โคอาติจมูกขาวแห่งแนนไซต์ประเทศครอสตาริก้า
และการแข่งขันกับสัตว์อื่น ๆ ที่นำมาซึ่งความ
ตรึงเครียดในชีวิต
โคอาติเหล่านี้อาศัยอยู่ในพื้นที่เล็ก ๆ ในป่าที่ล้อมรอบด้วยทะเลและภูเขาสูง
ที่ซึ่งเต่านับพันตัวขึ้นมาบนฝั่งและวางไข่ในผืนทราย
มันเป็นเขตแดนที่อุดมสบบูรณ์และดึงดูด
โคอาติจมูกขาวเพศเมียออกมาจากป่า
ถึงแม้โคอาติตัวจะไม่ใหญ่มากแต่ก็มีความดุร้ายและพร้อม
เสมอที่จะทำงานเป็นทีมเพื่อปกป้องแหล่งอาหารของพวกมัน
มีคำถามอยู่ว่าโคอาติทุกตัวในฝูงจะเป็นเพศเมีย
แล้วเพศผู้อยู่ที่ไหน? โคอาติเพศผู้ส่วนใหญ่มัก
ใช้ชีวิตอย่างสันโดษ และอยู่ไกลจากเพศเมีย
พวกเพศผู้จะเป็นที่ต้องการเพียงหนึ่งครั้งต่อปี คือ
ในฤดูสืบพันธ์เท่านั้นเอง
การที่พวกมันอาศัยอยู่ห่างจากกลุ่มและด้วยน้ำหนักตัว 5 กก. ซึ่งตัวใหญ่
กว่าเพศเมียเล็กน้อยทำให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจว่าพวกมันเป็นคนละสายพันธ์
แถมยังตั้งชื่อพวก
มันเป็นสายพันธุ์ใหม่ว่า
โคอาติมันดี้ ซึ่งหมายถึงโคอาติที่โดดเดี่ยวนั่นเอง สำหรับโคอาติเพศเมีย
พวกมันจะเป็นสัตว์สังคม
พวกมันจะช่วยดูแลทำความสะอาดให้กันและกัน เลี้ยงลูก กระทั่งให้นม
ลูกของตัวอื่น
นอกจากนี้พวกมันยังรวมกลุ่มอย่างเหนียวแน่นเพื่อป้องกันมิให้เพศผู้มาบุกรุก
ในการหาอาหารของโคอาติ
พวกมันจะคอยชูหางที่เป็นพวงไว้เสมอเพื่อติดต่อกันขณะเคลื่อนตัว
ผ่านป่าที่หนาทึป
พวกมันจะกระจายกันออกไปอย่างเป็นระบบเพื่อตรวจสอบบริเวณ คอยดมหา
ทุกซอกทุกมุมเพื่อหาอาหารให้มากขึ้น
ไม่มีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตัวไหนแข่งความไวกับจมูกของ
โคอาติได้
มันไวเสียจนเจ้าของมันสามารถตรวจหาอาหารในทราย โคลนและกองใบไม้เน่าได้
โคอาติเป็นสัตว์ที่กินทั้งเนื้อและพืช
ทุกอย่างที่หากินได้ การหาอาหารให้เพียงพอในป่าแห้งเป็น
เรื่องยาก
แม้สำหรับโคอาติ 20 ตัว
ความอยู่รอดเกิดได้เพราะพวกมันกินอาหารได้หลายอย่าง
โคอาติสามารถเอาชนะสัตว์ทุกชนิดที่กินอาหารแบบเดียวกับมันได้
พวกมันได้เปรียบด้านจำนวน
การปรับตัว และทัศนคติ
ในอเมริกากลางและใต้มีโคอาติอีก
3 ชนิด
ไม่มีชนิดใดเลยที่อาศัยอยู่ร่วมกัน โคอาติแห่งบราซิล
จะไม่มีในแนนไซต์
ร่วมกับโคอาติจมูกขาว มิฉะนั้นคงต้องแย่งชิงทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด
ถ้าหากว่าทั้งคู่อาศัยอยู่ร่วมกัน
ไม่ชนิดใดชนิดหนึ่งคงต้องสูญพันธุ์ในที่สุด ในฤดูแล้งโคอาติ
เพศเมียจะให้กำเนิดทายาท
พวกมันจะปกป้องลูกครอกละ 3-5
ตัวให้ปลอดภัยภายในรังทรง
โดม ซึ่งวางอยู่บนยอดไม้
ในบางปีเพศเมียทั้งหมดจะพร้อมใจกันมีลูก แต่เมื่อทรัพยากรมีน้อย
เพศเมียกว่าครึ่งจะพร้อมใจกันหยุดผลิตทายาทไว้หนึ่งปี
การคลอดลูกเป็นเรื่องที่กำหนดไว้ เพื่อ
ให้ลูกน้อยหย่านมตอนที่ฝนนำทรัพยากรอื่นมามากขึ้น
ในโลกยุคใหม่
สัตว์จำนวนมากไม่มีเวลาปรับตัว กิจกรรมมนุษย์เปลี่ยนที่อยู่ของมันไปในชั่วข้ามคืน
แต่สำหรับสัตว์บางชนิด
การเปลี่ยนแปลงโดยมนุษย์กลับกลายเป็นโอกาสใหม่ ฤดูแล้งกำลังสิ้นสุดลง
การเปลี่ยนแปลงอวลอยู่ในอากาศเมื่อพายุฝนเทกระหน่ำลงมาบนป่าที่แห้งผาก
ต้นไม้เริ่มออกผล
จนกลายเป็นอาหารของสัตว์ทั้งหมด
ในปีปกตินี่คือสิ่งที่โคอาติน้อยคงได้กินด้วยเช่นกัน หลังจาก
หย่านม
โคอาติเพศเมียมีเวลาอีกมากในการบำรุงร่างกาย เมื่อปราศจากลูกให้เลี้ยงดู
อาหารของมันก็
มีมากขึ้น
แต่เมื่อปราศจากทายาท อนาคตในระยะยาวของมันกลับดูเลือนลางเพื่อสร้างสมดุลในสาย
ใยชีวิตอีกครั้ง
พวกมันจะต้องเปลี่ยนพฤติกรรมหรือมิฉะนั้นก็ต้องตาย
สายใยชีวิตที่แนนไซต์ต้องการโคอาติมากน้อยเพียงใด? เมื่อปราศจากลูกน้อย ประชากรโคอาติกลุ่ม
เล็ก ๆ
นี้เหลือเวลาอีกไม่ถึง 10 ปี
และถ้าปราศจากพวกมันคงจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชีวิต
ในป่า
นอกเหนือไปจากการขุดหาอาหารเผื่อสัตว์อื่นๆ แล้ว
โคอาติยังช่วยผสมเกสรของต้นไม้ในป่า
ถ้าหากว่าต้นไม้เหล่านี้ไม่สามารถขยายพันธุ์ได้
ช่องว่างในป่าจะเกิดขึ้นและผืนดินเปลือยเปล่าจะ
สูญเสียดินไป
ยังมีเรื่องร้ายแรงที่จะเกิดขึ้นอีกมาก ฤดูแล้งจะกินเวลานานขึ้น บางทีอาจเป็นเพราะ
โลกร้อน
หรือการเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำในมหาสมุทร ถ้าหากว่าโคอาติหายไปในอีก 100 ปี
สายใยแห่งชีวิตแบบใหม่คงจะเกิดขึ้นที่แนนไซต์
โคอาติคงไม่ยอมรามือไปจากแนนไซต์ง่าย ๆ ใน
ตอนนี้
โคอาติที่อื่นมีฤดูผสมพันธุ์ที่แสนสั้นในหนึ่งปี
ตัวน้อยถือกำเนิดในเดือนเปียกชื้นแทนที่เดือน
แห้งแล้ง
พวกมันยังคงต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่องในสายใยแห่งชิวิตเพื่อเผชิญหน้ากับความท้าทาย
ที่กำลังจะเกิดขึ้น
โคอาติจะสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่? เวลาเท่านั้นที่จะบ่งบอก
ถึงอนาคตของป่าแนนไซต์อันแห้งแล้งนี้ได้
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น