ความรัก(ครั้งสุดท้าย) - ความรัก(ครั้งสุดท้าย) นิยาย ความรัก(ครั้งสุดท้าย) : Dek-D.com - Writer

    ความรัก(ครั้งสุดท้าย)

    ความรักที่มีน้ำตา มีแต่ความเศร้า

    ผู้เข้าชมรวม

    332

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    332

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  3 พ.ย. 48 / 19:42 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ฉันรู้สึกได้ว่าช่วงนี้พ่อกับแม่เอาใจใส่ฉันเป็นพิเศษ แม่ถามฉันบ่อยขึ้นว่าวันนี้จะกลับบ้านกี่โมง จะกลับมาทานข้าวบ้านไหม อยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า ส่วนคุณพ่อก็จะนั่งรอจนกว่าฉันจะกลับแล้วค่อยขึ้นห้อง


      ถึงแม้ว่าพวกท่านจะพยายามทำให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด แต่ฉันก็สังเกตุได้ ฉันไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว พอที่จะเข้าใจ


      ฉันรู้และเข้าใจว่าสิ่งที่พวกท่านทำนั้นเพราะรักและเป็นห่วงฉัน แต่ฉันก็ยังรู้สึกอึดอัด มันรู้สึกเหมือนฉันทำอะไรผิด หรือกำลังจะทำผิด พวกท่านถึงได้มาคอยสังเกตุพฤติกรรมของฉัน


      ฉันพยายามทำตัวปกติ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะไม่อยากให้ท่านทั้งสองต้องมาเป็นห่วงฉันจนเกินไป แต่ฉันคงทำได้ไม่แนบเนียนนักหรอก ฉันรู้ตัวดี


      ฉันมักจะเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องคนเดียว นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย บ่อยครั้งที่ฉันร้องไห้ ฉันพยายามแล้ว แต่มันก็ทำไม่ได้ ฉันยังคิดถึงอ้น และยังคงรักเขามาก นี่ฉันกำลังจะกลายเป็นผู้หญิงที่ไปแอบรักสามีชาวบ้านแล้วหรือนี่ มันน่าตลกสิ้นดี


      ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากจะลบความทรงจำทั้งหมดเกี่ยวกับตัวเขาออกไป ไม่อยากจดจำอะไรทั้งนั้น ไม่อยากเชื่อเลยว่าการที่จะลืมใครสักคนนี่มันช่างยากเย็นถึงเพียงนี้ แล้วตัวเขาล่ะป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง เขาจะทุกข์ทรมานเหมือนอย่างฉันบ้างไหม หรือว่าเขาจะลืมมันได้อย่างไม่ยากเย็น


      เสียงโทรศัพท์ ทำให้ฉันถึงกับสะดุ้ง จอยนั่นเอง...


      ฉันรีบปาดน้ำตา พยายามทำเสียงให้เป็นปกติที่สุด...



      “จอยเหรอ...เป็นไงบ้าง” ฉันรีบพูดอกไป ไม่อยากให้จอยรู้ว่าฉันกำลังเศร้า



      “ฉันน่ะ สบายดี แล้วแกล่ะ” จอยถาม



      “ก็เรื่อย ๆ น่ะ ดีใจจังที่แกโทรมา” ฉันบอกจอยด้วยความรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ



      “นี่ มีคนเขาอยากนัดแกไปทานข้าวน่ะ” จอยพูด



      “ใคร...แกเหรอไง...” ฉันพูดติดตลก



      “ไม่ใช่ฉันหรอก พี่หนึ่งน่ะ จำพี่หนึ่งได้ไหม” จอยถาม



      ฉันหยุดคิดสักแป๊บนึง “พี่หนึ่ง” คนที่ขายเสื้อผ้าคนนั้นเหรอ หรือใคร แล้วเกี่ยวอะไรกับใยจอย



      “นี่ใยอร...แกไม่ต้องสงสัยไปหรอก พี่หนึ่งเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับน้อตน่ะ” ใยจอยรีบพูด



      “พี่หนึ่งที่ขายเสื้อผ้า ที่เคยทำงานตึกเดียวกับฉันน่ะนะ” ฉันถาม



      “คนเดียวกันนั่นแหล่ะจ้ะ” จอยบอก



      “ทำไมฉันไม่เคยรู้เลย น้อตไม่เห็นเคยบอก” ฉันถามอย่างสงสัย



      “ฉันเองก็เพิ่งรู้เหมือนกัน...นี่ว่าไงจ๊ะ ว่างไม๊” จอยถาม



      “ไม่อ่ะ...” ฉันตอบสั้น ๆ



      “เฮ้ย ไม่ได้นะ แกต้องไป ฉันอุตส่าห์ไปรับปากเขาไว้แล้ว น่าไปเหอะนะ ก็เคยเจอกันแล้วไม่ใช่เหรอไง อีกอย่างพี่หนึ่งเขาก็สนใจแกมาตั้งนานแล้วนะ แต่เขาเห็นแกมีแฟนแล้วเขาก็เลยตัดใจน่ะ” จอยพูดไปเรื่อย ๆ



      “นี่ท่าจะไปกันใหญ่แล้ว สนใจฉันเนี่ยนะ” ฉันรีบพูด



      “จริง ๆ นะ เขาเคยถามเรื่องแกกับน้อตมาตั้งนานแล้ว แต่น้อตบอกว่าแกมีแฟนแล้ว แต่ตอนนี้เขาคงรู้แล้วล่ะว่า....”จอยพูดแบบไม่เต็มเสียงมากนัก คงกลัวว่าจะทำให้ฉันสะเทือนใจ “น่าอร ไปเถอะ ฉันกับน้อตก็ไปด้วย ไม่ต้องห่วงหรอกน่า พี่หนึ่งแกเป็นคนดี ไว้ใจได้” จอยชักชวน



      “ไปก็ได้...ถ้าแกสองคนไปด้วยฉันก็โอเค...” ฉันตอบรับ



      “ดีมากว่าง่าย ๆ แบบนี้สิ...เย็นวันศุกร์นะ เดี๋ยวฉันกับน้อตไปรับ 6โมงเย็นนะ ห้ามช้าล่ะ”



      “อืม แล้วเจอกัน” ฉันตอบ



      ในที่สุดฉันก็รู้คำตอบแล้วว่าทำไมพี่หนึ่งคนนั้นถึงรู้จักชื่อฉัน ที่แท้เขาก็เป็นญาติกับน้อตนี่เอง ก็ดีเหมือนกันดีกว่าอยู่แต่ในบ้านคิดแต่เรื่องเดิม ๆ ออกไปเปิดหูเปิดตาเผื่ออะไรจะดีขึ้นมาบ้าง



      โทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง...ใยจอยอีกแล้ว...



      “ว่าไงจ๊ะ” ฉันทัก



      “ลืมบอกไป แต่งตัวสวย ๆ นะจ๊ะ รู้ป่าว” ใยจอยบอก



      “อะไรกัน ทำไมต้องสวยด้วยเหรอ ไปทานข้าวแค่เนี้ย” ฉันถาม



      “ไม่ได้หรอก...เคยได้ยินไม๊ ความประทับใจครั้งแรกน่ะ” ใยจอยพูด



      “นี่อย่าบอกนะว่าเธอสองคนกำลังจะเล่นเกมส์จับคู่ให้ฉัน” ฉันถามอย่างรู้ทัน



      “ก็แล้วแต่จะคิด แต่งตัวสวย ๆ แล้วกัน แค่นี้นะจ๊ะ” จอยรีบวางหู



      “นี่เดี๋ยวสิ...ใยจอยเดี๋ยว...” ไม่ทันซะแล้ว



      เฮ้อ...สองคนนี่จริง ๆ เลยแต่ฉันก็รู้ว่าเขาทั้งสองหวังดีกับฉัน คงไม่อยากเห็นฉันมัวแต่โศกเศร้าเสียใจ แต่เรื่องแบบนี้มันต้องใช้เวลา ไม่ใช่จะปุบปับลืมได้เลยซะเมื่อไหร่


      แต่งตัวสวย ๆ เหรอ...นี่ฉันควรจะบ้าจี้ตามใยจอยดี หรือว่าทำไม่สนใจดี


      พี่หนึ่ง จะว่าไปเขาก็คุยสนุกดี ท่าทางเขาก็เป็นคนน่าคบคนนึง แล้วอีกอย่างฉันก็รู้สึกว่าคุยกับเขาได้ถูกคอเป็นอย่างดี มันคงไม่เสียหายอะไรที่จะรู้จักพื่อนใหม่ ๆ บ้าง


      ฉันเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า มองหาชุดที่เหมาะสมที่จะใส่ไปวันศุกร์นี้ ชุดนี้น่าจะเหมาะที่สุด ชุดใหม่ที่ฉันซื้อมาจากร้านของพี่หนึ่งวันนั้น ถึงยังไงเขาก็คงจะไม่ว่าชุดของร้านเขาเองแน่ ๆ... นึกไปก็ขำตัวเองไปว่าฉันคิดได้ยังไงกัน....



      ฉันได้ยินเสียงโทรศัพท์อีกครั้ง ใยจอยแน่เลยคงจะลืมสั่งอะไรอีกล่ะสิ...



      “ว่าไงจ๊ะ จะบอกอะไรอีก” ฉันทักทายอย่างรวดเร็ว



      “เอ่อ...อร นี่อ้นเองนะ” เสียงปลายสายพูด



      อ้นเหรอ...ไม่ใช่ใยจอย...นี่เขาเองเหรอ...ฉันจะทำยังไงดี...ฉันจะพูดอะไรกับเขาดี ตอนนี้หัวใจฉันเต้นแรงเหมือนกับจะระเบิด...ทั้งดีใจ ระคนสับสน...



      “ฮัลโหล อร...ฮัลโหล” อ้นพูดอยู่อย่างนั้นหลายครั้ง



      ฉันได้แต่เงียบ ไม่ตอบ ฉันไม่ควรจะคุยกับเขา หรือควรจะคุยกับเขาดี...ฉันไม่รู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควรเลยตอนนี้ น้ำตาของฉันค่อย ๆ ไหล ออกมา พร้อมกับที่ฉันกำลังจะกดสายเขาทิ้งไป....



      “อร...อ้นโทรมาบอกลาเป็นครั้งสุดท้าย พรุ่งนี้แล้วนะอร อ้นจะแต่งงานวันพรุ่งนี้” อ้นพูด เสียงของเขาสั่น



      ฉันใจหาย เหมือนว่าใจทั้งดวงของฉันแทบจะหยุดเต้น...พรุ่งนี้แล้วเหรอ เป็นไปได้ยังไง มันยังเหลืออีก 2 วันนี่นา หรือว่าฉันจะจำวันผิด มันเป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะลืม



      “ทำไมเร็วจังล่ะอ้น” ฉันถาม น้ำเสียงของฉันก็สั่นไม่แพ้เขา ทั้ง ๆ ที่ฉันพยายามแล้ว



      “ทางฝ่ายนั้นเขาไปดูฤกษ์มาใหม่น่ะ พวกเขาอยากให้แต่งกันเร็วขึ้น คงกลัวว่าอ้นจะหนีไป” อ้นพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนกับกำลังประชดอะไรบางอย่าง



      เราทั้งสองเงียบงัน ไม่มีใครพูดอะไรต่อ อยากให้เวลามันหยุดอยู่แค่วันนี้ ไม่อยากให้มีวันพรุ่งนี้ ไม่อยากเลย....



      “เอ่อ คือ อร...อรขอให้อ้นโชคดีแล้วกันนะคะ ขอให้อ้นโชคดี” ฉันพูดได้แค่นั้นจริง ๆ มันตื้อไปหมดคิดอะไรไม่ออก ทั้ง ๆ ที่มีคำพูดตั้งมากมาย มีเรื่องราวตั้งมากมายอยากจะเล่าให้เขาได้ฟัง แต่มันคงทำไม่ได้อีกแล้ว



      “อรก็เหมือนกันนะ ดูแลตัวเองด้วย อ้นคงไม่มีโอกาสที่จะได้ดูแลอรอีกแล้ว...” เสียงของเขาสั่น ฉันได้ยินเสียงสะอื้นเบา ๆ จากเขา เขาคงใช้ความพยายามอย่างมาก


      ฉันถึงกับร้องไห้ออกมา มันทนไม่ไหว กี่ครั้งแล้วนะที่เราสองคนจะต้องมานั่งร้องไห้ด้วยกันแบบนี้ ความรักที่มีแต่น้ำตา มีแต่ความเศร้า จะมีคู่รักคู่ไหนที่เป็นเหมือนอย่างเราบ้างไหม ทำไมมันถึงได้ทุกข์ทรมานขนาดนี้นะ แต่ช่างเถอะ มันคงจะไม่มีอีกแล้วความรู้สึกแบบนี้ มันคงจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราสองคนจะได้ทำอะไรด้วยกัน ถึงแม้ว่าเราจะอยากร้องไห้ด้วยกันอีกก็ตาม



      “อรครับ...มันอาจจะเห็นแก่ตัว แต่อ้นอยากจะให้อร...รอ...รออ้นได้ไหม อ้นรักอรจริง ๆ รักมากที่สุด และอ้นไม่คิดว่าจะรักใครได้อีกแล้ว...รับปากผมได้ไหมครับอร”



      ฉันถึงกับเงียบ ไม่คิดเลยว่าอ้นจะถามคำถามนี้กับฉัน ฉันควรจะตอบเขาว่ายังไงดี แน่นอนฉันก็รักเขา รักเขามากที่สุดเหมือนกัน แต่ฉันก็ไม่อยากทำร้ายใคร ไหนจะเด็กที่กำลังจะเกิดมาอีก ฉันจะทำยังไงดี ใครก็ได้ช่วยฉันที ฉันร้อนรนสับสน ฉันจะต้องแยกแยะให้ออกระหว่างความต้องการของหัวใจ กับความถูกต้อง



      “อ้นจะไม่บังคับอร แต่อ้นอยากจะฟังคำตอบนี้จากปากของอรเอง และอ้นจะเคารพในคำตอบของอรทุกสิ่งทุกอย่างที่อรตัดสินใจ” เขาพูดน้ำเสียงหนักแน่น



      เหมือนเขาพยายามจะบอกอะไรฉันบางอย่าง เหมือนเขาพยายามที่จะทวงถึงคำมั่นสัญญาของสองเรา ใช่สิคำสัญญา เราเคยสัญญาอะไรด้วยกันไว้ตั้งมากมาย คำสัญญาที่เราเคยมีต่อกันไว้ว่า เราจะรักกันตลอดไป

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×