ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Romeo&Juliet รักวุ่นวายระหว่างนายกับฉัน

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่1 Romeo VS Juliet

    • อัปเดตล่าสุด 8 ต.ค. 52


              สวัสดีทุกท่าน ฉัน นางสาวละอองดาว รัตนชาติ ขอยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่นวนิยายบ้าๆบ๊องๆแห่งนี้ เฮ้อ พูดยังกะจะไปออกรายงานข่าวที่ไหนเลยฉัน

    สวัสดีค่า ฉันชื่อนางสาวละอองดาว รัตนชาติ อายุ 15 ปี อยู่ชั้น ม.3 ค่ะ ชื่อเล่นของฉันคือ...

    คือ...

    คือ...

    (บอกซะทีเหอะ : ผู้แต่ง)

    ค่าๆ ไม่เล่นแล้วก็ได้ ฉันชื่อ เฌอแตม ค่ะ มีเรือนผมสำดำสนิทราวกับปีกกา ยาวถึงเอว (ยาวมากใช่มั้ยล่า ฉันเลี้ยงผมของฉันมานานมากเลยล่ะ)ดวงตากลมโตดูบ๊องแบ๊วสีน้ำตาลช็อคโกแลต ผิวของฉันจัดอยู่ในพวกผิวขาวนุ่มเนียนแม้ว่าจะไม่ขาวเว่อร์ๆขนาดสโนว์ไวท์ สูง168 cm

    ฉันมีเพื่อนสนิทสุดรักสุดเลิฟอยู่คนหนึ่งชื่อ แอร์ หรือ นางสาวอริสา รุ่งโรจน์ แอร์มีผมสีน้ำตาลออกทอง ซึ่ง เป็นสีธรรมชาติตั้งแต่เกิดที่ยัยแอร์ไม่ได้ไปปรุงแต่งสีใดๆเลย ผมสั้นประมาณบ่า ซอยแรงมั่กมาก สไตล์เด็กห้าว ฉันล่ะอิจฉาแอร์โคตรๆเลยนะ เพราะดวงตาของแอร์น่ะ มีเสน่ห์มากๆ ดวงตากลมโตสุกสว่างราวกับดวงดาวที่ส่องสกาวบนนภายามค่ำคืน... เห้ย!!! ฉันจะกลายเป็นนักกวีแล้วนะเนี่ย ไม่ได้ๆ กลับๆ สติจงกลับมา เพี้ยง...

    เอาล่ะ ต่อๆ ดวงตาของแอร์จะมีสีน้ำตาล ซึ่งดูเผินๆก็เหมือนดวงตาคนธรรมดาทั่วไป หากแต่จ้องดีๆแล้วไม่ แอร์ไม่ได้มีแค่ดวงตาสีน้ำตาล แต่สีของนัยน์ตาของแอร์นั้น มีเหมือนกับกากเพชรประกายอยู่เต็มไปหมด ฉันเคยเห็นตอนนึงนะที่แอร์ถูดบังคับให้แต่งหน้าแล้วใส่กระโปรงซึ่งแอร์ไม่ชอบ ปรากฏว่า สวยม้าก..มากเลย

    แม้ว่าหน้าจะบึ้งแต่ดวงตาก็ยังมีประกายเพชร แก้มขาวๆของแอร์ถูกปกปิดด้วยเครื่องสำอาง แก้มอมชมพู ดวงตาดูมีเสน่ห์ขึ้นเมื่อใช้มาสคาร่าสีดำปัดขนตา แอร์ดูมีเสน่ห์เวลาอยู่กับพวกฝูงนกฝูงกาฝูงกิ้งกือฝูงไส้เดือนทั้งหลาย แต่เมื่อมาเทียบกับฉันแล้ว โฮ่ๆ ความสวยสูสีค่า
    ฉันไม่ได้หลงตัวเองนะ ก็คนเขาพูดแบบนี้กันมาจริงๆนี่นา แม้ว่าดวงตาของฉันจะไม่มีประกายเพชรแบบแอร์ แต่ว่าตาฉันคมน่ะ แบบว่าพอมองคนด้วยหางตาทีไร แต่ละคนจะเสียวสันหลังวาบทันที ด้วยเหตุนี้เอง ฉันจึงเป็นหมาป่าผู้โดดเดี่ยวอยู่เสมอเวลาอยู่โรงเรียน

    ทุกท่านคงจะสงสัย ทำไมฉันจึงอยู่คนเดียวที่โรงเรียน แอร์หายไปไหน คำตอบคือ แอร์ไม่ได้อยู่โรงเรียนเดียวกับฉันค่ะ แล้วฉันรู้จักแอร์ได้ไงน่ะเหรอ
    จริงอยู่ ม ต้นฉันกับแอร์อยู่คนละโรงเรียนกัน แต่ ประถม1-6 เราอยู่โรงเรียนเดียวกัน
    แล้วจะไปหามาสู่กันยังไง คำตอบ ก็นัดเจอกันสิ ฉันชอบไปบ้านแอร์ ขณะเดียวกัน แอร์เองก็ชอบมาบ้านฉันเช่นกัน
    ฉันกะว่า ปีนี้จบแล้วจะย้ายโรงเรียนไปอยู่กับแอร์ซะที ฉันอยู่โรงเรียน Anna private school ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า โรงเรียนเอกชนอันนา - -
    ภาษาอังกฤษดูหรูใช่มั้ยล่ะ พอแปลเป็นภาษาไทยแล้วเน่าสิ้นดี

    เออ... ฉันพูดถึงเรื่องไหนแล้วล่ะ อ้อ! ถึงตอนที่ ฉันเป็นหมาป่าผู้โดดเดี่ยว เนื่องจากดวงตาอันแสนคมของฉันแล้ว นิสัย ที่ไม่ชอบสุงสิงกับใครก็ยังเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่เพื่อนไม่กล้าเข้าใกล้ฉันเช่นกัน แต่ใครจะรู้ แม้ว่าฉันจะมีนิสัยแบบนี้ แต่ใจฉันก็รักการแสดงไม่ใช่น้อยนะ ฉันจึงเลือกที่จะเข้าชมรมการแสดงไงล่ะ

    Anna private school เป็นโรงเรียนที่แมวมองจะหาหมายตามองไม่ เหตุเพราะ พวกเศษรากหญ้ามันเยอะ แม้ว่าจะเป็นโรงเรียนเอกชน แม้ว่านักเรียนที่นี่จะเป็นคนรวยทุกคน แต่ว่า พวกหน้าตาดีๆอย่างฉันน่ะ มีแทบจะนับคนได้ทีเดียว

    แล้วพวกหน้าตาดีๆอย่างนั้นน่ะนะ ก็จะได้รับฉายาจากพวกกรวดทรายอย่างฉันนี่ไง มีคนแอบชื่นชมฉันอย่างลับๆ(ถ้าฉันไม่ได้คิดไปเอง) และฉายาอันน่าภูมิใจ(ตรงไหน)ของฉันก็คือ

    เจ้าแม่!!!

    ใครอิจฉามั่งล่ะ ฉายาหรูๆแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆนะยะ ชิ อยากจะรู้จริงๆ ใครมันเป็นคนคิดฉายานี้ให้ฉันนะ แม่จะเอามีดเฉาะหัวให้ตายคามือเลยคอยดู (หมายเหตุ : ได้แต่คิดอยู่ในใจ)

              วันนี้เป็นวันศุกร์ วันสุดท้ายของสัปดาห์ที่ได้เรียนที่โรงเรียนหากไม่ได้สะเหร่อไปสมัครเรียนพิเศษกวดวิชาบ้าบอที่ไม่เห็นได้ความที่อื่น จะไปเรียนทำไม้ กวดวิชงกวดวิชาบ้าบอนั่นน่ะ เรียนไปก็ไม่เห็นได้เรื่อง สู้นอนตีพุงอยู่บ้านสบายใจเฉิบดีกว่า เพราะเรียนไปการเรียนก็ไม่ดีขึ้นสักนิด บางคนก็หาข้ออ้างไปเรียน แต่จริงๆก็แอบดอดไปเดินเล่นแถวสยามกับเพื่อน เห็นมีกันกลาดเกลื่อน เปลืองเงินพ่อแม่โว้ย...

              ฉันเดินไปโรงอาหารเพียงลำพัง แต่ไหนแต่ไรฉันก็ไปคนเดียวอยู่แล้ว ตั้งแต่ม 1 ยัน ม3 แม้ว่าบางคนจะเข้ามาทำความรู้จักกับฉัน แต่พอฉันเหลือบมองด้วยหางตาเท่านั้น แทบจะวิ่งหนีหางจุกตูดไม่ทันแล้ว วันนี้โรงอาหารก็เนืองแน่นไปด้วยผู้คนเช่นเคย พวกกราวดทราย พวกเจ้าหญิงเจ้าชายก็เดินมาปะปนกัน บางคนเชิดใส่กัน บางคนสนิทกันถึงขั้นด่าพ่อล้อแม่ เรียกชื่อพ่อแม่แทนชื่อเพื่อน ตบหัวเล่นกันได้ บางคนก็ดูติ๋มๆหงิมๆ
    ทั้งหมดก็ปะปนกันที่โรงอาหารแห่งเดียว
    ฉันเดินมาแลกคูปองก่อนแล้วจากนั้นก็เดินไปซื้อข้าวราดแกง
    ซื้อเสร็จก็เดินมาหาที่นั่งตามประสาคนไม่มีเพื่อนจองให้ พอหาที่ได้แล้วฉันก็นั่งจุ๊มปุ๊กลงตรงนั้น ใกล้ๆที่เก็บจาน
    ฉันนั่งกินไปเรื่อยๆ พลางมองผู้คนในโรงอาหาร
    บ้างเดิน บ้างวิ่ง บ้างคุยกันเสียงโหวกเหวก บ้างคุยกับเพศตรงข้าม บ้างก็จีบกัน บ้างก็คุยโทรศัพท์มือถือ

              ฉันกินข้าวหมดโดยที่เหตุการณ์ยังคงปกติ เอาล่ะ ไปเก็บจานดีกว่า
    ฉันลุกขึ้นจากโต๊ะ แล้วก็ตรงดิ่งไปที่เก็นจาน กวาดเศษอาหารลงถังแล้วก็วางจานลง จากนั้นก็เดินไปสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ฉันชอบมากที่สุด หลังตึกเรียน สถานที่ที่เงียบสงบ ไม่ค่อยมีคนไปเพราะแดดร้อน ฮุฮุ พวกที่ไม่มาน่ะ ไม่รู้หรอกว่าที่นั่นน่ะมีสถานที่ที่เยี่ยมยอดที่สุดเลยล่ะ ข้างหลังพุ่มไม้แห่งหนึ่งที่ฉันค้นพบโดยบังเอิญ
    คิดได้ดังนั้นก็เดินไปหลังตึก ทว่า ขณะนั้นเอง

    โครม!!!

    อู๊ยยยยยย ใครวะเนี่ย หนอย ชนคนอย่างเจ้าแม่เฌอแตมด้ายยย มันไม่รู้จักที่ตายเสียซะแล้วววว...
    "โอ๊ย ชนคนล้มแล้วยังไม่ขอโทษอีกเรอะ"

    ฉันบ่นออกมาดังๆแล้วค่อยๆพยุงตัวขึ้นแล้วเงยหน้ามองคู่กรณีที่ชนฉันล้ม เอ๊ะ! นายนี่ ถ้าจำไม่ผิด จะชื่อ...ชื่ออะไรนะ อ้อ อะไรเฟอะๆซักอย่างเนี่ยแหละ รู้สึกว่าจะอยู่ชมรมเดียวกับเรานี่นา แต่ไม่ค่อยได้เห็ยนหน้าเท่าไรเลยนี่...
    "..."
    "นี่นายเฟอะฟะ ชนคนล้มแล้วยังไม่รู้จักขอโทษอีกเรอะ"
    ฉันจ้องหน้ามันเขม็ง อ้ะ! สังเกตดีๆแล้ว นายนี่ใส่เสื้อผิดระเบียบด้วยนี่นา - -^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×