ฉันรู้สึกได้ว่าช่วงนี้พ่อกับแม่เอาใจใส่ฉันเป็นพิเศษ แม่ถามฉันบ่อยขึ้นว่าวันนี้จะกลับบ้านกี่โมง จะกลับมาทานข้าวบ้านไหม อยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า ส่วนคุณพ่อก็จะนั่งรอจนกว่าฉันจะกลับแล้วค่อยขึ้นห้อง
ถึงแม้ว่าพวกท่านจะพยายามทำให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด แต่ฉันก็สังเกตุได้ ฉันไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว พอที่จะเข้าใจ
ฉันรู้และเข้าใจว่าสิ่งที่พวกท่านทำนั้นเพราะรักและเป็นห่วงฉัน แต่ฉันก็ยังรู้สึกอึดอัด มันรู้สึกเหมือนฉันทำอะไรผิด หรือกำลังจะทำผิด พวกท่านถึงได้มาคอยสังเกตุพฤติกรรมของฉัน
ฉันพยายามทำตัวปกติ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะไม่อยากให้ท่านทั้งสองต้องมาเป็นห่วงฉันจนเกินไป แต่ฉันคงทำได้ไม่แนบเนียนนักหรอก ฉันรู้ตัวดี
ฉันมักจะเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องคนเดียว นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย บ่อยครั้งที่ฉันร้องไห้ ฉันพยายามแล้ว แต่มันก็ทำไม่ได้ ฉันยังคิดถึงอ้น และยังคงรักเขามาก นี่ฉันกำลังจะกลายเป็นผู้หญิงที่ไปแอบรักสามีชาวบ้านแล้วหรือนี่ มันน่าตลกสิ้นดี
ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากจะลบความทรงจำทั้งหมดเกี่ยวกับตัวเขาออกไป ไม่อยากจดจำอะไรทั้งนั้น ไม่อยากเชื่อเลยว่าการที่จะลืมใครสักคนนี่มันช่างยากเย็นถึงเพียงนี้ แล้วตัวเขาล่ะป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง เขาจะทุกข์ทรมานเหมือนอย่างฉันบ้างไหม หรือว่าเขาจะลืมมันได้อย่างไม่ยากเย็น
เสียงโทรศัพท์ ทำให้ฉันถึงกับสะดุ้ง จอยนั่นเอง...
ฉันรีบปาดน้ำตา พยายามทำเสียงให้เป็นปกติที่สุด...
“จอยเหรอ...เป็นไงบ้าง” ฉันรีบพูดอกไป ไม่อยากให้จอยรู้ว่าฉันกำลังเศร้า
“ฉันน่ะ สบายดี แล้วแกล่ะ” จอยถาม
“ก็เรื่อย ๆ น่ะ ดีใจจังที่แกโทรมา” ฉันบอกจอยด้วยความรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ
“นี่ มีคนเขาอยากนัดแกไปทานข้าวน่ะ” จอยพูด
“ใคร...แกเหรอไง...” ฉันพูดติดตลก
“ไม่ใช่ฉันหรอก พี่หนึ่งน่ะ จำพี่หนึ่งได้ไหม” จอยถาม
ฉันหยุดคิดสักแป๊บนึง “พี่หนึ่ง” คนที่ขายเสื้อผ้าคนนั้นเหรอ หรือใคร แล้วเกี่ยวอะไรกับใยจอย
“นี่ใยอร...แกไม่ต้องสงสัยไปหรอก พี่หนึ่งเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับน้อตน่ะ” ใยจอยรีบพูด
“พี่หนึ่งที่ขายเสื้อผ้า ที่เคยทำงานตึกเดียวกับฉันน่ะนะ” ฉันถาม
“คนเดียวกันนั่นแหล่ะจ้ะ” จอยบอก
“ทำไมฉันไม่เคยรู้เลย น้อตไม่เห็นเคยบอก” ฉันถามอย่างสงสัย
“ฉันเองก็เพิ่งรู้เหมือนกัน...นี่ว่าไงจ๊ะ ว่างไม๊” จอยถาม
“ไม่อ่ะ...” ฉันตอบสั้น ๆ
“เฮ้ย ไม่ได้นะ แกต้องไป ฉันอุตส่าห์ไปรับปากเขาไว้แล้ว น่าไปเหอะนะ ก็เคยเจอกันแล้วไม่ใช่เหรอไง อีกอย่างพี่หนึ่งเขาก็สนใจแกมาตั้งนานแล้วนะ แต่เขาเห็นแกมีแฟนแล้วเขาก็เลยตัดใจน่ะ” จอยพูดไปเรื่อย ๆ
“นี่ท่าจะไปกันใหญ่แล้ว สนใจฉันเนี่ยนะ” ฉันรีบพูด
“จริง ๆ นะ เขาเคยถามเรื่องแกกับน้อตมาตั้งนานแล้ว แต่น้อตบอกว่าแกมีแฟนแล้ว แต่ตอนนี้เขาคงรู้แล้วล่ะว่า....”จอยพูดแบบไม่เต็มเสียงมากนัก คงกลัวว่าจะทำให้ฉันสะเทือนใจ “น่าอร ไปเถอะ ฉันกับน้อตก็ไปด้วย ไม่ต้องห่วงหรอกน่า พี่หนึ่งแกเป็นคนดี ไว้ใจได้” จอยชักชวน
“ไปก็ได้...ถ้าแกสองคนไปด้วยฉันก็โอเค...” ฉันตอบรับ
“ดีมากว่าง่าย ๆ แบบนี้สิ...เย็นวันศุกร์นะ เดี๋ยวฉันกับน้อตไปรับ 6โมงเย็นนะ ห้ามช้าล่ะ”
“อืม แล้วเจอกัน” ฉันตอบ
ในที่สุดฉันก็รู้คำตอบแล้วว่าทำไมพี่หนึ่งคนนั้นถึงรู้จักชื่อฉัน ที่แท้เขาก็เป็นญาติกับน้อตนี่เอง ก็ดีเหมือนกันดีกว่าอยู่แต่ในบ้านคิดแต่เรื่องเดิม ๆ ออกไปเปิดหูเปิดตาเผื่ออะไรจะดีขึ้นมาบ้าง
โทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง...ใยจอยอีกแล้ว...
“ว่าไงจ๊ะ” ฉันทัก
“ลืมบอกไป แต่งตัวสวย ๆ นะจ๊ะ รู้ป่าว” ใยจอยบอก
“อะไรกัน ทำไมต้องสวยด้วยเหรอ ไปทานข้าวแค่เนี้ย” ฉันถาม
“ไม่ได้หรอก...เคยได้ยินไม๊ ความประทับใจครั้งแรกน่ะ” ใยจอยพูด
“นี่อย่าบอกนะว่าเธอสองคนกำลังจะเล่นเกมส์จับคู่ให้ฉัน” ฉันถามอย่างรู้ทัน
“ก็แล้วแต่จะคิด แต่งตัวสวย ๆ แล้วกัน แค่นี้นะจ๊ะ” จอยรีบวางหู
“นี่เดี๋ยวสิ...ใยจอยเดี๋ยว...” ไม่ทันซะแล้ว
เฮ้อ...สองคนนี่จริง ๆ เลยแต่ฉันก็รู้ว่าเขาทั้งสองหวังดีกับฉัน คงไม่อยากเห็นฉันมัวแต่โศกเศร้าเสียใจ แต่เรื่องแบบนี้มันต้องใช้เวลา ไม่ใช่จะปุบปับลืมได้เลยซะเมื่อไหร่
แต่งตัวสวย ๆ เหรอ...นี่ฉันควรจะบ้าจี้ตามใยจอยดี หรือว่าทำไม่สนใจดี
พี่หนึ่ง จะว่าไปเขาก็คุยสนุกดี ท่าทางเขาก็เป็นคนน่าคบคนนึง แล้วอีกอย่างฉันก็รู้สึกว่าคุยกับเขาได้ถูกคอเป็นอย่างดี มันคงไม่เสียหายอะไรที่จะรู้จักพื่อนใหม่ ๆ บ้าง
ฉันเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า มองหาชุดที่เหมาะสมที่จะใส่ไปวันศุกร์นี้ ชุดนี้น่าจะเหมาะที่สุด ชุดใหม่ที่ฉันซื้อมาจากร้านของพี่หนึ่งวันนั้น ถึงยังไงเขาก็คงจะไม่ว่าชุดของร้านเขาเองแน่ ๆ... นึกไปก็ขำตัวเองไปว่าฉันคิดได้ยังไงกัน....
ฉันได้ยินเสียงโทรศัพท์อีกครั้ง ใยจอยแน่เลยคงจะลืมสั่งอะไรอีกล่ะสิ...
“ว่าไงจ๊ะ จะบอกอะไรอีก” ฉันทักทายอย่างรวดเร็ว
“เอ่อ...อร นี่อ้นเองนะ” เสียงปลายสายพูด
อ้นเหรอ...ไม่ใช่ใยจอย...นี่เขาเองเหรอ...ฉันจะทำยังไงดี...ฉันจะพูดอะไรกับเขาดี ตอนนี้หัวใจฉันเต้นแรงเหมือนกับจะระเบิด...ทั้งดีใจ ระคนสับสน...
“ฮัลโหล อร...ฮัลโหล” อ้นพูดอยู่อย่างนั้นหลายครั้ง
ฉันได้แต่เงียบ ไม่ตอบ ฉันไม่ควรจะคุยกับเขา หรือควรจะคุยกับเขาดี...ฉันไม่รู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควรเลยตอนนี้ น้ำตาของฉันค่อย ๆ ไหล ออกมา พร้อมกับที่ฉันกำลังจะกดสายเขาทิ้งไป....
“อร...อ้นโทรมาบอกลาเป็นครั้งสุดท้าย พรุ่งนี้แล้วนะอร อ้นจะแต่งงานวันพรุ่งนี้” อ้นพูด เสียงของเขาสั่น
ฉันใจหาย เหมือนว่าใจทั้งดวงของฉันแทบจะหยุดเต้น...พรุ่งนี้แล้วเหรอ เป็นไปได้ยังไง มันยังเหลืออีก 2 วันนี่นา หรือว่าฉันจะจำวันผิด มันเป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะลืม
“ทำไมเร็วจังล่ะอ้น” ฉันถาม น้ำเสียงของฉันก็สั่นไม่แพ้เขา ทั้ง ๆ ที่ฉันพยายามแล้ว
“ทางฝ่ายนั้นเขาไปดูฤกษ์มาใหม่น่ะ พวกเขาอยากให้แต่งกันเร็วขึ้น คงกลัวว่าอ้นจะหนีไป” อ้นพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนกับกำลังประชดอะไรบางอย่าง
เราทั้งสองเงียบงัน ไม่มีใครพูดอะไรต่อ อยากให้เวลามันหยุดอยู่แค่วันนี้ ไม่อยากให้มีวันพรุ่งนี้ ไม่อยากเลย....
“เอ่อ คือ อร...อรขอให้อ้นโชคดีแล้วกันนะคะ ขอให้อ้นโชคดี” ฉันพูดได้แค่นั้นจริง ๆ มันตื้อไปหมดคิดอะไรไม่ออก ทั้ง ๆ ที่มีคำพูดตั้งมากมาย มีเรื่องราวตั้งมากมายอยากจะเล่าให้เขาได้ฟัง แต่มันคงทำไม่ได้อีกแล้ว
“อรก็เหมือนกันนะ ดูแลตัวเองด้วย อ้นคงไม่มีโอกาสที่จะได้ดูแลอรอีกแล้ว...” เสียงของเขาสั่น ฉันได้ยินเสียงสะอื้นเบา ๆ จากเขา เขาคงใช้ความพยายามอย่างมาก
ฉันถึงกับร้องไห้ออกมา มันทนไม่ไหว กี่ครั้งแล้วนะที่เราสองคนจะต้องมานั่งร้องไห้ด้วยกันแบบนี้ ความรักที่มีแต่น้ำตา มีแต่ความเศร้า จะมีคู่รักคู่ไหนที่เป็นเหมือนอย่างเราบ้างไหม ทำไมมันถึงได้ทุกข์ทรมานขนาดนี้นะ แต่ช่างเถอะ มันคงจะไม่มีอีกแล้วความรู้สึกแบบนี้ มันคงจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราสองคนจะได้ทำอะไรด้วยกัน ถึงแม้ว่าเราจะอยากร้องไห้ด้วยกันอีกก็ตาม
“อรครับ...มันอาจจะเห็นแก่ตัว แต่อ้นอยากจะให้อร...รอ...รออ้นได้ไหม อ้นรักอรจริง ๆ รักมากที่สุด และอ้นไม่คิดว่าจะรักใครได้อีกแล้ว...รับปากผมได้ไหมครับอร”
ฉันถึงกับเงียบ ไม่คิดเลยว่าอ้นจะถามคำถามนี้กับฉัน ฉันควรจะตอบเขาว่ายังไงดี แน่นอนฉันก็รักเขา รักเขามากที่สุดเหมือนกัน แต่ฉันก็ไม่อยากทำร้ายใคร ไหนจะเด็กที่กำลังจะเกิดมาอีก ฉันจะทำยังไงดี ใครก็ได้ช่วยฉันที ฉันร้อนรนสับสน ฉันจะต้องแยกแยะให้ออกระหว่างความต้องการของหัวใจ กับความถูกต้อง
“อ้นจะไม่บังคับอร แต่อ้นอยากจะฟังคำตอบนี้จากปากของอรเอง และอ้นจะเคารพในคำตอบของอรทุกสิ่งทุกอย่างที่อรตัดสินใจ” เขาพูดน้ำเสียงหนักแน่น
เหมือนเขาพยายามจะบอกอะไรฉันบางอย่าง เหมือนเขาพยายามที่จะทวงถึงคำมั่นสัญญาของสองเรา ใช่สิคำสัญญา เราเคยสัญญาอะไรด้วยกันไว้ตั้งมากมาย คำสัญญาที่เราเคยมีต่อกันไว้ว่า เราจะรักกันตลอดไป
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น