เมื่อต้นทศวรรษ 1980 มีการสำรวจสภาพของเทพีแห่งเสรีภาพอย่างละเอียดและพบว่ามีรอยแตกร้าวอยู่ทั่วไปบนตัวอนุสาวรีย์
การที่เทพีแห่งเสรีภาพต้องยืนสู้แดดลมและมลภาวะต่าง
ๆ รวมทั้งไอน้ำจากลมหายใจของผู้มาเยือนหลายล้านคนที่ปีนขึ้นลงภายในร่างของเธอตลอดเวลากว่าหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ทำให้เทพีแห่งเสรีภาพผุกร่อนลงเป็นอันมาก หมุดที่ใช้ยึดแผ่นทองแดงหลุดไป ทำให้น้ำรั่วซึมเข้ามา โครงสร้างเหล็กภายในจึงเป็นสนิม ฉนวนใยหินของเดิมที่เอเฟลใช้รองกั้นแผ่นทองแดงกับโครงเหล็กมิให้สัมผัสกันโดยตรงนั้น ก็สึกกร่อนลงเกือบหมด โครงเหล็กที่พันวนรอบโครงร่างก็เป็นสนิมผุกร่อนไปกว่าครึ่ง แท่งโครงเหล็ก
1,800 ท่อนต้องเปลี่ยนใหม่หมด เปลวคบเพลิงใกล้จะหลุดร่วง ไหล่ของเทพีข้างที่ชูคบเพลิงก็ต้องเสริมให้แกร่งอีกครั้ง
สูงเทียมฟ้า ระหว่างการบูรณะต้องตั้งนั่งร้านขึ้นไปสูงยิ่งกว่ารูปอนุสาวรีย์
ซึ่งสูงถึง 93 เมตร
การหาทุนซ่อมแซม
การบูรณะอนุสาวรีย์แห่งนี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีหลายแขนง และต้องระดมเงินบริจาคจากทั้งฝรั่งเศสและสหรัฐฯ
เป็นเวลาถึง 3 ปีครึ่ง จึงได้เงินทุนจำนวน
69 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยประเทศฝรั่งเศสเป็นผู้เริ่มรณรงค์หาเงินบริจาค รวมทั้งให้ยืมสถาปนิกและช่างฝีมือชั้นนำของฝรั่งเศส
เพลิงเปลวเก่า ในค.ศ.
1916 เปลวเพลิงเก่าใช้วิธีกรุแผ่นแก้วสีอำพัน ผนึกลงตามช่องกรอบโลหะทองแดง แต่รอยผนึกไม่สนิทน้ำจึงรั่วเข้าไปภายในได้
มีการสร้างนั่งร้านซึ่งคงจะเป็นโครงสร้างนั่งลอยตัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีการเก็บข้อมูลสถิติต่าง ๆ ที่สำคัญเกี่ยวกับอนุสาวรีย์บรจุลงคอมพิวเตอร์เพื่อการวางแผนทำโครงสร้างใหม่อย่างละเอียด ช่างฝีมือชาวฝรั่งเศสช่วยกันสร้างคบเพลิงใหม่ขึ้นด้วยวิธี “เรอปูสเซ”
เช่นเดิม และใช้ช่างปิดทองฝีมือเยี่ยมจากปารีสปิดแผ่นทอง 24
กระรัดลงบนผิวชิ้นส่วนเปลวเพลิง
เพลิงเปลวใหม่ ใน ค.ศ. 1985 มีการทำเปลวเพลิงใหม่จากทองแดง แล้วปิดด้วยทองคำเปลวบางๆ แต่ทนทาน เปลวเพลิงชิ้นใหม่นี้มีคุณสมบัติกันน้ำได้อย่างดี ขณะเดียวกันทองคำเปลวก็ส่งประกายสีทองสุกปลั่งงดงามยิ่งนัก
แผ่นทองแดงนั้นแม้จะมีคราบสนิมสีเขียวอ่อนแต่ก็ยังมีสภาพดีอยู่ ต้องเปลี่ยนเฉพาะหมุดตรึง แต่ขณะทำความสะอาดผิวด้านนอกก็ต้องพยายามรักษาคราบสนิมนี้เอาไว้เพราะมันช่วยกันมิให้ผิวทองแดงผุกร่อน ส่วนผิวด้านในซึ่งเดิมทาสีไว้
7 ชั้น ดักความชื้นไว้ตามตะเข็บรอยต่อ จึงต้องพ่นไนโตรเจนเหลวทำให้บริเวณนั้นเย็นถึง
–163O ซ. เพื่อให้เนื้อสีแข็งตัวและหลุดร่อน แล้วใช้สารละลายโซดาไบคาร์บอเนตพ่นชะล้างน้ำมันดินที่ทาฉาบไว้ใต้ชั้นสีให้หลุดออก จากนั้นก็นำโครงเหล็กปลอดสนิมมาใส่แทนโครงเหล็กเดิมที่ขึ้นสนิม (เหล็กปลอดสนิมไม่ทำปฏิกิริยากับทองแดงเหมือนกับเหล็กกล้า” เขาต้องซ่อมแซมโครงสร้างเหล็กไปทีละส่วนโดยเปลี่ยนโครงเหล็กได้คราวละไม่เกิน
12 ชิ้นในแต่ละช่วง 24 ชม. ทั้งนี้เพื่อมิให้เทพีเสียการทรงตัว เขาใช้แถบสารเทฟลอนคั่นบริเวณที่โลหะทองแดงกับโครงเหล็กสัมผัสกัน
ระบบเทคโนโลยีสองสมัย
มีการปรับช่องบันไดให้กว้างขึ้นเพื่อป้องกันการจับตัวของไอน้ำภายในอาคาร มีการติดตั้งลิฟต์แก้วระบบไฮดรอลิก และสำหรับผู้ที่ไม่กล้าไต่ขึ้นที่สูงก็มีโทรทัศน์วงจรปิดแสดงภาพภายในอนุสาวรีย์ให้ชมว่ามีการสร้างและปรับปรุงอย่างใดบ้าง นับเป็นความสำเร็จในการผสมผสานเทคโนโลยี
2 ระบบที่มีอายุห่างกันเป็นตตวรรษ
|
[ กลับไปหน้าหลัก
]
|
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น