<font color=green><b>ติวเข้มเสริมสร้างนิสัยการเรียนให้ดี
ติวเข้มเสริมสร้างนิสัยการเรียนให้ดี ในเมื่อคุณก็เป็นคนที่มีความรู้คนหนึ่งงั้นจะเชื่อซักหน่อยได้ไหมว่าการเรียนรู้ยังไม่จบสิ้นถ้าคุณไม่หมดกำลังใจคุณจะลืมการเรียนแล้วเหรออย่านะ!!คลิก
ผู้เข้าชมรวม
18,354
ผู้เข้าชมเดือนนี้
150
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เนื้อหาต่อไปนี้สามารถก๊อปไปอ่านได้แล้วค่ะ แต่หากทางเราพบว่าไม่ได้นำไปสร้างความรู้ นำไปเผยเเพร่ให้คนที่ต้องการรู้ แต่เป็นการก๊อปไป...ทำอะไรก็แล้วแต่ที่ไม่สร้างคุณประโยชน์ให้กับตนเอง ก็ลองคิดดูละกัน!
ต่อจากนี้ขอให้ท่านที่เข้ามาได้นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ให้กับตัวเองให้มากที่สุด ขอขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุน พร้อมให้ความหวังดี
ทางเราก็ดีใจเช่นกันที่ได้ทำประโยชน์ให้กับทุกท่าน หวังว่าทุกท่านคงจะเห็นใจคนเขียนเรื่องนี้นะเจ้าคะ ^___^
สวัสดีจ๊ะเด็ก ๆ เป็นยังไงบ้างจ๊ะกับช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา เด็ก ๆ ไปเที่ยวที่ไหนกันมาบ้าง
หรือหยุดปิดเทอมนี้ได้ทำอะไรที่เป็นประโยชน์มาบ้างจ๊ะ ในปีการศึกษาที่ผ่านมาเด็ก ๆคงได้
รู้ผลสอบไปกันแล้ว บางคนก็สมหวัง บางคนก็ไม่สมหวังแต่ไม่เป็นไรค่ะปีการศึกษาใหม่
ก็เริ่มต้นใหม่ดีกว่า คราวนี้คุณครูมีเคล็ดลับการทำข้อสอบให้ได้ดี รับรองว่าได้ผล 100 %
ถ้าเด็ก ๆ ปฏิบัติตามอย่างครบถ้วน พอสิ้นปีการศึกษาดูคะแนนแล้วก็จะชื่นใจที่เราเพียร
พยายามอย่างหนักตลอดทั้งปี แต่ผู้ปกครองต้องมีส่วนช่วยด้วยน่ะค่ะแต่เอ๊.ผู้ปกครอง
จะมีส่วนช่วยได้อย่างไร ลองมาดูเคล็ดลับกันทางนี้ดีกว่า
คะแนนสอบมิได้เป็นการวัดความรู้หรือความฉลาดเสมอไปน่ะค่ะ ยังมีเด็ก ๆ จำนวนมากมายที่ทราบเนื้อหา วิชาเรียนแต่กลับทำข้อสอบได้ไม่ดี เด็กบางคนไม่อาจทนต่อสถานการณ์ตรึงเครียดต่าง ๆ ได้ บ้างขาดความเชื่อมั่น ที่จะแสดงความสามารถของตัวเองออกมา และบ้างก็ไม่เคยเรียนรู้วิธีการทำข้อสอบเลยด้วยซ้ำไป ดังนั้นคำแนะนำดังต่อไปนี้ จึงเป็นสิ่งที่คุณสามารถช่วยลูกหลานได้มากยิ่งขึ้น ในกรณีที่พวกเขาต้องเผชิญกับการทำข้อสอบ
ระดับประถมศึกษา
1. ในระดับประถมศึกษา เด็ก ๆ จะต้องรู้วิชาพื้นฐานต่าง ๆ อาทิ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ การอ่านแผนที่ การเขียนตลอดจนไวยากรณ์ ดังนั้น คุณควรจะทำให้คุ้นเคยกับวิชาต่าง ๆ ที่ลูกเรียน
2. สร้างแบบฝึกหัดทดสอบ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความรู้และให้เด็กได้รับความสนุกสนาน ไปพร้อมกันเป็นต้นว่าก่อนที่ลูกของคุณจะทำข้อสอบไวยากรณ์หรือตัวสะกด ให้คุณเขียนจดหมายถึงลูก เล่าถึงสิ่งต่าง ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในครอบครัว อาทิ แผนการท่องเที่ยว หรือ สถานการณ์ต่าง ๆ โดยไม่ใส่เครื่องหมายวรรคตอนใด ๆ และเขียนตัวสะกดผิดไว้หลายแห่ง จากนั้นจึงให้ลูกแก้จดหมายให้ถูกต้อง
3. ตำราระดับประถมศึกษาส่วนใหญ่ มีตัวอย่างคำถามข้อสอบท้ายบทเรียนแต่ละบท ให้ลูกของคุณหมั่นทบทวนบทเรียนต่าง ๆ แล้วจึงถามเขาและให้เขาฝึกตอบ
4. สอนลูกของคุณให้รู้จักฟังคำพูดสำคัญของครู ในเวลาสอน ซึ่งอาจจะออกสอบต่อไปเช่น ครูพูดว่า "ต่อไปนี้ จงตั้งใจฟัง" ครูต้องการให้นักเรียนเข้าใจตรงจุดนี้" สิ่งเหล่านี้จะเป็นเสมือน "แนวข้อสอบ" ให้จดจำไว้ทำสอบต่อไป
5. เมื่อทราบว่าจะมีการทดสอบ ให้ลูกทบทวนเนื้อหาวิชาต่าง ๆ ถามลูกของคุณว่าเขาเรียนอ่อนเรื่องใดมากที่สุด แล้วให้ความช่วยเหลือเมื่อยามต้องการ
ระดับมัธยมศึกษา
1. เน้นความสำคัญในการหมั่นทำการบ้าน และหากเป็นไปได้ ให้ลูกของคุณทำการบ้านพิเศษเพิ่มเติม เพราะ ยิ่ง เขาให้เวลาทำการบ้านวิชานั้นมากขึ้นเท่าไร เขาก็ยิ่งได้รับความรู้มากขึ้นเท่านั้น
2. เตรียมตัวล่วงหน้าก่อนสอบ นักการศึกษาส่วนใหญ่เชื่อว่า "การกวดวิชา" ไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากไปกว่าการได้รับความรู้แบบชั่วครั้งชั่วคราว ซึ่งเด็กจะลืมหมดเมื่อสิ้นสุดการสอนดังนั้นคุณจึงควรช่วยลูกวางแผนในการทำข้อสอบล่วงหน้าโดยทบทวนเนื้อหาวิชาที่จะออกสอบอย่างเป็นระเบียบแบบแผน แล้วลูกของคุณจะมีโอกาสทำข้อสอบได้ดีขึ้น อีกทั้งยังได้รับความรู้เพิ่มขึ้นหลังจาการสอบ
3. ส่งเสริมให้ลูกจดบันทึก และร่างสรุปความเนื้อหาวิชาขณะที่กำลังเรียนจะเป็นการช่วยทบทวนบทเรียนอย่างมากเพื่อการสอบในครั้งต่อไป
4. แนะนำให้ลูกรู้จักการ "เรียนเป็นกลุ่ม" ก่อนทำข้อสอบ สมาชิกในกลุ่มประกอบด้วยเพื่อนนักเรียนในก้องเดียวกันหรือสมาชิกครอบครัวที่มีความรู้ในวิชาเดียวกัน
การสอบเข้ามหาวิทยาลัย
1. ในบางประเทศนักเรียนที่ต้องการสอบเข้ามหาวิทยาลัยต้องผ่าน
การทำข้อสอบระดับมาตรฐาน ที่เรียกว่า SAT หรือ ACT เสียก่อนการที่จะทำข้อสอบได้ดี ก็จะต้องมีการเตรียมตัวศึกษาข้อสอบอย่างมีระเบียบแบบแผน นักศึกษาจะมีเวลาหลายเดือนในการเรียนและทบทวนเนื้อหาวิชาก่อนการสอบเข้ามหาวิทยาลัย คุณควรให้ลูกหลานของคุณใช้เวลาน้อยวันละ ครึ่ง ชั่วโมง ในการทบทวนเนื้อหาวิชาที่จะสอบโดยเน้นวิชาที่เรียน อ่อนเป็นพิเศษ
2. ลงทุนซื้อหนังสือติวข้อสอบให้สักหนึ่งเล่มหรือหลายเล่ม ซึ่งในหนังสือจะมีตัวอย่างคำถาม ที่จะช่วยให้เข้าใจลักษณะข้อสอบโดยรวมมากขึ้น รวมทั้งเนื้อหาวิชาที่จะออกสอบ SAT หรือ
ACT ให้สักหนึ่งเล่มซึ่งในหนังสือจะมีตัวอย่างคำถามที่จะช่วยให้เข้าใจลักษณะข้สอบโดยรวมมากขึ้นรวมทั้งเนื้อหาวิชาที่จะออกสอบ
3. สอนลูกว่าจะแบ่งเวลาอย่างไรก่อนจะทำข้อสอบ เขาควรจะอ่านข้อสอบคร่าว ๆ เสียก่อน เพื่อคะเนความยาว และความยากของข้อสอบ จดว่าข้อสอบมีกี่คำถามและกี่ส่วนเพื่อที่จะแบ่ง ๆ เวลาทำข้อสอบ ทำข้อที่รู้คำตอบเป็นอย่างดีเสียก่อน แล้วจึงกลับไปยังข้อที่แทบจะทำไม่ได้หรือไม่ได้เอาเลยและพยายามรักษาเวลาด้วย เมื่อเดาคำตอบได้แล้ว จึงเลือกคำตอบข้อที่ดีที่สุดและห้ามกลับไปเปลี่ยนคำตอบ
4. ควรให้ลูกไปเรียนเพิ่มเติมตามโรงเรียนพิเศษ ที่โฆษณาว่าสอนนักเรียน ทำข้อสอบมาตรฐานได้ รวมทั้งวิธีการทำข้อสอบ และการคลายเครียด ระหว่างทำข้อสอบการทำข้อสอบเป็นประสบการณ์ที่ยากลำบากและเต็มไปด้วยความเครียดสำหรับนักเรียนในทุกระดับชั้นการศึกษา ในฐานะที่เป็นพ่อแม่ คุณควรจะช่วยลูกของคุณอย่างดีที่สุด โดยการช่วยสร้างความมั่นใจ และความนับถือตนเองให้แก่ลูกของคุณ ทั้งนี้จะทำให้เขาแสดงความสามารถออกมาได้อย่างเต็มที่
ขอขอบคุณทุกท่านอย่างสูงค่ะ^__________^
ผลงานอื่นๆ ของ ☜Dragonfly☞ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ☜Dragonfly☞
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น