าตายไร้มารยาท พูดอยู่ได้ นูนอๆๆๆๆๆๆๆ ไอ้บ้าเอ้ย! 
     
    นิชคุณกรอกเหล้าเข้าปากอีกสามอึกใหญ่แล้วลุกขึ้น เอามือตบโต๊ะดังปัง ยกมือชี้หน้าคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม
     
    “นายรู้มั้ยว่าพวกฉันเครียดกันแค่ไหนที่เห็นที่นั่งว่างน่ะ ห๊า! มีสมองบ้างรึเปล่าไอ้หัวขวด!!!!!!”

    คนหน้าสวยระเบิดอารมณ์แบบไม่รักษาหน้าความเป็นไอดอล
     
    “รู้มั้ยว่าตอนร้องเพลงแล้วเห็นแถวโล่งๆแบบนั้นมันรู้สึกแย่แค่ไหน รู้มั้ยว่ามีคนกี่ร้อยคนที่อยากเข้ามาดูแต่ก็อดดูเพราะนายน่ะ เหมาบัตรแบบนั้นใครเค้าจะดีใจกันเล่า ไอ้หัวขวดสมองกลวง!”
     
     
    ทีมงานที่อยู่รอบข้างหันมามองคนทั้งคู่เป็นตาเดียว จริงๆแล้วก็พอจะรู้กันอยู่ว่านิชคุณตัวจริงเป็นคนอารมณ์ร้อน ปากไว แต่เป็นห่วงภาพพจน์ตัวเองมากๆ ถ้าอยู่ต่อหน้าคนอื่นที่ไม่ใช่ทีมงาน เขาจะเป็นคนที่เพอร์เฟค เรียบร้อยและมีภาพลักษณ์ที่ดีสุดๆ
     
    แล้วนี่นิชคุณมาวีนแตกต่อหน้าแฟนคลับนัมเบอร์วันของวงเนี่ยนะ?
     
    แต่แล้วสายตาของทีมงานก็เหลือบไปเห็นขวดเหล้าบนโต๊ะ..
     
     
     
    “ใครเอาเหล้าให้นิชคุณดื่มยะ น้องคุณเค้าคออ่อน ไอ้พวกบ้า!!!!!!” เสียงสตาฟคนหนึ่งแว้ดลั่น
     
     
     
    ไอดอลอันดับต้นๆอย่างนิชคุณ หรเวชกุลคออ่อน! (แน่นอนแทคยอนไม่รู้ เพราะเค้าไม่สนใจ) ยี้ แล้วมากระดกเหล้าแบบนี้ โหหหหหหห ไอดอลอะไร ไม่ได้เรื่องๆ
     
    แทคยอนลุกขึ้น จะหนีคนขี้เมาขี้วีน แต่ไอดอลขี้วีนกลับเดินมาประชิดตัวแล้วคว้าคอเสื้อสีเหลืองของคนตรงหน้าไว้แน่น ลมหายใจมีกลิ่นแอลกอฮอลล์เหม็นหึ่งจนแทคยอนต้องย่นจมูก
     
    “นายทำแบบนี้มันบ้า บ้า บ้า บ้าที่สุด รู้มั้ย ห๊า!!!”
    “ไอ้คนสมองถั่ว สมองกลวง ใช้เงินเหมือนเด็ดใบไม้ ไอ้บ้า!”
    “ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับนายที่ไร้มารยาทกับฉันตลอดเวลานะไอ้แทคยอน ฉันเห็นนะ เห็นหมดแหละ ไอ้คนไร้มารยาท!”

    นิชคุณยังคงด่าฉอดๆแว้ดๆด้วยเสียงป้อแป้ และจะด่าสวนถ้าใครเข้ามายุ่ง (ทีมงานที่เข้ามา หวังจะช่วยดึงไอดอลที่กำลังเมา โดนด่ากลับดังลั่นว่า ‘อย่าเสร่อได้มั้ย!’) แทคยอนมองคนหน้าสวยแบบงงๆในความคออ่อนขั้นรุนแรง ดื่มแค่ไม่กี่อึกก็เมาได้ภายในหนึ่งนาที เมาแล้วอาละวาด โวยวาย ...เหลือจะทนเหอะ
     
    จุนโฮวิ่งมาทางคนทั้งคู่ ในมือถือขวดเบียร์และโค้ก กะว่าจะเอามาให้พี่คุณ ...แล้วทำไมเมาเป๋แบบนี้ล่ะ
     
    แทคยอนหันไปเห็นคนตัวเล็กที่เดินมาทางนี้ก็ฉีกยิ้มกว้าง พยายามผลักนิชคุณออก แต่คนที่ดึงคอเสื้อเขาไว้ก็แว้ดลั่น
     
    “นายจะไปไหน ฉันยังด่าไม่จบนะ!” 
     
     
    ชานซองเห็นทีมงานมายืนมองอะไรกัน จึงเดินทั้งที่เคี้ยวอาหารตุ้ยๆอยู่ในปากมายืนอยู่ข้างจุนโฮ มองไอดอลขี้เมากับเพื่อนร่างใหญ่ของตัวเองที่ด่ากันฉอดๆแบบงงๆ หายไปแป๊บเดียว ไอ้นิชคุณเมาเละเลยนะน่ะ แล้วอะไร? ทำไมคนทั้งคู่ยืนนัวเนียด่ากันไปมาแบบนั้น?
     
    แหม่ะ ยืนกอดกันตรงนี้เนี่ยนะไอ้แทค บัดสีบัดเถลิง คึคึ
     
    คนร่างสูงหันไปมองจุนโฮแล้วยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดีเพราะกินอิ่มหนำสำราญเต็มท้อง ยื่นมือไปหยิบเบียร์ในมือไอดอลร่างเล็กที่อยู่ข้างๆ
     
    “ขอนะ”
     
    จุนโฮพยักหน้า กะพริบตาปริบๆมองชานซองที่กระดกเบียร์ลงคอ แล้วมองลงมาที่เสื้อสีเหลืองลายชื่อตัวเองที่คนตรงหน้าใส่อยู่
     
    คนร่างเล็กยกขวดโค้กในมือขึ้นจิบเพื่อปิดรอยยิ้มบางๆของตัวเอง ไม่อยากให้ใครเห็น
     
     
     
     
     
    แต่ไอ้ตี๋ที่เป็นแขกพิเศษของไอดอลอีกคนในงานปาร์ตี้นี้น่ะเห็น..
     
     
    ห่างจากโต๊ะที่นิชคุณนั่งไปสามตัว อูยองกับกลุ่มทีมงานและแจบอม ผู้เป็นทั้งแฟนคลับและแฟนตัวจริงของอูยองนั่งอยู่ด้วย
     
    ใช่แล้ว แจบอมที่ใส่ที่คาดผม ‘JAY LOVE WY’ ที่ชานซองอ่านว่าคุณวี้น่ะแหละ
     
    ไม่ใช่แฟนหรอก แต่แจบอมจะคิดแบบนั้นใครจะทำไม? คิดข้างเดียวมันหนักหัวใคร?
     
    เขาเป็นแฟนคลับคนแรกที่ติดตามมาตลอดเวลาปีกว่าๆที่ผ่านมา ตามจนรู้จัก ตามจนสนิท ขนาดที่ว่าอูยองไปไหนก็ต้องมีแจบอมตามไปดูทุกครั้ง ตามจนเป็นเหมือนหัวหน้ากลุ่มแฟนคลับซะอย่างนั้น งานไหนที่ไม่ได้ซื้อบัตรด้วยตัวเองอูยองก็เอาบัตรมาให้ สนิทแค่ไหนล่ะเห็นมั้ย!?
     
    “อูด้ง ดูรอยยิ้มนูนอดิ” แจบอมกระซิบข้างหูไอดอล เรียกชื่อเล่นอย่างสนิทสนม
     
    อูยองเลิกคิ้ว เอียงตัวเบียดคนร่างเล็ก ชะเง้อคอไปมองจุนโฮที่ยืนก้มหน้างุดอยู่ตรงกลุ่มวุ่นวายนั่น ไอ้คนใส่เสื้อสีเหลืองตัวใหญ่ๆยังคงทะเลาะกับคนหน้าสวยไม่เลิก (พูดว่านิชคุณที่เป็นฝ่ายทะเลาะแว้ดๆหาเรื่องอยู่ฝ่ายเดียวน่าจะถูกกว่า)
     
    ซุปเปอร์สตาร์ของค่ายดึงตัวกลับ หันไปยิ้มให้คนตัวเล็กๆที่ทำหน้าหาเรื่องอยู่แล้วยิ้ม “ไม่เห็นจะมีอะไรเลย”
     
    “นายน่ะไม่ได้เรื่องเลย” แจบอมพูดเสียงกระชาก “นูนอมันยิ้มแบบนั้น มันชอบไอ้หมีตัวใหญ่ๆเหลืองๆที่อยู่ข้างๆชัดๆ ไม่เห็นเหรอ”
     
    “เพ้อเจ้อว่ะพี่เจย์ นูนอเนี่ยนะ?” อูยองหัวเราะน้อยๆ เรียกชื่อเล่นของคนที่เจ๋อเรื่องชาวบ้านแล้วเอามือจิ้มแก้ม
     
    “ฉันบอกว่าอย่าทำกับฉันแบบนี้ไงเล่า” แจบอมเอนตัวหนีนิ้วป้อมๆของคนข้างตัว หยิบเบียร์ขึ้นมาจิบอย่างหงุดหงิด
     
     
    อูยองก็แบบนี้ทุกครั้งแหละ ไม่เคยรู้อะไรเล้ย ซื่อบื้อ อ่านสายตาและท่าทางคนอื่นไม่ออก แม้กระทั่งสายตาของแจบอมเองก็เถอะ ...อยู่กันมาตั้งนาน เมื่อไหร่จะรู้ซักทีว่าฉันคิดมากกว่าเป็นแค่แฟนคลับวะ
     
    ก็ได้แค่คิด ได้แค่บ่นในใจ เพราะเรียกร้องอะไรไม่ได้ อูยองเป็นไอดอลอันดับหนึ่งของค่าย และเป็นไอดอลที่มีชื่อเสียงที่สุดในปัจจุบัน เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะทำอะไรต้องระวังภาพพจน์ตลอดเวลา อยู่กับแจบอมยังต้องยิ้มแบบไอดอลเลย เฮอะ 
     
     
    จะรวบหัวรวบหางบอกให้เป็นแฟนกันเถอะมันก็ทำไม่ได้ โอ๊ยยยย เบื่อว้อย!
     
     
    แจบอมทำจมูกฟุดฟิด ปากบ่นขมุบขมิบแล้วชะเง้อหน้าไปมองกลุ่มคนตรงนั้นด้วยอาการอยากรู้อยากเห็นอีกครั้ง เห็นไอดอลรุ่นน้องของอูยองที่กำลังโหวกเหวกโวยวายด้วยความเมา ตะโกนแว้ดๆหาเรื่องคนร่างใหญ่บ้าๆคนนั้นไม่จบไม่สิ้น
    เขาหรี่ตามอง ย่นจมูกอย่างหมั่นไส้
     
     
    นิชคุณแม่งลำยองว่ะ... 
     
     
     
     
     
    แทคยอนจับมือทั้งสองข้างของนิชคุณ พยายามแงะมือคู่นั้นออกจากคอเสื้อตัวเองแต่ก็ไม่เป็นผล ไอ้ไอดอลคนสวยแต่บ้าพลังนี่แรงเยอะมาก แล้วก็ปากจัดมาก...
     
    “ชานซอง ช่วยทีดิ้!”
     
    “ไม่ต้องมายุ่งเลยชานซองงงงงง ปายยย ไม่ต้องยุ่ง” คนหน้าสวยแว้ดลั่น หันไปจิกตาให้ สะบัดหน้ามามองคนร่างใหญ่อีกครั้ง
     
    “นายน่ะนะ ไม่สนใจฉันเลย ฉันมันไม่ดีตรงไหนฮื้อออ ฉันมันไม่น่ารักรึไง” นิชคุณพูดด้วยน้ำเสียงกระซิบ แต่ยังคงไร้สติเพราะแอลกอฮอลล์ “ทำไมไม่มีใครชอบฉันเลยล่ะ ทำไมล่ะ..”
     
    “สตาฟเองก็ยังชอบนูนอมากกว่าชั้นนนน ใครๆก็.. ชอบจุนโฮ ชอบนูนอออ”
     
     
    แทคยอนก้มมองใบหน้าสวยที่หยุดโวยวายแล้วเริ่มตัดพ้อ อาการของคนตรงหน้าเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือจนเขาเองก็รับไม่ถูก มือคู่นั้นก็ยังคงขยุ้มคอเสื้อเขาไว้ 
     
    “เอ่อ...”
     
    “นายน่ะ ไอ้อ๊กตาคุ!” นิชคุณตะโกนลั่นอีกครั้งจนใบหน้าคนที่อยู่ใกล้ๆถึงกับหงายเงิบ
     
    แสบแก้วหูที่สุดในโลก นิชคุณแม่งงงงงง ถ้าหูของท่านแทคยอนหนวกไปใครจะรับผิดชอบวะ?
     
     
    คนเมาเงยหน้ามอง ประสานสายตากับคนที่ทำจมูกย่นอย่างไม่ชอบใจ แต่คนที่ถูกคนเมารั้งไว้ต้องงงอีกครั้ง
     
    ก็ดวงตากลมโตคู่นั้นมีน้ำตาคลอเบ้าอยู่น่ะสิ...
     
    “นายน่ะ... ชอบนูนอมากกว่าฉันใช่มั้ยล่ะ” นิชคุณพูดเสียงเบาอีกครั้ง “ไม่สนใจฉันเลย ตลอดเลย....”
     
    “ไม่มีใครชอบฉันจริงๆอยู่แล้วนี่ ฮืออออ”
     
     
    พูดได้เท่านั้น คนหน้าสวยก็ฟุบลงไปกับอกคนร่างใหญ่ที่คว้าตัวไว้ทันก่อนร่างนั้นจะลงไปกองกับพื้น แทคยอนมองเห็นได้เพียงเท่านั้น ทีมงานที่เหมือนจะรอคอยเวลานี้อยู่รีบเข้ามาพยุงนิชคุณให้ลุกขึ้นและพาออกไป

    แต่ก่อนจะลากตัวออกจากตรงนั้น นิชคุณได้สติขึ้นมาอีกรอบและ..

    อ้วกใส่รองเท้าของแทคยอนเข้าเต็มรัก
    ....แล้วก็หลับไปอีกรอบ

    "บรรลัยแล้ว!!!!"

    ชานซองหัวเราะก๊ากท่ามกลางสตาฟที่พยายามปลุกนิชคุณขึ้นมาขอโทษ หากแต่คนคออ่อนนั้นไม่มีท่าทีจะตื่นขึ้นเลย
     
    สตาฟผู้หญิงผมสั้นโค้งขอโทษขอโพยแทคยอนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซะยกใหญ่ ซึ่งเขาก็รับฟังอย่างใจเย็นพอใช้ ฟังไปก็สะบัดเท้าที่เปื้อนอ้วกของไอดอลคนเมื่อครู่อย่างขยะแขยง ดีที่ไม่ได้โดนเยอะอะไร แต่มันก็เหม็นอ้ะ!!
     
    แล้วนี่นิชคุณหน้าตาก็ดี เพอร์เฟคแบบนี้ทำไมขี้น้อยใจจังหว่า?
    แค่มีแฟนบอยไม่ชอบตัวเองก็ถึงกับร้องไห้เลยเหรอ?
     
    แทคยอนทำหน้ามุ่ย ก็คนมันชอบนูนออ้ะ! จะให้ทำยังไงเล่า
    แล้วยังมาอ้วกทิ้งไว้อีก ใครจะชอบล๊งงงงงงง!!!
     
     
    สตาฟสาวเห็นคนร่างใหญ่ชักสีหน้า รีบพูดตะกุกตะกักว่า “ค...คุณแทคยอนคะ ฉันขอโทษจริงๆ อย่าเอาเรื่องน้องคุณเลยนะ ทางบริษัทจะชดใช้ค่าเสียหายให้เองค่ะ”

    "ไม่เป็นไร ผมมีเงิน" 
     
    แทคยอนตอบส่งๆไปแบบไม่ได้สนใจฟัง ยังคงนึกใบหน้านิชคุณตอนที่ด่าและร้องไห้สลับไปมา
     
    “ตอนนี้ฉันไล่สตาฟคนที่เอาเหล้าให้น้องคุณดื่มออกไปแล้ว ถ้าน้องคุณสร่างเมาแล้วจะให้ไปขอโทษคุณอีกทีค่ะ”
     
    จุนโฮเห็นว่าท่าไม่ดีจึงเดินเข้ามาโค้งให้อีกคน “ผมขอโทษแทนพี่คุณด้วยนะครับ ถ้าพี่คุณไม่เมาคงไม่ทำแบบนี้จริงๆนะ”
     
    คนร่างใหญ่ที่อยู่ในภวังค์ถูกดึงกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงได้ เพียงแค่ได้ยินเสียงนูนอเท่านั้น
     
    คนอะไร น่ารักที่สวด! ขอโทษแทนคนขี้เมาคนนั้นได้อย่างสุภาพน่าร๊าก แทคยอนละปลื้มจริงๆ
    น่ารักแบบนี้ ต่อให้มีเรื่องร้ายแรงกว่าโดนไอดอลล็อกคอหรืออ้วกใส่ แทคยอนก็ยอมครับ แค่ให้นูนอมาพูดจาน่ารักๆแบบนี้กับเขาก็พอ
     
     
     
    แต่คำพูดของสตาฟหญิงเมื่อครู่ก็สะกิดความคิดอะไรบางอย่างได้... 
     
    “เอ่อ สตาฟขาดไปหนึ่งคนใช่มั้ย?” แทคยอนถามเสียงเรียบๆแบบวางมาดในสภาพที่เท่าจะทำได้ ทั้งที่ยังสวมแว่นสีเหลืองและชุดลายไอเลิฟนูนอ อีกทั้งรองเท้าก็มีคราบอ้วกติดอยู่
     
    “ค...ค่ะ ฉันไล่เค้าออกไปแล้ว ตอนนี้เลยขาดไปคนนึง” สตาฟทำเสียงหวาดๆ "ค...คุณแทคยอนถามทำไมคะ อย่าเอาเรื่องเขาเลยนะคะ"
     
    คนร่างสูงกระตุกยิ้ม ยิ้มเยือกเย็นแบบผู้บริหารเมื่อเจรจาธุรกิจสำเร็จ
     
    “ผมจะไม่เอาเรื่องวันนี้ ถ้าคุณรับชานซองเพื่อนผมเข้าทำงานแทน”
     
     
    ชานซองที่ยืนส่ายหัวดิกๆไปตามเพลงพลางจิบเบียร์ในมือถึงกับพ่นของเหลวออกมาดังพรวด แอลกอฮอล์ที่ถูกพ่นออกมาโดนหลังจุนโฮซะส่วนนึง คนถูกพ่นถึงกับร้องยี้ หันไปมองชานซองแล้วเบะปากใส่ ก่อนที่จะเดินลงส้นตึงๆไปห้องน้ำ
     
    คนร่างสูงไม่ใส่ใจคนร่างเล็กคนนั้น แต่สนใจไอ้โอตาคุตัวใหญ่ที่พูดจาพล่อยๆแบบเผด็จการอีกแล้ว เขาสาวเท้าเข้าไปประชิดตัวเพื่อนแล้วกระซิบแง่งๆ
     
    “แทค จะบ้าเหรอวะ ใครบอกฉันจะทำงานเป็นสตาฟ”
     
     
    แทคยอนหันมามอง ดวงตาจริงจังเมื่อครู่เป็นประกาย
    ..แววตาแบบนี้อีกแล้ว
     
    คนร่างใหญ่ฉีกยิ้มกว้างแบบที่ชานซองเคยบอกให้เลิกทำ รอยยิ้มที่ทำให้หน้ามันเหี่ยวเร็วและเจ้าเล่ห์แบบนั้น...
     
     
    “ไหนๆแกตกงานไม่ใช่เหรอ ก็ทำงานที่นี่ไปดิ” แทคยอนพูดยิ้มๆด้วยเสียงที่พอให้ชานซองได้ยินคนเดียว
     
     
    “ทีนี้แกทำงานที่นี่นะ ฉันจะได้มีข้ออ้างมาหานูนอได้ แล้วนายก็จะได้เอาของฝากของฉันมาให้นูนอด้วยไง๊! แกได้งานได้เงิน ฉันได้หัวใจนูนอ โป๊ะเช๊ะ!”

     
    คนฟังถึงกับกลอกตา ตลอด..ตล๊อดดดดด
     
    ใช้ชานซองเป็นเครื่องมือได้ตลอด ใครขอร้องว่าอยากเป็นสตาฟวะ???
     
    ไม่เอา ชานซองไม่อยากเป็นสตาฟ ชานซองอยากเกาะไอ้แทคกินไปเรื่อยๆนี่นา!
     
     
     
    แต่พอเห็นจุนโฮที่หายไปล้างเนื้อล้างตัวในห้องน้ำเพิ่งเดินออกมา เอามือขยับโบว์บนหัวดุกดิกๆ คนร่างสูงก็กะพริบตาปริบๆเหมือนเพิ่งคิดได้
     
    การเป็นสตาฟนี่คือคอยดูแลไอดอลใช่ป่ะ? ดูแลคุณ-นูนอสองคนนี้ใช่ปะ?
     
    ถ้าอย่างนั้น... มันก็... น่าสนใจดีนะ


    - to be continued -
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×