ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ★ w/Mark Hyung .. Tonight (พิชิตน้องเอิน) ✲

    ลำดับตอนที่ #2 : 난 니가 좋아.

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.พ. 59


    Chapter 2

    니가 좋아

     

    “5555555 เอินน่ารักอะ ”

    ยูคยอมพูดขึ้น ก่อนที่ผละมือที่กำลังจับไม้อัดที่ป๊าต้วนใช้ทำที่นั่งออกแล้วเอื้อมมือไปโอบเอวบางของคนพี่ไว้แทน

    “อะไรๆๆ อยู่ดีๆมาชม 55555 บ๊องนะนาย”

    มันคงเป็นความเคยชินของต้วนอี้เอินคนนี้ไปแล้วละมั้ง เวลาเจ้าเด็กโข่งนี่สกินชิพ ไม่ว่าจะจับมือ กอดแขน กอดเอว แบ็คฮัก บลาบลาบลา...

    “ก็น่ารักอะ เอินน่ารัก..”

    ตายแล้ว... ต้วนอี้เอินน็อคเอ้าท์แล้วเรียบร้อย

    ไม่ทันที่จะเขินเสร็จเสียงสวรรค์ก็ตะโกนเรียก ทำให้ต้วนอี้เอินที่นั่งหน้าแดงกับยูคยอมที่กำลังวอแวคนพี่อยู่ถึงกับสะดุ้ง

    “มาร์คคคคคคค มานี่”

    ไม่ใช่เสียงของม๊ากับป๊า แต่เป็นเสียงโจอี้น้องชายแท้ๆของเขา

    “เออๆ เดี๋ยวไปป” อี้เอินตะโกนกลับ
    ...................

     

    ยัง..

    ยังไม่เลิกกอดอีก..

     

    ใบหน้าเรียวหันไปหาเด็กที่กำลังกอดเอวเขาอยู่ ส่งสายตาก็แล้ว ขยับตัวก็แล้วยังกอดอยู่แล้วนั้น

    “นี่! คิมยูคยอม ปล่อยได้แล้วว! มาร์คฟาดเข้าที่มือหนาอย่างแรง

    “โอ้ยมาร์ค! คยอมเจ็บนะ” ไม่ว่าเปล่า ยังทำหน้างอแงใส่คนพี่อีก

    “ดูๆ ดูทำหน้าอย่างกับหมีอดกินน้ำผึ้งงั้นแหละ”  มาร์คว่าก่อนจะเอี้ยงตัวไปหา มาร์คสังเกตเห็นอะไรแปลกๆ ที่ติดหน้ายูคยอมอยู่ มองอยู่สักครู่ก่อนจะหยิบออกให้ เศษขนตาที่ร่วงมาอยู่ตรงบริเวณใต้ตา ใกล้ๆกับไฝของคิมยูคยอม

    “อะไรอ่อมาร์คค”

     

    ใกล้มาก..

    ใกล้ไปจริงๆ สำหรับยูคยอม

     

    “ขนตาร่วงแน่ะ อะนี่.. เค้าว่ากันว่าเวลาขนตาร่วงอะ ให้เราเอามาอธิษฐาน” มาร์คพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจังก่อนจะจับมือยูคยอมขึ้นมาแบมือรับขนตา

    “จริงปะเนี่ยย...” มือหนากำมือไว้เพื่อไม่ให้ขนตาปลิ้วหาย ก่อนจะมองคนตรงหน้าแล้วทำตาม

    “อื้อ! ลองดูดิ” มาร์คยิ้มให้

    “ก็ได้..งั้น.....ผมขออธิษฐานว่า...ให้ผมมีแฟนไวไว เพี้ยงๆ”

    ยูคยอมเด็กหน้าหมีร่างยักษ์กุมขนตาไว้แนบอกก่อนจะอธิษฐาน เมื่อเสร็จแล้วจึงแบมือเป่าขนตาตัวเองให้ปลิ้วไปเป็นการเสร็จพิธี

     

    จึก..

    จุกๆในลำคอแหะ

     

    “โหยย ขอแต่อะไรดีๆทั้งนั้นอะ” มาร์คว่า ก่อนที่จะลุกขึ้นจากรถไฟไม้แล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าบ้านไป ทิ้งให้เด็กร่างหมีแอบขำในใจคนเดียว

    คึคึ

    มาร์คนี้ หึงแน่นอน

     

    “รอด้วยสิมาร์คคร้าบบบบบ”

    .

    .

    .

    ที่โต๊ะทานข้าว

    ปีใหม่ก็เหมือนการรวมญาติ ญาติของมาร์คที่อยู่ที่แอลเอหรือระแวกใกล้นี่แห่แหนกันมรวมตัวกันที่บ้านใหญ่ของป๊าต้วนกันหมด

    ยูคยอมโค้งสวัสดีตามฉบับเด็กเกาหลีให้กับญาติมาร์คทุกคนอย่างเป็นกันเอง โชคดีที่ญาติของมาร์คคุยง่ายแล้วเป็นมิตรมาก ชวนเจ้าเด็กร่างหมีคุยไม่หยุด โดยเฉพาะโจอี้น้องชายของมาร์ค ที่ตอนนี้ดูเหมือนจะคุยกันได้ถูกคอดีกันยูคยอม

    “อะนี่ลูก ทานเยอะๆนะจ้ะ” ม๊าต้วนพูดพลางคีมเนื้อปลาใส่จานให้ยูคยอม

    “ขอบคุณคร้าบม๊า” เด็กโข่งถึงกับยิ้มกว้างปากแทบฉีกถึงหู สงสัยคงต้องเข้าทางแม่อย่างจริงจังซะแล้ว

    “โหยม๊า มีลูกชายคนเล็กเพิ่มขึ้นอีกคนหรอ” มาร์คพูดก่อนจะหันไปบึนปากใส่ยูคยอมที่นั่งข้างๆ ทุกๆ คนต่างพากันหัวเราะท่าทางของมาร์ค ที่เหมือนกันเด็กๆ เวลาที่แม่ซื้อของเล่นให้น้องก่อน

    “อะนี่ๆ พ่อตักให้ 55555”

    ป๊าต้วนพูดก่อนจะคีบเนื้อปลาใหมาร์คบ้าง ร่างบางยิ้มโชว์ฟัน 32ซี่ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตากินราวกับอดอยากมานานแสนนาน

    “ขอบคุณคร้าบบ ฝีมือม๊านี่สุดยอดเหมือนเดิมม”

    มาร์คพูดไปเคี้ยวไป ม๊าต้วนพยักหน้ายิ้มรับท่าทางของลูกชายก่อนที่การเริ่มรับประทานอาหารแบบรวมญาติครั้งนี้จะเริ่มขึ้นอย่างจริงจัง ต้วนแฟมิลี่คุยไปกินไปอย่างสนุกสนาน

    เวลาผ่านไปครึ่งชม.บนโต๊ะอาหาร หลายคนเริ่มทยอยลุกเอาจานไปเก็บรวมถึงมาร์คและยูคยอมด้วย ตอนนี้บนโต๊ะอาหารมีแต่รุ่นป๊าม๊านั่งคุยทั้งนั้น เด็กๆลูกพี่ลูกน้องของมาร์คพี่กันกระจายไปยังจุดต่างๆ ของบ้านกันหมด

    มาร์คปลีกตัวไปที่โซฟาใหญ่กลางบ้านร่างบางนั่งลงบนโซฟาอุ้มเด็กผู้หญิงน่ารักตาน่ารัก ไม่สิ ต้องบอกว่าหน้าตาเหมือนมาร์คแบบถอดพิมพ์เดียวกันมาเลยละ

    “อามาร์คคค ชุดหนูสวยไหมคะ?” เด็กน้อยวัยราวๆ 3ขวบเอ่ยขึ้นก่อนจะจับเสื้อตัวเอง

    “สวยครับ สวยมากเลยย” มาร์คยิ้มกับท่าทางแสนบริสุทธิ์ของไลลาหลานสาวของเขา

    “งื้ออ อามาร์คคะ” เด็กน้อยสะกิดแขนมาร์ค ก่อนที่มาร์คต้วนจะฝากรอยจุ้บลงที่บริเวณแก้มใสอย่างทนุถนอม

    “คร้าบบ ว่าไงหืมม”

    “อยากไปเที่ยว ไปเที่ยวว นะๆๆๆๆๆ” ได้ที ไลลาก็เขย่าแขนคนที่กำลังกอดเขาอยู่อย่าร่าเริง มาร์คหอมแก้มหลานสาวอีกข้าง

    “ไลลาติดเที่ยวมากอะมาร์ค 5555 สงสัยตอนท้องฉันเที่ยวบ่อยละมั้งเลยแบบติดมางี้” แทมมี่พี่สาวคนโตของมาร์ค พูดไปหัวเราะไปเมื่อเห็นลูกสาวของตัวเองอ้อนอามาร์คอย่างน่าเอ็นดู

    “พี่ก็พูดตลกไป 555555” ไม่ทันที่มาร์คจะได้พูดอะไรต่อ เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น

    “ผมก็อยากไปนะมาร์ค!” ยูคยอมโผล่มาจากทางข้างหลังมาร์ค ร่างสูงเอามือหนาเกาะไหล่มาร์คไว้ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้บริเวณลำคอขาว

    “เห้ย! ตกใจหมด!” มาร์คพูด ก่อนจะหันไปถลึงตาใส่ร่างสูงที่กำลังยิ้มร่า

    “โหยย อามาร์คนี่ขวัญอ่อนเนอะไลลาเนอะ” ยูคยอมเอื้อมมือไปจับแก้มของไลลาเบาๆ

    “งืออ ไปนะคะ ไปๆๆ”

    “ไปสิ! ไปอ่า...ที่ไหนดีน้า” มาร์คยิ้มให้เด็กน้อยในอ้อมกอด

    “ดิสนีย์แลนด์ไง เห็นว่าปรับปรุงใหม่อะ ไปปะ” ครั้งนี้เป็นพี่แทมมี่ที่เป็นคนออกความคิดเห็น

    “อ่า ไปสิครับ หลานคงชอบเนอะ”

    “ผมไปด้วยยยยย” ยูคยอมจอมวอแว is back

    “ไปสิ ไปกันเยอะๆ สนุกดีออกนะ5555 เดี๋ยวพี่เตรียมพรรคพวกเอง!” พี่แทมมี่พูดก่อนจะดงแก้มลูกสาวที่น่ารักไปนึงที

    “โอเคครับบ” มาร์ครับคำก่อนจะหันมาเล่นกับไลลาต่อ โดยมียูคยอมเป็นเป็นเสริมทัพ หยอกฟัดไลลากันใหญ่

    “เอ่อ เดี๋ยวพี่มานะ ฝากหลานด้วย เดี๋ยวแม่มานะคะไลลาอย่าดื้อนะ” แทมมี่หอมแก้มไลลาก่อนจะเดินขึ้นไปบนห้อง

    ตอนนี้มีแต่มาร์คกับไลลา ... ยูคยอมกลายเป็นธาตุอากาศไปซะแล้ว

     

    เฮ้ออ

    ..

    มาร์คอะ

     

    จนยูคยอมเอ่ยปากพูดก่อน มาร์คงอนอะไรเขากันแน่นะ ปกติพูดเป็นต่อยหอย แต่ตอนนี้กลับเงียบเชียบผิดปกติ

    “นี่ มาคึ” ไม่พูดเปล่า ยูคยอมขยับเข้าหามาร์คที่มีไลลาอยู่บนตักมากขึ้น

    “.......”

    “อี้เอินนน”

    “........”

    ไม่ใช่ว่ามาร์คไม่ได้ยินหรอกนะ แต่คนร่างบางแค่ไม่อยากตอบเท่านั้นเอง

    “เฮ้! บราวนี่!” ไม่ทันที่ยูคยอมจะได้ง้อมาร์ค เสียงสดใสของโจอี้ก็ทักขึ้นก่อนจะเดินมาตบไหล่ยูคยอม

    “เอโย่วว ว้อทซั่บบ” ยูคยอมทำท่าเหมือนฮิพฮอพใส่โจอี้ มาร์คเหลือบมองก่อนจะลอบยิ้มกับท่าทางตลกๆนั่น

    “เราจะไปขับรถเล่นกันน่ะ นายจะไปปะ” โจอี้ทิ้งตัวลงข้างยูคยอมก่อนจะเอ่ยชวนขึ้น

    “เอ่ออ..ไปดิๆ”

    “เฮ้มาร์ค ไปปะ?”

    โจอี้พยักหน้าให้ยูคยอมก่อนหันไปชวนพี่ชายตัวเองบ้าง

    “ไม่อะ จะอยู่เล่นกับหลาน” มาร์คพูดแต่ไม่ยักจะเงยหน้าขึ้นมามองคู่สนทนา

    “เอ่อ งั้นเราขออยู่เป็นเพื่อนพี่มาร์คละกัน! ไว้โอกาสหน้านะโจอี้”

    “เอ้า โอเคๆ งอนอะไรอยู่ก็รีบเคลียร์กันละ 55555” โจอี้ยืนตัวยืนขึ้นก่อนจะเดินล้วงกระเป๋ากางเกง

    “...........”

    “เดี๋ยวอามานะหลานสาวว” โจอี้ก้มลงหอมแก้มไลลาฟอดใหญ่ก่อนจะเดินออกจากห้องไป

    “งืออ”

     

    เงียบ

    เงียบอีกแล้ว

    ภายในห้องนั่งเล่นนี่ไม่ได้เงียบหรอก โทรทัศน์ขนาดใหญ่กำลังฉายการ์ตูนเรื่องโปรดของไลลา มีเสียงมาร์คกับไลลาหอมฟัดกันเป็นระยะๆ

    ที่ว่าเงียบเนี่ย

    ยูคยอมกับมาร์คต่างหาก

    .

    .

    .

    “มาร์คงอนอะไรผมอะ” ยูคยอมขยับเข้าไปใกล้ขึ้นลงในที่สุดก็นั่งตัวติดมาร์คแจ

    “เปล่า”

    “โม้อะ”

    “แล้วแต่จะคิด”

    “โหยย”

    “.....”

    “งอนชัวร์ๆ”

    “เปล่า..”

    “มาร์คลูก.. ” ร่างบางกับร่างสูงที่นั่งตัวติดกัน ไม่สิ ต้องบอกว่าเจ้าเด็กโข่งมานั่งติดมาร์คต่างหาก ทั้งสองหันตามเสียงเรียก เสียงของม่าม๊านั่นเอง

    “ครับม๊า”

    “เราจะออกไปบ้านคุณอา มาร์คจะไปไหมลูก”

    “เอ่อ.. ผมปวดหัวนิดหน่อยอะ ไม่ไปได้ไหมครับ..”

    มาร์คเอ่ยขึ้น สีหน้าออดอ้อนของมาร์คไม่มีใครสามารถต้านทานได้จริงๆ หญิงผู้เป็นแม่เดินเข้ามาลูบหัวลูกชายอย่างเอ็นดู

    “ได้จ้ะ งั้นพักผ่อนเยอะๆนะลูก เดี๋ยวแม่จะพาหลานไป แทมมี่ไปเตรียมของอยู่”

    “ครับม๊า น่ารักที่สุดเลยย” มาร์คยืดตัวข้นหอมแก้มม๊าต้วน ม๊ายีผมลูกชายตัวเองก่อนจะอุ้มไลลาออกจากตักร่างบาง

    “เอ่อ แล้ว..ยูคยอม?”

    “ผมจะอยู่กับพี่มาร์คครับ!” ยูคยอมพูดภาษาอังกฤษงูๆปลาๆใส่ต้วนแฟมิลี่ ม๊าต้วนคลี่ยิ้มกว้างก่อนจะพยักหน้ารับ ส่วนร่างบางนั่งทำหน้ามู่ทู่กอดอกนิ่ง

     

    ใครๆก็เอ็นดูยูคยอมหมดละครับ มีแต่ร่างบางข้างๆนี่แหละที่ไม่รู้ว่างอนอะไร

    ปากแข็งชะมัด

    มาร์คลุกขึ้นยืน ขาเรียวเล็กกำลังจะก้าวเดินแต่มือหนาของยูคยอมกลับรั้งร่างบางไว้

    “มีอะไรหรอ” ร่างบางกำลังปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้

     

    ยูคยอมที่คว้ามือมือเล็กไว้ จ้องใบหน้าเรียวอย่างสงสัย ก่อนที่สายตาจะมองลึกเข้าไปถึงภายในดวงตาสวยของมาร์คต้วน เสียงรถออกจากบ้านเงียบไปหมดแล้วแสดงว่าทุกคนออกจากบ้านไปหมดแล้ว ตอนนี้มีแค่เด็กร่างหมีกับนายฟักทองจอมซึน

    “มาร์คเป็นอะไร บอกผมหน่อยสิ” มือหนาของยูคยอมเปลี่ยนจากกการจับข้อมือเป็นกุมมือเล็กไว้แทน

    ไม่กุมแน่นไป เพราะกลัวคนตัวเล็กเจ็บ

     

    ไม่กุมหลวมไป เพราะกลัวคนตัวเล็กข้างหน้าจะหนีหาย

     

    “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันเป็นอะไร.. ช่างเถอะ ฉันจะขึ้นไปนอน”

    ร่างบางพูดจบก็ค่อยๆ ดึงมือของตัวเองออกการคนตรงหน้า ทันทีที่มาร์คหันหลังกลับเพื่อที่จะเดินขึ้นบันได ร่างบางสัมผัสได้ถึงแรงกอดที่โถมเข้ามาจากข้างหลัง ไม่ใช่กอดออดอ้อนธรรมดา เหมือนทุกครั้ง

    ครั้งนี้มัน..

    แนบแน่น

    ทั้งเจ็บปวด

    ทั้งมีความสุข

    “พี่เป็นแบบนี้ผมใจไม่ดีเลยนะ อี้เอิน..” เสียงนุ่มที่เคยหงุงหงิงเหมือนเด็กๆ ตอนนี้กลับเป็นน้ำเสียงที่จริงจังมากขึ้น

    ตึก ตึก..

    ไม่รู้ว่าเสียงหัวใจของใครกันแน่

    ของมาร์ค

    หรือ

    ของยูคยอม

    หรือ

    จากเขาทั้งสองคน

    .

    .

    ร่างหนาจับคนตัวเล็กกว่าหมุนให้หันหน้าเข้าหาตัวเองก่อนจะโน้มตัวลงให้สองสายตาประสานกัน

    ร่างบางเขินไม่รู้จะทำหน้ายังไง

    ร่างหนาที่เอาแต่ใจจ้องเข้ามาใกล้มากขึ้นทุกทีจนตอนนี้ลมหายใจของพวกเขามันส่งผ่านถึงกันได้แล้ว

    “ผมจะพูดทุกอย่างวันนี้..”

    “.....”

    “ผมชอบพี่..ตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน ผมตกหลุมรักรอยยิ้มของพี่ ผมตกหลุมรักเสียงหัวเราะของพี่ พี่ทำให้ผมมีความสุขเวลาที่ได้อยู่พี่..”

    “......” มาร์คหลบตายูคยอม ใบหน้าเรียวเริ่มแดงก่ำ นัยน์ตาสั่นเครือทุกอย่างตรงหน้าฝ้าฟางไปไปหมด

    “พี่รู้ไหม ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ผมไม่คิดที่จะรักใครเลย นอกจากพี่ ผมมาสารภาพกับพี่แบบนี้พี่อาจจะเกลียดผมไปเลยก็ได้ แต่.. ผมขอร้อง.. อย่าเลิกคุยกับผมเลยนะ อย่าเลิกยิ้มให้ผม อย่าเลิกหัวเราะไปกับผม”

    มือหนาค่อยๆยกขึ้นลูบแก้มเนียนของคนตรงหน้าอย่างรักใคร่

     

    ยูคยอมไม่เคยมีแฟน

    ยูคยอมไม่เคยรักใครแบบนี้มาก่อน

    ขอได้ไหม

    ขอให้คนคนนั้นเป็น มาร์คต้วน

     

                    จากลูบแก้มแผ่วเบา.. เป็นดึงร่างบางที่ยืนแข็งทื่อเข้ามากอด ร่างสูงไม่รู้ว่าคนที่เขาเพิ่งสารภาพเมื่อกี้มีความคิดเห็นยังไง รู้สึกยังไง ไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองเท่าไหร่หรอกนะ.. แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา หลายๆเรื่องที่ดีร่วมกัน ร่างสูงก็คิดไปเองว่าบางที.. คนน่ารักตรงหน้าเขาตรงนี้อาจจะรู้สึกเหมือนเขาก็ได้..

     

                    มาร์คยืนให้ยูคยอมกอดนิ่ง ไม่ไหวติงใดๆ ไม่รู้ว่าเนิ่นนานเท่าไหร่ที่ยูคยอมกอดเขา แถมยังซุกหน้าลงเกยไหล่ กอดเหมือนราวกับว่าจะไม่ได้กอดอีก

     

                    กอดราวกับว่าคนตัวเล็กข้างหน้านี่จะหายไปไหน..

     

                    “พี่มาร์ค.. ผมขอโทษ..”

    สิ้นเสียงขอโทษจากร่างสูง อ้อมกอดที่กำลังกอดก็เริ่มคลายลง แต่เป็นร่างบางเองที่ดึงรั้งอีกคนเข้ามากอดแน่น

    ยูคยอมที่กำลังสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวบรวมสติ ก่อนจะพูดออกไป

    “พี่มาร์ค..”

    “อึก.. ไอ้เด็กบ้า! เด็กโง่! โง่จริงๆเลย!

    ก็อย่างว่าผู้หญิง(?)มักปากว่ามือถึง กำปั้นเล็กยกขึ้นทุบแผ่นอกหนาของร่างสูงตรงหน้ารัวๆ

    มันไม่เจ็บหรอก

    พี่มาร์คทำแบบนี้ ยังดีกว่าเงียบไปอีก

    “ด..เดี๋ยวสิพี่หยุดตีผมก่อน ผมงงไปหมดแล้ว” ยูคยอมพูดขึ้นพลางดึงร่างบางเข้ามาในอ้อมกอดเหมือนเคย

    “ฉันก็รู้สึกเหมือนที่นายรู้สึกนั่นแหละ! อ่อยขนาดนั้นยังบื้ออยู่อีก ไอ้หมีเอ้ย!” เสียงอู้อี้ของร่างบางตรงหน้ามันทำให้คิมยูคยอมถึงกับใจสั่นมากกว่าเดิม

    ยูคยอมไม่ใช่คนความอดทนสูงสักหน่อย..

    มือหนาเชยคางมนของร่างบางตรงหน้าที่เอาแต่ก้มหน้าคุยกับอกของเขาขึ้น ริมฝีปากหยักประทับจูบลงริมฝีบางทรงกระจับของร่างบางอย่างแผ่วเบา ร่างบางหลับตาลงช้าๆ ซึมซับความรู้สึกหอมละมุนในตอนนี้ไว้ แขนแกร่งของร่างสูงรั้งเอวบางเข้ามาชิด

     

    ใกล้ขึ้นอีก

    ใกล้ขึ้นอีก...

     

    มาร์คยกมือขึ้นประคองใบหน้าหล่อเหลานั่นไว้ ลิ้นร้อนของยูคยอมเริ่มละเลียดริมฝีบางของมาร์คอย่างทนุถนอม ร่างบางเผยอเปิดออกเล็กน้อยเป็นเชิงอนุญาตให้ผู้บุกรุกที่ไม่ยอมถอยหนี จากจุ้บ..กลายเป็นจูบ สองลิ้นริ้นเกี่ยวกระหวัดกันไปมา คิมยูคยอมไม่ใช่เด็กใสใส ริมฝีปากหยักของร่างสูงดูดดุนลิ้นเล็กของคนเป็นพี่ไม่หยุด

    ร่างสูงรุกล้ำขึ้นเรื่อยๆ จนร่างบางตรงหน้าแทบจะหลอมละลายตรงหนาเขา

    “อื้ออ...”

    “อืม”

    “งื้ออ”

    มาร์คค่อยๆ ผลักอกยูคยอมเป็นเชิงบอกให้หยุดพักก่อน ยูคยอมค่อยๆผละจูบออกจากร่างบางอย่างอ้อยอิ่ง ใบหน้าหล่อซุกลงที่หัวไหล่คนเป็นพี่ สองแขนแกร่งกอดรัดเอวมาร์คไว้แน่น

    “ผมรักพี่นะ ได้ยินไหม”

    “อื้ออ”

    ยูคยอมรู้ดีว่าตอนนี้มาร์คต้วนกำลังเขินมากแน่ๆถึงไม่ยอมมองหน้าเขาแบบนี้

    สงสัยคงต้องแกล้งสักหน่อย

    “มองหน้ากันหน่อยซี่ คิมมาคึ!” ยูคยอมจอมวอแวหอมแก้มเนียนฟอดใหญ่ก่อนจะทำหน้าเหมือนหมีใส่

    “อ..อะไรเล่า!” มาร์คไม่ยอมมองหนาเขาแถมยังกัดเข้าที่ใบหูของเขาเต็มๆอีกด้วย

    “โอ้ยมาร์คอ่า... เจ็บนะ หูขาดรึป่าวก็ไม่รู้ คนใจร้ายย”

    “คึคึ ถ้าใจร้ายจริงนายคงไม่ได้ยืนแต๊ะอั๋งฉันได้นานๆแบบนี้หรอกคิมยูคยอม!” มาร์คหยิกเข้าที่สีข้างยูคยอม ก่อนที่ร่างสูงจะกระโดดโหยงเพราะแรงหยิก

    “โอ้ยยยๆๆ ยอมแล้วๆๆๆ” ยูคยอมคลายกอดจากมาร์ค แต่ไม่ถึงกับปล่อย

    “ปล่อยย ร้อนนะ” กลายเป็นมาร์คที่ตอนนี้เริ่มงอแง เพราะเด็กแรงหมีคนนี้เล่นกอด หอม คลอเคลียอยู่ได้

    “งืม ปล่อยก็ได้ ผมรักพี่นะ! รักจริงๆนะ!

    “อื้ออ รู้แล้วรู้แล้วได้ยินแล้วไอ้บ้า!!” มาร์คพูดจบก็หนีออกจากอ้อมกอดเจ้าหมีก่อนจะวิ่งขึ้นห้องไป

    “เอ้า! ปล่อยผมไว้กลางกลางได้ไงงงง รอด้วยย”

     

    ช่างเป็นวันที่ดีสำหรับยูคยอมและมาร์คจริงๆ หลังจากนั้นทั้งสองคนก็พากันเล่นเกมกันอยู่ในห้องเป็นกิจวัตรเหมือนตอนที่หอพัก จนเวลาล่วงเลยเกือบทุ่มนึงแล้ว เด็กหน้าหมีเลยประท้วงขึ้น

    “คิมมาร์คคค ผมหิววว” คิมยูคยอมกลิ้งบนเตียงไปมา ก่อนจะกลิ้งไปนอนหนุนบนแผ่นหลังของมาร์ค

    “ทำไมต้องคิมมาร์คด้วย!” มาร์คลุกขึ้นนั่งก่อนจะมองหน้าเจ้าเด็กมีปัญหา

    “ก็ผมให้มาร์คใช้นามสกุลผมไง เท่จะตายย คิมมัคคึคิมมัคคึ” ยูคยอมลุกขึ้นนั่งตามก่อนจะว่าพลางยิ้มตาหยี

    “แล้วทำไมพี่จะต้องใช้นามสกุลนายด้วยเล่า!” ยังคงทำซึนต่อไปจนกว่าเด็กหมีนี่จะพูดตรงๆ

    “ก็.. เป็นแฟนกันนะคิมมัคคึ” ยูคยอมเด็กหนุ่มวัย 19ปี ที่มาร์ครู้จักไม่เคยทำหน้าจริงจังขนาดนี้มาก่อน

    ตึก ตึก..

    เอาอีกแล้ว ไม่รู้ว่าเสียงหัวใจใครกันแน่ที่เต้นดังขนาดนี้..

    ใบหน้าขาวขึ้นสีชมพูระเรื่อ ในคราวเดียวกันกกหูของร่างสูงเองก็แดงขึ้น ยูคยอมก็คงเขินสินะ

    “ล..แล้วถ้าเป็นนาย..ได้สิทธิพิเศษอะไรไหมละ?” มาร์คถามยียวน

    “มาร์คจะได้หัวใจผมไง ได้ความรักความห่วงใย ได้บัตรกินซุปฟรีเพราะผมจะซื้อให้ทุกวันเลย”

    ยูคยอมพูดติดขำ มาร์คยิ้มให้เจ้าเด็กซึนก่อนจะเหวกลับ

    “แค่นี้อะหรอ โหยย ไม่คุ้มมั้งง”

    “เอางี้ดีกว่า มาร์คอยากได้อะไร คิมยูคยอมคนนี้จะทำให้ทุกอย่างเลย ที่รัก..” ริมฝีปากหยักของร่างสูงประทับจูบลงแก้มเนียนของมาร์คอย่างแผ่วเบา

    “งั้นต้องการให้นาย.. มีพี่คนเดียว”

    CR.SHL
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×