ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Hero Project ฝากใจดวงนี้ไว้ให้พี่ยอดมนุษย์

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ : Wednesday / วันพุธของผม

    • อัปเดตล่าสุด 11 เม.ย. 58


    บทนำ

    Wednesday : วันพุธของผม

    วันนี้อากาศดี ผมชอบ

                ท้องฟ้าแจ่มใส เมฆขาวๆ ลอยกระจัดกระจายไร้รูปร่าง แต่ถ้าตั้งใจจินตนาการก็อาจจะพอดูออกว่ามันเป็นรูปไร กลิ่นชื้นของฝนที่ตกพรำๆ เมื่อคืนยังคงกรุ่นให้ได้กลิ่น และอาจเป็นเพราะเหตุนี้ ผมจึงเดินอมยิ้มตลอดทางไปโรงเรียน  ทั้งตอนยืนรอรถที่ป้าย บนรถเมล์ จนถึงห้องเรียนก็ยังอารมณ์ดีไม่เลิก

                แต่จริงๆ มันอาจจะไม่ได้เกี่ยวกับลมฟ้าอากาศสักเท่าไหร่นัก

                “อ้าว มาเช้าเชียวนะมึง เมื่อคืนกูเห็นออนไลน์ถึงตีสอง นึกมาจะไม่มาคาบเช้าซะละ”

              ไอ้ครูซ เพื่อนซี้ยามยากที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกันตั้งแต่สมัยฟันหน้ายังหลอโบ๋เบ๋เอ่ยทัก ผมวางกระเป๋าพร้อมกับคิดไปด้วยว่า ถ้ามันไม่ได้ออนไลน์เกมดึกพอๆ กับผม มันจะรู้ได้ไงว่าตีสองผมยังอยู่

                แต่ก็ไม่อยากสาวความยาว เมื่อยปาก

                “กูเก่งพอหน่า” ผมตอบมันยิ้มๆ

                ไอ้ครูซทำหน้าเหมือนสงสัยไรนิดหน่อยแล้วหันไปมองกระดาน ก่อนจะพยักหน้าอ๋อยาวๆ ไป “อ๋อออออ กูว่าแล้ว วันนี้เป็นวันพุธนี่เอง มึงถึงหอบสังขารมาได้”

                ผมยิ้มรับ เปิดกระเป๋านักเรียนที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากปากกากับสมุด อ้อ แล้วก็หูฟังที่ผมกำลังหยิบออกมา

    “เออ กูชอบวันพุธ”

     

    วันพุธก็ไม่มีไรมาก น่าเบื่อเหมือนเดิม ฟิสิกส์บ้าง คณิตบ้าง น่าเบื่อน้อยหน่อยคงชีวะมั้ง ผมเรียนสายวิทย์-คณิตเพราะเกรดพอไปรอด แล้วยังไม่รู้ว่าจะเรียนอะไรต่อดีในชั้นมหาวิทยาลัย ก็เลยเลือกสายนี้ไป เพราะมันไปได้หลายคณะดี ช่วงเวลาที่ผมเฝ้ารอก็อย่างคนอื่นๆพักกลางวัน ถัดจากนั้นก็ยิ่งวิเศษใหญ่

    วิชาพละ

    ทันทีที่ออดบอกหมดเวลาพักกลางวัน ผมกับไอ้ครูซก็รีบวิ่งแท่ดๆ มาที่สนามบาส ซึ่งเป็นที่เรียนพละประจำของโรงเรียนผมทันที มันกว้างพอสำหรับนักเรียนหลายสิบคน โรงเรียนเลยจัดให้ในหนึ่งคาบต้องมีสองห้องที่เรียนพละตรงกัน แล้วแบ่งครึ่งสนามนี้

    ที่เกริ่นๆ มาก็ไม่ได้มีอะไรมากหรอกครับ ผมไม่ได้ชอบวิชาพละ เล่นกีฬาก็ไม่ได้ดีเด่นอะไร พอจะสนุกได้ไปวันๆ กับเพื่อน แต่ไอ้แก่นสารของช่วงเวลานี้มันอยู่ที่อีกฟากสนามบาสต่างหาก

    เป็นอีกครึ่งที่ถูกแบ่งไว้สำหรับห้องอื่น

    ผมทรุดตัวนั่งลงกับพื้น จ้องไปยังพื้นที่ตรงนั้นด้วยจิตใจจดจ่อกับการรอคอย ไอ้ครูซไม่ได้สนใจผมเท่าไรนักเพราะมันคงจะชินเสียแล้วกับอาการเหล่านี้ มันนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ข้างๆ

    แล้วไม่นานนัก เธอก็มา

    “อ้าว ยังไม่มีใครมาเลยอ่ะ” เสียงเล็กๆ นิ่มนวลที่ผมคุ้นเป็นอย่างดีเอ่ย เธอพัดลมเข้าหน้าตัวเองเพราะอากาศร้อนจัด ใบหน้ากลมขึ้นสีแดงระเรื่อ ตากลมๆ สีน้ำตาลกวาดมองหาเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ ที่น่าจะมาตรงนี้ตั้งนานแล้ว แต่เมื่อไม่พบใคร เธอก็นั่งลงในท่าชันขาขึ้นแล้วกอดเข่าแบบทุกวัน (ผมคิดว่ามันคงเป็นท่าสบายของเธอน่ะครับ) แล้วเริ่มมองไปมาเรื่อยเปื่อยอย่างหาจุดสนใจไม่ได้

                เธอมองแป้นบาส แหงนมองเพดาน ก้มต่ำลงมาเขี่ยดินเล่น ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาแล้วบังเอิญสบตากับผมที่มองเธอตั้งนานแล้ว

              เราสบตากัน!

              เวรล่ะ ผมหยุดหายใจไปชั่วขณะ แต่ก็ไม่อยากหลบตา

                ในใจผมพลันเกิดความรู้สึกบางอย่างตึกตักอยู่ภายใน เนื่องจากไม่บ่อยนักที่สายตาคู่นั้นจะมองมาที่ผม ตัวผมเริ่มอยู่ไม่สุข เลือดสูบฉีดหนักหน่วง รู้สึกมือไม้เกะกะไม่รู้จะเอาไปไว้ตรงไหน

                แต่แล้วเมื่อเธอลดสายตาลงต่ำไม่ได้เขินหรอกครับ กลับไปเขี่ยดินเล่นเหมือนเดิม =__= ผมก็กลับมาหายใจหายคอสะดวกขึ้นอีกครั้ง แต่ทว่าความรู้สึกเมื่อครู่ก็ยังไม่ได้จางหายไป เป็นความรู้สึกกระชุ่มกระชวยหัวใจนิดๆ เหมือนฝนปรอยๆ ในฤดูแล้ง หมาได้แทะกระดูกตอนป่วย อะไรประมาณนั้นแหละครับ

                ผมยิ้มอยู่แปปๆ แล้วค่อยๆ หุบ เพราะจู่ๆ มันก็แปล้บในใจขึ้นมา พอมานึกได้ว่าต่อให้ผมจะรู้สึกดีกับการคิดไปเองแค่ไหน ก็ยังได้แค่มอง

                แต่มันยังมีช่วงเวลาแฮปปี้มากกว่าหดหู่อยู่ ผมเลยเลือกมองต่อไป และวันพุธมันก็ดีอย่างนี้แหละครับ เรียนพละตรงกัน เลยได้มองเธอในระยะใกล้ ส่วนไอ้ภาวะอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ยิ้มๆ หุบๆ ของผมนี่ไม่เป็นบ่อยหรอก ส่วนมากจะมีความสุขกับการได้มองมากกว่า นานๆ ครั้งจะเข้าสู่โลกความจริงกับเขาให้เจ็บปวดเล่นบ้าง

                ไม่งั้นผมคงไม่มุ่งมั่นกับการมองมาเป็นสิบปีแบบนี้หรอกครับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×